Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
ป่วยเล็กๆ กลายเป็นป่วยหนัก (4)



ตอนนี้เป็นตอนสำคัญเกี่ยวกับอาหารพวกผักและพืชประเภทไนท์เชดส์ (NIGHT-SHADES) ที่ได้ทิ้งท้ายไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนแล้วละครับ

การทิ้งท้ายไว้แบบอาทิตย์ก่อนทำให้เกิดปัญหาซึ่งจะต้องตอบและต้องแก้ว่า “เมื่อเป็นเช่นนี้เรากินพวกผักประเภทมะเขือ– แตงกวา ฯลฯ แล้วจะเป็นโทษแก่ตัวเราจริงหรือเปล่า?”
ถ้าใช้สำนวนแบบเจ้าฉ่อยที่ถามตอบกับนายสาทิสเมื่อ 4-5 ฉบับที่แล้วมา ก็คงต้องถามกันแบบนักเลงว่า

“แล้วเอ็งจะให้ข้าเชื่อใคร (วะ)?”

ใจเย็นๆคุณพี่ ผมมีคำตอบอย่างสวย งามให้คุณพี่เลือกใช้ครับ

1.ถ้าจะตอบตามแบบการทดสอบของกลุ่มนายแพทย์ทีโอดอร์ซาดิส แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์อริโซนา ก็ต้องบอกว่า “อย่าไปเชื่อมันกิน เข้าไปเถอะ ผักพวกไนท์เชดส์นี้ไม่มีอันตรายอะไรเลย”

2.ถ้าเอาตามแบบอาจารย์นายแพทย์เจมส์ บัลช์ แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์อินเดียนา (อาจารย์ท่านนี้ผมรักและนับถือท่านมาก) ท่านก็จะบอกว่า “ระวังให้ดี ถ้าคุณเป็นคนที่แพ้สารโซลานินในพืชกลุ่มไนท์เชดส์ ต้องระวังว่าคุณจะป่วย มีอาการของข้อต่ออักเสบอย่างแรง (ACUTE ARTHRITIS)”

3.ถ้าตอบตามแบบฉบับของนายสาทิส ก็ ต้องตอบว่า “ต้องดูที่สภาพของร่างกายและวิธีที่คุณกินผักพวกนี้ด้วย ถ้าระวังตัวให้ดี กินเข้าไปเถอะครับ ไม่เป็นไร ถ้ากินผิดกาลเทศะ รับรองข้อต่อ อักเสบเล่นงานแน่ อย่างที่ผมกำลังเป็นจนเดินเกือบไม่ได้อยู่นี่แหละ”

เอาละครับ ทีนี้เรามาดูรายละเอียดและพื้นฐานของการทดสอบของแต่ละคนว่า ลักษณะของการตรวจสอบนั้นเป็นอย่างไร

การทดสอบของอาจารย์ทีโอดอร์ซาดิสนั้น เป็นการสอบถามจากคนไข้หลายๆท่านว่า กิน พวกพืชไนท์เชดส์เหล่านี้เข้าไปแล้ว มีอาการอย่างไร หรือเปล่า

การทดสอบแบบนี้ไม่ได้ทำกันอย่างจริงจัง และคนไข้หลายคนของท่านอาจจะเป็นคนไข้ประเภทที่ไม่ชอบกินผักหรือพืชประเภทไนท์เชดส์ พิษสงของเจ้าสารโซลานินยังไม่สะสมในร่างกายมากนัก โทษของมันจึงยังไม่ปรากฏให้เห็น

แต่จากการทดสอบของอาจารย์บัลช์นั้นทำกันอย่างจริงจังมากกว่านักโภชนาการตามแนวทางวิทยาศาสตร์ทางอาหาร ซึ่งอยู่ในกลุ่มของท่านไปศึกษาการบริโภคอาหารทางภาคใต้ของอเมริกา และเลยไปถึงอเมริกาใต้อย่างเม็กซิโกและเปรู ซึ่งบริโภคอาหารประเภทไนท์เชดส์กันมาก เช่น อาหารพวกมันฝรั่ง, มันเทศ, มันสำปะหลัง เป็นต้น

ได้พบว่าพวกที่ชอบบริโภคพืชกลุ่มไนท์เชดส์เหล่านี้ มีอาการข้อต่ออักเสบ เป็นปริมาณมากกว่า 50%
ข้อสังเกตที่น่าสนใจอีกข้อหนึ่งก็คือ กลุ่มผู้บริโภคพืชประเภทไนท์เชดส์มากนี้ เป็นผู้ที่มีฐานะยากจน

(อาหารอะไรที่เสาะหาได้ง่ายและมีมวลหรือเนื้อมากๆ ผักจะมีราคาถูกกว่าอาหารประเภทเนื้อสัตว์)

ทีนี้ก็มาถึงข้อสังเกตของนายสาทิสแล้วแหละครับว่า จะว่ากันอย่างไร?

ผมคิดว่าถ้าเรารู้จักวิธีกินผักพวกไนท์-เชดส์จะไม่มีอันตรายอะไรเลย แต่ถ้ากินอย่างลวกๆหรือกินผิดกาลเทศะ จะเกิดโทษอย่างมากมาย ลองดูตามลักษณะและวิธีกินของผมตอนนั้นดูนะครับ
ผมเป็นคนชอบกินผัก แต่ตอนที่เกิดอาการข้อต่ออักเสบขึ้นมา เป็นช่วงเวลาที่ผมเพิ่งฟื้นไข้จากการผ่าตัดใหม่ๆ

นั่นคือแฟคเตอร์ข้อหนึ่งล่ะ แปลว่าตอนนั้นร่างกายผมอ่อนแอมากๆ I.S. หรือ IMMUNE SYSTEM อยู่ในระดับต่ำเกือบถึงศูนย์

อีกข้อหนึ่งพอร่างกายเริ่มฟื้นกินอาหารได้ก็ถึงช่วงเวลาน้ำท่วมใหญ่พอดี ผมอยู่คนเดียวต้องทำอาหารกินเองอย่างที่เล่าให้ฟังแล้ว ไปตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เกตหาซื้อผักใบๆ จะมาทำอาหารไม่มีเหลือเลย มีแต่พืชประเภทเป็นลูกๆ เช่น มะเขือ แตงกวา บวบ พวกนี้เท่านั้น หมายความว่าต้องกินผักประเภทไนท์เชดส์เป็นหลักและเป็นเวลานานอยู่ทุกวันเลยแหละครับ

จากเหตุผลสองประการ รวมทั้งการที่ขาดการปฏิบัติตัวที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ การออกกำลังกาย ผมชอบเล่นเทนนิสมากและต้องออกกำลังกายแบบหนักๆแทบทุกวัน

เมื่อไม่ได้ออกกำลังกายเป็นเดือนๆ การหมุน เวียนของระบบต่างๆในร่างกาย (METABOLISM) ก็เลวลง เหมือนรถยนต์จอดทิ้งไว้นานๆ สนิมขึ้น สตาร์ตเครื่องเท่าไหร่ก็ไม่ติดนั่นแหละครับ

ข้อแนะนำของผมเกี่ยวกับพืชไนท์เชดส์จึงมีดังต่อไปนี้

1.พืชผักประเภทไนท์เชดส์ เป็นพืชผักที่ดีในด้านโภชนาการ มีทั้งวิตามิน-แร่ธาตุ และบางประเภทก็ยังมีโปรตีน แถมอยู่ในนั้นด้วย อย่างเช่น มันฝรั่ง มันไข่ มันเทศ เป็นต้น

ฉะนั้นเลือกกินพวกผักหลายๆอย่างคละกันไป อย่ากินแต่ผักประเภทไนท์เชดส์อย่างเดียว (เพราะมันอร่อย)

2.อย่ากินชนิดสดๆ แต่ให้สลับกันสดๆบ้างสุกๆ บ้าง (ต้ม-ผัด) บ้าง

3.ให้ดูสภาพของร่างกาย ถ้ากำลังป่วย หรือเพิ่งฟื้นไข้ หรือแน่ใจว่า IMMUNE SYSTEM กำลังตกต่ำ งดพวกอาหารไนท์เชดส์เสียเลยจะดีกว่า

4.ถ้าคิดว่าเริ่มมีอาการของข้อต่ออักเสบ นอกจากจะหยุดกินอาหารประเภทไนท์เชดส์แล้ว ให้ใช้วิธีกำจัดท็อกซินออกจากร่างกาย เช่น ทำดีทอกซ์ คุมอาหาร (ใช้สูตรอาหารชีวจิตนั่นแหละ) และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ

เราแนะนำให้กินวิตามินกลุ่มแอนตี้ออกซิแดนต์ (วิตามิน A, C, D, E อย่างละ 1 เม็ด ต่อวัน 2 อาทิตย์ แถมด้วย NIACIN (500 mg.) และ ZINC อย่างละ 1 เม็ดด้วย

เรื่องการรักษาและดูแลอาการข้อต่ออักเสบนี้อย่าทำเล่นๆนะครับ ต้องทำกันจริงๆ เพราะเคยปรากฏรายงานจากกลุ่มของอาจารย์บัลช์ว่า บางคนมีอาการข้อต่ออักเสบอ่อนๆ แต่ปล่อยไว้นานไม่ดูแลตัวเองให้ดี เลยกลายเป็นโรคลูปัส (SLE)

ขึ้นมาก็ยังมีเลยครับ

ฉะนั้นอย่าทำเล่นๆ ขอเตือนว่า โรคข้อต่ออักเสบไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ปล่อยให้มันลุกลาม ในไม่ช้าชีวิตต่อไป โดย เฉพาะเมื่ออายุมากแล้ว จะทรมานมากเลยครับ

แก่อย่างยากจนแต่มีสง่าราศี ดีกว่าแก่อย่างเศรษฐีแต่เดินไม่ได้นะครับ

อย่าลืมคอร์สสุขภาพของชีวจิต เราเริ่มเป็นชุด ยังเหลืออีก 2 ชุดครับ


1. “อยู่โดยไม่ป่วยทำอย่างไร” วันอาทิตย์ 29 มกราคม 2555 จะสอนแนวทางชีวจิต การทำอาหาร การออกกำลังกาย รำตะบอง และตอบคำถามสุขภาพ โทร. 0-2877-1111 ต่อ 1032

2. สปาร์ตัน “เริ่มชีวิตใหม่ด้วย BMU” วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2555 มีทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลกเรื่องสุขภาพและแนวชีวจิต และทางธรรมจะได้กราบรับฟังธรรมจากท่านอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก โทร. 0-2422-9111 ต่อ 2108 และ 08-1376-8657

▼ป่วยเล็กๆกลายเป็น ป่วยเรื้อรัง–ป่วยหนักได้ (1)

▼ป่วยเล็กๆ กลายเป็นป่วยเรื้อรัง–ป่วยหนักได้ (2)

▼▲ป่วยเล็กๆกลายเป็นป่วยหนัก (3)

credit : thairath


Create Date : 22 มกราคม 2555
Last Update : 22 มกราคม 2555 12:56:14 น. 0 comments
Counter : 1012 Pageviews.

Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.