bloggang.com mainmenu search

คอลัมน์ ชิม ชิล-ชิล  โดย สุรนันทน์ เวชชาชีวะ



"ดารานักแสดงทุกคนจะ "กอด" ความกลัว จะคิดเสมอว่าเมื่อถึงวันที่ตกกระป๋องแล้ว จะทำมาหากินอะไร" สารวัตรต้น พ.ต.ท.ทวยเทพ เดวิด วิบุลศิลป์ เล่าถึงความรู้สึกเมื่อถามถึงชีวิตที่เคยเป็น "ดารา" ที่พลิกผันมาเป็น "คนขายกาแฟ" และ "ตำรวจ"


//www.matichon.co.th/online/2015/01/14202733141420276312l.jpg

ชีวิตการแสดงของสารวัตรต้นนั้น เริ่มจากการปรากฏตัวในโฆษณาดังของไวน์คูลเลอร์ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีประโยคเด็ด "บอยไม่ดื่ม" ด้วยมาดหล่อเหลา เป็นลูกครึ่งหน้าฝรั่ง และบุคลิกกวนๆ แต่น่ารัก มีอารมณ์ขันแบบนักแสดงดังฮอลลีวู้ด "จิม แครี่"

ความน่ารัก ความกวน และอารมณ์ขันยังคงอยู่ครบถ้วนจนทุกวันนี้ เพราะเป็นตัวตนที่แท้จริง ใครไม่เชื่อขอเป็นเพื่อนใน "เฟซบุ๊ก" แล้วอ่าน "โพสต์" ต่างๆ จะประจักษ์ทันที!! 

จากโฆษณาสู่การเป็น "ดาวร้าย" ในละครช่อง 7 โลดแล่นในจอเงิน 4-5 ปี มีสตางค์ มีโอกาส ชีวิตจึงเดินหน้าต่อเข้าสู่ธุรกิจกาแฟ สารวัตรต้น "ปิด" ประตูการเป็นนักแสดง ไม่เอา "ภาพ" ของความโด่งดังในอดีตติดมา แม้เพื่อเป็น "พรีเซ็นเตอร์" ของร้าน อย่างดาราคนอื่นๆ ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ของสารวัตรต้นเอง ว่าจะไม่ "ผูกติด" ความเป็นดารากับการประกอบกิจการ

"วันหนึ่งคนจะลืมความเป็นดารา แต่ธุรกิจต้องยืนต่อได้" น่าคิดครับ...น่าคิด 

เมื่อถามถึง "กาแฟ" จึงรู้ว่าจริงๆ แล้วกาแฟมาก่อนการเป็นนักแสดง ถึงขั้นเรียกได้ว่า "อยู่ในสายเลือด" เพราะคุณพ่อของสารวัตรต้น ถึงจะมีพื้นฐานอาชีพรับราชการเป็นผู้พิพากษา แต่มีไร่กาแฟเล็กๆ ที่ทำเป็นงานอดิเรก สารวัตรต้นจึงโตมาในบ้านที่อบอวล

ด้วยกลิ่นกาแฟ ไปไร่เดินดอยตั้งแต่เด็กๆ เข้าใจถึงเมล็ดและพันธุ์ การคั่ว การอบ และการทำธุรกิจส่งเมล็ดกาแฟขาย ที่มีวัฏจักรขึ้นลง

แม้วิกฤตเศรษฐกิจ "ต้มยำกุ้ง" ฟองสบู่แตกเมื่อปี 2540 เมื่อนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเจ้าประจำเจ้าเดียวที่ซื้อกาแฟของไร่ "ฆ่าตัวตาย" ก็ผ่านมาแล้ว!!

ประสบการณ์ทั้งหมดได้ "ตกผลึก" ในตัวสารวัตรต้น ทำให้เข้าใจถึงกระบวนการทุกขั้นตอน จากต้นตอของต้นกาแฟสู่จนปลายทางหน้าร้าน และการนำเสนอให้เป็น "แบรนด์" ที่ติดหูติดตา "Coffee Love" หรือ "กาแฟแห่งรัก" จึงเกิดขึ้น


//www.matichon.co.th/online/2015/01/14202733141420276328l.jpg

แต่ "สมรภูมิ" ของธุรกิจใช่ว่าง่ายเหมือนโยนกล้วย..เอ๊ย!..ปอกกล้วยเข้าปาก สารวัตรต้นขายตั้งแต่เมล็ดกาแฟ ที่คัดเลือกคุณภาพด้วยตนเอง จนกาแฟที่ขายเป็นถ้วย เครื่องทำกาแฟ เครื่องบดกาแฟ และแน่นอนที่สุด ขาย "แฟรนไชส์" ให้คำแนะนำในการตั้งร้าน การทำธุรกิจ ทำการตลาด สอนทำกาแฟ "บางคนถึงขั้นให้ดูฮวงจุ้ย ยกศาลพระภูมิด้วย" สารวัตรต้นเล่าพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

แล้ว "ตำรวจ" ล่ะ มาตอนไหน (หุหุ) "ตอนขึ้นไปลุยทำไร่กาแฟบนดอย โดนอิทธิพลต่างๆ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เลยขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นตำรวจ เพื่อนบอกว่าอยู่นอกเขต ไม่รู้จะช่วยยังไง แล้วส่งใบสมัครเป็นตำรวจมาให้ เป็นทางออก" กรอกใบสมัคร แถมสอบได้ จึงมียศติดบ่ามาจนทุกวันนี้

ที่น่าภูมิใจคือ สารวัตรต้นปฏิบัติหน้าที่ราชการเต็มที่ ด้วยเป็นคนมีความรู้ เรียนจบตรีนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ โทจากสหรัฐอเมริกาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ช่วยราชการได้มาก และกลายเป็นอาชีพที่ตนรัก ควบคู่กับการทำธุรกิจ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องแบบไป "เบ่ง" กับใคร แต่เชื่อได้ว่าทำให้ไม่มีใครมายุ่งมากวนโดยธรรมชาติ

"Coffee Love" ปัจจุบันมีประมาณ 150 สาขาทั่วประเทศ และสารวัตรต้นยังทดลองทำรถขายกาแฟ เป็น "Coffee Truck" ตอนนี้มีคันเดียว เสาร์อาทิตย์จอดที่สวนจตุจักร วันธรรมดารับออกงาน งานสวด งานแต่ง ไปหมด 

แต่สำหรับคอกาแฟ ผมแนะนำให้ไปที่ต้นทาง ร้านแฟรนไชส์บางครั้งทำตามรสนิยมท้องถิ่น ดังนั้น ใครอยากชิมกาแฟสารวัตรต้นของแท้ไปที่ร้านที่ประชาชื่น มีกาแฟทุกชนิดให้ลอง ร้อน เย็น ตามใจ ผมได้จิบแล้ว เชื่อทันทีว่าสารวัตรต้น "เข้าใจและเข้าถึง" ความเป็นกาแฟ 

และใครสนใจจะหารือถึงการเปิดร้าน การเป็นผู้ประกอบการใหม่ หรือจะซื้อเครื่องอุปกรณ์ ขอคำแนะนำ แวะไปได้ ปะเหมาะเคราะห์ดีได้ถ่ายรูปนั่งคุยกับสารวัตรต้น และจะได้ช่วยกระจาย "ความรัก" ผ่านกาแฟกันครับ!!

ที่มา :  มติชนรายวัน 3 ม.ค. 2558 หน้า 14

 

ขอบคุณ มติชนออนไลน์  - มติชนรายวัน

คอลัมน์ ชิม ชิล-ชิล  

คุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    

Create Date :04 มกราคม 2558 Last Update :4 มกราคม 2558 10:01:13 น. Counter : 2723 Pageviews. Comments :0