|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ไฮกุและบาโช
ตั้งใจจะอัพบล๊อคนี้มานาน แต่เนื้อหาค่อนข้างยาว ไม่มีเวลาพิมพ์เลยไม่ได้หยิบมาอัพสักที ช่วงปีใหม่มีเวลาเลยนั่งพิมพ์จนเสร็จ มาใช้เวลามากกว่าก็ตอนหารูปนี่แหละ ในหนังสือก็มีอยู่แต่ไม่ชัดเท่าไหร่ กว่าจะหารูปให้เข้ากับเรื่องจนครบก็ปาดเหงื่อไปหลายรอบ
บทความนี้อยู่ในหนังสือที่แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ รองศาสตราจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร ในเล่มรวบรวมผลงานของท่าน ทั้งงานวาด งานเขียนหลากหลาย และบทความดี ๆ เกี่ยวกับสถาปัตยกรรม รวมไปถึงบทความที่เอามาอัพด้วย ครูแสงเขียนถึงบทกวีไฮกุและท่านบาโชแบบลงลึกในรายละเอียด อ่านแล้วทำให้รู้ว่าท่านเข้าใจบทกวีไฮกุอย่างลึกซึ้งมาก สำนวนเขียนและแปลก็เพราะขนาด ใครอยากทำความรู้จักบทกวีไฮกุให้มากขึ้นก็ลองอ่านดู สำหรับเราแล้ว ยังไม่เคยเห็นใครอธิบายเรื่องบทกวีไฮกุได้ดีเท่าครูแสงเลยค่ะ
ไฮกุและบาโช
รูปปั้นบาโชที่วัดชูซอนจิ เมืองฮิราอิซุมิ จังหวัดอิวาเตะ ภาพจากเวบ alamy.com
ที่นครเกียวโต มีวัด ๆ หนึ่งชื่อ โตฟูโก-จิ (จิ = วัด) วัดนี้ตั้งสงบในบริเวณป่่าไม้อันร่มรื่นซึ่งสกัดกั้นความจอแจของเมืองออกไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อผ่านประตูทางเข้าซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ ๑๓ อันงดงามไปด้วยสนิมของเวลา เราก็จะเข้าสู่บริเวณภายในวัด มีเสียงธารน้ำจากภูเขาไหลระริน ดุจเสียงขลุ่ยไม่ไผ่ผิวเบา ๆ พื้นในร่มคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำและหญ้ามอส คล้ายกำมะหยี่สีเขียวอันมีชีวิต และที่นั่นเองมีหินสีเทาแท่งหนึ่งตั้งไว้ มีคำจารึกบทกวีไฮกุซึ่งขึ้นชื่อของบาโช กวีเอกแห่งศตวรรษที่ ๑๗ ซึ่งสลักลึกลงบนแผ่นศิลาว่าดังนี้
ฟูรูอิเกยา = สระโบราณ กาวาซุโทมิกูโม = กบกระโจนลงไป มิซุโนโอโต = เสียงของน้ำ
แผ่นหินที่สลักบทกวี
ภาพจากเวบ wikimedia.org
วัดโตฟูโก-จิ ภาพจาก expedia.ca
โคลงสั้น ๆ ดังโทรเลขบทนี้ ในความรู้สึกของคนไทยเรา ซึ่งคุ้นกับการสัมผัสย่อมแปลกหู ที่จริงแล้ว งานกวีนิพนธ์ไม่จำเป็นจะต้องอยู่กับกฎเกณฑ์ของการสัมผัสและเสียงสูงต่ำ สั้นยาวแบบดนตรีเสมอไป คำที่เหมาะเจาะ - สั้นกระทัดรัดแต่สมบูรณ์แบบในความหมายและภาพพจน์แล้วนั้น ย่อมเพียงพอและมีค่าไม่น้อย หรืออาจจะยิ่งกว่างานกวีนิพนธ์ที่อาศัยกฎเกณฑ์บังคับไว้เสียอีก เพราะเราจะเข้าถึงความหมายอันแท้จริงของกวีนิพนธ์ได้โดยตรงและเต็มที่ เราไม่ติดหรือหลงใหลกับเครื่องประดับภายนอก งานกวีนิพนธ์ของไทยมีไม่น้อย ซึ่งเมื่อปอกเปลือกประดับออกแล้ว แก่นข้างในยุ่ยและไม่มีค่าพอแก่การชื่นชมเลย
ไฮกุ ของ บาโช บทที่ยกมาข้างต้นนั้น ถ้าจะเรียบเรียงให้เป็นภาษาไทยที่พอจะเป็นรูปร่างตามที่เราถนัด ก็คงจะเป็นดังนี้
ที่สระน้ำโบราณ กบตัวน้อยกระโจนลงไป เสียงนำ้กระจาย จ๋อม
ลายมือของบาโชที่เขียนบทกวีนี้ ภาพจากเวบ haikutopics.blogspot.com
แปลตามกฎบังคับของ ไฮกุ ซึ่งมีเพียงกฎเดียวคือ บรรทัดแรกและบรรทัดสามมี ๕ พยางค์ บรรทัดกลาง ๗ พยางค์ (อดมีสัมผัสไว้บ้างมิได้ แต่ก็อาจจะลดความลึกซึ้งลงบ้าง การเล่นสัมผัสทำให้จินตนาการรัดตัว หรือมีระดับของจินตนาการด้อยลง)
ที่นี้ เรามาพิจารณาดูว่า ไฮกุ งดงามอย่างไร ลำพังสระเก่า ๆ แล้วกบตัวหนึ่งกระโจนลงไป เสียงน้ำแตกดังจ๋อม ปรากฎการณ์เช่นนี้ย่อมรู้เห็นกันอยู่ทุกคนและจะหาดูเมื่อไรก็ได้ แต่มาประทับใจกวี บาโช ได้อย่างไร ก่อนอื่นเราจะต้องพิจารณาถึงวิธีการแสพความงามของญี่ปุ่นกันก่อน เพราะเขามีวิธีเลือกเสพแตกต่างจากไทยเรา
ภาพจากเวบ pinterest.com
เมื่อไทยเห็นดอกไม้และปรารถนาและจัดดอกไม้ เราก็จะเด็ดดอกไม้เอาไม้กวาดเสียบ เอาขี้เลื่อยหรือทรายปั้นเป็นแกน แล้วเสียบดอกไม้ที่ดัดแปลงลงไป เราได้ไม้พุ่มที่มีลวดลายเหมือนภาพระบายสีเป็นลายต่าง ๆ เราทำลายความเป็นดอกไม้ แล้วสร้างก้อนปฏิมากรรมขึ้นมาก้อนหนึ่งซึ่งมีสีเป็นลวดลาย
การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นนั้น โลกเรียนและยกย่อง เพราะความเป็นดอกไม้มิได้ถูกริดรอน แต่ถูกสนับสนุนให้มีมากขึ้น นี่คือการเข้าใกล้กับธรรมชาติและพิจารณาธรรมชาติของญี่ปุ่นซึ่งแตกต่างกับเรา ไฮกุ คือบทกวีที่มีความกำหนดสำนึก อันได้จากการมองดูความละเอียดอ่อนของธรรมชาติทุกระดับและทุกมุม
ภาพจากเวบ pinterest.com
ประการที่สอง เมื่อเราสัมผัสธรรมชาติ เราสัมผัสและเลือกชื่นชมแต่ในแง่ที่ธรรมชาติให้ความสุขทางใจทางกายแก่เรา เมื่อเราพรรณนาแสงเดือน แสงแดด เราจะพรรณนาสีเงินสีทองอันอร่ามตา ดอกไม้ที่เราพรรณนามีกลิ่นหอม มีนามอันสอดคล้องกันและกัน เมื่อเราพูดถึงความเศร้า เราพรรณนาความเศร้าอยู่อย่างเดียว คือความโศกเศร้าที่จากกับคนรัก ความไม่สมหวังในรัก อกหัก (แล้วบางครั้งเลยโมโหสาปแช่งใครต่อใครวุ่นวายไปก็มี) คำพรรณนาทั้งหมดนี้ กวีเราวาดไว้จบสมบูรณ์สุดสิ้นและจบแบบปิดหน้าหนังสือกัน แต่ ไฮกุ มิิใช่เช่นนั้น มันไม่จบเมื่อสิ้นบรรทัดผู้อ่านเป็นผู้ต่อ และจะจบลงเมื่อไร อยู่ที่จินตนาการและปัญญาอารมณ์ของผู้อ่านแต่ละคนไป เช่นเดียวกับภาพเขียนของญี่ปุ่น อันปรากฎความเว้นว่างอยู่ในองค์ประกอบภาพ เพื่อให้จินตนาการของผู้ดู สร้างต่อ หรือเช่นเดียวกับท่า "นิ่งค้าง" ของละคร "โน๊ะ" ซึ่งทิ้งไว้ให้ผู้ดูละครต่อ "การเคลื่อนไหว" เอาเองในจินตนาการของตน เราจะเห็นว่า การชื่นชมศิลปะของไทยกับญี่ปุ่นแตกต่างกันในแง่สำคัญคือ การไม่เสร็จ (ของญี่ปุ่น) และ จบสิ้นเชิง (ของไทย)
ภาพจากเวบ miniaturejapaneseprints.com
ประการที่สาม ซึ่งไทยไม่มี คือการที่ญี่ปุ่นเห็นความไม่น่าชื่นชมเป็นของที่ชื่นชม ดังได้กล่าวแล้วในข้อที่สอง ไทยเราชอบดูแสงอร่ามของตะวัน แสงเงินสกาวของพระจันทร์ แต่ความว้าเหว่ ความทอดทิ้งเปล่าเปลี่ยว ความหนาวเหน็บ ความผุกร่อนของเวลา ความสลดรันทด ความเงียบสงัด เหล่านี้ เรามองข้าม ซึ่งญี่ปุ่นนิยมนักหนา สนิมที่กร่อนอันเป็นร่องรอยของเวลา ญี่ปุ่นเห็นว่าเป็นของที่มีค่าเท่า ๆ กับความโปนปูดของเนื้อไม้ซึ่งเวลาที่ล่วงไปชะล้างขัดถู ดังปรากฎในบ้านของชาวญี่ปุ่นเท่า ๆ กับไม้ทาสีทับ หรือพ่นมันวาบวับด้วยแลคเคอร์ของไทย ความชื่นชมในความงามตามแง่ของญี่ปุ่นคือ การยอมรับสภาพอันแท้จริงของธรรมชาติที่มีความเสื่อมเมื่อเจริญถึงขีดสุดแล้ว และแสดงความปรารถนาในความงามอันเป็นเนื้อแท้ นี่คือข้อแตกต่างกันสามประการของการเสพและสัมผัสความงามของเราและญี่ปุ่น
ชามสไตล์วาบิ ซาบิ ภาพจากเวบ madamemaven.blogspot.com
ภาพวาดฝีมือท่านบาโช ภาพจากเวบ alamy.com
ไฮกุ บรรทัดแรกของ บาโช นำเราไปที่สระโบราณเก่าแก่สระหนึ่ง บาโช สร้างจินตนาการให้แก่ผู้อ่านนึกถึงความหลัง, สนิมของเวลาที่ขึ้นจับอยู่กับสระเก่าแห่งนี้สนิมที่คนญี่ปุ่นรัก พร้อมกับสระเก่าโบราณ บาโช สร้างความสงัดเงียบขึ้นพร้อมกัน ไม่มีคำว่าเงียบในบรรทัดแรกของ ไฮกุ แต่เราสัมผัสความเงียบนั้นได้เพราะคำว่าโบราณนั้นเองสร้างขึ้นคู่กับตัวเอง เช่นเดียวกับเมื่อเราแวะไปเที่ยวเมืองโบราณหรือสัมผัสของเก่า หรืออ่านเรื่องอดีต เรารู้สึกถึงความสงัดของอดีตนั้น - อดีตที่ถอยออกไปจากเราและยืนสงบเงียบ
สระน้ำนั้นสะท้อนเงาสรรพสิ่งที่ล้อมรอบมันอยู่เป็นภาพที่สงัดและสมบูรณ์ ดุจกระจกแผ่นใหญ่ที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้บนโลกมนุษย์ จินตนาการและอารมณ์เริ่มเคลื่อนที่และไหวเมื่อมาถึงบรรทัดที่สอง คือกบกระโดดลงไปในสระน้ำ นี่เป็นพลังงานซึ่งเกิดอย่างทันที และบรรทัดที่สามของไฮกุ บทนี้ คือผลลัพธ์เสียงที่ทำลายความสงัด ภาพที่แตกกระจัดกระจายคุมกันไม่ติดเพราะละลอกที่เกิดจากกบกระโจนลงไป
ภาพจากเวบ gabrioladailyphoto.blogspot.com
การเปลี่ยนแปลงจากความสมบูรณ์มาสู่ความระส่ำระสาย และแล้วในจินตนาการอันสืบต่อไป - ภาพนั้นจะค่อย ๆ คืนไปสู่ความสมบูรณ์อีกครั้งเมื่อละลอกคลื่นในสระสงบลง
อารมณ์แบบนี้เป็นความรู้สึกเศร้าระคนสุข มีคำญี่ปุ่นที่ใช้เฉพาะอารมณ์นี้ คือ วาบิ และ ซาบิ อันหาคำไทยเทียบยังไม่ได้
การเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งนั้นมีทั้งความงาม และ เศร้า ความงามให้ความสุขเมื่อเราได้สัมผัส มันทำให้เกิดความปรารถนา เมื่อความปรารถนานั้นต้องสุดสิ้นลง เพราะการเปลี่ยนสภาวะลงสู่ความเสื่อมโทรมย่อมเกิดความรู้สึกตอนที่รันทดขึ้น ผู้อ่านทุกคนคงเคยได้รับรสสัมผัสของมันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับคนญี่ปุ่นซึ้งรสแบบนี้มากกว่าเรา เขาจึงจับรสนี้ได้ถนัดกว่า
ภาพจากเวบ style-files.com
บาโช ได้วางแนวการรจนา ไฮกุ ว่า ควรจะประกอบด้วยคุณสมบัติดังนี้คือ มี ซาบิ ชิโอริ โฮโซมิและความเบา (Lightness) และเทคนิคของการรจนา ไฮกุ บาโช ได้กล่าวว่า จะสำเร็จได้ผลก็โดยอาศัยความดลใจ (Inspiration) เยื่อใยหรือกลิ่นอาวรณ์ (Fragrance) การไหวรับ
บทบรรยายภาษาอังกฤษซึ่งนายมาโกโต อุยด้าได้เขียนไว้ในวารสาร สุนทรีย์ และศิลปวิจารณ์ ปี ๑๙๖๓* ได้ถอดคำภาษาอังกฤษไว้ดังที่เห็น แต่ความหมายของคำอังกฤษซึ่งนายอุยด้าเห็นว่า ตรงกับความหมายในภาษาญี่ปุ่นของตนนั้น หาทำให้เข้าใจได้ดีไม่ในภาษาไทย ฉะนั้นจึงจำต้องอธิบายขยายความกันต่อไป (*Ueda, Makoto. Basho and the Poetics of Hsiku. the Journal of Aesthetics and Art Criticism. Volume XXI Number. Spring 1963. p.423-431*)
บทความของข้าพเจ้าชิ้นนี้ได้รวบรวมและเรียบเรียงโดยอาศัยนายอุยด้าเป็นหลัก ไฮกุ ที่มีคำแปลเป็นอังกฤษนั้นนายอุยด้าถอดออกมา และมีฝรั่งอื่นแปลไว้มาประกอบบ้างเหมือนกัน
ภาพจากเวบ touchingstone.com
ซาบิ - ดังกล่าวไว้แต่ต้น เป็นคำที่แสดงความหมายของอารมณ์ความรู้สึกที่เศร้า อ้างว้าง เดียวดาย ไฮกุ ที่แสดงคุณสมบัติซาบิของ บาโช บทหนึ่งเขียนไว้ว่าดังนี้
My sorrowful soul Make it feel more lonesome You, a cuckoo.
(อุยด้าแปล) จิตที่เศร้าของข้า ยิ่งเปล่าเปลี่ยวหนักขึ้นไปอีก เพราะเจ้า, นกกาเหว่า
บาโช ทิ้งให้ผู้อ่านนึกถึงเสียงร้องของนกกาเหว่า เสียงร้องซึ่งคงจะแว่วมาในยามสงัด
สิ่งหนึ่งที่ บาโช ย้ำคือ การไม่เอาความรู้สึกหรืออารมณ์อันเกิดขึ้นเฉพาะตัวที่ผู้อื่นสัมผัสมิได้มาตีแผ่ ถ้ากวีต้องการแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกของตัว กวีควรจะทำให้ความเป็นเฉพาะตนให้ถ่ายทอดออกเป็นส่วนรวมได้ ดัง ไฮกุ ที่ยกมาข้างบนนี้ บาโช เห็นว่าความเศร้าของจิตเป็นของเฉพาะบุคคล และเพื่อจะให้ความรู้สึกเฉพาะตนเป็นของที่ผู้อื่นรับได้ ความเปลี่ยวเปล่าเป็นของที่ทุกคนร่วมรับได้นั่นเอง
ความรู้สึกส่วนตัวที่เก็บงำไว้มิโวยวายเอะอะจนออกหน้านี้ เป็นธรรมชาตินิสัยของคนญี่ปุ่นแต่เดิม ฉะนั้น ไทยเราอาจจะรู้สึกแปลกเพราะการพรรณนาของกวีไทยนั้น พรรณนาส่วนเฉพาะตัวของกวีและตีแผ่อย่างหมดเปลือก
ภาพจากเวบ touchingstone.com
อันนี้ก็เช่นเดียวกับการจบแบบเบ็ดเสร็จของไทย กับการจบแบบค้างของญี่ปุ่นที่กล่าวไว้แต่แรก คือเป็นมรรควิธีในการสัมผัสหรือแสดงอามณ์ที่แตกต่างกันของชนชาติ
เมื่อศิษย์รักของ บาโช ตายจาก บาโช มิได้รำพันครำ่ครวญถึงความเสียดายความเศร้าความรักที่มีต่อศิษย์ แต่ ไฮกุ ที่เขียนขึ้นเพื่อศิษย์รักผู้นี้มีดังนี้
In the autumn gust, Lies, sorrowful broken, A mulberry stick.
ลมฤดูใบไม้ร่วงกระโชก ลงมานอนหักอย่างสลด กิ่งของต้นหม่อน
ภาพจากเวบ wikipedia
เป็นที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งว่า ไฮกุ นี้แสดงเวลาของฤดูกาลเสมอ เวลานั้นจะหยั่งได้จากธรรมชาติโดยตรงหรือทางอ้อม เสียงจั๊กจั่นนั้นหมายถึงฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงมักกล่าวถึงธรรมชาติที่ร่วงโรยหรือใช้สัญญลักษณ์ของสี แดง หรือ นำ้ตาล บางทีเราอาจต้องพิจารณาละเอียดสักหน่อย เช่น ไฮกุ ที่ว่า
All Flowers are dead. Only the sorrow lies, with The grass seeds.
ดอกไม้ทั้งหลายตายไปสิ้น เหลือแต่ความเศร้า นอนอยู่กับเมล็ดหญ้า
ไฮกุ บทนี้แสดงเวลาฤดูหนาว เพราะดอกไม้ สัญญลักษณ์ของใบไม้นั้นตายหมด เมล็ดหญ้าร่วง คือเวลาที่พืชทั้งมวลได้ทิ้งพืชพันธุ์ลงหลับในความหนาวอันยาวนาน
ภาพจากเวบ pakpics.wordpress.com
ไฮกุ แสดงคุณสมบัติของซาบิที่ยอดเยี่ยมของ บาโช โดยแฝงแสดงใส่ปรากฏการณ์ของธรรมชาติ กล่าวว่า บาโช อีกบทหนึ่ง คือ
Spring is going- Birds weep, and the eyes of fish Are filled with tears.
ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะจาก นกร้องไห้และตาของปลา ก็เอ่อไปด้วยอสุชล
ไฮกุ บทนี้แสดงอารมณ์ซาบิของ บาโช โดยแฝงแสดงใส่ปรากฏการณ์ของธรรมชาติ กล่าวว่า บาโช ได้ออกเดินทางขึ้นไปทางเหนือของประเทศ และขณะที่่วัยชราได้เข้าครอบงำ บาโช
ภาพจากเวบ flickr.com
สังขารที่ออด ๆ แอด ๆ ทำให้เจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาด้วยความเรียบร้อยหรือไม่ ความกังวล ความว้าเหว่าของ บาโช นั้น บาโช มิได้ตีแผ่โดยตรงแต่อิงมาในการร้องไห้ของนกและปลา ซึ่งเป็นเรื่องตามธรรมชาติภายนอกที่ทุก ๆ คนร่วมรับรู้ได้ และเป็นข้อที่ควรสังเกตอีกอย่างหนึ่งว่า ความรู้สึกอันรุนแรงไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์จะไม่มีใน ไฮกุ ที่ดี ทั้งนี้เพราะเป็นธรรมชาตินิสัยแบบญี่ปุ่น (รสอันเผ็ดซาบซ่าของไทยแบบยำ ลาบ เป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นสัมผัสไม่ได้ แต่รสเนื้อดิบของไก่และปลาตามด้วยมัสตาร์ดเขียวพอฉุน ๆ จมูกเท่านั้น ญี่ปุ่่นถือเป็นรสสุดยอด)
ทางเดินขึ้นเหนือที่บาโชเคยฝากรอยเท้าไว้ ภาพจากเวบ bbc.com
โคลงของ บาโช บางบทไม่แสดงความรู้สึกของตนเองเลย ผู้อ่านจะสัมผัสความไพศาล ความสงัด ความมีพลังงานของธรรมชาติ ซึ่ง บาโช ได้ทำให้ตกเป็นผลึกดัง ไฮกุ บทนี้
Quietness - The cicada's voice Penetrates the rocks.
แสนสงัดเงียบ เสียงจั๊กจั่น แทรกเข้าไปในหิน
The rough sea - Far over Sado Isle, extends The Milky Way.
คลื่นกล้าลมจัดในทะเล โพ้นเกาะซาโดออกไป ทางช้างเผือก
บาโชและ Kawai Sora เพื่อนที่ร่วมเดินทางไปทางเหนือด้วยกัน
ภาพจากเวบ wikipedia
ภาพจากเวบ phototravels.net
ชิโอริ มีความหมายคล้ายคลึงกับซาบิ ซาบิจับความรู้สึกและอารมณ์ของธรรมชาติตอนเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง ชิโอริให้ความละม้ายกัน แต่ความรู้สึกที่เป็นชิโอรินั้น ไม่แน่วแน่และมีระดับเดียวในความหมายเช่นกันกับซาบิ บทกวีที่มีคุณสมบัติชิโอริ สามารถแปลความหมายของความรู้สึกหรืออารมณ์ได้หลายระดับ เมื่อบทกวีใดมีชิโอริ บทกวีนั้นมักจะไม่ "แข็ง" (Stiff) หรือ "ตรงไปตรงมา" (Straight forward) ดังเช่น ไฮกุ บทที่ว่า
The ten Dumplings Have become smaller, too The autumn wind.
ขนมปั้นสิบ ก็ถอยจำนวนลงด้วย ลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง
Ten Dumplings เป็นขนมที่ทำขายในชนบทแถบภูเขาภาคกลางของญี่ปุ่น ขายทีละสิบลูกจึงแปลศัพท์ไทยว่า ขนมปั้นสิบให้เข้าความคุ้นเคยแบบไทย แต่ขอให้เข้าใจว่าแตกต่างกันในทั้งรสชาติและกรรมวิธีทุกประการ
ไฮกุ บทนี้ พาผู้อ่านสู่ฤดูใบไม้ร่วง ลมที่กระโชกมาพาความหนาวแผ่มาด้วย ใบไม้ร่วงจากกิ่งทำเสียงเกรียวกราวอยู่บนพื้นดิน นักเดินทางก็ถอยจำนวนลง และชาวชนบทผู้ทำขนมขายเป็นอาชีพก็จำต้องทำขนมน้อยลงทุกขณะที่ฤดูใบไม้ร่วงสั้นลง และรายได้ก็หดตัวลงด้วยเช่นกัน
ภาพจากเวบ คุณSevenDaffodils
อารมณ์ที่เกิดขึ้นแก่ผู้สัมผัส ไฮกุ บทนี้ คืออารมณ์เศร้า แต่เป็นความเศร้าที่ตรงต่อชาวบ้านผู้ทำขนมขาย ซึ่งถ้าจะแปลแบบสัญญลักษณ์ ชาวบ้านเหล่านั้นคือสัญญลักษณ์ของมนุษย์ผู้มีชะตากรรม (หนาว - ขาดรายได้ เหนื่อยในการเลี้ยงชีพตน หรือความเศร้าต่อผู้สัญจรแต่เดียวดายในสภาพอากาศเช่นนั้น (คือ บาโช) หรือเศร้าต่อธรรมชาติและมนุษย์ที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาล ความเศร้า, ความรันทดใจที่เกิดขึ้นในกวีบทนี้มิได้แน่วแน่จำเพาะเจาะจงลงที่ผู้ใด นี่คือคุณสมบัติของชิโอริ เราอาจให้คำนิยามได้ว่า ซาบิ คือบรรยากาศอันไร้รูปที่ครอบคลุมความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายของธรรมชาติ ชิโอริ คือ อารมณ์ ที่หุ้มห่อความเศร้าของธรรมชาติ
ภาพจากบล๊อค คุณSevenDaffodils
โฮโซมิ ตามศัพท์ แปลว่า "ความบาง" "ความเพรียวระหง" โฮโซมิใช้แสดงความรู้สึกที่ผูกพันต่อหรือความมีเยื่อใยที่มีอยู่ในส่วนลึกของอารมณ์ที่เบาบาง
ไฮกุ ที่แสดงความมีโฮโซมิ ซึ่ง บาโช ยกมา คือ
I wonder whether Seabirds too are asleep On lake Yogo tonight.
ข้าสงสัยว่า นกทะเลจะหลับได้ไฉน ในทะเลสาบโยโก คืนนี้
ภาพจากเวบ designerfied.com
ตามประวัติเล่าว่า บาโชได้นอนค้างคืนในกระท่อมชาวประมงแห่งหนึ่งริมทะเลสาบโยโก คืนนั้นเป็นคืนที่หนาวจัด ยากแก่การจะหลับในเครื่องห่อหุ้มอันบางในความืดคืนนั้น เสียงหมู่นกทะเลได้ร้องแว่วมา บาโช นำตัวเองไปเปรียบกับนกทะเลเหล่านั้น และกวีบทนี้แสดงให้เห็นว่า บาโช รู้สึกหนาวไปกับนก ความมีอารมณ์ผูกพันต่อธรรมชาติ ในส่วนลึกอันบางละเอียดอ่อนเช่นนี้เป็นคุณสมบัติของโฮโซมิ
ศิษย์คนหนึ่งของ บาโช ได้แต่ง ไฮกุ ขึ้นบทหนึ่งว่า
The monkey's shriek Is hoarse, his teeth white Over the peak, the moon.
ลิงตะคอก เสียงแหบห้าว ฟันมันขาว เหนือยอดเขา พระจันทร์
ภาพจากเวบ simplyhaiku.com
บาโช วิจารณ์ว่า ไฮกุ บทนี้ตั้งใจจะ "กระตุก" (Shock) ผู้อ่านโดยจงใจเกินไป และผู้แต่งแยกตัวออกมาจาก "ลิง" บาโช แต่งขึ้นอีกบทหนึ่งว่า
A salted sea-bream, Showing its teeth, lies chilly At the fish shop.
ปลาดาพลาวเค็ม นอนยิงฟันหนาวสะท้าน ในร้านขายปลา
บาโช รู้สึกถึงความหนาวของปลาดาพลาวที่หนาวจนต้องอ้าปาก เห็นฟันเช่นเดียวกับที่ บาโช รู้สึกหนาวตามนกทะเลในทะเลสาปโยโกคืนนั้น ส่วน "ฟันมันขาว" ของลิงนั้น ทำให้ผู้อ่านเห็นภาพบรรยายของเขี้ยวลิง มิได้รู้สึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของลิง และทำให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกระวัง "เขี้ยวขาว" ขึ้นมา
ภาพจากเวบ dannarhitect.wordpress.com
ความเบา (Lightness) ตามความหมายของ บาโช ความเบานี้ คือความอิสระเสรีที่ง่าย ๆ ตรงไปตรงมาไม่ยอกย้อน หรือพอกพูนไปด้วยเครืองประดับเป็นสิ่งที่สะอาดไร้มารยา แบบการกระทำและความคิดของเด็กเล็ก ๆ คุณสมบัติแบบเด็กเล็ก ๆ เป็นคุณสมบัติที่ผู้ใหญ่ไม่อาจจะมีได้ เป็นของที่ไม่เสแสร้ง บริสุทธิ์ (ซึ่งคุณสมบัตินี้โลกตะวันตกเพิ่งค้นพบในศิลปของเด็กในศตวรรษนี้เอง) บาโช กล่าวว่า ไฮกุ ที่ดีควรจะเหมือนน้ำใสที่ไหลผ่านท้องน้ำทรายตื้น ๆ ไหลเร็วสะดวก ไม่อ้อยอิ่ง
ไฮกุ ที่ บาโช แต่งแสดงคุณสมบัติที่ว่านี้คือ
Under the trees Soup, fish salad, and all In cherry blossom
ใต้ต้นไม้ แกงจืด ผักปลา และสารพัน ในยามเชอรี่บานสะพรั่ง
แทนที่ บาโช จะพรรณนาความงามของเชอรี่เช่นที่ใคร ๆ เคยทำมา บาโช นำเรามาสู่เรื่องราวธรรมดาสามัญ คือ อาหาร เรื่องของคนเดินดินที่มานั่งกินอาหารใต้ต้นไม้เมื่อเชอรี่ออกดอกและร่วงลงมาสู่จานข้าว จานกับข้าวของชาวบ้านธรรมดา ๆ
ภาพจากเวบ muse-house.jp
อีกบทหนึ่งของ บาโช เขียนว่า
In the rain of June let us go and see the floating Nest of a little grebe.
ในสายฝนของเดือนมิถุนายน ไปกันเถอะเรา ไปหาดู รังนกเป็นผีที่ลอยในน้ำ
(grebe เป็นนกน้ำชนิดหนึ่ง ดำน้ำเก่ง นิ้วเท้าแตกต่างกับเป็ดน้ำ เมื่อไทยมีเป็นผีซึ่งจัดอยู่ในตระกูลนี้ จึงใช้ชื่อนี้แทน)
เราจะสัมผัสความเบาง่าย ตรงไปตรงมา ปราศจากการแสดงอารมณ์หรือความปรารถนาที่ซับซ้อนลึกซึ้ง เราคงจะรู้สึกได้ถึงความสนุกสนานแบบเด็ก ๆ ที่เราผ่านมา ตอนออกไปจับจิ้งหรีดในเวลาเช้ามืด แก้ผ้าอาบน้ำฝน เดินตามทุ่งหาไข่นก เหล่านี้เป็นความปรารถนา ความสุขที่ไม่มีมารยาอันเป็นคุณสมบัติของเด็กเล็ก ๆ โดยตรง ไฮกุ ที่มีคุณสมบัติแบบนี้ บาโช ยกย่องมาก
ภาพจากเวบ inkston.com
จินตนาการ (Inspiration) ตามความหมายของ บาโช จินตนาการที่จะใช้ได้ดีในการแต่ง ไฮกุ นั้น มิใช่จินตนาการที่ผ่านการไตร่ตรองหรือสะสมด้วยช่วงเวลาอันยาวนาน
บาโช หมายถึงจินตนาการที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และให้ใช้คุณสมบัติของจินตนาการแบบนั้น "ผู้รจนา ไฮกุ" บาโช กล่าวว่า "จะต้องเตรียมตัวไว้ด้วยการฝึกฝน และเมื่อตัวเองได้รับจินตนาการที่ "ผลุด" ขึ้นในฉับพลัน จะต้องจับการผลุดในชั่วขณะนั้นลงในการสร้าง ไฮกุ ของตน ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อ ไฮกุ ได้จบลงแล้ว จึงไม่ควรไปแตะต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป"
ภาพจากเวบ djbuddha.org
เทคนิคการใช้จินตนาการแบบฉับพลันนี้ เป็นเทคนิคที่พอจะเปรียบได้กับอาการฉับพลันในการบรรลุปัญญาของพุทธนิกายเซน ความฉับพลันที่บรรลุขั้นนี้ จะต้องผ่านการฝึกฝนอบรมตัวเองอยู่อย่างแน่วแน่ตลอดเวลา ความบรรลุที่บังเกิดขึ้นนี้ในแง่ของผู้ที่แสวงหาโลกุตรธรรม คือปัญญาอันขจัดความหลงผิด ในแง่ของผู้ที่ผลิตงานศิลปะ คือ ปัญญาที่มีพลังและความสมบูรณ์ (perfect) ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องไปเพิ่มเติมหรือตกแต่งประดับเข้าไว้อีกเลย
บาโช กล่าวว่า "ให้เด็กหรือคนหน้าใหม่แต่ง ไฮกุ แล้วเราจะพบสิ่งน่าสนใจบรรจุอยู่ในงานของเขา" บุคคลที่คล่องแคล่วชำนิชำนาญในการใช้ภาษาอาจสร้าง ไฮกุ ที่แสดงความไม่มีอะไรเลย ทั้งนี้เพราะความรู้แบบ แก่วัดเกินไป นั่นเองที่ทำลาย ไฮกุ
ความเยื่อใย, กลิ่นอาวรณ์ (Fragrance) โดยความหมาย บาโช หมายถึงหนึ่งในอารมณ์ของเรา ความอาวรณ์ที่ทำให้เราเสียดาย ไม่อยากจะพรากในเมื่อเวลาจากพรากมาถึง
ไฮกุบทนี้แสดงความเยื่อใย และอาวรณ์
How burdensome Are the innumerable names of spring flowers. A butterfly, slapped A wakes out of sleep.
ช่างหนักหนากระไร ที่จะจำนามดอกไม้ ของฤดูใบไม้ผลิ ผีเสื้อขยับปีก ตื่นขึ้นจากหลับ
ภาพจากเวบ gallery.pictopia.com
ในบรรทัดแรก บรรวยายถึงดอกไม้ทั้งหลายที่สะพรั่งทั่วไปในฤดูใบไม้ผลิ ความงดงามอันท่วมท้นนี้ ทำให้เราอยากจะชื่นชมให้สมอยากเต็มรัก โดยมิต้องพะวงถึงขื่อของมันว่าเป็นดอกอะไร แต่ว่าความรู้สึกที่ "ช่างหนักหนากระไร" ได้แฝงในอนุสติทำให้อดนึกอดห่วงไม่ได้ที่ชื่อดอกไม้ต่าง ๆ นั้น เรามิได้รู้ไปหมด เป็นความรำคาญใจที่รบกวนเราอยู่
ในบรรทัดต่อมา ผีเสื้อขยับปีก ตื่นจากหลับ ได้มาถ่ายความรบกวนใจที่มีอยู่ในจิตออกมาเป็นรูปทรงของธรรมชาติ การสืบต่อแบบนี้ บาโช จัดว่าเป็นกลิ่นอาวรณ์ (Fragrance)
ภาพจากเวบ kajiaso.com
การไหวรับ (Reverberation) คือการที่บทบาทสองอันได้ถ่ายความสะเทือนไหวรับกัน ในเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งเริ่มขึ้นก่อน และเป็นผลให้ฝ่ายที่สองสะเทือนรับต่อเหมือนวัตถุหนึ่งถูกกระทำ ผลความสะเทือนจากวัตถุแรกส่งไปอันที่สองให้สะเทือนขึ้นด้วย
ไฮกุ ที่ใช้เทคนิคนี้คือ
In the blue sky Dimly hang the moon As the day breaks. The first frost has fallen At Hira, by the autumn lake.
บนฟ้าสีน้ำเงิน จันทร์ค้างฟ้า แลเห็นสลัวเมื่อรุ่งสาง ที่ฮิระ หยาดหนาวแรกร่วงลงสู่ ทะเลสาปในฤดูใบไม้ร่วง
ภาพจากเวบ pinterest.com
ในบาทแรก ได้สร้างอารมณ์อันสงัดและงามเงียบของจันทร์ค้างฟ้าเวลาเช้าตรู่ ฟ้าสีนำ้เงินทำให้จินตนาการของผู้อ่านเข้าไปสู่ความไพศาลของจักรวาล
ในบาทที่สองได้รับความสะเทือนจากบาทแรกซึ่งในที่นี้คือ ทะเลสาปซึ่งได้สะท้อนความไพศาลและสีน้ำเงินของฟ้าเบื้องบนลงมา ทะเลสาปในฤดูใบไม้ร่วงทำให้เกิดการสัมพันธ์ ในความรู้สึกเย็นของฤดู และเวลาเช้าในบทแรก
ภาพจากเวบ flickr.com
การสะเทือนรับ ทำหน้าที่ละม้ายกลิ่นอันอาวรณ์ (Fragrance) แต่กลิ่นอันอาวรณ์นี้มักใช้กับอารมณ์หรือบรรยากาศที่อยู่ในลักษณะอ่อนละมุนแบบสตรีเพศ ส่วนการสะเทือนรับ (Reverberation) นั้นมักใช้ในบรรยากาศที่แสดงความสง่า ความไพศาล ความกำยำแบบบุรุษเพศอันมีพลัง
การสะท้อนรับ (Reflection) ไฮกุบทหนึ่งว่าไว้ดังนี้
Men are cutting the brushwood By a grassy path on the peak In the dense pinewood. On the left side mountain Is the Temple of Kaya.
คนกำลังตัดไม้ บนทางหญ้าที่ยอดเขา ในป่าสนทึบ บนเขาด้านซ้าย คือวิหารแห่งคายา
บาโช วิจารณ์ว่า ไฮกุ บทนี้ขาดความสะท้อนรับ คนตัดฟืนแสดงกำลังเสียง และ การทำลาย แต่ในป่าสนอันสงัดเงียบซึ่งเน้นความสงบและสันติ ด้วยวิหารแห่งคายามิได้สะท้อนรับบาทแรกเลย บาโช แนะว่าควรจะแก้ไขใหม่ดังนี้
คนกำลังตัดไม้ บนทางหญ้าที่ยอดเขา ลูกเห็บตก บนเขาด้านซ้าย คือ วิหารแห่งคายา
"ลูกเห็บตก" แสดงพลังงานที่กร้าวและทารุณอันสอดคล้องกับการกระทำของคนตัดไม้ การสะท้อนรับ กลิ่นอาวรณ์และการไหวรับมีความคล้ายคลึงกัน เป็นแต่ว่าใช้ในจุดประสงค์ต่างกัน การสะท้อนรับนั้นใช้ได้ทุกวาระประสงค์ ซึ่งผิดกับกล่ินอาวรณ์สำหรับความเบาบางแบบหญิง และการไหวรับสำหรับความกร้าวกล้าแบบชาย
ภาพจากเวบ tanyamcd.wordpress.com
ในการแต่ง ไฮกุ กวีย่อมใช้เทคนิคต่าง ๆ ดังกล่าวปะปนกันไป และเป็นที่น่าสังเกตว่า กวี ไฮกุ มักจะวางสิ่งสองสิ่งไว้ด้วยกัน และสองสิ่งนั้นแตกต่างกันหรือไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ผู้อ่านสร้างอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้เชื่อมประสานความแตกต่างกันไว้ได้อย่างงดงาม และผลจากการเชื่อมประสานของ ไฮกุ ที่สำเร็จบริบูรณ์นั้นยังได้สร้างความรู้สึกของสี เสียง และกลิ่น (Smell) ให้แก่อารมณ์ของผู้อ่านขึ้นอีกด้วย ตัวอย่างของ ไฮกุ ที่ป้อนสีและเสียงให้แก่อารมณ์ คือ
As evening has come On the sea, wild ducks cry Is faintly white.
ในเวลาสายัณห์ บนท้องทะเล เสียงร้องของนกเป็ดน้ำ เป็นสีขาวมัว
Quietness - Near a painting on the wall Chirps a grasshopper.
ยามสงัด ใกล้กับภาพเขียนบนกำแพง ตั๊กแตนกรีดเสียง
ภาพจากเวบ lava360.com
บท ไฮกุ ต่อไปนี้แสดงการผสมผสานของการเห็นและอุณหภูมิ
Onions lie Washed all in white How chilly it is.
หัวหอม ถูกล้างเสียขาว คงหนาวกระไร
The autumn wind Whiter than the rocks of The Rock Mountain.
ลมแห่งฤดูใบไม้ร่วง ขาวยิ่งกว่าศิลา ของภูผา คีรีขัณฑ์
ภาพจากเวบ eletragesi.blogspot.com
ไฮกุ ที่แสดงการผสมผสานระหว่างการเห็นและกลิ่น คือ
Scent of orchids - It perfumes the wings of a butterfly.
กลิ่นกล้วยไม้ อบร่ำบนปีก ของผีเสื้อ
Their fragrance Is whiter than peach blossoms The daffodils.
กลิ่นเจ้า ขาวกว่า ดอกโมโม๊ะ ดอกซุยเซ๊ง
(โมโม๊ะ = พืช ซุยเซ๊ง = แดฟโฟดิล จะแปลเป็นไทยก็เขิน เพราะเราไม่มีทั้งสองดอกเลยทับศัพท์ญี่ปุ่น)
ภาพจากเวบ pixdaus.com
การเชื่อมระหว่างเสียงและกลิ่นคือ ไฮกุ บทนี้
The wind fragrantly Sounds, as if to adore The pines and the cedars.
เสียงของลมหอม เหมือนจะพนอ หมู่ต้นสน
The rippling waves They beat, with the fragrance Of the breeze.
คลื่นละลอกน้อย ทะยอยเข้าจังหวะ กับกลิ่นของสายลม
จะเห็นว่าบท ไฮกุ ที่ยกมานี้มีหลายบทที่ยากแก่จินตนาการของไทยเรา เช่นการเปรียบเทียบหรือเห็นสิ่งที่สัมผัสมิได้กับสิ่งที่สัมผัสได้ อันได้แก่เสียงร้องนกเป็ดน้ำเทียบเป็นสีขาวมัว หรือสายลมที่มีกลิ่นของมันโดยเฉพาะ หรือลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงมีสีขาว
ภาพจากเวบ fa.hku.hk
ความสัมผัสอันประณีตที่มีต่อธรรมชาติแบบนี้เป็นสิ่งที่จะต้องฝึกฝน เช่นเดียวกับชาวญี่ปุ่นฝึกการสัมผัสกลิ่นเผาไหม้ของไม้ชนิดต่าง ๆ (ทำกันแบบจริงจังไม่ใช่ดมเล่น ๆ) และการถ่ายสิ่งที่สัมผัสได้นี้ มิใช่ว่าภาษาที่กวีกำหนดจะเป็นจริงตามแบบภาษาของวิทยาศาสตร์ ภาษาที่กำหนดโดยกวีแทนอัตราต่าง ๆ ที่สัมผัสมิได้นี้ กวีใช้เพื่อจินตนาการและอารมณ์ของผู้อ่าน ไฮกุ ให้บรรเจิดและกว้างขึ้นเท่านั้น และกวีคนเดียวนั้นเอง ในคราวหน้าอาจเห็นหรือสัมผัสลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงเป็นสีนำ้ตาล หรือดำก็ได้
มี ไฮกุ ที่รจนาโดย บาโช ที่งดงามอีกหลายบทซึ่งสร้างอารมณ์และบรรยากาศขึ้น จากการวางความแตกต่างของวัสดุและเนื้อหาไว้คู่กัน ดังเช่น
Quietly, Quietly Yellow flowers fall to the ground - The sound of rapids.
เงียบ ดอกไม้เหลืองร่วงลงดิน เสียงนำ้ระรินในธาร
The chrysanthemum smell - In the old town of Nara Many ancient Buddhas.
กลิ่นดอกเบญจมาศ ในเมืองนาราเก่า รูปพระพุทธเจ้าแน่นเมือง
A cuckoo's cry - The moon beams are leaking Through the thick bamboos.
เสียงนกกาเหว่า แสงเดือนทะลุรั่ว ผ่านป่าไผ่อันหนาทึบ
ภาพจากเวบ home.flash.net
เราจะพบว่า ดอกไม้เหลืองกับเสียงของนำ้ในลำธาร กลิ่นดอกเบญจมาศกับรูปพระพุทธองค์ เสียงนกกาเหว่ากับแสงเดือน ทั้งหมดนี้มิได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยในธรรมชาติวิสัย แต่เมื่ออ่านจบแล้วเรารู้สึกขึ้นมาทันทีว่า ได้มีสิ่ง ๆ หนึ่งมาเชื่อมประสานสิ่งทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ถ้าแยกดูก็จะพบว่าเพราะการใช้ความสะท้อน ความมีเยื่อใยหรือกลิ่นอาวรณ์ ความไหวรับ ซึ่งเป็นเทคนิคของกวี ไฮกุ
บทกวีไฮกุ ของญี่ปุ่นเป็นบทกวีที่พิจารณาชีวิตและธรรมชาติทุกแง่ทุกมุมและระดับ ปรากฏการณ์ของธรรมชาติบางแง่บางระดับ เรายากที่จะพบในบทกวีที่เรียกว่า ชั้นสูง เช่น อีกาขุดหาหอย - พริกแดง - ขี้นก - ขี้ม้า - ดอกไม้ริมถนน - หวีสับผม - เตียงนอน ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ในสายตาของกวีผู้ที่รักคำสัมผัสและเสียงสั้นยาวแบบดนตรี เห็นเป็นของที่ไม่เหมาะในการจะมาพรรณนาถ้าเรานึกถึง "หางหงษ์ผจงจิตรงอนดุจกวักนภาลัย" เท่านั้นที่เป็นของงามอันควรยกมาพรรณนา
ภาพจากเวบ graphicshunt.com
แบบที่ ไฮกุ เห็นงามก็คงเป็นสิ่งที่ยากจะชื่นชม แต่เราไม่ควรลืมว่า ของพื้น ๆ ธรรมดาสามัญของชาวบ้านนี่แหละที่เราคุ้นเคยและมีความจริงใจต่อเรา และความง่ายตรงไปตรงมาอันเป็นคุณสมบัติวิเศษยิ่งนั้น เป็นสิ่งที่เราควรจะแสวงหามาเพื่อเสพความสุนทรในศิลปะก็เช่นกัน ความสุนทรที่เป็นผลผลิตที่กะรทัดรัดไม่ฟูมฟายในรูปทรง และกรรมวิธีย่อมควรแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง
ลองหัดแต่ง ไฮกุ เล่นดูบ้าง ท่านคงจะเข้าใจและชื่นชม ไฮกุ ได้ดีขึ้น
ไฮกุ บทส่งท้าย แต่งโดยฝรั่งผู้รักและเข้าใจวิธีการเสพความสุนทรแบบญี่ปุ่นที่เขาว่าไว้ดังนี้
อิซ่า โซร่าโน ฮาเต้ มาเดะ เคน ทซุ กิ โน ฟูเน (โดแนลด์ คีน)
มาเถอะ ไปด้วยกัน เที่ยวไปให้ถึงสุดขอบฟ้า มีพระจันทร์ เป็นเรือ
ข้าพเจ้าแปลตามกฎบังคับของไฮกุ ๕ - ๗ - ๕
ส. รัตกสิกร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ภาพจากเวบ seattlejapanesegarden.org
ข้อมูลจากหนังสือ "แสงอรุณ ๒"
เวบที่รวบรวมบทกวีของบาโช poemhunter.com เวบนี้ป้าวีหามาฝาก ขอบคุณป้าวีมากนะคะ haikupoetshut.com
บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่ ไลน์จากคุณฮัทโทริ
Free TextEditor
Create Date : 14 มกราคม 2553 |
|
83 comments |
Last Update : 6 มกราคม 2565 15:54:46 น. |
Counter : 21274 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 มกราคม 2553 23:17:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 15 มกราคม 2553 7:20:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dingtech 15 มกราคม 2553 15:58:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: นายกสมาคมพ่อค้าจิ้งเหลนเพื่อการส่งออก..แห่งประเทศไทย.. (เป็ดสวรรค์ ) 15 มกราคม 2553 17:00:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 15 มกราคม 2553 20:34:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิตรรัก 15 มกราคม 2553 23:19:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 16 มกราคม 2553 10:04:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 16 มกราคม 2553 22:44:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 16 มกราคม 2553 23:16:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 17 มกราคม 2553 8:11:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: KOok_k 17 มกราคม 2553 22:34:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแว่น 18 มกราคม 2553 7:52:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: เตือนใจ เจริญพงษ์ (justice0009 ) 18 มกราคม 2553 12:10:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: จอมมารแห่งหุบเขาคนโฉด (zoomzero ) 18 มกราคม 2553 14:03:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงเปา จ้า (หนุมานเฒ่า ) 19 มกราคม 2553 3:18:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: มินทิวา 19 มกราคม 2553 11:11:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 20 มกราคม 2553 10:25:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 20 มกราคม 2553 10:53:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 20 มกราคม 2553 11:54:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 20 มกราคม 2553 12:53:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: angy_11 20 มกราคม 2553 13:54:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 21 มกราคม 2553 8:03:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dingtech 21 มกราคม 2553 12:13:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 22 มกราคม 2553 19:53:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 27 มกราคม 2553 21:48:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 3 กุมภาพันธ์ 2553 14:34:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 203.144.144.164 14 กุมภาพันธ์ 2553 9:59:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 14 กุมภาพันธ์ 2553 23:38:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 203.144.144.164 19 กุมภาพันธ์ 2553 22:50:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 203.144.144.164 20 กุมภาพันธ์ 2553 23:35:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 22 กุมภาพันธ์ 2553 12:16:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 203.144.144.164 25 กุมภาพันธ์ 2553 0:52:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 25 กุมภาพันธ์ 2553 10:13:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 58.9.63.137 26 กุมภาพันธ์ 2553 21:39:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 58.9.75.215 28 กุมภาพันธ์ 2553 23:33:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 1 มีนาคม 2553 21:31:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: อภิรักษ์ เส็งไธสง IP: 113.53.109.181 3 กุมภาพันธ์ 2554 17:51:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 9 กุมภาพันธ์ 2554 14:48:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 58.9.106.189 23 กุมภาพันธ์ 2554 21:51:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 24 กุมภาพันธ์ 2554 20:50:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: Gopz 16 กันยายน 2554 6:32:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 17 กันยายน 2554 11:55:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: แมวโหด 15 มกราคม 2555 1:17:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 15 มกราคม 2555 19:11:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: groooovy IP: 101.51.22.94 15 ธันวาคม 2555 8:12:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 16 ธันวาคม 2555 19:39:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: nori IP: 110.49.241.24 7 มกราคม 2556 19:22:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 8 มกราคม 2556 19:15:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 110.49.242.73 27 กุมภาพันธ์ 2556 15:58:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku (haiku ) 5 มีนาคม 2556 14:09:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 58.11.162.191 8 มีนาคม 2556 0:05:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: haiku 9 มีนาคม 2556 21:52:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ugg australia fiocchi IP: 192.99.14.36 15 ตุลาคม 2558 1:28:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: moncler outlet IP: 192.99.14.34 15 ตุลาคม 2558 12:49:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: occhiali da vista e sole ray ban IP: 192.99.14.36 15 ตุลาคม 2558 17:06:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: peuterey iron bw 987 IP: 192.99.14.36 19 ตุลาคม 2558 5:21:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: stivali ugg a roma IP: 192.99.14.34 19 ตุลาคม 2558 16:27:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: moncler forte dei marmi youtube IP: 192.99.14.36 20 ตุลาคม 2558 20:25:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 171.5.243.143 3 มิถุนายน 2562 19:31:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 171.5.243.143 3 มิถุนายน 2562 19:33:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 171.5.243.143 3 มิถุนายน 2562 19:38:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 171.5.243.143 3 มิถุนายน 2562 19:39:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yotaka IP: 49.230.232.138 14 กุมภาพันธ์ 2565 23:30:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณที่นั่งพิมพ์และหารูปมาให้ยลกัน
หน้านี้ต้องขอเข้ามาป้วนเปี้ยนบ่อยๆเสียแล้วค่ะ
อยากอ่านรายละเอียดต่างๆให้มากกว่านี้อีกค่ะ
.
.
ความจริงแล้วตั้งใจจะแวะมาถามคุณไฮกุว่า
ดูเรื่อง City Hall หรือยังคะ
สนุกค่ะ พระเอกก็เท่ห์และมีเสน่ห์มาก
หลงรักเพิ่มอีก 1 คนแล้ว