ฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อข้อเข่า ลดเสี่ยงปวดเรื้อรัง...เลี่ยงผ่าตัด

ฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อข้อเข่า ลดเสี่ยงปวดเรื้อรัง...เลี่ยงผ่าตัด

อวัยวะทุกส่วนในร่างกายนั้นมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ข้อเข่า อวัยวะอีกส่วนที่มีความหมายส่งผลต่อการเดิน การเคลื่อนไหว ดังนั้นหากเกิดการบาดเจ็บ ปวดบวม หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ ปล่อยทิ้งไว้ให้เนิ่นนานเพราะอาจลุกลามนำสู่อาการปวดเข่าเรื้อรังได้

ผศ.นพ.ภาริส วงศ์แพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูจาก ดีบีซี สไปน์คลินิกแอนด์ยิมให้ความรู้ว่า อาการปวดเข่าเรื้อรังไม่ได้เกิดขึ้นจากข้อเข่าเสื่อมอักเสบเพียงเท่านั้น สาเหตุของอาการที่สำคัญอาจไม่ได้นึกถึงกันอีกประการก็คือ อาการปวดเนื่องจากข้อเข่าขาดความมั่นคงซึ่งเป็นอาการที่เกิดได้บ่อยโดยเฉพาะหลังการบาดเจ็บเอ็นข้อเข่าซ้น ยืดหรือฉีกขาดและในอาการบาดเจ็บดังกล่าวยังเกิดได้ทั้งในกลุ่มนักกีฬาและคนทั่วไป

กลุ่มนักกีฬาอาจเกิดการบาดเจ็บได้ขณะเปลี่ยนทิศทางการวิ่ง เคลื่อนตัวหลบหลีก อย่างเช่น การเล่นฟุตบอล แฮนด์บอล บาสเกตบอล ฯลฯ เกิดแรงบิดที่ข้อเข่าอย่างกะทันหันหรือเกิดขึ้นในขณะจังหวะลงสู่พื้นหลังการกระโดด อย่างการเล่นวอลเลย์บอล ฯลฯ ซึ่งการบาดเจ็บทั้งสองกรณีมีความเหมือนกันคือ เมื่อมีแรงกระแทกที่ข้อเข่าอย่างรุนแรงในเวลาอันสั้น เมื่อกล้ามเนื้อไม่สามารถประคับประคองข้อเข่าไว้ให้อยู่ในแนวที่เหมาะสมได้จึงเกิดการบิดตัวทำให้เกิดการฉีกขาดของเอ็น

ส่วนกลุ่มคนทั่วไปก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกันในกิจกรรมชีวิตประจำวัน เช่น ลื่นเสียหลักขณะเดินขึ้น ลงบันได หรือขณะที่ขึ้น ลงจากฟุตบาท ฯลฯ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บเอ็นข้อเข่าทั้งชนิดที่รุนแรง เอ็นขาดต้องรับการผ่าตัด หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บปานกลาง เดินไม่ถนัดเป็นเวลามากกว่าหนึ่งสัปดาห์ แต่ไม่ต้องการการผ่าตัดก็ควรต้องได้รับการฟื้นฟูกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าให้กลับมาทำงานได้สมบูรณ์ ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสการเกิดความสึกหรอและเสื่อมอักเสบของข้อเข่าในระยะยาว
อาการที่แสดงว่าข้อเข่าไม่มั่นคงอาจพิจารณาได้หลังจากการวิ่ง กระโดดหรือเล่นฟุตบอล หากพบว่าเข่าบวมอาจเป็นอาการที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ ส่งสัญญาณบ่งบอกถึงความไม่มั่นคงโดยอนาคตอาจลุกลามต่อการทำกิจกรรมเหล่านั้น

ส่วนอีกอาการที่น่าสังเกตที่อาจเป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึงการเสื่อมสภาพในเข่า ก็คือ ขณะนั่งหรือลุกเดินหากมีอาการปวดเจ็บทันที เหยียด งอเข่าไม่ได้หรือในผู้ป่วยที่เข่าทรุดคือขณะกำลังเดิน หมุนตัว เข่าทรุดอ่อนยวบลงก็เป็นอีกสัญญาณแสดงให้เห็นว่าภายในข้อมีการสึกหรออยู่มาก

ดังนั้นหากปรากฏอาการดังกล่าวไม่ควรรั้งรอควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาวินิจฉัยว่าจะรักษาในแนวทางใดซึ่งการรักษามีทั้งทางยา การผ่าตัด การออกกำลังกายฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

ในการฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง นพ.ภาริสให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ควรเริ่มทำเมื่ออาการปวดทุเลาลงซึ่งวิธีปฏิบัติท่าเกร็งกล้ามเนื้อเข่าอย่างง่ายให้นอนหงายใช้หมอนหรือม้วนผ้าขนหนูที่แน่นๆ รองใต้ข้อพับหลังเข่า หนุนให้เข่างออยู่ประมาณ 10-15 องศา

จากนั้นออกแรงขา ออกแรงเกร็งเหยียดเข่า กดข้อพับหลังเข่าลงไปสู่หมอนหรือผ้าที่รองไว้โดยไม่ยกเท้าลอยออกจากเตียง ส้นเท้ายังคงสัมผัสเตียงอยู่ตลอดเวลาซึ่งจะสังเกตเห็นกล้ามเนื้อหน้าขาเกร็งขึ้น และลูกสะบ้ามีการเลื่อนตัวสูงขึ้น เกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 10-20 วินาทีแล้วพัก ควรทำซ้ำวันละ 30 ครั้ง

“ท่าดังกล่าวเมื่อทำได้คล่องโดยไม่มีอาการเจ็บปวดและทำได้ถูกต้อง ค่อยๆเพิ่มความยากในการฝึกโดยพยายามบริหารในลักษณะให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อแบบเดียวกัน โดยไม่ต้องออกแรงกดลงไปกับหมอนหรือผ้าขนหนูที่รองไว้ใต้ขาพับ การทำเช่นนี้จะทำให้กล้ามเนื้อหน้าขาและกล้ามเนื้อหลังขา ทำงานพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นจุดสำคัญเบื้องต้น ในการสร้างความมั่นคงของข้อเข่าโดยอาศัยแรงกล้ามเนื้อประคับประคอง “

ขั้นต่อไปให้ฝึกการเหยียบก้าวขึ้นและลง mini step แนะนำให้ใช้ไม้กระดานที่มีความหนา 1 นิ้ว และมีความกว้างเพียงพอที่จะไม่พลิกระหว่างเหยียบ วางแผ่นไม้กับพื้นแล้วก้าวขึ้นไปบนแผ่นไม้โดยใช้ขาข้างที่ไม่สบายเป็นขาที่ก้าวขึ้นไปและใช้ขาข้างที่สบายก้าวลงมา

ระหว่างการก้าวขึ้นและก้าวลงจะต้องควบคุมกล้ามเนื้อให้ทำงานในลักษณะเดียวกันกับที่ฝึกในท่านั่งและท่านอน หากทำได้ถูกต้องกล้ามเนื้อจะช่วยกระชับข้อเข่าไว้ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีอาการเจ็บปวดหรือไม่มีการหลวมคลอนแคลนระหว่างการก้าวซึ่งการฝึกก้าวเช่นนี้ควรทำโดยเน้นคุณภาพ เช่น อาจฝึกได้ถึงวันละ 30-50 ครั้งแต่ต้องมีการควบคุมที่สมบูรณ์ตลอด มิเช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเจ็บมากขึ้น

ส่วนผู้ที่ต้องการความมั่นคงในระดับที่สูงขึ้นไปกว่านี้ เช่นต้องการควบคุมความมั่นคงของข้อเข่าได้ในขณะการกระโดด การเลี้ยว การหมุนตัว การวิ่ง จะต้องทำการฝึกที่ยากขึ้นตามลำดับและอาจต้องมีผู้ควบคุมการฝึกอย่างใกล้ชิดสามารถปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูและหรือนักกายภาพบำบัดได้ในโรงพยาบาลเกือบทุกแห่ง ผู้ที่เป็นนักกีฬาอาจต้องใช้การฝึกฝนโดยใช้เครื่องมือช่วย เช่น ใช้เครื่อง Leg Press ที่สะดวกแก่การถีบในระดับต่ำและระดับสูง สามารถถีบได้ทีละขาเดียวหรือสามารถถีบได้ในท่าตะแคงข้าง และท่านอนหงาย เป็นต้น

ขณะที่ข้อเข่าเป็นข้อที่ต้องอาศัยกล้ามเนื้อช่วยประคับประคองความมั่นคง เมื่อได้รับการบาดเจ็บจึงควรต้องสร้างเสริมกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรงและมีการทำงานที่ถูกต้องกับจังหวะเวลา ทั้งนี้เพื่อประคับประคองข้อเข่าซึ่งจำเป็นต้องทำทั้งในผู้ที่เป็นนักกีฬาและไม่ใช่นักกีฬา โดยจะมีความต่างกันก็เพียงระดับความเข้มข้นในการฝึก อีกทั้งผู้ที่ยังไม่มีอาการบาดเจ็บก็ควรพิจารณาการสร้างเสริมสมรรถนะกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บด้วยเช่นเดียวกัน

เคล็ดลับสุขภาพดี : วิธีดูแลผิวให้เย็นสบาย สวยสดใสรับลมร้อน

เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนกันอีกแล้ว หนุ่มๆ สาวๆ ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดคงไม่อยากไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวจากเหงื่อที่ไหลอาบ แล้วไหนจะถูกรังสียูวีทำร้ายผิวอีก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีมีวิธีดูแลผิวให้เย็นสบายคลายร้อน รวมทั้งวิธีปกป้องผิวจากแสงแดดมาฝากกันด้วย

โดย บริษัทเฮลท์คอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เวชสำอาง แบรนด์ Provamed แนะนำวิธีการดูแลผิวในช่วงหน้าร้อนว่า สิ่งสำคัญที่สุดในหน้าร้อนคือ ครีมกันแดด เพราะผิวที่ต้องเผชิญกับแสงแดดแรงๆ บ่อยๆ นั้นจะหมองคล้ำ หยาบกร้าน เหี่ยวย่น เกิดฝ้าและจุดด่างดำ ที่สำคัญเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย ดังนั้นครีมกันแดดที่เราต้องเลือกใช้ควรมีค่า SPF 60 ขึ้นไปถึงจะพอ และควรเลือกครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้ง UVA และ UVB หรือหากจะลงเล่นน้ำก็ควรเลือกชนิดกันน้ำและเลือกชนิดที่ไม่เหนียวเหนอะหนะสำหรับหน้าร้อนเช่นกัน หากผิวแสบร้อนจากการโดนแดดเป็นเวลานาน ให้บำรุงผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และหลีกเลี่ยงแดดในวันถัดไป

ถึงแม้อากาศในฤดูร้อนจะทำให้หลายคนไม่อยากจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวกันสักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ปกติเคยทำเป็นกิจวัตรในเวลาเช้าและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่ผิวจะซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งเราสามารถบำรุงผิวในฤดูร้อนได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องเลือกครีมหรือโลชั่นที่เหมาะสำหรับหน้าร้อน การทาครีมควรเลือกโลชั่นเนื้อบางเบา และทาทันทีหลังอาบน้ำขณะที่ผิวยังหมาดๆ อยู่ จะทำให้โลชั่นหรือครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยให้ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเกินไปนัก หรืออาจทาแป้งฝุ่นทับจะช่วยให้รู้สึกสบายตัวขึ้น

สำหรับสาวๆ ที่จำเป็นต้องแต่งหน้า อย่าใช้รองพื้นที่หนาเกินไป เพราะจะทำให้สวยได้ไม่นาน หน้าก็จะมันเยิ้ม เนื่องจากครีมรองพื้นละลายเข้ากับความมันบนใบหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้มีสิวเห่อได้ ดังนั้นควรทาครีมกันแดดและรองพื้นบาง ๆ ก็พอ หรือทาแป้งแบบชริมเมอร์เพื่อช่วยเรื่องความสว่างสดใสแทน หมั่นเปลี่ยนฟองน้ำที่ใช้กับแป้งรองพื้น หรือล้างทำความสะอาดบ่อยๆ เพราะฟองน้ำที่ผ่านการใช้งานมานานเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะใครที่เติมหน้าทั้งวัน ยิ่งฤดูร้อนเหงื่อออกเยอะทำให้หน้ามัน ยิ่งทำให้ฟองน้ำสกปรกมากขึ้น

นอกจากการป้องกันผิวจากแสงแดดแล้ว หากอากาศร้อนจัดๆ การรับประทานทานผลไม้หรือดื่มน้ำผลไม้บ่อยๆจะช่วยผิวให้คลายร้อนได้ เช่น แตงกวา แตงโม แคนตาลูป หรือผลไม้ธาตุเย็น เพราะผลไม้ประเภทนี้จะอุดมไปด้วยน้ำที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวพอๆ กับน้ำ แต่ดีตรงที่มีรสชาติดีและเป็นอาหารบำรุงผิวที่จะได้มาพร้อมกับความหวานอร่อยสดชื่น นอกจากนี้ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เพื่อชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปกับเหงื่อ ช่วยรักษาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิวหนัง โดยเฉพาะน้ำเย็นๆ จะช่วยฟื้นฟูผิวได้ดี เช่น เวลาโดนแดดแรงๆ เป็นเวลานานๆ ให้ลองใช้น้ำเย็นล้างหน้า รับรองว่านอกจากจะรู้สึกผิวสดชื่นเย็นสบายแล้ว น้ำเย็นยังจะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้เป็นอย่างดีด้วย

เมื่อทราบกันแบบนี้แล้ว คงไม่ต้องกลัวแสงแดดจะมาทำลายความสนุกของสีสันหน้าร้อนกันอีกต่อไป แต่อย่าลืมพกแว่นกันแดด หมวก หรือร่มติดตัวไว้ด้วย เพื่อป้องกันแสงแดดอีกชั้นหนึ่ง เพราะนอกจากอุปกรณ์ป้องกันแดดพวกนี้จะช่วยให้ถ่ายรูปออกมาเป็นแฟชั่นสวยๆ ได้แล้ว ยังทำให้ผิวของเรามีสุขภาพดีอีกด้วย

สรรหามาบอก

-คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดยภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ได้จัดทำ “วีดีทัศน์คู่มือการเลี้ยงทารกและเด็กอ่อน” เพื่อแนะนำวิธีปฏิบัติตัวในการเลี้ยงดูทารกและเด็กอ่อนแก่ผู้เลี้ยงหรือมารดา โดยนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย สามารถปฏิบัติตามได้ด้วยตนเอง ภายใต้โครงการ “ลูกรัก” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ผู้สนใจสามารถติดต่อขอวีดีทัศน์คู่มือเลี้ยงทารกและเด็กอ่อนได้ที่โทร.0-2419-5960

-ฝ่ายสูติศาสตร์–นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขอเชิญผู้สนใจร่วมโครงการ “ตรวจเลือด (ฟรี) เพื่อหาระดับฮอร์โมนและการสร้างตัวของกระดูก” โดยผู้เข้าร่วมต้องเป็นสตรี อายุระหว่าง 42-50 ปีที่หมดประจำเดือนแล้ว (ไม่ได้ตัดมดลูก) และสตรี อายุระหว่าง 51-55 ปีที่ยังมีประจำเดือนปกติหรือมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ไม่เป็นโรคมะเร็ง โรคไทรอยด์ โรคตับ โรคไต สนใจติดต่อ คุณสมถวิล (ตึกภปร. ชั้น 7 ห้องเบอร์ 9) โทร.08-1684-8820 หมดเขต 31 มีนาคม 2555 และคณะแพทยศาสตร์ ขอเชิญผู้สนใจร่วมฟังการสัมมนาเรื่อง “แพทย์เตือนภัย หยุดภาวะโรคอ้วน...กรณีศึกษาจากประสบการณ์จริง” พร้อมเช็คภาวะโรคอ้วนและปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักฟรี! ในวันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555 เวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้องประชุมสดศรี วงศ์ถ้วยทอง ชั้น 18 ตึก ภปร.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สนใจสำรองที่นั่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ โทร.08- 9455- 2098

-โรงพยาบาลมนารมย์ จัดบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “จิตซึมเศร้า...รักษาได้” ในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2555 เวลา 08.30 -12.00 น. ณ ห้องประชุมมนารมย์ ชั้น 2 บางนา สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 0-2725-9595 หรือ //www.manarom.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

-ไลฟ์เซ็นเตอร์ เชิญชวนร่วมงานสัมมนาการดูแลสุขภาพฟันของลูกน้อย ในหัวข้อ “ฟันน้ำนม...ฟันชุดแรกแห่งชีวิต คุณอย่าคิดว่าไม่สำคัญ” ใน วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2555 เวลา 10.30-12.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี (LH Bank) สนใจสอบถามรายละเอียด และสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ฟรี (จำนวนจำกัด) โทร. 08-9228-8766 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.lifecenterthailand.com

ที่มา นสพ เดลินิวส์

Create Date : 29 มีนาคม 2555

Last Update : 29 มีนาคม 2555 18:06:57 น.

0 comments

Counter : 1328 Pageviews.