bloggang.com mainmenu search

คอลัมน์ ชิมชิล-ชิล
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558  มติชนรายวัน




 

 

 

 

 

 

 

 

ผม ชอบใช้วิธีการ "เดิน" มากกว่านั่งรถไปไหนมาไหนเวลาไปต่างประเทศ และหากต้องไปไกลๆ ก็ใช้รถใต้ดินเป็นหลัก ถึงสถานีแล้วเดินไปยังจุดหมายที่ตั้งไว้

โดยเฉพาะในเมืองอย่างโอซา ก้าและเมืองญี่ปุ่นอื่นๆ คนญี่ปุ่นก็เดินกันระเบิดเถิดเทิง ซึ่งสะดวกสบายเพราะทางเดินเท้าหรือฟุตปาธนั้น กว้างและเรียบไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ ไม่เหมือนกรุงเทพฯที่นอกจากต้องตั้งสติหลบความตะปุ่มตะป่ำแล้ว ยังต้องปีนป่ายในบางช่วง เพราะขอบสูงไม่เป็นทางลาดขึ้นลงในจุดที่จะข้ามถนน

ทั้งหมดเพราะเมืองเหล่านี้เขาเอา "คน" เป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะคนเดินถนนที่เป็นคนส่วนใหญ่ ส่วนทางลาดนั้นเพื่อให้ทั้งคนเดิน คนพิการนั่งรถเข็น และคนขี่จักรยานสะดวก ซึ่งคนโอซาก้าขี่จักรยานกันจำนวนมาก ต้องคอยหลบกันดีๆ

 หน้าร้านรวงริมทางมีที่จอดจักรยานเป็นระเบียบ มีบางแห่งทำเป็นที่จอดรถจักรยานเก็บเงินเหมือนที่จอดรถ ที่ดีคือจอดที่ไหนไม่ต้องล็อก ขโมยไม่มี จึงไม่ต้องคล้องโซ่ใส่กุญแจขนาดใหญ่เหมือนเมืองไทยหรือนิวยอร์ก แม้ทางข้ามถนนยังมีเลนจักรยาน!!



 

 

 

 

 

 

 

 

 

ท่านผู้นำเมืองไทยเห็นขี่จักรยานแอ๊กอาร์ตอยู่ ต้องทำให้เป็นจริงนะครับ ทั้งโครงข่ายสนับสนุน ทำทางคนเดิน ทางขี่จักรยานที่ชัดเจน ราบเรียบเป็นระเบียบ มีกฎกติกาเพื่อความปลอดภัย และสร้างสิ่งจูงใจให้ชาวบ้านร้านตลาดคนทำงานขี่ กันจริงๆ จัง

 ไม่เพียงแต่เพื่อเป็นการออกกำลังกายหรือซื้อจักรยานมาขี่อวดกันของชนชั้น กลาง-สูงแต่อย่างเดียว ที่สำคัญคือควรทำให้ทางเท้าเป็นของคนเดินและจักรยาน วันนี้ดีที่มีการ "จัดระบบ" ร้านขายของริมทาง ผมเห็นด้วย

 แต่ก็ต้องไปสร้างทางเลือกจัดพื้นที่ใหม่ให้ร้านเหล่านั้นทำมาหากินได้ ไม่ใช่ไปไล่ที่เฉยๆ ทั้งเมื่อทางเท้าโล่งแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้มอเตอร์ไซค์ขึ้นมาขี่กันไปมาอย่างที่เป็นอยู่หลายแห่ง

และเมื่อได้เดินออกกำลัง ก็ย่อม "หิว" และเมื่อมาโอซาก้า ถ้าไม่ได้ชิม "โอโคโนมิยากิ-Okonomiyaki" ต้องเรียกว่า มาไม่ถึง เพราะ "โอซาก้า" ถือเป็นพื้นที่ใจกลางของอาหารประเภทนี้ อีกเมืองใหญ่คือ "ฮิโรชิม่า" ซึ่งจะมี "สไตล์" และ "เอกลักษณ์" ที่แตกต่างกัน

และโอโคโนมิยากิ เป็นอีกจานที่รับอิทธิพลตะวันตกมาผสมผสานเป็นอาหารจานญี่ปุ่นชัดเจน เพราะมีพื้นฐานมาจาก "แพนเค้ก" ของฝรั่ง แถมน้ำราดที่เข้มข้นที่เรียก "โอโตฟูกุ-Otofuku" ยังมีส่วนผสมจากซอสวูสเตอร์เชียร์ (Worcestershire) เสริมด้วยซอสคิวพีเมโยเนส (Kewpie mayonnaise) บนหน้า "แพนเค้ก"




 

 

 

 

 

 

แต่ ก็ไม่ใช่แพนเค้กที่เป็นอาหารเช้าฝรั่ง ส่วนผสมรสชาติเป็นญี่ปุ่นแน่ๆ เพราะทำจากแป้ง กะหล่ำปลี และอาจใส่อะไรอีกมากมายจากเนื้อหมู กุ้ง หอย เส้นราเม็ง ไข่ทอด รวมถึงปลาแห้ง "Bonito" ที่ใช้โรยหน้า ซึ่งเมื่อโดนความร้อนจะเหมือน "เต้นระบำ" โดย "โอโคโนมิยากิ" มีความหมายทำนอง "ชอบอะไร, ปรุงใส่เลย-what you like, cooked"

แปลก ที่ไทยเราเรียก "พิซซ่าญี่ปุ่น" อาจเพราะเห็นเป็น "ของคาว" และมีหน้าคล้ายพิซซ่า แทนที่จะเรียกว่า "แพนเค้ก" แต่วิธีการทำจริงจะ "ทอด" แบบแพนเค้กมากกว่า "อบ" แบบพิซซ่า

ร้านที่ดังที่สุดแห่งหนึ่งในโอซา ก้าคือ ร้านที่ชื่อ "มิซูโน่-Mizuno" ขากอล์ฟอย่าเข้าใจผิด ชื่อเดียวกันแต่นี่เป็นร้านอาหาร ไม่ใช่ร้านขายอุปกรณ์-ไม้กอล์ฟ!!

ร้าน ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินนัมบะ (Namba Station) ต้องรอต่อคิวหน่อยและต้องใจเย็นๆ ร้านเล็ก มีสองชั้น ชั้นล่างนั่งเคาน์เตอร์ มี 7 ที่นั่ง ชั้นบน โต๊ะละ 4 คน มีสัก 5-6 โต๊ะ แต่คุ้มการรอครับ ทอดให้ดูอยู่ตรงหน้า ไปสองคนสั่งคนละอย่างจะได้ชิมกันทั่ว อิ่มแน่นอนครับเพราะ "ไส้ใน" แน่น และรสชาติอร่อยกว่าที่เคยทานที่อื่นมาทั้งหมด

อิ่มอร่อย หากาแฟล้างคอ โอซาก้ามีร้านกาแฟจำนวนมาก ส่วนใหญ่รสชาติดี ขนมอร่อย เดินไปชิมไป ชิล..ชิล สบายๆ ได้เลยครับ

ที่ ดังหน่อยก็เห็นจะเป็น "Honolulu Coffee" มีหลายสาขา ที่โตเกียวก็มี คล้ายๆ Starbucks แต่งร้านบรรยากาศ "ฮาวาย" เพราะกิจการเริ่มจากร้านเล็กๆ ที่เกาะฮาวาย กาแฟอร่อยกลิ่นหอมใช้เมล็ดพันธุ์ "โคน่า-Kona" ซึ่งเป็น "อาราบิค่า" ปลูกบนเขาในเขตโคน่าบนเกาะใหญ่ของฮาวาย หาดื่มได้เฉพาะที่ฮาวายกับญี่ปุ่นเท่านั้น

พอหอมปากหอมคอที่โอซาก้า สัปดาห์หน้าผมพาไปเกียวโต ขึ้นรถไฟไปแค่ครึ่งชั่วโมง มีร้านอร่อยๆ ไม่แพ้กัน!!

 

ขอบคุณ มติชนออนไลน์ - มติชนรายวัน

คอลัมน์ ชิมชิล-ชิล - คุณสุรนันท์ เวชชาชีวะ

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ

Create Date :18 มกราคม 2558 Last Update :18 มกราคม 2558 11:16:05 น. Counter : 873 Pageviews. Comments :0