Group Blog
 
All blogs
 

--------> ^ - ^ < ------- ทำบุญรวมญาติ/เที่ยวแพร่ เมษา 2556





 

lozocatlozocat


วันที่ 20 เมษายน 2556 เป็นวันทำบุญรวมญาติกัน ปีนี้เราไปกับพี่หมี โดยเดินทางล่วงหน้าไป 1 วัน เพราะกะว่าจะไป อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เพื่อดูที่ดินของเราว่าเป็นไงบ้าง


ไปดูที่กับหลานแป้งแล้วก็พี่ริน 





เข้าไปบ้านน้านิดไม่มีคนอยู่เลย แอบไปถ่ายรูปขนำน้อยกัน

แล้วก็พาหลานแป้งไปดููต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ



















เช้าวันที่ 20 เมษายน 2556 ตอนเช้าก่อนทำบุญเพล เช่นเคย เหล่าหลาน ๆ จ้ำข้าวเหนียวเป็นอาหารเช้า









ภาพบรรยากาศทำบุญลงไปแล้วเยอะแล้วในเฟซ ผ่านตอนไปเที่ยวเลยละกัน พอทำบุญเสร็จ เราน้าเนาว์ น้านิด พี่หมี เจ็ก กิ๊ฟ แป้ง ก็พากันไปเที่ยวจ.แพร่ กันค่ะ



เที่ยวบ้านประทับใจ











แล้วก็ไปวัดพระธาตุช่อแฮ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดพี่หมีพอดี






พระธาตุขของเราอยู่อินเดียนู้นจะได้ไปไม๊เนี๊ยะ











lozocatlozocat
Create Date : 02 ตุลาคม 2557    
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2558 16:34:32 น.
Counter : 3111 Pageviews.  

--------> ^ - ^ < ------- เที่ยวแบบมีสาระ (อบรมคอร์สสร้างบ้านดิน จ.สระแก้ว)

lozocat lozocat


ทริปนี้เป็นการสนองความต้องการของเราที่ยิงปืนครั้งเดียวได้นกสองตัว เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรากำลังบ้าบ้านดิน เลยค่อย ๆ กล่อมพี่หมีให้ชอบด้วย แล้วก็คิดกันว่าเราน่าจะสร้างกัน เพราะที่ดินเปล่าเราก็มี เลยหาข้อมูลและคิดว่าเราน่าจะไปเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราว เหมือนกันตอนที่คิดจะขายกาแฟสด ที่พอไปเรียนแล้วได้อะไรกลับมามากกว่าที่คิด และจากการสืบหาข้อมูลสรุปได้ว่าเรียนที่นี่น่ะดีแล้ว เพราะไม่ต้องรอนาน ค่าใช้จ่ายไม่สูง และไม่ไกลจากระยองเท่าไหร่

แต่นี่ก็เป็นทริปดองเค็มเช่นเคย เราไปเรียนกันตั้งแต่วันที่ 23-24 มี.ค. 56 ต้องเริ่มเรียนกันแต่เช้า ทางผู้สอนเลยให้เราไปนอนค้างก่อนล่วงหน้าได้หนึ่งคืน

เค้าจะมีที่พักแยกชายหญิงให้ แต่เราสามารถเอาเต็นท์ไปกางนอนกันได้ค่ะ เรากับพี่หมีเลยเอากันไปเอง เพราะพากาแฟไปด้วย



เช้าวันรุ่งขึ้นก็เรียนทฤษฎี และลงมือปฏิบัติกันเลยค่ะ









เรียนเสร็จ ปฏิบัติจริงอย่างละนิดละหน่อยก็เหนื่อยจังแล้ว ถึงเวลาช่วงเย็นพอดี ผู้สอนเลยพาพวกเราไปเล่นน้ำกันที่อ่างเก็บน้ำค่ะ



ค้างคืนอีกคืน วันรุ่งขึ้นก็เตรียมตัวแยกย้ายกันกลับค่ะ ก่อนมื้อเช้าออกไปเดินสำรวจบริเวณที่เรียนค่ะ



ก่อนแยกย้ายมีการเก็บตกเกี่ยวกับเรื่องบ้านดินกันนิดหน่อย และเก็บภาพหมู่ค่ะ ความจริงมีอีกสองคนแต่เค้าไม่ได้อยู่ค้างค่ะกลับกันไปก่อน



ระหว่างทางขากลับระยอง เราแวะร้านกาแฟสดกันซะหน่อย เล็งไว้ตั้งแต่ขามาแล้ว









ของฝากแถวนี้จะเป็นแตงแคนตาลูปค่ะ



จากการได้ไปเรียนคอร์สสร้างบ้านดินนี้ ทำให้เราถึงกับเข็ดกันไปพักใหญ่ เพราะว่ามันเหนื่อยมาก ขนาดทำนิด ๆ หน่อย ๆ มันงานใช้แรงงานล้วน ๆ ทั้งเราทั้งพี่หมีหายบ้ากันไปพักนึง จนเวลาผ่านไปหนึ่งปีได้ อารมณ์ความอยากเริ่มกลับมาอีก เราเลยเริ่มลงมือกันสร้างบ้านดินหลังแรกของเราซะที ซึ่งตอนนี้คืบหน้าไปได้ 50% แล้วค่ะ

lozocat lozocat




 

Create Date : 30 กันยายน 2557    
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2558 16:26:07 น.
Counter : 1174 Pageviews.  

--------> ^ - ^ < ------- พาสาวใต้เที่ยวระยอง




 

lozocatlozocat


ทริปดองเค็มๆ เนื่องจากจะหมดไปอีกปี ประกอบกับนอกใจไปโพสต์ในเฟซตลอด เลยทำให้ทริปเก่า ๆ ถูกพอกหางหมูครั้งแล้วครั้งเล่า จะเริ่มขยันซะที ไหน ๆ ก็โพสต์มาตั้งนานแล้วเสียดาย ทน ๆ ดูกันไปนะคะ

ทริปนี้เนื่องจากพี่ทัวร์ เพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันเค้าย้ายกลับไปทำงานที่บ้าน (ภาคใต้) ของเค้า แล้วเกิดคิดถึงจ.ระยองที่เคยทำงานมาตั้งนานขึ้นมา เลยถือโอกาสช่วงหยุดปีใหม่มาเที่ยวระยองให้หายคิดถึงซะหน่อย เราฐานะเจ้าบ้าน เลยพาตระเวณเที่ยวด้วยเลย

พี่ทัวร์เดินทางมาถึงวันที่ 29/12/55 ก็พาไปโรงแรมระยองซิตี้ที่เราเคยทำงานด้วยกันเลย พี่ทัวร์พากาก้าลูกชายมาพบเพื่อน ๆ ด้วย



ภาพนี้เป็นล็อบบี้โรงแรม น้ารี่กะกาก้า

เราตั้งใจจะพาพี่ทัวร์ไปนอนกางเต็นท์กันที่เขาแหลมหญ้า แต่ว่าเราไปถึงก็บ่าย ๆ แล้ว ปรากฎว่าที่เต็ม ไม่เป็นไรยังไงก็หาที่กางจนได้ ไปได้พื้นที่ว่างเปล่าหน้ารีสอร์ทชื่ออะไรแล้วลืม อยู่ที่หาดแม่รำพึงนั่นเอง



เที่ยวคราวนี้พากาแฟมาเที่ยวด้วย



เราค้างกันคืนนึง ก็ออกเดินทางกันต่อ พี่ทัวร์อยากไปเที่ยวที่ที่ทำงานเก่าก่อนมาทำงานที่โรงแรมระยองซิตี้ คือร็อคการ์เดนท์รีสอร์ท

ก่อนถึงก็แวะพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบ้านเพ พาเด็กเดินดูปลาซะหน่อย





ถึงร็อคการ์เดนท์แล้ว



ให้กาแฟเฝ้าบ้านไป ส่วนพวกเราไปเล่นน้ำกันค่ะ





กิจกรรมวันรุ่งขึ้น ตื่นนอนมาไม่ต้องอาบน้ำกันหรอก พากันไปถีบจักรยานเล่นกันก่อน







รูปปั้นนางเงือกที่นี่สวยนะ



กาแฟกันก้อนหิน





กลับเข้าที่พักแล้วก็อาบน้ำกลับบ้านกันค่ะ ก่อนกลับพาเด็กไปหาไดโนเสาร์ก่อน





ถึงบ้านก็คืนวันที่ 31 พอดี เราไปนั่งกินฉลองปีใหม่ที่บ้านน้าที่ระยองได้ปล่อยโคมลอยกับน้อง ๆ ด้วย แล้วก็พาพี่ทัวร์ไปนั่งรถไปดูพลุที่พัทยาจบทริปค่ะ (ที่ค่อนข้างรวบรัดเพราะเคยพล่ามไปนานแล้วในเฟซเนอะ)



lozocatlozocat
Create Date : 30 กันยายน 2557    
Last Update : 30 กันยายน 2557 19:37:37 น.
Counter : 914 Pageviews.  

---------- > ^ - ^ < ---------- เที่ยวกัมพูชา นครวัด สตาร์ทจากระยองฮิ


lozocat lozocat


ทริปนี้ไปกันนานมากแล้วค่ะ นานจนจะหมดไปอีกปีแล้วยังทยอยอัพไม่เสร็จเลย ตั้งแต่มีเฟซบุ๊คนี่ บล็อคแกงค์เลยไม่ค่อยได้เล่นเลยค่ะ แต่ก็นะไหน ๆ เล่นมานานแล้ว ก็ต้องทำให้ตลอดรอดฝั่ง


เราใช้เวลาเที่ยวกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 พ.ย. 55 - อังคารที่ 6 พ.ย. 55

ทริปนี้ได้ไปเที่ยวกับพี่หมี 2 คน ตอนแรกกะว่าจะกลับวันที่ 6 คนเดียวแล้วพี่หมีอยู่ต่อ แต่เอาเข้าจริงก็ได้กลับด้วยกัน

เริ่มจากออกเดินทางด้วยรถตู้ระยอง-โรงเกลือ เที่ยว 09.00 น. ขึ้นรถที่คิวหอนาฬิกา ค่ารถตอนนั้นคนละ 300 บาท

ถึงโรงเกลือประมาณบ่าย 2 หาข้าวกินฝั่งไทยแล้วเดินไปด่านเลย ถามว่าด่านอยู่ตรงไหนของโรงเกลือ เดาได้ไม่ยากค่ะ มองซ้ายขวาหน้าหลัง จะสังเกตเห็นทางที่คนเดินไปกันเยอะ ๆ นั่นแหละ ลองเดินตามโผล่ไปก็เห็นเลยค่ะ ไม่ไกล

ออกด่านไทยบ้านคลองลึกใช้เวลาแป๊บเดียว แต่ตอนรอเข้าด่านปอยเปตกัมพูชานานมาก เพราะคนเยอะมีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้นที่เป็นนักท่องเที่่ยวแบกเป้ นอกนั้นหน้าตาไทย ๆ เรานี่แหละค่ะ เดินกระเป๋าใบเล็ก ๆ หรือดูตัวเปล่าเข้าไป เช้ากลับเย็น ไปทำไรกันไม่รู้ใกล้ ๆ ด่านกลับมาตัวเบาหวิวกันไปตาม ๆ กัน



ภาพนี้คือทางเข้าด่านค่ะ

จากด่านปอยเปตนั่งรถแท็กซี่แบบเหมาคันไป เพราะจากที่ทำการบ้านมาถ้านั่งรถประจำทางจะนานมาก แท็กซี่ก็จะมีนายหน้ามาถามเราเองแหละค่ะ พยายามต่อรองให้ได้คุ้มที่สุดไม่พอ เรายังพาเด็กเกาหลีที่มาเที่ยวคนเดียวมาแชร์ด้วย 3 คน ๆ ละ 11 ดอล ส่งถึงเสียมเรียบตามสั่งได้เลย ถึงเวลาประมาณห้าโมงเย็น



คุยกับคนขับรถ เค้าบอกว่าถนนนี่พึ่งทำได้ไม่นาน ไทยเราทำให้ด้วยนะ แต่เอทำไมมันเป็นหลุมเป็นบ่อเร็วจัง จะภูมิใจดีไม๊เนี๊ยะ



ในตัวเมืองเสียมเรียบค่ะ

ที่พักคืนแรกพักที่ goldentemblevilla ชอบที่นี่มาก ไว้ถ้าไปอีกจะจองไปก่อนเลย เพราะคราวนี้เราไปแบบวอคอิน ที่นี่เหลือแต่ห้องพัดลมไม่ว่า แต่นอนได้แค่คืนเดียว เพราะอีกคืน มีแขกจองไว้เต็มหมด



ห้องเค้าจะเล็กมาก แต่ตกแต่งได้สวย คืนละ 10 ดอลล่า ห้องพัดลม ถ้าห้องแอร์ 16 ดอลล่า ตอนเช้ามีกาแฟกับกล้วยน้ำว้าให้ค่ะ



วันแรกที่ไปถึงไม่ได้มีโปรแกรมอะไร เพราะแป๊บเดียวก็ดึกแล้วก็แค่หาข้าวกินแล้วก็กลับที่พัก เพราะเช้านัดคนขับรถตุ๊ก ๆ คนขับรถตุ๊ก ๆ ก็เยอะค่ะ ถูกใจคนไหนคุยได้เลย เรานัดเค้าไว้ให้มารับไปเที่ยวนครวัดตอน 08.00 น.

วันแรกเราเดินออกมาจากในซอยที่จะเป็นถนนใหญ่ มีร้านอาหารเยอะแยะ ส่วนใหญ่จะเป็นตามสั่ง เราก็สั่งตามสั่งกินกันง่าย ๆ ค่ะ ที่นี่การใช้เงินก็สะดวก ยิ่งเป็นเงินดอลล่าเค้ายิ่งชอบ เราก็แลกเงินดอลล่ากันไปค่ะ แล้วก็เอาเงินดอลล่าแลกเงินเรียลกันนิดหน่อย ส่วนใหญ่จะใช้ดอลล่าเลย คิดง่ายดีค่ะ อย่างอาหารตามสั่งก็จานละ 1 ถึง 2 ดอลล่า เมนูที่มีก็คล้าย ๆ อาหารไทยเลยค่ะ

อิ่มเสร็จก็เดินเล่นจนไปเจอร้านขนมหวานที่คนท้องถิ่นนิยมมานั่งกินกัน เป็นแบบขนมหม้อ ๆ ไทย น้ำแข็งใส มีไข่ข้าวด้วยค่ะ ดูน่ากินแต่ไม่กล้ากินง่ะ คือเค้าจะมีซอส ผักแกล้ม เรากินกันแต่ขนมหวานแบบกะทิ ขอบอกว่าหวานมากง่ะ

วันที่สอง

ตื่น 7 โมงแต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ไม่ทันเวลานัดเลยต้องออกไปเลื่อนเวลาคนขับตุ๊ก ๆ เป็น 09.00 น. วันนี้ต้องหาที่พักใหม่อีก เพราะที่เก่าคืนนี้เต็ม ก็ให้รถตุ๊ก ๆ นั่นแหละขับไปช่วยหา กว่าจะได้ เข้าออกประมาณ 4-5 ที่ สรุปมาได้ที่ติดถนนใหญ่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ angorpark กว่าจะได้เที่ยวก็ปาไป 11 โมง

รถตุ๊ก ๆ เค้าเก๋มาก เราลืมถ่ายรูปไว้ คือเค้าจะทำเป็นแบบคล้ายรถลากต่อยึดติดกับท้ายมอเตอร์ไซด์เค้า มีที่นั่งแบบสองเบาะ คือน่าจะนั่งได้ถึง 4 คน

ต่อไปจะเป็นรูปของนครวัดกันเลยนะคะ รายละเอียดก็จะไม่ค่อยได้ แต่ทัวร์นครวัดนี้จะมีบัตรให้เลือกชม 3 แบบ แบบวันเดียว สามวัน เจ็ดวัน เราเลือกแค่วันเดียวค่ะ เพราะเราไม่ค่อยอินกับการดูโบราณสถานซักเท่าไหร่ อยากแค่ไปเห็นกับตาว่ามันใหญ่อลังการขนาดไหน ประมาณนั้น อืมคนกัมพูชาเค้าจะเรียกนครวัดว่าอังกอร์วัดค่ะ ถ้าถามนครวัดเค้าจะงงๆ



ซื้อบัตรเข้านครวัดแบบ 1 วัน คนละ 20 ดอล ก็ได้ไปแค่ไม่กี่ปราสาท เริ่มจากปราสาทบาปวน กับโบราณสถานเล็ก ๆ ใกล้เคียง ช่วงบ่ายก็ค่อยไปนครวัดกับนครธม เพราะ 2 ที่นี่ต้องไปช่วงบ่ายไม่งั้นย้อนแสงเวลาถ่ายรูป








แดดแรงมากขอบอก ควรจะเตรียมร่มหรือหมวกไปให้พร้อม จากจุดแรกที่ไกด์คนขับตุ๊ก ๆ บอกว่าให้เริ่มเดินจากตรงนี้ วนไปตามนี้ แล้วไปเจอกันตรงลานจอดรถ เค้าจะคอยอยู่ที่นั่น

แค่ที่แรกที่พอต้องขึ้นบันไดสูง ๆ นี่ เราก็ต้องต่างคนต่างเดินเลยค่ะ เพราะเราขึ้นมาก่อนรอพี่หมีตั้งนาน มัวแต่ถ่ายรูปแกะสลักอยู่ นานมากจนเราขี้เกียจรอ มองไปก็หลงกันแล้วหาไม่เจอ เลยเดินคนเดียวจนถึงที่จอดรถเลย ใช้เวลาช่วงนี้กันเกือบสองชม.ค่ะ















จากช่วงที่เหมือนเขาวงกตนี้ ก็ใกล้จะถึงลานจอดรถแล้วค่ะ ช่วงตรงนี้ที่ไกด์เค้าจอดจะใช้เวลานานกว่าจุดอื่น เพราะมันกว้างและมีปราสาทต่าง ๆ หลาย ๆ ปราสาทค่ะ



ตรงลานจอดรถก็จะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอาหารเยอะเลยค่ะ เราไปถึงก่อนพี่หมี หารถตุ๊ก ๆ ของเรา ละลานตามาก เพราะเค้าจะจอดกันเยอะไปหมด ดีที่ตุ๊ก ๆ เค้าเห็นเราก่อนแล้วมาทัก เราก็ไปนั่งกินน้ำมะพร้าวกับสับปะรดรอค่ะ จำได้ว่าสับปะรดเค้าหั่นขายเป็นชิ้น ๆละครึ่งลูกเลย

มีรถไอติมด้วยนะ



ต่อไปก็จะไปดูปราสาทอื่น ๆ อีก แต่ไม่กว้างเดินแป๊บเดียวไม่หลงกันแล้วค่ะ
















t=_blank>



รถขายกาแฟสดสไตล์เขมรเค้าแหละ เสียดายทำไมไม่ได้ชิม เพราะกะว่าจะไปหาร้านในเมืองนั่งเป็นเรื่องเป็นราว แต่เอาเข้าจริงดันลืม



แต่ไปได้ลองน้ำอ้อยคั้นสดของเค้า รสชาติเหมือนของเวียดนามเลย คือมันเหมือนน้ำอ้อยบวกน้ำส้มง่ะรสชาติ เสียดายอีกที่ไม่ได้ยืนดูตอนเค้าทำว่าเค้าใส่อะไรไปรึเปล่า แล้วก็ลองชิมที่เหมือนกับไส้กรอกอิสานย่าง เราไม่ชอบแต่พี่หมีชอบ เราว่ามันเหมือนกุนเชียงที่มีหนังเหนียว ๆ มีมันเยอะ ๆ ออกคาว ๆ





ถนนที่วิ่งในบริเวณนครวัด คนกัมพูชาเค้าก็ยังใช้เข้าออก ขับผ่านกันปกติ ไม่ต้องซื้อตั๋วแบบนักท่องเที่ยว


เสร็จจากเที่ยวปราสาทเข้าเมืองให้เค้ามาส่งที่พักประมาณบ่าย 3 พักแป๊บนึง 5 โมงเย็นก็ออกมาเดินเล่นดูในเมือง หาข้าวเย็นกิน








ศาลพระภูมิสไตล์เขมร



เจอหอยนึ่งแบบหาบ อยากกินพอดี เพราะเห็นที่เขมรเค้าจะขายหอยเยอะมาก แต่แบบนี้คล้ายกับสไตล์เวียดนาม จะเป็นเหมือนกับหอยขม แต่ดูสะอาดกว่า ถ้าได้น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบเรานะใช่เลย เพราะน้ำจิ้มเค้าออกจะหวาน ๆ แต่หอยสดอร่อยค่ะ คอนเฟิร์ม



เดินไปเดินมาไม่รู้กินไร อยากกินอะไรแปลก ๆ เลยลองกินอาหารอินเดีย เพราะเราทั้งคู่ยังไม่เคยกินอาหารอินเดียจริง ๆ จัง ๆ กันซะที พอดีเห็นราคาแล้วถูกด้วยแหละ



สรุปเมนูที่สั่งมีแต่ผัก ๆ กับถั่ว



ลองกินนานกับน้ำจิ้มแบบต่าง ๆ

เยอะมากกินกันไม่หมดต้องห่อกลับมากินได้อีกมื้อตอนเช้า

วันนี้ลองนวดเท้าดูค่ะ




รู้สึกตะแหง่ว ๆ ว่าทำไมเค้าชอบทำท่าทุบจัง

แล้ววันนี้เรากลับไปที่พักคืนแรก เพื่อไปจองนวดตัวไว้ด้วยค่ะ เพราะเห็นป้ายตอนพักอยู่ที่นั่น ว่ามีนวด คิดราคาดูเอมันถูกนี่หว่า ถูกกว่านวดที่บ้านเราอีก จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่ถูกจริงง่ะ เราจองนวดไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ เค้าจะให้ตั๋วพร้อมนัดเวลา แล้วก็ต้องจ่ายเงินเลยค่ะ



วันที่ 3



อาหารเช้าของเรา กินแบบคนท้องถิ่น เค้าจะขายอยู่ข้างทาง ก็อร่อยดีส่วนพี่หมียังไม่ตื่น พอแกตื่นมาก็กินอาหารอินเดียที่เหลือจากเมื่อคืน



หนังสือบันเทิงของคนเขมรค่ะ ลองเปิดดูระหว่างรอพี่หมีตื่น ภาพถ่ายเหมือนของไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว

วันนี้เราเช็คเอาท์จาก angorpark เพราะห้องเค้าร้อนแถมเมื่อคืนไม่ได้เปิดพัดลมเพราะพี่หมีป่วย กะว่าวันนี้พี่หมีดีขึ้นเลยไปเปิดห้องแอร์ ที่พักใหม่นอนได้ที่ themoonvilla อยู่ใกล้ ๆ กันอีกนั่นแหละ ที่นี่ดูภายนอกเหมือนจะแพง แต่คิดไปคิดมาราคาก็พอกับที่เราพักคืนแรก แต่ออกจะใหม่กว่า มีอาหารเช้าด้วย ที่นี่ก็ชอบ นอนสบายแต่ไม่มีช่องทีวีไทย

วันนี้ดูจากสภาพพี่หมีแล้วคงไปไหนได้ไม่ไกลก็เลยเดินเที่ยวอยู่แถวนั้น แล้วก็ไปลองนวดสไตล์เขมรดูที่ goldentemble ได้ลองแล้วก็แปลกเพราะเค้าจะจบแต่ละท่าด้วยการทุบ น่วมไปเลย




แล้วก็เดินไปดูอาร์ตเอดิสัน แกลอรี่ ที่อยู่ในซอยที่พักนั่นแหละ จะเป็นสถานที่สอน ฝึกงาน ทำงาน ให้คนกัมพูชา ทั้งปกติและด้อยโอกาส เป็นช่างฝีมือด้านต่าง ๆ เช่น วาดรูป แกะสลักงานไม้ หิน ประมาณนั้นค่ะ











ช่วงเย็นก็ไปหาข้าวเย็นกินที่ถนนผับสตรีท กะว่าจะหาระบำอัปสราดู ก็ไปเห็นอยู่ร้านนึง temble มีระบำฟรี เลยเข้าไปกินที่นี่แหละ วันนี้ลองอาหารฝรั่งอิ่มซะจนกินไม่หมด คืนนี้ได้นอนแอร์แป๊บเดียวเพราะพี่หมีอาการป่วยกำเริบ สงสัยเพราะน่วมจากการโดนทุบตอนนวดด้วย ปิดตั้งแต่ตีอะไรไม่รู้ถึงเช็คเอาท์เลย






วันนี้จะลองกินอาหารฝรั่งที่กัมพูชาดูค่ะ





คนป่วยยังจะอยากกินเบียร์อีก ขนาดเบียร์ยังต้องรอให้หายเย็นก่อนแล้วถึงกิน ช่างมีความพยายามจริงจริ๊ง

เราพยายามเข้าไปร้านเร็ว ๆ จะได้มีที่นั่งมุมดี ๆ ให้เลือกได้ อย่างกับว่าเข้าไปตั้งแต่ทุ่มหน่อย ๆ แต่ระบำเริ่มมีสองทุ่มครึ่ง เลทด้วย ตอนแรกบอกประมาณ ทุ่มครึ่งหรือสองทุ่มนี่แหละ





ระบำอัปสราค่ะ แล้วก็จะมีอีกชุด เป็นแบบคล้ายรำเกี่ยวข้าวของเราค่ะ แต่ของเค้าเป็นอุปกรณ์อะไรสักอย่างลืมง่ะ



วันที่ 4

วันนี้ได้เวลากลับบ้านตกลงพี่หมีก็กลับด้วยเพราะดูจากสภาพแล้วอยู่ไปกลัวจะเดี้ยงไปกว่านี้ ยาไทลินอลที่เตรียมไปเผื่อก็กินจนหมดแล้ว ซื้อที่เขมรก็ไม่มีขายมีแต่ยี่ห้ออะไรของเค้าก็ไม่รู้เลยได้พารามากินแต่พี่หมีบอกว่ากินแล้วไม่ดีขึ้นเหมือนไทลินอล



อาหารเช้าวันนี้ของเรา เราขึ้นไปกินคนเดียว เพราะพี่หมีป่วยให้เราแพ็คกลับมาให้ เป็นสไตล์อเมริกัน พอเราไปเค้าจะจัดเซ็ทมาให้เรา เลือกได้แต่ว่าเอาไข่ยังไง กับแฮมหรือไส้กรอกมั๊ง ลืม ไปกินคนเดียวขนมปังให้มาเป็นตระกร้าเลยคุ้มจริง แต่พอบอกของอีกคนให้แพ็คลงไปกินข้างล่างได้ไม๊ เค้าบอกว่าได้ แต่ให้ได้แต่ขนมปังกับเนย แยม แหม กลัวเหม็นห้องรึยังไง

วันนี้เลยสรุปว่าจะนั่งแท็กซี่กลับเหมือนเดิม แต่ว่าจะต่อค่ารถให้ได้ 30 ดอล เพราะตอนขามาคนขับก็บอกว่าถ้ากลับ กับเค้าจะลดให้เหลือ 30 ดอลแต่ไม่ได้ขอเบอร์ติดต่อเค้าไว้ เลยลองถามราคากับโรงแรมว่าถ้าโรงแรมติดต่อให้คันละเท่าไหร่ เค้าบอก 25 ดอล ก็เออดีงั้นก็โอเค ถูกกว่าที่คิดอีก

ขากลับคนขับขับรถเร็วมาก 100/ชม. ขามาแค่ 60/ชม. ถึงฝั่งไทยเกือบบ่าย 3 ได้นั่งรถตู้โรงเกลือ-ระยองเที่ยวสุดท้ายเลย 4 โมงเย็น เจอคนขับขับเร็วอีก หัวใจจะวาย แต่ก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ เกือบ 5 ทุ่ม พรุ่งนี้ตื่นมาขายกาแฟต่อ ดีนะที่ร่างกายแข็งแรง

ทริปนี้หมดไป 2 คนประมาณ 10,000 บาทเอง เอ้าขายกาแฟต่อไปเพื่อหาเงินเที่ยวกันต่อ



หอยนี้เห็นเค้าขายกันเยอะเลย อยากลองชิมเหมือนกัน แต่แค่ตัวเดียว เพราะเห็นมันเหมือนกับดิบ ๆ เอาคลุกพริกเกลือ แล้วตากแดด ประมาณให้สุกแดดรึไงไม่รู้ ไม่รู้เค้ากินกันยังไง จะซื้อก็ถ้าต้องกินดิบก็เสียของอีก


lozocat lozocat




 

Create Date : 11 ธันวาคม 2556    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2557 22:45:30 น.
Counter : 4529 Pageviews.  

--------- > ^ - ^ < -------- เที่ยวกระบี่หน้าฝน




 

lozocatlozocat


ทริปนี้เป็นทริปที่ดองไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ เดี๋ยวนี้เวลาไปเที่ยวไหนมักจะโพสต์ลงเฟซบุ๊คตลอด นอกใจว่างั้น แต่ก็ยังติดค้างในในตลอดมานะคะ ว่าเรายังไม่ได้อัพบล็อคซะที จนช่วงนี้ดองไว้หลายทริปมาก และเป็นคนที่แบบว่าจะต้องอัพให้เรียงกัน ของเก่าต้องอัพให้หมดก่อน เลยพอกหางหมูไปเรื่อย ๆ พล่ามมาซะยาว ขอเข้าเรื่องเลยละกันนะคะ

ทริปนี้เดินทางไปกระบี่ด้วยแอร์เอเซียเจ้าเก่า ด้วยโปร 0 บาท คราวนี้ได้ไปกับแฟน และก็นัดพี่ทัวร์ เพื่อนขาเที่ยวของเราที่อยู่จ.สุราษฯ ตามมาเที่ยวสมทบด้วย พร้อมลูกชาย น้องกาก้าค่ะ

เดินทางวันที่ 18 ก.ย. 55 ค่ะ ถึงกระบี่สี่โมงเย็นแล้ว ไปถึงก็ไปหาอะไรกินกันเลยค่ะ หิวมาก ที่ร้านน้องโจ๊ก มั่วไปมั่วมาจนเจอร้านยอดนิยมร้านนึงในจ.กระบี่ ด้วยความหิวมากเลยไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปกันเลยค่ะ

และพวกเราก็หาที่พักกันแถว ๆ ถนนเส้นติดริมน้ำ กะว่าไปหาเอาดาบหน้านี่แหละค่ะ ตกลงคืนนั้นได้ที่พักที่ Room no.7 ซึ่งก็เป็นอีกที่นึงที่หมายตาเอาไว้เหมือนกัน เลือกห้องที่นอนได้ 4 คน ห้องน้ำในตัว เป็นเตียง 2 ชั้นชุดนึง กับเตียงใหญ่ 1 เตียง วันแรกเราเดินเล่นกันแถวที่พักค่ะ





วันที่ 19 กันยายน 2555

เวลาไปเที่ยวมักจะตื่นเช้าค่ะ วันนี้ก็เช่นเคย เรากับพี่ทัวร์และกาก้าก็เลยเดินไปตลาดสดตอนเช้ากันค่ะ ทำการบ้านมาว่าในเมืองจะมีตลาดเช้าอยู่เป็นตลาดใหญ่เลยค่ะ แล้วก็ฝากท้องไว้กับข้าวต้มกุ๊ยชุดนี้ กับชาร้อน ๆ ชุดนี้ราคารวมแค่ 30 บาทเองค่ะ ชอบชุดข้าวต้ม ที่เราเลือกกับแล้วเค้าก็จะตักใส่จานเล็ก ๆ ให้ เลือกได้ 2 อย่างรึไงนี่แหละ กินพอดีอิ่ม



ไปเดินตลาดสด ที่เค้าจะแบ่งเป็นโซนของสด กับอาหารสำเร็จ เจออาหารทะเลสด ๆ เพียบเลย แต่ซื้อมาก็จะวุ่นวายเลย เจอหอยชักตีนซื้อเป็นโล ถูกกว่าไปนั่งกินในร้านแบบเมื่อวานเยอะเลย เห็นแม่ค้าบอกว่า ปกติก็จะมีร้านที่รับต้มหอยให้ แต่วันนี้หอยมีน้อยเค้าเลยไม่มีบริการต้มให้

ก่อนออกจากตลาดเราก็ซื้อเสบียงกับไปให้พี่หมีซะเพียบเลย

ผ่านไฟแดงเก๋ ๆ ของกระบี่เค้าขอถ่ายรูปด้วยซะหน่อยนา



วันนี้เราจะเดินทางไปที่หาดอ่าวนางกันค่ะ



ระหว่างทางที่เราเดินจากตลาดสดมาที่พัก



เดินทางกันด้วยรถสองแถว ที่จะเวียนมาหน้าที่พักพอดี แต่ก็โบกรถไม่ทัน ต้องวิ่งตามไปไกลเลยง่ะ

เส้นทางที่รถวิ่งจากในเมือง ก่อนถึงอ่าวนางค่ะ เป็นเขาหินปูนสวย ๆ เพียบเลย



เราลงช่วงที่มีที่พักเยอะ ๆ เส้นที่วิ่งเรียบชายหาดอ่าวนางแล้วจะเลี้ยวซ้ายตรงไปน่ะค่ะ คราวนี้จองที่พักมาจองอะโกด้าไว้ เพราะกลัวว่าวอคอินแล้วจะเต็ม (แต่หน้านี้หน้าโลว์นี่หว่า)

กว่าจะเดินหาที่พักกันเจอ ความจริงกับแผนที่นี่คนละเรื่องเลย



โรงแรมลาเวนิช



ที่พักเราชั้นสองค่ะ





เค้าตกแต่งห้องได้เก๋เลยแหละ แต่ขอบอกว่าเก่ามากกก คราวหน้าคงไม่มาพักอีกง่ะ



การเที่ยวของเราครั้งนี้แค่กำหนดไว้คร่าว ๆ ว่ามาค้างอ่าวนางแค่คืนเดียว แล้วเลือกซื้อทัวร์เที่ยวเกาะต่าง ๆ แต่ยังไม่สรุปว่าจะเลือกแพ็คเก็จทัวร์เกาะอะไร จนมาถึงสถานที่จริงถึงสรุปได้ว่า ไอ้การที่เราสองจิตสองใจระหว่างทัวร์ 4 เกาะ กับ เกาะห้องนั้น คราวนี้เราได้ไปแค่ 4 เกาะค่ะ เพราะเกาะห้องกับสภาพฝนฟ้าอย่างงี้อันตรายกว่า ก็เลยง่ายดี ว่ากันตามนั้นค่ะ แต่วันนี้ไม่ทันเวลาแล้วก็ต้องไปพรุ่งนี้เช้า วันนี้ทางทัวร์ที่มานำเสนอกันถึงโรงแรมเลยเสนอให้เรานั่งช้างเที่ยวค่ะ ราคาต่อหัว ๆ ละ 380 บาท ต่อชม. ก็โอเคค่ะ ยังไม่เคยได้มีโอกาสขี่ด้วย









ช่วงหลัง ๆ ก่อนถึงที่จอด 500 เมตรสุดท้าย ควาญช้างลงแล้วบอกว่าให้เราขี่เองได้เลยค่ะ ก็ลองเลยซิค่ะ สนุกดีด้วย



ขากลับตอนผ่านร้านขายของฝากเจ้าใหญ่ติดถนน เรามองเห็นแล้วว่าเค้ามีหอยชักตีนที่ต้มขายใส่ถุงใหญ่ ๆ พร้อมน้ำจิ้มไว้แล้วด้วย เลยให้คนขับแวะจอดซื้อ เอากลับมากินที่โรงแรม คุ้มมาก ถุงละ 100 รึไงนี่แหละค่ะ แล้วก็ได้ลองซื้อหอยเจดีย์มากินด้วย ตัวใหญ่มาก รู้สึกว่าจะราคาถูกกว่าหอยชักตีนด้วย



เอาหอยมานั่งกินกันตรงสระน้ำนี้ค่ะ



แล้วพวกเราก็ออกมาเดินเล่นกัน ส่วนพี่หมีนอนขี้เกียจอยู่บนห้องค่ะ







คนมาหาหอยกันเพียบเลย



นี่แหละหอยที่เค้าหากันได้ส่วนใหญ่ในบริเวณนี้





มาดูเจ้าสิ่งนี้



สังเกตเห็นอะไรบนเขาไม๊



วันที่ 20 กันยายน 2555

วันนี้ถ้าจำไม่ผิดเค้านัดให้ไปทัวร์เกาะตอน 9 โมงเช้าค่ะ เดินทางด้วยรถไม้คันนี้กันเลย



แล้วไปขึ้นเรือต่อที่หาดนพรัตน์ ระหว่างรอเรือค่ะ







เมื่อพร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ กับทัวร์ 4 เกาะ



สมาชิกในเรือ เป็นชาวต่างชาติที่มาเที่ยวกันมากกว่าครึ่งของคนไทยซะอีก



ช่วงที่เรามาทะเลแหวก ยังไม่แหวกให้ง่ะ





น้ำทะเลใสมาก แต่แดดก็แรงจริง



ว่าจะไม่ลงที่นี่ก่อนแล้วเชียว แต่อดใจกะน้องปลาไม่ไหว







แล้วก็ได้เวลากลับ และไปต่อค่ะ



จำไม่ได้ว่าจุดดำน้ำเป็นเกาะไหน



กาก้าแอบเซ็ง ยังดำน้ำไม่เป็น







มาคราวนี้ได้จับหอยเม่นด้วย (ให้มันอยู่บนมือเฉย ๆ นั่นแหละ)



แล้วก็ขึ้นมาทานข้าวกลางวันที่เกาะไรจำไม่ได้อีก หิว ๆ อย่างงี้อร่อยเพ



มุมประชานิยม









ตอนลงเรือกลับมีผลไม้ให้ชื่นใจอีกด้วย



สำหรับทัวร์ที่เราไปก็จำชื่อไม่ได้ แต่เค้าจะดิวกับโรงแรมลาเวนิชไว้ ก็บริการใช้ได้ อาหารอร่อยเพราะหิว คาดว่ามาตรฐานแต่ละบ.ก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าไหร่ สรุปว่าโอเคค่ะ

วันนี้หลังจากกลับจากทัวร์ 4 เกาะ เราก็นั่งรถกลับเข้าเมืองกันค่ะ กะว่าไปพักในเมือง เพราะวันรุ่งขึ้นเราก็ต้องกลับกันแล้ว พี่ทัวร์ก็กะว่าจะกลับวันนี้เลย แต่สรุปว่าตกลงต้องมาค้างด้วยกัน วันนี้เราเลือกค้างกันที่ Pak up hostel เป็นที่พักของแบ็คแพ็คเกอร์กันจริง ๆ เลย แขกที่มาพักส่วนใหญ่ก็เป็นชาวต่างชาติ พี่หมีเค้าอยากนอนก็ลองกันซะหน่อย แต่พอดีมีพี่ทัวร์มาค้างด้วย ก็เลยเลือกห้อง 4 เตียง แต่ห้องน้ำรวมค่ะ ราคาหารเฉลี่ยแล้วก็พอ ๆ กับนอนห้องรวมหลาย ๆ เตียงเลย







ที่พักที่นี่สะอาด เก๋ดีค่ะ



วันที่ 21 กันยายน 2555

วันนี้ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ พี่ทัวร์แยกไปขึ้นรถตู้กลับสุราษ ส่วนเรากับพี่หมี ยังพอมีเวลาเดินเตร็ดเตร่กันอีกหน่อยค่ะ

บนดาดฟ้าของที่พักค่ะ



แวะชิมมัทฉะกรีนทีค่ะ



ขากลับเราเดินทางไปสนามบินด้วยรถสองแถวประจำทางค่ะ ขึ้นตรงถนนเส้นเรียบริมน้ำเลยค่ะ แต่ต้องเดินเลยขึ้นไปทางรูปปั้นปู แล้วก็ต้องถามคนขับก่อนนะคะว่าจะเข้าไปส่งให้รึเปล่า ถ้าเจอคันที่ใจดีเค้าก็จะเก็บไม่แพงนักค่ะ อย่างวันนั้นรู้สึกจะคนละ 40-50 บาทรึไงนี่แหละ

lozocatlozocat
Create Date : 06 ตุลาคม 2556    
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 18:14:48 น.
Counter : 1823 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

ลูกสมอเรือ
Location :
ระยอง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]






ชื่อเชอร์รี่ค่ะ เกิดที่สัตหีบ แต่เคยย้ายไปอยู่สงขลาเป็นระยะ ๆ เลยมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทั้งคนสงขลาและสัตหีบ ตอนนี้ทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่จ.ระยองค่ะ



ลูกสมอเรือ ค่ะ

Create Your Badge




เพื่อนชอบทำกับข้าว
แม่สลิ่ม
wee_nong
ปูขาเก เซมารู
jjbd
กระเพราไก่ไข่ดาว
ผ้าไหมไทย
popang
narellan
Il Maze
ดวงใจพ่อแม่
ลักกี้


เพื่อนชอบทำขนม

Ab Psy ReinDEAR
กิน ๆ เที่ยว ๆ
Tiny Bakery



เพื่อนแจกของแต่งบล็อก
เนยสีฟ้า
kung
oranung_sri
lozocat
แพรวขวัญ
PS_PRINCESS
thattron

เพื่อนพาเที่ยว
chalawanman
แมวจอมกวน
thattron
baby bonus
ชานไม้ ชายเขา
ann
อยากเป็นไกด์
NuAeaw
New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกสมอเรือ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.