|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ณ...มงคลแผ่นดิน มงคลประเทศ

"จักรีนฤบดินทร์ นวมินทราชา" ศิลปิน อดิศักดิ์ พานิชกุล สีน้ำมันบนผ้าใบ ๑๒o x ๙o ซม. จาก บล็อกนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ๒
 |  |  | |
แทบฝ่าละอองธุลีพระบาท
นับนานปีที่พระองค์ทรงครองราชย์ ชินสายตาข้าพระบาทมิคลาดเคลื่อน ตลอดปีเดือนวันอันคุ้นเตือน เฉกเสมือนนาฬิกาเตือนตาวัน
กลางแดดจ้าฝ้าฝุ่นกรุ่นตลบ พระเสโทท่วมกลบพระพักตร์ผัน กลางฝนฟ้าพายุเดือดดุดัน กลางลมแล้งแรงหนาวสั่นสะท้านเตือน
เหนือหุบห้วยกันดารร้างกลางป่าเขา กลางลำเนากระแสศึกระทึกเถื่อน กลางแดนดงเดือดแดงแฝงเล่ห์เยือน กระสุนเกลื่อนกลางไพรวันโลกผันแปร
มีจอมคนทนยาตราทุกหล้าแหล่ง เพื่อสำแดงทศธรรมนำกระแส เพ็ญพระราชกรณีที่ถ่องแท้ เพื่อกอปรแก้ทุกข์ทั้งผองของประชา
เพื่อรอบรู้กู้วิกฤติทุกทิศถิ่น แหล่งน้ำดินฟ้าอากาศฝนหยาดหญ้า กว่าสี่พันโครงการราชพัฒนา ชุบชีวาพสกผองของแผ่นดิน
ลุเจ็ดสิบปีทองครองประเทศ พระประเวศทั่วแดนไกลในทุกถิ่น ตราบเก้าสิบพระชนมายุภูมินทร์ ทรงเป็นปิ่นฉัตรเหนือเกล้าปกเผ่าไทย
พสกหวังตั้งจิตอธิษฐาน ประลุกาลสมานฉันท์วันสดใส แผ่นดินทองรองเรืองเฟื่องฟูใจ ออกตกกลางเหนือใต้ไทยสราญ
เพราะไทยถ้วนล้วนรำลึกสำนึกว่า ตราบวันใดไทยประชาไม่สุขศานต์ ตราบนั้นคือทุกข์ทั้งผองของภูบาล เพราะทรงญาณหยั่งทุกข์ผองประชา
ลุเจ็ดสิบฉนำคราราชาภิเษก พระคือเอกกษัตริย์ฉัตรแหล่งหล้า ขอพระเดชพระสยามเทวา พระบุญญาบูรพกษัตริย์ไทย
บันดาลดลคนไทยรักสามัคคี เหมือนน้องพี่บรรพกาลบุราณสมัย เลิกแตกแยกแปลกแนวคิดวิปริตไป ถวายชัยใต้ร่มฉัตรบัดนี้เทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมของเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นสพ.แนวหน้า ราตรี ประดับดาว ร้อยกรองถวาย
| |  | |  |
 | |  | |
ขออำภัยที่หายหน้าไปนานอีกแล้ว เพิ่งจะหายหวัดค่ะ เปื่อยซะหลายวัน อยากอัพบล็อกเต็มแก่ ตั้งใจจะอัพเรื่องอันเป็นมหามงคลในวันที่ ๙ ที่ผ่านมา หายป่วยแล้วแต่ตอนนี้ไม่มีคนทำงานบ้าน ต้องแปลงร่างเป็นนังแจ๋วไปพลาง เลี้ยงหลานไปพลาง เลยอัพบล็อกช้าไปหน่อย อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อคราวงานเฉลิมฉลองในหลวงทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖o ปี และพระบรมสาทิสลักษณ์งาม ๆ มาให้ชม ตบท้ายด้วยบทความเฉลิมพระเกียรติที่เราอ่านแล้วชอบมาก ๆ ของคุณเปลว สีเงิน และ คุณวินทร์ เลียววาริณ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ มาถึงปีนี้ พสกนิกรชาวไทยได้อยู่เย็นเป็นสุขใต้ร่มพระบารมีแห่งการเถลิงถวัลย์สิริราชสมบัติมาถึง ๗o ปี เนื่องในโอกาสวันอันเป็นมหามงคลนี้ ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม ขอถวายพระพรชัยมงคล ถวายเป็นราชสักการะ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช เทวาภินิหารทั้งปวง ได้โปรดอภิบาล ดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเกษมสำราญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงหายจากพระประชวรในเร็ววัน และขอจงทรงพระเจริญ ถึงพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัยทุกประการเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพพระพุทธเจ้า บล็อกเกอร์ไฮกุ
  
| |  | |  |
 | |  | |
ขอเริ่มด้วยการอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์อันน่าประทับใจ เมื่อคราวงานเฉลิมฉลองที่ในหลวงทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖o ปี ในระหว่างวันที่ ๙-๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๙ ผลงานของ คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ หนึ่ง ในช่างภาพหลวงที่มีโอกาสได้ทำงานถวายพระองค์ท่าน จากเพจนี้ค่ะ Sermkhun Kunawong





















ต่อด้วยพระบรมสาทิสลักษณ์งาม ๆ จากเพจ คุณ Surmarw Kij ค่ะ














| |  | |  |
 | |  | |

'ณ
มงคลแผ่นดิน-มงคลประเทศ' โดย เปลว สีเงิน
๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ "............
ประวัติศาสตร์โลก" ต้องบันทึก
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" พระมหากษัตริย์แห่งสยามประเทศ หรือคือ ประเทศไทย
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยังมีพระชนมชีพ และสถิตดำรงในสิริราชสมบัติมาเป็นปีที่ ๗๐
ยาวนานยั่งยืนกว่าพระมหากษัตริย์ "ทุกพระองค์" ในโลก!
กาลนี้ นับเป็นอภิมงคลประเทศและพสกนิกรใต้เบื้องพระยุคลบาททั่วหน้าอันแหล่งอื่นใดในโลกหล้ามาเสมอเหมือนมิได้
แลเมื่อเป็นโอกาสอันหาได้ยากยิ่ง ร้อยปี-พันปี ก็ใช่ว่าจะมีได้เช่นนี้
ดังนั้น ๙ มิถุนา ๕๙ วันนี้.....
ทั้งภาครัฐ-ภาคประชาชน ได้ตั้งใจ แสดงถึงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคล เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ดังประจักษ์แล้ว
นอกเหนือจากงาน "ถวายพระพรชัยมงคล" วันนี้
"กตเวทิตาคุณ" อันเป็นเครื่องหมายของคนดี...........
คือการแสดงถึงความรับรู้ในพระมหากรุณาธิคุณ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ที่ทรงมีต่อแผ่นดินไทย-ประชาชนไทย และผู้อาศัยอยู่ใต้ร่มใบบุญแผ่นดิน ดังประจักษ์แล้วต่อชาวโลก
เรา-ไทยผู้มีบุญทั้งหลาย นอกจากทำความดี ดำรงชีวิตและวิถีอยู่ในคลองคุณธรรมและศีลธรรมแล้ว
ในกาลนี้ แต่ละวัน ควรหาโอกาสสวดมนต์ เจริญสมาธิ หยุดกาย-วาจา-ใจซัดส่าย ลงที่จิตนิ่ง
และมนต์บทหนึ่งที่ทุกคน ควรเจริญถวาย "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ต่อเนื่องทุกวัน ไปจนถึง ๕ ธันวา ๖๐
อันเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา
๙๐ พรรษา
มนต์บทนั้นคือ "มหาสมัยสูตร"!
ร่วมกันสวดทุกบ้าน ทุกเขตคาม เพื่อให้เทวาฝ่ายดี ผู้มีรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง มาประชุมพร้อมกัน ณ แผ่นดินธรรม-แผ่นดินทองนี้
ทำไมจึงต้องให้เทวามาประชุมกัน คำตอบสั้น ๆ คือ
"มหาสมัยสูตร" นี้ เป็นที่รักของเทวา เหล่าเทวาชอบฟังยิ่งนัก เมื่อสวด เทวาจากหมื่นจักรวาล จะมาประชุมกัน เพื่อสงบ-ฟัง
เมื่อเทวาจากหมื่นจักรวาลมารวมกันอยู่ มาร-สิ่งไม่ดีทั้งปวง จะอยู่ไม่ได้ ไม่มีที่ให้หยัดอยู่ ต้องถอยร่นเตลิดไป
เท่ากับ "สิ่งชั่วและคนเลวร้าย".............
ต้องพ้น-พินาศไปจากบ้านเมือง!
หลายปีก่อน ผมได้หนังสือ "พุทธานุภาพ" ว่าด้วยบทสวดมนต์พร้อมที่มา-ที่ไปของแต่ละมนต์มาจำนวนหนึ่ง
พระครูปลัดสุวัฒนธีรคุณ วัดสระเกศฯ ผู้จัดทำ ก็ได้แจกจ่ายผู้สนใจไปจำนวนมากทีเดียว ดูเหมือนแต่ปี ๕๑-๕๒
ในนั้นมี "มหาสมัยสูตร" พร้อมตำนานและคำแปลพร้อม!
เพื่อความเข้าถึงมนตราแห่งพุทธมนต์บทนี้ ผมจะนำประเด็น "อานุภาพป้องกันภัย" อันบอกไว้ในเล่มมาสรุปให้ทราบอีกที
มหาสมัยสูตร เป็นสูตรว่าด้วยสมัยประชุมใหญ่เหล่าเทพ ในแต่ละยุคพระพุทธเจ้า "เหล่าเทวดา" จะมาประชุมใหญ่แบบนี้ครั้งหนึ่ง!
พูดง่าย ๆ คือ สมัยพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง จะมี "ครั้งหนึ่ง" ครั้งเดียวเท่านั้น ที่เหล่าเทพจากหมื่นจักรวาล จะประชุมใหญ่กัน!
ที่ว่ามาประชุมใหญ่ คือมาฟังมหาสมัยสูตรนี่แหละ จึงอาจพูดได้ "<มหาสมัยสูตร เป็นมนต์เรียกเทวดามาประชุม"
จึงยึดถือกันว่า..........
ในกาลเป็นมงคล เช่นวัน "มหามงคล ๙ มิถุนา" นี้เป็นต้น ในการประกอบกิจการใหม่ ในการขึ้นสถานที่ใหม่
ในการริเริ่ม-ตั้งต้นเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ ๆ เช่น ที่รัฐบาล คสช.ตั้งใจปฏิรูปประเทศ เป็นต้น
พระอรรถกถาจารย์ท่านแนะนำว่า......
มหาสมัยสูตร เป็นที่รัก-เป็นที่ชอบใจของเหล่าเทวา เมื่อถึงการมงคล ประกอบการมงคล เริ่มต้นสิ่งดี-สิ่งใหม่-สิ่งมงคล
"มหาสมัยสูตร" เหมาะแก่กาล ประสิทธิเมนักแล!
ปกติ ทั้งวัด ทั้งชาวบ้าน ไม่ชอบสวด เหตุที่ไม่ชอบ เพราะ "มหาสมัยสูตร" ยาวมาก อ่านก็ยาก จึงมักตัดทอนเอาเฉพาะท่อนเชิญเทวดา
แต่เกี่ยวกับความร่มเย็นเป็นสุขบ้านเมือง เกี่ยวกับมหาประชาชาติ เกี่ยวกับการขจัดสิ่งและบุคคลซึ่ง "ฉิบหายแล้วจากความดี" ให้พ้นไป
ควรต้องสวด "มหาสมัยสูตร" นี้...........เพื่อ
"...........ขอบรรดายักษ์และทวยเทพกับทั้งพรหมทั้งหลาย ในทุกห้วงจักรวาลทั่วทุกตน
จงพร้อมใจกันอนุโมทนาบุญ ที่ทำให้สมบัติทั้งปวงสำเร็จได้ ซึ่งพวกเราทั้งหลายได้กระทำกันแล้ว
จงชื่นชมยินดีในพระศาสนาอย่าได้ประมาท ในการทำหน้าที่คุ้มครองรักษาอย่างดียิ่ง
ขอความเจริญจงมีแก่พระศาสนาและแก่ชาวโลกตลอดกาลทุกเมื่อ
อนึ่งเล่า ขอเหล่าเทวาทั้งหลาย .......
จงคุ้มครองรักษา ประเทศชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ และชาวโลก ตลอดกาลทุกเมื่อด้วยเถิด....ฯลฯ"
เพราะยาว และสวดยากนั่นแหละ ความอุตสาหะ ความมุ่งมั่น-ตั้งใจ ยิ่งสวดให้สำเร็จ ความสำเร็จในยาก จะเพิ่มพูนพลานุภาพทวีคูณ
เมื่อเทพเทวาเหนือคณานับท่านมา มาร-อสูร ต่อให้มากมายขนาดไหน ก็ยิ่งต้องไป
เพราะ "ผู้ฉิบหายแล้วจากความดี" จะอยู่ในธรณีร่วมผู้มีพระรัตนตรัยไม่ได้!
เพื่อศรัทธามีพลัง ไปขวนขวายหา "มหาสมัยสูตร" มาสาธยายกันเอาเองนะครับ
อ้อ...ขอแถมนิดนึง เพื่ออ่านกันได้ถูกต้อง
คำว่า "เถลิงถวัลยราชสมบัติ" นั้น........
ต้องอ่านว่า "ถะ-เหลิง-ถะ-หวัน-ละ-ยะ-ราด-ชะ-สม-บัด" แปลว่า ขึ้นครองราชสมบัติ
ในที่นี้ หมายความว่า เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๙ เมื่อพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อน คือ "รัชกาลที่ ๘" เสด็จสวรรคต
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช" ก็ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พูดตามศัพท์ชาวบ้านคือ "ทรงขึ้นครองราชสมบัติ"
พระปรมาภิไธยว่า ".......
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร"
เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
ควรทราบว่า ขณะนั้น ยังทรงพระเยาว์ กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศ
ดังนั้น เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙ การราชพิธีเถลิงถวัลยราชสมบัติ จึงทำในนาม "พระราชพิธีรัชมงคล"
เรียกว่า วันขึ้นครองราชสมบัติ
ต่อมา กระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะ และเสด็จนิวัตประเทศไทย
รัฐบาลจึงได้จัดพระราชพิธี "บรมราชาภิเษก" เป็นพระมหากษัตริย์ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓
ที่เรียก "วันฉัตรมงคล" ดังทุกวันนี้นั่นแหละ คือวันบรมราชาภิเษก
ก็ทราบ "สิ่งควรทราบ" พอสมควรแล้ว ...........
ณ กาลมหามงคล ที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ ๗๐ ปี วันนี้
ภายใน "พระที่นั่งอนันตสมาคม" พระราชวังดุสิต ใกล้บริเวณ "พระบรมรูปทรงม้า"
มีสิ่งดี-สิ่งมหามงคลเกิดขึ้น
ไปชื่นชมกันเถิด หยดย้อย ปานเนรมิต......
"สถาบันสิริกิติ์" มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ได้จัดสร้างเรือนยอด ๙ ยอด เป็นอาคารมีจำนวนยอดปราสาทมากที่สุดในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมของกรุงรัตนโกสินทร์
ได้รับพระราชทานนามว่า เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์
สำเร็จแล้ว.... เป็นศิลปกรรมชิ้นเอก "ค่าล้ำราคา" ด้วยหัตถศิลป์ลูกหลานชาวไร่-ชาวนาโดยแท้
อัน "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ" ทรงอุปถัมภ์ และด้วยพระราชปณิธาน สถาปัตยธรรมมรดกแผ่นดินชิ้นนี้ เพื่อ
"เฉลิมพระเกียรติ" ในโอกาสที่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ณ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๙ นี้
ก็เมื่อถึงพร้อมด้วย "มหามงคลสมัย" รวมทั้งสิ่งใหม่อันดีงามทั้งปวง
ควรที่เราทั้งหลาย....
ตั้งใจสวด "มหาสมัยสูตร" กันไปจนถึง ๕ ธันวา ๖๐ ให้ถ้วนทั่วกัน.
ภาพและข้อมูลจาก thaipost.net FB เปลว สีเงิน


วินทร์ เลียววาริณ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. ๒๕๕๖
สมัยผมเป็นเด็ก บนกำแพงบ้านของคนจีนแทบทุกครอบครัวติดรูปถ่ายของบุคคลสองคนที่พวกเขานับถือสูงสุด หนึ่งคือรูป ดร. ซุน ยัต เซน บิดาแห่งประเทศจีน หนึ่งคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บิดาแห่งประเทศไทย ชาวจีนโพ้นทะเลซึ่งมาพึ่งร่มบุญของเมืองไทยถือว่าที่นี่เป็นแผ่นดินซึ่งให้ชีวิตใหม่แก่พวกเขา จนสามารถลืมตาอ้าปาก สร้างตัวขึ้นได้จากศูนย์ พวกเขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อบ้านใหม่ และสำนึกคุณของเจ้าแผ่นดินผู้ทรงทำทุกอย่างเพื่อแผ่นดินนี้
ผมโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ โตมากับภาพในหลวงของเราทรงงานไปทั่วทุกสารทิศ ทุกดินแดนทุรกันดาร เคยนึกสงสัยว่าทำไมเจ้าแผ่นดินต้องทรงงานหนักกว่าข้าแผ่นดิน รูปถ่ายในหลวงบนผนังบ้านคนทั้งแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นฝาไม้กระดานเก่าคร่ำคร่าหรือผนังหินอ่อนบ่งบอกว่ามีอะไรลึกซึ้งกว่าแค่รูปถ่ายบนผนัง รูปถ่ายในหลวงบนฝาผนังเป็นสัญลักษณ์ของความดีงามทุกอย่างเกี่ยวกับแผ่นดินนี้
เมื่อเรียนจบ ผมได้งานที่ต่างประเทศ ผมบอกพ่อว่าจะไม่เข้าพิธีพระราชทานปริญญาบัตร เพราะบริษัทที่ต่างประเทศจะไม่รอผมหากไปช้า พ่อบอกว่า ช่างมันเรื่องงาน แต่แกต้องรับปริญญาจากในหลวง
ตลอดชีวิตพ่อแทบไม่เคยจากบ้านที่ต่างจังหวัดไปไหน แต่พ่อยอมทิ้งงานและรายได้เพื่อเป็นประจักษ์พยานลูกรับปริญญาจากพระหัตถ์ของเจ้าแผ่นดิน
กาลเปลี่ยน โลกเปลี่ยน คนเปลี่ยน โลกาภิวัตน์ บริโภคนิยม และธุรกิจการเมืองเข้ามาแทนที่โลกเดิม ความคิดอ่านของคนจำนวนหนึ่งถูกครอบงำด้วยความโลภและมิจฉาทิฐิ พวกเขาสามารถแทะทำลายแผ่นดินเกิดของตนได้อย่างไม่สะทกสะท้าน พวกเขาลืมไปแล้วว่าสร้างตัวและมีตัวตนขึ้นมาได้อย่างไร
บางครั้งเมื่อได้ยินหลายคนพูดเรื่องหลักการ สังคมอุดมคติ ที่ ถูกต้องกว่า ผมอดถามไม่ได้ว่าเราคิดยากเกินไปหรือไม่ สิ่งที่คนไทยทุกคนทำได้ก็เหมือนกับชาวจีนอพยพผู้มาตั้งหลักแหล่งในเมืองไทย คือหลักการเพียงวลีเดียว มีคุณต้องทดแทน ง่าย ๆ เช่นนั้น
แผ่นดินนี้ให้ทุกอย่างแก่เรา มอบข้าวทุกเมล็ด น้ำทุกหยด เราจึงแทนคุณแผ่นดินเกิดของเรา ง่าย ๆ เช่นนั้น
สิ่งที่เราทำได้ไม่ใช่อะไรซับซ้อน แค่ไม่ทำร้ายแผ่นดินที่เราถือกำเนิด เราไม่จำเป็นต้องสร้างสรรค์สิ่งยิ่งใหญ่ แค่ทำเรื่องเล็ก ๆ เช่น ไม่ทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง ไม่ขายเสียง เมื่อเลือกตั้งก็คัดกรองคนดีที่สุดเท่าที่มีไปทำงานแทนเรา ว่าง ๆ ก็สังเกตสักนิดว่าแผ่นดินของเราสบายดีหรือเปล่า มันเจ็บป่วยหรือเปล่า มันบาดเจ็บเพราะเราหรือเปล่า
เหล่านี้ก็คือสิ่งที่ในหลวงทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ
และมันก็คือสิ่งที่เราช่วยกันทำต่อไปได้เพื่อพ่อแห่งแผ่นดิน
ภาพและข้อมูลจาก FB วินทร์ เลียววาริณ






เขียนบล็อกนี้แล้วยังจำทะเลเสื้อเหลืองในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ ได้เลยค่ะ วันนั้นเหล่าพสกนิกรพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จเป็นจำนวนมาก มีหลายเหตุการณ์ที่น่าประทับใจ หนึ่งในนั้นเป็นบทสนทนาระหว่างคุณยายและหลานสาว ถ้อยคำน่ารักกินใจเพียงสั้น ๆ แสดงถึงความเทิดทูนและจงรักภักดีต่อสถาบันของคนไทยส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี ขอบคุณภาพจาก kapook.com และ กระทู้พันทิปก ไว้ตรงนี้้ด้วยค่ะ
นึกอยากเห็นปรากฏการณ์ทะเลเสื้อเหลืออีกหลาย ๆ ครั้ง ถึงแม้ในหลวงจะทรงพระประชวร ไม่สามารถเสด็จฯ ออกให้ประชาชนชื่นชมพระบารมีได้ แต่ถ้าคนไทยร่วมใจกันทำให้เกิดภาพแบบนี้ละก็ จะได้เป็นการถวายกำลังพระราชหฤทัยและแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านที่ดีมาก ๆ   
| |  | |  |
บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่ ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii และ คุณ ebaemi และ คุณ somjaidean100
TextEditor
Create Date : 11 มิถุนายน 2559 |
Last Update : 13 สิงหาคม 2559 22:56:47 น. |
|
37 comments
|
Counter : 3781 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 11 มิถุนายน 2559 เวลา:23:07:47 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 12 มิถุนายน 2559 เวลา:0:12:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มิถุนายน 2559 เวลา:6:28:23 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 12 มิถุนายน 2559 เวลา:9:33:08 น. |
|
|
|
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 12 มิถุนายน 2559 เวลา:10:11:39 น. |
|
|
|
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 12 มิถุนายน 2559 เวลา:10:14:20 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 มิถุนายน 2559 เวลา:17:44:07 น. |
|
|
|
โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:0:51:43 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:3:58:54 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:7:24:55 น. |
|
|
|
โดย: find me pr วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:11:02:42 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:12:51:58 น. |
|
|
|
โดย: Tristy วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:20:55:11 น. |
|
|
|
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:21:28:00 น. |
|
|
|
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 13 มิถุนายน 2559 เวลา:22:46:22 น. |
|
|
|
โดย: ออมอำพัน วันที่: 14 มิถุนายน 2559 เวลา:0:32:58 น. |
|
|
|
โดย: ตุ๊กจ้ะ วันที่: 14 มิถุนายน 2559 เวลา:11:38:06 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 14 มิถุนายน 2559 เวลา:19:44:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มิถุนายน 2559 เวลา:6:29:24 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 15 มิถุนายน 2559 เวลา:13:56:03 น. |
|
|
|
โดย: จี๊ดจ๊าด (บ้านต้นคูน ) วันที่: 15 มิถุนายน 2559 เวลา:23:11:24 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:4:11:46 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:7:32:39 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:8:19:18 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 16 มิถุนายน 2559 เวลา:8:33:34 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:2:47:06 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:14:03:11 น. |
|
|
|
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:16:37:44 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 17 มิถุนายน 2559 เวลา:17:51:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
..................................
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
haiku Art Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น