Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
17 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
แกงแพนง 9 สูตร



พะแนงไก่

ส่วนผสม
สันในไก่ 250 กรัม
หัวกะทิ 100 ml.
หางกะทิ 200 ml.
น้ำพริกแกงพะแนง 50 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
ใบมะกรูด 2 ใบ
ใบโหระพา 10 กรัม

วิธีทำ
1. เคี่ยวหัวกะทิพอแตกมัน ใส่พริกแกงพะแนงลงผัดจนหอม
ค่อยๆเติมส่วนหางกะทิลงผัดจนกะทิแตกมัน โดยใช้ไฟอ่อน
2. ใส่เนื้อไก่ลงผัด จนพอสุกปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผัดต่อจนไก่สุก
3. ตักใส่จานเสริ์ฟ น้ำแกงขลุกขลิก แต่งหน้าด้วยใบโหระพา ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าแดงหั่นซอยเป็นเส้น

ลักษณะที่ดี
น้ำคลุกขลิก เนื้อนุ่มไม่แข็งกระด้าง มีมันจากกะทิลอยเล็กน้อย

Tip
อาจมีกะทิเคี่ยวกับแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย จนข้นราดหน้าตอนแต่งหน้าสำหรับเสริ์ฟ
เพื่อเพิ่มสีสันของการตกแต่งมากขึ้น
เวลาเคี่ยวหัวกะทิ ต้องเคี่ยวไฟอ่อน ใจเย็นๆ ไม่ต้องคนบ่อยจนเกินไป ระวังกะทิไหม้ด้วย
ถ้าใช้กะทิที่คั้นเองจะมีความมันมากกว่ากะทิกล่อง



พะแนงเนื้อ



ส่วนผสม
เนื้อหั่นตามขวางเป็นชิ้นบาง ๆ 200 กรัม
หางกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดหั่นฝอย พอประมาณ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย พอประมาณ

วิธีทำ
1.นำหม้อตั้งไฟใส่หางกะทิ และเนื้อเคี่ยวจนกระทั่งเนื้อเปื่อย
2.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันพอร้อนใส่เครื่องแกงพอหอม ใส่หัวกะทิผัดจนกระทั่งแตกมัน
3.ใส่เนื้อที่เคี่ยวเปื่อยแล้วลงไปผัดจนกระทั่งเข้ากันและหอม
ใส่น้ำที่เคี่ยวเนื้อลงไป พอเดือดปรุงรสอีกครั้งด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ
4.ใส่ถั่วลิสงคั่วคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยโรย หน้าด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย และพริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย



พะแนงไก่หรือหมู

ส่วนผสม
เนื้อไก่หรือเนื้อหมู 300 กรัม
มะพร้างขูด 250 กรัม
ใบมะกรูดหั่นฝอย 2 ใบ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา 2 กิ่ง
พริกแดงหั่นเฉียง 2 เม็ด
น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงน้ำพริก
พริกแห้งแกะเมล็ดออก 6-7 เม็ด
หอมแดง 5 หัว(1/4 ถ้วย)
กระเทียม 2 หัว(3 ช้อนโต๊ะ)
ข่าหั่นฝอย 1 ช้อนชา
ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่นฝอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
เมล็ดผักชีคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่าคั่วป่น 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
กะปิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1.ล้างไก่ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ยาวๆ รวมสักครู่ พอให้ไก่สุก
ถ้าเป็นเนื้อหมูเคี่ยวกับหางกะทิ 1 ถ้วย ประมาณ 20 นาที

2.คั้นมะพร้าวให้ได้กะทิ 1/2 ถ้วย(ใส่น้ำสำหรับคั้น 1 ถ้วย) ถ้าเป็นหมูคั้นให้ได้ 2 ถ้วย

3.โขลกเครื่องน้ำพริกที่เตรียมไว้ทั้งหมดให้ละเอียดเข้ากันดี ไปผัดในน้ำมันให้หอม
แบ่งหัวกะทิมา 1/2 ถ้วย ลงไปผัดใช้ไฟอ่อนให้หอมและแตกมัน

4.เอาเนื้อไก่หรือเนื้อหมูลงไปผัด ใส่ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมให้พอดี แล้วเติมกะทิที่เหลือ
เคี่ยวไฟอ่อนจนไก่หรือหมูนุ่ม น้ำแกงขลุกขลิก ใส่ใบโหระพา ปิดไฟ

5.ตักใส่จานเสรืฟประมาณ 200 กรัม จัดแต่งด้วย ใบโหระพาเด็ดเป็นช่อๆ และพริกแดง และใบมะกรูดหั่น

หมายเหตุ
จะใช้หมูหรือเนื้อแทนไก่ก็ได้ ถ้าเป็นพะแนงเนื้อจะต้องเคี่ยวเนื้อกับหางกะทิให้เปื่อยก่อน จึงจะนำมาทำพะแนง



พะแนงหมูหรือเนื้อวัว


ส่วนผสม (สำหรับ 2 ท่าน)
เนื้อหมู 400 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
น้ำพริกแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 150 กรัม
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา 10 ใบ
พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด (หั่นตามแนวขวาง)
ใบมะกรูด 3 ใบ (ซอยละิีเอียด)

วิธีทำ
1. นำเครื่องแกงไปผัดกับน้ำมันประมาณ 1 นาที จากนั้นจึงใส่กระทิลงไปและต้มต่อไปจนเดือด
2. ใส่เนื้อหมู แล้วจึงปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา
3. เมื่อเนื้อหมูสุกดีแล้ว จึงใส่ใบโหระพา,พริกและใบมะกรูด คนต่อไปอีกสักพัก
ตักใส่ถ้วยและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ



พะแนงไข่



ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่ )
1. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำพริกพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
3. ไข่ไก่ 5 ฟอง
4. นมข้นจืดเนสท์เล่คาร์เนชัน 1/3 ถ้วยตวง
5. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ
7. ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
8. ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง
9. พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด

วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันลงกระทะ ตามด้วยน้ำพริกพะแนง ผัดจนหอม
ใส่น้ำตาลปี๊บ ซอสหอยนางรมตราแม็กกี้ และ นมข้นจืดเนสท์เล่คาร์เนชัน ผัดให้เข้ากัน
2. ตอกไข่ไก่ลงไปจนหมด คนให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า และใบโหระพา ผัดจนเข้ากัน
ตักใส่จานพร้อมจัดรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ

Tips
โหระพา ใบมีกลิ่นหอมฉุน ใช้เป็นเครื่องเทศ ทำให้อาหารมีรสชาติ กลิ่นหอมน่ารับประทาน และช่วยย่อยอาหาร
ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ นอกจากนี้ใบโหระพา อุดมไปด้วยเบตาแคโรทีนสูง



ข้าวผัดพะแนง



ส่วนผสม
ข้าวสวย 2 ถ้วยตวง
เนื้อหมู 200 กรัม
น้ำพริกแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา
มะเขือเปราะ

วิธีทำ
1. นำกะทิตั้งไฟ ใส่พริกแกงผัดจนพริกแกงหอม ใส่เนื้อหมูลงผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา
2. นำข้าวสวยลงผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูดซอย
3. จัดเสิร์ฟคู่กับมะเขือเปราะ ใบโหระพา



พาสต้าราดแกงพะแนงหอยเชลล์



เป็นเมนูที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอาหารไทยกับอาหารอิตาเลี่ยน
หรือถ้าจะเรียกให้เก๋ๆ ก็คืออาหารฟิวชั่นฟูดส์นั่นเอง โดยใช้เส้นพาสต้าดำที่ทำจากหมึกของปลาหมึก
หรือเส้นข้าวกล้องแทนก็ได้ราดด้วยเครื่องแกงพะแนงจากน้ำเต้าหู้ เพิ่มความอร่อยด้วยหอยเชลล์ตัวโต

ส่วนผสม
พาสต้าเส้นดำลวก 1 ถ้วย
น้ำพริกแกงพะแนง 3 ช้อนโต๊ะ
หอยเชลล์แกะเปลือก 10 ตัว
ใบโหระพา 1 กำมือ
ใบโหระพาซอยละเอียด 1/4 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลืองหั่นเป็นเส้น 1/4 ถ้วย
น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปึก 2 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ลวกเส้นพาสต้าจนสุก แล้วนำไปแช่น้ำเย็น เพื่อไม่ให้เส้นเละจนเกินไป สงขึ้นพักไว้
2. คลุกเคล้าเส้นกับใบโหระพาซอยและน้ำมันมะกอก 2 ช้อนชาเพื่อไม่ให้เส้นติดกัน พักไว้
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันมะกอกที่เหลือ ใช้ไฟปานกลาง ผัดน้ำพริกแกงจนหอม
เทน้ำเต้าหู้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปึก
4. ใส่หอยเชลล์ลงไป คนให้เข้ากัน พอเดือดใส่พริกชี้ฟ้าและใบโหระพา ดับไฟ
5. จัดเส้นพาสต้าใส่จานตักแกงพะแนงราดบนเส้น พร้อมเสิร์ฟ

Tip : ใส่น้ำเต้าหู้แล้วอย่าเคี่ยวเพราะน้ำเต้าหู้จะข้นไม่อร่อย


พะแนงเห็ดเม็ดขนุน



ส่วนผสม
เห็ดเออรินจิหั่นชิ้นขนาดพอดีคำ 3-4 ดอก
เม็ดขนุนต้มจนนิ่ม 20 เม็ด
น้ำพริกแกงพะแนง 3 ช้อนโต๊ะ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 1/4 ถ้วย
ถั่วเหลืองต้มนิ่ม 1/2 ถ้วย
ใบมะกรูดฉีกเป็นชิ้น 3-4 ใบ
เต้าหู้หั่นเต๋า 1/2 ก้อน
น้ำตาลปึก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน ผัดพริกแกงจนหอมเต้าหู้ เทน้ำเปล่าลงไปครึ่งถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึกและน้ำปลา
2.ใส่เม็ดขนุนและถั่วเหลือง เคี่ยวจนรสชาติซึมเข้าไปในเม็ดขนุนและเต้าหู้ ใส่เห็ดเออรินจิผัดพอเห็ดสุก
3.เติมน้ำที่เหลือ เคี่ยวพอน้ำคลุกคลิก ใส่เม็ดม่ะวงหิมพานต์คลุกให้เข้ากัน
4.โรยใบมะกรูด ปิดเตา ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

Tip :
เม็ดขนุนเป็นอาหารที่มีประโยชน์ให้พลังงานมาก มีปริมาณโปรตีนสูง นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่และวิตามินอีกด้วย
เวลาต้มเม็ดขนุนให้ต้มทั้งเปลือก เพราะจะทำให้ไม่เละจนเกินไป ต้มเสร้จแล้วค่อยปอกเปลือกแล้วผ่าครึ่ง



หมูหมักแกงพะแนง



สูตรนี้แปลกดีค่ะ ถือเป็นสูตรหมูปิ้งสไตล์โมเดิร์น ที่นำมา mix & match ได้อย่างดีเลยทีเดียว
ก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องพริกแกงเสียก่อนนะคะ เพื่อที่จะได้นำมาหมักกับหมูแล้วนำไปย่างตามขั้นตอนต่อไป

ส่วนผสมน้ำพริกแกง
พริกขี้หนูแห้งเด็ดขั้วแช่น้ำจนนิ่ม 20 เม็ด
หอมแดงปอกเปลือก 3 หัว
กระเทียมแกะเปลือก 1 หัว
ตระไคร้หั่นฝอย 2 ต้น
กะปิดีเผาไฟ 1 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น 1 ช้อนชา
รากผักชี 3 ราก
พริกไทยเม็ด 10 เม็ด
ลูกผักชีคั่วป่น 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
นำเครื่องปรุงทั้งหมดโขลกให้ละเอียด

ส่วนผสม
หมูเนื้อแดงติดมันบ้าง 500 กรัม
กะทิกล่อง (250 กรัม) 1 กล่อง
น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1.นำน้ำพริกแกงที่โขลกไปผัดกับกะทิจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ ยกขึ้นพักไว้ให้เย็น
2.ล้างเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำเครื่องแกงที่ผัดปรุงรสแล้วมาหมักกับเนื้อหมูประมาณ 1 ชั่วโมง
หมักไว้ในตู้เย็น จึงนำออกมาเสียบไม้แล้วนำไปย่างไฟอ่อนๆ จนหมูสุกทั้งสองด้าน

ที่มา ชีวจิต,เดลินิวส์
//www.krunid.com
//www.maeban.co.th
//www.ezythaicooking.com/
//www.icuboard.googlepages.com/


เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
พะแนงสามรส
สปาเกตตี้พะแนงกุ้ง




Create Date : 17 เมษายน 2552
Last Update : 17 เมษายน 2552 8:59:48 น. 11 comments
Counter : 34802 Pageviews.

 
เห็นแล้วอยากกินๆ อิอิ


โดย: rugby34 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:12:32:48 น.  

 
WOWWWWWWWWW!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ยอดมากเลยค่ะ ชอบ blog ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง มากๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ เพราะมีสาระประโยชน์มากจริงๆ

ทุกครั้งที่เห็น post จะเข้ามาอ่านอยู่เสมอ

ขอบคุณสำหรับความรู้ต่างๆค่ะ



โดย: Always Have Room for Dessert IP: 124.122.147.23 วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:19:33:26 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ขอยืมสูตรไปทำอาหารทานวันนี้หน่อยนะคะ


โดย: Ms.StayHigh วันที่: 22 เมษายน 2552 เวลา:7:39:41 น.  

 

ซึ้งอย่างรุนแรง ขอบคุณ ขอบใจ ขอบพระทัย แทงค์กิ้ว หลายเด้อ


โดย: niwat IP: 114.128.172.154 วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:7:34:13 น.  

 
แล้วแกงแพนงแตกต่างจาะฉู่ฉี่หรือแกงเผ้ดที่ตรงไหนละค่ะแล้วแกงแพนงสมัยโบราณต้องใส้ถั่วด้วยเหรอ อยากรู้จริงๆ


โดย: je IP: 110.169.17.234 วันที่: 21 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:12:34 น.  

 
ถูกใจจังเลย


โดย: urai IP: 49.49.100.154 วันที่: 26 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:13:11 น.  

 
ชอบมากๆ


โดย: oranong IP: 118.173.175.94 วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:13:33:42 น.  

 
น่าทานมากเลยค่ะ แต่หากใครไม่มั่นใจลองไปเรียนทำอาหารที่โรงเเรมเดอะทวินดูสินะค่ะ เค้าสอนทพแกงแพนงจากเชฟของโรงเเรมด้วยมีวันที่23 มิ.ย.55 นี้เวลา 10.00-12.00 น สนใจสอบถามได้ที่ 0-2216-9555 ค่ะ


โดย: sasinai IP: 183.89.59.44 วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:15:31:42 น.  

 
อยู่ที่มาเลเซียตรับ อยากกิน เลยมาหาที่นี่ครับ
ชอบคุณตรับ ไม่ว่าจะอยูที่ใหนในโลก ถ้าเราอยู่ในโลก ออนไล์แบบนี้ เราก็ไม่ต้องอดอาหารไทย ของเราครับ
ขอบคุณครับ
kanjunwong07@gmail.com
ตรับ มี


โดย: เต่า IP: 180.74.4.17 วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:18:52:03 น.  

 


โดย: Lamillabo วันที่: 20 มีนาคม 2556 เวลา:23:31:42 น.  

 
อยากกินแกงพะแนง ไม่ยากทำเองได้ เรามาดูวิธีการทำน้ำพริกพะแนง กันค่ะ
//www.myrestaurantpal.com/Thai-Curry-Recipes/Panang-Curry-Recipe.html


โดย: Umi Kanaka IP: 223.204.250.195 วันที่: 3 พฤษภาคม 2559 เวลา:21:47:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.