:: Interview .. the blogger :: >> เกศสุริยง
สืบสาน นาฏศิลป์ไทย กับ ..
. เวลาที่จะนำเรื่องราวมาลงในบล็อก เชื่อว่า เริ่มแรก .. จะถามตัวเองกันว่า .. เราจะอัพเรื่องอะไรดี ไม่ว่าเราจะเลือกเรื่องอะไรมาก็ตาม ในที่สุด สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ถนัด และ สิ่งที่รัก .. คือสิ่งที่เรานำเรื่องราวมาลงกันอย่างต่อเนื่อง ครูเกศ .. เกศสุริยง คือคุณครูสอนนาฏศิลป์ในชีวิตจริง และสิ่งที่ครูเกศมาถ่ายทอดลงในบล็อก ก็คือสิ่งที่มาจากความชอบ ความถนัด และแน่นอน ..ความรัก บล็อก เกศสุริยง มีความรู้ในแง่มุมต่างๆให้สัมผัสกัน เราไป .. สัมผัสกับเรื่องราวต่างๆ พร้อมกันเลยนะคะ
Q : ก่อนจะคุยกับครูเกศเรื่องอื่นๆ ขอถามเรื่องน้ำท่วมก่อนเลยนะคะ ครูเกศอยู่อ่างทอง โดนผลกระทบอย่างไรบ้างค่ะ A : อ่างทองเป็นที่ลุ่ม และน้ำท่วมเกือบทุกปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา อ่างทองน้ำท่วมหนักมาก แต่ปีนี้อ่างทองไม่ถึงกับวิกฤตถ้าเทียบกับ นครสวรรค์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยาและ ปทุมธานี แต่ครูเกศก็โดนผลกระทบจากน้ำท่วมเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องงานแสดงที่รับไว้ เราจำเป็นต้องงดเพราะพื้นที่จัดงานนั้นไม่สามารถที่จะจัดงานได้ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจเทียบได้กับพี่น้องชาวไทยที่ประสบอุทกภัยและสูญเสียทั้งบ้านและทรัพย์สิน น่าสงสารมากๆค่ะ ครูเกศทำได้ก็แค่ส่งกำลังเงินและกำลังใจไปช่วยเท่าที่จะทำได้ค่ะQ : ครูเกศเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบล็อกแกงค์ นานแค่ไหนแล้วคะ A : ทำบล็อกมาประมาณ สองปีกว่าแล้วค่ะ ตั้งแต่ต้นมกราคม 2552 เรื่อยมาเลยค่ะ โดยเริ่มแรกเลยนี่ต้องสารภาพตามตรงเลยว่าไม่รู้จักคำว่าโลกไอทีเลยค่ะ เวลาน้องสาวและเพื่อนๆชวนไปซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไอที ที่กรุงเทพ จะเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก แต่ก็ต้องยอมติดรถไปกับพวกเขาด้วยโดยมีข้อแม้ว่า จะต้องพาไปแวะพาหุรัดให้ฉันด้วย(555555ต่อรองไปเรื่อย) ต่อมามีช่วงหนึ่งที่ละครเรื่องสงครามนางฟ้าดังมากในเว็ปพันทิป ก็เลยถามน้องสาวว่าเว็ปพันทิปคืออะไร น้องสาวก็อธิบายให้ฟังว่าต้องไปที่ google ก่อน แล้วก็ค้นหาพันทิป ทีละขั้นตอน และน้องสาวยังได้เขียน bloggang อยู่ด้วย จึงบอกว่าเราอยากมีบ้าง จะทำอย่างไรล่ะ น้องสาวจึงทำการสมัครสมาชิกให้ สอนลงรูป สอนแต่งblog จำได้เลยว่าศึกษาการแต่ง blog ครั้งแรกจาก blog ของป้ามดค่ะQ : ชื่อล็อกอิน "เกศสุริยง" มีความหมาย และสื่ออะไรถึงตัวคุณครูเกศ หรือในเนื้อหาของบล็อกบ้างคะ A : ชื่อล็อกอินเกศสุริยง เริ่มแรกเลยก่อนที่จะเปิด blog นั้น ตั้งใจว่าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองถนัด คือนาฏศิลป์ไทย ฉะนั้นชื่อล๊อคอินก็ควรที่จะเป็นอะไรที่ไทยๆ จำได้ว่าให้ชื่อหลายชื่อมาก แต่ระบบของการสมัครยังบอกว่าชื่อซ้ำ จนชักจะเบื่อแล้ว บังเอิญสายตาก็เหลือบไปเห็นปฏิทินตั้งโต๊ะของธนาคารแห่งหนึ่ง เป็นรูปวาดตัวเอกในวรรณคดีไทยก็เลยหยิบมาเลือกและมาผ่านที่ชื่อ เกศสุริยง ก็เลยตกลงปลงใจที่จะเอาชื่อนี้ และโดยเป็นจริงแล้ว นางเกศสุริยงซึ่งเป็นนางเอกในวรรณคดีไทยเรื่องสุวรรณหงส์นั้น นางเป็นผู้หญิงที่สวย ซื่อสัตย์และเก่งมากๆค่ะQ : บล็อกครูเกศเน้นเรื่องนาฏศิลป์ และครูเกศเองก็เป็นครูสอนนาฏศิลป์ อยากให้เล่าถึงเส้นทางการเรียน .. กระทั่งมาถึงทุกวันนี้น่ะค่ะ.. A : ครูเกศเข้าเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์อ่างทองตั้งแต่ปี 2522 ซึ่งเข้าเรียนเป็นปีที่ 2 ของวิทยาลัยนาฏศิลป์อ่างทอง แต่ตอนจบครูเกศเป็นรุ่นที่ 5 ของนาฏศิลป์อ่างทอง คือในวิทยาลัยนั้นจะรับเด็กเข้าศึกษาต่อชั้นต้น (จบประถม 6 มา)และชั้นกลาง (จบมัธยมปีที่ 3 มา) ครูเกศเรียนตั้งแต่ชั้นต้นปีที่ 1 มาค่ะ โดยเลือกเรียนสาขาวิชา เครื่องสายไทยเป็นวิชาเอก ด้วยที่ว่าสมัยอยู่ประถมนั้นครูเกศเป็นนักดนตรีของโรงเรียนค่ะ พอเรียนๆไปเพิ่งรู้ว่าตัวเองชอบเรื่องรำไทยค่ะ ครั้นจะเปลี่ยนวิชาเอกก็ไม่กล้า กลัวคุณครูมากเลย ก็เลยต่อเพลงรำกับเพื่อนที่เรียนละคร เพื่อนต่อแค่ไหนเราก็ต่อแค่นั้น ขำตัวเองเหมือนกัน เวลามีงานแสดงนอกที่พวกเราแอบรับกันเองก็ไปกับเขาด้วย ลืมไปว่าตัวเองเรียนดนตรี พอขึ้นชั้นกลางนั้นจะมีวิชาโทเพิ่มขึ้นอีก ครูเกศเลยเลือกเรียนโทละคร จนจบชั้นกลางปีที่ 3 (มัธยมศึกษาปีที่ 3 )ครูเกศจึงเลือกมาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ในปี พ.ศ.2528 ในสาขาครุศาสตร์ วิชาเอกนาฏศิลป์ วิชาโทบรรณารักษ์ ตรงนี้เป็นจุดสร้างฝันให้ครูเกศทีเดียวค่ะ ครูเกศได้มาเป็นลูกศิษย์ของแม่ม่อม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กฤษณา บัวสรวง ภักดีเทวา ซึ่งท่านดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชานาฏศิลป์ไทยในสมัยนั้น และในราวปีพ.ศ. 2530 ครูเกศยังมีโอกาสได้ศึกษากระบวนท่ารำจาก คุณครูเฉลย ศุขะวณิช ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งท่านได้อุทิศเสียสละเวลาเข้ามาสอนให้แก่นักศึกษาภาควิชานาฏศิลป์สมัยนั้น ด้วยเหตุที่ว่าครูเกศมีพื้นฐานทางดนตรีไทยที่แน่นพอสมควร เมื่อมาประกอบกับวิชานาฏศิลป์ไทย ทำให้ช่วงกระบวนท่ารำนั้นลงตรงจังหวะไม่ว่าเราจะเชื่อมท่ารำให้ซับซ้อนแค่ไหนก็จะอยู่ในจังหวะของช่องโน้ตดนตรีเสมอ นับว่าเป็นความโชคดีของครูเกศในเรื่องนี้ค่ะและที่เป็นความโชคดีอีกประการหนึ่งก็คือ ครูเกศได้รับการสนับสนุนจากคุณพ่อและคุณแม่ตลอดเวลา ท่านไม่เคยบ่นเคยว่าเลยว่าต่อไปครูเกศจะทำอาชีพใดเมื่อเรียนสายนี้ เพราะมีตลาดไม่กว้างเลยในสมัยนั้นที่จะหางานทำให้ตรงกับสาขานาฏศิลป์ ที่เห็นชัดๆเลยก็คืออาชีพครู นอกนั้นแทบจะไม่มีเลยไม่เหมือนกับสมัยนี้ที่สามารถเลือกอาชีพได้หลากหลายในสาขาวิชานี้ เรื่องการเรียนในสาขานาฏศิลป์นี้ ถ้ามองโดยรวมแล้วก็ไม่ยาก อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเรียนได้ แต่ผุ้ที่เรียนจะต้องมีใจที่ชอบเรื่องนี้เป็นพื้นฐาน ต่อไปก็คือพรสวรรค์ของผู้เรียน ถ้าผู้เรียนมีพรสวรรค์ ก็จะทำให้การเรียนง่ายขึ้น แต่ในกรณีที่ไม่มีพรสวรรค์ก็ต้องมีพรแสวงเยอะๆค่ะ หมั่นฝึกซ้อมเพื่อให้เกิดความชำนาญ ไม่หยุดอยู่กับที่ ก็จะสามารถเดินบนเส้นทางศิลปินได้เช่นเดียวกันค่ะบล็อก :: ความแตกต่างของรัดเกล้า
Q : ทุกวันนี้ครูเกศสอนอยู่ที่ไหนคะ .. A . ครูเกศสอนให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดอ่างทอง อยู่สามสี่ที่ค่ะ เป็นรายชั่วโมงน่ะค่ะ การเรียนการสอนของครูเกศเน้นไปทางปฏิบัติเสียมากกว่า ก็สนุกกับงานน่ะค่ะ และสุขใจเมื่อเห็นลูกศิษย์ของเราค่อยๆพัฒนาทักษะเกี่ยวกับนาฏศิลป์ไทยไปในทางที่ดีขึ้นทีละน้อย โดยเกิดจากการตั้งใจที่จะถ่ายทอดโดยตัวเราน่ะค่ะ งานชิ้นสำคัญสำหรับครูเกศโดยส่วนตัวแล้วทุกงานสำคัญเท่าๆกัน ชิ้นงานที่เราสร้างสรรค์ออกแสดงนั้นต้องผ่านกระบวนการฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้เกิดความชำนาญ เสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องออกมาให้สวยงามตามแบบฉบับที่สืบทอดกันมา ครูเกศจะบอกลูกศิษย์ทุกคนเลยว่า เวลาแสดงถึงจะมีผู้ชมหรือไม่มีผู้ชมก็ตาม เราต้องเต็มที่กับมัน เราจะไม่ดูถูกคนดู Q: ครูเกศเขียนในบล็อกไว้ว่า ..รักที่จะสืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบต่อไป .. ครูเกศได้สืบสานในส่วนของครูเกศเองอย่างไรคะ A: จริงแล้วศิลปะของชาติไทยมีด้วยกันหลายแขนงมาก และมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องนี้อยู่ ส่วนในด้านของครูเกศก็เช่นเดียวกันค่ะถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้อยู่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง แต่ความเป็นคนไทยในสายเลือดศิลปินและความรู้ที่มีอยู่ในตัวนั้น จึงอยากจะเป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งคอยกระตุ้นให้คนไทยรักและหวงแหนสมบัติและภูมิปัญญาของชาติไทยสืบไปเท่าที่ตนเองจะทำได้ค่ะบล็อก :: การทำเครื่องพัตราภรณ์
Q: ครูเกศยังเขียนไว้ด้วยว่า ... เกลียดบริษัทนายทุนที่ผลิตสื่อการเรียนการสอนนาฏศิลป์ไทยอย่าง สุกเอาเผากิน ...อยากให้ขยายความประเด็นนี้นะคะ A: เป็นคำถามที่ดีมากๆเลยค่ะข้อนี้ เรื่องการผลิตสื่อการสอนออกมาในรูปแบบ DVD หรือ VCD นาฏศิลป์ไทย ที่มีการแข่งขันสูงในเชิงธุรกิจในขณะนี้นั้น มีหลายบริษัททีเดียวซึ่งครูเกศไม่สามารถออกชื่อบริษัทนั้นได้ตรงนี้ ที่ผลิตออกมาโดยขาดมาตรฐานกระบวนท่ารำที่บรมครูรุ่นก่อนๆได้ประดิษฐ์เอาไว้ที่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมาก ยกตัวอย่างเช่น ในทุกๆปีการศึกษาจะมีการจัดงานศิลปหัตถกรรมของนักเรียน และต้องมีการแข่งขัน คัดสรรเด็กเก่งเพื่อไปประกวดระดับจังหวัด ระดับภาค จนถึงระดับประเทศในโครงการเก่งสร้างชาติ และมีการประกวดเกี่ยวกับนาฏศิลป์ไทยอยู่ทุกครั้งไป ครูเกศเชื่ออย่างยิ่งว่าสถานศึกษาที่ส่งเรื่องนี้เข้าประกวด ครูผู้สอนต้องมาทบทวนความรู้เก่าๆกับสื่อการสอนเหล่านี้ และถ้าคุณครูท่านใดได้ไปถอดกระบวนท่ารำจากบริษัทที่ทำแบบสุกเอาเผากิน และยิ่งร้ายกว่านั้น ถ้าบังเอิญกรรมการที่ต้องตัดสิน ยังไปศึกษาทบทวนกับสื่อการสอนชุดนี้อีก ลองหลับตาดูสิคะว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ครูเกศเคยประสบมากับตัวเองจริงๆ บางครั้งมันทำให้เราท้อเลยทีเดียวค่ะ เมื่อกระบวนท่ารำของเราที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาแต่ครั้งโบราณโดนตีว่ากระบวนท่าผิด และกระบวนท่ารำที่ศึกษามาจากวีดีโอที่ทำออกมาอย่างชุ่ยๆนั้นถูก พูดไม่ออกเลยทีเดียว เคยน้ำตาร่วงมาก็แล้วเมื่อการแข่งขันผลออกมาว่าเราแพ้ ทั้งๆที่รางวัลชนะเลิศควรจะเป็นของเราแต่เรากลับถูกปล้นรางวัลไปต่อหน้าต่อตา เห็นไหมคะว่าการทำสื่อการสอนออกมานั้นมันละเอียดอ่อนมาก แต่ก็มีอีกหลายบริษัทเช่นเดียวกันค่ะที่ทำออกมาได้มาตรฐาน ซึ่งครูเกศก็ขอชื่นชมไว้ณ.ที่นี้ด้วยค่ะเพราะถือว่าเป็นความใส่ใจของผู้ผลิตที่ตั้งใจทำให้เป็นมาตรฐานที่ดีและถูกต้องแก่ผู้ค้นคว้าต่อไปVIDEO บล็อก :: ระบำ นางกลอง
Q : อยากให้ครูเกศพูดถึงภาพรวมของวงการนาฏศิลป์ไทยในยุคปัจจุบัน A : ภาพรวมของวงการนาฏศิลป์ไทยในปัจจุบันตามความคิดของครูเกศนั้น ครูเกศคิดว่าเรามีพัฒนาการที่ดีขึ้น มีความหลากหลายมากขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งแบบแผนพื้นฐานที่สืบทอดกันมา แม้กระทั่งการเรียนการสอนก็เน้นให้เด็กแสดงความคิดและคิดงานออกมาได้อย่างเต็มที่มากกว่าสมัยก่อนมาก ทำให้เด็กรุ่นใหม่นั้นสนุกกับการเรียนในศาสตร์แขนงนี้ค่ะQ : มาตรฐานในภาพรวมของครูสอนนาฏศิลป์ในมุมมองของครูเกศเป็นอย่างไรคะ A ในมุมมองของครูเกศนั้น คิดว่าครูสอนนาฏศิลป์นั้นต้องมีความอุตสาหะและความตั้งใจที่จะถ่ายทอดเพื่อให้ศิษย์มีความชำนาญ มีกระบวนท่ารำที่สวยงามซึ่งเป็นเรื่องยากมากๆ แต่ถ้าครูนาฏศิลป์ผู้นั้นมีความตั้งใจจริงและรักที่จะถ่ายทอดเพื่อสืบสานนาฏศิลป์ไทยให้คงอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก ครูเกศเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วสิ่งนั้นย่อมประสบผลสำเร็จตามมาไม่มากก็น้อยค่ะVIDEO บล็อก :: โขนชุด สีดาลุยไฟ
Q : ในลักษณะของผู้ชมนาฏศิลป์ไทย ควรมีความรู้เบื้องต้นอย่างไรบ้าง เพื่อทำให้การรับชมนาฏศิลป์ชุดนั้นมีความสนุกสนานมากขึ้น A : โดยส่วนมากแล้ว นาฏศิลป์ไทยไม่ว่าจะเป็นการแสดงระบำรำฟ้อนหรือโขน ละครก็ตามที มักจะมีสูจิบัตรหรือพิธีกรบรรยายการแสดงถึงประวัติความเป็นมาเกือบทุกครั้งไป เพียงแต่ทุกคนแค่เปิดใจกว้างยอมรับในความเป็นนาฏศิลป์ไทย ซึ่งส่วนมากจะเชื่องช้าไม่รวดเร็วเหมือนการแสดงชนิดอื่น ครูเกศก็คิดว่าทุกคนน่าจะมีความสนุกสนานเพลิดเพลินในการรับชมแล้วค่ะQ ; ในความเป็นจริงของศิลปะการแสดงตะวันตกเช่น โอเปร่าหรือแม้แต่บัลเล่ต์ ก็มีทั้งส่วนที่เป็นลักษณะการแสดงเชิง "อนุรักษ์" คือแสดงให้เหมือนกับต้นฉบับเดิมมากที่สุด กับแนว "ประยุกต์" ซึ่งสามารถพัฒนาและต่อยอดได้โดยไม่ยึดติดกับต้นฉบับ ในมุมมองของครูเกศ มีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง แล้วผลงานที่เป็นอมตะหลายๆเรื่องของไทย หรือการแสดงบางอย่างเช่น โขน หรือ การรำบางชุด สามารถนำมาประยุกต์ให้ร่วมสมัยได้หรือไม่คะ A : เป็นคำถามที่ดีมากๆทีเดียวค่ะ ทุกวันนี้ในความคิดของครูเกศนั้นมีความคิดขัดแย้งกับผู้ที่รับผิดชอบในงานนี้โดยตรงอยู่เรื่องหนึ่งคือ การเอาระบำเก่าๆที่บรมครูรุ่นก่อนๆนั้นสร้างเอาไว้มาปรับเปลี่ยน ปรับปรุงแก้ไขใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เห็นด้วยเลยจริงๆ โดยตามจริงแล้วเราสมควรที่จะอนุรักษ์การแสดงต้นแบบให้คงไว้ ส่วนจะต่อยอดการแสดงในรูปแบบคล้ายกันก็ควรที่จะทำขึ้นใหม่โดยอาศัยเค้าโครงจากของเก่าน่าจะดีกว่า ส่วนการนำเอานาฏศิลป์ไทยมาประยุกต์ให้ร่วมสมัยก็ไม่ควรทิ้งกลิ่นอายของความสวยงามที่มีอยู่แล้วนั้น ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อว่า คิดบวกสิบ นั้นครูเกศชื่นชมมากๆเลยกับการครีเอทงานออกมา โดยประยุกต์นาฏศิลป์ไทยเข้ากับนาฏศิลป์สากลผ่านออกมาในรูปแบบของเงา เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจและน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่งค่ะVIDEO บล็อก :: ระบำครุฑ
Q : อยากทราบว่า เวลาคัดตัวแสดง เลือกคนที่ฟ้อนรำสวยๆ ฟ้อนรำได้ถูกท่าทางดี กับคนที่หน้าตาดี ท่าทางดี ครูเกศเลือกแบบไหนก่อนคะ A : เลือกนักแสดงที่ฟ้อนรำสวยฟ้อนรำได้ถูกท่าทางดีค่ะ มันเป็นหัวใจสำคัญของการแสดงทีเดียวค่ะ ส่วนเรื่องความสวยงามหน้าตานั้นน่าจะเป็นเรื่องรองค่ะเพราะในการแสดงทุกครั้งนักแสดงต้องเมคอัฟใบหน้าเว่อร์กว่าหน้าจริงหลายเท่า ซึ่งเมื่อออกแสดงแล้วโดยภาพรวมไม่ว่าจะเป็นแสงจากเวที เสื้อผ้าหน้าผม ก็จะทำให้การแสดงออกมาน่าชมได้ไม่ยากนักQ: ครูเกศ พอจะแนะนำการถ่ายภาพ จับจังหวะท่ารำให้กับคนถ่ายภาพที่ไม่รู้เรื่องการแสดงฟ้อนรำได้บ้างไหมคะ A: เป็นคำถามที่ดีทีเดียวค่ะ นั่นสิจะทำอย่างไร เอาอย่างนี้ค่ะครูเกศแนะนำให้ฟังดนตรีด้วยค่ะ เอาง่ายๆเลยควรจะจับท่ารำนักแสดงด้วยเครื่องดนตรีประกอบจังหวะนั่นคือ ฉิ่ง นั่นเอง โดยส่วนมากแล้วไม่ว่าจะร่ายรำอย่างไร ผู้แสดงรำทุกคนจำเป็นอย่างยิ่งต้องฟังเสียงจังหวะของดนตรีพร้อมกับร่ายรำให้ตรงจังหวะ และทุกกระบวนท่ารำทุกเพลงเมื่อจังหวะของฉิ่งนั้นดัง ฉิ่ง ส่วนมากจะเป็นการเชื่อมท่าทางนาฏศิลป์ไทยและเมื่อจังหวะของฉิ่งดัง ฉับ ก็จะเป็นการลงท่า ซึ่งถ้าจะนำมาประยุกต์ใช้กับการถ่ายรูปให้สวย ตากล้องควรจะจับท่ารำขณะที่ฉิ่งนั้นลงเสียงว่าฉับ หวังว่าคงจะเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่จะให้ช่างภาพได้ถ่ายรูปออกมาได้สวยค่ะบล็อก :: ทำ"เกราะนม"เครื่องถนิมพิมพาภรณ์
Q : ย้อนกลับมาที่บล็อกสักนิดนะคะ ครูเกศเลือกเรื่องราวอย่างไรมาอัพบล็อกคะ A: ทุกๆGroup Blog นั้นครูเกศพยายามที่จะสื่อถึงการเผยแพร่ การอนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปะที่งดงามเคียงคู่ชาติไทย โดยแบ่งออกเป็นแต่ละหัวข้อเพื่อให้ง่ายต่อบุคคลที่ต้องการจะค้นหาเพื่อนำไปใช้ เช่น อาจจะมีนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการเข้ามาหาประวัติการแสดงของชุดระบำรำฟ้อน ก็จะเข้าไปที่Group สาระนาฏศิลป์ แต่ถ้าต้องการที่จะหาเกี่ยวกับการแสดงรำฉุยฉายต่างๆ ครูเกศก็แยกออกมาอีกGroup คือGroup สาระฉุยฉาย เพื่อให้สะดวกแก่การค้นหา เป็นต้นค่ะQ : คิดว่าการทำบล็อก ทำให้ตัวเองได้รับอะไรบ้างคะ A : มิตรภาพค่ะ ตอบโดยไม่ลังเลเลย ทุกวันนี้มีความสุขที่สุดก็คือเวลาที่log inเข้ามาเล่นbloggang บอกไม่ถูกเลยค่ะว่าเพื่อนๆในblogนั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันอย่างไร แต่ว่าวันไหนไม่มีเวลาเข้ามาจะเฝ้าย้ำคิดอยุ่อย่างนั้นว่าใครจะเข้ามาบ้างแล้วนะ แล้วถ้าเราไม่เยี่ยมกลับปล่อยให้เพื่อนรอต้องเสียมารยาทแน่ๆเลย คิดไปเรื่อย 555 บางทีบ่นกับตัวเองว่า หรือว่าฉันแก่แล้วเนี่ย ย้ำคิดย้ำทำอยู่ได้บล็อก :: สอนทำสะไบแบบง่ายๆ แต่สวยงาม
Q : คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ในบล็อก เป็นการแบ่งปันให้กับคนในชุมชนบล็อกในด้านใดบ้างคะ A : คิดว่าเป็นการแบ่งปันเอา วัฒนธรรมไทยและศาสตร์ของนาฏศิลป์ ซึ่งเป็นสิ่งดีๆที่เราคนไทยควรที่จะช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ เพื่อนๆบางคนอาจจะมองว่าน่าเบื่อแต่เมื่อเราเป็นเพื่อนกันในblogไปมาหาสู่กันประจำ ครูเกศคิดว่าไม่มากก็น้อยที่เวลาเพื่อนๆมาเยี่ยมแล้วเหลือบมองหัวข้อ ว่า ระบำ รำ ฟ้อนอะไร ชื่อว่าอะไรในทำนองนี้ ครูเกศก็ถือว่าประสบผลสำเร็จในการที่พยายามถ่ายทอดไปครึ่งหนึ่งแล้วล่ะค่ะ อย่างน้อยเวลาเพื่อนๆไปเจอการแสดงที่ไหน ก็ต้องมีจำได้บ้างแน่นอนว่าเคยเห็นการแสดงชุดนี้จาก blog เกศสุริยงและไม่ใช่แค่เพื่อนๆชาว bloggang เท่านั้น บุคลทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับระบำรำฟ้อนหรือประวัติการแสดงพื้นบ้านรวมไปถึงการละครของไทยเพื่อที่จะไปทำรายงานหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็สามารถเข้ามาค้นคว้าหาข้อมูลจาก blog เกศสุริยงในเบื้องต้นได้เช่นเดียวกันค่ะQ : มีหลายท่านอยากทำบล็อก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ครูเกศมีอะไรจะบอกบ้างคะ A : อยากจะบอกว่าคุณต้องกล้าที่จะเขียน อะไรก็ได้ที่อยากจะเขียนหรือระบายออกมา ทำไปเถิดค่ะ ครูเกศเชื่อว่าเพื่อนในbloggangนั้นมีจิตบริสุทธิ์ทุกๆคน อย่างน้อยคุณอาจจะมีกำลังใจจากเพื่อนคนใดคนหนึ่งที่สามารถทำให้คุณมีชีวิตที่แกร่งขึ้นก็ได้ ครูเกศขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังจะเริ่มต้นเขียน blog ค่ะ เริ่มเถิดค่ะแล้วคุณจะรู้ว่ายังมีมิตรภาพดีๆและความเอื้ออาทรในโลกไซเบอร์แห่งนี้VIDEO บล็อก :: ระบำนาฏสุรางค์นบพระปรางค์สามยอด
Q : เคยเบื่อและอยากเลิกทำบล็อกบ้างไหมคะ A: ไม่เคยเบื่อ ไม่ยอมเลิกเด็ดขาด 555 มีความสุขมากเวลาที่เขียน blog อิ่มใจเวลาได้ถ่ายทอดสิ่งที่ตนเองถนัดให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม น้องๆที่เรียนนาฏศิลป์เชียงใหม่ยังเคยกริ๊งกร๊างมาหาเลยว่า blog เกศสุริยง hot มากเวลาอาจารย์สั่งทำรายงานที่เกี่ยวกับนาฏศิลป์ไทย เพื่อนๆที่สอนในวิทยาลัยนาฏศิลป์อ่างทองก็เคยบอกว่า ลูกศิษย์อ้างอิงรายงานจาก blog เกศสุริยง ดีใจค่ะดีใจที่ได้ช่วยเหลือสังคมในสิ่งที่ตนเองเล่าเรียนมา VIDEO บล็อก :: ฟ้อนโยคีถวายไฟ
Q : สุดท้าย...อยากให้ครูเกศฝากถึงเพื่อนๆในบล็อกหน่อยค่ะ A : ครูเกศเห็นว่าเพื่อนๆใน bloggang นั้น มาจากหลากหลายอาชีพและหลากหลายความถนัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆในการที่เราจะแชร์ความรู้ที่เรามี แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนอื่น ทำให้โลกใบนี้ดูกว้างขึ้น และสิ่งที่ครูเกศประทับใจมากๆก็คือ มิตรภาพที่เกิดขึ้นใน bloggang แห่งนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะที่เป็นเพื่อนกันสำหรับดี.แล้ว .. โลกใบนี้ .. กว้างขึ้นอีก ..จากมุมมองของครูเกศ ที่มาถ่ายทอดให้สัมผัสกัน พี่ๆ เพื่อนๆ ล่ะคะ .. คิดเหมือนดี.ไหม พี่ๆ เพื่อนๆ ที่แวะมาทักทายกับดี.อยู่เสมอ เชื่อว่าก็คงแวะทักทายครูเกศอยู่เสมออยู่แล้วเช่นกัน แนะนำ.. สำหรับเพื่อนใหม่ .. คุยกับครูเกศได้ที่บล็อก
เกศสุริยง มิตรภาพงดงามจากครูเกศ รออยู่แล้วค่ะ
กระซิบ 1 : บทสัมภาษณ์จาก พี่เบิร์ด :ถปรรพี่ก๋า : กะว่าก๋านานาห์ : มัยดีนาห์เปิ้นเหวิ่น : fonrinดีดี : สัมภาษณ์ และ เรียบเรียง ค่ะกระซิบ 2 : อย่างที่บอกไว้แล้วนะคะว่า... ดี.จะสัมภาษณ์พี่ๆ เพื่อนๆ เดือนละ 1-2 ท่าน เท่าที่เวลาจะสะดวกกับทุกฝ่ายค่ะ การสัมภาษณ์ จะดำเนินไปตามทางที่พี่ก๋าบอกไว้ค่ะว่า .. "พี่ก๋าอยากให้น้องดีทำสัมภาษณ์บล็อกเกอร์ โดยไม่จำเป็นว่าบล็อกเกอร์ท่านนั้นจะได้รางวัลหรือไม่ แต่ดูว่าบล็อกนั้นมีความโดดเด่นในด้านไหนบ้าง แล้วเขาใช้แรงบันดาลใจอย่างไรในการทำบล็อก คิดว่าคงจะมีประโยชน์กับคนอ่านมากๆเลย คนอ่านนอกจากจะรู้จักบล็อกเกอร์ท่านนั้นมากขึ้น ยังอาจได้ประโยชน์จากแนวทางในการเขียน และ .. อ่านบล็อกด้วยเช่นกัน" ด้วยแนวทางเช่นนี้ .. ดี.ก็หวังว่า .. จะได้รับความสนใจ ได้รับคำแนะนำ คำติชม เพื่อให้ทุกบล็อกเกิดประโยชน์มากที่สุด มีข้อแนะนำใดใดที่เป็นประโยชน์ หน้าไมค์ - หลังไมค์ ตามสะดวกนะคะ ยินดีต้อนรับทุกความคิดเห็นค่ะกระซิบ 3 : ดีขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆทุกท่านค่ะ ที่อยู่ด้วยกันมาถึงตรงนี้ ขอบคุณค่ะ
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2554 0:00:03 น.
117 comments
Counter : 3120 Pageviews.