Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
'เสริมดั้ง-ชะลอวัย' เทรนด์อัพสวยปี 55 ไม่พึ่งผ่าตัด



'เสริมดั้ง-ชะลอวัย' เทรนด์อัพสวยปี 55 ไม่พึ่งผ่าตัด

สมัยนี้ต่อให้การศัลยกรรมจะต้องเสียเลือดและเจ็บตัวขนาดไหน ยังไงคนที่คิดจะทำก็ไม่มีถอย เพราะขอหล่อ-สวยไว้ก่อน บางคนจึงประมาท พลาดกับการทำศัลยกรรมไปก็เยอะ รู้ตัวอีกที ใบหน้าก็แทบไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

เรื่องการเสริมความงามในยุคหลัง เลยมีการพัฒนามากขึ้น จากสมัยก่อนที่ใช้การผ่าตัดเป็นส่วนใหญ่ก็น้อยลง และหันมานิยมด้วยวิธีอื่นที่เจ็บน้อยลงมากขึ้น ซึ่งในปี 2555 เทรนด์เสริมความงามก็ก้าวกระโดดไปอีกขั้น และแทบไม่ต้องเสียเลือด หรือมีการลงมีดให้ต้องเจ็บระบมอีกต่อไป โดยเฉพาะการเสริมจมูก และการชะลอวัย ปีหน้าที่จะถึงนี้ ถึงทีได้อัพสวยแบบไม่ต้องเจ็บตัวกันแล้ว ซึ่ง นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและการชะลอวัย จากวงศฎา คลีนิค ซึ่งเป็นคนแรกที่นำเทคนิคการเสริมความงามล่าสุดมาเปิดเผยในงานประชุมวิชาการนานาชาติ ได้พูดถึงเรื่องนี้กับ 'ไทยรัฐออนไลน์' ว่า

"ตอนนี้เทรนด์ของการดูแลผิว พวกทำหน้าใสเชยมาก เพราะมันง่าย ธรรมดาไปแล้ว และผลที่ได้มันได้แค่ผิวชั้นนอก ไม่ต่างจากการฝานแตงกวาบำรุงที่บ้าน หรือการทำเลเซอร์ก็ไม่มีอะไรมากแล้ว อีกทั้งช่วง 2 ปีหลังมานี้ ไม่มีวิทยาการใหม่ๆ เลย เป็นของเก่าหมด แต่ยังคงใช้เทคนิคการเสริมความงามที่ใช้การผ่าตัดน้อยลงกว่าสมัยก่อนมาก โดยเฉพาะเรื่องการชะลอวัย ซึ่งทำการรักษายาก เพราะเป็นเรื่องของการปรับปรุงผิวในอดีต แต่ตอนนี้เทรนด์การรักษากำลังจะเปลี่ยนไป เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากเจ็บตัว เรื่องของการรักษาแบบกึ่งศัลยกรรมจะนิยมมากขึ้น เพราะไม่มีการผ่าตัด, วางยาสลบ และพักฟื้นนาน โอกาสที่คนไข้จะเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตก็น้อยลงด้วย ซึ่งตอนนี้ที่เกาหลีบูมมาก จนศัลยกรรมพลาสติกซบเซาไปเลย"




เทรนด์การชะลอวัยที่ไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมให้เสี่ยง ที่กำลังฮอตสุดๆ ในช่วงนี้ ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า เป็นการรักษาที่ใช้เวลาไม่นานเหมือนการผ่าตัด อีกทั้งยังไม่ต้องพักฟื้น หรือบาดเจ็บด้วย ซึ่งเทคนิคที่ว่านี้จะใช้เส้นไหมละลายเข้าไปร้อยใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับหน้า

"การยกกระชับหน้าด้วยไหมละลาย หรือ Ultra V Lift by Tread นั้น เป็นเทคนิคใหม่ที่คิดขึ้นจากแพทย์ที่ประเทศเกาหลี เป็นการใช้ไหมเย็บผูกหน้าขึ้นใหม่ ซึ่งไหมที่ใช้จะมีคุณสมบัติเลียนแบบธรรมชาติ และสามารถสลายตัวได้หมด วิธีการรักษาจะใช้เพียงเข็มเจาะรูเพื่อสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง อาจจะรู้สึกนิดเดียวตอนเข็มแทงครั้งแรก แต่พอเสร็จแล้วจะไม่รู้สึกอะไรเลย อีกทั้งไม่ต้องพักฟื้น และดูธรรมชาติมากกว่าการผ่าตัดดึงหน้า หรือการใส่ซิลิโคนเข้าไป เพราะการสอดไหมเข้าไปจะไม่มีการผูกและเย็บ แต่จะใช้การร้อย วางเส้นไหมที่ใต้ผิวหนัง แต่ข้อจำกัดของเทคนิคนี้คือ ต้องทำทุกๆ 2 ปี เพราะไหมที่ร้อยไว้จะมีการสลายตัว 6-10 เดือน ไม่เหมือนการผ่าตัดดึงหน้า หรือใส่ซิลิโคน ซึ่งมันไม่สลายตัว แถมนานๆ ไปมันจะไม่สวยเหมือนเดิมด้วย"



ในเรื่องข้อจำกัดของการใช้เทคนิคยกกระชับหน้าด้วยการร้อยไหมนั้น ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะราคาสูงถึงหลักแสน ซึ่งพอๆ กับการผ่าตัดยกกระชับหน้า แต่ทั้งนี้ข้อดีระยะยาวก็เยอะกว่า เพราะไม่ต้องผ่าตัด และเสี่ยงต่อชีวิต ผลที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติกว่า อีกทั้งสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปใต้ชั้นผิวหนังก็สลายตัวได้หมดจดด้วย

อีกหนึ่งความกังวลของสาวๆ นอกจากเรื่องริ้วรอยเหี่ยวย่นแล้ว การเสริมจมูกก็ยังคงได้รับความนิยมมาโดยตลอด จากแต่ก่อนที่รักษาด้วยวิธีผ่าตัดใส่ซิลิโคน ก็เปลี่ยนมาเป็นการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) แทน เพราะไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว จมูกก็โด่งได้ แต่ความโด่งของจมูกจะคงสภาพไว้เพียงระยะ 1- 2 ปี หรือน้อยกว่านั้น แล้วแต่สารที่ฉีดเข้าไป ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ ต้องอาศัยแพทย์ที่เชี่ยวชาญจริงๆ เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาผลของการฉีดฟิลเลอร์ผิดพลาดจนถึงขั้นตาบอดก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วด้วย การฉีดฟิลเลอร์จึงมีการพัฒนาให้ปลอดภัยมากขึ้น จากที่ใช้เข็มฉีดยาที่แหลมคม ก็เปลี่ยนมาใช้เทคนิคการฉีดด้วยเข็มปลายทู่ ซึ่งอันตรายน้อยกว่ามาก


"ที่ผ่านมาการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะใช้เข็มปลายแหลมฉีด ซึ่งค่อนข้างอันตรายมาก เพราะเมื่อแทงเข้าไป ความแหลมคมของเข็มจะไปโดนเส้นเลือดต่างๆ ใต้ผิวหนัง แทงเบายังไงก็เจ็บแน่นอน ยิ่งถ้าไม่ใช่แพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์จริงๆ ไม่ควรไว้ใจ สารที่ฉีดเข้าไปอาจไม่มีคุณภาพ ยิ่งเสี่ยงอันตรายถึงขั้นพิการได้ง่ายมาก เทรนด์การฉีดฟิลเลอร์จึงเปลี่ยนไป จะใช้เทคนิคการฉีดด้วยเข็มปลายทู่ (Blunt Cannula) ลักษณะเป็นท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปที่จมูก เพื่อนำสารฟิลเลอร์ใส่ไปในตำแหน่งที่ต้องการ เหมือนการวางแท่งซิลิโคน ซึ่งสารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดต้องเป็นสาร HA เท่านั้น เพราะสามารถสลายตัวหมด 100% ภายใน 8-12 เดือน การใช้เทคนิคนี้ ก็มีข้อจำกัดอยู่ที่ไม่สามารถแก้ปลายจมูก และปีกจมูกได้ดีนัก แต่แค่เวลาเพียง 10 นาที จมูกก็จะโด่งสวยเข้ารูป ดูเป็นธรรมชาติ"

จะเสริมเติมแต่งกันขนาดไหนก็ควรทำแค่พอดี และศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจด้วย จะได้สวยยาวนาน และปลอดภัยด้วย.


Twitter : Sriploi_social

credit :  thairath


Create Date : 04 มกราคม 2555
Last Update : 4 มกราคม 2555 12:23:45 น. 0 comments
Counter : 1667 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.