ญี่ปุ่น (ปาจิงโกะ)








หน้าร้านปาจิงโกะ ก็ประมาณนี้ สะดุดตา หาไม่ยาก



ภายในก็มีที่นั่งเรียงๆแบบนี้ ปาจิงโกะนั้นก็คล้ายๆ Slot Machine ที่อเมริกาต่างกันตรงที่เราต้องหยอดลูกเหล็กเข้าไปแทนเหรียญ (บางร้านก็มี Slot Machine ให้เล่นด้วย)

วันนั้นเราก็เดินเข้าไปในร้าน ทำตัวเป็นทัวร์ริสสุดขีด ไปบอกเค้าให้สอนเล่น แต่ไม่มีใครคุยกับเรารู้เรื่องซักคน ในที่สุดก็มีเด็กประจำร้านทำท่าทางบอกให้เราเอาเงินออกมา เราก็หยิบออกมา 1000 เยน เค้าก็ชี้ให้เราเอาเงินใส่เข้าไปในเครื่องที่เราอยากเล่น แค่นั้นก็มีลูกเหล็กกลมไหลออกมาเต็มเลย
แล้วเค้าก็ทำท่าว่าให้ หมุนปุ่มบังคับ มันก็จะยิงลูกเหล็กขึ้นในตู้อย่างต่อเนื่อง แล้วเค้าก็ชี้ให้เล็งตรงจุดที่ได้คะแนนสูง (รูเล็กๆดำๆใต้จอLCD หนะ) แล้วบอกว่า โบนัส โบนัส เราก็ค่อยๆเล็ง พอได้เค้าก็บอกว่า กู๊ดๆ แล้วก็มีลูกเหล็กไหลออกมาอีก



ส่วนตรงกลางเครื่องจะมีจอ LCD เล็กๆเป็นการ์ตูนมั่ง นางแบบมั่ง แล้วแต่เครื่อง การยิงของเราจะทำให้เรื่องการ์ตูนมันเปลี่ยนไป ถ้ายิงเข้าเป้าถูกต้องตามขั้นตอน มันก็จะมีโบนัสออกมา แต่ละเครื่องวิธีได้โบนัสไม่เหมือนกัน มันจะมีคู่มือวางอยู่แถวๆนั้น (ซึ่งเราก็อ่านไม่ออก )



เห็นคนที่เล่นได้เยอะๆนี่ได้ลูกเหล็กออกมาใส่กล่องเป็นตั้งๆเลย แล้วเค้าก็จะเอาลูกเหล็กไปเทใส่เครื่องนับ แล้วก็ได้คูปองออกมา เก็บเอาไว้มาแลกเล่นวันอื่นอีกได้ หรือไม่ก็คงแลกของรางวัลได้

ส่วนเราก็ แหะๆ เสียไป 2 พันเยน ในเวลาแว็ปเดียวเรย




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2552   
Last Update : 7 ตุลาคม 2552 19:40:15 น.   
Counter : 2192 Pageviews.  

ญี่ปุ่น (โอซาก้า)

โอซาก้า

สนามบินคันไซ
จากเมืองไทยมา เราก็มาจะมาลงที่สนามบินคันไซ
จากสนามบินสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟ JR ได้


ที่สถานีเราสามารถแลกตั๋ว เจ.อาร์ พาส สำหรับขึ้นรถในเครือ เจ.อาร์. เหมาจ่ายแบบ 7 วัน (ซื้อจากเมืองไทยประมาณ 10,000 บาทต่อคน, เด็กครึ่งราคา)

นอกจากแลกตั๋วแล้ว เราสามารถจองที่นั่งรถไฟเข้าเมืองได้ด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องจองก็ได้เพราะนี่เป็นสถานีแรก ที่นั่งไม่เต็มหรอก แต่ถ้ามีของเยอะจองไว้หน่อยก็ดีเหมือนกัน

โรงแรม “ชิน’โอซาก้า”

ก่อนอื่นขอแนะนำโรงแรมที่เราพักก่อน โรงแรมชิน’โอซาก้า ผมประทับใจโรงแรมนี้มาก อยู่ใกล้สถานที่ต่างๆในรัศมีการเดิน 5 นาที

  • ร้านสะดวกซื้อ โคโค่, แฟมมิลี่มาร์ท (ของกินถูกๆเพียบ เช่น ข้าวปั้นใส้ต่างๆ, ซูชิ, เบนโต่ะแบบต่างๆ, โอเด้ง, ของทอด/ย่าง, เครื่องดื่ม, ขนม)

  • สถานี JR (สถานนี้มีชินคันเซนไป โกเบ, เกียวโต, โตเกียว)

  • สถานี JR (ร้านอาหารราคาไม่แพงเพียบ)

  • ร้านปาจิงโกะ



ห้องใหญ่ ราคาถูก 2 เตียง ราคาประมาณ 9,000 เยน ต่อคืน


นี่ร้านโคโค่ที่อยู่ติดโรงแรม

สถานี JR อูเมดะ (ห้าง Hep Five)

สถานี JR อูเมดะ เป็นสถานีศูนย์กลางของเมือง รอบๆสถานีมีห้างสรรพสินค้ามากมาย


ถ้าอยากชมวิว ก็สามารถเดินไปยังห้าง Hep Five ที่ชั้นบนสุดมีชิงช้าสวรรค์ยักษ์ให้นั่งชมเมือง




นอกจากชิงช้าสวรรค์แล้ว บนนั้นก็เป็น SEGA Joypolis ชั้นแรกเป็นที่รวบรวมตู้เกมของ SEGA และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย

ชั้นสอง เป็นแหล่งการพนันก็ว่าได้ เป็นเกมที่ต้องใช้เหรียญปลอมใส่เข้าไป แล้วให้มันดันกันจนเหรียญปลอมในนั้นตกออกมา ถ้าได้มากๆก็คงเอาไปแลกเป็นของรางวัลได้ (อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน)

ปราสาทโอซาก้า

เห็นลิบๆโน่นคือปราสาทโอซาก้า


เข้ามาใกล้อีกนิด กับปราสาทสัญลักษณ์ของโอซาก้า

อะควาเรี่ยม ไคยุคัน

การเดินทางจะต้องนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี เบนเทนโช จากนั้นต้องต่อรถใต้ดินไปสถานี โอซากาโกะ เดินอีกหน่อยเดียวก็ถึงอะควาเรี่ยม


เค้าจะให้เราขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้นสูงสุดก่อน แล้วค่อยๆเดินวนลงมาเรื่อยๆ เส้นทางการเดินจะวนรอบตู้ตู้ปลาขนาดใหญ่สูงพอๆกับตึก 4 ชั้น เดินสบายๆก็ใช้เวลาประมาณ 1.5 – 2 ช.ม.






มีนกเพนกวิ้น แมวน้ำ และสัตว์น้ำอื่นๆมากมาย


พระเอกของงานคือ ฉลามวาฬตัวใหญ่ 2 ตัวที่อยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่กลางตึก


ดูใกล้ๆอีกที

ชั้นล่างสุดเป็นส่วนแสดงแมงกระพรุนต่างๆ ทั้งเล็กใหญ่สวยมาก แต่มันมืดเกินไปถ่ายรูปไม่ติด ได้แต่ถ่ายเป็นคลิปวีดีโอไว้


ก่อนถึงทางออก เป็นบ่อให้จับปลาเป็นๆได้

ปลากระเบนจะตัวลื่นๆเหมือนปลาไหล ส่วนฉลามจะสากๆเหมือนกระดาษทราย




 

Create Date : 19 เมษายน 2552   
Last Update : 19 เมษายน 2552 12:18:24 น.   
Counter : 1715 Pageviews.  

ญี่ปุ่น (ซูชิบนสายพาน)



ร้านซูชิที่วิ่งบนสายพานที่ญี่ปุ่นมีอยู่ทั่วๆไปนะครับ สำหรับภาพที่ถ่ายมาให้ดูนี่เป็นร้านที่อยู่ในสนามบินนาริตะ จากเค้าเตอร์เช็คอินการบินไทยเดินไปบริเวณที่มีร้านขายสินค้ายกเว้นภาษี แถวๆนั้นจะมีร้านอาหารอยู่มากมาย ร้านนี้ต้องเดินขึ้นข้างบนไปอีกหนึ่งชั้น ร้านชื่อ Kaiten Sushi


สายพานที่เห็นในภาพนี้เป็นสายพาน 2 ชั้นนะ ชั้นบนก็คือที่มีข้าวห่อสาหร่ายในจานแดงๆวางอยู่ ส่วนชั้นล่างก็อยู่ใต้นั้น(ที่มีถ้วยชาสีดำวางเรียงอยู่หนะ)


เริ่มต้นก็หยิบถ้วยชาออกมาก่อน กระป๋องฝาสีเขียวๆนี่ก็เป็นผงชาเขียว เอามันเทลงในถ้วยตามต้องการ แล้วก็กดน้ำร้อนจากก๊อกที่เห็นอยู่ข้างๆถ้วยนั่นหละ เสร็จแล้วเราก็มาเริ่มกันเลย


จานแรกที่หยิบมา เป็นไข่ปลากับอะไรซักอย่างบดๆ


ตามด้วยซูชิปลาเซลม่อนที่เนือปลาชิ้นใหญ่มาก และซูชิปลาดองเกลืออันนี้ไม่เคยทานที่เมืองไทยเลย


นี่เป็นปลาเซลม่อนย่างกึ่งดิบกึ่งสุก


อันนี้ปลาทูน่าธรรมดา แต่เชฟประดิษให้เป็นพิเศษ คงเพราะเราถามนู่นนี่มากมั๊ง ก็นานๆจะเจอเชฟพูดอังกฤษคล่องซะที


ฉากสุดท้าย ร้านเค้าจะคิดเงินตามรหัสสีของจาน ที่เห็นหนะ 2,400 เยน (840 บาท) อิ่มแปร้ได้3 คน ถูกกว่าเมืองไทยอีก ขอแนะนำให้ไปทานร้านนี้ก่อนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยนะครับ จะเป็นการปิดฉากการเที่ยวญี่ปุ่นได้ดีมากทีเดียว สำหรับผม มื้อนี้ประทับใจที่สุดในทริปเลยหละครับ





 

Create Date : 06 เมษายน 2552   
Last Update : 6 เมษายน 2552 20:38:59 น.   
Counter : 1127 Pageviews.  

ญี่ปุ่น (การเดินทาง)


การเดินทาง

รถไฟ JR

การซื้อตั๋วต้องไปซื้อที่เครื่อง ที่บริเวณเครื่องขายตั๋วจะมีตารางภาษาอังกฤษบอกว่าค่าเดินทางไปสถานีต่างๆราคาเท่าไหร่ (เด็กจะครึ่งราคา) แล้วไปที่เครื่องก็หยอดตัง แล้วกดราคาที่ต้องการตั๋วจะออกมา (ถ้าจะเอาตั๋วเด็ก ต้องกดปุ่มที่เป็นรูปเด็ก หรือ Child ก่อน แล้วบนจอถึงจะมีราคาเด็กมาให้กด)


การใช้ตั๋ว เข้าสถานีก็ทำแบบเดียวกับรถไฟฟ้า BTS ของบ้านเราเปี๊ยบเลย เวลาออกของรถแต่ละขบวนก็มีแสดงให้ดูด้วย (ไม่ต้องตกใจนะ ตัวหนังสือมันจะสลับเป็นถาษาอังกฤษด้วยครับ)

การหา ชานชาลา (Track Number) ที่สถานีรถไฟนั้นยุ่งยากนิดหน่อยในตอนแรกๆ เพราะรถไฟที่ญี่ปุ่นนี่มันมีหลายสายมาก สถานีใหญ่ๆบางทีมี 20 กว่าขบวนแนะ

  • เริ่มต้นถ้าเรารู้ว่าสายที่เราจะขึ้นชื่ออะไร (เช่น สาย ยามาโนเตะ) ก็จะง่ายมากเพราะจะมีป้ายบอกตลอด (เช่น Yamanote 13 – 14) หมายถึงให้ไปชานชาลาที่ 13-14 ที่มีสองเลขก็เพราะว่ามีสายเข้าเมือง กับ ออกนอกเมือง (คล้ายๆรถไฟใต้ดินในบ้านเรา) ขึ้นให้ถูกฝั่งก็แล้วกัน

  • ถ้าเราไม่รู้ชื่อสาย ก็ต้องมองหาป้ายที่ใหญ่หน่อย ที่มีทั้งชื่อสาย และ สถานีสำคัญๆที่มันไป (ที่ท่องเที่ยวมักอยู่ที่สถานีใหญ่ๆ ดังนั้นจึงมีชื่อขึ้นเกือบทั้งหมด)



ตัวอย่างป้ายนี้บอกว่า รถไฟสาย Sobu ให้ขึ้นรางที่ 1 หรือ 2


ตั๋วรถ JR Rail Pass ที่ซื้อมาจากเมืองไทยคุ้มมากๆ (ถ้าต้องเดินทางระหว่างเมือง) เพราะใช้นั่งชินคันเซน แบบบุฟเฟ่ต์ได้ ในราคาประมาณ 25,000 บาท (ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน) ไม่กี่เที่ยวก็คุ้มแล้ว แถมยังใช้เดินทางในเมืองไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ได้อีก

สถานีรถของ JR มีไม่มากเท่ากับ Subway แต่ก็ไปถึงจุดท่องเที่ยวได้เกือบทุกแห่ง


การเดินทางระหว่างเมืองมีรถไฟให้เลือก 3 แบบ

  • Local (จอดทุกป้าย) ช้ามาก

  • Rapid (จอดแค่บางป้าย) เร็วกว่า

  • Shinkansen (จอดน้อยป้ายมาก/ความเร็วสูง) เร็วที่สุด


รถ Local กับ Rapid ใช้รางเดียวกัน ต้องดูป้ายอิเลคโทรนิคว่าคันไหนมาก่อนหลัง (Rapid มักจะใช้ตัวหนังสือสีแดง) จากนั้นก็ดูป้ายที่อยู่ข้างๆตัวรถไฟประกอบ เพื่อความชัวร์


เก้าอี้ของรถไฟชินกันเซน ปรับหมุนหันหน้าเข้าหากันได้ (อย่างคันนี้แค่เหยียบกระเดื่องที่ด้านข้างเก้าอี้ ก็จะหมุนได้) แต่บางคันแทนที่จะหมุนก็ใช้พลิกพนักพิงแทน

สังเกตุดูที่พนักเก้าอี้นะจะมีโต๊ะพับอยู่ เราสามารถเอาอาหารขึ้นมาทานบนรถได้ตามสบาย และจะเห็นว่าระยะห่างระหว่างเก้าอี้มีมาก ถ้าเรามีกระเป๋าเดินทาง ก็ต้องเอามาวางที่หน้าขาเรานี่หละ

รถไฟใต้ดิน (Subway)

การซื้อตั๋ว และการหา ชานชาลา ก็ใช้วิธีเดียวกับการขึ้นรถไฟ JR

รถประจำทาง (ในเมือง)
ควรไปขอแผนที่รถประจำทางที่ Tourist Information หรือ ที่สถานีรถใหญ่ๆไว้ก่อนจะได้รู้เส้นทาง

ข้อแตกต่างของรถประจำทางที่นี่จากบ้านเราก็คือ ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์

บางที่ให้ขึ้นประตูหน้า แล้วจ่ายเงินเลย (แล้วไปลงประตูหลัง), บางที่ให้ขึ้นประตูหลังแล้วจ่ายเงินที่ประตูหน้าตอนลง (ประมาณ 200 กว่าเยน)

การจ่ายเงินให้หยอดเหรียญเข้าเครื่องข้างๆคนขับให้พอดีกับค่าโดยสาร ถ้าไม่มีเหรียญข้างๆคนขับก็จะมีเครื่องแลกเหรียญอยู่อีก (ถ้าไม่รู้เครื่องไหน ก็ให้ชูแบงค์ให้คนขับดู เดี๋ยวเค้าจะชี้ให้เอง)





 

Create Date : 05 เมษายน 2552   
Last Update : 6 เมษายน 2552 15:37:44 น.   
Counter : 1563 Pageviews.  

ญี่ปุ่น (ตู้ขายของอัตโนมัติ)


เครื่องชายของอัตโนมัติ


เครื่องขายของอัตโนมัติเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าบนท้องถนนไม่ว่าเราจะยืนตรงไหน มันจะต้องมาเสนอหน้าให้เราเห็นตลอดเวลา มันมีเยอะมากจริงๆนะ มาดูตัวอย่างกันครับ


ตู้ขาย ชา/กาแฟ อันที่มีชื่อสีแดงเป็นเครื่องดื่มร้อน(ถ้าไปกดต้องระวังหน่อยนะมันร้อนจริงๆเลยหละ) ชื่อสีฟ้าเป็นเครื่องดื่มเย็น


ตู้ขายน้ำแบบขวด


ตู้ขายน้ำแบบแก้ว


ตู้ขายน้ำแบบกล่อง


ตู้ขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อันนี้ต้องทำ 2 ขั้นตอนคือ กดเอาบะหมี่ถ้วยมาก่อน เปิดฝา แล้วเอาใส่เข้าไปในช่องกระจกสีดำทางด้านซ้าย แล้วกดเอาน้ำร้อน ส่วนตะเกียบเค้ามีวางใว้ให้หยิบได้เอง


ตู้ขายกาแฟแบบแก้ว


ตู้ขายไอติม


ตู้ขายบุหรี่


ตู้ขายขนม


ตู้ขายอาหารหน้าร้านอาหาร อันนี้เราต้องดูเมนูที่เป็นรูปที่อยู่ข้างๆ จำเบอร์เอาไว้แล้วมาหยอดเงินพร้อมกดหมายเลขที่ต้องการ เราก็จะได้คูปองออกมา จากนั้นก็เอาคูปองไปให้คนในร้าน ซักพักเค้าก็จะเอาอาหารมาให้เรา ง่ายมากๆ ร้านอาหารตามสถานีรถไฟใหญ่ๆมักเป็นแบบนี้


นี่เด็ดสุด ตู้ขายเน็คไทด์สำหรับหนุ่มนักธุรกิจขี้ลืม และกล้องถ่ายรูปใช้แล้วทิ้งสำหรับนักท่องเที่ยว





 

Create Date : 05 เมษายน 2552   
Last Update : 6 เมษายน 2552 15:38:16 น.   
Counter : 5401 Pageviews.  

1  2  

zerodegree
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add zerodegree's blog to your web]