bloggang.com mainmenu search

คอลัมน์ ชิมชิล-ชิล
โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ. 


 


น้อยคนนักในวงการนักชิม และในหมู่ผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะแฟนรายการ "SME ตีแตก" ที่จะไม่รู้จัก "เจ๊จง" หรือ "จงใจ กิจแสวง"

แฟน "หมูทอด" ของ "เจ๊จง" นั้น มีตั้งแต่คนหาเช้ากินค่ำ มนุษย์เงินเดือน ดารา คนชื่อดัง และมหาเศรษฐี ซึ่งใครมาที่ร้านจะต้องเห็นคนเข้าคิวยาวที่หลากหลาย และทุกคนเท่าเทียมกันในการ "รอ" ที่จะได้ลิ้มชิมหมูทอด และเมนู "ข้าวแกงบุฟเฟต์" ที่มีให้เลือก

ราคาเป็นกันเองมากกกกกก...ข้าวราดแกง ข้าวหมูทอด 20-25 บาท ทานได้อิ่ม จะเพิ่มกับราคาไม่เกิน 5-15 บาท ข้าวเปล่า 5 บาท

น้ำแกงจืดถ้วยละ 5 บาท ข้าวสวยเติมได้ "ไม่อั้น" (เจ๊หุงข้าวพร้อมกัน 7 หม้อต่อเนื่อง ใช้ข้าววันละ 10 กระสอบ) ผักหยิบตามใจชอบ แล้วจะไม่ให้เจ๊เป็น "ขวัญใจคนยาก" ได้ยังไง

รสชาตินั้นไม่ต้องโฆษณา หมูทอดของเจ๊ใครเคยทานแล้วจะรู้ เรียกว่าไม่อยากทานที่อื่นอีก ต้องดั้นด้นกลับมา "ต่อคิว" หรือไหว้วานคนที่ผ่านให้ช่วยซื้อมาฝากเป็นประจำ

ผมเองเป็นประเภทหลัง ไม่ว่าขอให้พรรคพวก ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งสำหรับหมูทอดเจ้านี้ ผม "กล้า" ที่จะออกปากใช้ท่าน "ผบ.ทบ.-ผู้บัญชาการที่บ้าน" ไปปฏิบัติภารกิจแทนเสมอ ด้วยข้ออ้างว่า "งานยุ่ง" ซื้อหมูมาทีเป็น "กิโล" ปัจจุบันขายกิโลละ 250 บาท จะทานหมดในมื้อเดียว (ถ้าทานกันสัก 3-4 คน) หรือเก็บไว้ทานต่อได้




แต่เชื่อผม...เริ่มแล้วยากจะหยุด...ส่วนใหญ่ไม่เหลือไปถึงมื้อที่สองมากนัก!!

ครั้นเมื่อ"ตกงาน"รอบนี้ข้ออ้างนั้นหมดไปทำให้ได้มีโอกาสไปร้านหมูทอดเจ๊จงด้วยตัวเองจอดรถที่ "โลตัส" พระราม 4 เดินออกด้านหลัง เห็นป้ายเบ้อเริ่ม และ "เจ๊จง" ยืนบัญชาการอยู่ด้านหน้าร้าน ลูกค้าคึกคัก ที่นั่งในร้านเต็ม คิวยาวแต่เคลื่อนตัวเร็ว กลิ่นกับข้าวหอมอบอวล เครื่องหั่นหมูทอดทำงานต่อเนื่อง ยืนคุยกับเจ๊ไปกลืนน้ำลายเอื้อกๆ ไป

เมื่อได้คุยกับ "ตัวเป็นๆ" แล้ว จึงเข้าใจว่าทำไม "เจ๊" จึงประสบความสำเร็จ!!

อย่างแรกเลยคือ เจ๊เข้าใจ "หัวอก" ลูกค้า ด้วยความที่เติบโตมายากจน ต่อสู้ชีวิตมา ค้าขายโชห่วย..เจ๊ง ของขึ้นรถขายตามแฟลต..เจ๊ง เปียแชร์โดนโกง..เจ๊ง คลุกคลีกับคนที่ใช้ชีวิตหาเช้ากินค่ำ สังคมสลัม สังคมแฟลต เข้าใจข้อจำกัด เข้าใจฐานะความเป็นอยู่ เมื่อตัดสินใจทำอาหารขายก็ต้องให้ลูกค้าที่มีสตางค์ในกระเป๋าน้อย "ซื้อได้ กินได้"

ส่วนตัวการเจ๊ได้บทเรียนชีวิต และเรียนรู้ที่จะปรับตัวเปลี่ยนแปลง สะสมความ "อึด" ไม่ย่อท้อ เป็นคุณสมบัติของคนที่จะประสบความสำเร็จทุกคน ไม่ว่าจะทำอะไร เจ๊บอกว่า "ครั้งแรก" คนเราอาจ "พลาด" กันได้ แต่ครั้งที่สอง "ไม่มี"



บวกกับความเป็นคนใจกว้าง ใจนักเลง ที่อยาก "ช่วย" แม้คนที่เจ๊เรียกว่า "แย่ๆ" เป็นโจรเป็นขโมยใครอยากกลับใจ เจ๊พร้อมช่วย ใจดีด้วย ให้งานทำ ถึงแม้หลายคนเจ๊เล่าว่าช่วยแล้ว แต่ในที่สุดก็ไม่พ้นวงอโคจรนั้น ซึ่งก็ต้องทำใจ

เมื่อประกอบกันเข้า ทำความเป็น "เจ๊จง" คือคนที่คิด "โมเดลธุรกิจ" สำหรับคนหมู่มาก คนเดินถนน "เข้าถึง" และได้กินอาหารมีคุณภาพ วัตถุดิบดี อร่อย ในราคาสำหรับ "คนยาก" ที่สำคัญคือ ไม่เอารัดเอาเปรียบแม้จะ "ดัง" แล้ว ทำให้ลูกค้าแวะเวียนกลับมาประจำ

เจ๊เล่าว่า มีบางคนวันทำงานมาทานทุกวัน วันหยุดพาครอบครัวหอบลูกหอบเต้ามาทานอีกก็มี เมื่อได้ "ปริมาณ" ลูกค้า "มาร์จิ้น" ที่ต่ำก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

เจ๊หาความรู้ต่อเนื่อง เมื่อก่อนไม่มีอินเตอร์เน็ต เข้าร้านหนังสือซีเอ็ด แอบเปิดดูประจำ เดี๋ยวนี้ง่ายขึ้น ความรู้อยู่บนจอ ส่วนเจ๊เองมีทั้งเฟซบุ๊กในนาม "เจ๊จงหมูทอด"

ทวิตเตอร์ และไอจี-อินสตาแกรม @jehjong สื่อสารกับลูกค้าต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเจ๊ยังได้ "กูรู" อีกหลายคนช่วยแนะนำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์ ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ด้วยความที่เจ๊เป็นคนจริงใจ และกล้า "ถาม" จึงได้ข้อมูลไปขบคิดเพื่อปรับปรุงธุรกิจตนเอง

ถามเจ๊ว่าอยากทำอะไรต่อ เจ๊บอกว่าเดี๋ยวนี้มีทั้งหมด 7 สาขา ลูกๆ ช่วยทำ แต่ที่อยากทำจริงๆ คือ ทำร้านแบบ "แมคโดนัลด์" มีระบบทำงานทันสมัย อยู่บนห้าง ราคาถูกเหมือนร้านดั้งเดิม และให้โอกาสคนด้วยการเพิ่มการจ้างงาน ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองเปิดแล้ว เป็นสาขาเทพารักษ์ อยู่ในโครงการปาล์มไอส์แลนด์ ตรงข้ามหมู่บ้านทิพวัลย์ (สมุทรปราการ)

ต้องตามไปดู ตามไปชิมกันครับ!!

 

ขอบคุณ มติชนออนไลน์

คอลัมน์ ชิมชิล-ชิล คุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ  

Create Date :15 มีนาคม 2558 Last Update :15 มีนาคม 2558 11:43:21 น. Counter : 1482 Pageviews. Comments :0