bloggang.com mainmenu search

ชีพจรตะลอนทัวร์ .. 

ข้าวหน้าหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว (170.-) เมนูที่หน้าตาดูคล้ายข้าวขาหมูบ้านเรา ซึ่งพอชิมแล้วรสชาติก็ไม่หนีกันเท่าไหร่ เรียกว่าเป็นเมนูทานง่าย ถูกปากคนไทยได้ไม่ยาก



ตามมาติดๆด้วย ข้าวหน้าหมูผัดกิมจิ (170.-) ซึ่งที่นี่ทำออกมา รสชาติกลมกล่อม ถูกใจมาก  ทั้งส่วนของข้าวและกิมจิที่ไม่เปรี้ยวจนเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าเนื้อหมูหนาไปหน่อย เลยทำให้ทานยากไปนิด แต่โดยรวมถือว่าผ่าน โดยทั้งสองเมนูถูกเสิร์ฟมาในชามเซรามิคนำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยเก็บความร้อนให้อาหารอุ่นเป็นเวลานาน อีกด้วย



ถัดมาเป็น ปลาย่างสึโบได (590.-) จานนี้ราคาอาจจะดูสูงไปสักหน่อย แต่พอได้ชิมรสชาติแล้วถือว่าไม่แพงเลย เพราะนอกจากจะเป็นเนื้อปลานำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและไม่ค่อยเห็นตามร้านทั่วไปแล้ว ด้วยความนุ่มของเนื้อปลาแบบแทรกไขมัน บวกกับรสชาติเค็มกำลังดี ทำให้จานนี้หมดแบบไม่รู้ตัวจริงๆ ส่วนตัวชอบจานนี้มากๆ



ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับเจ้าปลาย่าง เมนูหน้าตาชวนรับประทานอย่าง แซลมอนไส้ชีสทอดกรอบราดซอสไข่กุ้ง (350.-) ก็มาเสิร์ฟพอดี ซึ่งดูจากภายนอกแล้วคิดว่าจานนี้ต้องอมน้ำมันแน่ๆ แต่พอทานแล้วกลับไม่อมน้ำมันอย่างที่คิด เพราะมันกรอบ อร่อย และรสชาติของชีสและซอสไข่กุ้งเข้ากันได้ดีมาก (พูดแล้วก็อยากทานอีก)



ชิมทั้งของทอด ของย่างแล้ว ขอแก้เลี่ยนด้วยผลไม้ประจำฤดูอย่าง มะเขือเทศญี่ปุ่น (250.-) ซึ่งเมนูนี้เชื่อว่าหลายคนที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศคงต้องขอบาย แต่อยากจะบอกว่า มะเขือเทศญี่ปุ่นรสชาติไม่เหมือนมะเขือเทศทั่วไปที่เคยทาน

เพราะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมือนเป็นกึ่งผักกึ่งผลไม้ สามารถทานเปล่าๆได้โดยไม่ต้องจิ้มเกลือ ช่วยแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี



และก็มาถึงเมนูที่เรียกว่าคนรักอาหารญี่ปุ่นต้องไม่พลาด สำหรับซาซิมิ ซึ่งวันนี้เราสั่งเป็น ปลาดิบรวม 7 อย่าง (990.-) ที่มีทั้ง ปลาแซลมอล ปลาทูน่า ปลาโอ ปลาหมึกยักษ์ หอยปีนก กุ้งหวาน และหอยเซลล์ญี่ปุ่น และ ข้าวปั้นรวม ชุด C (590.-) ที่รวมหลากหลายหน้าจากของทะเลสด  ซึ่งพอทานแล้ว รู้สึกสมกับชื่อร้าน ที่แปลเป็นไทยว่า มหาสมุทรแห่งญี่ปุ่นจริงๆ




ปิดท้ายด้วยของหวานแปลกตา ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนเสิร์ฟของหวานแบบนี้มาก่อน เพราะมันคือ ชีสญี่ปุ่นและแครกเกอร์ (360.-) ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกก็พาให้คิดว่าต้องมีรสชาติเค็ม (ซึ่งก็สงสัยว่าจะเป็นของหวานได้ยังไง) แต่พอกินเข้าไปเท่านั้นแหละ คดีพลิกทันที

พราะมันหวาน!! ยิ่งทานกับแครกเกอร์ที่มีรสชาติเค็มนิดๆแล้วยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อม จนต้องสอบถามถึงที่มาจากทางร้าน ก็ได้ความว่ามันทำมาจาก "นมฮอกไกโด" ซึ่งชีสญี่ปุ่นที่ร้านก็มีหลายรสให้เลือกทั้งรสถั่ว วนิลลา รัมเรซิ่น รวมไปถึงรสจืดและรสเค็มธรรมดา


งานนี้เรียกว่าไม่ลองไม่ได้แล้วจริงๆ


ร้าน "Nippon kai market" ตั้งอยู่ที่โครงการ 9:53 ซอยสุขุมวิท 53   โทร. 02-662-5683 ซึ่งหากใครสนใจ ขอแนะนำให้รีบมาก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้ เพราะทางร้านมีโปรโมชั่นลด 30 % ทุกเมนู และที่พิเศษสำหรับคนรักข้าวดงบุริ ซื้อ 1 แถม 1 กันไปเลยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Fanpage //www.facebook.com/nipponkaimarket

ขอบคุณ มติชนออนไลน์

ชีพจรตะลอนทัวร์ .. 

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ

Create Date :25 มกราคม 2558 Last Update :25 มกราคม 2558 7:04:37 น. Counter : 1431 Pageviews. Comments :0