|
ตอนที่ 96 ~ ที่ร้าก ชั้นคิดถึงเธอ~
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
เวลาเช้าตรู่ที่ห้องพักในโรงแรมที่มาเก๊า คู่ฮันนีมูนซึ่งกำลังเตรียมตัวจะเดินทางกลับเกาหลี ยืนคุยกันอยู่ใกล้ๆประตูห้อง
“เธอไปก่อนเถอะนะ ชั้นว่ามันคงจะไม่ใช่ความคิดที่ดีซักเท่าไหร่ ถ้าเราจะไปที่สนามบินพร้อมกัน “ฮวางโบเอ่ยขึ้นมาก่อน
ฮยอนจุงถอนหายใจออกมาอย่างแรงก่อนถามกลับไปว่า “แต่ว่า...คุณไม่คิดบ้างเหรอฮะว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าเราไปที่นั่นด้วยกันน่ะ?”
“ถ้างั้น...เรื่องการแต่งงานลับๆของเรา มันก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไปน่ะสิ”
ฮยอนจุงมองหน้าภรรยาอีกครั้งแล้วตอบไป “ยังไงไม่ช้าไม่นานผู้คนเขาก็คงจะรู้ความจริงอยู่ดีล่ะฮะ”
เธอส่ายหน้าแทนการปฏิเสธความคิดของเขา...
“ก็ได้ฮะ...ตามใจคุณก็แล้วกัน”
“ชั้น...อาจจะไปถึงที่นั่นช้าหน่อยน่ะ”
“หา ทำไมล่ะฮะ?”
“ชั้นจะไปเช็คดูว่า...มันพอจะมีที่นั่งว่างในไฟลท์ถัดจากของเธอรึเปล่าน่ะ”
“.....................”
“การนั่งเครื่องบินกลับไปบนไฟลท์เดียวกันนี่มัน...”น้ำเสียงที่ดูค่อนข้างจะเลลังและกังวล
ฮยอนจุงได้แต่ยืนถอนหายใจโดยไม่พูดอะไร...
ฮวางโบรีบเขย่งตัวขึ้นมาจุ๊บที่ปากของเขาอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นการปลอบใจก่อนบอกว่า “ ไว้ชั้นจะไปเจอเธอที่โซลแล้วกันนะ”
เขายังคงยืนนิ่งทำหน้าเศร้าๆไม่พูดไม่จา...
ฮวางโบเดินไปเปิดประตูแล้วรีบบอกว่า “ไม่เอาน่า..เดี๋ยวเราก็ได้เจอที่โน่นแล้ว”
ฮยอนจุงยังทำท่าลังเลไม่ยอมขยับตัวและยังยืนอยู่หน้าประตูอย่างนั้น...
“เร็วๆเข้า เดี๋ยวก็ไปไม่ทันนะ”
เขามองเธอด้วยสายตาเศร้าๆแสดงความอาลัยอาวรณ์ก่อนดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ๆแล้วประทับจูบอำลาลงบนริมฝีปากเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ตัดใจรีบเดินออกไปจากห้องทันที หลังจากที่เขาเดินหายลับตาไปแล้ว ฮวางโบซึ่งอยู่ในห้องเพียงคนเดียวในตอนนี้ รู้สึกปวดใจกับสภาพตัวเองที่เป็นเจ้าสาวได้แค่ 2 คืนก็ต้องจากกันจนถึงกับต้องยกมือขึ้นมากุมที่หน้าอกตัวเองเอาไว้ <โยโบ ชั้นจะคิดถึงเธอน่ะ>
ที่สนามบินมาเก๊า
ฮยอนจุงพยายามสอดส่ายสายตามองหาฮวางโบในกลุ่มคนที่เดินไปเดินมาในบริเวณเทอร์มินัลของเที่ยวบินระหว่างประเทศ
<นี่คุณจะไปบินไฟลท์อื่นจริงๆหรือฮะ?>
<ผมรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา...เพราะว่าผมทิ้งคุณเอาไว้ข้างหลังอย่างนี้ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว...>
<แล้ววันนี้ผมก็ปล่อยให้คุณดูแลจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ผมอีกเช่นเคย..>ฮยอนจุงเดินขึ้นเครื่องบินไปด้วยหัวใจที่แสนจะหนักอึ้ง
ภายในเครื่องบิน บริเวณที่นั่งผู้โดยสารชั้นธุรกิจ เขาเดินไปนั่งประจำที่ของเขาซึ่งเป็นที่นั่งริมหน้าต่าง จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฮวางโบทันที
“หวัดดีฮะ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนน่ะ?”
“ชั้นอยู่บนเครื่องบินแล้วจ้า”เสียงฮวางโบตอบกลับมาเบาๆจากปลายสาย
“เครื่องบิน? ลำไหนฮะ?”
“ก็ลำที่จะบินกลับโซลไงล่ะ”
“นก-แอร์ เหรอฮะ”
“อืม ใช่ นี่จะมุขไปถึงไหนน่ะ เธอนี่”
“โอเค โอเค ผมล้อเล่นน่า ”พอได้ยินที่เธอบอก หน้าตาของเขาก็ดูแช่มชื่นขึ้นมาในทันทีพร้อมๆก็ลุกขึ้นยืนหันไปมองดูรอบๆ
“คุณนั่งอยู่ตรงไหนเหรอฮะ?”
“คนละส่วนกับของเธอจ้ะ ชั้นอยู่ที่ชั้นประหยัดน่ะ...”
เขาพูดพลางเดินออกมาจากแถวที่นั่งแล้วมองไปทางด้านหลังแล้วถามต่อไปว่า “คุณนั่งอยู่ทางด้านซ้ายหรือว่าด้านขวาฮะ?”
เธอสูดลมหายใจลึกๆก่อนพูดเสียงดุๆว่า “กลับไปนั่งที่เลยนะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว! “
ฮยอนจุงสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ทำตามที่เธอบอก
“นี่เธอกำลังจะเดินมาตรงนี้ใช่มั้ย หือ?”
“ผมกำลังเดินไปหาคุณฮะ อันที่จริงผมก็ไม่อยากขัดใจคุณหรอก แต่ทำไมได้ หัวใจผมมันเรียกร้องนี่ฮะ...”
“ชั้นว่าเธอคงซ้อมบทในแกล้งจุ๊บฯมากไปใช่มั๊ย ถึงได้เลี่ยนขนาดนี้ ไปเลยน่ะ กลับไปที่นั่งของเธอเลยน่ะ ได้โปรด”
เขาเริ่มลังเลเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ้อนวอนของเธอ...
“เธอน่าจะรู้สึกขอบคุณน่ะ ที่อย่างน้อยเราก็ได้บินไฟลท์เดียวกัน”
ฮยอนจุงทำหน้าผิดหวังเมื่อได้ยิน...
“เพราะว่าเรานั่งกันคนละส่วนกัน..หวังว่าคงจะไม่มีใครสังเกตเห็นพวกเราน่ะ.” หญิงสาวพูดไปพร้อมๆกับหันไปมองดูผู้โดยสารที่อยู่รอบๆ
“โอเคฮะ“ เขาตอบพลางหันหลังเดินกลับไป
“อืมม ตอนนี้ชั้นพูดสายกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ ถ้ามีอะไรก็ส่งข้อความมาหาชั้นแทนก็แล้วกันน่ะ”
“ฮะ”
“ชั้นวางสายก่อนนะ”
“ฮะ ผมคิดถึงคุณน่ะฮะ”
“อืม ชั้นก็เหมือนกัน”
ที่สนามบินอินชอน เกาหลี หลังจากเครื่องบินลงจอดเรียบร้อย ฮยอนจุงลงมาจากเครื่องก่อนและเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว แทนที่จะเดินไปที่ทางออกเขากลับไปยืนรออยู่ในแถวใกล้ๆกับทางออก ในตอนนี้เขาสวมแว่นกันแดดอันใหญ่พร้อมหมวกใบเก่งเพื่อปกปิดอำพรางของตัวเองเอาไว้
“ไปกันเถอะ” เสียงพี่ผู้จัดการตะโกนเรียก
”เดี๋ยวฮะพี่ แป๊บนึง”
“มีอะไรเหรอ?” พี่ผู้จัดการถามด้วยความแปลกใจ
“ผมต้องรอใครบางคนก่อนฮะ”.
ผู้จัดการทำหน้างงและขมวดคิ้วก่อนพูดย้ำว่า “เราไปกันตอนนี้แหละ ทำไมต้องรอใครด้วย”
เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆก่อนตอบไปว่า “ผมทำไม่ได้...ผมไม่สามารถจะทำแบบนั้นต่อไปได้อีกแล้วที่จะต้องทิ้งเธอไว้ข้างหลังคนเดียวแบบนั้นน่ะ...
“นี่นาย! คิมฮยอนจุง” พี่ผู้จัดการตะโกนลั่นก่อนจะรู้สึกตัวค่อยๆลดเสียงลงจนเกือบกระซิบ
“สิ่งที่นายกำลังทำอยู่เนี่ย...มันไม่ได้เป็นเรื่องดีสำหรับเธอด้วยเหมือนกัน..นายรู้รึเปล่า หา”
“...................”
“ชั้นพูดจริงๆนะ นายไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในอนาคต...แล้วนายจะทำยังไงถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาต่อจากนี้ แล้วเป็นเรื่องที่นายไม่สามารถจะจัดการกับมันได้น่ะ ฮึ?”
ฮยอนจุงกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง
“มันไม่เป็นไรหรอกนะถ้าผู้ชายอย่างนายจะมีช่วงเวลาโลดโผนในอดีตน่ะ...แต่สำหรับผู้หญิงแล้ว เธอจะต้องก้มหน้ารับผลการกระทำในอดีตของเธอไปจนตลอดชีวิตนะ”ผู้จัดการพูดด้วยความฉุนเฉียว
“...................”
“พวกเราไม่มีเวลาสำหรับเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกน่ะ เพราะฉะนั้น เร็วเข้า ไปกันได้แล้ว “พี่ผู้จัดการเร่งเร้าให้เขารีบเดินออกไป
ฮยอนจุงไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย แค่เงยหน้าขึ้นมากวาดตามองดูผู้คนที่เดินมาจากช่องผู้โดยสารขาเข้า...
“ให้ไวเลย เร็วเข้า“ พี่ผู้จัดการพูดพลางเอามามือฉุดแขนของเขา
แต่เขายังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงและพูดว่า “พี่ไปก่อนก็ได้ฮะ”
“นี่ นาย”
“พวกเราไม่ใช่อดีตของกันและกันฮะ”<เราเป็นทั้งปัจจุบันและอนาคตของกันและกันในอีกหลายสิบปีต่อไปข้างหน้าต่างหาก ผมจะต้องรับผิดชอบเธอไปตราบจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของผม>
“เฮ้อ”<เวิ่นเว้ออะไรของนายเนี่ย>พี่ผู้จัดการบ่นปอดแปด
“พี่ก็รู้ใช่มั้ยฮะว่าผมมันดื้อรั้นขนาดไหน? แม้แต่ท่านประธานก็ไม่สามารถจะหยุดผมได้...” ฮยอนจุงพูดแต่สายตามหันไปมองหาสิ่งสำคัญบางอย่าง
พี่ผู้จัดการได้แต่ก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจดังๆอีกครั้ง...
“อ๊ะ ผมเห็นเธอแล้วฮะ ตกลงพี่จะไปด้วยกันกับพวกเรามั้ยฮะ?”
พี่ผู้จัดการยืนอึ้งๆไปครู่นึงก่อนตอบว่า “นี่นาย ชั้นไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะ อยากจะทำอะไรก็เชิญ...”
ฮยอนจุงได้ยินก็แอบแสยะยิ้มชอบใจ “งั้นผมก็จะไปหาเธอ” <(เข้าทางเลยเรา>
หลังจากไปรับกระเป๋าเดินทางที่สายพาน ฮวางโบก็เดินมุ่งหน้ามาที่ประตูทางออก ฮยอนจุงอาศัยขาที่ยาวของเขาจ้ำพรวดๆไปไม่เท่าไหร่ก็เดินตามเธอทัน จนในที่สุดเขาก็มาเดินอยู่ข้างๆเธอ
ฮวางโบไม่รู้ตัวเลยจนกระทั่งเธอหันหน้ามาแล้วสบสายตาที่มีแววยิ้มๆของเขาเข้าพอดี..
เขาส่งยิ้มให้เธอน้อยๆโดยไม่ได้พูดอะไร...เพียงแค่นั้นก็ทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจและสดชื่นขึ้นมาทันตา...
ทั้งสองคนค่อยๆเดินออกมาแบบไม่รีบร้อน มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครจำพวกเขาได้เนื่องจากต่างคนต่างก็สวมแว่นกันแดดอันใหญ่สวมหมวกเพื่อพรางตัวเอาไว้
“วันนี้คุณมีธุระหรือว่าติดงานอะไรรึเปล่าฮะ?”
“ตารางชั้นว่างจนถึงพรุ่งนี้น่ะจ้ะ”
“งั้น...ไปกับผมก็แล้วกันนะฮะ”
“ไปไหนเหรอ?”
“ตอนนี้ผมต้องตรงไปสตูดิโอที่ซ้อมสำหรับงานมีทติ้งนะฮะ วันนี้คุณเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ผมได้ตลอดทั้งวันเลยนะฮะ...”
“แต่ชั้นยังไม่ได้รื้อข้าวของสัมภาระอะไรเลยนะ?”
“เอาไว้คุณค่อยทำหลังจากนั้นก็ได้นี่ฮะ...ผมรู้ว่าตอนนี้คุณคงจะเพลียไม่ใช่น้อย...แต่ผมก็เพลียเหมือนกันนะ..คุณลองคิดซะว่าเป็นการทำหน้าที่ภรรยาที่ดี คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้สามีสุดเลิฟของคุณแล้วกันนะฮะ...”
ฮวางโบสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆโดยไม่ตอบอะไร
“ผมหวังว่า...”
“..................”
“ผมสามารถจะอยู่ใกล้ๆคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้...”
“...................”
“เพราะว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว....” เขาพูดด้วยสายตาบ่งบอกถึงความภูมิใจ
เธอนิ่งฟังและส่งยิ้มจางๆให้เขา
ที่ Olympic Fencing Gymnasium ในโซล ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมีตติ้งแฟนคลับของวง SS501 ในขณะที่ฮยอนจุงกับฮวางโบเดินมาถึงเวทีกลาง บรรดาเมมเบอร์ทั้ง 4 ซึ่งรวมตัวกันอยู่บริเวณด้านล่างของเวทีต่างก็ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกเมื่อเห็นทั้งคู่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมๆกัน
“มีอะไรเหรอ?“ ลีดเดอร์เอ่ยทักทายน้องๆที่นั่งหน้าเหวอกันอยู่
จุนเบบี้รีบส่งยิ้มหวานให้เขา คยูจงซึ่งมีทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัดรีบหลบสายตาทันที ในขณะที่จองมินทำปากยื่นหน่อยๆ ในขณะที่จ้องหน้าทั้งคู่โดยไม่พูดอะไร ส่วนยองแซงหันหลังให้พวกเขาดื้อๆ
ลีดเดอร์เริ่มโวยนิดๆเมื่อเห็นท่าทางของน้องๆ “นี่พวกนายไม่คิดจะทักทายพี่สะใภ้กันเลยรึไง?”
เมมเบอร์ทั้ง 4 จึงส่งเสียงทักทายด้วยท่าทางเคอะเขิน “สวัสดีฮะ พี่ไภ้”
ฮวางโบซึ่งทำหน้าไม่ค่อยจะถูก หลับตาลงชั่วครู่ก่อนจะกลั้นใจทักกลับไปว่า... หวัดดีจ้ะทุกคน...เป็นยังไงกันบ้าง?”
ไม่นานนัก คู่ผักกาดหอมก็มานั่งล้อมวงกินของว่างกับน้องๆอยู่ที่พื้น
จองมินลังเลก่อนจะเอ่ยปากถามเป็นคนแรกว่า..”เอ๊ะ มีอะไรรึเปล่าฮะ..พวกพี่ถึงได้มาที่นี่ด้วยกันน่ะ..?”
“อ๋อ วันนี้พี่เขาจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ชั้นหนึ่งวันน่ะ”
“ผู้จัดการเหรอ?” จองมินถามด้วยความตกใจ
“อืม ก็วันนี้พี่สะใภ้เขาไม่มีงานน่ะ ชั้นก็เลยจัดการให้เธอมาเป็นผู้จัดการให้ชั้นซะเลย เพราะว่าชั้นอิจฉาที่เธอว่างงานเดี๋ยวจะสบายเกินน่ะ...”
“โอ ดีจังเลยนะฮะ”...คยูจงเอ่ยด้วยน้ำเสียงชื่นชม
แต่แล้วจุนเบบี้ก็เปิดประเด็นร้อนขึ้นมา “ว่าแต่ พวกพี่ไปเจอกันที่ไหนหรือฮะ ก่อนจะมาที่นี่น่ะ?”
<หา! ตายล่ะ> ฮวางโบสะดุ้งเฮือก
<หา ว่าไงนะ? >ลีดเดอร์นึกในใจว่า ไอ้เจ้านี่นอกจากสายตาดี แล้วยังขี้สงสัยอีก(ว่ะ)
“ผมได้ยินมาว่าพี่ตรงมาจากสนามบินเลยไม่ใช่หรือฮะ” จุนเบบี้หัวเราะคิกแล้วพูดต่อไปว่า “จริงๆนะฮะ พวกพี่คงไม่ได้กลับมาจากมาเก๊าด้วยกันใช่มั้ยเนี่ย?”
ฮวางโบได้แต่นั่งอึ้งพูดไม่ออก...ลีดเดอร์นั่งนิ่งกระพริบตาปริบๆเมื่อถูกเด็กจับได้...
ยองแซงขมวดคิ้วทำท่าสงสัยเมื่อเห็นท่าทางของทั้งคู่....
คยูจงทำตาโตเป็นไข่ห่านแล้วหันไปจ้องหน้าลีดเดอร์เหมือนไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนม้ามินอ้าปากค้าง ในขณะที่มองหน้าของฮยอนจุงและฮวางโบสลับไปมาก่อนจะร้องออกมาดังๆว่า “โอ..พระเจ้า..”
จุนเบบี้หลังจากอึ้งไปพักนึง ตาเริ่มโตเป็นไข่ห่านและพูดตะกุกตะกักออกมาว่า “อืมมม..ผมก็...แค่...คิดว่า..มันเป็นเรื่อง..พูดเล่นขำๆ...เท่านั้น....”
ฮวางโบซึ่งกำลังรู้สึกอายน้องๆสุดขีด ยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วก้มศีรษะลงซุกที่ตักตัวเอง “ ฮือ” <ชั้นอยากจะแทรกแผ่นดินหนีลงไปตอนนี้เลยอ่ะ>
ส่วนลีดเดอร์ชำเลืองมองดูเธอก่อนจะพูดกับเมมเบอร์ทำท่ายักไหล่แบบนักการเมืองว่า “เรื่องนี้ไม่มีความเห็น”
ม้ามินตะลึงสุดขีดอุทานออกมาอีกว่า “โอ แม่จ้าว” <กลับมาจากมาเก๊าด้วยกันจริงๆอ่ะ แร้วพวกนายได้เอ่อ เด..เด..เฮ้ย ชั้นคิดอะไรว่ะเนี่ย>
ยองแซงที่นั่งนิ่งไม่พูดอะไรมาตลอดถึงกับหันหน้าหนีไปอีกทาง...คยูจงนั่งทำหน้าไม่ถูกเพราะมีความรู้สึกมากมายหลายอย่างที่สับสนปนเปกัน ทั้งแปลกใจ เศร้าใจ และ สับสน...
น้องเล็กเด็กช่างสงสัยยังถามต่อไปว่า “พี่ฮยอนจุง ไม่มีความเห็น หมายความว่ายังไงหรือฮะ...?”
จองมินเริ่มทนไม่ไหวตะโกนใส่หน้าเบบี้ไปว่า “ทำไมนายต้องไปตอแยเซ้าซี้เขาอยู่ได้นะ? มันก็ทำให้พวกเรารู้สึกอายเหมือนกันนะ!”
แต่เบบี้ก็ยังไม่เลิก หันไปกระซิบกระซาบกับคยูจงว่า “ไม่มีความเห็นแปลว่า..พวกเขาไปอยู่ด้วยกันที่...ใช่ป่ะ?”
คยูจงกระทุ้งศอกใส่น้องเล็กเบาๆก่อนจะพูดเตือนเบาๆว่า “นี่นาย พอได้แล้ว”
ลีดเดอร์พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พวกนายเป็นอะไรกัน หา? แล้วมันจะอะไรนักหนา ถ้าพวกเรากลับมาจากมาเก๊าด้วยกันจริงๆน่ะ?”
“นี่พี่กำลังบอกพวกเราอยู่ใช่มั้ยฮะ ว่าพวกพี่กลับมาจากที่โน่นพร้อมกันจริงๆอ่ะ? “เบบี้ถามย้ำ
จองมินยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วร้องออกมาว่า “โอ นายนี่มัน บ้าสิ้นดีแลยนะ”
คยูจงนั่งก้มหน้ามองพื้นไม่พูดไม่จา...
ส่วนฮวางโบนึกในใจว่า โอ๊ย ชั้นมาทำอะไรที่นี่เนี่ย? ไม่น่าเลย T_T แล้วก็รีบลุกขึ้นยืน
ฮยอนจุงเงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วถามว่า “มีอะไรหรือฮะ? “
เธอไม่ตอบแต่เหวี่ยงสายตาใส่เขาอย่างแรงก่อนจะรีบเดินออกไปจากบริเวณเวทีการแสดง...
“คุณกำลังจะไปไหนน่ะ? “
“ชั้นขอไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยนะ “เธอหันมาตอบเขาหลังจากปล่อยมือที่กำลังขยี้ผมศีรษะตัวเองอยู่
ฮยอนจุงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยขึ้นมาทันทีว่า “โยโบ อย่าออกไปนานนักนะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด รีบกลับเข้าเร็วๆนะฮะ”
“โอ๊ย เธอกำลังจะทำให้ชั้นเป็นบ้าไปจริงๆแล้วนะเนี่ย!!!” เธอบ่นออกมาพร้อมๆจ้องหน้าเขาด้วยสายตาเพชรฆาต
แต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน ส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เธอแถมยังโบกมือให้พร้อมกับพูดแกล้งแหย่ว่า “ผมไม่อยากห่างจากคุณไปแม้ซักนาที หรือวินาทีฮะ”
เมมเบอร์ทั้ง 4 เจอประโยคสุดเลี่ยนของลีดเดอร์เข้าไป แต่ละคนทำท่ายกมือขึ้นมาปิดปากเหมือนอยากจะอาเจียนออกมาซะให้ได้ ส่วนฮวางโบยืนตัวสั่นด้วยความอายและยกกำปั้นขึ้นมาชูเหมือนจะบอกเขาว่า<คืนนี้ เธอตายแน่> มีเพียงฮยอนจุงที่นั่งยิ้มปลื้มสีหน้ามีความสุขสุดๆอยู่เพียงคนเดียว
โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 97 – คุณก็มีแฟนคลับอยู่ตรงนี้ด้วยเหมือนกัน
หมายเหตุจากยาย
หวังใจว่าหลายคนคงได้ดูรายการเรียลลิตี้ตอนที่เขามาถ่ายที่บ้านน่ะคะ รู้สึกเหมือนที่ยายเป็นหรือเปล่า แบบตื่นเต้น ถึงแม้ไฟจะไม่ค่อยสว่างแต่ยังคงเห็นหน้ายายได้ลางๆใช่มั๊ยค่ะ เพื่อให้ได้อารมณ์มากว่านี้ ขอแนะนำให้อ่านนิราศเคริฟ์ด้วยก็จะดีนะคะ
ยาย(นาจา)
Create Date : 13 กันยายน 2553 |
Last Update : 13 กันยายน 2553 20:04:57 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1173 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ตอง IP: 110.49.71.45 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:13:02:35 น. |
|
|
|
โดย: เจน IP: 125.26.34.220 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:15:00:49 น. |
|
|
|
โดย: มดแดง IP: 58.10.71.77 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:15:18:11 น. |
|
|
|
โดย: อิ๋ว IP: 110.49.193.211 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:19:23:48 น. |
|
|
|
โดย: อิ๋ว IP: 110.49.193.211 วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:19:42:34 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณค่ะยาย