Group Blog
 
All blogs
 

^ * ^ ...พาเที่ยวถนนสายเก่าเมืองระยองค่ะ...


lozocatlozocat


ระยองเดี๋ยวนี้มีแหล่งท่องเที่ยวแนวย้อนยุคเก๋ ๆ เหมือนกับหลาย ๆ จังหวัดกับเค้าเหมือนกันนะคะ

ตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะมาเดินถ่ายรูปอวดเมืองเก่าของคนระยองมาหลายครั้งแล้ว คราวนี้พอดีมีงานพอดี ซึ่งงานแบบนี้เค้าจะจัดทุก ๆ ปี ปกติจะเป็นงานชื่ออะไรสักอย่างนี่แหละ บานบุรีศรีเมืองระยอง รึไงนี่แหละ ถ้าจำผิดก็ขอโทษแทนชาวระยองด้วยนะคะ ซึ่งปีนี้มีไปแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่รู้ชื่องานอะไร มัวแต่สนใจถ่ายรูป กับกิน เลยลืมถามเค้ามาซะงั้น

ตกลงไม่รู้ประวัติอะไรเลย มาดูรูปกันเลยดีกว่าค่ะ



มีเวทีด้วย ตอนกลางคืนมาเดินอีก ก็เห็นว่าเป็นเวทีมีนักร้องร้องเพลง





บ้านนี้เป็นบ้านหลังเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัย 24....



มุมนี้มีร้านเครื่องดื่มกับของว่างชื่อร้านราย็อง ร้านอินเทรนด์ของชาวระยอง



ความจริงชอบตรงบ้านนี้ที่เป็นบ้านไม้ทาสีเข้มสวย สีลูกกรงก็สีเดียวกับตัวบ้าน แต่น้องถ่ายมาให้ติดแต่ลูกกรงซะงั้น



บ้านหลังนี้เป็นอีกหลังที่สะสมของเก่าแล้วเปิดให้คนเข้าชม เข้าถ่ายรูปได้ฟรีไม่มีเสียตังค์ แถมวันนี้ยังมีผลไม้ให้ชิมฟรีอีกตังหาก ใจดีจริงๆ

มีอะไรให้ถ่ายรูปมากมายไปหมด











หลังบ้านของเค้าค่ะ เย็นสบายดี







ทำเสมือนเป็นเจ้าของบ้านซะงั้น



กว่าจะออกจากบ้านหลังนี้ได้ก็ชักภาพไปได้โข

มาต่อด้วยบ้านที่เค้าทำเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์กันเลยค่ะ







สังเกตดูให้ดีมีเด็ก ๆ สาธิตการตำข้าว กับร่อน หรือ ฝัด นี่แหละให้ดูด้วยค่ะ

มีการจำลองห้องนอนแบบสมัยก่อนให้ดูด้วย

เชิญเข้าห้องกันเลยค่ะ





มุมระเบียง



หิวแล้วไปหาของกินกันดีกว่า







มาทนดูรูปเจ้าของบล็อคอีกหน่อยนะคะ



โรตีหยอดเหรียญของชอบตอนเด็ก ๆ ตอนนั้นหยอดทีละบาท ตอนนี้ห้าบาทแล้วค่ะ



ข้าวเกรียบว่าว แผ่นเล็กกว่าเดิม



สุดท้ายแล้วค่ะ คนงามกับรถโบราณ คล้องจองกันใช่ย่อยเนอะ แต่ไม่เหมือนกันนา



lozocatlozocat






 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 21:52:07 น.
Counter : 3324 Pageviews.  

^ . ^ ทริปที่ 2 ของปี 53 ...ไปเล่นที่ไร่กุสุมา แล้วนอนเขามะกอกฟาร์ม...


lozocatlozocat


ดองมานานแล้ว ครั้งนี้ถึงคราวจบทริปนี้ซะที





ท่านอนของเจ้าตัวนี้เค้าแหละ รับแขกได้ดีมาก มานอนเฝ้าถึงที่



ออกจาก Primo Posto Primo Posto

ไปถึงเขามะกอกก่อนเที่ยงนิดหน่อย นั่งพักเหนื่อย และเก็บข้าวของกันได้สักพัก ก็ออกไปหาข้าวเที่ยงกันที่ไร่กุสุมาเลย พร้อมจองบัตรเล่นฐาน 7 ฐานกับเขามะกอกเลย เพราะจองทางนี้ได้ส่วนลดตั้ง 10%









ค่อย ๆ ตามต้วมเตี้ยม ๆ กันไป



















อันนี้เป็น 7 ฐาน สำหรับผู้เริ่มเล่น ก็เล่นเอาปวดแขนกันไปเลย

แล้วก็ไปต่อกันที่น้ำตกมวกเหล็ก กล้องตัวเองแบตหมดเลยไม่มีมาอวดเลย มีแต่รูปตอนนั่งปูเสื่อใต้ต้นอะไรไม่รู้ อารมณ์แบบไปปิคนิคกันที่ใต้ต้นซากุระ



กลับไปเขามะกอกฟาร์มเย็น ๆ มาดูที่พักกันดีกว่า





เป็นเต็นท์ใหญ่กว้างขวาง ขนาด 2 เตียง กับ 3 เตียง มีที่พักนั่งเล่นหน้าห้องด้วย





ใครไปเป็นคู่แจ้งเค้าล่วงหน้าก็น่าจะดีว่าขอเตียงชิดกัน เค้าจะได้จัดไว้ให้ แต่นี่ลืมบอกเลยต้องนอนแยกกันเลย แต่ก็สบายดี หลับสบายไม่ได้ยินเสียงกรนพี่หมีเลย



ลืมถ่ายห้องน้ำมา ด้วยเสียดายจัง มี 2 จุด อาบน้ำกันแล้วก็ไปดินเน่อร์มื้อเย็นกันเลย



เป็นบุฟเฟ่ท์สเต็ก ที่ได้ระบุไว้ตอนจองที่พัก



เค้าจะมีบุฟเฟ่ท์สลัด แกงจืด(อร่อยมาก) ผลไม้ บาร์บีคิว ข้าวโพดปิ้ง น้ำสมุนไพร ให้เลือกตักได้ เล่นกันอิ่มตื้อกันไปเลย





บรรยากาศตอนกลางคืน

คืนนั้นนอนหลับสบายมาก ลมแรง อากาศก็กำลังดี แต่ก็ต้องเปิดพัดลม

ตอนเช้าก็ตื่นกันแต่เช้าแล้วก็ทยอยเดินกันไปที่ฟาร์มโคนมใกล้ ๆ กัน



ถือแก้วพร้อมถุงที่ทางฟาร์มแจกมาด้วย เพราะจะได้เอาแก้วนี้ชงนมมื้อเช้า

ไปถึงก็เจอน้องหมารับแขกติดตามไปเฝ้าที่ฟาร์มโคนมด้วย



น้องวัวตัวนี้คงจะยืนเป็นพรีเซ็นเตอร์มานานจนพ่นน้ำลายเป็นระยะ ๆ



เค้าให้ลองรีดนมดูด้วย



คนอื่นเค้ารีดนมกันแล้วก็กลับ แต่พวกเรายังอยากรู้อยากเห็นกันต่อไป เค้าเลยบอกว่าให้หญ้าก็ได้ (ได้เล่นกันอีกแล้ว)







ที่นี่เค้าเลี้ยงไก่ด้วย เลี้ยงกันแบบปล่อยตามสบาย ตัวไหนจะไปฟักไข่ที่ไหนก็ได้ เจ้าพวกนี้เลยเลือกมาฟักไข่ กกไข่กันตรงคอกวัวซะเลย ขนาดมีคนมากวน ก็ยังขยันกกไม่ยอมหนีเลย



นี่ไม่ได้ตั้งใจแกล้งนะ ขนาดโดนฟางหล่นขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ลุกหนี





ไปถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ หน่อย (ก็เพื่อนร่วมโลกง่ะ)





เล่นกันจนพอใจก็เดินไปกินข้าวเช้า เป็นข้าวต้มกุ๊ย แล้วก็กาแฟ โอวัลติน ชา ใส่นมสด ๆ จากฟาร์ม



อิ่มจากอาหารเช้าก็อาบน้ำแล้วเช็คเอาท์ออกสาย ๆ พอดี

แวะซื้อของฝากที่นี่ได้เลย



ได้กระหรี่ปั๊บ น้ำพริก แล้วก็ไอติมกระท้อนมาลอง



ขากลับบ้านน้าชวนแวะหลวงพ่อปากแดงด้วย ทางผ่านพอดี



ระหว่างทางเดินเข้าไปโบสถ์ โหมีของขายมากมาย





lozocatlozocat




 

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 21:43:38 น.
Counter : 4096 Pageviews.  

^ . ^ ทริปที่ 2 ของปี...PRIMO POSTO...อิตาลี่เมืองไทย


lozocatlozocat


28 ก.พ. 53

ออกจาก เขาใหญ่ สายไปหน่อย

ขับเส้นทางไปมวกเหล็ก ไม่นานก็ถึง แต่แดดเปรี้ยงซะ



แกร่ง ทน สวย สู้แดด (ที่ร่ม ๆ ข้างหลังมันเต็มง่ะ)



PRIMO POSTO สวยไม๊ค่ะ

ทำใจหน่อยนะ จะต้องมีรูปเจ้าของบล็อคมาให้ขวางหูขวางตาด้วย







รถไรเอ่ย ขอหลบแดดหน่อยนะ







พี่หมีเค้าชอบใหญ่เลย แหมตอนแรกบอกว่าไม่เห็นอยากมา มีการบอกว่าถ้าสร้างบ้านใหม่จะทาสีแบบนี้







ต้นมะเขือยักษ์นะเนี๊ยะ จริง ๆ ไม่ได้โม้



มีดอก มีรูปเหมือนมะเขือเปราะเลย

ก็ต้นมะเขือยักษ์ ยังไงก็ต้องมีดอกมีลูกเหมือนกันนั่นแหละ



นั่งกินติมข้างต้นมะเขือ ก็ค่าบัตรเข้านั่นแหละ คนละ 55 บาท ได้ติมมา 1 ถ้วย มีหลากหลายรสมาก อยากกินไปหมด รสชาติดี







วันนี้มีเจ้าบ่าว เจ้าสาวมาถ่ายรูป wedding กันด้วย



เสียดายจังความจริงมาเที่ยวครั้งนี้กะจะไปเมืองคาวบอยด้วยแต่มันอยู่คนละทางเลยต้องตัดใจ ไว้คราวหน้าเหอะ



ขนาดบ่อน้ำพี่หมียังชอบ บอกว่าจะเลียนแบบ



วิวจากสวนองุ่น



ตอนออกมาก็เห็นรถคันนี้ เป็นรถขายของนั่นเอง จัดได้น่ารักมาก

อ่ะ ภาพสุดท้ายแล้ว



เดี๋ยวจะไปต่อกันที่ไร่กุสุมาค่ะ

lozocatlozocat




 

Create Date : 17 มีนาคม 2553    
Last Update : 17 มีนาคม 2553 16:16:01 น.
Counter : 2139 Pageviews.  

^ . ^ ทริป 2 ของปี...เดินชมน้ำตกเหวนรก นอนโซนลำตะคอง เขาใหญ่....



lozocatlozocat


27 ก.พ. 53

ออกเดินทางสาย ๆ ถึงเขาใหญ่ก็ 11 โมงกว่าแล้ว คราวนี้ไปกัน 2 ครอบครัว มีเรากับพี่หมี แล้วก็ครอบครัวน้าจิ๋ว รวม 5 ชีวิต



เราไปถึงก่อนก็เลยแวะเที่ยวน้ำตกเหวนรกก่อน



ไปที่ไหนต้องถ่ายกับป้ายซะหน่อย เดี๋ยวจำม่ายล่ายว่าไปไหนมาหว่า ชักจะเริ่มเลอะเลือนแล้วด้วย

เค้าจะบอกให้เตรียมตัวเตรียมใจเลยว่าต้องเดินเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร



ผ่านสะพานไม้ด้วย




ดอกอะไรไม่รู้ สวยดี



เดินได้สักพักกำลังเหนื่อย ๆ เราเดินนำหน้าพี่หมี อยู่ ๆ ก็มีอะไรมาเกาะตรงไหล่ แล้วก็ไต่ขึ้นหัวด้วย เราก็ได้แต่ร้องเบา ๆแต่ก็ไม่กล้าดิ้น ไม่กล้ากระโดด กลัวมันตกใจ คิดว่าเป็นแมงมุมตัวใหญ่ ๆ ได้แต่หมุนตัวช้า ๆ ให้พี่หมีช่วยเอาออก แต่พี่หมีก็ไม่ยอมเข้ามา แล้วก็ไม่บอกว่าเป็นตัวอะไร แล้วมันก็โดดออกไป

พี่หมีถึงได้ร้องบอกให้เราดูว่าเป็นกิ้งก่า บินได้ด้วย ไม่คิดว่าจะเข้ามาช่วยกันเลย เราก็ได้เห็นแว๊บ ๆ มันวิ่งมาทางเราซะอีก แล้วก็หยุดให้ถ่ายรูปพักนึงก็วิ่งไป



ดีนะที่ปล่อยผม มันเลยวิ่งขึ้นมาบนผม ตอนที่คิดว่าเป็นแมงมุมยักษ์เสียวมากกลัวว่ามันจะขึ้นมากัดหัว

พอเดินไปถึงทางลงน้ำตกก็เหลือบไปเห็นป้ายว่าถ้าจะชมน้ำตกชั้น 2 ชั้น 3 ให้ไปทางนี้แต่ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ก็มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ยืนอยู่แถวนั้นพอดี เค้าบอกว่าถ้าจะลงทางนี้ก็ได้ แต่จะไม่ได้เห็นน้ำตกในวิวสวย ๆ แล้วก็ต้องลงบันไดชัน ๆ 200 ขั้น



เราก็โห แต่ถ้าเดินทางที่ว่าต้องให้เจ้าหน้าที่พาไปจะเดินสะดวกกว่า ไม่เหนื่อย มีค่าใช้จ่าย 200 บาท เราก็โอเค แต่ถ้ามีคนอื่นด้วยก็หารกันได้ แต่ไม่มีใครไปกับเราเลยดีเหมือนกันไม่วุ่นวาย

ทางเดินนี้ระยะทางประมาณ 200-300 เมตร (จำไม่ได้แล้ว )

ทางเดินก็ประมาณนี้



ที่เห็นเสานั้น เค้าไม่ได้ห้ามคนอย่างเรานะคะ (ก็ออกจะผอมเพรียว) เค้าห้ามน้องช้างค่ะ กันไม่ให้เค้าเข้าเขตน้ำตก เดี๋ยวจะเกิดเรื่องน่าเศร้าใจขึ้นอีก

ระหว่างเดินก็จะผ่านต้นไม้ อะไร ยังไงไกด์เค้าก็จะบรรยาย อย่างน้อยคราวนี้พี่หมีเค้าก็ตื่นตาตื่นใจกับต้นกฤษณาเขาใหญ่แหละ



เจอการลักลอบขุดด้วย ขุดกันอย่างงี้ต้นก็ตายกันพอดี



ต้นไผ่แบบนี้ช้างเค้าชอบกิน พึ่งรู้ว่าช้างกินไผ่ด้วย ทำเป็นหมีแพนด้าไปได้



เดิน ๆ ไปชักเหนื่อยเหมือนกันแฮะ



ได้เห็นต้นไม้ใหญ่ ๆ ก็ชื่นใจ อยากให้ประเทศไทยมีป่า ที่มีต้นไม้ใหญ่ ๆ แบบนี้เยอะ ๆ จัง



เจอร่องรอยที่หมูป่ามาขุดไว้ด้วย แต่ทำไมพี่หมีต้องให้เราไปถ่ายรูปตรงนั้นด้วยนะ



เดิน ๆ ไปได้ครึ่งทาง ไกด์ก็บอกว่าถึงแล้วค่ะที่นั่งพักเหนื่อย แหมธรรมชาติสร้างสรรค์ได้พอดี



ส่วนพี่หมีก็ชอบจริง ๆ กับต้นกฤษณา



แล้วเราก็ถามไกด์ว่าเถาวัลย์แบบไหนที่ว่าเวลาหลงป่าแล้วตัดกินน้ำได้ เค้าก็หาให้ดู



มันจะมีปุ่มหนาม แต่ไม่แหลมขนาดทิ่มมือง่าย ๆ เถาวัลย์แบบนี้แหละเราตัดแล้วก็จะมีน้ำหยดมา แต่ก็คงจะเหม็นเขียว เฝื่อน ๆ แต่ก็ยังดีกว่าอดน้ำตายแหละ



ดอกเข็มป่า



ต้นอะไรน้า จำชื่อไม่ได้ แต่เป็นพันธุ์เดียวกับที่เรานิยมปลูกบนกำแพงคอนกรีตนั่นแหละ แต่พันธุ์นี้จะลักษณะใหญ่กว่า ขึ้นในป่าเท่านั้น



พืชตระกูลเฟิร์น มอส (อะไรสักอย่าง) สังเกตดูดี ๆ หย่อมนี้ขึ้นเป็นรูปหัวใจเลยเชียว



เดินไปอีกหน่อยเจอเพียบเลย

และแล้วเราก็ถึงแล้ว คุ้มค่าจริง ๆ ที่ขึ้นมาทางนี้





สูงมาก ตรงนี้เป็นหน้าผาเลยแหละ



มองเห็นแต่ละชั้นของน้ำตก มาตอนนี้น้ำน้อย แต่ถ้ามาหน้าฝนกับหน้าหนาว คงเจอทากแน่ๆ ตอนเดิน





ขากลับ เจอลูกอ่อนของต้นยาง ที่เวลาแก่ก็จะขยายพันธุ์โดยการหล่นหมุนลงมา



เจอมะหวดด้วย ตอนเด็ก ๆ แถวบ้านยายก็มี เรายังทันกินเลย เสียดายจังลืมชิมดูว่ารสชาติยังเหมือนเดิมรึเปล่า (จะไปแย่งนกซะอีก)



แล้วก็ไปลานกางเต็นท์กัน เราจองทางเน็ตไว้แล้ว

คลิกที่นี่เลยค่ะ





นอนกันแบบลาดเอียงเลย วันนี้ช่วงวันหยุดยาว คนมากันค่อนข้างเยอะ



ตอนไปใหม่ ๆ ตื่นตาตื่นใจกับน้องกวางมาก ที่เห็นกันใกล้ ๆ แต่อยู่ ๆ ไปก็ชิน เพราะเค้าจะเดินเยี่ยมเยียนซะทุกเต็นท์เลย



มีตัวผู้ตัวนี้เดินมาแอ๊คให้ถ่ายรูปกันจะ ๆ ตั้งนาน ยืนเฉยอยู่อย่างงั้นแหละ



และแล้วอารมณ์ศิลปินก็เข้าสิงพี่หมี



วาดรูปกองก้อนหินกับท่อนไม้นี่นะ วิวอีกด้านดี ๆ ไม่วาด ชอบคิดต่างจากชาวบ้านจริง ๆ พี่เค้า



ดูท่าศิลปินหมีซะก่อน



ดูรูปเค้าซะก่อน รูปไรเนี๊ยะ



ไปเดินเล่นกันดีกว่า



เดินข้ามสะพาน ผ่านป่าน้อย ๆ ไปอีกฝั่ง ก็เจอลานหญ้าโล่ง ๆ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นสนามกอล์ฟ



อารมณ์ดี



แนว



ไหน

เมื่อคืนไปส่องสัตว์กัน 5 คน เหมารถ 500 บาท หารคนละร้อยพอดี ด้วยความที่เดี๋ยวนี้สัตว์คงเซ็ง คนมาขับรถกันอยู่ได้ กลางค่ำกลางคืน เลยหายหน้าหายตาเข้าป่าไป คืนนั้นเลยได้เห็น งูเขียว 1 ตัว กับกวาง เก้ง ที่เห็นกันตรงเต็นท์นั่นแหละ แล้วตอนใกล้จะถึงที่พัก ก็ได้เห็นชะมดตัวเล็ก ๆ น่ารักอีก 1 ตัว



บรรยากาศตอนเช้า

เมื่อคืนอากาศก็กำลังสบาย ไม่หนาวเกิน ประมาณ สิบปลาย ๆ องศามั๊ง และแล้วก็ถึงเวลาอำลา เขาใหญ่ คราวหน้าถ้ามานอนอีกจะไปกางเต็นท์ที่ผากล้วยไม้บ้าง

อำลากันด้วยภาพนี้แล้วกัน อะไรเอ่ย เหมือนกิมจ๊อยักษ์



นี่ถ้าเอาไปสักเม็ด 2 เม็ดไปฝากเพื่อนบอกว่าเป็นเม็ดต้นอะไรสักอย่างเพื่อนคงเชื่อ เพราะมันเป็นก้อนแห้ง ๆ แข็ง ๆ ไม่รู้มีกลิ่นป่าว ไม่ได้ดม

ตอนแรกพวกเราก็คาดเดากันต่าง ๆ นา ๆ ว่าเป็นอึ๊ของตัวไร นั่งกันไปนั่งกันมา อ๋อ ของน้องกวางนี่เอง ตัวเบ้อเร่อ แต่อึมาก้อนน่ารักเชียว

lozocatlozocat




 

Create Date : 15 มีนาคม 2553    
Last Update : 15 มีนาคม 2553 11:31:12 น.
Counter : 1949 Pageviews.  

^ * ^ ....มาแวะเที่ยวที่สุดท้าย (อยุธยา) ของทริปปีใหม่....

lozocatlozocat


เกือบจะสิ้นเดือนแล้วพึ่งจะอัพบล็อคไปเที่ยวปีใหม่ให้เสร็จซะที

......................

เริ่มออกจากบ้านยาย บ่าย 3 ของวันที่ 2 มกราคม 2553 ขากลับครั้งนี้พาน้าเนาว์กับยายเจ็ก กลับมาระยองด้วย ส่วนยายกิ๊ฟติดรถแค่มานอนค้างอยุธยาแล้วเช้าก็นั่งรถต่อกลับไปเรียนที่สารคามต่อ

ตอนแรกเรากะจะนอนค้างอยุธยาสักคืนที่บ้านนานาชาติอยุธยาเหมือนเดิม เพราะคิดถึงน้องเหมียว กับบรรยากาศเก่า ๆ แต่คราวนี้คงไปถึงดึกไปหน่อยเค้าเลยปิดประตูไปแล้ว

ก็เลยถอยรถมานอนที่พร้อมสุขเพลสที่อยู่ถึงก่อนบ้านนานาชาติใกล้ ๆ กันนั่นแหละ



กว่าจะได้ที่พัก 5 ทุ่มเข้าไปแล้ว ดีที่คราวนี้เค้าเปิดเช็คอินท์คงจะ 24 ชม.แล้ว เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เค้าเปิดถึงแค่ 2 ทุ่ม ตอนนั้นเค้าไม่มีพนักงานเปลี่ยน พึ่งจะเปิดใหม่ ๆ

แต่คราวนี้ที่ไปเข้าพัก ห้องเค้าก็ยังใหม่อยู่ สะอาด ปลอดภัย ราคาถูก คุ้มว่างั้นเหอะ ราคาห้อง standard 600 บาทเอง ห้องสูท 1000 แต่มีอยู่ 4 ห้องเอง เต็มหมดแล้วด้วย กะจะเปิดห้องสูทห้องเดียว 4 คนซะหน่อยอดเลย (ไม่ค่อยงกเลยเนอะ)





ตอนจองลืมบอกว่าเอาห้องใกล้ ๆ กัน เค้าจัดให้ห่างกันคนละมุมตึกเลย ที่ถ่ายมานี่ก็เป็นห้องยายเจ็ก เพราะเราไม่ได้เอากล้องขึ้นมาด้วย










ห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง



เช้าวันนี้เรากับพี่หมีตื่นกันสายหน่อย ยายกิ๊ฟมาเคาะห้องเรียกก็เคาะห้องผิดซะอีก เลยเดินไปขึ้นรถเองเรียบร้อยแล้ว กว่าเราจะตื่นอาบน้ำไปห้องน้าเนาว์ก็ 8 โมงกว่าแล้ว กะว่าจะพาน้าเนาว์กับยายเจ็กไปเที่ยววัดเก่า ๆ ก่อนจะเดินทางต่อ แต่พี่หมีดันขี้เกียจตื่นเลยทิ้งไว้ให้นอนรอที่ห้อง ส่วนเราก็พาทัวร์ซะเองเลย

ความจริงก็ไปแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย เพราะเป็นคนที่จำถนนหนทางไม่ค่อยได้ถ้าเป็นต่างถิ่นน่ะ ปกติพี่หมีจะขับตลอด เลยไปแบบมั่ว ๆ นั่นแหละ

อยุธยาเค้าเป็นเมืองเก่า มีวัดเยอะแยะมากมาย ยังไงก็ได้เจอสักวัดแหละ เริ่มจากขับตรงไปเรื่อย ๆ กะจะไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกเจ้าอร่อยที่จำได้ว่าอยู่เยื้อง ๆ กับราชภัฎ แต่ไม่รู้ปิดไปแล้วรึไง หาไม่เจอ

ขับไป ๆ ก็เจอย่านขายของฝากอยุธยา ก็โรตีสายไหมนั่นเอง ดีใจจัง เพราะคราวที่แล้วที่มากับพี่หมี ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน คราวนี้มั่วมาถูกด้วย แต่ให้ไปอีกทีคงไปไม่ถูกอีกแล้ว ถ้าไม่ถามคนแถวนั้นก่อน



แวะซื้อมา 2 เจ้า เพราะแต่ละยี่ห้อเค้ามีจุดเด่นไม่เหมือนกันจริง ๆ บางเจ้าแป้งบาง แป้งหนา ดีนะที่ไม่ซื้อเจ้าเดียว แล้วเค้าก็คงใจดีทุกร้านแหละเพราะพอซื้อแล้วเค้าห่อให้ชิมคนละ 1 อัน ไป 3 คนก็ให้ 3 อันเลย ขนาดน้าไม่ได้ลงไปซื้อด้วยนั่งอยู่บนรถ เค้ามองไปเห็นเค้ายังห่อฝากไปให้เลย คิดดูถ้าเราไปหลาย ๆ ร้าน เราก็อิ่มแล้ว

ส่วนอาหารเช้าก็ได้ก๋วยเตี๋ยวแถวนั้นแหละ จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวไก่เพียบไปหมด คราวนี้สุ่มไปร้านชื่อไรไม่รู้จำไม่ได้ ไม่อร่อยซะอีก ร้านที่อยู่เยื้อง ๆ กับวิววัดนี้แหละ ไม่รู้วัดไร



ร้านป้าเล็กเจ้าอร่อย ที่เคยไปกินคราวที่แล้ว ก็ไปไม่ถูกซะอีก

แต่จากการทำการบ้านไปบ้างแล้ว แต่จำชื่อวัดไม่ได้ รู้แต่ว่าสวยแล้วคนไม่พลุกพล่าน เลยสอบถามคนแถวนั้น ว่าวัดที่อยู่ติดแม่น้ำที่เป็นวัดเก่าแก่มาก ๆ อยู่ที่ไหน ก็ทำให้เราให้เราได้ไปเจอวัดนี้

วัดไชยวัฒนาราม ไม่แน่ใจว่าใช่วัดนี้รึเปล่า



ค่าเข้าชมราคาคนไทย คนละ 10 บาท



และแล้วก็คุ้มค่าจริง ๆ ที่ขับแบบหลำ ๆ (ภาษาใต้น่ะ) กันมา สวยงามจริง ๆ







เห็นภาพนี้แล้ว นึกถึงเรื่องที่เกือบทำน้าเนาว์หน้าแตก



เพราะความที่แดดร้อนเปรี้ยง แล้วเรากับยายเจ็กก็มัวแต่ถ่ายรูปกันอยู่ น้าเนาว์เค้าเลยรีบจ้ำเดินมาล่วงหน้าคนเดียว ด้วยความที่กว้างด้วย น้าเนาว์เค้าเดินไปถึงพระปรางค์ แล้วตรงนั้นมันมีที่ร่มเย็นสบายพอดี น้าเนาว์เค้ามองไปที่พระปรางค์ อยากจะขึ้นไปซะหน่อย แต่ด้วยความที่เหนื่อยเลยนั่นพักเหนื่อย แล้วรอพวกเราด้วยจะได้ขึ้นไปพร้อมกัน

พอเราไปถึงน้าเนาว์ ยายเจ็กก็บ่นว่าเสียดายขึ้นไม่ได้ ถึงได้รู้กันว่าตรงทางเข้า เค้ามีป้ายห้ามไว้อยู่ว่าห้ามขึ้น ปีนป่าย น้าเนาว์เลยบอกว่าดีนะแม่เหนื่อยเลยนั่งรอขึ้นพร้อมกัน ไม่งั้นขึ้นไปแล้ว โดนเค้าว่าแน่ๆ ไอ้เราก็ไม่ได้มองป้ายเหมือนกัน





แต่ก็มีแอบ นิด ๆ หน่อย ๆ แค่ฐาน ๆ













แบบจำลองที่สมบูรณ์



มีประวัติความเป็นมา ของวัดไชยวัฒนารามมาฝากด้วยค่ะ

วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็ตั้งอยู่ริม แม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดหนึ่ง ที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นๆ ใน อยุธยา และเนื่องจากกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะตลอดมาจนปัจจุบัน

นักท่องเที่ยวยังคงมองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งผู้ไปเยือนไม่ควรพลาด

วัดไชยวัฒนารามสร้างบนพื้นที่ 160 เมตรยาว 310 เมตร โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกกล่าวได้ว่าวัดนี้ตั้งตรงกับทิศทางคตินิยมในการสร้างวัดที่ปฏิบัติเป็นประเพณีสืบกันมา

นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับเหตุการณ์ในพุทธประวัติที่กล่าวว่า พระโพธิสัตว์ทรงประทับภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ หันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกสู่แม่น้ำเนรัญชรา ทรงบำเพ็ญสมาธิจนบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ พระพุทธรูปซึ่งเป็นหลักของวัด ก็สร้างแทนองค์ประพุทธเจ้าคือพระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งเป็นปางที่แสดงเหตุการณ์ตอนพระพุทธองค์ตรัสรู้

ประวัติ

วัดไชยวัฒนารามบางครั้งเรียกว่า “วัดไชยยาราม” และ “วัดไชยชนะทาราม”
เป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นวัดอรัญวาศรี ณ บริเวณที่ดินซึ่งเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนีในปีที่ขึ้นครองราชย์ คือปีมะเมีย พ.ศ.2173 สันนิษฐานว่าเป็นวัดประจำรัชกาลด้วย

ต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ใช้วัดนี้ในฐานะเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสีสำหรับพระราชทานเพลิงศพของพระราชวงศ์และขุนนางผู้สูงศักดิ์
ในปี พ.ศ.2299 กรมพระราชวังบวรสถานมงคล เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง)กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย ได้ถูกกล่าวโทษว่าเสด็จเข้ามาทำชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลย์ในพระราชวังหลายครั้ง สืบสวนได้ความเป็นสัตย์จริง จึงลงพระราชอาญาเฆี่ยนทั้งสองพระองค์จนดับสูญแล้วนำศพไปฝังไว้ ณ วัดไชยวัฒนารามทั้งสองพระองค์

จุดน่าสนใจ

ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของพื้นที่ ฐานประทักษิณ ซึ่งฐานประทักษิณได้ยกสูงขึ้นมา จากพื้น 1.5 เมตร มีลักษณะเป็นปรางค์ จัตุรมุข(มีมุขยื่นออกมาทั้ง4ด้าน)

ในส่วน ของมุขด้านตะวันออก จะเจาะมุขทะลุเข้าสู่เรือนธาตุ ซึ่งภายในจะประดิษฐานพระพุทธรุปนั่ง (ปัจจุบันไม่พบแล้ว) ยอดขององค์ปรางค์ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้นแต่ละชั้น เป็นลวดลาย ใบขนุน กลีบขนุน ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม ปรางค์แบบนี้มีลักษณะเหมือน ปรางค์ในสมัย อยุธยาตอนต้น ซึ่ง วัดไชยวัฒนารามนั้น สร้างในสมัอยุธยาตอนกลาง จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการนำเอาพระปรางค์ที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้นมาก่อสร้างอีกครั้งหนึ่ง

ขากลับก็ได้ยายเจ็กนี่แหละช่วยจำทางกลับโรงแรมได้ ให้ไปอีกทีเองไปไม่ถูกนะเนี๊ยะ

อยุธยาวัดสวย ๆ ยังมีอีกเยอะ ถ้าเราไปบ้านยายเรากะว่าขากลับจะมานอนทุกครั้ง แล้วก็ไปหาวัดเก่า ๆ เที่ยวทุกครั้ง ครั้งละวัด 2 วัดก็ยังดี

...........................

ปีใหม่ปีนี้ได้หยุดทั้งหมด 6 วัน ได้ไปเที่ยว เขาค้อ เชียงคาน พระธาตุศรีดอกรัก ไปเยี่ยมญาติที่น้ำปาด ทำบุญวันเกิดแม่ แล้วก็มาจบที่อยุธยา เที่ยวสะใจไปเลย



จบทริปเที่ยวปีใหม่ปี 53 แล้วเจ้า

lozocatlozocat














 

Create Date : 27 มกราคม 2553    
Last Update : 27 มกราคม 2553 16:50:11 น.
Counter : 5213 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

ลูกสมอเรือ
Location :
ระยอง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]






ชื่อเชอร์รี่ค่ะ เกิดที่สัตหีบ แต่เคยย้ายไปอยู่สงขลาเป็นระยะ ๆ เลยมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทั้งคนสงขลาและสัตหีบ ตอนนี้ทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่จ.ระยองค่ะ



ลูกสมอเรือ ค่ะ

Create Your Badge




เพื่อนชอบทำกับข้าว
แม่สลิ่ม
wee_nong
ปูขาเก เซมารู
jjbd
กระเพราไก่ไข่ดาว
ผ้าไหมไทย
popang
narellan
Il Maze
ดวงใจพ่อแม่
ลักกี้


เพื่อนชอบทำขนม

Ab Psy ReinDEAR
กิน ๆ เที่ยว ๆ
Tiny Bakery



เพื่อนแจกของแต่งบล็อก
เนยสีฟ้า
kung
oranung_sri
lozocat
แพรวขวัญ
PS_PRINCESS
thattron

เพื่อนพาเที่ยว
chalawanman
แมวจอมกวน
thattron
baby bonus
ชานไม้ ชายเขา
ann
อยากเป็นไกด์
NuAeaw
New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกสมอเรือ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.