Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
13 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
ผู้หญิงเลี่ยง'ลุยน้ำสกปรก'ลดเสี่ยงติดเชื้ออวัยวะภายใน



ในสภาวะน้ำท่วมแบบนี้ส่งผลให้การเดินทางยากลำบากมากขึ้น หลายคนต้องต่อรถต่อเรือ ใช้เวลากันหลายชั่วโมง บางคนถึงกับต้องยอมเดินลุยน้ำเปียกปอนไปตาม ๆ กัน
ซึ่งการเดินลุยน้ำธรรมดาอาจจะไม่มีปัญหาเท่าใดนัก แต่น้ำที่เราเดินลุยกันอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างที่ทราบกันดีว่าทั้ง สกปรก มีกลิ่นเหม็น และปนเปื้อนสารเคมีมากมายย่อมไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องเดินลุยน้ำเพราะมีภาวะเสี่ยงติดเชื้อในช่องคลอดมากกว่าผู้ชาย

นพ.วิบูลย์ กมลพรวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ให้ความรู้ว่า ปัจจุบันเกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ทำให้เราทุกคนประสบปัญหาด้านการเดินทางเพราะมีน้ำมากั้นกลาง จึงต้องเดินลุยน้ำกันซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพราะน้ำที่เราเดินลุยกันนั้นไม่ใช่น้ำสะอาด แต่เป็นน้ำสกปรกที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนมากมาย ส่งผลให้เป็นโรคต่าง ๆ ตั้งแต่เท้าคือเรื่องของโรคผิวหนัง แต่ถ้าสูงขึ้นมาถึงส่วนของลำตัวก็มีอวัยวะบางส่วนที่ต้องแช่อยู่ในน้ำและมีโอกาสที่จะ ติดเชื้อ ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา

โดยเฉพาะผู้หญิง อวัยวะสืบพันธุ์เป็นส่วนที่ผิวหนังบอบ บางจึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านนอกไปจนถึงด้านใน เช่น ท่อปัสสาวะ ช่องคลอด ซึ่งหากติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะจะทำให้ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ได้ เพราะว่าท่อปัสสาวะของผู้หญิงสั้นกว่าท่อปัสสาวะของผู้ชาย ถ้าเชื้อโรคเข้าก็มีโอกาสที่จะเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบสูงกว่าผู้ชาย ส่วนช่องคลอดเป็นส่วนที่บอบบางมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้เช่นกัน ที่สำคัญผู้หญิงที่มีประจำเดือนความเสี่ยงในการติดเชื้อนั้นย่อมมากกว่า เพราะเวลามีประจำเดือนเลือดไหลผ่านปากมดลูกออกมา แสดงว่าปากมดลูกเปิดกว้างมากกว่าปกติ ทำให้เชื้อโรคสามารถวิ่งย้อนขึ้นไปได้มากกว่า ถือเป็นช่วงที่อันตรายกว่าช่วงปกติ แต่ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำหลังจากลุยน้ำต้องรีบทำความสะอาดร่างกาย และรีบเปลี่ยนผ้าอนามัยด้วย

อาการช่องคลอดอักเสบที่สังเกตได้ง่ายคือ
มีอาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอดหรืออวัยวะเพศ มีอาการตก ขาว ซึ่งตกขาวจะมีสีและกลิ่นที่เปลี่ยนไป ส่วนอาการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะที่ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือเวลาปัสสาวะจะรู้สึกแสบขัด ทั้งหมดเป็นอาการง่าย ๆ ที่เราสามารถสังเกตตัวเองได้ สำหรับอาการของการติดเชื้อราจะมีอาการอย่างอื่น เช่น อาการคัน ซึ่งเป็นอาการที่ต้องรีบรักษา โดยหลังจากติดเชื้อแล้วจะใช้เวลานานพอสมควรจึงจะเกิดอาการซึ่งขึ้นอยู่กับเชื้อ ตำแหน่งที่ได้รับเชื้อ แต่ทั่วไปหลังจากติดเชื้อแล้วประมาณ 10 ชั่วโมงขึ้นไปจึงจะเริ่มมีอาการ อย่างไรก็ตามถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นภายในร่างกายควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาก่อนที่ภาวะในการดำเนินโรคต่อไปจะรุนแรงขึ้น

โดยอาการที่รุนแรงของช่องคลอดอักเสบจะมีอาการ แสบ คัน มีตกขาวมากกว่าปกติ
และถ้าเชื้อโรคสามารถเข้าไปในมดลูกก็จะทำให้เกิดอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ ถือเป็นภาวะที่รุนแรงมากขึ้นโดยจะมีอาการปวดท้องน้อย สำหรับอาการรุนแรงของกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่เป็นมากจนทำให้เชื้อวิ่งเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เข้าไปตามท่อไตและเข้าไปในไต ทำให้ไตอักเสบได้ ถือเป็นภาวะที่รุนแรงของการติดเชื้อ ฉะนั้นถ้าเรามีอาการแรกเริ่มอย่างที่บอกไปควรรีบมารับการรักษาก่อนอย่าปล่อยให้เป็นมากถึงขั้นรุนแรง

สำหรับการรักษาแพทย์จะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-2 วันก็หาย ซึ่งรักษาด้วยการให้รับประทานยา ใช้ยาเหน็บ
หากคนไข้มีอาการคันแพทย์จะใช้ยาทาด้วย แต่อาจจะมี

ข้อแนะนำเพิ่มเติมเช่น ถ้าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ควรดื่มน้ำมาก ๆ ปัสสาวะบ่อย ๆ เพื่อลดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
แต่ทั้งนี้การป้องกันถือเป็น วิธีที่ดีที่สุด โดยสิ่งแรกคือหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ เช่น การเดินลุยน้ำหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน การใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น สวมกางเกงพลาสติกป้องกันน้ำ สวมรองเท้าบู๊ต แต่หากหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ได้ หลังจากเดินลุยน้ำหรือสัมผัสกับน้ำแล้วควรรีบทำความสะอาดทันทีด้วยวิธีล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด และใช้สบู่อ่อนหรือสบู่ใช้ล้างทำความสะอาดเฉพาะจุด โดยไม่ต้องล้างรุนแรงหรือล้วงเข้าไปเพราะจะยิ่งนำพาเชื้อโรคเข้าไปได้ เพราะโดยทั่วไปของช่องคลอดเป็นกล้ามเนื้อที่ปิดด้วยตัวเองอยู่แล้ว หลังทำความสะอาดควรซับให้แห้ง สวมใส่เสื้อผ้าและชุดชั้นในที่แห้งจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อได้

อย่างไรก็ตามการที่กระเพาะปัสสาวะอักเสบนอกจากสัมผัสน้ำแล้วปัญหาที่พบบ่อยคือ คนที่ไม่ได้ลุยน้ำก็เป็นได้ เนื่องจากบางคนต้องเดินทางยาวนานเพราะต้องขึ้นรถลงเรือ ดังนั้นก่อนเดินทางควรปัสสาวะให้เรียบร้อย เมื่อถึงจุดหมายปลายทางก็ควรปัสสาวะอีกรอบหนึ่ง โอกาสที่ต้องอั้นปัสสาวะนาน ๆ จะลดลง ที่สำคัญก่อนเดินทางอย่าดื่มน้ำมาก แต่ในช่วงที่อยู่ภาวะปกติก็ดื่มน้ำมาก ๆ หน่อย หากดื่มน้ำน้อยปัสสาวะออกน้อยโอกาสติดเชื้อก็มีมาก ฉะนั้น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเกิดขึ้นได้ 2 ส่วน คือลุยน้ำโดยตรงและการอั้นปัสสาวะจากภาวะที่ต้องใช้เวลาเดินทางยาวนานขึ้น

ในช่วงน้ำท่วมนี้เรามักมีปัญหาสุขภาพกันทุกคน จึงจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องการดูแลร่างกายเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ และเมื่อทราบและปฏิบัติตามรวมทั้งแนะนำคนอื่นได้ โอกาสที่จะเกิดโรคก็น้อยลง นอกจากนี้ในช่วงน้ำท่วมทุกคนจิตใจอาจจะไม่ดี ให้คิดว่าน้ำท่วมได้แต่กายอย่าให้ท่วมใจ เพราะถ้าเรารักษาจิตใจให้ดีร่างกายของเราก็จะดีไปด้วย และในส่วนของข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพควรติดตามที่จะเรียนรู้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นต่อไป.

※ คลิกอ่านและชมภาพต่อ...ที่นี่ขอรับ ※

เคล็ดลับสุขภาพดี ปรับตัวยอมรับน้ำท่วม ป้องกันภาวะ ''เครียดผิดปกติ''

ในชีวิตคนเราย่อมต้องเผชิญสถาน การณ์ที่ทำให้เครียดไม่สบายใจกันไม่มากก็น้อย อย่างในขณะนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของภาวะน้ำท่วมที่ทำให้แต่ละคนมีปฏิกิริยาหรือระดับการตอบสนองของจิตใจแตกต่างกันไป เช่น บางคนกำลังเผชิญภัยรุนแรงจากน้ำท่วม บางคนอยู่กับน้ำท่วมมาแล้วเป็นเดือน บางคนน้ำยังไม่ท่วมบ้านแต่ก็กังวลว่าจะท่วมหรือไม่ แล้วจะไปอาศัยที่ใด เสียหายขนาดไหน อนาคตจะเป็นอย่างไร ส่งผลให้เกิดความเครียดที่แตกต่างกัน แต่ความเครียดที่สะสมมากจนกลายเป็นเครียดผิดปกติเป็นเรื่องที่ต้องรีบเยียวยาก่อนจะสายเกินแก้!

ฝ่ายจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และภาควิชาเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ให้คำแนะนำว่า ความกังวลเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดคิดหรือไม่ปกติ กลัวจะควบคุมไม่ได้ ถือว่าเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ ที่มีเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับและปรับตัวต่อสถานการณ์ หากอยู่ในระดับที่เหมาะสมบุคคลนั้นจะมีสติติดตามข่าวสาร เตรียมสิ่งของยังชีพหรือมีแนวทางรับเพื่อความปลอดภัยหรือป้องกันได้อย่างเหมาะสม ไม่ตื่นตระหนกหรือกังวลเกินไป ปรับตัวยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้และในที่สุดก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์นั้น

ผู้ที่ประสบอุทกภัยหรือผู้ที่ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจรุนแรง อาจเกิดอาการผิดปกติทางจิตเวชได้ โดยมีลักษณะหวนระลึกถึงเหตุการณ์ซ้ำ ๆ ฝันถึงเหตุการณ์ ความสนใจสิ่งต่าง ๆ ลดลงไปหรือหมดไป พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรม สถานการณ์ที่กระตุ้นให้คิดถึงสิ่งที่สะเทือนใจ รู้สึกห่างเหินจากญาติหรือคนใกล้ชิด ตื่นเต้น ตกใจง่าย ขาดสติ นอนหลับยาก หงุดหงิด เครียดและระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งปฏิกิริยาเหล่านี้มักเกิดหลังจากประสบเหตุการณ์ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถึง 2-3 เดือน แต่ไม่ค่อยเกิน 6 เดือน ส่วนใหญ่อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายเป็นปกติ มีส่วนน้อยที่มีอาการเรื้อรังนานเป็นปี ๆ ซึ่งการเกิดความผิดปกติทางจิตใจชนิดนี้ขึ้นกับปัจจัยทั้งด้านความรุนแรงของภยันตรายที่ประสบ ด้านจิตวิทยาเกี่ยวกับบุคลิกภาพ ประสบการณ์ในอดีตและการปรับตัวของแต่ละคน ปัจจัยด้านชีววิทยาและด้านสังคม สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติที่มีต่อเหตุการณ์และความช่วยเหลือจากบุคคลและหน่วยงานต่าง ๆ

ด้านการรักษาความเครียดผิดปกติดังกล่าว จะเป็นการผสมผสานทั้งด้านจิตบำบัด และการใช้ยาทางจิตเวช สำหรับผู้มีอาการเฉียบพลันและเป็นไม่มาก การทำจิตบำบัดประคับประคองหรือฟื้นฟูสภาพจิตใจพบว่าได้ผลดี โดยช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจบุคลิกภาพของตัวเองร่วมกับวิธีการปรับตัวเพื่อสามารถเข้าใจและทนต่อความเครียดได้มากขึ้น ระบายความรู้สึกต่าง ๆ มากขึ้น สำหรับการใช้ยานั้นจะช่วยลดปัญหาการนอนฝันร้าย อาการทางระบบประสาทอัตโนมัติตื่นตัวและอารมณ์ซึมเศร้า ส่วนผู้ที่มีความผิดปกติรุนแรงเรื้อรัง เช่น ก้าวร้าว ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ คิดมากจนไม่อยากมีชีวิตอยู่หรือติดสุราและใช้ยาเสพติด อาจต้องรับไว้รักษาตัวในโรงพยาบาลและใช้วิธีบำบัดรักษาอื่นร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เราทุกคนต้องประสบอุทกภัย หน่วยงานภาครัฐและเอกชนหลายฝ่ายกำลังพยายามให้ความช่วยเหลือเยียวยากันอยู่ แต่ถึงกระนั้นตัวเราเองควรต้องปรับตัวและมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง อดทนเพื่อการผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ รวมทั้งให้กำลังใจคนรอบข้าง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีวิธีคิดแง่บวกเพื่อสร้างพลังใจและความหวัง นอกจากนี้การลดความเครียดที่ดีควรติดตามข่าวสารข้อมูลในแหล่งที่เชื่อถือได้โดยใช้วิจารณญาณและเหตุผล เรียนรู้และเข้าใจที่จะปรับตัวอยู่กับธรรมชาติ และถ้าเมื่อใดที่เรารู้สึกว่าตนเองหรือผู้ใกล้ชิดมีอาการผิดปกติดังที่กล่าวควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการช่วยเหลือและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป.

สรรหามาบอก

- ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอเชิญทุกท่านร่วมกิจกรรม
“รวมพลัง ลดเสี่ยง เลี่ยงเบาหวาน” เนื่องในวันเบาหวานโลก พบกิจกรรมให้ความรู้และป้องกันโรคเบาหวานต่าง ๆ มากมาย อาทิ ตรวจวัดดัชนีมวลกาย, ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด, วัดความดันโลหิต, สาธิตการนวดเท้า และการดูแลสุขภาพเท้า พร้อมสนุกกับเกมบำบัดเบาหวาน และรับของที่ระลึก ใน วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา 08.00-12.00 น. ณ ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อกรุงเทพ ชั้น 2 โรงพยาบาลกรุงเทพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งฟรีได้ที่ Contact Center โทร. 1719

-โรงพยาบาลมนารมย์ จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “ฟื้นฟูใจหลังภัยน้ำท่วม”
จำนวน 2 รุ่น ในวันที่ 14 พฤศจิกายน และวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 เวลา 09.00-12.00 น. ที่โรงพยาบาลมนารมย์ โดยการจัดอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อสาธารณ ประโยชน์ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ท่านที่สนใจสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0-2725-9595

- โรงพยาบาลศิครินทร์
ขอเชิญคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมอบรม “การดูแลทารกแรกเกิด” ใน วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารศิครินทร์ 1 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมรับของที่ระลึก สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1728 ต่อแผนกลูกค้าสัมพันธ์

- กระทรวงสาธารณสุข
เปิดสายด่วนเสริมความเข้มแข็งทางจิตใจให้ผู้ประสบอุทกภัยมีความมั่นคงทางจิตใจ โดยหากมีความทุกข์ใจ เครียด นอนไม่หลับสามารถขอรับบริการปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 และ 1667 ระบบอัตโนมัติ ฟรี! ตลอด 24 ชั่วโมง.

credit : //www.dailynews.co.th/
ผู้หญิงเลี่ยง'ลุยน้ำสกปรก'ลดเสี่ยงติดเชื้ออวัยวะภายใน


Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2554 1:39:42 น. 0 comments
Counter : 833 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.