ปลาทูต้มเค็ม 3 รส โบราณแต่ขายได้ขายดี
อาหารประเภทปลาเป็นอาหารที่คู่กับสังคมไทยมานาน โดย “ปลาทู” เป็นปลาที่คนไทยนิยมกันมาก อย่างปลาทูทอด ยิ่งกินกับน้ำพริกกะปิ ชะอมทอดไข่ ก็ยิ่งเพิ่มรสชาติความอร่อยมากยิ่งขึ้น และวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน”จะพาไปพบกับอาหารที่ทำมาจากปลาทูอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ “ปลาทูต้มเค็ม”
ฐิติรัตน์ ภู่ทวี หรือ “เล็ก” อายุ 32 ปี ซึ่งเปิดร้านขายปลาทูต้มเค็ม เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะมาทำอาชีพนี้อย่างจริงจัง เคยช่วยพี่สาวขายของในซูเปอร์มาร์เกตมาก่อน ต่อมาก็ได้เปลี่ยนมาขายเทป จนกระทั่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แม่สามีได้ให้ช่วยทำปลาตะเพียนต้มเค็มขาย เพราะท่านอายุมากแล้ว ทำไม่ไหว เลยอยากให้เข้ามารับช่วงทำต่อ ตั้งแต่นั้นมาจึงทำปลาตะเพียน และปลาทูต้มเค็ม ขายเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัวมาจนปัจจุบัน
“สูตรที่ทำขายเป็น สูตรต้มเค็มชานอ้อย 3 รส ก้างนิ่ม กินได้ทั้งตัว เป็นสูตรโบราณที่ทำทานกันมานานแล้ว จนกระทั่งมีตลาดดอนหวายขึ้นมา อยากจะลองตลาดดู ปรากฏว่าเสียงตอบรับจากคนซื้อค่อนข้างดีมาก และเพิ่มปริมาณปลามากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกทำปลาตะเพียนต้มเค็มขายอย่างเดียว ก็มีลูกค้าหลายคนถามหาปลาทูต้มเค็มด้วย จึงลองทำกันดู ปรากฏว่ารสชาติอร่อยเหมือนกัน ก็ทำขายคู่กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน” การทำปลาทูต้มเค็ม ฐิติรัตน์บอกว่า จะทำสัปดาห์ละครั้ง โดยแต่ละครั้งที่ทำ ก็จะใช้ปลาทูประมาณ 200-300 กิโลกรัม เพื่อที่จะได้พอสำหรับขาย 5 วันไปเลย โดยแต่ละวันเมื่อขายเสร็จก็จะนำปลาทูต้มเค็มที่เหลือมาอุ่น แล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น เพื่อเป็นการถนอมไว้ให้อยู่ได้นาน ซึ่งจะไม่เสีย และไม่เสียรสชาติ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้...เตาแก๊ส,กะละมังสเตนเลสขนาดใหญ่,ฝาสำหรับปิดกะละมัง,หม้อ,เขียง,ตะแกรง, มีด,ทัพพี และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถหาได้จากในครัว ในการทำแต่ละครั้ง ส่วนผสมก็จะมี ต้นอ้อยที่ใช้สำหรับรองก้นกะละมัง หัวหอม 10 กิโลกรัม ขิงแก่ 20 กิโลกรัม น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลมะพร้าว 4 ปี๊บ เกลือเม็ด 10 กิโลกรัม พริกไทยป่น 1/2 กิโลกรัม มะขามเปียกอีก 5 กิโลกรัม และมะละกอดิบอีกพอประมาณ ยางมะละกอช่วยในการทำให้ก้างปลานิ่ม สำหรับปลาทูนั้น คุณฐิติรัตน์บอกว่า “จะต้องเลือกดูปลาทูที่สด ใหม่ สะอาด ตัวใหญ่ เนื้อแข็ง และที่สำคัญจะต้องดูที่ตัวปลาด้วยว่าสวยหรือเปล่า”
ขั้นตอนการทำ “ปลาทูต้มเค็ม 3 รส” เริ่มจากควักเอาไส้ที่อยู่ในตัวปลาทูออกให้หมดก่อน โดยล้วงเอาออกมาจากทางปากของปลาทู นำปลาที่ล้วงไส้เสร็จแล้วมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ พร้อมทั้งทำการคัดเลือกขนาดปลา โดยจะเลือกปลาที่มีขนาดใกล้เคียงกันอยู่ในกะละมังเดียวกัน (เวลาต้มจะสุกพร้อมกัน) ปอกเปลือกอ้อย ตัดเป็นท่อนยาวพอประมาณ แล้วผ่าเป็นซีก ๆ เรียงปูไว้ก้นกะละมังหรือหม้อให้เต็มทั่ว (นอกจากหอมแล้วยังช่วยกันตัวปลาไม่ให้ติดก้นกะละมัง เพราะเวลาต้มจะคนไม่ได้) ใส่ตามด้วยหอมหัวเล็กบุพอแตก,ขิงแก่บุพอแตก,เกลือ,พริกไทยป่น และน้ำมะขามเปียก ลงไปในกะละมัง เสร็จแล้วนำปลาทูที่เตรียมไว้มาเรียงลงสลับหัวหางให้เต็มกะละมัง (1 กะละมังใหญ่จะเรียงปลาได้ประมาณ 100-120 ตัว ขึ้นอยู่กับขนาด) นำน้ำตาลปี๊บมาละลายน้ำเปล่าแล้วต้มทิ้งไว้สักครู่ กรองเอาเศษผงออกให้หมด แล้วก็จะราดลงไปในตัวปลาจนท่วมตัวปลาพร้อมกับหั่นมะละกอดิบเป็นชิ้นๆตามยาวประมาณ 10 ชิ้น เรียงลงไป จากนั้นยกกะละมังขึ้นตั้งไฟ เริ่มแรกใช้ไฟแรงต้มประมาณ 20 นาที เพื่อให้ปลาสุกก่อน จากนั้นจึงปรับไฟให้อ่อน ต้มไปเรื่อย ๆ ประมาณ 15 ชั่วโมง ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับหัวหอมที่ใส่ลงไปนั้น จะปอกเอาเปลือกออกก่อน โดยจะใส่ลงไปทั้งหัว ส่วนขิงแก่นั้นก็จะตัดเอาส่วนที่เสียออกก่อน แล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็จะผ่าเป็นซีก ๆ ใส่ลงไป ส่วนผสมต่าง ๆ ที่ใส่ลงไปในปลาทูต้มเค็มนั้น จะใส่เท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ ขอแค่เวลาต้มปลาออกมาแล้วมีสีสันน่ารับประทาน และมีกลิ่นหอมกลมกล่อม ก็เป็นอันใช้ได้
คุณฐิติรัตน์ยังบอกถึงเทคนิคในการต้มปลาอีกว่า ระหว่างที่ตั้งไฟ 15 ชั่วโมงนั้น ก็จะต้องคอยดูน้ำเดือดด้วย โดยถ้าน้ำเดือดเกินไปก็จะเบาไฟ ถ้าน้ำเดือดเบาเกินไปก็เพิ่มไฟ ในขั้นตอนนี้ต้องคอยดูอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าเราไม่ดูแล้วปล่อยให้น้ำเดือดจนเกินไป ก็จะทำให้ปลาทูที่ต้มไว้ออกมาเละ ไม่สวย ดูไม่น่ารับประทาน
เคล็ดลับสำคัญในการต้มปลาทูต้มเค็มให้อร่อยของคุณฐิติรัตน์ คือจะคอย ใส่น้ำเปล่าลงไปตลอดเป็นระยะ จนกว่าก้างปลาจะนิ่ม น้ำเปล่าที่ใส่ลงไปนั้นทำให้ปลาทูที่ต้มไม่ไหม้ อย่างไรก็ตาม การใส่น้ำเปล่าลงไปโดยไม่ทำให้รสชาติของปลาทูต้มเค็มเจือจางลง ก็อยู่ที่ช่วงที่ใส่ส่วนผสม โดยจะ ใส่ส่วนผสมลงไปมาก ๆ ให้รสชาติเข้มข้นมากไว้ก่อน เวลาที่ต้มแล้วใส่น้ำเปล่าลงไปรสชาติที่ผสมไว้จะจางลงจนพอดี
ราคาขายปลาทูต้มเค็มของร้านนี้ มีตั้งแต่ตัวละ 25-35 บาท แล้วแต่ขนาด เคยได้โอทอป 5 ดาวปี 2549 และสำหรับปลาตะเพียนต้มเค็มของร้านก็เคยได้รับคัดสรรเข้าเป็นโอทอป 5 ดาว เมื่อปี 2547 ด้วย คุณฐิติรัตน์ขาย “ปลาทูต้มเค็ม”และปลาตะเพียนต้มเค็ม อยู่ที่ตลาดดอนหวาย โดยวันจันทร์-ศุกร์จะขายอยู่หน้าแพสุวรรณรัตน์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะขายอยู่ตรงข้าม ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ใครสนใจแต่หาร้านไม่เจอก็สอบถามได้ที่ โทร. 08-1734-2241
ปลาทูต้มเค็มอาจจะดูโบราณ แต่วันนี้ก็ยังขายได้และขายดี !!. ข้อมูลจากเดลินิวส์
Create Date : 10 เมษายน 2552 |
Last Update : 18 มีนาคม 2554 13:10:32 น. |
|
4 comments
|
Counter : 56390 Pageviews. |
|
|
|
โดย: thamakorn วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:11:09:09 น. |
|
|
|
โดย: rugby34 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:11:32:37 น. |
|
|
|
โดย: แม่กันดั้ม IP: 210.203.186.254 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:52:44 น. |
|
|
|
โดย: กาฟิวส์ IP: 192.168.1.52, 223.206.163.157 วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:18:12:13 น. |
|
|
|
|
|