Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
4 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
ตอนที่ 139 - อยากให้เกาะนี้มีเพียงแค่เราสองคน

***ฟิค< แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้นเพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย****

ภายในรถแวนของฮยอนจุงซึ่งกำลังมุ่งหน้ากลับสู่ที่พักของวง SS501

ชายหนุ่มนั่งนึกถึงคำพูดบางประโยคของนักเขียนยูนที่เพิ่งคุยกันไปก่อนหน้านี้



“ถ้าพวกคุณรักกันจริงๆแล้วล่ะก็...เธออาจจะคิดว่าคุณกำลังลำบากเพราะว่าเธอเป็นต้นเหตุก็ได้นะคะ...”

”คุณว่าเธอจะคิดอย่างนั้นจริงๆหรือคะ?”

เขาคิดในใจต่อไปว่า“ผม รู้ว่าสิ่งต่างๆมันจะยากลำบากสำหรับคุณ...และมันจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น...แต่ ในทางตรงกันข้าม มันก็มีอยู่หลายครั้งที่ผมรู้สึกว่าสิ่งต่างๆมันไม่ได้เป็นเรื่องยากลำบากก็ เพราะผมมีคุณอยู่เคียงข้าง...”


”ถ้าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเสียใจอยู่...คุณคิดว่าทั้งหมดนั่นเป็นสาเหตุจากคุณคนเดียวหรือคะ?”


”มันก็ออกจะชัดเจนนี่ฮะ?”

”คุณว่าเธอจะคิดอย่างนั้นจริงๆหรือคะ?”

“ผมรู้ว่าสิ่งต่างๆมันจะยากลำบากสำหรับคุณ...และมันจะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น...ผมรู้ว่าทั้งหมดนั่นเพราะผมเป็นต้นเหตุ...”

”แต่ไง...ผมรู้ว่าคุณจะไม่มีวันพูดว่ามันเป็นความผิดของผมอย่างแน่นอน....ผมรู้จักคุณดีมากกว่าใคร.”


ฮยอนจุงนั่งครุ่นคิดพร้อมกับจ้องมองมือถือของตัวเองอยู่อย่างนั้นไปตลอดทาง

*********************************************************************
ที่พักของวง SS501 ภายในห้องนอนของฮยอนจุง

ชายหนุ่มนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงในขณะที่คุยโทรศัพท์ไปด้วย

”วันนี้คุณเป็นไงบ้างฮะ?”

”ก็ดีน่ะ วันนี้ชั้นอยู่ที่บ้านทั้งวันเลยล่ะ แล้วอากาศมันก็อุ่นขึ้นนิดหน่อยแล้ว ดังนั้นชั้นก็เลยซักพวกผ้าปูที่นอนจ้ะ”

”แบบนั้นมันไม่หนักมากไปหรือฮะ? คุณน่าจะทำตอนที่ผมอยู่ที่บ้านด้วยนะฮะ ผมจะได้ช่วยคุณไง”.

"ใช่จ้ะ มันจะสนุกกว่านี้ ถ้าเราช่วยกันทำนะ..เอ่อ ว่าแต่เธอเพิ่งเลิกงานเหรอ? โทรมาซ่ะดึกเชียว”

”ใช่ฮะ ผมเพิ่งเลิกงานแล้วก็กลับบ้านเลย”


”....เธอคงต้องเหนื่อยและเพลียมากแน่ๆเลย ใช่มั๊ย”


”ก็ไม่เท่าไหร่หรอกฮะ”


”...แต่ชั้นนี่สิ...รู้สึกเพลียและเหนื่อยนิดหน่อย”


”คุณง่วงนอนเหรอฮะ?”


”ใช่จ้ะ”


”งั้นผมว่า..คุณควรรีบเข้านอนดีกว่านะ ระหว่างที่คุณกำลังจะนอน ผมจะเล่านิทานให้คุณและลูกฟังจนกว่าคุณจะหลับ ดีมั๊ยฮะ”


หญิงสาวหัวเราะคิก “นิทานก่อนนอนเหรอ ฮ่า ฮ่า เธอคงอยากให้ลูกจำเสียงได้ล่ะสิท่า?”


“ใช่ฮะ ผมอยากให้ลูกคุ้นเคยกับเสียงของผม ตอนแกคลอดออกมาแล้ว จะได้ไม่ตกใจกลัวเสียงผมไงฮะ”


“ฮ่า ฮ่า สนุกจริงๆ แล้วก็รับประกันความฮาด้วยใช่มั๊ย หุหุ”


”ใช่ ฮะ...เรื่องนี้มันทั้งสนุกและฮา จริงๆนะฮะ ไม่แน่..มันอาจจะทำให้คุณตาสว่างขึ้นมาก็ได้...แต่ว่า..มันเป็นเพียงเรื่อง เดียวที่ผมรู้จักนะฮะ...”


หญิงสาวค่อยๆเอนตัวลงบนเตียงพร้อมกับพูดต่อไปว่า “งั้นก็จัดมาเลยจ้ะ”


“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานจนจำไม่ได้เลย”ฮยอนจุงหยอดมุข


“ฮ่า ฮ่า ฮ่า จะตลกไปไหนเนี่ย”เธออดขำไม่ได้


“มัน คือการทดสอบว่าคุณสนใจที่ผมเล่าหรือเปล่า เอาล่ะน่ะ ฟังน่ะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ...มีเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนึงชื่อว่า “ฮยอนจุง”


หญิงสาวหัวเราะคิกก่อนพูดตอบไปว่า “อือ-ฮึ ต่อเลยจ้ะ”

”เขา รู้สึกรำคาญมาก ที่คนอื่นๆพยายามคุยกับเขาอยู่ตลอด ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็ตาม...ดังนั้นเขาจึงหาวิธีโดยการ..โดยการใช้คำพูดผสม ปนเปจนมั่วซั่ว”


”เพื่อออออ......?”


”เพื่อ...คนอื่นจะได้ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาพูดไงฮะ”


”แล้วทำไมเขาถึงต้องทำอย่างนั้นล่ะ?”


”คนอื่นจะได้ปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพัง แล้วก็เลิกมายุ่งกับเขาซะที”


”หุหุ เข้าใจแล้วจ้ะ”


”ถึง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแผนการ เพื่อหลีกเลี่ยงการสนทนากับคนอื่นๆในตอนแรก แต่ต่อมา มันก็ดันกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเขาไปตลอด และในที่สุด เขาก็ลืมวิธีการพูดจาที่ถูกต้องเหมือนที่คนอื่นเขาพูดกัน”


”ช่างน่าเศร้าจัง”.

ฮยอน จุงยังคงเล่าความรู้สึกตัวเองผ่านนิทานเรื่องนี้ไป ”เขาใช้คำพูดผสมปนเปไปมาเพื่อให้คนอื่นไม่สามารถเข้าใจเขาได้...แต่กลายเป็น ทำให้พวกเขาคิดว่า มันยิ่งตลกมากขึ้น...และตอนนี้ ก็มีคนพยายามที่จะเข้ามาคุยกับเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย...”


”คริคริ ฮาจัง.. นั่นก็แสดงว่า แผนการเขาทำมานั้นมันล้มเหลว ไม่เวิลค์สิน่ะ”


”มันก็ใช่ฮะ แต่ว่า ฮยอนจุงก็ฉลาดพอ เขาจึงเริ่มหาวิธีใหม่ ด้วยการใช้คำพูดให้น้อยลง...”


”โอ๊ะ พูดน้อยลงเหรอ?”


”ก็..เขาคิดว่าถ้าพูดเหมือนกับไม่ค่อยใส่ใจ แบบนั้นก็ไม่น่าจะมีใครอยากจะเข้ามาคุยกับเขาอีกไง”


”ฮ่า ฮ่า... คิดได้ไงเนี่ย แล้วมันได้ผลหรือเปล่า”


”อืม ผมก็ไม่แน่ใจน่ะ แต่คนส่วนใหญ่ก็คงอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของฮยอนจุงมากขึ้น มันก็เลยกลายเป็นว่า มีคนอยากจะเข้ามาคุยกับอย่างไม่มีวันจบสิ้น ยิ่งหนักเข้าไปอีก เฮ้อ...”


”แสดงว่า ฮยอนจุงคงต้องเป็นคนที่ป๊อบมากๆสิน่ะ ใช่ป่ะ” เธอช่วยเสริมต่อ


“ผมก็เดาว่าคงเป็นงั้น แต่ตอนนี้กลับทำให้ฮยอนจุง เริ่มที่จะเกลียดความมีชื่อเสียงของตัวเองแล้วล่ะฮะ”


”ทำไมเขาถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ?”


”เพราะ คนอื่นๆไม่ยอมเลิกยุ่งกับเขาซักที บางทีเขาอยากจะอยู่อย่างสงบๆคนเดียว จนบางครั้งเขาก็คิดอยากจะย้ายไปอยู่บนเกาะร้างเลยน่ะฮะ...”


”จริงอ่ะ?”

”แต่เชื่อมั๊ยฮะ ในโลกนี้ มีคนเพียงคนเดียวที่ฮยอนจุงไม่เคยคิดว่าน่ารำคาญสำหรับเขาเลย....”


”ใครกันเหรอ?”


”เวลา ที่ฮยอนจุงอยู่กับคนๆนี้ เขาไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย...แล้วเขาก็อยากจะเจอคนๆนั้นและอยากพูดคุยกันมาก ขึ้นไปเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าคนๆนี้เป็นคนที่ประเจ้าส่งมาในเวลาที่เหมาะสม คนๆนี้คือคนที่ทำให้เขาได้รู้จักโลกภายนอกที่สดใส คนๆนี้คือคนที่ทำให้เขารู้จักคำว่า “รักโดยไม่มีเงื่อนไข”.”



ฮวางโบอมยิ้มเริ่มนึกขึ้นได้ ”ชั้นคิดว่าชั้นน่าจะรู้จักคนที่เธอพูดถึงนะ เธอคือเด็กสาวคนนึงที่ชื่อว่า “เฮจุง” ใช่รึเปล่า?”



”อืมม...แบบว่า มันก็ไม่เชิงซะทีเดียวฮะ...คือว่า...เธอไม่ใช่เด็กสาวแล้วอ่ะ..”



เธอเบะปากเพราะไม่สบอารมณ์กับคำตอบของคุณสามี...

ฮยอนจุงอมยิ้มแล้วพูดต่อไป ”แต่คุณบอกชื่อของเธอถูกต้องแล้วฮะ เธอคนนั้นคือหญิงสาวที่มีชื่อว่า “เฮจุง”


”เราต่อสิ กำลังสนุกเลย?”


”ฮยอน จุงตัดสินใจว่า เขาจะไปอาศัยอยู่บนเกาะร้างกับเฮจุงเพียงลำพังกันสองคน แล้วเขาก็เริ่มวางแผนทันทีว่า เกาะไหนจะเป็นที่ๆดีที่สุดที่พวกเขาจะไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...? พวกเขาจะต้องนำอะไรไปบ้างที่เกาะนั่น...?...เขาควรจะเอาม้าไปที่เกาะด้วย มั้ยเพื่อจะให้เธอขี่ตอนอยู่ที่นั่น?...แล้วพวกเขาจะทำมาหากินอะไรดี...?”



”ฮยอนจุงคงต้องปวดหัวกับเรื่องนี้มากๆซินะ”



”ไม่ เลยฮะ เขามีความสุขมากเลยล่ะ เขาอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ จนแทบจะรอต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะฮะ เขาคิดว่า เขาต้องเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุขในโลก ถ้าได้อยู่ที่เกาะนั่น เพียงสองคน เฮ้อ แค่คิด เขาก็มีความสุขแล้วล่ะฮะ.”



”แล้ว ตกลงพวกเขาได้ไปอยู่เกาะมั้ยอ่ะ?”



”ยังเลยฮะ”


”ทำไมล่ะ?”


”เพราะว่าเขายังหาเรือที่จะไปที่นั่นไม่ได้น่ะสิฮะ”


”เรือเหรอ?”

”ใช่ ฮะ ก็เขามีของที่จะเอาไปด้วยมากเกินไป เพราะเขาจัดเตรียมสัมภาระและของทุกอย่างที่จะทำให้เธอมีชีวิตที่สะดวกสบาย เวลาที่ไปอยู่บนเกาะ...ดังนั้นเรือที่เขาเตรียมไว้ในตอนแรก มันก็เลยกลายเป็นเล็กเกินไป”


”งั้น...เขาก็เอาของบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างก็ได้นี่นา...”



”จะ ทำอย่างนั้นก็ได้ฮะ แต่ว่า...ฮยอนจุงเขาต้องการทำให้เฮจุงมีความสุขเวลาที่อยู่บนเกาะนั้น เขาต้องการทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างบนเกาะเหมือนกับบนแผ่นดินที่เคยอยู่ ยกเว้นแต่ว่า มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่”



”มัน เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วอ่ะ ฮยอนจุงต้องเลือกระหว่างการอยู่ที่เกาะเพียงสองคน หรืออยู่บนฝั่ง ซึ่งมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ก็ต้องอยู่รวมปะปนกับคนอื่นๆด้วย”


”ผมเดาว่า เขาคงกลัวว่าเฮจุงจะรู้สึกเบื่อถ้าพวกเขาไปอยู่ที่นั่นกันแค่สองคน...”



”แล้วฮยอนจุงเคยถามเฮจุงถึงเรื่องนี้บ้างรึเปล่าล่ะ?”


”ไม่ฮะ ฮยอนจุงเคยพูดว่า เขาจะทำเซอร์ไพรส์เธอหลังจากได้จัดการวางแผนด้วยตัวเองคนเดียว”


”’ถ้างั้นเธอช่วยไปบอกฮยอนจุงด้วยนะ ว่าให้ถามเฮจุง...ว่าเธอจะเบื่อมั้ย ถ้าต้องไปใช้ชีวิตอยู่กับเกาะร้างกันเพียงลำพังสองคน...”



”ผมเชื่อว่า เฮจุงจะไม่มีทางตอบว่า “เบื่อ” ด็ดขา เพราะว่าเธอเป็นคนดีเกินไป และที่สำคัญ เธอก็รักฮยอนจุงมากจริงๆ ฮะ”


”เฮจุงต้องเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากแน่ๆเลยจ้ะ...”



”ทำไมคุณถึงคิดอย่างนั้นล่ะฮะ?”


”ก็เพราะเฮจุงรักฮยอนจุงไงล่ะ”


”แล้วก็มีอยู่อย่างนึง ที่บนเกาะร้างมันไม่มีด้วยสิฮะ...”



”อะไรเหรอ?”


”โรงพยาบาลฮะ”


”..........................”


”เขาพูดว่าเขายังรู้สึกลังเลใจ...เพราะเขาไม่ต้องการให้เธอต้องลำบากทรมานทรกรรมไปอยู่ในที่ๆไม่มีโรงพยาบาล...”



”ธรรมชาติที่บริสุทธิ์สวยงามจะทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลที่ดีช่วยรักษาสุขภาพคนที่อยู่บนเกาะร้างนะ..”


”แต่ไง...ฮยอนจุงก็ยังอยากได้เรือลำโตๆ พอที่จะขนม้าไปด้วย...”


“ทำไมต้องเอาม้าไปด้วยล่ะ?”


”เพราะเขาไม่อยากให้เฮจุงต้องเดินไงฮะ”


”เฮจุงคนนั้น อ่อนแอมากเลยเหรอ?”


“ไม่ฮะ เธอน่ะแข็งแรงมากเกินไปด้วยซ้ำ แล้วก็มีพละกำลังมากเหลือเฟือ...”


“ถ้างั้น.. ทำไมเขาถึงต้องคิดจะทำอย่างนั้นด้วยล่ะ?”



”ก็เพราะเขาแคร์แล้วก็เป็นห่วงเธอมากไงฮะ...”


”ถ้าชั้นเป็น “เฮจุง” นะ”


”ทำไมหรือฮะ”


”ชั้นจะไม่เคยคิดถึงเรื่องการนั่งไปบนหลังม้าเพียงคนเดียวหรอกนะ ชั้นอยากจะขี่ม้าไปด้วยกันกับเขา หรือไม่ก็เดินไปด้วยกันมากกว่า...”


”ถ้างั้น ฮยอนจุงก็ต้องเอาม้าไปสองตัวซิฮะ?”


”เฮจุงจะบอกว่ามันไม่จำเป็นหรอก เธอชอบที่จะเดินไปด้วยกันกับเขามากกว่า”


”ทำไมล่ะฮะ?”


”ก็...เฮจุงสามารถจับมือฮยอนจุงแล้วก็เดินไปด้วยกัน...สามารถยืนพิงซบไหล่เขาได้เวลาที่เธอเหนื่อยไง”


”แต่ผมว่า...เธอคงจะเมื่อยและปวดขามากๆเลยนะฮะ ถ้าต้องเดินไปอย่างนั้นนานๆ...”



“แต่เธอก็คงจะเมื่อยก้นมากเหมือนกัน ถ้าต้องขี่ม้าไปนานๆหน่ะ”


“ผมว่า...ตอนนี้ เฮจุงกลายเป็นคนที่ใช้คำพูดคำจาเก่งไม่ใช่เล่นเลยนะฮะ คงเป็นเพราะเธอได้คุยกับฮยอนจุงเยอะมากๆแน่เลย”


”ชั้นว่า เฮจุงจำเป็นต้องทำแบบนั้น เพื่อที่ฮยอนจุงจะได้ไม่เบื่อไงล่ะ”



หลังจากฮวางโบหลับไปแล้ว ฮยอนจุงก็มานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อพยายามค้นหาอะไรบางอย่างจากอินเตอร์เน็ต


”วิธีการยื่นขอจดทะเบียนสมรส...ในกรณีที่คู่สมรสไม่สามารถไปทำได้ด้วยตัวเอง...? อ๊า เจอแล้ว มันสามารถทำได้นี่นา!”


”ที่ จริงผมอยากจะทำเรื่องนี้ด้วยกันกับคุณเหมือนกับที่เราไปทำพิธีกันที่โบสถ์ใน มาเก๊า...แต่การแล่นเรือออกไปที่เกาะร้างโดยที่ไม่มีแผนการใดๆ มันจะทำให้คุณต้องลำบากมากแน่ๆ...”


”อ๊ายยยย !!!! ชั้นควรจะไปขอให้ใครช่วยดีนะ...?”


เช้าวันต่อมา

ฮยอนจุงกดโทรศัพท์ไปหาใครคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่เขาคิดว่าสามารถไว้วางใจได้มากที่สุด...”แม่หรือฮะ? นี่ผมเองฮะ ฮยอนจุง...”


ช่วงเช้าที่ ห้องรับประทานอาหารภายในโบสถ์

ฮวาง โบยื่นซองจดหมายให้กับสมาชิกของโบสถ์คนหนึ่งพร้อมกับพูดว่า “ซิสเตอร์ตอยคะ ชั้นคงจะไม่สามารถช่วยงานอาสาสมัครไปซักระยะนึง...ชั้นต้องขอโทษด้วยนะ คะ...”


ซิสเตอร์ตอยตอบ “ชั้นเดาว่าเธอคงจะมีเหตุผลที่ดีพอสำหรับเรื่องนี้นะจ้ะ แล้วซองนี่มันคืออะไรหรือ?”


”คือ ชั้นได้ยินมาว่าช่วงนี้จำนวนเงินบริจาคลดลงมาก...และเผอิญว่าชั้นเพิ่งได้รับเงินรายได้พิเศษเข้ามาเมื่อเร็วๆนี้..ก็เลย....”


”อา...ชั้น พูดจริงๆนะ เธอได้คอยช่วยเหลือทางโบสถ์มาตลอด...ทั้งบริจาคเงินแล้วก็ไปช่วยทำงานอาสา สมัครอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...คุณเฮจุงจะต้องได้รับพรที่ยิ่งใหญ่อย่าง แน่นอนเลยคะ...”

หญิงสาวหัวเราะคิกก่อนถามกลับไปว่า “ซิสเตอร์ก็กำลังจะให้พรชั้นด้วยหรือคะ?

ซิ สเตอร์ตอยหัวเราะพร้อมกับกุมมือของฮวางโบแล้วพูดต่อไปว่า ”หุหุ ก็ไม่เชิงหรอกจ้ะ แต่ชั้นเชื่อว่าพระองค์คงจะไม่ใจร้ายกับคนดีๆจิตใจงามอย่างเธอหรอกนะ ^ ^”


”ค่ะ ชั้นก็เชื่ออย่างนั้น และก็เชื่อว่า อาสาสมัครทุกคนจะได้รับพรจากพระองค์เช่นกัน...”

ที่ลานจอดรถของโบสถ์

ฮวางโบก้าวขึ้นไปนั่งในรถ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไปหาคุณสามี


”นี่ชั้นเองจ้ะ เธอกำลังยุ่งอยู่รึเปล่า?”


”ก็นิดหน่อยฮะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนเหรอ?”


”ชั้นเพิ่งเอาซองทำบุญไปให้ทีม “เลี้ยงอาหารกลางวันฟรี” น่ะจ้ะ”


”งั้น หรือฮะ”


”ขอบคุณเธอมากเลยนะ”


”สำหรับอะไรฮะ?”


”ที่ร่วมทำบุญด้วยกันกับชั้นไงล่ะจ้ะ”


“ที่ จริงผมอยากจะบริจาคให้มากกว่านั้นอีก..แต่ผมคิดว่าผมต้องเก็บเงินเอาไว้สำ หรับฮยอนซึด้วย...ก็เลย”(คราวหลังถ้าผมได้เงินมาอีก เราไปช่วยกันขนถ่านหินไปบริจาคดีมั้ยฮะ ^ ^)


”หุหุ แหมถ้ามีมรดกให้ลูกมากเกินไปอาจจะทำให้เขาเป็นเด็กเสียนิสัยไปก็ได้นะ”



”มรดกอะไรกันฮะ? มันจะไม่มีอะไรอย่างนั้นหรอกนะ แต่ไงพวกเราก็ต้องมีเงินเอาไว้เพื่อเลี้ยงดูลูกของเรา”



“อ๊า เธอช่างเป็นชิลลางที่แสนดีและไว้วางใจได้อย่างสุดๆเลยนะ”


”ไม่ต้องมายอผมเลยฮะ ว่าแต่คุณกำลังจะไปไหนต่อฮะ?”


”ชั้นต้องไปแวะอีกที่นึงก่อนแล้วค่อยกลับบ้านน่ะจ้ะ”



“งั้น วันนี้ผมก็จะกลับบ้านช้าหน่อยเหมือนกันนะ”


”เธอจะมาที่บ้านจริงๆเหรอ?”


”แน่นอนฮะ ถ้าไม่มีใครพยายามมาฉุดเอาไว้นะฮะ”


”เธอก็รู้ว่า ชั้นจะไม่ทำอย่างนั้นแน่?”


”ผมไม่ได้หมายถึงคุณฮะ”


”...โอเคจ้ะ”


”แล้วเจอกันที่บ้านนะฮะ”


“โอเคจ้า ชั้นจะรอนะ”


ขอบคุณที่ติดตามคู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ โปรดติดตามตอนต่อไป



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 17:07:38 น. 0 comments
Counter : 808 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.