Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
2 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
:: Interview .. the blogger :: >> toor36
















ถ้าพูดถึงบล็อกที่เล่าเรื่องราว การ์ตูน
และ
หลากหลายมุมมองเกี่ยวกับ ประเทศจีน
ดี.เชื่อว่า บล็อก toor36 ของ คุณต่อ
เป็นบล็อกที่ชาวบล็อกแกงค์จะนึกถึงได้ในลำดับต้นๆ
และอยากทำความรู้จักกับเขา
มากกว่าเรื่องราวที่ได้สัมผัสในบล็อก มาติดตามกันเลยค่ะ
















Q : ก่อนอื่น อยากให้คุณต่อเล่าถึงเรื่องราวการทำบล็อก ที่บล็อกแกงค์ก่อนเลยค่ะ


A :ผมเริ่มเขียนบล็อกครั้งแรกในวันที่ 13 สิงหาคม 2549 ถ้านับมาถึงวันนี้ก็ 5 ปีกว่าแล้วครับ โดยบล็อกแรกเขียนแบบคนไม่มีความรู้อะไรเลย เหมือนทดลองระบบของบล็อกแกงค์มากกว่าเขียนบล็อกเสียอีก



ผมรู้จักบล็อกครั้งแรกจากเว็บไซด์พันทิป ถ้าสังเกตให้ดีคนที่เขียนบล็อกจะมีสัญลักษณ์ต่อท้ายอมยิ้ม นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกของการเขียนบล็อก ที่เลือกเขียนที่นี่เนื่องจากช่วงนั้นบล็อกในเมืองไทยมีไม่กี่แห่งเท่านั้น อีกทั้งระบบของบล็อกแกงค์ค่อนข้างเข้าใจได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชำนาญเรื่อง IT ผมจึงเลือกเขียนที่นี่













Q : ชื่อล็อกอิน toor36 สื่อถึงตัวเอง หรือเนื้อหาของบล็อกบ้างคะ


A : ไม่ได้สื่อถึงอะไรเลย ล็อคอินนี้ที่มามาจากชื่อ ต่อ ภาษาอังกฤษ toor กับเลขที่สมัยเรียนชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากมีคนแนะนำว่าควรใช้ชื่อกับตัวเลขในการตั้งชื่อ จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่คอมพิวเตอร์เริ่มบูมในเมืองไทย สมัย ICQ เห็นจะได้ (จะมีใครรู้จักมั้ยน้อ) เน็ต 56k น่ะ



สมัยคอมพิวเตอร์เริ่มบูมในเมืองไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่าโปรแกรมแชตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดโปรแกรมหนึ่งคงหนึ่งไม่พ้น ICQ เนื่องจากเป็นของแปลกใหม่ จำได้ว่าสมัยนั้น เรายังใช้ไดฟ์ A และแผ่น Diskette กันอยู่ (ความจุ 1.2k) จะว่าไปเด็กสมัยนี้อาจไม่รู้จักแล้วก็ได้ เนื่องจากสมัยนี้จะใช้ USB ในการเก็บข้อมูลแทน



เน็ต 56k ถ้าใครเคยผ่านช่วงนั้นมาจะจำเสียงเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้เป็นอย่างดี บางยี่ห้อตัดทุก 2 ชั่วโมงต้องต่อใหม่ ผิดกับเน็ตสมัยนี้อย่างเห็นได้ชัด เล่นได้ไม่จำกัดไม่มีตัด

แน่นอนว่าชื่อนี้ไม่ได้สื่อถึงเนื้อหาในบล็อกเช่นกัน

ผมชื่อเล่นว่าต่อ แต่มักจะใช้คำนำหน้าว่าคุณต่อ เนื่องจากผมมีความเชื่อที่ว่า หากเราพูดสุภาพคนอื่น เขาก็จะพูดสุภาพกับเรา ดังนั้นถ้าผมยังไม่รู้จักบล็อกเกอร์ที่สนทนาด้วย ผมจะใช้คำนำหน้าในการเรียกชื่อว่าคุณ ถ้ารู้ว่าควรเรียก พี่ เรียกน้อง เรียกป้า ก็จะเรียกตามนั้น แต่หลายๆ ครั้งถึงรู้แต่ก็ติดเรียกคุณเหมือนกัน






Q : คิดว่าได้อะไรจากการทำบล็อกบ้างคะ


A : สิ่งที่ได้จากการเขียนบล็อกคือ การได้รู้จักโค้ด HTML จากที่ไม่รู้ก็ได้รู้ รวมไปถึงการใช้โปรแกรม Photoshop ได้เรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพจากเพื่อนบล็อกหลายท่าน ถึงแม้ตอนนี้จะยังถ่ายได้ไม่ดีดังที่ใจต้องการก็ตาม ของอย่างนี้คงต้องอาศัยการสะสมประสบการณ์ ซึ่งแต่ก่อนผมไม่เคยสนใจเรื่องเหล่านี้เลย



สิ่งที่ได้ต่อมาคือ การพัฒนาทักษะในเรื่องของการเขียน การพิมพ์ดีด และการใช้ภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาจีน โดยเฉพาะภาษาจีน ผมมองว่าการที่เราจะสอนใคร หรือชี้แนะจุดที่คนอื่นมักพลาดได้นั้น เราจะต้องผ่านการศึกษา และทบทวนมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาในเรื่องของภาษาจีนของผมเช่นกัน



ประการ สุดท้ายคือ ได้ทราบมุมมองจากคนหลากหลายอาชีพ ทำให้เราได้เปิดโลกกว้างในหลายเรื่อง แน่นอนว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องมองเหมือนเรา เพราะการที่เรายืนอยู่คนละมุมสิ่งที่เห็นก็ย่อมต่างกัน เหมือนเรายืนมองช้างจากหลายๆ มุมนี่แหละ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ถ้าเขาคิดต่างหรือขัดแย้ง เขาควรที่จะแสดงความคิดเห็นได้ว่า

“ไม่ถูกอย่างไร หรือไม่ดีอย่างไร และอย่างไรจึงจะเรียกว่าดีในสายตาเขา”












Q : ภาษาจีน เริ่มเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่คะ



A : ผมเริ่มเรียนภาษาจีนครั้งแรก เมื่อสมัยเรียนระดับชั้นมหาวิทยาลัยปี 3 เป็นวิชาภาษาที่สาม ซึ่งตามหลักสูตร บังคับให้ต้องเลือกเรียน 2 ตัว โดยมีให้เลือก ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีน ผมตัดสินใจเรียนภาษาจีนเนื่องจากคุณปู่เป็นคนจีน หากมีปัญหาหรือในส่วนไหนที่เราไม่เข้าใจ เราสามารถสอบถามท่านได้ เปรียบเสมือนมีอาจารย์อยู่ในบ้าน แรกเริ่มคิดเพียงเท่านี้ แต่เดิมกะว่าเรียนจบแค่ 2 ตัวก็จะพอ แต่ผมพบว่าเรียนแค่นั้น ไม่พอที่จะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้ แทบไม่ต่างกับไม่ได้เรียนเลย จึงได้เรียนภาษาจีนตามสถาบันต่างๆ เหตุที่ยังเรียนต่อเนื่องจากผมยังคงรู้สึกสนุกกับภาษานี้ ภาษาจีนมีอะไรให้น่าค้นหาอีกมาก


เมื่อมีโอกาสจึงได้ไปเรียนภาษาจีน ที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่บังคับให้เราต้องใช้ภาษาจีนทุกวัน ยอมรับว่าครั้งแรกที่ไปเรียนช็อกเล็กน้อย เนื่องจากเราค่อนข้างมั่นใจว่า เรามีความรู้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อเราเจอคนที่มีความรู้ระดับเดียวกับเรามากๆ ทำให้รู้สึกว่า เรานี่มันช่างโง่เขลา เรารู้แล้วคนอื่นเขาจะไม่รู้หรือ เหมือนกับเราปีนเขา เราคิดว่าเราปีนจะถึงยอดแล้ว แต่ปรากฏว่าเราเพิ่งอยู่แค่ตีนเขาเท่านั้น


การที่ผมได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง 4 เทอมซ้อน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมพยายามมากกว่าใครในเรื่องการเรียน แต่ก็ไม่ทิ้งในเรื่องกิจกรรมเช่นกัน ในมุมมองของผม คนที่จะเป็นหัวหน้าจะต้องไม่โง่ ผลแห่งความพยายามคือ ผมได้รับรางวัลนักศึกษาต่างชาติดีเด่น ซึ่งในปีนั้นมีคนไทยได้รางวัล 2 คน












Q : ภาษาจีน ได้ใช้ในการทำงานไหมคะ


A : ในปัจจุบันผมทำงานเกี่ยวข้องกับภาษาจีน ต้องใช้ภาษาจีนทุกวันในการทำงาน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ผมพบว่า พื้นฐานที่เราเรียนมาทุกอย่างนั้นมีความสำคัญ หลายคนเรียนโดยไม่เน้นพินอิน (ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ใช้ในการอ่านว่าอ่านอย่างไร) แล้วคุณจะพิมพ์ภาษาจีนอย่างไรในเมื่อคุณไม่คล่องพินอิน อาจมีคนเถียงว่าใช้จู้อิน (สมัยนี้การเรียนโดยมากใช้พินอินกัน) ถ้าคุณคล่องจู้อินผมก็จะไม่พูดอะไร หลายคนเรียนแค่ให้พูดได้ แบบนั้นแทบไม่ต่างกับไม่เรียน เนื่องจากใช้ประโยชน์ได้น้อยอย่างมากแค่คุยเล่นหาเพื่อน หรือไปเที่ยวเท่านั้น ถ้าบอกว่าเรียนเพื่อฟังเพลง หรือดูหนังจีน อันนี้ก็อีกเรื่อง


คนที่พูดภาษาจีนได้มีเยอะ สำคัญที่พูดได้ระดับไหน ความรู้เกี่ยวข้องกับประเทศจีนมีมากน้อยแค่ไหน และรู้จักบุคคลสำคัญของคนจีนแค่ไหน เรื่องเหล่านี้ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ถ้าคุณต้องติดต่อกับคนจีน มันต้องมีบ้างที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านี้ ถ้าเรียนภาษาจีน แต่ไม่รู้จักว่า เหมาเจ๋อตุงเป็นใคร หรือไม่รู้ว่า “แมวสีอะไรขอให้จับหนูได้ก็ถือเป็นแมวที่ดี” เป็นคำพูดของใคร หรือไม่รู้จักกระทั่ง หลี่ไป๋ ก็น่าห่วงครับ



หลายคนเข้าใจผิดในเรื่อง ภาษาจีน คิดว่าคนที่เรียนมานานต้องรู้ทุกเรื่อง แปลได้ทุกคำซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เนื่องจากแต่ละคนก็มีศัพท์ในหัว ที่ต่างกัน ส่วนหนึ่งมาจากบุคลิกความชอบส่วนตัว เป็นต้นว่าผมชอบการ์ตูน และการเมือง คลังศัพท์เฉพาะทางเรื่องการเมือง และการ์ตูนของผมก็จะเยอะตาม ถ้าให้ไปพูดถึงเรื่องรถ ผมอาจจะแปลไม่ออกหรือต้องใช้เวลามากก็ได้ ไม่ต่างกับคนไทยอ่านหนังสือกฎหมาย ที่ต้องตีความหรอกครับ คำศัพท์เฉพาะทางมันมีทุกวงการ ดังนั้นจงอย่าได้แปลกใจ ถ้าคุณเจอคนที่เรียนภาษาจีนมานาน ใช้เวลาในการแปลเรื่องบางเรื่องนาน สาเหตุสำคัญมาจากศัพท์เฉพาะทางที่เขาอาจไม่รู้ นอกเสียจากว่าคุณเตรียมศัพท์เฉพาะทางให้ อันนี้ก็อีกเรื่องหนึ่ง


三无少女 ผมพนันได้เลยว่าคนที่เรียนภาษาจีนหลายคนไม่รู้ว่าคืออะไร อะไรคือ สาวสามไม่ คำนี้มาจากการ์ตูน ถ้าจะแปลต้องแปลว่า “สาวเงียบ” อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนร้องอ๋อแต่หลายคนยิ่งงง เพราะมันเป็นศัพท์เฉพาะทางในวงการการ์ตูน สาวเงียบคือ ผู้หญิงที่ ไม่ค่อยพูด ดูเหมือนไม่มีหัวใจ และไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา สาวเงียบที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น อายานามิ เรย์, ยูกิ นางาโตะ นี่แหละคือสาวเงียบ (ภาพด้านล่าง)











จะเห็นได้ว่าไม่มีใครรู้ไปทุกเรื่อง ดังนั้นท่านไม่ต้องแปลกใจไปหรอก ถ้าท่านกล่าวชมคนที่รู้ภาษาจีนแล้วเขาจะถ่อมตน เพราะภาษานี้ต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต เรียนไม่มีวันจบ จะมีก็แต่พวกของปลอมเท่านั้นที่จะพูดว่าตัวเองเก่ง


สำหรับประเด็นที่ ผมนำมาเขียนบล็อก แรกเริ่มเดิมที ผมตั้งใจจะเขียนบล็อกสอนภาษาจีนเหมือนบล็อกอื่นๆ ที่เราเห็นกันทั่วไป ในช่วงหลังผมมานั่งคิดว่า เราจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร ในเมื่อบล็อกอื่นเขาเขียนมาก่อนแล้ว ไม่มีประโยชน์ สู้เราเขียนประเด็นที่คนที่เรียนภาษาจีนมักมองข้าม หรือเรื่องราวแทรกข้อคิดที่คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ภาษาจีนก็สามารถอ่านได้ อย่างสนุกด้วยไม่ดีกว่าหรือ นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนในการเขียนบล็อกภาษาจีนในเรื่องที่คนทั่วๆ ไปไม่เขียน





Q : อยากให้คุณต่อแนะนำถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจในจีนหน่อยค่ะ


A: เนื่องจากประเทศจีนกว้างใหญ่มาก 1 มณฑลใหญ่ไม่ต่างกับประเทศไทยเลย ขอตอบเป็น 3 ลักษณะ ดังนี้


สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปแล้วอยากไปอีก







กำแพงเมืองจีน万里长城




คงปฏิเสธได้ยากว่า กำแพงเมืองจีนเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่ผู้คนจะนึกถึง ผมเคยไปกำแพงเมืองจีนเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว ตอนนี้อยากไปเห็นอีกครั้งด้วยตาของตนเองว่าเป็นอย่างไร เปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว มันเป็นสถานที่ที่น่าทึ่ง เนื่องจากสมัยก่อนไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากมาย แต่กลับ สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ พูดถึงกำแพงเมืองจีนนอกจากที่ปักกิ่งแล้วทางตอนใต้ที่เมืองหูหนานก็มีกำแพง เมืองจีนเช่นกัน (หนานฟางฉางเฉิง) ใครไปหูหนานมีโอกาสก็ลองไปเที่ยวชมได้นะครับ อ้อ รูปที่เอามาให้ดูเป็นรูปของกำแพงเมืองจีนทางตอนใต้ที่หูหนานครับ







เมืองเก่าลี่เจียง + ภูเขาหิมะมังกรหยก丽江古城+玉龙雪山




เมืองเก่าลี่เจียง ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจในการท่องเที่ยว บ้านเมืองแบบเก่าๆ และมีภูเขาหิมะมังกรหยก ให้เราได้ขึ้นไปเที่ยว เสียอยู่อย่างค่าใช้จ่ายโดยรวมค่อนข้างสูง รวมไปถึงค่ากระเช้าขึ้นเขาก็ราคาสูงเช่นกัน แถมมีให้ขึ้นถึง 3 จุด แต่ละจุดขึ้นไปก็จะได้ชมวิวที่ต่างกัน ก็ต้องแล้วแต่ความชอบยิ่งสูงยิ่งแพง แต่โดยมาก ผู้คนส่วนใหญ่จะเลือกไปจุดที่สูงที่สุดนะ แต่เมื่อเทียบกับบรรยากาศ ก็ถือว่าคุ้มค่าครับ


ลี่เจียงเป็นเมืองที่ ผมประทับใจเมืองหนึ่ง จะมีข้อเสียก็คือ วัฒนธรรมภายนอกเริ่มเข้ามาเยอะขึ้น ส่งผลให้มีบาร์เหล้า และดนตรีเสียงดัง ซึ่งหากใครจองที่พักใกล้บาร์เหล่านั้นคงนอนไม่หลับแน่ อีกทั้งการที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้ชาวบ้านดูจะเน้นเรื่องการค้าขายมากเกินไป







วัดเจดีย์ 3 องค์三塔寺




วัดนี้ตั้งอยู่ที่เมือง ต้าหลี่ มณฑลยูนนาน จัดเป็นสถานที่อีกแห่งที่คนที่ได้ไปเที่ยวเมืองต้าหลี่ควรไป ทัวร์หลายๆ แห่งจะพาชมแค่บริเวณด้านหน้าไม่ได้ให้เข้าไป เนื่องจากค่าเข้าชมแพง ถ้าใครไปเองและมีเวลา แนะนำให้เข้าไปชมตัววัดภายในด้วย ที่สำคัญหลังจากที่ชมเสร็จแล้ว ที่นี่จะมีจุดถ่ายรูปซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เราสามารถเอาหางตั๋วไปยื่นให้เขา เพื่อเข้าไปถ่ายรูปเจดีย์ที่ทอดเงาลงน้ำได้




สถานที่ท่องเที่ยว ที่ยังไม่เคยไปและอยากไป




สำหรับหัวข้อนี้มีอยู่สามที่ได้แก่ จิ่วไจ้โกว หวงซาน สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ เนื่องจากเคยเห็นภาพก็มาก หลายคนบอกว่าสวยแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวซะที ไว้วันหลังต้องหาทางไปเที่ยวให้ได้ โดยเฉพาะจิ๋วไจ้โกว กับหวงซาน





สถานที่ท่องเที่ยวจากแรงบันดาลใจ




เนื่องจากเนื้อหาในหนังสือเรียน และรายการท่องเที่ยวของจีน ทำให้ผมรู้สึกอยากไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ หลายครั้งผมมักจะตามรอยการท่องเที่ยวแบบนี้ในประเทศจีน แต่แน่นอนว่าประเทศนี้กว้างใหญ่ การจะตามรอยให้ครบไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ในหนังสือ / สารคดี มีการพรรณนาถึงความสวยงามของสถานที่เหล่านี้ไว้มาก จึงเกิดความรู้สึกอยากไปเที่ยว ผมจะยกตัวอย่างแค่ 3 ที่เช่นเดียวกับหัวข้อที่ผ่านๆ มา





ที่มา dreamtour.com.cn



เขื่อนตูเจียนเยียน都江堰



เขื่อนแห่ง นี้เป็นเขื่อนโบราณ ตั้งอยู่ที่มณฑลเสฉวน บ้านเกิดหมีแพนด้า ผมได้อ่านบทความที่เรียน ผู้เขียนบทความดังกล่าวยกให้เขื่อนแห่งนี้ยิ่งใหญ่ กว่ากำแพงเมืองจีน








สวนสาธารณะเป่ยไห่กงหยวน北海公园




สวนสาธารณะในเมืองปักกิ่ง หลายคนเมื่อนึกถึงปักกิ่ง ก็มักจะนึกถึงกำแพงเมืองจีน ถ้าเป็นในปัจจุบันคงจะเป็นสนามกีฬาโอลิมปิก แต่ผมกลับสนใจที่แห่งนี้มากกว่า ผมรู้จากสวนสาธารณะแห่งนี้ จากรายการโทรทัศน์ของจีน โดยเป็นที่พักผ่อนของคนในเมือง อีกทั้งยังสามารถเห็นสิ่งเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งโบราณได้ในสถานที่แห่งนี้ รวมไปถึงบทกลอนบทกวีเก่าๆ ก็เช่นกัน











สวนเมืองซูโจว苏州园林



มณฑลเจียง ซู พูดแบบนี้หลายคนอาจไม่รู้จัก ถ้าพูดคำว่า นานกิง หลายคนคงร้องอ๋อ มณฑลนี้มีที่เที่ยวมากมายเช่นกัน ตามบทความที่ได้เรียนมา ผู้เขียนบรรยายว่าสวนแห่งนี้สวยงามมาก ทุกอย่างที่จัดว่าทำได้อย่างลงตัวและสมดุล ไม่เพียงเท่านี้ จากที่ได้เคยคุยกับคนจีนหลายๆ คนที่เคยไปมาแล้วเขาก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวย ถ้ามีโอกาสก็น่าไปดูนะ






Q : นอกจากภาษาจีน ประเทศจีน คุณต่อ ยังสนใจ ภาษาอื่นๆ ประเทศอื่นๆอีกไหมคะ รวมถึงความสนใจที่จะเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมประเทศต่างๆ


A : ความจริงผมสนใจในเรื่องของวัฒนธรรมของชาติอื่นๆ ผมมักจะพยายามมองหาจุดเด่นของหลายๆ ประเทศในเรื่องวัฒนธรรมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งก็มีทั้งที่ถูกและไม่ถูกใจ เรื่องภาษา ภาษาอังกฤษก็เป็นอีกภาษาที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่นับภาษานี้ ภาษาที่สนใจอันดับต่อไปคือภาษาญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเพราะอิทธิพลของการ์ตูนด้วย

ช่วงหลังผมสนใจภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นเนื่องจาก ผมเรียนภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่นมีตัวอักษรคันจิ (漢字) ซึ่งเป็นตัวอักษรที่มาจากภาษาจีน หลายครั้งถ้าเจอตัวอักษรที่เป็นคันจิในภาษาญี่ปุ่นผมจะเดาความหมายออก ถึงจะอ่านไม่ได้ก็ตาม ในขณะที่คนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นส่วนมากจะไม่ชอบตัวคันจิ แต่สำหรับผมถ้าได้เห็นก็ช่วยให้เดาเนื้อหาได้บ้าง








Q : คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ในบล็อก เป็นการแบ่งปันให้กับ คนในชุมชนบล็อกด้านใดบ้างคะ


A : บล็อกของผมค่อนข้างหลากหลายไม่เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนบล็อกเกอร์ท่าน อื่น และผมมักจะชอบเขียนในประเด็นที่คนอื่นไม่เขียน ขอแยกเป็นหัวข้อดังนี้


ภาษาจีน ผมจะเขียนเฉพาะประเด็นที่คนไทยมักลืม หรือประเด็นที่คนไทยควรทราบ ซึ่งไม่มีในเว็บไซด์อื่น เรื่องของภาษานั้น ต้องยอมรับว่าเขียนยาก เพราะคนที่เก่งอยู่แล้วก็คงไม่มาอ่านให้เสียเวลา และคนที่ไม่มีความรู้ก็ยากที่จะอ่าน เรื่องนี้ค่อนข้างเฉพาะทาง ปัญหาอยู่ที่จะเขียนอย่างไรให้คนที่ไม่มีความรู้ภาษาจีนสามารถอ่านได้อย่างสนุกสนานด้วย


ในช่วงแรกผมเขียนในรูปแบบเหมือนสอนภาษาจีน ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะได้รับความสนใจเท่าไหร่นัก เหมือนไปก๊อปปี้เข้ามา ผมจึงเปลี่ยนแนวเขียนไปเป็นตลกร้ายแบบของจีน และความรู้บางอย่างที่คนที่จะไปเรียนที่จีน หรือไปเที่ยวควรทราบ เช่น 折 การเขียนลดราคาสินค้าในประเทศจีน, การจำศัพท์อย่างรวดเร็ว, เรื่องราวความเข้าใจผิดของคนไทยที่มีต่อภาษาจีน ถ้าจะให้ผมแนะนำบล็อกภาษาจีนจากทั้งหมดที่เขียน
ผมขอแนะนำบล็อก นับเลขภาษาจีนกัน คุณชอบเลขไหน กับชีวประวัติคุณช่าปู้ตัว 差不多先生传




ข้อคิดธรรมะ สำหรับหัวข้อนี้ผมมักจะหยิบยกเรื่องรอบๆ ตัวมาเขียน เพื่อให้ข้อคิดกับคนที่เข้ามาอ่าน ซึ่งเป็นข้อคิดที่แปลก เพราะหลายครั้งประกอบด้วยคำหยาบคาย แต่ที่ใช้คำหยาบก็เพื่ออรรถรสในการอ่านที่มากขึ้น



หลายเรื่อง ที่เขียนเป็นเรื่องราวจากประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นแล้วเราได้ข้อคิดจากเรื่องเหล่านั้น จึงได้นำมาแบ่งปันกัน หลายเรื่องผมเขียนเพื่อเตือนสติตนเอง แน่นอนว่าบางเรื่องมีไว้เพื่อเตือนสติเพื่อนบล็อกและคนทั่วๆ ไปเช่นกัน













การ์ตูน จัดเป็นหัวข้อที่สนุกที่สุดในการเขียนแต่ละครั้ง แม้จะต้องใช้เวลาในการเขียนมากกว่าหมวดอื่นๆ ก็ตาม ซึ่งผมพยายามจะเสนอการ์ตูนที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย หรือการ์ตูนในความทรงจำที่หลายๆ คนมักกล่าวถึง


ผมดูการ์ตูนตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ก็ยังดูอยู่ ยังอ่านอยู่ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะบอกว่าเราดูการ์ตูน ผมมองว่ามันเป็นความชื่นชอบอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความชอบเรื่องอะไรก็ตาม ขอแค่มันไม่นำความเดือดร้อนมาสู่ตนเอง และผู้อื่นก็นับเป็นเรื่องดี


การ์ตูนที่ชอบมีหลายแนวครับ ถ้าถามถึงความชอบส่วนตัวผมชอบการ์ตูนที่สร้างจากวรรณกรรมของทางยุโรปของค่าย Nippon Animation เนื่องจากเนื้อเรื่องเขียนมาได้ดี ดูได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Les Miserables มนต์รักเพลงสวรรค์ หรือเรื่องอื่นๆ ถ้าพูดถึงค่ายที่ผลิตการ์ตูนที่หลายๆ คนชอบและรู้จักคงหนีไม่พ้น Studio Ghibli พูดแบบนี้หลายคนยังไม่รู้ ถ้าผมพูดชื่อ สุสานหิ่งห้อย หรือโทโทโร่เพื่อนรัก น่าจะมีคนรู้จักมากขึ้น









ขึ้นชื่อว่าการ์ตูนโดย เฉพาะการ์ตูนญี่ปุ่น ให้คิดไว้ก่อนว่าตัวเอก น่าจะมีพลังพิเศษที่ไม่เหมือนใคร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องออกแนวดราม่าไม่ต่างจากละคร โทรทัศน์ก็มีมากมาย และหลายเรื่องก็ถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน สำหรับความดราม่าก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าละครโทรทัศน์ หลายเรื่องดูแล้วชวนให้เครียดก็มี แต่ถ้าเป็นพวกการ์ตูนกีฬาจะโอเว่อร์กว่าความเป็นจริงมาก แต่ก็นับเป็นเรื่องดีในการสร้างแรงบัลดาลใจให้เด็กๆ อยากเป็นนักกีฬา


สำหรับ ความคิดที่ว่า การ์ตูน = เด็ก ความคิดแบบนี้แค่คิดก็ผิดแล้วครับ การ์ตูนไม่ได้มีแค่แนวสู้กัน ต่อยตีกันเท่านั้น แนวดราม่าก็มี แนวหักเหลียมเฉือนคม ทำอาหาร การ์ตูนแก๊ก ขำขันเฮฮาก็มี เรียกได้ว่ามีทุกแนว ดีไม่ดีจะมีมากกว่าละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ด้วยซ้ำ ถ้าสรุปว่าการ์ตูน = เด็ก วงการการ์ตูนของบ้านเราก็ยากที่จะพัฒนา เรื่องตัวการ์ตูนไทยจะไปขายที่ต่างประเทศก็คงเป็นได้แค่ฝันต่อไป











หลายคนบอกว่าผมเหมือนตัวละครที่ชื่อ เคียวน์ จากการ์ตูนเรื่อง สึซึมิยะ ฮารุฮิ เนื่องจากผมเป็นคนขี้บ่นแต่ไม่ได้บ่นออกมาให้คนอื่นได้ยิน ถ้าใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง สึซึมิยะ ฮารุฮิ คงจะทราบว่านายเคียวน์ เป็นผู้ชายที่บ่นเก่งมากคนหนึ่ง แต่เป็นการบ่นในใจ หลายๆ เรื่องที่เขียนในบล็อกก็เป็นการบ่น หลายครั้งผมไม่ได้รู้สึกอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วย จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายก็ยื่นมือเข้าไปช่วย หรือร่วมมือแทบทุกครั้งไป ซึ่งก็ดูไม่ต่างจากเจ้าเคียวน์จริงๆ นิสัยซึนเดเระ (ปากอย่างใจอย่าง) จะต่างกันก็แต่ไม่เนื้อหอมเหมือนเจ้าเคียวน์เท่านั้น












ตัวละครที่ประทับใจมีหลายตัวครับ ความจริงตัวละครในการ์ตูนหลายๆ เรื่องก็ไม่ต่างจากคนเราหรอก คือไม่มีคำว่าสมบูรณ์แบบ ต้องมีเรื่องที่ถนัดบ้างและไม่ถนัดบ้าง ถ้าให้เลือก 1 ตัว ผมคงเลือก คิโนโมโตะ ซากุระ จากเรื่องการ์ด แคปเตอร์ซากุระ ผลงานของแคลมป์ ตัวละครตัวนี้ก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ เหมือนตัวละครทั่วๆ ไป ที่บังเอิญใช้เวทมนตร์ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอโดดเด่นนอกจากจะเป็นความน่ารักของเธอแล้ว สิ่งที่เธอยึดถือในใจนั้นน่าสนใจมาก “ไม่เป็นไร ต้องไม่เป็นไรแน่ๆ”


ไม่ว่าเธอจะเจอเรื่องราวที่ยากลำบากเพียงใด เธอก็ฝ่าฟันปัญหามาได้ด้วยคำพูดที่เธอยึดถือนี้ ถ้ามองในมุมอื่นๆ ซากุระจัดได้ว่าเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน เรื่องทางบ้าน หรือแม้แต่การเก็บการ์ดซึ่งเป็นเรื่องทางเวทมนตร์ได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว











Q : เพราะอะไรถึงชอบโมเดลผู้หญิงคะ

A : ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากคาแรกเตอร์ตัวละครในการ์ตูนนี่แหละ ที่มันดูน่ารักทำให้เราอยากได้ แต่ของเล่นก็คือของเล่นครับ ขอแค่เราถูกใจก็พอ ผมค่อนข้างชอบของจิ๋ว ของที่มันน่ารักๆ เรื่องนี้จะโทษผมก็ไม่ถูกนะเออ (ฮา) ต้องโทษทางผู้ผลิตสิที่เขาไม่ค่อยผลิตตัวผู้ชายออกมา


ตรงนี้หลายคน อาจมองว่าการสะสมของพวกนี้สิ้นเปลือง ต้องยอมรับว่า ใช่! ถูกต้อง สิ้นเปลือง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนก็มีวิธีใช้เงินฟุ่มเฟือยที่ต่างกัน สำคัญที่ว่าในแต่ละเดือนเราใช้จำนวนเท่าไหร่ เงินเก็บที่เราต้องเก็บให้ได้ทุกเดือนห้ามขาด เงินเก็บแบบถอนได้ก็อีกส่วน เงินเก็บฉุกเฉินก็ต้องมี ตรงนี้ต้องบริหารกันให้ดีๆ ถึงจะฟุ่มเฟือยเงินฝากประจำก็ต้องไม่ขาดตรงนี้สำคัญครับ ถ้ารักจะเป็นนักสะสม หรือถ้ามันหายากแล้วจะซื้อ ต้องมั่นใจว่าเงินในส่วนที่เราดึงมาใช้เดือนหน้าต้องรีบเอามาโปะคืนให้เร็ว ที่สุด ถ้าขาดวินัยในจุดนี้เราจะแย่เอาได้


สำหรับของสะสมเกี่ยวกับการ์ตูน ผมมีไม่มากครับ หลายคนเวลาซื้อจะซื้อเป็นเรื่อง เป็นซีรี่ย์ที่เขาชอบไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็จะซื้อหมด แต่ผมจะซื้อเฉพาะที่ชอบจริงๆ เท่านั้น เนื่องจากของพวกนี้ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นถ้าไม่ชอบจริงๆ แล้วซื้ออาจไม่มีเงินใช้ก็เป็นได้


พูดถึงของสะสมพวกนี้ ผมเห็นผู้ปกครองเด็กเล็กๆ หลายท่านไม่ทราบว่าของที่เขาซื้อเป็นของปลอม ความจริงซื้อให้เด็กเล็กๆ ซื้อของปลอมก็เป็นเรื่องดีครับ ประหยัดได้หลายเมื่อเทียบกับของแท้ เพราะเด็กยังเล็กความรับผิดชอบเรื่องการรักษาของยังไม่มากพอ อาจทำพังได้ง่ายๆ แต่ที่ผมไม่ชอบคือพวกร้านค้าที่เอาของปลอมมาย้อมแมวขายเป็นของแท้ ถ้าขายของปลอมราคาของปลอมผมจะไม่ว่าอะไรเลย นี่ของปลอมขายราคาของแท้ แบบนี้ผมรับไม่ได้ถือว่าไม่ซื่อสัตย์ ตรงนี้ถ้าผมเข้าไปช่วยได้ก็จะเข้าไปช่วย แต่หลายครั้งมักช่วยไม่ได้ (สงสารผู้ปกครองน้องชะมัด) เนื่องจากพวกพนักงานหรือเจ้าของร้านจ้องอยู่ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่จะซื้อของพวกนี้ให้น้องๆ ก็ศึกษาข้อมูลบ้างก็ดี ถ้าท่านได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ ผมเชื่อว่าท่านสามารถหาข้อมูลได้ไม่ยากครับ











Q : คิดว่าการ์ตูน มีประโยชน์อย่างไรคะ


A : ประโยชน์อย่างแรกของการ์ตูนก็คือ การผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ไม่ต่างจากการชมละคร ดูบอล เล่นเกม ชมภาพยนตร์ หรือท่องเที่ยว เพียงแต่ได้อารมณ์ที่ต่างกันเท่านั้น ถ้าเป็นหนังสือเราได้พัฒนาการอ่าน คนไทยอ่านหนังสือน้อยมาก จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราอ่านอะไรให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ต่อให้เป็นการ์ตูนก็ตามแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การ์ตูนช่วยพัฒนาทักษะการอ่านของเราได้

ประการต่อมาคงจะเป็นเรื่อง ของการส่งเสริมจินตนาการ เคยได้ยินคำว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้มั้ยครับ ผมจะยกตัวอย่างจากการ์ตูนที่คาดว่าทุกคนที่เข้ามาน่าจะรู้จัก เรื่องโดราเอมอน โดราเอมอนทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ มากมาย และในปัจจุบันก็มีอุปกรณ์หลายๆ ตัวที่สามารถประดิษฐ์ออกมาได้จริงแล้ว เช่น วุ้นแปลภาษา = ทอล์กกิ้งดิก, ทีวีแปะผนัง = TV LCD LED ถึงแม้มันจะไม่เหมือนในการ์ตูนมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็ถือว่ามีออกมาแล้ว ที่สำคัญใช้งานได้จริง น่าตกใจนะครับ จินตนาการเมื่อสมัย 30-40 ปีก่อนมาถึงปัจจุบันมันกลับเป็นเรื่องธรรมดาทั่วๆ ไป


ประการ สุดท้าย ตรงนี้น่าจะเรียกว่าเป็นผลพลอยได้มากกว่า ข้อคิดที่ได้จากการ์ตูน ซึ่งหลายเรื่องก็แทรกข้อคิด หรือประเด็นให้เราคิดต่อยอดได้เยอะ รวมไปถึงคำคมก็มีเช่นกัน











.DEATH NOTE


การ์ตูนที่ดังมากถึงขนาดมีภาพยนตร์ และละครซีรี่ย์โทรทัศน์ การที่ยางามิ ไลท์ (คิระ) ฆ่าคนเลวในสังคม ถ้าหากว่าตอนที่มีประกาศจากโทรทัศน์ว่า ตำรวจจะหาทางจับกุม (คิระ) แล้วไลท์ไม่ฆ่าคนที่ออกโทรทัศน์ แต่ยังคงมุ่งฆ่าคนที่ทำชั่วต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ตอนจบของเรื่องอาจเปลี่ยนไปก็ได้



เคยมีคำถามว่าถ้าคุณได้รับ DEATH NOTE คุณจะฆ่าใครโดยเอาไปโยงกับการเมือง แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายก็มีคนที่อยากจะฆ่า และแน่นอนว่าแต่ละฝ่ายก็พูดทำนองเดียวกันว่า “ฆ่า XXX คนเดียว เรื่องจบ” มันน่าคิดนะครับว่ามันจะจบจริงหรือ ขนาดยางามิ ไลท์ตัวเอกของเรื่องที่ได้โน้ตมันยังรู้เลยว่า ไม่มีทาง


"ก็เราจะเปลี่ยนโลกให้เป็นสังคมในอุดมคติปราศจากความชั่วร้ายต่อให้มีเวลาแค่ไหนก็ไม่พอหรอก"

คำพูดของไลท์ (เล่ม 1 ตอนที่ 2 L หน้า 54)





จากคำถามเดียวกันถ้าฆ่าคนได้ 1 คน คุณจะฆ่าใคร มาดูกรณีของเรื่อง สาวน้อยจากนรก บ้าง










ขอเล่าเรื่องย่อให้ฟังก่อน การ์ตูนเรื่องนี้มีเรื่องเล่าว่าถ้าเข้าเว็บไซด์ "ทางผ่านสู่นรก" ในเวลาเที่ยงคืน แล้วใส่ชื่อคนที่ตนเองแค้นต้องการฆ่าลงไป สาวน้อยจากนรกจะมาปรากฏตัว พร้อมมอบตุ๊กตาฟางให้ หากต้องการที่จะส่งคนที่ตนแค้นลงสู่นรกก็ให้ดึงเชือกสีแดงที่ผูกกับตุ๊กตาออก คนที่เราแค้นก็ถูกลากลงนรกทันที แต่ .. การสาปแช่งเป็นดาบสองคม เมื่อตายไป ผู้ที่ดึงด้ายแดงออกจะต้องตกนรกด้วย



คำถามมันก็อยู่ ตรงนี้แหละว่า มีคนที่เราสมควรจะแค้นจนขนาดที่เราต้องเอาตัวเราเข้าแลกเลยหรือ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร หลายครั้งตัวละครในเรื่องทำสิ่งดังกล่าวได้คือไม่จองเวร แต่ส่วนมากจะทำไม่ได้ เพราะถูกความแค้นบังตา ซึ่งแทบทุกครั้งการตัดสินใจดึงด้ายแดงออกล้วนเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด



เป็นต้นว่าเห็นว่าครูเข้มงวด ก็ส่งครูลงนรก ทั้งที่ความจริงครูท่านนั้นเป็นห่วงศิษย์ของตนมาก หรือกรณีเด็กคนหนึ่งเห็นเซลขายสินค้ามาหลอกขายสินค้าให้แม่ตัวเอง ซึ่งแม่ของเด็กคนนั้นก็ซื้อทุกครั้งเพราะหลงคารม และความหล่อของเซล เขาจึงใช้ทางผ่านสู่นรกส่งเซลคนนั้นไปลงนรกเสีย เพราะถ้าไม่มีเซลคนนั้นแม่ของเขาก็จะได้ไม่ถูกหลอก แต่เขาลืมไปว่าต่อให้กำจัดเซลคนนั้นไปก็มีเซลคนใหม่อยู่ดี และต้องไม่ลืมว่าเมื่อตายไปตัวเองก็ต้องตกนรก



มาดูในชีวิตจริงบ้าง มันไม่ต่างจากในการ์ตูนหรอก เพียงแต่ชีวิตจริงไม่สามารถส่งคนลงนรกได้ง่ายๆ เหมือนในการ์ตูน ดังนั้นถ้าเราคิดอะไรตื้นๆ ที่ว่า XXXตายเรื่องจบ XXXหายไปเรื่องจบ มันไม่จบหรอก เพราะมันจะมีคนใหม่มาทดแทนคนเก่าเสมอ ปัญหาก็อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับปัญหาอย่างไร เราต้องต่อสู้กับปัญหา ไม่ใช่หนีปัญหา (ด้วยการกำจัดคนทิ้ง)











ตัว ละครหลายๆ ตัวมักจะมีคำพูดเท่ๆ หรือข้อคิดที่ขัดแย้งกัน ผมชอบการ์ตูนแนวนี้เหมือนกัน อย่างเรื่องโค้ดกีอัส ซุซาคุ มักจะพูดว่า “สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย”

ในขณะที่ ลูลูช กลับบอกว่า “วิธีการธรรมดาทั่วไปใช้เปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้หรอก”

ซุซาคุมีแนวคิดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงองค์กรจากภายใน ในขณะที่ลูลูช กลับบอกว่าทำแบบนั้นมีแต่จะถูกองค์กรกลืนกินเท่านั้น ต้องปฏิวัติ หรือก็คือเปลี่ยนแปลงจากภายนอกด้วยกำลัง คือทั้งสองฝ่ายมีเหตุผลของแต่ละฝ่าย จากนั้นมาสู้กันด้วยสติปัญญา หักเหลี่ยมกัน





แน่นอนว่าพวกข้อคิดคำคมจากการ์ตูน ก็สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตเราได้ ถ้าจะนำมาปรับใช้ ขอยกตัวอย่างคำคมที่ชื่นชอบซัก 3 - 4 อันนะครับ









ในโลกนี้ไม่มีหรอกไอ้ธรรมะปะทะอธรรมอะไรนั่นน่ะ แต่ในความเป็นจริงโลกเป็นการต่อสู้ของฝ่ายธรรมะนับร้อยที่ไม่ลงรอยกัน และสุดท้ายผู้แข็งแกร่งที่สุดต่างหากที่จะได้รับชัยชนะ และเขียนประวัติศาสตร์

กล่าวโดย เจ้าหลินเฉิง จากเรื่อง เนกิมะ! คุณครูจอมเวท





ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์นั้น คนที่ชนะจะทำอะไรก็ดูดีไปหมด คนแพ้ทำอะไรก็เลวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนหรือความเป็นจริงก็ไม่ต่างกัน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เหมือนกรณีตัวร้ายในการ์ตูนเรียกพวกมาอัดตัวเอก แบบนี้เรียกว่าขี้ขลาดตาขาว แต่ถ้าพวกตัวเอกมาลุมทำร้ายเรียกว่าสามัคคีรวมพลังพิชิตเหล่าร้าย ที่เป็นแบบนี้เพราะพวกพระเอกชนะ








ความกล้าที่จะเผชิญหน้า คือความกล้าที่แท้จริง

กล่าวโดย ยูโกะ จากเรื่อง XXX โฮลิค





ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนกล้าเพียงใด แต่ถ้าไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้าก็ไม่ถือว่าเป็นคนกล้า คำว่าเผชิญหน้าความหมายค่อนข้างกว้าง เผชิญหน้าความกลัว เผชิญหน้าผู้คน เผชิญหน้าความตาย เผชิญหน้าความผิดหวังสมหวัง ฯลฯ









ความฉลาดก็คือการรู้จักตนเอง

กล่าวโดย โฮโระ จากเรื่อง สาวหมาป่ากับหนุ่มเครื่องเทศ





คนเราถ้าไม่รู้ตัวเองว่าเป็นอย่างไรก็คือคนไม่ฉลาด ยิ่งถ้าหากทะนงตนว่าตนเองเหนือกว่าใคร ก็ยากที่จะเปิดรับความรู้ใหม่ๆ หรือก็คือปิดประตูรับความฉลาด นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ความฉลาดลดลง เพราะคนอื่นฉลาดมากขึ้น




ในฐานะสไนเปอร์ หากไม่สามารถจัดการศัตรูได้ในนัดเดียวก็ถือว่าแพ้แล้ว

กล่าวโดย ทัตซึมิยะ มานะ จากเรื่อง เนกิมะ! คุณครูจอมเวท


มืออาชีพ ต้องไม่มีคำว่าพลาด ถ้าพลาดทุกอย่างก็คือจบ ถึงแม้แผนการจะสำเร็จก็ตาม นี่เป็นคำพูดแสดงความเป็นมืออาชีพ












Q : คุณต่อได้เข้าร่วมกิจกรรม "ถนนสายนี้มีตะพาบ" ด้วย คุณต่อเริ่มกิจกรรมนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ


A : สำหรับถนนสายนี้มีตะพาบ ผมจำได้ว่าผมร่วมโครงการนี้ครั้งแรกในโจทย์ที่ 15 พอทราบว่าสามารถถ่ายทอดผลงานได้ตามความถนัด ผมจึงถ่ายทอดออกมาในลักษณะของการเอาโมเดลการ์ตูนมาถ่ายภาพ และเล่าเรื่องในรูปแบบการ์ตูนสั้น เนื่องจากการที่เราสามารถถ่ายทอดออกมาได้ไม่จำกัดรูปแบบทำให้ผมเลือกที่จะ ถ่ายทอดออกมาในลักษณะการ์ตูนที่ถนัด



หลายคนถามถึงที่มาของการทำบล็อก รูปแบบโมเดลเล่าเรื่อง ผมจำไม่ได้ว่าอะไรมาดลใจให้ถ่ายภาพเล่าเรื่องแบบนี้ จำได้แต่เพียงว่าบล็อกแรกที่เขียนในลักษณะนี้คือบล็อกเมื่อปลายปี 2549 เรื่องสั้นครั้งแรกคลิก ซึ่งทำออกมาแล้วผลตอบรับดี และผมก็ชอบด้วยจึงได้ทำบล็อกรูปคล้ายกันนี้ออกมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีบางช่วงที่หยุดไปบ้างก็ตาม









ขั้นตอนการเขียนการ์ตูนสั้นจากโมเดลง่ายๆ เลยมี 4 ขั้นตอน
1.เขียนบทว่าจะถ่ายทำอย่างไร ฉากที่ไหน ใครแสดง
2.เตรียมนักแสดง
3.เตรียมฉาก และอุปกรณ์
4.เริ่มถ่ายทำ ซึ่งถ้าไม่สามารถถ่ายทำได้ หรือติดขัดมากๆ อาจต้องเขียนบทใหม่เลย





สำหรับ โครงการนี้ในช่วงแรกจะเป็นการผลัดกันตั้งโจทย์ของบล็อกเกอร์ชื่อดังทั้งสาม ท่านได้แก่ คุณกะว่าก๋า คุณเป็ดสวรรค์ และคุณJewNid ซึ่งแต่ละคนก็จะตั้งโจทย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอพูดถึงโจทย์ที่แต่ละคนตั้งขึ้น และผมชอบที่สุดก็แล้วกัน




พี่ก๋า โจทย์ ที่ชอบที่สุดคือโจทย์ ก้าวข้ามกับดัก ไม่คิดว่าพี่ก๋าจะเอาโจทย์นี้มาเล่น เนื่องจากเรื่องการเมืองพูดยาก อาจก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งได้ง่ายๆ แต่เพื่อนๆ ที่ร่วมเขียนก็ไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ผมค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยที่หลังจากที่ผลการเลือกตั้งของไทยประกาศผลแล้ว เนื่องจากดันมีคนตีความว่าฮารุฮิ (เบอร์ H) เป็นยิ่งลักษณ์ ซึ่งถ้าสังเกตให้ดี ผู้สมัครทั้ง 8 เป็นผู้หญิง 7 ชาย 1 นะครับ



คุณโต้ง (ผมชอบเรียกคุณเป็ด)โจทย์ ที่ชอบที่สุดคือโจทย์ 099LE229D3Eb62F3bC65 เป็นรหัสแปลกๆ ซึ่งในตอนแรกคิดไม่ออกเลยว่าจะเขียนอย่างไร จนกระทั่งไปเห็นรหัสมอร์สจึงเกิดเป็นไอเดียนี้ขึ้นมา จนถึงตอนนี้โจทย์นี้ก็ยังถือว่าเป็นโจทย์ที่ชอบที่สุดเท่าที่คุณเป็ดเคยตั้งโจทย์ขึ้นมา



คุณพู่ JewNid โจทย์ ที่ชอบที่สุดคือโจทย์ วันดีๆ .. ก็มีกับเขาบ้างเหมือนกัน โจทย์นี้สนุกดี คิดเรื่องราวที่จะเขียนได้หลากหลาย แถมเป็นเรื่องราวสอนใจคนได้ดีอีกด้วย โจทย์นี้แซงโค้งโจทย์เก่าที่คุณพู่เคยตั้งไว้อย่างโจทย์โครงการ 17 ที่พูดถึง Google เสียดายที่ช่วงหลังคุณพู่ไม่ค่อยตั้งโจทย์เท่าไหร่



ในช่วงหลังการตั้งโจทย์ของ โครงการถนนสายนี้มีตะพาบจะเป็นลักษณะช่วยกันตั้งโจทย์ โดยให้หลังไมค์ไปให้คุณเป็ดสวรรค์ จากนั้นก็ค่อยลงคะแนนเลือกโจทย์ที่จะเขียนกัน ใครบังเอิญเข้าไปแล้วเห็นเขาโหวตกันก็สามารถร่วมโหวตได้เช่นกัน










ไกลบ้าน สำหรับหมวดนี้จะเป็นข้อมูลสมัยที่ผมไปศึกษาภาษาจีนที่คุนหมิงประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันเมืองนี้เปลี่ยนไปมาก จนไม่น่าเชื่อว่าผ่านไปแค่ 3 ปีเท่านั้น แต่ข้อมูลหลายๆ ส่วน ก็สามารถนำไปประยุกต์และปรับใช้ได้สำหรับคนที่จะไปศึกษาภาษาจีน หรืออาศัยที่ประเทศจีน


ผมเชื่อว่าหลายคนเข้ามาดูหมวดนี้หวังที่จะดู ภาพสวยๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งบล็อกนี้ไม่มี ที่ผมเขียนจะเป็นประสบการณ์ในช่วงที่เรียนและใช้ที่ชีวิตที่คุนหมิงเสีย มากกว่า ว่าเจอเหตุการณ์ไรบ้าง ถ้าต้องไปอาศัยที่นั่นควรทำตัวอย่างไร ดำเนินชีวิตอย่างไร เรื่องอะไรที่บ้านเมืองเขามีแล้วประเทศไทยไม่มี อะไรที่ควรเอาอย่าง รวมไปถึงมุมมืดหรือเรื่องแย่ๆ ของต่างแดน



อาจจะเป็นเรื่องแปลกที่ผมเผาเมืองที่ผมไปอยู่ หรือเขียนเรื่องแย่ๆ แต่ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อที่ว่าคนที่จะไปเที่ยว หรืออาจต้องเจอประสบการณ์แบบเดียวกันจะได้ระวังตัว และไม่เจอเหตุการณ์แย่ๆ แบบที่ผมเจอ ซึ่งบางเรื่องเมื่อมันเกิดกับเรา เราอาจไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ถ้าได้อาจประสบการณ์ของคนอื่นมาบ้าง เราอาจจะตัดสินใจได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็เป็นได้ เนื่องจากเรามีข้อมูล











หัวข้ออื่นๆ ก็เขียนบ้าง แต่ไม่โดดเด่นเหมือนหัวข้อที่ได้กล่าวไปข้างต้น และหลายๆ ครั้งผมก็มักแทรกภาษาจีนหรือการ์ตูนไปตามบล็อกเหล่านั้นเช่นกัน จนบางครั้งไม่ต่างจากบล็อกการ์ตูนเท่าไหร่ แต่โดยพื้นฐานก็ยังเน้นเรื่องที่เขียนนั้นๆ อยู่ มากกว่าเรื่องที่เราเอาเข้าไปแทรก


เรื่องการแบ่งปันนั้นผมมองว่าถ้า คนที่เข้ามาอ่านได้อ่านจริง ไม่ใช่แค่เข้ามาเรียกให้เราไปชมบล็อกเขา เขาจะได้อะไรกลับไปบ้างอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าข้อมูลที่เราเขียนอาจจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขาในตอนนั้น แต่เชื่อเถอะว่ามันต้องมีประโยชน์กับหลายคนที่บังเอิญเสิร์จเข้ามาเจออย่าง แน่นอน






Q : มีหลายคนที่อยากทำบล็อก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร คุณต่อมีอะไรจะบอกคนเหล่านั้นบ้างคะ


A : ก่อน อื่นเราถามตัวเราก่อนว่า .. “เราเขียนบล็อกเพื่ออะไร และต้องการถ่ายทอดอะไรให้ผู้อ่าน”
หลังจากที่ตอบคำถามนี้ได้แล้วค่อยลงมือเขียน การเขียนบล็อกเป็นการแสดงตัวตนของเรา เราสามารถเขียนอย่างไรก็ได้ตามแต่ใจเราปรารถนา



ถ้าติดขัดตรงไหนถามเพื่อนบล็อกได้ ผมเชื่อว่าถ้าเขาตอบได้เขาจะช่วยตอบให้ หลายคนมักจะติดปัญหาในเรื่องของโค้ด HTML เรื่องนี้บล็อก ป้ามด ช่วยได้ หรือถ้าไม่รู้จะถามใครถามมาทางนี้ก็ได้ ถ้าช่วยได้ก็ยินดีจะช่วย แต่ในปัจจุบันทางบล็อกแกงค์ได้ออกแบบ tool ในการเขียนบล็อกรูปแบบใหม่แล้ว ซึ่งก็ใช้ไม่ยาก แต่ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ดังนี้ใครที่ไม่ถนัดโค้ด HTML ใช้การอัพรูปแบบใหม่ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ


ผมมักจะเห็นบล็อกเกอร์หลายคนตัดพ้อว่า “บล็อกของตนเองไม่มีสาระ”

ไม่มีบล็อกที่ไร้สาระหากว่าตั้งใจเขียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามหากตั้งใจเขียน เรื่องราวเหล่านั้นต้องมีประโยชน์แน่นอน มันขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้อ่านมากกว่า ว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวมันไปจากบล็อกที่ได้เข้ามาอ่านมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นขอให้ตั้งใจเขียนเถอะ แล้วผลแห่งความตั้งใจจะตอบสนองท่านเอง



สิ่งที่อยากจะฝากอีกสิ่งสำหรับมือใหม่ คือ การโฆษณาบล็อกโดยการเอารูปหรือกลิตเตอร์ไปแปะที่บล็อกคนอื่น เรื่องนี้สามารถทำได้ แต่ก่อนแปะควรจะอ่านบล็อกของคนที่คุณคลิกเข้าไปเสียก่อน ว่าเขาเขียนเรื่องอะไร ให้เกียรติคนที่ท่านเข้าไปแปะบ้าง เมื่อท่านให้เกียรติเขาท่านก็จะได้รับเกียรติจากเขาเช่นกัน และจงสังเกตด้วยว่าเขาต้องการกลิตเตอร์หรือไม่? เพราะถ้าเขาเขียนเตะตาว่าอย่าติดแล้วยังไปติดคงจะดูไม่ดีนัก ยิ่งถ้าเจ้าของบล็อกนั้นไม่ลบข้อความท่านออกจะยิ่งเป็นการประจานตัวท่านเลย ว่าท่านไม่มีความจริงใจ


ผมเจอกรณีเข้ามาโฆษณาทำยอดให้คนเข้าบล็อก บ่อย จนถึงประมาณเดือนกันยายน 2554 จึงทำป้าย “ขอความกรุณาอย่าติดกลิตเตอร์” ซึ่งตอนนี้ทำออกมาถึง Ver.4 แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ และไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ผมโดนเพื่อนบล็อกหลายคนแต่งตั้งให้เป็น “ผู้นำในการต่อต้านกลิตเตอร์” ความจริงไม่ถึงขนาดนั้นต่อต้านหรอก จะติดก็ไม่ว่าแต่อ่านแล้วคอมเม้นต์อะไรหน่อย ไม่ใช่ติดอย่างเดียวมันไม่มีประโยชน์ทั้ง
ผมและตัวท่าน ผมไม่ดีใจหรอก







โศกนาฏกรรมของบล็อกเกอร์ เขียนโดยคุณชีริว เรื่องการต่อต้านกลิตเตอร์
ผมโดนเพื่อนบล็อกเอาไปล้อ แต่ผมชอบนะ ยกนิ้วให้เลยกับงานเขียนชิ้นนี้ มันโดนใจดี







Q : อยาก ให้คุณต่อ อธิบายถึง ผลเสียในการติดกลิตเตอร์สักนิด เพราะเพื่อนๆอาจจะไม่เข้าใจถึงจุดนี้ ยกตัวอย่างง่ายๆ ดีดีเองที่ไม่มีความรู้เรื่องเหล่านี้เลยค่ะ


A : กลิตเตอร์จากบางเว็บไซด์ จะมีอายุใช้งานเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ 1-2 สัปดาห์ พอเรามาเปิดอีกทีกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาเขียนอะไร มันทำให้รู้สึกอยากลบทิ้งทั้งที่เราก็ไม่ได้อยากลบทิ้ง อีกประการคือ กลิตเตอร์นั้นหนักครับ มันทำให้บล็อกโหลดช้า เราควรเห็นใจเพื่อนๆ ที่เน็ตช้าบ้าง กลิตเตอร์บางประเภทแสบตาครับ ยิ่งถ้าเป็นประเภทตัวอักษรเคลื่อนไปเคลื่อนมาและกระพริบมากๆ ยิ่งแย่ มันไม่เป็นผลดีต่อสายตาเราเลย








หลายคนติดกลิตเตอร์ด้วยความเร่งรีบส่ง ผลให้บล็อกเราบูดเบี้ยวไปเลยก็มี สรุปต้องลบทิ้งเพื่อให้บล็อกกลับมาเป็นดังเดิม ทำไปทำไม เพื่อนบล็อกที่โดนติดไม่ดีใจหรอกนะครับ


เรื่องไวรัสที่อาจมากับกลิตเตอร์ ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่เคยเจอกับตัวเอง จะมีก็แต่เพื่อนบล็อกพูดๆ กันเท่านั้น ที่สำคัญตราบเท่าที่เราไม่คลิกเข้าไปในลิงค์ของกลิตเตอร์ที่นำมาแปะ ก็ไม่น่าส่งผลอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่บางครั้งเราอาจเผลอคลิกเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ซึ่งถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ถือเป็นเรื่องดี ถ้ามีปัญหาก็สายเกินแก้เสียแล้ว


สำหรับเรื่องภาพ ผมไม่เคยห้ามครับ อยากเอาภาพสวยๆ มาแบ่งปันก็ทำเลย โดยเฉพาะภาพที่ท่านถ่ายเอง เพียงแต่ขอร้องอย่างหนึ่งว่าอย่าลบภาพของท่านทิ้งในภายหลัง และอย่าติดภาพที่มีล่อแหลมต่อการทำให้บล็อกผม หรือล็อคอินของท่านเดือดร้อนก็พอ





Q : เคยเบื่อและอยากเลิกทำบล็อกบ้างไหม เพราะอะไร


A : สำหรับความคิดที่จะเลิกเขียนไม่เคยมีอยู่ใน หัวเลยครับ สมัยที่ไปเรียนภาษาอยู่ที่คุนหมิง ขนาดไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ ผมก็ไปนั่งเขียนบล็อกในร้านเน็ต ทั้งที่เวลาจะไปเขียนก็ไม่ค่อยมี มีกิจกรรมและหลายอย่างที่น่าสนใจกว่าการเขียนบล็อก แต่เพราะมันสนุกที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างจากประสบการณ์ของเราสู่คนทั่วไป จากกรณีดังกล่าวน่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งว่าผมไม่เคยรู้สึกอยาก จะเลิกเขียนบล็อกเลย แม้จะมีอุปสรรค์ก็ตาม



อีกประการหนึ่งที่ผมเคย พูดไว้หลายครั้งคือ ผมยังรู้สึกสนุกกับการเขียน และมีความสุขที่ได้แบ่งปันข้อมูลต่างๆ ที่ในมุมมองของเรา ถ้าวันหนึ่งที่ผมรู้สึกไม่สนุก วันนั้นอาจจะเป็นวันสุดท้ายที่จะบล็อก



ผมยอมรับว่าเคยเบื่อจากหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในบล็อกแกงค์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟลัดข้อความเดียวกัน ซ้ำๆ ทุกบล็อกที่โดยที่ไม่สนใจเนื้อหาอะไรในบล็อก กรณีติดแต่กลิตเตอร์อย่างเดียว หรือแม้แต่การโดนชวนทะเลาะ ทำไปเพื่ออะไร? ไม่มีประโยชน์เลย



ผมมองในแง่ดีว่า หลายคนไม่มีความรู้ในเรื่องที่เราเขียน เลยไม่รู้ว่าจะคอมเม้นต์อย่างไร ซึ่งผมก็เคยรู้สึกบ้าง บางครั้งเจอบล็อกที่เขียนได้ดีแต่ไม่รู้จะคอมเม้นต์อะไรก็มี เนื่องจากเราไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ เพียงพอที่จะให้ความเห็นได้ ดังนั้นผมจึงเขียนหลายๆ เรื่อง หรือเขียนเรื่องอื่นบ้าง ไม่เขียนเฉพาะแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ผลก็เหมือนเดิมคือ “คนที่ไม่คิดจะอ่านยังไงก็ไม่คิดจะอ่านอย่างนั้น กูจะติดแต่กลิตเตอร์เรียกแขก”


ผมเคยเจอบล็อกเกอร์ ที่โหดร้ายท่านหนึ่ง เขียนเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับภาพเลย เขาแกล้งเอาภาพมั่วๆ มาประกอบ หลังจากอ่านเสร็จ เราลองอ่านความคิดเห็นในบล็อกของเขา ก็ได้เห็นอะไรสนุกๆ เยอะ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนตั้งใจเขียนบล็อกอย่างเต็มที่ (ใส่เต็ม 100) ถ้าอยากให้คนอื่นอ่านบล็อกเรา ก็จงอ่านบล็อกคนอื่นอย่างตั้งใจ ถ้าท่านอยากได้อะไรกลับมาก็จงทำแบบนั้น หรือใครจะบอกว่า “เขียนมั่วๆ ไม่ตั้งใจเขียน” ..!? ประกาศตัวเลยครับ



ถึง แม้ผมจะยุ่ง หรือแวะไปช้า แต่ถ้าแวะไปบล็อกไหนผมจะตั้งใจอ่าน ผมเชื่อว่าทุกคนก็อยากให้ผมตั้งใจอ่านบล็อกท่านเช่นกัน หรือใครไม่ต้องการให้ผมตั้งใจอ่าน (ให้มาแจ้งที่บล็อกผมเลย)






Q : ในหนึ่งเดือนคุณต่้อ อัพประมาณกี่บล็อกคะ รู้สึกเหนื่อยไหมกับการหาข้อมูลมาทำบล็อก


A : ไม่แน่นอน จำได้ว่าช่วงที่อัพบ่อยสุดอัพทุก 4 วัน และช่วงที่แทบไม่ได้อัพ อัพเดือนละ 1 บล็อก (ในช่วงที่ไปคุนหมิงในครึ่งปีแรก) ปัจจุบันจะอัพประมาณ 6 บล็อกต่อเดือนหรือเฉลี่ยทุก 5-6 วันต่อบล็อกครับ


ถ้าเราอยากทำอะไร เราจะไม่รู้สึกเหนื่อย และเบื่อกับสิ่งที่ทำเลย บล็อกก็เช่นกันในเรื่องการหาข้อมูลไม่เหนื่อยเลยครับ แต่ต้องใช้เวลาในการรับชม (การ์ตูน) และรวบรวมข้อมูล ดังนั้นในการรีวิวการ์ตูนจึงทำได้เต็มที่แค่เดือนละ 1 บล็อกเท่านั้น บางเดือนอาจไม่เห็นการรีวิวการ์ตูนแต่เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูน แทนก็มี อยากมีเวลามากกว่านี้จริงๆ จะได้เขียนได้มากกว่านี้







Q : นอกจากบล็อกแก๊งค์แล้ว สนใจเว็บใดเป็นพิเศษอีกบ้างไหม เช่น facebook หรือ บล็อกอื่นๆ


A : เคยคิดจะเขียนเรื่องแรงๆ อย่างพวกเรื่องการเมืองที่ Exteen เหมือนกัน เห็นอย่างนี้ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจในเรื่องการเมืองนะเออ แต่เนื่องจากไม่มีเวลามากขนาดนั้นแผนนี้เลยต้องพับไป ความจริงแล้ว Exteen มีนักเขียนที่เคยเขียนที่บล็อกแกงค์ย้ายไปเขียนที่นั่นเยอะ แต่ที่นั่นค่อนข้างเฉพาะทางไปหน่อย คือเน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปเลย ซึ่งต่างจากผมที่ความสนใจในเรื่องที่เขียนค่อนข้างหลากหลาย ถ้าเป็นตอนนี้ต้องตอบว่ายังไม่มีเว็บไหนที่สนใจเป็นพิเศษครับ










Q : คุณต่ออยากให้เพื่อนๆ จดจำในฐานะบล็อกเกอร์ที่มีความโดดเด่นด้านใดคะ

A : เนื่องจากบล็อกที่ผมเขียนมีเรื่องราวค่อนข้างหลากหลาย ผมไม่โดดเด่นเฉพาะทางเหมือนบล็อกเกอร์หลายๆ ท่าน ถึงแม้ว่าภาพที่ทุกคนเห็นในตอนนี้จะเป็นบล็อกการ์ตูนก็ตาม แต่ถ้าถามถึงจุดเด่น หรือความโดดเด่นที่อยากให้จำคงจะเป็น “บล็อกที่เขียนในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยเขียน”




Q : ถ้าต้องเปลี่ยนชื่อบล็อกใหม่ คุณต่อคิดว่าจะใช้ล็อกอินว่าอะไรคะ

A : คงใช้เป็นชื่อเดิมไม่ต้องการเปลี่ยน แต่ถ้าต้องเปลี่ยนจริงๆ ใช้ชื่อ “นายท่าน” ก็ไม่เลวเหมือนกัน เวลาเรียกแบบสุภาพนำหน้าว่าคุณจะกลายเป็น “คุณนายท่าน” ไปเลย น่าจะฮาดี




Q: ได้อ่านเรื่องราว แนวคิดของคุณต่อมาเยอะแล้ว ขอทำความรู้จักกับคุณต่อเพิ่มสักนิดนะคะ


A: ผมไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงอะไร เป็นผู้ชายเดินดินกินข้าวแกง เป็นคนง่ายๆ ชอบที่จะสร้างมิตรมากกว่าศัตรู บางครั้งการจะสร้างมิตรเราก็ต้องปิดตาข้างหนึ่ง แต่ก็มีอีกคำกล่าวที่ว่า “คนที่เป็นมิตรแท้เท่านั้น ที่จะบอกเราในจุดด้อย หรือสิ่งไม่ดีของเรา” ลำบากใจเหมือนกัน คงต้องดูเป็นคนๆ ด้วย เพราะในสายตาของคนอื่นที่มองเรา เราเป็นได้ทั้งคนดีและคนเลว เป็นต้นว่า ถ้าผมไปแจ้งตำรวจจับนายXXX ที่ขายยาบ้า จนนายXXX ถูกจับไปประหาร ชาวบ้านคงจะชื่นชมเนื่องจากผมขจัดภัยสังคม และคงมองผมเป็นคนดีแต่ก็ไม่แน่อาจมีชาวบ้านที่มองว่าผมเป็นพวกสร้างภาพเอา หน้าก็ได้ สำหรับพวกนักค้าคงมองผมเป็นไอ้ชั่วที่ทำร้ายเพื่อนของเขาแน่นอน แต่ก็ไม่แน่เขาอาจขอบคุณที่ผมช่วยกำจัดคู่แข่งก็ได้ (คิดได้ยังไง) คงต้องแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนด้วย (นี่ล่ะมั้งมองโลกหลายมุมเกินไป)


ผมชอบมองโลก 2 แง่ คือ เราจะมองแค่มุมเดียวไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือ สิ่งร้ายๆ ที่เรากล่าวถึง เราจะพูดอย่างไรให้มีประโยชน์ต่อผู้ฟัง เป็นต้นว่า ถ้าผมตำหนิการทำงานของหน่วยงานแห่งหนึ่ง ผมจะไม่ตำหนิเพียงอย่างเดียว แต่จะกล่าวถึงแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้ และถ้านำไปใช้ก็จะส่งผลดีกับหน่วยงานนั้นๆ


เป็นต้นว่า รถเมล์ ขสมก. ผมเขียนเรื่องรถเมล์ที่เมืองคุนหมิงไป 2 ครั้ง พร้อมเปรียบเทียบระบบรถเมล์ของประเทศไทย เรื่องที่ผมเน้นคือเรื่องบัตรโดยสาร ซึ่งในปัจจุบัน ขสมก. ก็มีบัตรโดยสารแบบรายสัปดาห์/รายเดือนออกมาให้ใช้ จากที่เคยยกเลิกไปช่วงหนึ่ง ซึ่งในจุดนี้ผมมองว่าทำได้ดี ตรงไหนดีเราก็ต้องชม แต่ในเรื่องของป้าย เรื่องของรถเราก็ยังสู้ประเทศจีนไม่ได้


แน่นอนเรื่องบล็อกก็เช่น เดียวกัน ใครอยากวิจารณ์อะไรก็วิจารณ์ได้เลย เห็นไม่เห็นด้วยอย่างไรพูดได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า พูดสุภาพไม่ยกต้นข่มท่าน ให้เกียรติในฐานะ 1 ล็อคอิน ไม่ใช่ฐานะของคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต คุณจะเป็นใครไม่สำคัญ เมื่อคุณเข้ามาอยู่ในโลกไซเบอร์แห่งนี้ทุกคนเท่าเทียมครับ และหากไม่เห็นด้วยควรเสนอแนวทางที่ท่านเห็นว่าดีมาด้วย การวิจารณ์คนอื่นนั้นง่าย แต่การเสนอแนวทางที่ตนเห็นว่าดีไม่ง่ายเลย ถ้าเราพูดกันได้แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นโลกจริง หรือโลกเสมือนแห่งนี้ ก็จะไม่เกิดปัญหาขัดแย้งถึงขั้นรุนแรง หรือทำร้ายกัน นอกจากคนๆ นั้นจะเป็นคนที่เสียสติ












.
.
.









.
.
.








.
.
.













ทำความรู้จักกับคุณต่อกันมากขึ้นแล้ว ถ้าอยากอ่านเรื่องราวที่มากกว่านี้
คลิ๊กบล็อก >>>
toor36

มิตรภาพดีดีมากมายรออยู่แล้วค่ะ












Create Date : 02 มิถุนายน 2555
Last Update : 4 มิถุนายน 2555 12:41:04 น. 80 comments
Counter : 16803 Pageviews.

 


แวะมาเจิมก่อนเลยครับ ^^


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:0:05:07 น.  

 
มาไม่ทันเจิม ต่อคุณต่อละกันเน๊าะน้องดี
สวัสดีคุณต่อเลยด้วยนะคะ

เดี๋ยวพี่มาอ่านอีกทีนะคะน้องดี



โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:0:38:57 น.  

 
เข้าไปอ่านบล็อกคุณต่อบ่อยๆ ได้เปิดหูเปิดตาเกี่ยวกับจีนด้วย ขอบคุณที่เขียนบล็อกดีดีแบบนี้ค่ะ


โดย: settembre วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:1:32:01 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ


อ่านสัมภาษณ์น้องต่ออย่างจุใจเลย


พี่ก๋าจดจำน้องต่อในฐานะบล้อกเกอร์ด้านการ์ตูนครับ

แต่ความจริงแล้วน้องต่อก็เขียนบล้อกการเมืองได้แหลมคมและแรงนะครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:5:24:55 น.  

 


รู้จักเพิ่มเติมบล็อกเกอร์อีกท่านหนึ่ง
การได้เกิดมาตอนที่เน็ตยังเต่าๆอยู่
มันเป็นอะไรที่สนุกดีเนอะ
แต่ก่อนจะทำอะไรสักอย่าง
ต้องใช้โค้ดทั้งหมด
คิดถึงแล้วก็สนุกดีเหมือนกัน
จะก๊อบงานใส่ฟลอปปี้เอ ต้องพิมพ์โค้ดยาวเหยียด จะบ้าตาย

อรุณสวัสดิ์เช้าวันหยุดจ้าที่รัก


โดย: fonrin วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:8:05:03 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันจ้าคุณดี
โหวตอะไรดี แวดวงเว็บบล็อกแล้วกันนะคะ




โดย: หอมกร วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:8:09:31 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณดี ในยามเช้าวันเสาร์วันหยุด ทำงานและพักผ่อนกันอย่างมีความสุขครับ

มาชื่นชมกับผลงานของคุณต่อ ด้วยคนครับ
2 เรื่องที่ชื่นชอบ ทั้งส่วนที่เป็นเรื่องราวของประเทศจีน และการ์ตูนที่หลากหลายรูปแบบ
ทั้ง 2 เรื่องที่ชื่นชอบ แต่ยังเข้าไม่ถึงและยังไม่ได้ไปเยือนเที่ยวชมประเทศจีนสักครั้ง ได้แต่ชื่นชมกันไปก่อนล่ะครับ

ชื่นชมและประทับใจกับ interview ดี ใน ิblog นี้ด้วยครับ


โดย: ถปรร วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:8:18:35 น.  

 
นั่งอ่านไปเรื่อยๆ ได้เห็นเพื่อนบล็อกมุมมองบางเรื่องมีส่วน
ที่คล้ายๆในการทำบล็อกเล่นบล็อกจ้าน้องดี


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:8:36:33 น.  

 
จองที่นั่งค่า คุณดี
คนนี้น่าสนใจมาก ขอบอก


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:9:01:24 น.  

 
สวัสดีเช้าวันเสาร์ครับคุณดี

โชคดีที่ได้เข้ามาอ่านบทสัมภาษณ์คุณต่อ เยี่ยมมาก (ทั้งคนสัมภาษณ์-เรียบเรียง และเจ้าตัว) ครับ



โดย: ทองกาญจนา วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:9:41:51 น.  

 
ชอบอ่านของพี่ต่อเหมือนกันค่า


โดย: แม่น้องกะบูน วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:9:57:45 น.  

 

โห ไรกันน่ะ


นายท่าน นายท่าน

รีบคลิ๊กเข้ามา
คิดว่าจะได้เห็นหน้าค่าตาคุณต่อบ้าง
ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

อดเห็นคนดังซะงั้น








(ลงชื่อไว้ก่อนนะคะ

คำนิยมจะตามมาเมื่อผ่านทุกตัวอักษรค่ะ)



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:10:13:12 น.  

 
มีประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: chibifachan วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:10:37:21 น.  

 
หวัดดีจ้าา..นู๋ดี

โอ.....ดีมากๆเลยค่ะ แม้ว่ายังอ่านไม่จบ เดี๋ยวจะกลับมาอ่านใหม่ค่ะ




โดย: สองสี วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:12:02:36 น.  

 
พี่ใช้เวลาอ่านบล็อกนี้นานมากน้องดีๆ เพราะมัวคลิ๊กกลับไปดูบล็อกเก่าๆที่น้องต่อพูดถึง

อ่านไปเลื่อนเม้าท์ไป ด้วยหวังว่าต้องไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของบล็อกแน่ๆ (เพราะสังเกตจากบล็อกเก่าๆที่ จขบ.ไม่เคยเอาโฉมหน้าอวดเหมือนพี่)

และก็จริง สุดแล้วยังไม่ได้เห็นหน้าเลย จริงนะน้องริน ไม่เห็นจริงๆ อิ อิ

เมื่อก่อนแรกเล่นบล็อก พี่ก็ขยันแปะกริตเตอร์เหมือนกัน เพราะยังทำอะไรไม่ค่อยเป็น แต่พักหลังพอได้อ่านในบล็อกน้องต่อ เออ..จริงสิ จะไปหามาแปะให้เสียเวลาทำไมวะ เข้าบล็อกเพื่อนๆบอกสวัสดียามเช้าสายบ่ายดึก แล้วแปะกริตเตอร์นี่นะ บ้าป่าววะ ว่างนักหรือไง ไปทอดไข่กินดีกว่า 555

หลังจากนั้นพี่ก็ตาสว่าง ไม่รู้จักกริตเตอร์อีกเลย

จริงด้วย กริตเตอร์เคยทำให้บล็อกพี่ย้วย กว่าจะรู้ว่าเกิดจากมันเพราะคุณก๋าบอก ก็เป็นห่วงบล็อกอยู่ตั้งนานว่าอยู่ๆทำไมบล็อกตูบานวะ

สรุปว่า..บล็อกน้องต่อเป็นอีก 1 บล็อกที่พี่เข้าดูบ่อยๆ แม้ไม่ทุกบล็อก แต่ถ้ามีเวลาก็จะพยายามคลิ๊กนะ

จขบ.ไม่เผยโฉม เกิดเดินเจอพี่ที่สยามพาราก้อน อย่าลืมทักบ้างนะ 555

โชคดีน้องต่อ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:13:17:53 น.  

 
แม้จะเป็นบล็อกที่ยาวมาก
แต่ก็แบบอ่านอย่างจุใจไปเลย
แถมภาพการ์ตูนสวยๆ
แง่คิด ประสบการณ์ดีๆของพี่เค้ามาแชร์ให้อ่าน
เลยต้องอ่านจนจบ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:13:37:29 น.  

 
โหหหหหหหหห หลายเรื่องข้างบนที่ทั้งดุและอ่านค่ะ ปัจจุบันก็ยังบ้าการ์ตูนอยู่ ^^


โดย: ริมน้ำ_ขอบฟ้า (rimnam_kobfa ) วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:14:24:57 น.  

 
หลังจากที่รู้จักคุณต่อจากการเล่นบล็อกมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว

รินก็คิดไปโน่นเลยว่าคุณต่อน่าจะเป็นผู้ใหญ่สูงวัยมากกกกก
เพราะน้อยครั้งที่คุณต่อจะมีมุขขำๆ

แต่ก็ได้มาอ่านบทสัมภาษณ์ในวันนี้ก็เข้าใจว่า
คุณต่อค่อนข้าง จริงจังกับชีวิตมาก ๆ เลย

ใช่ป่าวค๊า ??

ด้วยการที่ถูกคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าห้อง ที่ต้องแสดงความรับผิดชอบหลายอย่างด้วย
จึงค่อนข้างจริงจัง

และทำให้มองคุณต่อเป็นคนที่ซีเรียสมาก ๆ เลยนะเนี่ย
เป็นงั้นไป อิอิ




จะเป็นเพราะด้วยงานหลากหลายและความสามารถเฉพาะตัวที่คุณต่อโดดเด่น ไม่ว่า ด้านภาษาจีน และด้านการ์ตูน
คุณต่อมีความรู้ตรงนี้และทำออกมาได้ดี ถือว่าเป็นความรู้ที่เผื่อแผ่เพื่อนๆ ได้อย่างดีเลยทีเดียวค่ะ





กลิี๊ตเตอร์ นี่ก็เหมือนกัน คุณต่อทำให้เพื่อนๆ นึกขยาดที่จะแปะไปเลย อ้าว ๆ เว้นรินไปได้เลยนะ 555 เพราะรินไม่เคยทำ
เ้ว้นแต่ว่า ขออนุญาติแล้ว
เพราะบล็อกคุณต่อรินก็ไปอ่านอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ถึงรู้ว่า ต้องการอะไร เป็นอย่างไร
สวนคนอื่นทำให้เหนื่อยหน่ายตรงนี้บ้าง ก็เข้าใจค่ะ


คุณต่อเขียนบล็อกมากว่า 5 ปี นับถือจริงๆ ที่จะไม่มีการคิดพักบล้อกปิดบล้อกบ้างเลย
นี่แหละคะ ถึงมองออกว่า
คุณต่อเี่นี่ย เป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสและจริงจัีงมากนะเนี่ย อิอิ





ถนนสายนี้มีตะพาบ
เช่นกัน ทำให้ได้ร่วมงานทีมเดียวกลุ่มเดียวกับคุณต่อด้วย
คุณต่อจะชอบมาทักทายและเตือนเสมอเรื่องตะพาบแต่ละงวด
ตะพาบคุณต่อแต่ละครั้งก็จะเป็นคอนเซปต์ของการ์ตูนตลอดมา
แต่บางทีก็อ่าน แล้ว Get บ้างไม่ Get บ้างน๊า

อยากให้เพิ่มความขำอีกหน่อย
บางที มันขำไม่ออกเลยค่า








และสุดท้ายอยากบอกว่า

ยินดีที่ได้มาพบเจอกันในโลกออนไลน์ค่ะ
แม้วันนี้เ้ข้ามาคิดว่ากะจะได้เห็นหน้าคุณต่อบ้าง

ปิดตัวเองซะงั้น โถ่คนเรา 555+


และเชื่อว่า ใครหลายคนกว่า 90%
อยากเห็นหน้าคุณต่อ




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:16:53:16 น.  

 
@Rinsa Yoyolive
เห็นอย่างนี้หลายคนเรียกผมว่าลุง ดีที่ไม่โดนเรียกปู่ (ล้อเล่นครับ) ขอไม่เปิดเผยตัวดีกว่า เนื่องจากการ์ตูนในประเทศนี้ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับเท่าไหร่นัก ผมจริงจังในบางเรื่องครับ จะว่าไงดี ถ้าไม่สนิทมากๆ เล่นแล้วมันเหมือนลามปามซึ่งผมไม่ชอบเท่าไหร่จึงไม่ทำ (กลัวโดนว่าด้วย)

ความรู้ภาษาจีนของผมยังแค่ผิวเผินเท่านั้น ยังมีคนเก่งกว่านี้อีกมาก อาจจะเป็นอย่างที่คุณรินพูดก็ได้มั้งครับ เพราะลักษณะงานทำให้บุคลิกผมออกไปในแนวเครียดๆ ถ้าไม่มีการ์ตูน คงกลายไปคนที่เครียดมากแน่ๆ

ผมรำคาญกลิตเตอร์ครับ แปะโดยไม่อ่านอะไรเลย มาชวนให้แวะไปที่บล็อกอย่างเดียว ผมก็แวะไปอ่านด้วยความตั้งใจ จะมีช่วงหลังเท่านั้นที่งานยุ่ง ผมก็จะแวะไปแค่ขอบคุณที่ชวนมาดู แต่แน่นอนว่าผมก็ไม่อ่านเช่นกัน

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในการเขียนถนนสายนี้มีตะพาบ รู้สึกช่วงหลัง มันดูเครียดจริงๆ ด้วย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:17:27:53 น.  

 
หลับฝันดีค่ะคุณดี



~โคลงสามสุภาพ~

อกเอยอุโฆษขืนควร.....เหมือนชักชวนจ่อมล้ำ
ใจเอยเหลือทนช้ำ...อย่างผู้ละห้อยเข็ญ

กาลผ่านร่วมรู้สึก...เจ็บเร้นลึกวันทิ้ง
ใจยังกร่ำกลืนสะอิ้ง...วันนี้สุดหวน

อารมณ์สู่ลานสงบ...คราใจสบเคลื่อนห้อม
ใจจักหลุดดวงล้อม...เลือนแล้วแห่งหน

รอคอยท่ามเปล่าดาย....จมจำหายทุกข์ร้อน
สืบบทแค่รอยย้อน....เหลือร้าวรอขาน

เก่าเลือนอันวันสถิต...แค่ชีวิตเคยลอบก้าว
วันนี้จากแล้วร้าว....วิถีขมสถาน



โดย: ญามี่ วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:21:51:12 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขยันสัมภาษณ์ได้ยาวเลยว่างๆจะเข้ามาอ่านอีกค่ะ ขอบคุณที่ไปเยี่ยมค่ะจะให้โหวตสาขาอะไรคะ
พรุ่งนี้จะมาโหวตให้ค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:22:03:35 น.  

 
ยาวมากทีเดียว อ่านมาได้สักหนึ่งในสี่เท่านั้น
วันนี้เน็ตช้าทั้งที่3Gแล้ว ภาพเลยขึ้นทีละภาพ
ทำให้ข้อความกระตุก อ่านยากชักจะไม่สนุก
ไว้จะมาอ่านต่อครับ น้องดี

คืนก่อนไม่ได้นอนดึกน้า แต่นอนเร็ว
แล้วตื่นมาตอนดึกน่ะครับ ขอบคุณที่ห่วงใย



โดย: คนบ้า(น)ป่า (nulaw.m ) วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:22:09:21 น.  

 
มาชื่นชมกับผลงานของคุณต่อ ด้วยค่ะ

newyorknurse



โดย: newyorknurse วันที่: 2 มิถุนายน 2555 เวลา:22:39:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์เช้าวันอาทิตย์จ๊ะที่รัก
ทำอะไรอยู่น้าตอนนี้
มีอะไรอร่อยๆเผื่อเค้าด้วยน้า


โดย: fonrin วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:7:09:48 น.  

 
แวะมาอ่าน..ขอบคุณครับ


โดย: ครูทำเนียบ วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:8:38:31 น.  

 
อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณต่อแล้วก็เหมือนจะเริ่มเข้าใจตัวตนของคุณต่อมากขึ้นนะค่ะ

บางครั้งก็คิดจะพูดเล่นอะไรบ้างกับคุณต่อ พอพิมพ์ ๆ ไป ก็ให้ลบทิ้งซะงั้น
ด้วยภาพลักษณ์หรืออะไรบางอย่างที่ทำให้เราเกิดอาการไม่กล้า .. 555
แต่คุณต่อเป็นคุณต่ออย่างนี้ดีแล้วค่ะ อย่าเป็นเลยคุณนายท่าน คิดไปถึงผู้หญิงเลย แฮ่ะ ๆๆ

บางครั้งความเป็นเราของเราที่สื่อออกมามันก็แสดงให้เห็นชัดถึงตัวตนนั้นนะค่ะ
การ์ตูน ชอบอ่านค่ะ เห็นอย่างนี้แล้วนี่ ชอบอ่านการ์ตูนมาก ..

ยินดีที่ได้รู้จักคุณต่อนะค่ะ
ขอบคุณคุณดีด้วยค่ะที่ทำให้รู้จักคุณต่อมากขึ้น

ว่าแต่เป็นหนึ่งในเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยค่ะที่อยากเห็นหน้าคุณต่อ ...
วิ้ววว ๆๆ

สองพี


โดย: SongPee วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:9:23:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ

มาอ่านบทสัมภาษณ์คุณต่อได้ความรู้ดีมากทั้งเรื่องประเทศจีน
ภาษาจีนการ์ตูนและอื่นๆอีกมากมาย ว่างๆจะมาอ่านต่อค่ะ วันนี้โหวตให้ก่อนค่ะ


โดย: พรไม้หอม วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:9:37:10 น.  

 
แรกเริ่มรู้จักคุณต่อก็ในฐานะบล็อกที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวภาษาจีน เห็นปุ๊บก็รีบขอแอ๊ดไว้เป็นเพื่อนบล็อกทันที

เพื่อจะได้มีบล็อกที่ไว้เป็นที่เรียนรู้ภาษาจีนบ้าง

ต่อมาก็พบว่าคุณต่อนั้นนอกจากมีเรื่องราวเกี่ยวกับภาษาจีนมาฝากเสมอแล้วคุณต่อยังมีความสามารถในการนำโมเดลน่ารักๆมาเข้าฉากถ่ายทำนำเสนอเป็นเรื่องราวต่างๆ กลายเป็นบล็อกที่มีความเด่นด้านการ์ตูน ซึ่งเห็นการจัดแสงจัดฉากถ่ายทำแล้วก็รู้ว่าการควบคุมให้ภาพออกมากลมกล่อมเป็นโทนเดียวกันทั้งเรื่องนั้้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ยิ่งบางตอนมีนักแสดงรับเชิญเป็นสัตว์เลี้ยงด้วย เห็นแล้วก็โอ้ว ขยี้ตาสองที ฮะแรกยังนึกว่าเป็นโมเดลสุนัขรึเปล่าหว่า อิอิ

นึกถึงภาพคุณต่อต้องนึกถึงบล็อกการ์ตูนญี่ปุ่น+บล็อกภาษาจีน

เมื่อก่อนผมก็ติดหนังสือการ์ตูนครับ เรื่องนี้ไง เหล่าฟูจื้อ ติดงอมเลย คุณพ่อซื้อมาอ่านเป็นประจำผมก็เลยชอบอ่านไปด้วย

老夫子





โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:9:50:26 น.  

 
หวัดดีจ้า...นู๋ดี
กลับมาอ่านอีกครั้ง ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ


โดย: สองสี วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:10:17:00 น.  

 
เอ่อ...เค้าว่ามันอกหักนะตะเอง
หวานตรงไหนเนี๊ย


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:14:53:23 น.  

 
@SongPee
ด้วยหน้าที่การงานซึ่งต้องการความเชื่อถือจากคนภายนอกจึงมิอาจเผยตัวครับ ความจริงเรื่องล้อเล่นก็เล่นๆ กันตามสบายเลย เพียงแต่ผมไม่เริ่มก่อนเพราะกลัวโดนว่าเท่านั้นเอง

@น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
老夫子 เดี๋ยวลองไปหาโหลดมาอ่านดีกว่า ขอบคุณที่แนะนำครับ ผมเดาว่ามันน่าจะอารมณ์แบบเดียวกับขายหัวเราะบ้านเรา ถ้าโหลดมาอ่านแล้วถูกใจมากจนถึงขนาดเอามาเขียนบล็อก ผมจะใส่ชื่อท่านไว้ในฐานะผู้แนะนำการ์ตูนเรื่องนี้

ปีนี้กะจะเขียนบล็อกภาษาจีนให้มากขึ้น แต่แน่นอนว่า คงเป็นรูปแบบไม่ธรรมดามากขึ้นเรื่อยๆ



จะว่าไงดีเรื่องกลิตเตอร์ หรือเรื่องติดรูป ผมเดาว่าหลายคนน่าจะเคยเจอกรณีว่า เราไม่เคยเข้าบล็อก "เขา" มาก่อนเลย แต่ "เขา" มาชวนเราไปอ่านบล็อก "เขา" ทุกครั้ง โดยมาแค่ติดกลิตเตอร์อย่างเดียว ซึ่งโดยปกติแล้วการที่เราจะเข้าบล็อกใครเป็นครั้งแรกน่าจะมาจากความสนใจในเรื่องเดียวกัน หรือคอมเม้นต์จากบล็อกเพื่อนของเราที่โดนใจทำให้อยากรู้จัก

มันน่าแปลกที่ว่า ทั้งที่ "เขา" ไม่ได้สนใจเนื้อหาในบล็อกเราเลย ไม่มีแม้แต่คำพูดอะไรเลยนอกจากกลิตเตอร์...... MLM หรือครับที่ต้องทำยอดคอมเม้นต์ต่อบล็อก


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:15:39:12 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
มัชชาร Fanclub Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
------------------
แอบผิดหวังที่ไม่เห็นหน้าคุณต่อ อิอิอิ โหวตค่ะน้องดี


โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 มิถุนายน 2555 เวลา:18:05:40 น.  

 
สวัสดีในวันพระใหญ่ 2600 ปี เปี่ยมบุญ มากความสุข ครับ


โดย: **mp5** วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:9:25:51 น.  

 

123Friendster.Com

123Friendster.com - More Thank You Comments

---------------------------------
วันนี้วันหยุดมีโปรแกรมไปไหนบ้างคะ แวะมาทักทายเหมือนเคยค่ะน้องดี


โดย: เกศสุริยง วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:11:31:45 น.  

 

ชอบภาพประกอบและเรื่องวันนี้จ้ะน้องดี

จริงๆ เราใจตรงกันนะ พี่นึกในใจเหมือนกัน มีบล็อกเกอร์ท่านใด ที่เราเคยคุยด้วยแล้วอยากรู้จักมากกว่านี้ หรือไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย มีมั้ย ดูเหมือนเกือบจะัครบทุกวงการ นึกไปถึงคนชอบการ์ตูน เขียนเรื่องการ์ตูน ก็นึกถึงคุณต่อ กับคุณชีริว ขึ้นมา...เหมือนน้องดีจะรู้เลยจ้ะ

ชอบบทสัมภาษณ์วันนี้ มีหลายมุมหลายเรื่องที่ตรงใจพี่ เหมือนที่พี่อยากพูด...

ชอบภาพวันนี้...สวย ชัดเจนดี พี่ชอบภาพใหญ่ๆ เพราะตาไม่ค่อยดีแล้วเนาะ (ตามอายุ) คิดเอาเองว่า ต้องมีคนเหมือนเราบ้างน่า...เลยทำรูปซะใหญ่โตไม่เกรงใจใครเหมือนกัน...

เราทำอะไรแล้วมีความสุข ก็หวังว่าคนผ่านทางเข้ามาจะได้รับความสุขเช่นเดียวกัน...เนอะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:13:23:32 น.  

 
รู้จักคุณต่อครั้งแรกกับเรื่องราวของประเทศจีน
และก็มาถูกอกถูกใจกับน้องดำตัวร้ายน่ารัก
วันนี้น้องดีพามาให้รู้จักคุณต่อมากขึ้นขอบคุณมากนะคะ
คุณต่อออกขรึมเครียด แต่อีกมุมหนึ่งน่าจะมีช่วงฮาเฮบ้างหล่ะค่ะ




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:17:07:17 น.  

 
อ่ะ...อ้าววว
Interview คุณต่อนินา
ฉัตรพลาดไปเลย
เด๋วหลังไมค์ึคุณต่อไปที่ข้อความที่เฟชนะคะ งิงิ

คุณดีสัมภาษณ์ได้ดีสมชื่อค่ะ
ฉัตรชอบภาพประกอบที่นี่มากว่าที่บล๊อกคุณต่อซะอีกนะเอ้อออ..ฮี่ๆๆๆ เพราะภาพใหญ่ ชัดเเจ๋ว ดูสวยงามมากค่ะ
ความโดดเด่นของคุณต่อสำหรับฉัตรแล้ว คือ ความคิดและมุมมองค่ะ สังเกตุได้จากการตอบประเด็นและคอมเม้นแต่ละที่ แต่ละช็อตเด็ดขาดได้ใจ ตรงไปตรงมาแต่ประนีประนอม ฉัตรชอบนะ อ่านแล้วรู้สึกว่า "คม" ดีน่ะค่ะ
-----------
คุณดีสบายดีนะคะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 4 มิถุนายน 2555 เวลา:18:03:51 น.  

 
หวัดดีครับน้องดี


พี่ก๋าอ่วมเลย
เจอหวัดหมิงหมิง

มึนจัด 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:7:26:27 น.  

 
จ๊วฟฟฟฟฟฟฟฟ ที่รัก
วันนี้เน็ตเค้าเน่ามาก
ไม่ไหวที่จะเคลียร์เลยอ่า

มาจุ๊ฟๆ แล้วก็ไปทำงานละน้า


โดย: fonrin วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:7:46:47 น.  

 
ทักทายสวัสดีกันยามเช้ากับคุณ ดี ครับ

ทำงานกันอย่างมีความสุขตลอดวันครับ


โดย: ถปรร วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:8:09:25 น.  

 
หวัดดีจ้า..นู๋ดี


โดย: สองสี วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:9:53:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ สมาชิกใหม่รายงานตัว


โดย: belle1 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:13:51:55 น.  

 
อปฺปเสโนปิ เจ มนฺตี มหาเสนํ อมนฺตินํ

ถึงแม้จะมีกำลังพลน้อย แต่มีความคิด
ก็เอาชนะกองทัพใหญ่ที่ไร้ความคิดได้




สวัสดีค่ะ

ระยะนี้ ปอป้าไม่ได้เข้าบล๊อกทุกวัน
เนื่องจากติดภารกิจเดินสายต่างจังหวัดทุกสัปดาห์
อาจจะทำให้การทักทายขาด ๆ หาย ๆ ไปบ้าง
ถ้ามีโอกาสก็จะรีบเข้ามาทักทายตอบเม้นท์เหมือนเช่นเคย..นะคะ

คิดถึงเพื่อนบล๊อกทุกท่านเสมอ...ค่ะ

................

บล๊อกคุณต่อ
น่ารักและให้สาระดีด้วย...ค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:14:29:49 น.  

 
แวะมาชมบทสัมภาษณ์ค่ะ
ได้รู้จักคุณต่อมากขึ้นจริง ๆ
ตัวการ์ตูนน่ารักมากค่ะ


โดย: Gunpung วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:5:13:58 น.  

 
แวะมาอ่านสัมภาษณ์คุณต่อค่ะ
ขอบคุณนะคะคุณดี


โดย: ป้าโซ วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:15:09:10 น.  

 
พี่ต่อดังใหญ่แล้วนะเนี่ย ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:19:15:10 น.  

 
ชื่นชมฝีมือคุณต่อด้วยคนครับ แต่ผมไม่ค่อยจะได้เข้ามาอ่านบล็อกของคุณต่อ หรือของใครๆ
ผมเป็นคนขี้เกียจอ่าน ..ขี้เกียจอ่านจริง ๆ ไม่ได้หลอก
แต่รู้นะครับว่า บล็อกใครเขียนเก่ง บล็อกใครตั้งใจทำ บล็อกใคร โบ๋ เบ๋
บล็อกของคุณต่อ เป็นบล็อกหนึ่ง ที่มีมีเนื้อหาสาระคับแก้วแน่นอน
ใครเข้ามาเยี่ยม ใครเข้ามาอ่าน จะไม่กลับไปมือเปล่าแน่ ๆ

ขอบคุณคุณต่อที่ตั้งใจทำบล็อกดีๆ ให้กับสังคม
ขอให้คุณความดีและความตั้งใจ ส่งเสริมให้คุณต่อมีแต่ความก้าวหน้าและความสุขตลอดไปครับ

ขอบคุณน้องดีนะครับ บล็อกนี้พี่อ่านบล็อกจนจบครับ
ไม่มีช่วงไหนที่คิดจะเลิกอ่านบล็อกกลางคันเลย


โดย: yyswim วันที่: 7 มิถุนายน 2555 เวลา:23:29:12 น.  

 
มาอ่านทำความรู้จักคุณต่อให้มากขึ้นค่ะ
ขอบคุณสำหรับบทสัมภาษณ์ดีๆนะคะ


โดย: anigia วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:4:19:58 น.  

 
นายท่านให้สัมภาษณ์ให้ยาวมากๆ แบบรู้จักถึงกึ๋นเลยนะคะเนี๊ยะ สุดยอด


โดย: คมไผ่ วันที่: 8 มิถุนายน 2555 เวลา:23:05:29 น.  

 
@สายหมอกและก้อนเมฆ
ถือว่าผมเป็นตัวแทนหลายๆ คนพูดในเรื่องที่หลายๆ คนไม่พูดละกันครับ อย่างที่บอก ผมจะเน้นพูดหรือเขียนในสิ่งที่หลายๆ คนไม่เขียนกัน

@ณ ปลายฉัตร
เรื่องภาพดูเหมือนจะมีหลายคนพูดเรื่องนี้เหมือนกัน คงต้องเอาไปพิจารณาจริงๆ ซะแล้ว

@yyswim
ผมมองว่าทุกคนตั้งใจเขียนครับ แม้ว่าในสายตาเราอาจจะดูเหมือนไม่ตั้งใจก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าเขาตั้งใจเขียน

บล็อกของพี่สินก็ถือว่าเป็นบล็อกที่ตั้งใจเขียนอย่างมาก ข้อมูลแน่นทุกเอนทรี่ แถมอัพบ่อยด้วย (สุดยอดจริง)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 มิถุนายน 2555 เวลา:23:30:30 น.  

 


แอบมาเห็นด้วยกับคุณฉัตรค่ะ
ภาพการ์ตูนที่บล็อกดี. ใหญ่แล้วทำให้อ่านง่าย
ถ้าการ์ตูนที่บล็อกคุณต่อใหญ่แบบนี้
ดี.โหวตการ์ตูนให้รอบละ 2 โหวตเลยเอ๊า
โหวตจริง 1 โหวต
โหวตในใจ 1 โหวต คริคริ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 10 มิถุนายน 2555 เวลา:9:07:18 น.  

 


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 10 มิถุนายน 2555 เวลา:11:12:52 น.  

 
หวัดดี ค่ะ คุณ ต่อ และน้องดี..
ห่างหายไปนาน ไม่ค่อยได้แวะ มา และก็เพิ่ง รู้ ว่ามีสำภาษณ์ และก็เป็นคนที่เรารู้จัก ซะด้วย ..
...คุณ ต่อจัด ว่าเป็นแฟนพันธ์แท้การ์ตูน เลยก็ว่าได้ รู้เรื่องเยอะ ดี และก็ละเอียด ด้วยสิ..
รู้จัก เรื่องการ์ตูน จากที่เข้าไปเยี่ยม บล็อก ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ค่อยได้อ่าน เห็นจาก ของลูก มากกว่า ..

ภาพสวย ถ่ายทอดเรื่องราว ได้ดี ..เป็นเอกลักษ์ เลยค่ะ ..
มาอ่าน สัมภาษณ์ แล้ว ก็ได้รู้จัก มากขึ้น ..
เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน และจริงจัง นะ ..บางครั้งเลยดูเหมือนซีเรียส555..

ขอบคุณ ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟัง จ้า..


โดย: tifun วันที่: 10 มิถุนายน 2555 เวลา:13:34:28 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณดี เป็นบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจมากเลยค่ะ

อยากจะบอกว่าเป็นอีกคนนึงที่ทันยุค ICQ และใช้แผ่น Disk แต่ก็สนุกไปอีกแบบค่ะ ^__^

จำได้ว่าถ้านึกถึงคุณต่อก็ต้องนึกถึงการ์ตูนนี่แหละ ชอบสไตล์การเขียนบล๊อกของคุณต่อนะคะ คิดว่าได้แง่คิดและน่าสนใจ แต่ระยะหลังไม่ค่อยได้เข้าบล๊อกแก๊งเลยห่างๆไป แต่แวะมาอีกครั้งเจอบทสัมภาษณ์ดีใจค่ะที่ได้มาอ่าน ทำให้รู้จักตัวตนของคุณต่อมากขึ้น...ขอบคุณค่ะ


โดย: ปางหวัน วันที่: 10 มิถุนายน 2555 เวลา:21:14:11 น.  

 
รู้จักคุณต่อ ตั้งแต่แรก ๆ
ที่วีเข้ามาริอ่านมีบล็อกกับเขา
และก็ยังเข้าไปในบล็อกคุณต่อสม่ำเสมอ
ชอบมาก ๆ กับความรู้ที่ได้รับ
จากบล็อกนี้ค่ะ


โดย: โสดในซอย วันที่: 11 มิถุนายน 2555 เวลา:8:55:42 น.  

 
มารู้จักคุณต่อเพิ่มเติมครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 12 มิถุนายน 2555 เวลา:22:47:53 น.  

 
เท่ห์จริง พ่อหนุ่มคนนี้


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 12 มิถุนายน 2555 เวลา:23:15:38 น.  

 
ว๊าวยาวมากๆ อ่านคร่าวๆก่อนนะครับต้องกลับบ้านแล้วหล่ะ ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 14 มิถุนายน 2555 เวลา:19:34:11 น.  

 
^
^

คนที่ 59__พิมพ์แค่เม้นต์เดียว แต่ยาวเท่ากับผมพิมพ์ 1 เดือน 55


ผมชอบอ่าน blog คุณต่อนะครับ แต่เม้นต์ไม่ค่อยทัน เน็ตหลุดตลอด -_-"
เท่าที่ผมเคยอ่าน exteen มาบ้าง...
ผมว่า blog การเมืองของคุณต่อไม่ค่อยเป็นแนวที่คนใน exteen อ่านกันเท่าไหร่นะ
เรื่องการเมือง...เขียนใน bloggang นี่แหละดีแล้ว ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:12:12:49 น.  

 
^
^

มีคนมาเห็นด้วยเยอะเลยนะคะคุณต่อ


เปิดเผยตัวมาซะดีดี

ปิดตาข้างหนึ่งเหมือนโจรสลัดก็ได้เอ้า


555+




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:15:04:10 น.  

 
โค้ดผมตก " ไปตัวนึง ทำบล็อกเขาเละเรย
พี่หยียังอุตส่าห์ไปวิวซอร์สโค้ดขุดมาได้ โอ้ว

ขอหนีคดีก่อนละครับ ฟิ้ว! ---

เม้นท์ผมลบออกแล้วแปะใหม่เลยก็ได้ครับ


โดย: ชีริว วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:17:29:25 น.  

 
D e s s e r t > > > 59 < < < S e a s o n

เพิ่งรู้ว่า 36 มาจากเลขที่ตอน ม.ปลาย ผมลืมไปแระว่าตัวเองเลขที่อะไร แต่พาสเวิร์ดที่ใช้เข้าบล็อกนี่ใช้เลข ID นิสิตครับ

ได้เป็นหัวหน้าห้องแล้วยังได้รางวัลนักศึกษาต่างชาติดีเด่น สวดยวดไปเลยคุณต่อ
ผมอยากเรียนภาษาที่สามเหมือนกัน แต่ไม่ได้เริ่มซะที หัวหน้าฝ่ายผมรู้ 5 ภาษา เวลาว่างๆก็หยิบตำราภาษาต่างๆมาทบทวนเรื่อยๆ หัวหน้าฝ่ายคนเก่าที่เกษียณไปแล้วก็ยังพยายามเรียนภาษาอื่นเพิ่ม ส่วนอังกฤษแกระดับโลกไปแล้ว พูดเร็วจนฝรั่งฟังไม่ทัน คนเราไม่มีใครแก่เกินเรียนจริงๆครับ
ยิ่งศัพท์เฉพาะทางยิ่งยากอย่างที่คุณต่อว่า ทั้งที่ตอนสอบโทเฟลพาร์ท writing ผมทำคะแนนเต็มไปแล้ว แต่พอเขียนเรื่องเฉพาะทางมันอีกเรื่องเลยครับ ผมเคยเรียนคอร์สภาษาสำหรับธุรกิจก็ช่วยให้เขียนงานได้เยอะเหมือนกัน

เห็นด้วยกับพี่หนูว่าคุณต่อพูดในสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูด แต่มันโดนใจใช่เลย บางคนฟังเข้าอาจรู้สึกจุก แต่ก็เป็นโอกาสดีที่มีคนพูดให้ได้เอาไปพิจารณาดูครับ

เมืองจีนหลายคนถ้าไปครั้งแรกก็ต้องปักกิ่งเนอะ ในสามที่นี้ผมเคยไปแค่กำแพงเมืองจีน แต่ขึ้นที่ี่ปักกิ่งนะครับ ประทับใจในความใหญ่โต แต่ไม่ประทับใจที่เหม็นฉี่
ส่วนในลิสต์สถานที่ๆคุณต่อยังไม่เคยไปผมอยากไปสุสานจิ๋นซีครับ

บล็อกที่มีความสนใจกระจัดกระจายนี่แหละครับ ลักษณะของเว็บล็อก สถานที่ๆเป็นเหมือนไดอารี่ของเรา ของผมก็กระจายยิ่งกว่าคุณต่อซะอีก มีทั้งการ์ตูน เกม มวยปล้ำ ภาพถ่าย ท่องเที่ยว ยันวิทยาศาสตร์
ตอนที่บล็อกคุณต่อได้โหวตเป็นบล็อกการ์ตูนยอดเยี่ยมเนี่ยโดนใจสุดๆแล้วครับ ที่ผ่านมาปีก่อนๆให้โหวตรวมๆ ไม่ใช่แยกรายบล็อก พวกที่ได้รางวัลบล็อกการ์ตูนพอเข้ามาดูไม่เห็นเจอการ์ตูนสักบล็อก -*-

จะว่าไปคุณต่อก็เหมือนตาเคียวน์นิดๆ เวลาดูฮารุฮิทีไรเหนื่อยตอนอ่านซับบทบ่นของตาเคียวน์ทุกที บ่นยาวเป็นเรือเกลือจริงๆ แต่บล็อกยาวๆหรือเม้นท์ยาวๆผมชอบนะครับ ดูใส่ใจดี

ของสะสมแต่ละคนแตกต่างกันไป จะว่าสิ้นเปลืองก็ไม่ได้เนอะ ใจมันรัก ผมงี้สะสมการ์ตูนเต็มบ้าน บางคนเล่นพระเครื่ององค์เป็นแสนก็มี

ส่วนประโยชน์ของการ์ตูนพูดกันได้ไม่จบไม่สิ้นจริงๆครับ อยากให้หลายๆคนเปลี่ยนทัศนคติว่าการ์ตูนเป็นเรื่องสำหรับเด็ก เพราะเนื้อหาการ์ตูนนั้นหลากหลายมาก มีทั้งเจาะตลาดเด็กๆ ไปถึงเจาะกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงาน มีตั้งแต่การ์ตูนบู๊ล้างผลาญ การ์ตูนตาหวาน ไปจนถึงการ์ตูนผลิตห้องน้ำหรือนักผจญเพลิง และบางเรื่องนั้นเนื้อหายิ่งกว่าวรรณกรรม

ตะพาบคุณต่อมีสตอรี่บอร์ดซะด้วย แหล่มเลย
ตะพาบก้าวข้ามกับดักทางการเมืองของคุณต่อเขียนได้ดีจริงๆครับ ส่วนผมใส่ซะหมดแม็ก หวังว่าจะมีคนตั้งโจทย์การเมืองมาให้เขียนอีกเร็วๆนี้ คันไม้คันมือ แต่รอโอกาส หุหุ
ส่วนตะพาบกลิตเตอร์นั่นผมเขียนเองก็แอบสะใจเองครับ กรั่กๆ แขวะเจ้าพวกชอบเข้ามาแปะบล็อกโดยไม่อ่านเนื้อหา

ตั้งแต่อัพบล็อกมา บล็อกที่กล้าหาญที่สุดของผมคือการอธิบายเรื่องราคาน้ำมันในห้องรัชดาที่เกลียด ปตท. ที่สุดครับ ผลก็คือคนพุ่งเข้ามาดูล้นหลาม ยอดวิววันนั้นโด่งไป 800 กว่าเลย (ปกติบล็อกผมวันนึงเข้าแค่ 50-60 คน) ดีว่าเรามีข้อมูลที่จะตอบทุกข้อสงสัยได้เคลียร์แน่ๆ เลยไม่ดราม่าครับ แล้วก็โชคดีที่ไม่มีพวกกะเข้ามาด่าอย่างเดียวโดยไม่สนใจอ่านด้วย
ตอนนี้ผมอยากอัพบล็อกเรื่องแวดวงสนทนาที่ผมไปได้ยินเรื่องน่าสนใจจากคนดังหลายๆท่านในหลายๆเรื่อง แต่คงต้องขอความกล้ามากกว่านี้ก่อน


และสุดท้ายนี้ เช่นเดียวกับคุณรินครับ


ชีริว วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:9:51:33 น.


โดย: มัชชาร วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:19:32:32 น.  

 


แป่ว วว วว ว
ลบแล้วไม่เห็นหายเลยค่ะ
แล้วจะลบทำไมเนี่ย fufu แง๊ววว วว ว


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:19:35:11 น.  

 
สวัสดีตอนดึกครับ .....

บล็อกผิดปกติ น่าจะเป็นจากความเห็น 61 ของคุณหยี น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา ครับ สังเกตุจากกรอบ comment ในความเห็นนั้นจะสั้นกว่าอันอื่นๆ ถ้าลบ ment นี้ออกก็จะหายครับ บล็อกผมก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:0:39:29 น.  

 

เก็บคห.ที่ทำหล่นหายของชีริวมาส่งให้ครับ



และสุดท้ายนี้ เช่นเดียวกับคุณรินครับ...
อยากเห็นหน้าคุณต่อ!


หน้าโหดก็ไม่ว่ากันหรอก ผมมีเพื่อนอ่านการ์ตูนหน้าโหดๆเยอะละ

น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 15 มิถุนายน 2555 เวลา:15:12:23 น.


โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:9:33:51 น.  

 


ขอบคุณ ..คุณ NET มากค่ะ
แก้ไขเรียบร้อยแล้วค่ะ

สรุป .. เก็บทุกความคิดเห็นไว้ได้ครบเหมือนเดิม

<<< เกินมาตัวนึง .. ชอบ^^




โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:9:39:41 น.  

 
มาช้าไปป่าวคะเนี่ย
แฮะแฮะ
อยากมาติดตามคนดังด้วยคนนี่หน่า
อ่านบล๊อกคุณต่อจะรุ้เรือ่งเมืองจีนเยอะขึ้นคะ
จริงๆ น้า
การ์ตูนเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรามาตั้งแต่เด็กแล้วด้วยนี่หน่า
พลาดได้ที่ไหนกัน


โดย: ปันฝัน วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:10:00:48 น.  

 
เฮ้ยย พี่พลาดอ่านบล็อกนี้ไปได้ไงเนี่ย งงเลย

เลยเพิ่งได้มาโหวตให้นะน้องดี นี่ตามมาจากบล็อกคุณต่อหรอกนะ

ได้รู้จักคุณต่อเพิ่มขึ้นเยอะเลยจ้ะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:13:39:39 น.  

 
แวะมาเยี่ยมชมงานคุณต่ออีกรอบ

และเยี่ยมทักทายคุณดีค่ะ อิอิ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 19 มิถุนายน 2555 เวลา:9:12:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณดีดี..

แวะมาอ่านบทสัมภาษณ์คุณต่อบ้าง..

ดีนะค่ะ ได้รู้จักคุณต่อขึ้นเยอะเลยค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:12:45:57 น.  

 
ดีใจด้วยนะคะ

พี่อัยย์คิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนเก่าคุณต่อหรือน้องต่อคนแรกๆเมื่อหลายปีก่อนเหมือนกันนะ

ตอนนั้นบล็อกน้องต่อมีเพื่อนสามสี่คนเอง

และพี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อนบล็อกกันได้ยืนยาวขนาดนี้

เพราะไม่คิดว่าต่อจะทำบล็อกได้ทนทาน

ไปๆมาๆทนกว่าพี่ซะอีก

เอาเป็นว่า ดีใจที่มาถึงวันที่ใครๆรู้จักบล็อกเกอร์คนเก่งคนนี้ นั่นเพราะความมีอัธยาศัยที่ดีและความต่อเนื่องสม่ำเสมอของต่อนั่นเอง

ยินดีอีกครั้งจ้า



โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.9.149.81 วันที่: 20 มิถุนายน 2555 เวลา:16:57:32 น.  

 
ความจริงผมรั่วในหลายๆ ครั้งครับ แหะๆ ดูท่าทางภาพลักษณ์เราจะกลายเป็นนายเครียดซะแล้ว


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 มิถุนายน 2555 เวลา:17:28:31 น.  

 
เวลาเข้ามาอ่านคำสัมภาษณ์ ก็จะได้มุมมองแง่คิดของคนในวงการอื่น ๆ ทุกทีเลยค่ะ

ขอบคุณที่มีคอลัมน์ดี ๆ แนวนี้กับบล็อกแกงค์ค่ะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 24 มิถุนายน 2555 เวลา:17:45:38 น.  

 
ขออำภัยที่แวะมาอ่านช้ามาก อีกไม่กี่วันก็จะหมดเดือนอยู่แล้ว ช่วงนี้แย่เลยค่ะ เล่นบล็อกไม่ได้ งานยุ่งไม่พอ แรก ๆ คอมป่วย เข้าบล็อกยากจัด ล่าสุดเนทที่บ้านเจ๊งอีก ซ่อมเนทจนใช้ได้ แต่คอมก็ยังเป๋ไปเป๋มาอยู่ พอเข้าบล็อกได้ก็แจ้นมาอ่านสัมภาษณ์คุณต่อก่อนเลย

แต่อยู่คุยได้แป๊บเดียว คอมอาการยังไม่ดี กลัวเม้นท์ไม่ติด พูดสั้น ๆ ได้ว่า คุณต่อเป็นบล็อกเกอร์คุณภาพมากคนหนึ่งเลยค่ะ เวลาแวะไปที่บล็อกก็จะอ่านและเม้นท์อย่างตั้งอกตั้งใจ ขอบคุณคุณดีที่ทำให้รู้จักคุณต่อมากขึ้นนะคะ


โดย: haiku วันที่: 26 มิถุนายน 2555 เวลา:19:20:32 น.  

 

ชอบบล็อคคุณต่อมาก
ไม่บอกเธอคไม่รู้
งั้นบอกไว้ตรงนี้เสียเลย

เพราะ...
1.เป็นบล็อคที่สร้างสรร
2.แถมเป็น Un ที่ไม่หมือนใครและไม่มีใครเหมือน
3.เป็นanimation katoon ตัวจริง
4.เป็นอีก 1 คน ที่หากเราเป็นนายทุนมีกะตังค์
เราจะซื้อลิขสิทธิ์ รวมเล่มขายให้

เราว่าจะขายดี เพราะมีความน่ารักแฝงอยู่ในปรัชญาที่นำเสนอ
ในแต่ละครั้งละครา


ขอบคุณคุณดี ดี ที่จูงมือคุณต่อมาสัมภาษณ์ให้รู้เบื้องลึกที่น่าสนใจค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
มัชชาร Fanclub Blog ดู Blog



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 มิถุนายน 2555 เวลา:20:41:12 น.  

 

"Unique" = พิเศษไม่เหมือนใคร
พิมพ์ตกไปในข้อ 2 ค่ะ


2.แถมเป็น unique ที่ไม่หมือนใครและไม่มีใครเหมือน


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 30 มิถุนายน 2555 เวลา:20:45:15 น.  

 
มาช้าไปไม่ว่ากันนะครับ
จริงแล้วตั้งใจจะมาตอนใกล้ ๆสิ้นเดือน แต่ด้วยปัญหาสุขภาพทำให้อะไรอะไรมันก็แปรเปลี่ยนไปได้อย่างไม่คาดคิด... บ่นอีกแหละ

ผมเป็นคนไม่เคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเลย เพราะด้วยยึดติดในความคิดว่ามันเข้าใจยากและบางทีไม่รู้จะอ่านช่องไหนก่อนหลังเลยไม่คิดจะอ่านเพราะตัวเองคิดไปว่ามันไม่สนุก

หลายครั้งที่ผมพยายามทำความเข้าใจและอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นผ่านบล็อคคุณต่อ ทำให้ได้รู้ว่ามันมีสาระดีดีแฝงไว้เสมอ ภายใต้ภาพการ์ตูนสวย ๆ

สิ่งที่ผมชื่นชมคือเรื่องที่คุณต่อพยายามเหลือเกินที่จะสื่อสารกับเพื่อนบล็อคทุกคน คือ... กลิตเตอร์

เข้ามาติดกลิตเตอร์ทักทายโดยไม่อ่านเนื้อหา และชี้ให้เห็นว่ากลิตเตอร์ ไม่ได้มีค่ามากกว่าการเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ หรือเพียงคำทักทายสั้น ๆ แต่กลิตเตอร์ มีข้อเสียมากมายที่เราอาจไม่ได้นำมันมาใส่ใจ

คุณต่อมีใจกล้าหาญมากนะครับที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา สื่งนี้แหละที่ผมว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีอีกข้อหนึ่งของผู้ที่เป็นบล็อคเกอร์ ซึ่งคุณต่อมี และขอชื่นชมด้วยใจจริง


โดย: tiensongsang วันที่: 1 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:50:04 น.  

 
ผมติดตามผลงานคุณต่ออยู่เสมอ
ในยามที่เขียนตะพาบ


โดย: panwat วันที่: 1 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:51:05 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะน้องดี
แม่หมูแวะเข้ามาอ่าน Interview .. the blogger คุณ toor36 ค่ะ

แม่หมูเองปีนี้ไม่ค่อยได้วิ่งเล่นตามบล้อกเพื่อน ๆมากนัก
จนบัดนี้ต้องปิดรับคอมเม้นไปเลย
(ด้วยเหตุสุขภาพและเวลาค่ะ)

แม่หมูได้เคยเข้าไปเยี่ยมบล้อกคุณต่ออยู่บ้างค่ะ
ที่อ่านบ่อย ๆก็เป็นกลุ่ม "ข้อคิด-ธรรมะ "
อ่านเกือบทั้งหมดแต่ไม่ได้ทิ้งรอยไว้เลย(ขออภัยคุณต่อไว้ณที่นี้ด้วยนะคะ)

เข้ามาเยี่ยมวันนี้แม่หมูได้ข้อคิดโดน ๆจากคุณต่อ...
: ก่อน อื่นเราถามตัวเราก่อนว่า .. “เราเขียนบล็อกเพื่ออะไร และต้องการถ่ายทอดอะไรให้ผู้อ่าน”

และชื่นชมที่สุดตรงนี้ค่ะ...
ใครอยากวิจารณ์อะไรก็วิจารณ์ได้เลย เห็นไม่เห็นด้วยอย่างไรพูดได้
ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า พูดสุภาพไม่ยกต้นข่มท่าน ให้เกียรติในฐานะ 1 ล็อคอิน
ไม่ใช่ฐานะของคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต คุณจะเป็นใครไม่สำคัญ
เมื่อคุณเข้ามาอยู่ในโลกไซเบอร์แห่งนี้ทุกคนเท่าเทียมครับ

ขอบคุณน้องดีและคุณต่อมาก ๆนะคะแม่หมูขอเป็นกำลังใจให้อย่างแรง ๆเลยค่ะ


โดย: jamaica วันที่: 2 กรกฎาคม 2555 เวลา:13:20:46 น.  

 
เข้ามาปิดท้าย มีคนเข้ามาอ่านเยอะกว่าที่คิด ขอบคุณทุกคนที่จั้งใจเข้ามาอ่านครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:45:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มัชชาร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




Friends' blogs
[Add มัชชาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.