ตอนที่ 77 ~ เขาอาจจะเป็นผู้ชายที่ไร้อารมณ์ที่สุดในเกาหลีก็ได้น่ะ
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
****ตั้งแต่ตอนที่ 77 จะไม่เหมือนในรายการแล้วน่ะค่ะ ดังนั้น โปรดอย่าสับสน********
วันจันทร์ที่ร้านซาลอนเสริมความงามแห่งหนึ่ง ฮยอนจุงกำลังนั่งให้สไตล์ลิสต์ตกแต่งผมของเขาอยู่ ระหว่างนั้นสายตาก็เหลือบไปมองเห็นขวดยาทาเล็บสีต่างๆวางอยู่ที่หน้ากระจก เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบขวดยาทาเล็บแบบใสขึ้นมาดู
สไตล์ลิสต์เห็นเข้าจึงถามว่า “อยากจะลองทาดูบ้างมั้ยค่ะ?”
ฮยอนจุงมองหน้าเธอที่กระจกแล้วถามว่า “ ของพวกนี้มันทายังไงเหรอฮะ?”
เธอถามเขากลับไปว่า “คุณอยากจะรู้วิธีการทำเล็บหรือค่ะ?”
ฮยอนจุงพยักหน้า....
“สำหรับฮวางบูอินหรือค่ะ?
ฮยอนจุงไม่พูดอะไรได้แต่อมยิ้ม.^^
ช่วงกลางคืนของวันเดียวกัน ฮยอนจุงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับฮวางโบ
“เมื่อคืนวานผมพูดกับพวกเขาไปแล้วฮะ”
”เธอบอกไปว่าไงเหรอ?”
“ผมบอกว่าพวกเราไปที่จอนจูด้วยกัน....”
“.....................”
“และ..ผมกำลังคิดถึงเรื่องการประกาศให้สาธารณชนรับรู้...”
“แล้วผลตอบรับเป็นไงบ้าง?”
“พวกเมมเบอร์...อยากจะให้ผมรอไปก่อน...”
“ใช่จ้ะ...น่าจะรอไปอีกสักพักน่ะ”
“คุณลุงร.ป.ภ.คนนั้น...ผมเดาว่าเขาคงจะไม่ใช่คนประเภทขาเม้าท์...ขอบคุณพระเจ้า”
“.................”
“เพราะว่าผมไม่เห็นมีฟ้าถล่มลงมาใส่เรา...นี่ก็แปลว่าเรารอดตัวได้หวุดหวิดอีกแล้วใช่มั้ยฮะ...?”
“ที่จริงแล้ว.. “ฮวางโบเริ่มเอ่ยปาก
“หืมม ว่าไงหรือฮะ?”
****************************************************************************************************** ตัดตอนที่ฮวางโบเล่าให้เขาฟังเรื่องที่เธอโทรไปที่สำนักงานร.ป.ภ.ของมหาวิทยาลัย
เมื่อได้ยินที่เธอเล่า ฮยอนจุงจึงถามขึ้นมาว่า “ทำไมคุณถึงทำอย่างนั้นล่ะฮะ? เรื่องมันอาจจะแย่ยิ่งกว่าเดิมก็ได้น่ะฮะ!”
“ชั้นคิดว่ามันขึ้นอยู่กับเวลาอย่างเดียวเท่านั้นจริงๆ...”
“................”
ฮวางโบเริ่มอธิบาย “ในตอนแรกชั้นก็อยากจะแค่ลองทดสอบปฏิกริยาของเขาดู แต่แล้วชั้นก็อ้อนวอนขอร้อง และอธิบายให้เขาฟังถึงสถานการณ์ของพวกเราอย่างไม่ปิดบัง...ชั้นบอกเขาไปว่าความสัมพันธ์ของเราจะค่อยๆกลายเป็นที่รับรู้ของคนทั่วไป...แต่พวกเรายังต้องการเวลามากกว่านี้...ชั้นให้สัญญากับเขาว่า ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างเราเป็นไปด้วยดี พวกเราจะแวะไปเยี่ยมเยียนที่บ้านเพื่อแสดงความขอบคุณเขาอย่างเหมาะสม...”
ฮยอนจุงหัวเราะคิก “ แล้ว...เขาตอบคุณว่ายังไงเหรอฮะ?”
ฮวางโบหัวเราะออกมาก่อนตอบว่า “เขาบอกชั้นว่า..เมื่อพวกเรามีลูกด้วยกันแล้ว ค่อยแวะมาเยี่ยมเขาที่บ้าน แต่ต้องหลังจากที่พวกเราแวะไปที่บ้านของคุณยายที่หมู่บ้านบูแรมิแล้วน่ะ...”
ฮยอนจุงสะดุ้งโหยง “ อะไรน่ะฮะ? ที่แท้เขาก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของพวกเราเหรอเนี่ย?”
ฮวางโบรีบตอบ “หุหุ! เขาบอกว่าเขากำลังเชียร์คู่ของเราอยู่...ถ้าชั้นรู้น่ะ..ชั้นคงจะแจกลายเซ็นต์ให้เขาไปตั้งแต่ตอนที่เราเจอกันที่จอนจูน่ะ”
ฮยอนจุงยิ้มอย่างพอใจ “เห็นมั้ยฮะ...? ผมรู้ว่าต้องมีคนบางกลุ่มที่รู้สีกยินดีและมีความสุขไปกับพวกเราด้วย!”
“ใช่จ้ะ...ชั้นรู้สึก...ขอบคุณมากๆเลย...”
เข้าตรู่ของวันอังคาร ซึ่งเป็นวันถ่ายทำรายการ WGM คู่ผักกาดหอมกำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยกันในบ้าน...
ฮวางโบพูดขึ้นมาว่า “วันนี้พวกเราจะไปสวนสนุกกันเหรอ?”
“ใช่ฮะ”
“แล้วมันจะเช้าเกินไปรึเปล่าถ้าออกไปตั้งแต่ตอนนี้น่ะ?”
“ตอนนี้เลยเหรอ? ผมคิดว่ามันคงยังไม่เปิดหรอกฮะ...!”
“งั้น...เราจะทำอะไรกันดีล่ะกับช่วงที่เรานั่งรอเวลากันอยู่นี่?”
ฮยอนจุงยิ้มกว้างก่อนจะบอกเธอว่า “รอแป๊บน่ะฮะ”
ฮยอนจุงเดินเข้าไปในห้องนอน จากนั้นก็มีเสียงดังขลุกขลักก่อนที่เขาจะเดินกลับออกมาที่ห้องนั่งเล่นโดยที่ถือตะกร้าใบเล็กติดมือมาด้วย
“นั่นอะไรน่ะ?”
ฮยอนจุงนั่งลงข้างหน้าเธอ “ผมมีบางอย่างที่ผมเคยสัญญากับคุณเอาไว้ในคราวที่แล้วไงฮะ...”
ฮวางโบก้มลงมองในตะกร้าแล้วหัวเราะออกมา “ นี่มัน..หุหุ! นี่เธอจะทำให้ชั้นจริงๆน่ะเหรอ?”
ฮยอนจุงยิ้มอย่างจริงใจ “ ใช่ฮะ”..
ย้อนกลับไปตอนทัวร์มด ที่บ้านพักชายทะเลที่เกาะอันมยอนโด หลังจากที่คู่ผักกาดผลัดกันนวดจนเสร็จเรียบร้อย สองคนก็กลับมานั่งที่โซฟาด้วยท่าทางอึดอัดตามสไตล์ ระหว่างนั้นฮยอนจุงก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนเล็บเท้าของฮวางโบ
ฮยอนจุงก้มลงไปมองใกล้ๆ “ โอ๊ะ?”
ฮวางโบรู้สึกประหม่าพยายามขยับเท้าหลบให้พ้นสายตาของเขา “ นี่เธอ อย่าไปมองมันสิ...”
ฮยอนจุงไม่สนใจที่เธอพูด ถือวิสาสะเอามือจับเท้าเธอให้อยู่นิ่งๆ แล้วบอกว่า “ เดี๋ยวสิฮะ! รูปพวกนี้”
เธอรีบตอบอย่างอายๆไปว่า “เล็บที่ชั้นเพนท์เอาไว้..มันนานเกินไปแล้ว บางแห่งสีมันก็เลยลอกออกมาน่ะ...”
“พวกมันดูเหมือนรูปที่วาดเอาไว้เลยน่ะฮะ”...
“ไม่ใช่หรอก สีมันลอกน่ะจ้ะ...ชั้นรู้สึกอายเหมือนกันที่ปล่อยให้เป็นแบบนี้....เธออย่าไปมองมันเลยน่ะ”
ฮยอนจุงยังยังคงจ้องที่เล็บเธออย่างพินิจพิเคราะห์
“ที่จริงชั้นควรจะไปที่ร้านให้เขาทำใหม่ได้แล้ว...แต่ยังไม่มีเวลาเลยน่ะ”
“จริงเหรอฮะ? งั้นคราวหน้า...ผมจะทำเล็บแล้วก็เรื่องอื่นๆให้คุณก็แล้วกัน”
ฮวางโบเซอร์ไพร์สสุดๆที่เขาเสนอจะทำให้เอง “ พูดจริงหรือ?”
“จริงสิฮะ”
กลับมา ณ ปัจจุบัน
ฮวางโบถามด้วยความแปลกใจว่า “เธอจะทำให้ชั้นจริงๆหรือเนี่ย?”
“ใช่ฮะ นี่ผมลงทุนซื้อของพวกนี้มาเองเลยน่ะฮะ”
“จริงอ่ะ นี่เธอไม่ได้แกล้งพูดตลกอยู่ใช่มั้ย?”
“จริงสิฮะ ผมยังไปเข้าคอร์สพิเศษวิธีการทำเล็บมาจากเจ้าของซาลอนร้านประจำของผมด้วยน่ะ”
“หุหุ! โอ๊ย เธอนี่ ปกติเธอก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว...และนี่ยังไปเข้าคอร์สเรียนทำเล็บ...”
“แหม...ก็เพราะว่าบูอินเป็นคนที่มีค่าสำหรับผมนี่ฮะ...”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.. พระเจ้า เธอกำลังจะฆ่าชั้น...ด้วยการพูดอะไรที่มันเลี่ยนๆแบบนั้นออกมาน่ะ...”
“คุณพร้อมรึยังฮะ ที่จะก้าวเข้ามาสู่โลกของศิลปินเพ้นท์เล็บตัวพ่อที่ชื่อ”คิมฮยอนจุง” ?”
“หุหุ! จ้า ชั้นกำลังรอคอยและคาดหวังเป็นอย่างมากเลยนาะ!”
หลังจากที่เขาเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นหมาดๆมาห่อมือของฮวางโบเอาไว้สักครู่หนึ่ง ฮยอนจุงก็เริ่มนวดที่มือของเธอเบาๆ
“ว้าว นี่มันเหมือนกับการทำเล็บระดับโปรฯเลยนะเนี่ย...”
“เราทำแบบสไตล์ยุโรปฮะ” แล้วก็แกล้งพูดแบบสำเนียงคนไทย “ เราไม่รับเงินวอน ขอเป็นเงินยูโรเท่านั้นฮะ”
“หุหุ! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า. “ เธออดขำสำเนียงภาษาไทยของเขาไม่ได้
ในขณะที่ฮวางโบแอบชำเลืองมองพวกทีมงานถ่ายทำที่อยู่รอบๆด้วยความกังวล ฮยอนจุงกำลังตั้งอกตั้งใจทาเล็บมือและเล็บเท้าของเธอด้วยยาทาเล็บสีขาว ระหว่างนั้นเท้าของเธอกระตุกเป็นระยะๆเพราะรู้สึกจั๊กจี้ หลังจากที่เขาก็ทาเล็บให้เธอสำเร็จเรียบร้อย ฮยอนจุงก็นั่งอมยิ้มดูผลงานตัวเองด้วยความพึงพอใจ
“โอเคฮะ เตรียมตัวสำหรับฃ๊อตเด็ด!”
“นี่ยังมีต่ออีกเหรอ?”
“แน่นอนฮะ “ ตอบเสร็จเขาก็เอามือจับเท้าฮวางโบไว้แน่น
เธอรู้สึกประหม่ารีบถามว่า “ นี่เธอกำลังจะทำอะไรน่ะ?”
“อยู่นิ่งๆน่ะฮะ นี่มันคือไฮไลท์ของงานเลย!”
“เธอคิดจะทำอะไรของเธอน่ะ?”
“เดี๋ยวคุณก็เห็นเองล่ะฮะ ตอนนี้อย่าทำให้ผมวอกแว่กเพราะว่าผมต้องทุ่มเทสมาธิทั้งหมดเพื่องานนี้โดยเฉพาะ!.
ฮวางโบขมวดคิ้ว “นี่เธอ จริงๆเล้ย”
“ผมแค่จะเพนท์มันลงบนเล็บหัวแม่เท้าคุณเท่านั้นฮะ อยู่นิ่งๆนะ”
ฮวางโบทำอะไรไม่ถูกได้แต่ก้มศีรษะลงเพื่อซ่อนใบหน้าที่เริ่มเป็นสีแดงระเรื่อของเธอ...
ส่วนหลังจากฮยอนจุงใช้เวลาพักใหญ่วุ่นวายอยู่กับการใช้แปรงทาเล็บอันจิ๋ววาดอะไรบางอย่างลงบนเล็บ ในที่สุดก็พูดขึ้นมาว่า “เสร็จแล้วฮะ! ห้ามคุณลบมันออกด้วยน่ะ!”
ฮวางโบก้มลงมองเล็บหัวแม่เท้าของตัวเองด้วยท่าทางกังวล “เธอทำอะไรเอาไว้น่ะ?”
ฮยอนจุงยิ้มโดยไม่ตอบอะไร...
เธอก้มลงไปมองใกล้ๆอีกครั้งแล้วถามว่า “นี่มันอะไรน่ะ?”
สิ่งที่เขาเพนท์ลงไปก็คืออักษรย่อคำว่า “HJ’s”
“มันคือตราประทับเพื่อแสดงถึงอาณาเขตของผม! เพื่อแสดงว่าคุณคือสมบัติของคิมฮยอนจุงไงฮะ!”
เธอถึงกับอึ้งแล้วร้องออกมา “โอ้ว พระเจ้า นี่เธอ แล้วชั้นจะออกไปข้างนอกแบบนี้ได้ยังไง!”
“นั่นคือเหตุผลที่ผมถึงเพ้นท์ให้คุณแค่เล็บหัวแม่เท้าไงฮะ มันจะได้ไม่ดูสะดุดตา จนเป็นที่น่าสงสัยเกินไป”
“โอ เธอนี่มันเหลือเชื่อจริงๆเลยน่ะ!”
“อย่าได้คิดที่จะลบมันออกเชียวนะฮะ! ถ้าขืนคุณทำล่ะก็ ผมจะเพนท์ที่เล็บมือของคุณแทน!”
ฮวางโบบ่นพึมพำว่า ”ก็ได้”...แต่ตากลับดูเป็นประกายแวววาว ก่อนจะถามเขาว่า “ เธออยากให้ชั้นเพนท์เล็บให้เธอบ้างมั้ยน่ะ?”
“หา คุณว่าอะไรน่ะฮะ?”
“ไหนๆเธอก็จ่ายเงินซื้อของพวกนี้มาแล้ว มันน่าเสียดายออกนะที่ปล่อยให้เหลือทิ้งน่ะ ชั้นจะเพนท์ให้เธอด้วยแล้วกัน!”
เขาตอบเธอด้วยท่าทางระมัดระวังตัว “ไม่ต้องหรอกฮะ”
เธอยิ้มแล้วพูดยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่เป็นไรหรอกน่า มานี่สิ ชั้นจะเพนท์ให้ครบทุกเล็บเลย “
ฮยอนจุงรีบเอามือแอบไว้ข้างหลังพร้อมกับปฏิเสธเสียงแข็งว่า “ไม่ฮะ! เล็บของผมแบบนี้มันโอแล้ว”
ฮวางโบพยายามกลั้นหัวเราะแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้เขา “มานี่ เร็วๆเข้าสิ ชั้นจะทำให้”
“คุณกำลังจะทำอะไรหรือฮะ? “ เขาถามเธอด้วยแววตาที่ดูหวาดกลัว ถอยหลังครูดๆจนไปชนเก้าอี้ยาวและล้มลงไปนอนยาวอยู่บนนั้น...
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”ฮวางโบขำกับท่าทางของเขา
ในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือของฮยอนจุงก็ดังขึ้น เขาจึงรีบลุกขึ้นมาเพื่อไปรับสาย
“ฮัลโหล..”.
หลังจากคุยโทรศัพท์ไปได้ 2-3 ประโยค เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองพีดีแล้วถามว่า
“พวกเรายังมีเวลาอีกนานเท่าไหร่ฮะก่อนที่จะต้องเดินทางไปที่สวนสนุก?”
พีดีงงแต่ก็ตอบไปว่า “ เราน่าจะออกไปซักประมาณเที่ยงน่ะ”
“โอเคฮะ” เขาพูดบอกกับคนที่ปลายสายว่า “อืมม พวกนายแวะมาได้”
ฮวางโบได้ยินเลยถามไปว่า “ใครจะมาเหรอ?”
“คยูจงกับฮยองจุนฮะ”
ฮวางโบทำตาโตด้วยความแปลกใจ “ ทำไมล่ะ?”
เขาตอบอย่างเฉยเมยว่า “ไม่รู้เหมือนกันฮะ”
ฮวางโบรีบเดินไปที่ห้องครัว “ชั้นไปดูหน่อยดีกว่าว่ามีอาหารอะไรให้พวกเขาทานได้บ้าง”
20 นาทีต่อมา จุนเบบี้กับคยูจงก็มาถึงบ้านของคู่ผักกาดหอม ฮยอนจุงเดินไปเปิดประตูรับ 2 หนุ่ม
จุนเบบี้มองดูรอบๆห้อง แล้วพูดว่า “บ้านใหม่ที่พี่ย้ายมา หน้าตาเป็นอย่างนี้เองเหรอ?”
คยูจงว่า “ที่นี่มัน...ดูเล็กกว่าที่เก่าที่พวกเราเคยไปน่ะ...”
ระหว่างนั้นฮวางโบก็เดินมาจากห้องครัวเพื่อกล่าวทักท้าย”น้องเขย สวัสดีจ้ะ”
จุนเบบี้ยิ้มกว้างแล้วรีบตอบไปว่า “หวัดดีฮะ พี่สะใภ้”
ส่วนคยูจงทักตอบเธอแบบอายๆว่า “สวัสดีฮะ”
“ยินดีต้อนรับจ้ะ พวกเธอน่าจะมาเยี่ยมเราให้เร็วกว่านี้ สักพักใหญ่แล้วใช่มั้ยที่กิจกรรมโปรโมทที่ญี่ปุ่นของพวกเธอจบไปแล้วน่ะ...”
คยูจงเหลียวไปมองหน้าฮยอนจุงก่อนจะตอบว่า “พวกเราก็อยากแวะมาหาพี่เหมือนกันฮะ”
จุนเบบี้เสริมทันทีว่า “ แต่พี่ฮยอนจุงเขาไม่ยอมบอกที่อยู่พวกเราเลยอ่ะ”
ฮยอนจุงได้ยินก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ว่าแต่ วันนี้พวกนายมาที่นี่กันทำไมน่ะ?”
“อะไรน่ะฮะ? “คยูจงว่า
“ทำไมพวกนายถึงมาที่นี่กันแต่เช้าขนาดนี้ได้?” ฮยอนจุงถามน้ำเสียงตึงเครียด
ฮวางโบเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่เขาแล้วพูดปรามๆว่า “ นี่ ทำไมเธอถึงใจร้ายกับน้องๆแบบนี้ล่ะ นี่พวกเขามาเยี่ยมเราน่ะ เขามาเยี่ยมยังทำเสียงดุใส่พวกเขาอีก...?”
จุนเบบี้รีบตอบไปว่า “พวกเราก็แค่...อยากจะมาดูบ้านใหม่ของพี่กัน...”
“อะไรน่ะ?” ฮยอนจุงถามเหมือนไม่เชื่อที่ได้ยิน
คยูจงรีบแก้ตัวว่า “ไม่ใช่ฮะ...ที่จริงเราอยากจะแวะมาทักทาย พี่สะใภ้”
ฮยอนจุงเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจังมากขึ้น”พี่สะใภ้งั้นเหรอ?”
ฮวางโบพยายามจะช่วยแก้สถานการณ์เลยรีบพูดขึ้นมาว่า “ทำไมพวกเธอไม่ไปนั่งกันที่โซฟากันก่อนล่ะ...อืมม แล้วนี่ทานอาหารเช้ากันมารึยัง?”
จุนเบบี้ชำเลืองมองลีดเดอร์หน่อยๆก่อนตอบว่า “ยังเลยฮะ”
คยูจงว่า “พวกเราตรงมาที่นี่ทันทีหลังจากตื่นนอนเลยฮะ.” หันมองหน้าลีดเดอร์ก่อนถามฮวางโบว่า “ พี่สะใภ้พอจะมีอะไรที่ง่ายๆให้พวกเราทานกันบ้างมั้ยฮะ?”
ลีดเดอร์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วหันมาพูดกับเธอว่า “นี่เรามีอาหารอะไรเหลือๆอยู่บ้างมั้ยฮะ? คุณช่วยให้พวกเขากินๆเข้าไปแล้วจะได้กลับไปซะที”
ฮวางโบรู้สึกช็อคกับท่าทางและคำพูดของเขา “เธอเป็นอะไรไปน่ะ?”
คยูจงได้แต่นั่งนิ่ง...
จุนเบบี้ว่า “ผมเดาว่าพี่เขาคงไม่ปลื้มเท่าไหร่นักที่เห็นหน้าพวกเรา”
ฮวางโบถามอย่างงงๆว่า “ทำไมล่ะ?”
คยูจงทำหน้าเศร้าโดยไม่พูดอะไรออกมา...
ฮยอนจุงเหลือบตาลงมองพื้นก่อนจะพูดว่า “พวกนายกินเสร็จก็รีบกลับบ้านไปเลยน่ะ...ที่มากันที่นี่ก็เพราะอยากมากินข้าวเช้ากันไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่ฮะ” คยูจงรีบปฏิเสธ
“งั้นพวกนายมาทำไมกันเหรอ? วันนี้พวกเรายุ่งมากนะ อีกเดี๋ยวก็ต้องไปที่ยองอินกันแล้วน่ะ”
จุนเบบี้ได้ยินก็รีบถามอย่างตื่นเต้นว่า “พวกพี่ไปที่ยองอินกัน หมู่บ้านวัฒนธรรม ว่าแต่ไปกันทำไมฮะ?...” แต่แล้วก็โพล่งขึ้นมาว่า “หา! หรือว่า จะแต่งงานแบบตามพิธีโบราณของเกาหลี? “
คยูจงได้ยินก็รีบตีหลังเพื่อจุนเบบี้เพื่อเตือนสติ...
ฮยอนจุงว่า “ ไม่ใช่หมู่บ้านวัฒนธรรมหรอก พวกเรากำลังจะไปที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์กันน่ะ.”
จุนเบบี้ยังซักต่อไปว่า “เอเวอร์แลนด์? ไปเดทกันหรือฮะ?”
ฮยอนจุงพยายามซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ก่อนตอบหน้าตายๆว่า “ใช่แล้วล่ะ”
ระหว่างที่จุนเบบี้ชวนลีดเดอร์คุยอยู่นั้น คยูจงก็ค่อยๆลุกขึ้นจากโซฟาแล้วย่องไปที่ห้องครัวอย่างเงียบๆ
จุนเบบี้ชำเลืองมองคยูจงก่อนจะกลับมามองลีดเดอร์แล้วพูดต่อทันทีว่า “โห มันคงต้องสนุกมากแน่ๆเลย...แล้วนี่พี่จะไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกาด้วยรึเปล่าฮะ?”
เขาตอบอย่างชิลๆว่า “แน่นอนอยู่แล้ว นายจะไปที่นั่นทำไม ถ้าไม่ไปเล่นรถไฟเหาะน่ะ...?”
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ในห้องครัว
ฮวางโบหันกลับมาเมื่อเห็นคยูจงเดินเข้ามาในครัวแล้วบอกเขาว่า “ชั้นกำลังทำแซนด์วิดจวนจะเสร็จแล้วล่ะจ้ะ รออีกแป๊บนึงน่ะ”
คยูจงยืนยิ้มก่อนตอบว่า “ไม่เป็นไรฮะ” จากนั้นก็สอดอะไรบางอย่างเข้าไปในตู้วางของในครัวแล้วกระซิบบอกเธอเบาๆว่า “พี่อวางโบ กรุณาอ่าน...ตอนที่อยู่คนเดียวน่ะฮะ...
ฮวางโบรู้สึกสับสน หันไปมองหน้าคยูจงอย่างงงๆ เหมือนอยากจะถามว่า <นี่มันอะไรกันเหรอ? >
แต่คยูจงไม่ยอมสบตาเธอแล้วรีบเดินกลับออกมาจากห้องครัวทันที...
เธอเปิดตู้ก็พบว่ามีจดหมายฉบับนึงอยู่ในนั้น จึงรีบหยิบขึ้นมาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง
ฮยอนจุงเพิ่งสังเกตเห็นว่าคยูจงอยู่แถวห้องครัวก็รีบโวยทันทีว่า “นาย ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ?”
คยูจงตื่นเต้นเพราะกลัวถูกจับได้ตอบตะกุกตะกักไปว่า “ผมเหรอฮะ? ..เอ่อ..มาหา..น้ำดื่มเย็นๆน่ะฮะ...”
“ไม่ต้องไปวุ่นวายกวนใจบูอินเลยนะ เดี๋ยวชั้นจะจัดการให้เอง..”พูดจบก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัวทันที
“โอเคฮะ” แล้วก็รีบเดินกลับมานั่งลงข้างจุนเบบี้
จุนเบบี้ขยับปากถามโดยไม่มีเสียงเป็นคำพูดว่า <นายให้เธอไปแล้วรึยัง?...>
คยูจงไม่ตอบแต่ชำเลืองมองไปที่ครัวแล้วพยักหน้าหงึกๆ
ไม่นานนักฮวางโบก็ยกถาดที่มีแซนด์วิชวางอยู่เต็มมาวางตรงหน้าสองหนุ่ม
“ทานกันหน่อยน่ะ จะได้ไม่หิว” ฮวางโบเอ่ยปากเรียกน้องเขย
จุนเบบี้ยิ้มจนปากแทบฉีกก่อนตอบว่า “ขอบคุณมากฮะ พี่สะใภ้”
คยูจงยิ้มก่อนพูดชมว่า “ดูน่ากินมากเลยฮะ”
ลีดเดอร์รีบทวงเธอทันทีว่า “แล้วไหนของผมล่ะฮะ?”
“อ้าว แล้วที่ชั้นทำมามันไม่พอหรอกเหรอ? เธอแบ่งกับพวกเขาก็ได้นี่นา”
เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ “ทำไมถึงให้ผมกินอาหารแบบเดียวกับพวกเขาล่ะฮะ? ของผมต้องพิเศษไม่เหมือนคนอื่นสิฮะ?”
ฮวางโบตกตะลึงเมื่อได้ยิน “อะไรน่ะ?”
“ใครที่สำคัญกว่ากันฮะ? สามีของคุณหรือว่า เจ้าพวกนี้?”
เธอพูดไม่ออกได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม...
หลังจากวีนเธอเสร็จเขาก็หันมาเล่นงานน้องๆต่อ “ พวกนายกินแซนด์วิดเสร็จ ก็รีบไสหัวกลับไปได้แล้วน่ะ”
ฮวางโบรู้สึกประหลาดใจสุดๆถามเขาอีกครั้งว่า “ทำไมเธอถึงได้พูดจาใจร้ายกับพวกน้องๆขนาดนี้ล่ะ?”
เขาตอบแบบไม่ใส่ใจว่า “การถ่ายทำของเรามันจะล่าช้าไปก็เพราะเจ้าพวกนี้นะฮะ...ตอนนี้เราก็ยุ่งกันมากพอแล้ว”
ฮวางโบกระซิบถามคยูจงว่า “มันมีอะไรเกิดขึ้นกันแน่?”
จุนเบบี้รีบตอบว่า “พี่เขาก็แค่หัวเสียเพราะว่าพวกเราไม่ยอมให้เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการน่ะฮะ”
“จริงเหรอ? แล้วมันคืออะไรล่ะ?”
ฮยอนจุงนั่งทำหน้าตายไม่พูดอะไร...
จุนเบบี้พูดต่อไปว่า “โอ๊ย บางทีพี่เขาอาจจะเป็นผู้ชายที่ไร้อารมณ์ที่สุดในเกาหลีก็ได้น่ะ”
ฮยอนจุงเหวี่ยงสายตามองจุนเบบี้อย่างขุ่นเคือง...
จุนเบบี้เห็นก็สะดุ้งกลัวจนตัวสั่น “อ๊ากซ ผมจะตายมั้ยเนี่ย”
ฮวางโบถามด้วยความสับสนว่า “ตกลงพวกเธอมีเรื่องอะไรกันแน่?”
โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 78 - เดทของเรา...หมดกัน..T_T
Create Date : 30 กรกฎาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 19:29:59 น. |
Counter : 1131 Pageviews. |
|
|
|