สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

จังหวัดลำพูนขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่ปลูกลำไยมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆของประเทศ

ประมาณสองแสนหกหมื่นไร่ค่ะ

ผลิตภัณฑ์จากลำไยทั้งลำไยสดและลำไยแปรรูปเช่น ลำไยอบแห้ง ลำไยกระป๋อง 

น้ำลำไย วุ้นลำไย ลำไยกวน ไวน์ลำไย คุ๊กกี้ลำไย ครีมลำไย ฯลฯ ล้วนผ่านตามาบ้างแล้ว

สำหรับวันนี้จะไปชิมก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนผสมของลำไยจากร้านอาหารมีชื่อร้านหนึ่งของจังหวัดลำพูน

ร้านแห่งนี้เพื่อนบล๊อกของ จขบ. คุณ moresaw เป็นผู้แนะนำค่ะ

หลังจากได้ลิ้มรสความอร่อยแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะเล่าสู่กันฟังนะคะ

ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย (เวียงยอง) ลำพูน

จอดรถบริเวณหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จ.ลำพูน

ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน

หลังจากสักการะองค์พระธาตุแล้วเดินออกมาทางหน้าวัด ข้ามถนนค่ะ

ข้ามถนนมาเจอสะพานขัวมุงท่าสิงห์

บนสะพานนี้มีสินค้าโอทอปของจังหวัดลำพูนจำหน่าย

เดินจนสุดสะพาน แล้วเดินต่ออีกราว 50 เมตร 

ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย" จะอยู่ทางซ้ายมือ

ถึงร้านแล้วค่ะ

ร้านนี้เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 - 15.00 น.

เมนูตามป้ายค่ะ

บรรยากาศร้านเรียบง่าย โปร่งตา

ทางร้านมีน้ำดื่มไว้บริการ หรือต้องการสั่งเครื่องดื่มก็ได้ค่ะ

โต๊ะเราสั่งขนมจีบ 1 ที่ ตามด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไย 5 ชามค่ะ

ชามแรก เกาเหลาหมูตุ๋นลำไย กับข้าวสวย

บะหมี่แห้งหมูตุ๋นลำไย

เส้นหมี่แห้งหมูตุ๋นลำไย

บะหมี่น้ำหมูตุ๋นลำไย

ชามนี้ จขบ.สั่งค่ะ ไม่สั่งแบบแห้งเพราะอยากชิมน้ำซุป 

ทราบว่าร้านนี้ใช้ลำไยอบแห้งมาตุ๋นกับหมูพร้อมด้วยเครื่องยาจีน

เคี่ยวกระทั่งหมูนุ่ม จะได้น้ำซุปที่มีความหอมหวานจากลำไย

บวกกับความหอมของเครื่องยาจีน โดยที่ไม่ใส่ผงชูรส

เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นที่อร่อยสมกับที่เพื่อนแนะนำ

ให้เครื่องเยอะในราคาเพียงชามละ 40.- บาทค่ะ

ชามสุดท้ายลองสั่งบะหมี่หมูตุ๋นทรงเครื่องโบราณ เมนูแนะนำ

เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำขลุกขลิก ใส่เครื่องมาเต็มชาม ทั้งหมูตุ๋นลำไย ถั่วฝักยาว มะม่วงสับ เกี้ยวกรอบ

ปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ 

ทานก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลำไยแล้ว สั่งซาละเปามาชิม 4 ลูก

ในภาพเป็นซาละเปาไส้หมูสับกับซาละเปาไส้เผือกแปะก๊วย รสอร่อยทีเดียวค่ะ ราคาลูกละ 10.- บาท 

ไปคราวหน้าจะสั่งรสอื่นมาชิมอีกค่ะ พอดีวันที่ไปมีตัวเลือกไม่มากแล้ว

ออกจากร้านเดินกลับมาที่สะพานเดิม

ออกจากสะพานก่อนข้ามถนน ทางซ้ายมือมีร้านเล็กๆขายไอศกรีมลำไย

สั่งมาอีก 4 ถ้วย หอมอร่อย เย็นชื่นใจคลายร้อนค่ะ

ข้ามถนนกลับไปยังหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัยฯ

ก่อนกลับขอแวะซื้อ เฉาก๊วยมุกดา

"เฉาก๊วยอร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์ ภพนี้ ชาตินี้ หาทานได้ที่นี่ที่เดียว"

ป้ายหน้าร้านติดไว้แบบนี้ค่ะ

จากประตูวัดพระธาตุหริภุญชัย เลี้ยวซ้าย

เป็นเฉาก๊วยใส่น้ำตาลเคี่ยวและนมสด 

ตอนซื้อเฉาก๊วยจะแยกชั้น

คนให้เข้ากันจะได้สีนี้ค่ะ

รสหวาน มัน เข้มข้น อร่อยสมคำร่ำลือ

อาหารมื้อกลางวันวันนี้ คุ้มค่ากับการขับรถจากเชียงใหม่เพื่อมาชิมค่ะ

ขอบคุณคุณ moresaw อีกครั้งนะคะที่แนะนำร้านให้

ขอบคุณทุกท่านที่แวะชมนะคะ
ขอบคุณคุณป้าเก๋าและคุณพีชสำหรับของแต่งบล๊อก
พบกันใหม่บล๊อกหน้าค่ะ