|
ตอนที่ 104 ~ พ่อตาผมใจดี (แน่) เลย
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
ที่สตูดิโอถ่ายภาพแห่งหนึ่งในโซล ฮยอนจุงกำลังโพสท่าถ่ายรูปเสื้อผ้าแฟชั่นฤดูหนาว คอนเซ็ปท์ชุดเครื่องแต่งกายและการแต่งหน้าของเขาในวันนี้คือหนุ่มน้อยไฮโซที่มีบุคลิคที่ดูซับซ้อน ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังมีสมาธิอยู่กับการถ่ายภาพ โพสท่าต่างๆตามคำขอของช่างภาพอยู่นั้น ทีมงานของสตูดิโอหลายคนแอบชำเลืองมองดูเขาด้วยความสนอกสนใจอย่างเห็นได้ชัด ทำให้บรรยากาศรอบๆบริเวณนั้นดูน่าอึดอัดและตึงเครียด พี่ผู้จัดการของเขาจึงเริ่มกวาดตามองสำรวจไปรอบๆ
ฮยอนจุงพยายามซ่อนความอ่อนล้าของเขาเอาไว้ในขณะที่โพสท่าอยู่ต่อหน้ากล้อง และคิดในใจไปด้วยว่า
<ชั้นรู้ดีว่าวงการนี้มันเป็นยังไง ช่างเหอะ...ปล่อยให้พวกเขาคิดไปตามที่อยากจะคิดแล้วกัน เพราะชั้นเองก็ไม่ได้อยากจะปิดบังเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก>
หลังจากนั้นช่างภาพก็ตะโกนให้เขาเปลี่ยนเป็นโพสท่าอื่นบ้าง เขายิ้มแล้วโพสตาที่ช่างภาพสั่งและยังคิดในใจต่อไป<ผมรู้ว่าสิ่งที่พวกคุณต้องการจากผมคือ การนำเสนอภาพลักษณ์ในแบบที่คุณอยากจะให้เป็น...ผมหวังว่าอย่างน้อยพวกคุณจะได้เห็นว่ามันเป็นเรื่องยากมากแค่ไหนในการแสดงออกถึงภาพลักษณ์บางอย่างต่อสาธารณชน เพราะพวกเราก็ทำงานอยู่ในวงการเดียวกัน...ผมเดาว่าใครๆก็สามารถกลายเป็น “บุคคลสาธารณะ” ได้ นอกซะจากว่าคุณไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวงการนี้เลย...>
ระหว่างช่วงพักเบรค ฮยอนจุงกำลังนั่งพักในขณะที่รอเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดต่อไป และรอให้ทีมงานจัดฉากใหม่ให้เรียบร้อยด้วย
ระหว่างนั้นเองมือถือของเขาก็สั่นขึ้นมาเพราะมีสายเรียกเข้า “ เฮ้ คุณอยู่ที่ไหนน่ะฮะ? “ เขาทักทายคนที่ปลายสายด้วยน้ำเสียงสดใส
เสียงฮวางโบตอบกลับมาว่า “ชั้นเหรอ? กำลังอยู่ที่สถานีวิทยุจ้ะ ชั้นเพิ่งเสร็จจากรายการที่ไปเป็นแขกรับเชิญวันนี้น่ะ”
“ถ้างั้น...คุณมีคิวไปที่ไหนต่ออีกหรือเปล่าฮะ?”
“ที่จริงแล้วชั้นอยากจะกลับบ้านเลยนะ” ฮวางโบถอนหายใจก่อนพูดต่อไปว่า “แค่นี้ก็รู้สึกแปลกๆจะแย่อยู่แล้วล่ะ วันนี้มีแต่คนอยากจะคุยกับชั้นเต็มไปหมด...นี่ชั้นกลายเป็นคนดังที่น่าสนใจมากขนาดนั้นเลยเหรอ...?”
“ตอนนี้ผมกำลังอยู่ระหว่างถ่ายภาพแฟชั่นที่สตูดิโอเลยฮะ”
“ที่ไหนเหรอ?”
“สตูดิโอที่อยู่แถวอับกูจอง-ดงไงฮะ...คุณช่วยมาหาผมที่นี่จะได้มั้ยฮะ...? “
“ฮื้อ...พวกเราจะได้ถูกต่อว่ากันเป็นแพ๊คคู่แบบ ซื้อ 1 แถม 1 อย่างนั้นใช่มั้ย?”
“หุหุ ..ใครจะไปรู้ล่ะฮะ? อะไรๆมันอาจจะดีขึ้นก็ได้ถ้าพวกเราอยู่พร้อมหน้ากันน่ะ”
“ที่นั่นมันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็...นิ โหน่ยฮะ”
พอได้ยินเขาพูดอย่างนั้น ฮวางโบถามกลับไปอย่างไม่ลังเลว่า “เธออยู่ตรงไหนนะ ขอที่อยู่ชั้นอีกทีซิ? เผื่อชั้นอาจจะแวะไปเยี่ยมเธอ”
ไม่นานนักหลังจากนั้น ฮวางโบเดินเข้ามาในสตูดิโอ ทีมงานทักทายเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูแปลกๆ บางคนก็มีท่าทางอึดอัด ส่วนบางคนก็แอบชำเลืองมองเธอด้วยสายตาที่ดูมีเลศนัย
หญิงสาวเดินตรงเข้าไปทักพี่ผู้จัดการของฮยอนจุง “หวัดดีค่ะ เป็นยังไงบ้างคะ สบายดีหรือเปล่าค่ะ? “
พี่ผู้จัดการมองหน้าเธอแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ “ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกครับ...คุณคงพอจะรู้ว่าวันนี้มันหนักหนาสาหัสประมาณไหน”
“ชั้นต้องขอโทษในหลายๆเรื่องด้วยนะคะ.”เธอกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มจางๆให้เขา
“ผมไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันจะมีปัญหาอื่นหลงเหลืออยู่อีก เพราะว่าที่พวกคุณทำมามันก็มากพอดูอยู่...แต่นี่มัน...”
“.....................”
“.....................”
“โอ ชั้นเกือบลืมไปเลย...นี่ค่ะ” ว่าแล้วเธอก็ยื่นของที่อยู่ในมือให้ผู้จัดการ
ผู้จัดการก้มลงมองที่มือของฮวางโบด้วยใบหน้างงๆ ฮวางโบยื่นกล่องโดนัทส่งให้พร้อมกับพูดว่า “ช่วยกรุณาเอาไปแบ่งกันทานกับทีมงานของสตูดิโอด้วยนะคะ ชั้นเอามาได้ไม่เยอะเท่าไหร่เพราะว่ารีบมาน่ะค่ะ” เธอชี้ไปที่ด้านหลังของเธอยังมีกล่องโดนัทอยู่อีกหลายกล่อง
พี่ผู้จัดการยิ้มเขินๆ “คุณไม่จำเป็นต้องซื้อมาก็ได้ครับ”
เธอพูดยิ้มๆว่า “ชั้นได้ยินมาว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะพิชิตหัวใจชายหนุ่มก็คือ การจู่โจมผ่านทางกระเพาะอาหารของเขา...ชั้นรู้ว่ามันคงยังไม่มากพอ แต่ยังไงช่วยกรุณารับเอาความพยายามของชั้นไว้พิจารณาด้วยนะคะ”
พี่ผู้จัดการหัวเราะชอบใจเมื่อได้ยิน เหมือนอย่างที่ฮยอนจุงเคยพูดไว้...”ประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาของคุณมันช่าง (ยาวนาน)...จริงๆ” หุหุ
หญิงสาวทำหน้านิ่วแล้วตอบไปว่า “มันก็แย่พอดูอยู่แล้วนะคะ ที่ชั้นเคยได้ยินประโยคนี้มาจากคนๆนึงแล้วน่ะ.ทั้งๆที่ชั้นไม่ได้แก่ขนาดนั้นซะหน่อย ^^”
“อืมม ผมขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมอดไม่ได้เลยจริงๆที่คอยเปรียบเทียบคุณ...กับใครบางคนที่ผมรู้จักน่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า”
“เฮ้อ..ชั้นสงสัยจังว่าเมื่อไหร่ที่ชั้น...หรือว่าคนอื่นๆจะเริ่มชินกับเรื่องของเราสองคนซะทีน่ะ?” หญิงสาวหันไปยิ้มให้เขาแล้วพูดต่อว่า “ ตอนนี้ชั้นเริ่มกังวลกับเรื่องนี้มากขึ้นทุกทีแล้วล่ะ”
“คุณคงจะต้องรับมือกับมันให้ได้ในทุกๆเรื่อง...เพราะว่าคุณเป็นคนที่ทำให้ฮยอนจุงของพวกเราเปลี่ยนแปลงไปได้ถึงขนาดนั้นน่ะ อย่างที่เขาพูดกันว่า รักมันทำให้คนอิ่มเอมและทำให้คนเปลี่ยนแปลงไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เธอเบะปากก่อนจะถามกลับไปว่า “งั้นเหรอค่ะ? ชั้นน่ะชอบจริงๆน่ะที่ตอนนี้เขากลายเป็นแบบนี้ไปแล้วน่ะค่ะ”
“ตอนนี้เขาน่ะเสียสติโดยสมบูรณ์แบบไปแล้วล่ะ คุณรู้หรือเปล่า แม้แต่ท่านประธานฯของผมยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย ” พี่ผู้จัดการพูดพร้อมกับหรี่ตามองเธอแล้วถามว่า “ ผมสงสัยจริงๆว่า พวกคุณคุยเรื่องอะไรกันเวลาที่อยู่กันสองคนน่ะ?”
“ว่าไงน่ะค่ะ?”
“บางที...คุณอาจจะฝึกซ้อมการพูดในที่สาธารณะหรือว่าอะไรทำนองนั้นกันรึเปล่า? “
“หุหุ ชั้นจะรู้ได้ยังไงค่ะ!”
“เดี๋ยวนี้เขาพูดได้เก่งมากๆ จนผมว่า เขาน่าจะไปเป็น ส.ส.ได้เลยน่ะ...เพราะเขาสามารถพูดโน้มน้าวให้คนอื่นทำตามได้อ่ะ”
“ถ้างั้น...ชั้นควรจะช่วยเขาเตรียมตัวเพื่อลงเลือกตั้งสมัยหน้าดีมั้ยคะ? ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ผมว่านั่นก็เป็นทางเลือกหนึ่งของอาชีพที่ไม่เลวนัก...ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง และถ้าจะลงสมัครจริงๆ ก็ควรจะเลือกพรรคที่ไม่โกงกินชาติบ้านเมืองน่ะฮะ ไม่งั้นคงต้องออกไปนอกประเทศ ฮ่า ฮ่า ฮ่า สะใจ”
ฮวางโบหัวเราะออกมาพร้อมกับหันไปมองฮยอนจุงซึ่งกำลังโพสท่าหล่อถ่ายรูปอยู่และแอบคิดในใจว่า <ว้าว ใครกันนะหนุ่มน้อยที่ดูดีมีชาติตระกูลคนนั้นน่ะ? โอ๊ะ สามีชั้นเองนี่นา ^^>
ช่วงพักเบรค 10 นาที ฮยอนจุงกำลังนั่งอยู่ตรงมุมสำหรับแต่งหน้าทำผม โดยที่มีฮวางโบยืนอยู่ข้างหลัง
ฮวางโบยิ้มหวานแล้วยื่นโดนัทส่งให้คุณสามี “นี่จ้ะ”
“ไหนโค้กล่ะฮะ?”
เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยแฮบปี้นัก “กินกับกาแฟมันจะดีกว่าน่ะ”
“แต่กาแฟมันไม่มีรสชาดนี่ฮะ”
“ชั้นได้ยินมาว่า...เธอจะรับรู้รสชาดที่แท้จริงของกาแฟถ้าหากเธอตกหลุมรัก ชั้นเดาว่ากรณีของเธอคงใช้ไม่ได้...”
“แล้วความรักมันไปเกี่ยวอะไรกับกาแฟด้วยล่ะฮะ?“ เขาพูดพลางเอื้อมมือไปลากเก้าอี้ตัวนึงเข้ามาไว้ใกล้ๆแล้วพยักหน้าส่งซิกให้เธอมานั่งตรงนั้น
เธอทรุดตัวลงนั่งแล้วพูดต่อว่า “ชั้นได้ยินคอกาแฟตัวจริงเคยพูดเอาไว้ว่า...เมื่อคุณรู้สึกว่าความขมของกาแฟมันพอดีกับความขมขื่นที่คุณกำลังรู้สึกอยู่...และเมื่อคุณนึกถึงใบหน้าของคนรักเมื่อได้กลิ่นของกาแฟ...เมื่อนั้นแหละที่คุณกำลังอยู่ในห้วงแห่งความรักอย่างแท้จริง โอ้ว ว้าว”
“คอกาแฟที่ไหนกัน? ผมฟังแล้วเหมือนคำพูดของคนขายกาแฟมากกว่า ผมว่าคุณโดนหลอกแล้วล่ะฮะ มันก็แค่เรื่องที่เมคขึ้นมาเพื่อให้กาแฟขายได้มากขึ้นเท่านั้นเอง คุณนี่หลอกง่ายจังน่ะฮะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธออดนึกถึงเหตุการณ์วันที่เธอโกรธที่เขาไม่ได้ชมว่าเธอสวยในรายการวีก๊อตไม่ได้ เธอถึงกับพยักหน้าก่อนตอบ “งั้นเหรอ อือ ฮึ” <ยังไงชั้นก็ไม่มีวันเถียงชนะเธอใช่มั้ย>
“ผมเดาว่าคุณจะรู้สึกขมขื่นเกี่ยวกับความรักที่คุณปล่อยมันไป...แต่สำหรับผม...ความหวานและซาบซ่าของโค๊กมันดูจะเข้ากับความรู้สึกของผมมากกว่าฮะ”
“..อะไรน่ะ?”
“ทำไมผมต้องไปทำตัวให้คุ้นเคยกับรสขมๆด้วยล่ะฮะ? ผมชอบอะไรที่มันหวานๆมากกว่าอ่ะ...เหมือนกับความรักของเราไงฮะ”
ฮวางโบรีบหันไปมองรอบๆอย่างระมัดระวังก่อนจะร้องออกมาว่า “อ้ากก เธอนี่ชักจะเลี่ยนไปกันใหญ่แล้วนะ”
“ผมคิดว่าผมอาจจะอินกับคาแรคเตอร์ของจีฮูจริงๆน่ะ^^ บรื๋อออ เขาไม่ใช่อะไรที่มันเล่นได้ง่ายๆเลยนะ...แบบว่า...เขาเป็นแค่เด็กนักเรียนไฮสคูลแต่ว่า..อื๋ยยย.”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” หญิงสาวมองดูคุณสามีซึ่งถูกย้อมผมให้เป็นสีน้ำตาลและใส่คอนแทคเลนซ์สีแล้วพูดกับเขาว่า “ ที่จริงชั้นกำลังคิดว่า...คอนเซ็ปท์สำหรับการถ่ายภาพของเธอวันนี้มันออกจะ.(มาก)..ไปนิดส์น่ะ”
“การเป็นนักแสดงหมายถึงว่า...ผมต้องการใครบางคนที่สามารถจะช่วยดึงผมให้กลับเข้าที่เข้าทางเพราะว่าบางครั้งผมอาจจะลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร”
“แล้วเธอคือใครกันแน่?”
ฮยอนจุงเหลียวมองรอบๆแล้วถามว่า “ ทำไมคุณถามแบบนี้ล่ะ? คุณเพิ่งว่าผมไปแหม่บๆว่าผมกำลังเริ่มพูดจาเลี่ยนเกินเหตุ?”
เธอยกมือขึ้นจับหน้าผากตัวเองก่อนตอบไปว่า “ใช่เลย ตอนนี้พวกเรากำลังเป็นจุดสนใจมากพออยู่แล้ว”
“เรามาคิดแบบนี้กันดีมั้ยฮะ”
“แบบไหนเหรอ?”
“การปรากฏตัวของพวกเราช่วยทำให้พวกเขารู้สึกเบื่อน้อยลง..เราเกิดมาเพื่อเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อย่างแท้จริง...”
เธอได้ฟังไอเดียของคุณสามีแล้วก็หลับตาลงพร้อมกับบอกว่า “ฝันไปเหอะ”
“ไม่เอาน่า เรามาคิดแบบบวกๆกันดีกว่าน่ะ”
หญิงสาวยิ้มฝืนยิ้มก่อนตอบไปว่า “จ้า คิดบวก...”
“เดี๋ยวผมไปถ่ายอีก 2 เซ็ตก็จะเสร็จแล้วล่ะ คุณจะรอผมได้มั้ยฮะ?”
“โอเคจ้ะ”
30 นาทีต่อมา คู่ผักกาดหอมกับพี่ผู้จัดการกำลังเตรียมตัวเดินทางออกจากสตูดิโอ
“มันมืดแล้วอ่ะ เราไปหาอะไรกินกันดีกว่าฮะ” ฮยอนจุงเอ่ยปาก
แต่พี่ผู้จัดการรีบขัดคอทันทีว่า “ตอนนี้พวกเราต้องเตรียมตัวเดินทางไปนิวคาลิโดเนีย นายต้องกลับไปจัดกระเป๋าน่ะ”
“เราต้องไปกันตอนกี่โมงฮะ?”
“พวกเราต้องไปไฟลท์ตอน 4 ทุ่มครึ่งน่ะ”
“คืนนี้เลยหรือฮะ?”
“ใช่แล้ว”
“ทำไมถึงกระทันหันอย่างนี้ล่ะฮะ..? “ เขาเริ่มโวยเล็กๆพร้อมกันหันไปมองหน้าฮวางโบ
“นายก็รู้นี่นาว่าธุรกิจวงการนี้มันเป็นยังไง”
“...แต่ว่าผมเพิ่งกลับมาจากมาเก๊าเมื่อวานเองนะฮะ”
“ที่จริงตารางงานของนายที่มาเก๊ามันจบไปตั้งแต่ 4 วันที่แล้วน่ะ แต่นายกลับมาช้าเองเพราะว่าดันวิ่งหนีไปจากกองถ่าย...”
“จะเป็นไปได้มั้ยฮะที่ผมจะไปที่โน่นช้าซักนิดนึง?”
“ช้ากว่าซักเท่าไหร่เหรอ? วันนึง? พวกเราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกเพราะว่ามันจะไม่มีไฟลท์บินไปที่นั่นอีก 3 วันเลยนะ และนายไม่สามารถจะไปถึงช้าขนาดนั้นได้ ผู้กำกับเขาต้องการให้นายไปถึงที่โน่นพร้อมกันพรุ่งนี้”
ฮยอนจุงชำเลืองมองเธอด้วยสายตาที่ดูกังวล...
เธอเห็นท่าทางคุณสามีแล้วรีบพูดยิ้มๆว่า “เธอไปเถอะ”
“.....................” ...
“ไปเถอะนะ ยังไงเธอก็ต้องไปที่นั้นอยู่ดีนั่นแหละ...แล้วทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นล่ะ?”
“ก็ได้ฮะ” ว่าแล้วเขาก็หันไปถามพี่ผู้จัดการ “ ผมต้องไปถึงสนามบินกี่โมงฮะพี่?” “อย่างช้าที่สุดต้องไปให้ถึงก่อน สามทุ่มครึ่ง นายจะได้ไปเช็คอินทัน”
“ถ้างั้น...ผมจะถึงที่นั่นภายใน 4 ทุ่มแล้วกันฮะ”
“นี่นาย นายต้องไปถึงสนามบินภายใน 3 ทุ่มสิ”
“พี่ก็เช็คอินแทนผมไปก่อนสิฮะ พี่ก็ทำอย่างงี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ”
“นี่นาย คิดจะทำอะไรอีกแล้วฮึ...?”
“ผมไม่มีเวลาที่จะทำอะไรเลยนะฮะ ผมจะกลับบ้านแล้วก็เก็บของลงกระเป๋า แล้วจะไปเจอพี่ที่สนามบิน”
“ถ้างั้นชั้นจะพานายไปส่งที่บ้านพักเอง”
“ไม่ต้องฮะ เดี๋ยวบูอินจะเป็นคนไปส่งผมที่นั่นเองฮะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง”
ฮวางโบทำหน้างงไม่รับมุข “อะไรนะ? ชั้นบอกเธอตอนไหนเหรอว่าจะขับรถไปส่งเธอน่ะ?”
“แล้ว...คุณจะไม่ไปหรือฮะ..?”
“...เธอก็น่าจะถามชั้นก่อนสิ”
“ทำไมต้องถามให้มันยุ่งยากด้วยฮะ ในเมื่อคำตอบมันก็เห็นชัดๆอยู่แล้วน่ะ? เร็วเข้าฮะ ผมไม่มีเวลาแล้วล่ะ ไปกันเหอะ”
ภายในรถของฮวางโบ
“ชั้นเดาว่าจากนี้ไปชั้นคงจะไม่ค่อยได้เจอหน้าเธอแล้วใช่มั้ย?”
“ผมได้ยินมาว่าเราจะถ่ายทำกันที่โน่นแค่อาทิตย์เดียวฮะ เวลาหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็วจะตาย”
“โอเคจ้ะ”
“คุณบินไปหาผมแบบคราวก่อนไม่ได้หรือฮะ?”
“ก็เธอเพิ่งบอกเองนี่นาว่าไปแค่อาทิตย์เดียว? และเวลามันก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็วจะตาย”
“อีกอย่างชั้นไม่สามารถจะลาพักได้อีกแล้วล่ะ..”
“ผมรู้ฮะ”
หญิงสาวมองฮยอนจุงแล้วพูดปลอบว่า....”อย่าเศร้าไปนักเลยนะ”
“คุณรู้รึเปล่าว่า ผมทำมินิโฮมเพจส่วนตัวแล้วอ่ะ”
“หา?”
“ในที่สุดผมก็เข้าไปอยู่ในโลกของ Cyworld”
หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาแล้วถามว่า “เธอต้องใช้เวลาแล้วก็ความพยายามอย่างมากในการดูแลปรับปรุงโฮมเพจของเธอ...แล้วมันจะไม่ลำบากสำหรับเธอเหรอ?”
“มันแค่ชั่วคราวเท่านั้นฮะ”
“ชั่วคราว? ทำไมล่ะ?”
“เพราะว่าผมมีรูปบางรูปที่ต้องการแสดงไว้ในโฮมเพจ”
“..รูปอะไรเหรอ?”
“ตอนนี้มันยังอยู่ในแฟ้มข้อมูลส่วนตัวอยู่ฮะ...แต่ในไม่ช้าผมจะทำให้มันเป็นข้อมูลสาธารณะแน่นอน”
“...รูปอะไรเหรอ บอกชั้นหน่อยซิ?”
“ก็..รูปที่เราถ่ายที่มาเก๊าไงฮะ”
“รูปไหนกัน...?”
“ก็รูปแต่งงานของเราไงฮะ”
“.....................”
“.....................”
“ผมขอโทษนะฮะ”
“ขอโทษชั้นเรื่องอะไรเหรอ?”
“ก็มันเป็นงานแต่งงานที่ต๊อกต๋อยมากๆ...ผมเคยบอกคุณว่าจะจับคุณแต่งตัวในชุดเจ้าสาวที่สวยน่ารักกว่านี้เมื่อเราจัดงานแต่งงานกันต่อหน้าสาธารณชน...แต่พวกเราไม่มีเวลาที่จะทำแบบนั้นแล้ว...”
“.....................”
“ผมคิดตึกตรองอยู่นานว่าอะไรคือวีธีที่ดีที่สุด...”
“.....................”
“พวกเราจะทำให้เกิดข่าวฉาว ไม่ว่าเราจะทำอย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าไหนๆเราก็ต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว...ดังนั้นการพูดความจริงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ผมรู้ว่ามันดูไม่ซื่อสัตย์จริงใจที่เราแอบแต่งงานกันลับๆในทีแรก...แต่ว่ามันเป็นวิธีที่ที่ดีที่สุดที่เราทำได้ในตอนนั้น...แต่สำหรับตอนนี้ ผมคิดว่ามันไม่มีเหตุผลที่จะต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอีกต่อไป...นับวันพวกเขาก็ไปขุดเอารูปแปลกๆของพวกเรามา แล้วก็เอาเรื่องของเราไปเขียนข่าวเม้าท์กันแหลกอยู่แล้ว...”
“.....................”
“คุณโอเคมั้ยฮะ ที่จะประกาศมันออกไปน่ะ?”
“.....................” ...
“จริงๆนะฮะ?”
“รอไปอีกนิดไม่ได้เหรอ”
“ทำไมล่ะฮะ ช้าเร็วก็ต้องบอกเหมือนกัน?”
“วิ้ว ชั้นคิดว่าชั้นจะต้องไปคุยเรื่องนี้กับคุณพ่อชั้นก่อนน่ะ..ถ้าขืนชั้นไม่ทำล่ะก็...ชั้นอาจจะไม่มีลมหายใจอยู่บนโลกนี้แล้วก่อนที่เธอจะกลับมาแน่นอน”
“อุ๊ปส์ พ่อตาของผม!!” <ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย กับลูกสาวยังแค่นี้แล้วกับผม บรื้อสสส ไม่อยากจะคิด>
“ชั้นจะไม่กังวลล่วงหน้าว่าท่านจะตำหนิตัวเองที่ไม่สั่งสอนลูกสาวให้ทำตัวอย่างเหมาะสม..แต่ชั้นรู้ว่าท่านจะต้องโกรธมากในเรื่องที่เราแต่งงานกันโดยไม่ได้บอกกล่าวท่าน...ชั้นจะต้องบอกเรื่องนี้กับท่านด้วยตัวเอง...ถ้าชั้นไม่ทำ..” เธอหยุดชะงักไม่พูดต่อได้แต่หลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นมา <ไม่อยากจะคิดเลย>
ฮยอนจุงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกแหยงๆเมื่อได้ยินและเห็นท่าทางของเธอ
“ขอเวลาให้ชั้นซํก 2-3 วันน่ะ”
“วิ้ว”<คุณจะรอดมั้ยฮะเนี่ย อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ รอผมกลับมาก่อน>
“เฮ้อ..มันไม่ใช่ว่าท่านไม่ชอบเธอหรอกนะ...แต่ว่าเรื่องนี้มันเป็นคนละเรื่องเดียวกันเลยน่ะ”
“.....................”
“น่ะ ช่วยรอไปอีกซัก 2-3 วันแล้วกัน...?”
“ได้เลยฮะ..ตามนั้น...” <ผมจะได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจอาจถูกฟันหัวแบะก็ได้>
“โอเคจ้ะ”
“เอ่อ..เอาไว้พวกเราไปพบคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยกันหลังจากที่ผมกลับมาจากนิวคาลิโดเนียดีมั้ยฮะ”
“อะไรนะ?”
“ถึงแม้ชื่อเสียงของพวกเราจะมีความสำคัญ แต่ผมก็ไม่สามารถจะทำให้พ่อแม่ของคุณรู้สึกเสียใจ...ผมรอได้ฮะเรื่องที่จะประกาศเรื่องแต่งงานน่ะ...ดังนั้นเราควรไปพบพวกท่านด้วยกัน หลังจากที่ผมกลับมาแล้ว ดีมั๊ยฮะ.”
“.....................”
“หืมม ว่าไงฮะ?”
“คุณพ่อของชั้นดุไม่ใชเล่นเลยน่ะ”
“เฮ้ อย่าขู่ให้ผมกลัวสิฮะ ไม่งั้นผมอาจจะไม่กลับมาที่นี่อีกน่ะ”
ฮวางโบหันขวับไปมองเขาด้วยสายตาเพชรฆาต “เธอว่าไงน่ะ? “ <ถ้าทำอย่างนั้นล่ะก็ เธอตายแน่>
“หุหุ...^^ “ เขาหัวเราะชอบใจที่ยั่วเธอได้สำเร็จ
ติดตามอ่านคู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ ตอนที่ 105 ต่อไป
Create Date : 29 กันยายน 2553 |
Last Update : 29 กันยายน 2553 14:06:16 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1042 Pageviews. |
|
|
|
โดย: noyhnasangchu2010 IP: 125.26.6.250 วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:21:07:42 น. |
|
|
|
โดย: มินมิน IP: 125.25.25.26 วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:11:39:30 น. |
|
|
|
โดย: joy&yoo IP: 222.123.114.36 วันที่: 30 กันยายน 2553 เวลา:22:53:11 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
พอมาอ่านฟิค ค่อยหายเหนื่อย มีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง
ขอบคุณ ยายมากๆ เป็นกำลังใจให้ สู้ต่อไปนะจะ