Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 124...ให้ลูกคนแรกของเราชื่อ ยองแซง น่ะ

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย****


ที่ล็อบบี้ของโรงแรมนิวโอตานิ, โตเกียว
ศีรษะ ของฮวางโบเอนซบลงไปบนเก้าอี้ ฮยอนจุงสะดุ้งด้วยความตกใจก่อนจะรีบเข้าไปประคองร่างของหญิงสาวที่กำลังเอน ลงมาเหมือนกับคนหมดสติ ชายหนุ่มค่อยๆจับตัวเธอให้พิงกับเก้าอี้ยาวเอาไว้

“บูอิน คุณเป็นอะไรไปฮะ? ไม่เอาน่า “ชายหนุ่มส่งเสียงเรียกด้วยความเป็นห่วงพร้อมๆกับใช้มือตบที่แก้มของหญิงสาวเบาๆเพื่อเรียกสติ

ฮวางโบค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วร้องเบาๆ “อ๊าา”
เขารีบถามด้วยความเป็นห่วง”คุณเป็นยังไงบ้างฮะ? ผมกลัวแทบแย่หน่ะ”
“.....................”


เขาสำรวจดูอาการของภรรยาอย่างระมัดระวัง “บูอิน คุณไม่เป็นไรน่ะ...?”
ฮวางโบหลับตาลงอีกครั้งและค่อยๆสูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ พร้อมกับบอกว่า “ชั้นเวียนหัวจังเลย”

“เวียนหัว? ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ได้ล่ะฮะ?”

“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”เธอตอบเบาๆ...

เขาหันไปมองรอบๆแล้วพูดกับเธอ “อืมม...พวกเรานั่งกันตรงนี้ไม่ได้หรอกน่ะ ผมว่าเข้าไปข้างในดีกว่า!”


“แต่ชั้นยังไม่ได้เช็คอินเลยน่ะ”เธอทักท้วงทันที

“เดี๋ยวผมจัดการให้เองฮะ คุณไม่ต้องห่วง นั่งรออยู่เนี่ยแหละ เดี่ยวผมมา”
เธอฉุดแขนเสื้อของฮยอนจุงเอาไว้แล้วรีบบอกว่า “ไม่ต้องจ้ะ ชั้นทำเอง...ขอเวลาอีกแป๊บนึงน่ะ”..

“ไม่ฮะ คุณปล่อยให้ผมจัดการเถอะ”

“ชั้น คิดว่า...คนที่จะเข้าพักต้องเป็นคนที่เช็คอินเองนะ...แล้วยังจะพนักงานของ ทางโรงแรมอีกล่ะ ชั้นเชื่อว่าพวกเราต้องรู้จักเธอแน่นอนเลย เธออยากตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งเหรอ “

“.............................”.

“เอาน่า ชั้นไม่เป็นอะไรหรอก แค่ได้พักซักครู่ชั้นก็หายแล้วล่ะ”

ชายหนุ่มจ้องมองด้วยความกังวลก่อนจะถามว่า...”นี่คุณไม่สบายหรือว่าเป็นอะไรไปรึเปล่าฮะ?”


“ไม่ใช่หรอก...ชั้นว่า....ชั้นคงเหนื่อยแล้วก็เครียดมาตลอดวันมากกว่าหน่ะ”

“.............................”.

ฮวางโบลืมตาขึ้นมาช้าๆพร้อมกับพูดต่อไปว่า “และชั้นก็...รู้สึกโล่งใจแบบสุดๆเมื่อในที่สุดชั้นก็ได้มาพบหน้าเธอ”เธอยิ้มจางๆก่อนจะพูดต่อ “พระเจ้า ฟังแล้วชั้นเหมือนกับตัวละครตัวนึงที่ชั้นเกลียดสุดๆเลยอ่ะ”เธอกล่าวพร้อมกับอมยิ้ม

“หา ว่าไงน่ะฮะ?”

“เธอรู้มั้ย...ฮีโร่หญิงที่เปราะบางและอ่อนแอ....? ในไม่ช้ามันจะต้องมีวิกฤติเกิดขึ้น...ต้องขอบคุณผู้หญิงโง่ๆคนนั้น”

ฮยอนจุงยิ้มกว้างก่อนตอบไปว่า “มันอาจจะเป็นการสร้างโอกาสซึ่งสามารถเปลี่ยนผู้ชายธรรมดาๆคนนึง ให้กลายเป็นฮีโร่ไปเลยก็ได้นะฮะ...”


“แต่มันก็สามารถจะทำให้ฮีโร่คนนั้นตายไปด้วยก็ได้นะ”

“นั่น เป็นเพราะเขาไม่ใช่ฮีโร่ตัวจริงน่ะสิฮะ...ผมหน้าผมแล้วจำให้ขึ้นใจน่ะฮะว่า ผมคือคิมฮยอนจุง ฮีโร่ประจำตัวของท่านนายพล ฮวางโบฮเยจุง”...

“ก๊าก ขำได้อีกอ่ะ เธอเนี่ย” เธอหัวเราะอย่างขบขัน

เขามองภรรยาสุดที่รักด้วยแววตาที่เป็นประกายอบอุ่น

เธอเหลียวมองดูรอบๆแล้วถามว่า “เธอรู้สึกว่า...มีแสงแฟลชวูบวาบขึ้นมาบ้างรึเปล่าน่ะ...?”


“แสงแฟลชหรือฮะ?”เขามองไปรอบๆ

“ชั้นว่าตอนนี้เราอยู่ในที่เปิดเผยโล่งโจ้งเกินไป...ชั้นช่างโง่เง่าสิ้นดี...ไม่ควรจะมาที่นี่เลย ให้ตายสิ”

“.............................”.

“ชั้นควรจะย้ายไปพักโรงแรมอื่นจะดีกว่านะ...พูดตามจริงก็คือการมาพักที่โรงแรมเดียวกันกับเธอที่มันออกจะ....(โจ่งแจ้งเกินไปหน่อย)”

ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนพูดปลอบว่า”คุณอย่าใจร้ายกับตัวเองขนาดนั้นสิฮะ เราก็แค่แสดงให้พวกเขาเห็นในสิ่งที่เราเป็น...”

“.............................”.

“ผม ว่ามันจะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีก ถ้าพวกเรายิ่งพยายามแอบซ่อนมันเอาไว้...คุณก็รู่ใช่มั้ยฮะว่าพวกเราไม่ สามารถจะปกปิดซ่อนอะไรไว้ได้หมดทุกอย่างถึงแม้จะพยายามมากซักแค่ไหน...”


“ชั้นรู้สึกได้เลยนะว่ามีคนกำลังมองดูพวกเราอยู่ตลอดเวลา...”เธอว่า

“พวกเขาก็แค่กำลังนึกว่า...โอ..คู่รักคู่นี้ช่างน่ารักสมกันยังกะกิ่งทองใบหยก....อย่าไปสนใจพวกเขามากนักเลยฮะ”พูดจบก็ก้มลงจุ๊บที่ศีรษะของเธอทีนึง
เธอยิ้มจางๆให้ “สมองของชั้นมันชาไปหมดอีกแล้วน่ะ ชั้นคอยทำตัวให้กลายเป็นคนโง่อยู่เรื่อยเลย”


“ไม่เป็นไรหรอกฮะ เพราะว่าเรื่องของความรักคุณไม่จำเป็นต้องใช้สมอง”...
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อได้ยิน “ชั้นดีใจนะที่มาถึงที่นี่ได้เหมือนคนบ้าที่ยอมทำทุกอย่างโดยไร้สติอ่ะ”เธอเงยหน้าขึ้นมองคุณสามีแล้วพูดต่อไปว่า

“ชั้นดีใจที่ชั้นกลายเป็นบ้าไปแบบนั้น...(เพราะไม่งั้น..ชั้นก็คงทำแค่นั่งรอเธออยู่ที่บ้าน)”

เขาก้มลงมองหน้าภรรยาซึ่งกำลังส่งสายตาหวานให้เขาแล้วพูดยิ้มๆว่า “ไม่เอาน่า อย่ามองผมแบบนั้นในที่สาธารณะอย่างนี้สิฮะ...ผมทำอะไรไม่ถูกเลยนะ? คุณอยากจะให้ผมเป็นบ้า (รักคุณ)ไปตลอดชีวิตอย่างนั้นใช่มั้ยฮะ?”

“หุหุ ฮ่าฮ่าฮ่า”<เลี่ยนอีกแล้ว แต่ชั้นชอบนะ>

ที่ห้องพักของฮวางโบที่โรงแรม
ฮยอนจุงอุ้มภรรยาสุดที่รักเข้ามาในห้อง

“นี่เธอต้องทำขนาดนี้จริงๆเหรอ...?”


“เฮ้ นี่มันเป็นวิธีที่เหมาะสมถูกต้องสุดๆแล้วนะฮะในการช่วยเหลือฮีโร่หญิงที่ไม่สบายน่ะ..”.

“นี่เธอกำลังทำเพื่อฮีโร่หญิง หรือว่าทำเพราะแค่อยากเป็นฮีโร่ซะเอง ฮึ?”

“มันก็เหมือนๆกันแหละฮะ”ชายหนุ่มตอบพร้อมกับค่อยๆวางร่างของภรรยาลงบนเตียงอย่างทะนุถนอม

ฮวางโบยังไม่ปล่อยแขนที่โอบรอบคอของเขาและพูดขึ้นมาว่า “ชั้นว่า...ในบรรยากาศแบบนี้...ชั้นสามารถจะขอให้เธอทำอะไรบางอย่างให้กับชั้นได้หรือเปล่าน่ะ”


“คุณจะขออะไรหรือฮะ?” เขาบอกเธอด้วยสายตาหวานซ่ะ

เธอยิ้มกรุ้มกริ่มไม่ตอบได้แต่จ้องตาคุณสามี...

“หืม..ว่าไงล่ะฮะ คุณจะขออะไร?”


เธอกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นหัวเราะก่อนพูดต่อไปว่า “ช่วยเข้าใจชั้นหน่อยนะ...ว่าสมองของชั้นมันหยุดสั่งการชั่วขณะ.”

เขายิ้มหวานพร้อมกับพูดว่า “โอเคฮะ ผมจะพยายามเข้าใจคุณ แล้วสรุปมันคืออะไรล่ะฮะ?”


ฮวางโบยังคงนิ่งเงียบพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้คุณสามี...
“เร็วเข้าสิฮะ ผมชักจะอยากรู้ขึ้นมาจริงๆแล้วนะ”


หญิงสาวหลับตาลงแล้วพูดแกมหัวเราะว่า “หุหุ! เธอช่วยไปเก็บดาวบนท้องฟ้ามาให้ชั้นหน่อยสิ!”

คุณสามีถึงกับอึ้ง จ้องหน้าเธออย่างงงๆ...

เธอหรี่ตาขึ้นมาแอบมองนิดๆเพื่อดูปฏิกิริยา...

“หุหุ ฮ่าฮ่าฮ่า”คุณสามีเริ่มออกอาการขำแตก

เธอพยายามกัดริมฝีปากแต่ก็กลั้นไม่อยู่ “หุหุ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ในที่สุดฮยอนจุงซึ่งหัวเราะตัวงอก็ล้มลงไปทับบนตัวภรรยาและหัวเราะต่อไม่หยุด
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เก็บอีกแล้วหรือฮะ”.

และแล้วคู่ผักกาดหอมก็นอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงพร้อมกับหัวเราะไปด้วยกันโดยไม่มีท่าทีว่าจะจบลงง่ายๆ

เวลาผ่านไปพักใหญ่
ฮวางโบนั่งเหยียดพิงพนักหัวเตียง ในขณะที่คุณสามีนั่งห้อยเท้าอยู่ขอบเตียงและเอนตัวเข้ามาหาเธอ

“นี่คุณกำลังบอกว่า ไม่ได้ทานอะไรมาเลยตั้งแต่เช้าหรือฮะ?”

“ใช่จ๊ะ ชั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดถึงเรื่องกินเลยน่ะ”

“มิน่า คุณถึงได้เวียนหัว ใช่แล้วล่ะ เดี๋ยวผมจะไปหาอะไรมาให้คุณทานดีกว่า

“เขาเพิ่งนึกได้ว่าภรรยายังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้า

“หา?”

“คุณอยากจะทานอะไรบ้างฮะ?”

เธอส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า “ชั้นนึกไม่ออกเลยอ่ะ”

“ถ้างั้น ราเมนถ้วยสำเร็จรูปดีมั้ยฮะ?”<ของโปรดผมเลยนะ>

เมื่อได้ยินเธอถึงกับตาโตด้วยความตกใจ “ราเมนเหรอ?” <โอ้ว ทำยากมากมาย>
เขาเข้าใจทันทีว่าภรรยาคิดอะไร เขาอดถามไม่ได้ “คุณไม่อยากทานเหรอฮะ?”

“ถ้าชั้นกินตอนท้องว่างล่ะก็...อาหารมันจะไม่ย่อยน่ะ”เธออธิบายด้วยกลัวว่าเขาจะไม่เข้าใจ...

คุณสามีหมุนคอไปมาก่อนจะพูดแกมบ่นว่า “กระเพาะของคุณนี่มันเซนซิทีฟเกินไปนะฮะ สำหรับผมนะ ผมกินมันได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กินอะไรมาก่อนหน้าทั้งวันก็ตาม”

“ใช่เลยล่ะ มันถึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงได้ท้องเสียบ่อยๆไงล่ะ”


ชายหนุ่มกระพริบตาปริบๆเมื่อได้ยิน “หืมม..จริงอ่ะ?”

“อื้ม..จริงดิ..จะหลอกทำไม”

“ถ้างั้น คุณอยากทานอะไรฮะ เดี๋ยวผมจัดให้”

“ไม่เป็นหรอกจ้ะ ไว้พรุ่งนี้เช้าชั้นค่อยหาอะไรทานก็แล้วกัน”

“ไม่มีทางฮะ! คุณเพิ่งบอกว่าเวียนหัวหน้ามืด...จะรอไปทานพรุ่งนี้เช้าได้ไงกัน แล้วอย่างงี้คุณจะมีแรงได้ไงฮ่ะ”

เธออมยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของคุณสามี “โอเคจ้า...งั้น...อืมม...เธอว่ามันแปลกมั้ยอ่ะ?

“อะไรหรือฮะ?”

เธอส่ายศีระษะช้าๆราวกับไม่อยากจะเชื่อตัวเอง “จู่ๆชั้นก็รู้สึกอยากกินขนมเค้กขึ้นมาอย่างแรงเลยอ่ะ”

“เค้กหรือฮะ?”เขาถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเขารู้ดีว่เธอเป็นคนมีวินัยในการกินมากแค่ไหน

“ใช่จ้ะ...ปกติชั้นไม่ค่อยสนพวกของหวานๆซักเท่าไหร่เลยนะ...มันแปลกมั้ยล่ะ…?”


“เค้กเหรอ? เอ ที่ร้านข้างล่างมันจะมีรึเปล่านะ?.”

“ชั้นมั่นใจว่าเธอต้องไปหาซื้อมาได้แน่ๆเลย ชั้นเห็นเขาขายตรงคาเฟ่ที่ล็อบบี้โรงแรมน่ะ”


“โอเคฮะ เดี๋ยวผมจัดให้” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกับถามว่า “ว่าแต่อยากได้อะไรเพิ่มอีกมั้ยฮะ?”

“อืมม...กาแฟแล้วกันจ้ะ”

คุณสามีทำหน้าย่นก่อนจะบ่นพึมพำว่า “ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมคุณถึงได้ชอบของรสชาดขมๆไม่อร่อยแบบนั้นได้ไง”

หญิงสาวยิ้มกว้างและแกล้งตอบไปว่า “เพราะว่าชั้นเป็นผู้ใหญ่แล้วไงล่ะ”

คุณสามีทำปากยื่นพร้อมกับสวนกลับว่า “ฮึ...ก็แค่ต่อมรับรสของคุณเท่านั้นล่ะฮะ”


“ช่างเหอะนะ ถ้างั้นอะไรก็ได้..ง่ายๆล่ะกัน” <รีบๆลงไปซื้อมาให้ชั้นกินจะดีกว่าน่ะ ชักโมโหหิวแล้วน่ะ>

ไม่นานนักหลังจากนั้น ฮวางโบซึ่งนั่งอยู่บนเตียงกำลังกินบลูเบอรี่มูสเค้กที่คุณสามีลงไปซื้อมาให้อย่างเอร็ดอร่อย

“อืมมม...อร่อยมากเลยล่ะ”หญิงสาวกินไปชมไปแต่แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “สงสัยชั้นจะหิวจริงๆอ่ะ....?”


“ไม่ใช่หรอกฮะ...เพราะเค้กมันอร่อยจริงๆต่างหาก.”คุณสามีแย้งขึ้นมาแต่แล้วเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ “โอ๊ะ..จริงด้วย...คุณเกลียดพวกของหวานนี่นา...”

“แหม..ใช้คำว่าเกลียดก็ออกจะแรงเกินไปหน่อย...น่าจะเป็นว่าชั้นไม่ได้ปลื้มของพวกนี้มากซักเท่าไหร่ก็แล้วกัน”...

“ยังไงความหมายก็เหมือนๆกันน่ะ”..

หญิงสาวอมยิ้มพร้อมกับตักเค้กยื่นให้คุณสามี “อ่ะนี่...เธอลองทานดูบ้างสิ”


ชายหนุ่มนั่งจ้องหน้าเธอนิ่งๆไม่ตอบสนอง...

“ไม่เอาน่า...ชั้นรู้ว่าเธอน่ะชอบของหวานจะตายไป”


“แต่ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะแย่งขนมจากเด็กมากินยังไงก็ไม่รู้อ่ะ..”
หญิงสาวมองค้อนก่อนถามว่า”นี่เธอคิดว่าชั้นเป็นเด็กงั้นเหรอ?.

คุณสามียิ้มจนเห็นฟันก่อนจะตอบช้าๆว่า “อย่างน้อย....คุณก็เป็นเด็กในสายตาผมฮะ”<น่ามีรางวัลให้ผมซะหน่อยน่ะ>...

“หุหุ “<เข้าใจพูดนะ สามีชั้น>

ระหว่างนั้นเองชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นส่งให้
“นี่ฮะ สำหรับคุณ”

“อะไรเหรอ?”เธออดถามเมื่อเห็นเขายื่นมือถือให้

“ผมคิดว่ามันคงจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ถ้าคุณไม่มีเอาไว้ใช้น่ะฮะ”

เธอรับโทรศัพท์มาแล้วถามว่า “เธอไปแฮฟมาจากไหนน่ะเหรอ?”
คุณสามีกระพริบตานิ่งคิดครู่นึงก่อนตอบว่า “ผมสอยมาจาก...พ่อทูนหัวของลูกคนแรกของเราไงฮะ”

ฮวางโบได้ยินก็ร้องเสียงหลง “อะไรนะ ลูกคนแรก อารัยเนี่ย?”

“ได้โปรดให้อภัยผมด้วยฮะ บูอิน...ผมขายลูกคนแรกของเราไปเพื่อแลกกับมือถือเครื่องนี้อ่ะ”

“นี่เธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่เนี่ย?” หญิงสาวถามด้วยความงงสุดขีด

“ก็เขาดื้อมาก ผมเลยต้องเอาชื่อของลูกชายคนแรก ไปเป็นข้อแลกเปลี่ยนเพื่อที่ผมจะเอามือถือมาจากเขาไงฮะ”

หญิงสาวทำหน้าประหลาดใจสุดๆ “อะไรกันเนี่ย สามีชั้น?”

คุณสามียิ้มกว้างก่อนเฉลยออกมาว่า “มือถืออันนั้นเป็นของเจ้าบีเวอร์แก้มป้องฮะ”

“บีเวอร์?...ยองแซงน่ะเหรอ?”

“ใช่ฮะ”ชายหนุ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังว่า “อัน ที่จริง ผมไม่ได้ปลื้มกับชื่อนั้นหรอกฮะ..อืม ไว้เราค่อยบอกลูกก็ได้ว่า ถ้าไม่ชอบชื่อนี้ โตขึ้นก็ไปขอเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นก็ได้ ดีไหมฮะ...”


“ชื่อ?” <ชื่ออะไรกันอ่ะ>

“ใช่ฮะ พอเรามีลูกชายคนแรก เราต้องตั้งชื่อเขาว่า “ยองแซง” บูอินฮ่ะ ขอโทษด้วยนะที่ผมตัดสินใจเรื่องนี้โดยลำพัง แบบว่าเรื่องมันด่วนจริงๆฮะ”

“หุหุ “<อารายเนี่ย>

ฮยอนจุงได้แต่นั่งยิ้ม...

เธอนั่งหัวเราะขำอยู่พักนึง ก่อนจะพูดออกมาว่า “โอพระเจ้า เธอนี่มันเหลือเชื่อสุดๆเลยอ่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วเขาก็ยอมให้โทรศัพท์เธอมาเพราะคำสัญญานั่นน่ะเหรอ? มีคนโลกนี้ที่ยอมทำแบบนั้นด้วยเหรอเนี่ย?”

ฮยอนจุงเลียริมฝีปากที่แห้งแผดแล้วตอบ “เขาก็คงแค่เป็นเด็กที่ไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกน่ะะฮะ”<ฮ่า ฮ่า ไม่ทันคนเจ้าเล่ห์อย่างผมหรอก>


ฮวางโบส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ “หุหุ โถ ยองแซงผู้น่าสงสาร...ต้องมาติดกับอยู่กับเพื่อนที่ทั้งบ้าและเจ้าเล่ห์อย่างเธอ”



ติดตามอ่าน คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนต่อไป


Create Date : 09 ธันวาคม 2553
Last Update : 9 ธันวาคม 2553 6:26:03 น. 1 comments
Counter : 925 Pageviews.

 
น่ารักจังเลย รีบลงไปซื้อของให้ภรรยาด้วย555 (แต่เอ๊ะโบไม่ชอบของหวานนี่น่าแต่ทำไมทานเค๊กละ) ขอบคุณครับยาย รักษาสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: hunny IP: 119.46.144.66 วันที่: 14 ธันวาคม 2553 เวลา:7:23:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.