:: Interview .. the blogger :: >> สาวไกด์ใจซื่อ
พบกับเรื่องราวของ... หนังสือ .. อาหาร และ .. การเดินทาง จากนักรีวิวที่คุณคุ้นเคย
"พี่เต้ย...สาวไกด์ใจซื่อ"
ทุกครั้งที่ล็อกอินเข้ามาสู่ "บล็อกแกงค์" .. เมื่อมีคนถามว่า .. ทำอะไร? ดี.เชื่อว่าหลายคน คงจะตอบเหมือนดี.คือ .. เล่นบล็อก มีความรู้สึกว่าพูดคำว่า .. เล่นบล็อก จนกลายเป็นคำพูดติดปาก
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ .. แม้จะพูดว่า .. เล่นบล็อกเหมือนเดิมก็ตาม .. แต่สิ่งที่เรากำลังทำ .. สำหรับดี. .. มันไม่ใช่การ "เล่น"อีกต่อไป แต่เป็นความตั้งใจที่จะทำอะัไร ณ พื้นที่แห่งนี้มากกว่า
ในบรรดาคนเล่นบล็อก .. มีบล็อกจำนวนมากที่เป็นประโยค ให้ข้อมูลทางด้านต่างๆ และ .. ดูเหมือนจะกลายเป็นความคุ้นเคยไปแล้วว่า .. ในสิ่งที่เราสนใจ .. เราจะเริ่มต้นหาข้อมูลก่อนว่าสิ่งนั้นจะน่าสนใจจริงๆหรือเปล่า .. เป็นการหาข้อมูลขึ้นพื้นฐาน โดยอาศัยจากประการณ์ของผู้ที่เคยได้สัมผัสมาแล้ว และนั่น .. ทำให้เกิด"นักรีวิว" ขึ้นมามากมาย
ใน บล็อกแกงค์ .. นักรีวิวเก่งๆ มีเยอะ ถึงเยอะมากนะคะ และในจำนวนทั้งหมดนั้น ..
"พี่เต้ย - สาวไกด์ใจซื่อ"
เป็นนักรีวิวที่พี่ๆ เพื่อนๆ รู้จักคุ้นเคยกันมานาน ทุกเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดลงบล็อก ให้ประโยชน์ ให้ความรู้ ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึก สนุก เมื่อได้อ่าน กับ มุมมองคิดอย่างเป็นตัวของตัวเอง ที่พี่เต้ยถ่ายทอดจากใจ .. สู่ .. บล็อก
พี่เต้ย อยู่กับดี.ตรงนี้แล้ว .. มาคุยด้วยกันเลยค่ะ.. ^ ^
Q : พี่เต้ยทำบล็อกมากี่ปีแล้วคะ แล้วทำไมถึงเลือกมาทำบล็อกที่บล็อกแก๊งค์
A : ถ้าเอาที่เริ่มเขียนบล็อกเป็นเลย ก็ตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 ก็..6 ปีกว่าแล้วค่ะ
Q : ทำไมถึงเลือกมาทำบล็อกที่บล็อกแก๊งค์
A : ที่เลือกทำบล็อกแกงค์ เพราะตัวเองอ่านและเป็นสมาชิกพันทิปมาก่อนค่ะ พอเห็นว่ามีบล็อกแกงค์ ก็สงสัยว่ามันคืออะไร (ขอออกตัวก่อนว่า จริงๆ ตัวเองเป็นคนโลว์เทคมาก)ก็เลยลองมาสมัครก่อน
ตอนแรกๆ ก็เขียนแบบไม่มีสาระอะไร เชิงบันทึกชีวิตประจำวัน ระบายความรู้สึกอะไรอย่างนี้มากกว่าน่ะค่ะ พอเขียนไปๆ ก็ติด ก็เลยอยู่กับบล็อกแกงค์ยาว
หลังๆ ต่อให้รู้ว่ามีบล็อกของที่อื่นด้วยก็ไม่ได้ไปทำแล้วค่ะ เพราะรู้สึกว่า ตัวเองไม่มีเวลาพอจะเขียนหลายๆ ที่น่ะค่ะ
Q : ชื่อล็อกอินของพี่เต้ย สื่ออะไรถึงตัวพี่เอง หรือในเนื้อหาของบล็อกบ้างมั้ยคะ
A : ที่จริงก่อนหน้านี้พี่เคยทำงานมัคคุเทศก์มาก่อนหละค่ะ แล้วมีรุ่นพี่คนหนึ่งชอบแนะนำตัวเองว่า สาวไกด์ใจซื่อที่ชื่อ...
คราวนี้พี่ก็เห็นว่า คำว่า สาวไกด์ใจซื่อ มันก็บอกความเป็นตัวเองได้เยอะดีคือ เป็นผู้หญิง (ที่ตอนนี้ไม่ได้สาวแล้วน่ะนะ)บอกอาชีพที่ทำ (ณ ขณะนั้น)
ส่วนคำว่า ใจซื่อ นี่ขออธิบายยาวนิดหนึ่งนะคะ ไม่ได้หมายถึงใสซื่อ บ๊องแบ๊วอะไรอย่างนั้นนะคะ (เพราะไม่ใช่แน่ๆ แหะๆ) แต่พี่ค่อนข้างยึดมั่นถือมั่นเรื่องความซื่อสัตย์น่ะค่ะ ก็เลยคิดว่า เหมาะที่จะใช้ล็อกอินนี้
แต่ตอนนี้อะไรหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน เช่น ไม่สาวแล้ว (แง)ไม่ได้ทำงานมัคคุเทศก์เป็นหลักแล้ว เหลือใจซื่อนี่หละมั้งคะที่ยังใช่อยู่ (เอ้า...ฮิ้ววววว)
เพราะฉะนั้น ล็อกอิน จะสื่อความเป็นตัวเองมากกว่าค่ะ แต่ส่วนของเนื้อหาบล็อก ที่จริงก็เพิ่งจะเริ่มมาเขียนรีวิวเกี่ยวกับการเที่ยวไม่นานนี้เองแหละค่ะ ราวๆ สามปีได้
ช่วงสองปีแรกจะหนักไปทางหนังสือ หนัง เรื่อยเปื่อยอะไรไปมากกว่า เพราะฉะนั้นตัวล็อกอินพี่ ตอนคิดและตั้งชื่อนี่ พี่ใช้สื่อความเป็นตัวพี่มากกว่าเนื้อหาบล็อกนะคะ
Q : ทำบล็อกอยู่ตรงนี้มานาน .. คิดว่าตัวเองได้รับอะไรจากการทำบล็อกบ้างคะ
A : อย่างแรกเลยก็คือมิตรภาพค่ะ ทุกวันนี้มีเพื่อนบล็อกที่สนิทก็ได้จากบล็อกแกงค์นี่แหละค่ะ แต่เป็นกลุ่มที่ตอนนี้ไม่มีใครเขียนบล็อกกันแล้ว (เศร้ามาก) แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ยังคบหากันอยู่ ยังนัดเจอกันเรื่อยๆ
อย่างที่สองคือ ได้รู้จักโลกกว้างขึ้น ได้มีข้อมูลดีๆ ในหลายๆเรื่อง ได้รู้จักคนและสิ่งต่างๆ อีกมากมายเลยค่ะ
อย่างที่สามคือ เป็นที่ที่พี่เอาไว้บันทึก และเอาไว้เป็นข้อมูลต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและอาจจะสำหรับคนอื่นด้วยน่ะค่ะ อย่างบางทีพี่จะไปที่นี่ พี่ก็ต้องกลับมาอ่านบล็อกตัวเองเหมือนกันว่ามันเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เตรียมตัวถูก น่าจะประมาณนี้นะคะ
Q : คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่ในบล็อก เป็นการแบ่งปันให้กับคนในชุมชนบล็อกในด้านใดบ้างคะ
A : ทุกวันนี้ก็พยายามทำข้อมูลให้ละเอียดที่สุดในเรื่องของที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวนะคะ
หรืออย่างร้านอาหาร ก็คิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งความคิดเห็นที่เพื่อนๆ ที่มาอ่านจะได้นำไปประกอบการพิจารณาได้บ้าง
หรืออย่างเรื่องของที่พัก เมื่อก่อนพี่จะรีวิวเฉพาะที่ที่พี่ชอบ แต่ปรากฏว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง พี่อยากลองพักที่ที่หนึ่ง แล้วก็หารีวิวไม่เจอเลย ก็เลยคิดว่า ต่อให้เป็นที่ที่พี่ไม่ชอบ ก็ควรจะรีวิว เพื่อที่จะได้เป็นข้อมูลให้คนอื่นตัดสินใจบ้างค่ะ
แต่หมวดบล็อกที่พี่ยังรีวิวเฉพาะเล่มที่ชอบ หรือมีอะไรให้พูดถึงก็คือบล็อกรีวิวหนังสือค่ะ ก็คิดว่าน่าจะเป็นช่วยการส่งเสริมการอ่านให้กับคนที่อยากอ่านหนังสือทั้งหลายน่ะนะคะ
บล็อกแรกของการเขียนบล็อก เกาหลี เกาหลี
Q : บล็อกแรกของพี่เต้ย เป็นบล็อกที่ไม่มีรูป เขียนบรรยายสั้นๆ แต่ก็แอบยิ้มได้เลยนะคะ ...เล่าถึงความรู้สึกที่เขียนตอนนั้น .. กับตอนนี้หน่อยค่ะว่าเป็นยังไง
A : ความรู้สึกตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่า เกาหลีเป็นที่หนึ่งที่พี่ชอบเหมือนเดิมแหละค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึง (เพราะไม่ได้ไปบ่อยเท่าเดิมแล้ว)เวลาไปไหนๆ ก็ยังคิดว่าเมื่อไหร่จะได้ไปอีก ทั้งที่ถ้าถามเรื่องความสวยงามของสถานที่เที่ยว ก็สู้ที่อื่นไม่ได้นะคะ แต่บอกไม่ถูก เหมือนถูกโฉลกกันน่ะค่ะ
Q : พี่เต้ย เรียนการท่องเที่ยวหรือเปล่าคะ ถึงได้เลือกรีวิวเรื่องท่องเที่ยว เป็นหลัก
A : พี่ไม่ได้เรียนท่องเที่ยวจ้ะ ที่จริงพี่เรียนวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนที่ธรรมศาสตร์ แล้วก็มาต่อโทก็นิเทศฯ จุฬาฯ น่ะค่ะ
ส่วนบัตรไกด์นี่พี่ไปเรียนเพิ่มทีหลังที่คณะโบราณคดีศิลปากร ตอนนั้นไปเรียนเพิ่มเพราะเริ่มรู้สึกหลงรักอาชีพนี้อย่างจริงๆ จังๆ ก็เลยไปเรียนบัตรไกด์ให้เป็นเรื่องเป็นราวน่ะค่ะ
การที่ได้มาทำงานท่องเที่ยว จุดเริ่มต้นเลยคือ ตอนนั้นพี่เรียนปีสองซัมเมอร์ แล้วมีพี่ที่ธรรมศาสตร์เค้ามาคุยประมาณว่า ลักษณะพี่นี่น่าจะไปทำทัวร์ได้ เห็นชอบบริการคนโน้นคนนี้ ลองไปสมัครดูไหม ก็เลยไปสมัครค่ะ แล้วก็สัมภาษณ์ผ่าน เลยทำงานเป็นสต๊าฟทัวร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ตอนทำงานครั้งแรกตื่นเต้นมากค่ะ แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด ดีที่ว่า บริษัทที่พี่ทำนั้น เค้าค่อนข้างมีระบบการเทรนและมีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือค่ะ ก็เลยค่อยๆ เรียนรู้ไปได้
ตอนไปต่างประเทศครั้งแรกคือ ฮ่องกงค่ะ ตอนนั้นไปโดยมีรุ่นพี่สองคนไปด้วย ก็เตรียมตัวไปอย่างดีที่สุดหละค่ะ ซึ่งโดยรวมแล้วก็ออกมาดีนะคะ เพราะรุ่นพี่ที่ไปก็ชมแล้วก็ยังให้ออกทัวร์ต่างประเทศเรื่อยๆ ค่ะ
ส่วนที่รีวิวเรื่องท่องเที่ยวเป็นหลัก ที่จริงต้องขอบคุณ rebel นะคะ เพราะเป็นคนที่ถามแล้วทำให้พี่ฉุกคิดว่า ทำไมไม่ค่อยรีวิวเรื่องท่องเที่ยวเลย ที่จริงส่วนหนึ่งก็เพราะว่า บริษัทเดิมที่พี่เคยทำตามกฎแล้วไม่ได้อนุญาตให้นำกล้องไปอยู่แล้วค่ะ ยกเว้นไปเซอร์เวย์ หรือมีกรณีพิเศษ แต่พอออกมาเป็นฟรีแลนซ์ พี่ก็จะเอาไปเฉพาะงานที่บริษัทนั้นๆ ให้เอาไปนะคะ เพื่อไม่ให้กระทบกับการบริการลูกทัวร์ แล้วพอโตขึ้น เราก็มีโอกาสได้เที่ยวเองเยอะขึ้น ก็เลยมีรีวิวท่องเที่ยวได้เยอะด้วยหละค่ะ
Q ; การรีวิวของพี่เต้ย หลากหลายมาก อยากให้พี่เต้ยเล่าถึงการรีวิวของพี่เต้ยสักหน่อยค่ะ พี่ๆเพื่อนๆ เห็นเบื้องหน้ากันมาแล้ว จะได้รู้ถึงเบื้องหลังกันบ้างนะคะ
รีวิวพระราชวังบางปะอิน ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
A: บล็อกนี้ถือว่าเป็นเอนทรี่ประเดิมเปิดกลุ่มบล็อกใหม่เลยหละค่ะ เพราะก่อนหน้านี้พี่จะรีวิวที่เที่ยวไทยและต่างประเทศไว้ในกลุ่มบล็อกเดียวกัน แต่วันหนึ่งก็เกิดความคิดว่า ควรจะแยกระหว่างที่เที่ยวในประเทศกับต่างประเทศนะ ก็เลยเปิดกลุ่มบล็อกรีวิวที่เที่ยวในประเทศคือกลุ่ม ไปไหนมา สามวาสองศอกขึ้นมาค่ะ
เนื้อหาในบล็อกนี้พี่มีข้อมูลคือตัวเนื้อหาอยู่นานมากๆ แล้ว เพราะเขียนเก็บเอาไว้ในสมุดจดตั้งแต่อบรมบัตรมัคคุเทศก์น่ะค่ะ ส่วนเรื่องรูปนี่พี่ไปได้รูปตอนที่ไปออกทริปถ่ายภาพทริปหนึ่ง ซึ่งทัวร์นั้นอนุญาตให้นำกล้องไปร่วมถ่ายรูป ร่วมอบรมกับลูกทัวร์ได้ ก็เลยทำให้มีรูปมา ก็เลยเลือกที่จะเขียนเอนทรี่นี้มาประเดิมค่ะ เพราะเป็นสถานที่ที่พี่รู้สึกว่า สวยงาม และมีเรื่องอะไรให้เล่า ที่อยากบอกเยอะมาก เป็นเอนทรี่หนึ่งที่พี่ชอบนะคะ
รีวิววัดหลงหัว เซี่ยงไฮ้
A : เอนทรี่นี้ต้องขอบคุณบริษัทที่ให้ไปค่ะ เพราะที่จริงพี่ไปเซี่ยงไฮ้หลายครั้งแล้ว เพิ่งจะได้รีวิวที่เที่ยวที่นี่หละค่ะ เพราะถ้าใครอ่านบล็อกพี่ ก็จะเห็นว่าเวลาที่พี่ไปทำงานจริงๆแล้วนี่ พี่จะไม่ค่อยได้รีวิวที่เที่ยวนะคะ เพราะการเป็นมัคคุเทศก์ ไม่ควรเอากล้องไปถ่ายรูปส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ควรบริการลูกทัวร์น่ะค่ะ
เพรา่ะฉะนั้นเวลาที่พี่ไปทำงาน จะมีรีวิวเฉพาะที่พักหลังจากส่งลูกทัวร์เข้าห้องพักเรียบร้อยแล้วเท่านั้น แต่ทัวร์นี้เซลส์เจ้าของกรุ๊ปให้พี่ไปเซอร์เวย์โรงแรมช่วงที่ลูกทัวร์ประชุมด้วย แล้วก็ให้ถ่ายรูปมาให้เขาด้วย ก็เลยทำให้มีรีวิวมาทำได้น่ะค่ะ
ซึ่งวัดนี้เป็นวัดหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ที่พี่ชอบนะคะ ก็เลยค่อนข้างดีใจที่ได้รีวิวที่นี่ค่ะ
มุมสระว่ายน้ำ ..Swissotel the Stamford Singapore
A : สำหรับรีวิวที่พักอันนี้ เป็นทริปที่พี่ได้รับเชิญไปในฐานะบล็อกเกอร์เป็นครั้งแรกค่ะ แล้วก็ถือโอกาสช่วงว่างๆไปเก็บที่เที่ยว (ที่ต้องออกเงินเอง ฮา..)มารีวิวเพิ่มด้วย สำหรับที่พักที่นี่พี่ค่อนข้างประทับใจหลายๆ อย่างนะคะ การเดินทางสะดวก ใกล้ร้านอาหารหลายๆ ร้าน ใกล้ห้างสรรพสินค้า และวิวจากห้องพักก็สวยงามมาก เป็นอีกทริปหนึ่งที่พี่ประทับใจมากค่ะ
Q : ยังมีที่น่าสนใจอีกหลายบล็อกเลยนะคะ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว อยากรู้เพิ่มเติม ..ไว้ไปถามกับพี่เต้ยที่บล็อกได้เลยค่ะ
แต่ตอนนี้ .. มาคุยกันถึงเบื้องหลัง การรีวิว หนังสือบ้างดีกว่าค่ะ ..
นิยายที่หายไป - ความสำคัญของการเล่าเรื่อง อยู่ที่การลำดับเรื่อง
A : อย่างบล็อกนี้ที่จริงมาจากการรีวิวร่วมสนุกแข่งกันขยันอ่านในคาเฟ่ห้องสมุดของพันทิปค่ะ แล้วก็เลือกมาอ่านเพราะเคยอ่านรีวิวของเพื่อนบล็อกแล้วเค้าชอบก็เลยหาซื้อมาอ่าน แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
(นี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของบล็อกแกงค์นะคะ ทำให้เราเปิดหูเปิดตา รู้จักอะไรต่อมิอะไรที่เราชอบมากยิ่งขึ้นน่ะค่ะ)
ที่จริงบล็อกนี้เขียนตอนนี้กำลังยัง "สด" กับการอ่านจบใหม่ๆ มาก เพราะฉะนั้นความปลื้ม ความชอบจะยังมีอยู่เยอะค่ะ
มาตานุสติ - แดนอรัญ แสงทอง เข้มข้น ขื่นขม เขย่าขวัญ
A : บล็อกนี้ เขียนด้วยความรู้สึก "สด" เช่นกันค่ะ (ถ้าอ่านรีวิวน่าจะพอจับได้ แหะๆ) คือเป็นหนังสือที่อ่านแล้วติดพันอย่างมาก แล้วคนเขียนก็เีขียนได้ดี ซึ่งบล็อกนี้ก็เป็นอีกบล็อกที่มีอานิสงส์มาจากการแข่งกันขยันอ่านอีกนั่นแหละค่ะ ซึ่งเป็นหนังสืออีกเล่มที่อ่านจบแล้วค่อนข้างกระทบใจเยอะ จนทำให้คิดคำวิเศษณ์มาขยายความได้สามคำที่คิดว่าโดนใจตัวเองมากๆ อย่างที่เห็นหละค่ะ แหะๆ
Q : บล็อกรีวิวหนังสือ มีบล็อกไหนที่ใช้เวลานานมากกว่าบล็อกอื่นๆมั้ยคะ
A : อืมม์..ถ้าเป็นบล็อกรีวิวหนังสือจะไม่ค่อยแตกต่างกันเรื่องการใช้เวลานะคะ จะมีใช้เวลาเยอะหน่อยก็ที่ต้องพิมพ์เนื้อหาเยอะๆ อย่างตอนรีวิวผู้เสกทราย หรืออย่างเรื่องเล็กในเมืองใหญ่ค่ะ แต่โดยมากก็ไม่ต่างกันมากนะคะ แต่มีบางบล็อกที่จะค่อนข้างรีวิวยาก อย่างหนังสือของอเลซซานโดร บาริกโกนี่ คือ อ่านแล้วไม่รู้จะบรรยายรีวิวยังไงให้ตรงใจตัวเองและไม่สปอยล์คนอ่านน่ะค่ะ
ในส่วนของบล็อกรีวิวหนังสือ อย่างที่พี่บอกนะคะ ส่วนมากแล้วก็จะเป็นหนังสือที่พี่อ่านแล้วประทับใจ หรือมีอะไรที่อยากเอามาพูดคุย พูดถึงน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นแต่ละบล็อกก็จะค่อนข้างมี "ความรู้สึก" ชอบ ปลื้ม หรืออื่นๆ ค่อนข้างเยอะสำหรับในกลุ่มบล็อกนี้นะคะ
อ่านหนังสือแล้ว พี่เต้ยจดข้อความที่ชอบไว้เสมอไหมคะ เพราะเห็นนำมาลงที่บล็อกด้วย
A : พี่เป็นคนชอบจดคำพูดโดนๆ ดีๆ หรือคำพูดที่ทำให้รู้สึกเอ๊ะ! ไว้ในสมุดสะสมถ้อยคำเสมอค่ะ เอาไว้อ่านเวลาอยากคิดอะไรขึ้นมา จนพอมาร่วมโครงการแข่งกันอ่านนี่ ก็จะจดพวกเรื่องราว ฯลฯ อย่างอื่นลงในสมุดโน้ตเพิ่มด้วย แต่ก็ทำให้ลืมลอกข้อความโดนๆ จากสมุดโน้ตลงสมุดสะสมถ้อยคำตัวเองมาพักใหญ่ๆ แล้วหละค่ะ แหะๆ สำหรับตัวอย่างข้อความที่พี่ชอบก็มีดังนี้นะคะน้องดี
ตอนที่ทุกอย่างสิ้นไปในกองไฟ ข้าเคยคิดอยู่หลายปีว่าไม่มีอะไรมีความหมาย ชีวิตของข้าเป็นของควบคุมไม่ได้ไม่ว่าจะทำอย่างไรในที่สุดก็อาจจะถูกทำลาย โดยสิ่งอื่นที่อยู่ภายนอกอยู่นั่นเอง เขาบอก
"แต่ชีวิตสิ้นหวังเช่นนั้นไม่เหมือนชีวิต วันหนึ่งข้าไปเห็นคนเป่าแก้ว ทรายแต่ละเม็ดรวมกลายเป็นเนื้อแก้วใส ข้าคิดว่ามันน่าอัศจรรย์...และตอนนั้นข้าก็คิดว่าใช่...บางทีในตัวข้าก็คงจะมีทรายแต่ละเม็ดอยู่ ความเจ็บปวดแต่ละครั้ง ความยินดีแต่ละหน อย่างน้อยมันก็เป็นสมบัติของข้า
ข้าคิดว่าอย่างน้อยถึงจะทำอะไรกับสิ่งที่เกิดภายนอกไม่ได้ ข้าก็ยังทำอะไรกับสิ่งที่อยู่ข้างในตัวข้าเอง ทำให้มันมีความหมายขึ้นมาได้ เคอร์รัน ข้างนอกนั่น คนเขาเห็นความพยายามของเจ้าเป็นเหรียญตรา...เป็นเพียงผ้ากับโลหะ เขาจึงแย่งสิ่งนั้นไป ทว่ามีแต่ตัวเจ้าเองที่รู้
...แท้จริงแล้วความพยายามกลายเป็นส่วนหนึ่งของเลือดเนื้อ เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้ามุ่งมั่นกว่าคนอื่น ตัดสินใจฉับไวและรับผิดชอบกว่าผู้อื่น เจ้าอาจจะเลือกทางผิดหรือไม่ข้าไม่รู้ได้ ข้ารู้แต่ว่ามันเป็นทรายของเจ้า เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าตัดสินใจจะรับมาด้วยตนเอง
เมื่อตัดสินใจโยนลงไปในหม้อหลอมแล้ว เจ้าก็ไม่มีทางทำให้มันกลับเป็นทรายได้อีกหรอก แต่ที่จริงในที่สุดแล้ว มนุษย์ก็ไม่เหมือนแก้วตรงที่ไม่เคยมีอะไรแน่นอน เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และไม่สามารถรู้รูปร่างที่แท้จริงเลยจนกว่าจะตาย
ปริมาณทรายสำหรับทำเครื่องแก้วแต่ละชิ้นถูกกำหนดไว้แล้ว แต่ทรายแห่งประสบการณ์ของมนุษย์ไม่เคยมีขีดจำกัด ดีเลว โง่ฉลาด ผิดหรือถูก ไม่มีสิ่งใดที่แน่นอน ถ้าคราวนี้เจ้าเห็นว่าตัวเองไม่ดีเท่าที่ควรก็เพิ่มทรายอีกสักหน่อย แล้วตั้งใจหลอมให้ดีกว่าเก่าเถอะ เพราะว่าในที่สุดสิ่งที่เราจะทำได้ก็มีเท่านั้นเอง"
จากบล็อกรีวิวผู้เสกทรายค่ะ
คนที่ไม่สามารถยอมทนทุกข์เพื่อคนรัก ไม่มีวันที่จะได้รับรักแท้เป็นสิ่งตอบแทน
สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งนั้น การได้ถูกรักถือได้ว่าเป็นบุญคุณสูงสุดที่สวรรค์จะพึงมีให้
จากบล็อกรีวิวไป๋หลิวซู รักล้นมหาศาล
Q : พี่เต้ยมีมุมห้องสมุดส่วนตัวไหมคะ เพราะรู้สึกหนังสือพี่น่าจะเยอะนะคะ เพราะชอบอ่าน ชอบซื้อ
A : หนังสือพี่เยอะค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเอาไว้ที่บ้านที่ต่างจังหวัด สำหรับที่พักที่กรุงเทพฯ พี่จะใส่ตู้ไว้ ก็มีตู้หนังสือ 3 ตู้ แล้วก็อยู่ในลังอีก 2 ลังค่ะน้องดี. ความฝันอย่างหนึ่งของพี่คือการมีห้องสมุดที่บ้านค่ะ แต่ตอนนี้ฝันยังไม่เป็นจริงค่ะน้องดี
Q : พี่เต้ยอ่านหนังสือแนวไหนมากเป็นพิเศษคะ
A : อืมม์..ที่จริงพี่อ่านแทบทุกแนวนะคะ นิยายรัก นิยายสืบสวนสอบสวน ท่องเที่ยว สารคดี แต่ถ้าเอาแบบที่ถ้าใครถามว่าชอบอ่านแนวไหนที่สุด น่าจะเป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชนค่ะ แต่แนวที่พี่อ่านไม่ได้เลยคือ ผี และพวกฆาตกรรมสยดสยองโรคจิตมากๆ น่ะค่ะ เพราะพี่เป็นคนอ่านแล้วอิน อินแล้วจะกลัวน่ะค่ะน้องดี
Q : มาถึงกลุ่มของการรีวิวอาหารบ้างนะคะ อยากให้พี่เต้ยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
รีวิวของกินเมืองเพชรบุรี ตอนที่ 1 - เจ๊เพ็ญพริกเผ็ด หน้าวัดใหญ่ฯ
A : ที่จริงบล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่พี่คิดไว้คือ จะรีวิวร้านอาหารที่บ้านเกิด (จ.เพชรบุรี) ที่ตัวเองอยากแนะนำให้คนอื่นลองมาชิม มากินกันให้ครบๆ หรือเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการทำในแนว "สำนึกรักบ้านเกิด" น่ะค่ะ ฮา.. เพราะเคยมีคนบอกว่า เราควรทำอะไรเป็นการตอบแทนบ้านเกิดของเราบ้าง
เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ตัวพี่เองก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ก็เลยคิดว่า ในฐานะที่ตัวเองชอบกินและมีบล็อกอยู่ อย่างน้อยการรีวิวร้านอาหาร ก็น่าจะทำให้คนรู้จักจังหวัดเพชรบุรี รู้จักร้านอาหารของเพชรบุรี ซึ่งอาจจะทำให้คนสัมผัสเสน่ห์ของเพชรบุรีได้เพิ่มมากขึ้นน่ะค่ะ
ร้านนี้ที่พี่เลือกเป็นตอนแรกของการรีวิวก็เพราะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำของพี่น่ะค่ะ แต่เป็นร้านที่หลายๆ คนที่เพชรบุรีจะแอนตี้ (ถ้าลองไปอ่านในบล็อกจะเห็นว่ามีคนมาคอมเม้นท์ต่อว่าตลอดๆ) ในเรื่องของการบริการ การรอนาน แต่สำหรับพี่แล้ว พี่ติดรสมือของที่นี่
เพราะฉะนั้น...การรอของพี่จึงไม่ใช่เป็นเรื่องทุกข์ทรมานน่ะค่ะ ในเมื่อพี่รู้ว่าต้องรอนาน พี่ก็จะหาอะไรไปอ่านรอ หรือไปในเวลาที่ไม่หิวจัด มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตที่บางทีการรอคอยมันก็คุ้มค่าน่ะแหละนะคะ
สำหรับการถ่ายรูปที่ร้านเจ๊เพ็ญ ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ พี่บอกว่าพี่มีบล็อกอยู่ อยากทำรีวิวร้านอาหารในเพชรบุรี พี่เค้าก็ให้ถ่ายรูปแต่โดยดี ไม่ว่าอะไรเลยแหละค่ะ
ตามรอยตลาดสดสนามเป้า - ข้าวเหนียวเอกซ์ปอร์ต ดินแดง
A : บล็อกนี้พี่ได้แรงบันดาลใจอย่างที่เขียนไว้ในเอนทรี่นี้แหละนะคะ คือได้หนังสือมาแล้วก็เลยเกิดความคิดว่า เอาไว้เราไปตามรอยร้านต่างๆ ในหนังสือดีกว่า ก็เลยเกิดโครงการนี้ขึ้น (โครงการเยอะค่ะพี่น่ะ แต่ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แหะๆ) ซึ่งร้านแรกที่เลือกไปนี่ก็เพราะว่าไม่ไกลจากที่พักพี่น่ะค่ะ ก็เลยเลือกไปร้านนี้เป็นร้านแรก ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็จะพยายามตามรอยให้ครบๆ ทุกร้านนะคะ
รีวิวบุฟเฟต์ Cuisine Unplugged@Pullman รางน้ำ
A : สำหรับบล็อกนี้เป็นการไปกินบุฟเฟท์โดยมีเพื่อนไปอีก 3 คนค่ะ ซึ่งเป็นการไปเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยงาน แล้วก็ถ่ายรูปมาทำรีวิวได้ค่อนข้างละเอียดครบถ้วน ที่ตอนที่พี่ไปรีวิวที่อีกเว็บ ทำให้มีคนอยากไปกินและตามไปกินเยอะเชียวค่ะ ก็เลยรู้สึกว่า เออ..มันเป็นการรีวิวที่มีประโยชน์จริงๆ ก็เลยรู้สึกดีค่ะ แล้วก็ค่อนข้างบอกรายละเอียดต่างๆ ไว้ครบถ้วน (จะละเอียดไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ แหะๆ)
Q : ในการไปถ่ายรูป เช่นร้านอาหาร มีถูกถามมั้ยคะว่าถ่ายไปทำอะไร หรือมีที่ไม่อนุญาตบ้างไหมคะ
A : เรื่องการถ่ายรูปร้านอาหาร บางร้านก็ถามค่ะว่าเอาไปทำอะไร พี่ก็บอกตรงๆ เค้าก็ให้ถ่ายนะคะ แต่ก็มีบางร้านค่ะที่ห้ามถ่ายรูปเลย ซึ่งก็จะทำให้พี่ไม่ได้มาทำรีวิว หรือทำเท่าที่มีรูป (ก่อนที่เค้าจะเดินมาบอกว่าห้ามถ่าย) ซึ่งก็หงุดหงิดไปบ้างแต่ก็พยายามทำความเข้าใจแหละค่ะ เพียงแต่พี่ก็รู้สึกเสียดายว่า อืมม์..จะห้ามไปทำไมหนอ ที่จริงมันก็เหมือนกับการโฆษณาให้เขากลายๆ ด้วยซ้ำ (แต่จะเป็นการโฆษณาในเชิงดีหรือไม่ดีก็ว่ากันอีกเรื่องนะคะ ฮา) บางที่พี่ก็ขอคุย ขอถาม แต่ถ้าเค้าไม่อยากคุย ก็ทำใจอย่างเดียวค่ะ แหะๆ
Q : ในฐานะที่เป็น บล็อกเกอร์ทีี่ทำหน้าที่รีวิวด้วย พี่เต้ยมีสถานที่ที่ไปแล้วบอกกับตัวเองว่า..ชอบจังได้ทันทีบ้างไหมคะ
A : แหะๆ คือ ถ้าเอาที่ที่พี่ไปแล้วประทับใจและอยากไปอีก ถ้าเป็นต่างประเทศ คือ อิตาลีค่ะ พี่รู้สึกว่า มันเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ที่หลากหลายมากๆ แต่ละเมืองมีความสวยงามและเสน่ห์ไม่เหมือนกันเลย ขนาดพี่ไม่ได้ไปฟลอเรนซ์นะคะ แต่เมืองอื่นๆ ที่ได้ไปนี่ พี่ชอบทุกเมืองเลยค่ะ อยากกลับไปอีกครั้งมากๆ เลยค่ะ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ไปอีก
ส่วนถ้าเป็นในประเทศ พี่ชอบอาดัง ราวี หลีเป๊ะนะคะ ไปตั้งแต่ราวๆ 15 ปีที่แล้ว ได้ไปครั้งเดียวแล้วก็หลงรักเลย ยังเสียดายว่า ยังหาโอกาสไปอีกไม่ได้เลยค่ะ แต่อยากไปอีกครั้งมากๆ พี่หลงรักโลกใต้ทะเลค่ะ แม้จะเป็นโลกใต้ทะเลที่เห็นจากบนผิวน้ำ (พี่ดำน้ำแบบ snockeling ได้อย่างเดียวค่ะ แหะๆ) แต่ก็สวยงามจนพี่ชอบมากๆ ค่ะ
รีวิว อิตาลีแดนในฝัน
Q : กลับมาคุยกันเรื่องบล็อกต่ออีกสักหน่อยนะคะ .. มีหลายคนที่อยากทำบล็อก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร พี่เต้ยมีอะไรจะแนะนำบ้างคะ
A : การทำบล็อกก็เหมือนการหัดที่จะทำอะไรหลายๆ สิ่งในชีวิตแหละค่ะ ถ้าอยากทำ ทำเลย แล้วเรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละบล็อก แล้วปฏิบัติตามวัฒนธรรมนั้นๆ ค่ะ เรื่องการแต่งบล็อกสามารถอ่านได้ที่บล็อกของกูรูหลายๆ ท่าน อย่างเช่น ป้ามด (แต่ของพี่จะเป็นรุ่นคุณรำเพยค่ะ)
ส่วนเรื่องเนื้อหา ให้เขียนสิ่งที่ตัวเองอยากเขียน ลองไปอ่านบล็อกของคนอื่นๆ ก่อนก็ได้ แล้วก็ทิ้งคอมเม้นท์ที่แสดงว่าตนเองอ่านเนื้อหาของบล็อกนั้นๆ ส่วนใหญ่เพื่อนบล็อกแกงค์ก็จะกลับมาตอบนะคะ แต่ไม่ควรหว่านคอมเม้นท์ทั่วไปหมด เพราะเพื่อนบล็อกหลายๆ คนก็ไม่ชอบและจะทำให้หมางใจกันไปเปล่าๆ นะคะ แล้วก็ถ้ามีใครมาคอมเม้นท์ในบล็อกที่เราเขียน ก็ควรคลิกกลับไปคุยกับเขาบ้าง เป็นมารยาทอันควรทำค่ะ
Q : เคยเบื่อและอยากเลิกทำบล็อกบ้างไหมคะ
A : ถ้าเอาคำว่า เบื่อ นี่ ไม่เคยเลยค่ะ แต่เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไม่สามารถเขียนบล็อกได้ เพราะตอนนั้นไปได้งานที่ยุ่งมาก ยุ่งขนาดเวลานอนยังได้นอนแค่ 2 ชั่วโมงต่อวันน่ะค่ะ ก็เลยหายจากการเขียนบล็อกไปเลย เป็นอยู่ราวๆ 4 เดือน จนมาได้งานใหม่ ก็เลยมีเวลามาเขียนบล็อกอีกค่ะ สำหรับสาเหตุที่ไม่เบื่อ เพราะคิดว่า ตัวเองชอบเขียน ชอบเล่า ชอบแบ่งปันข้อมูลอยู่แล้ว ก็คิดว่าที่บล็อกแกงค์ตอบโจทย์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้น่ะค่ะ ก็เลยไม่เบื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
รีวิวโรงแรม Heritage อ่าวฮาลอง เวียดนาม
Q : ในหนึ่งเดือนอัพประมาณกี่บล็อก ..เหนื่อยกับการหาข้อมูลมาทำบล็อกไหมคะ
A : ถ้าเอาช่วงหลังๆ นี้ จะอัพประมาณสัปดาห์ละ 2-3 บล็อกค่ะ ตกเดือนหนึ่งประมาณ 8-12 บล็อก ก็ไม่เชิงว่าเหนื่อยนะคะ เพราะจะเขียนก็ต่อเมื่อตัวเองมีเรื่องจะเขียนจะเล่าอยู่แล้ว แล้วก็จะใช้วิธีเขียนเก็บไว้ในกลุ่มบล็อกส่วนตัวแล้ว save draft ไว้ก่อน แล้วพอถึงเวลาจะอัพ ก็ค่อยก็อปมา publish น่ะค่ะ ที่ทำอย่างนี้เพราะบางช่วงที่ตัวเองยุ่งจริงๆ จะไม่มีเวลามานั่งเขียนบล็อก เพราะฉะนั้นจะทำเป็นสต็อกเก็บไว้เลยน่ะค่ะ
ส่วนเรื่องเหนื่อย ถ้าเอาจริงๆ คงเป็นเรื่องถ่ายรูปมากกว่าค่ะ คือบางทีถ่ายมาซะเยอะเลย แล้วกลายเป็นว่าบางทีตัวเองก็ลืมตัว ถ่ายรูปแต่สำหรับมารีวิว จนลืมที่จะมีรูปตัวเองและคนร่วมเดินทางซะอย่างนั้น ซึ่งก็พยายามปรับตัวอยู่ค่ะ เพราะมันจะทำให้เพื่อนที่ร่วมเดินทางอาจจะนอยด์ได้ แหะๆ แล้วบางทีมันก็ทำให้การเดินทางมันสนุกน้อยลงได้น่ะนะคะ
รีวิวโรงแรมทอแสง โขงเจียม
Q : นอกจากบล็อกแก๊งค์แล้ว สนใจเว็บใดเป็นพิเศษอีกบ้างไหม เช่น facebook หรือ บล็อกอื่นๆ
A : ตอนนี้ก็มี facebook หละค่ะที่เล่นเป็นหลัก (ไปหนักที่เล่นเกมด้วย แหะๆ) เพราะเพื่อนส่วนใหญ่ที่คุยๆ กันอยู่ ก็ย้ายไปเล่นเฟซบุ๊คเยอะมาก แล้วก็มีเว็บท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยได้มีเวลาไปเขียนรีวิวแล้ว ส่วนใหญ่ก็ไปอ่านอย่างเดียวค่ะ ส่วนถ้าเอาเป็นบล็อกเลยนี่ ตอนนี้ยังไม่สนใจจะทำเพิ่มที่อื่นค่ะ เพราะแค่นี้ก็ไม่มีเวลาแล้วค่ะ
Q : พี่เต้ยอยากให้คนจดจำ ในฐานะบล็อกเกอร์ที่มีความโดดเด่นด้านไหนคะ
A : อืมม์..ตอบยากแฮะ ก็น่าจะเป็นอยากให้จดจำอย่างที่เราเป็นจริงๆ น่ะค่ะ ถ้าเอาโดดเด่น ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะโดดเด่นด้านใดเป็นพิเศษนะคะ แต่ถ้าให้เลือกว่าอยากให้จำประมาณไหน ก็คงเป็นบล็อกเกอร์ที่ช่างเที่ยว ช่างกิน และช่างอ่าน น่าจะประมาณนั้นนะคะ
Q : ถ้าต้องเปลี่ยนชื่อบล็อกใหม่ คิดว่าจะใช้ล็อกอินว่าอะไรคะ
A : คำถามนี้ยากกว่าอีก (เหงื่อตก) แต่คิดว่าอยากเปลี่ยนชื่อล็อกอินเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เพราะเคยพยายามจะล็อกอินจากต่างประเทศด้วยคอมฯ ของโรงแรม แล้วไม่มีภาษาไทย ซึ่งลำบากมาก เลยคิดว่าอาจจะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ (ทั้งที่ตัวเองรักภาษาไทยมากๆ) แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออกค่ะ มีใครช่วยคิดไหมคะ? แฮ่...
รีวิว กว่าจะเป็นแผนที่โลก (The Road to There)
Q : ขอถาม 2 คำถามสุดท้ายนะคะ ..ถ้าให้นิยามคำจำกัดความสั้นๆ สำหรับ "บล็อกแก็งค์" จะให้คำนิยามว่ายังไงคะ
A : พื้นที่ที่คุณสามารถจะแบ่งปันอะไรๆ กับเพื่อนๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน โลกที่มีความหลากหลายที่คุณเลือกได้ว่าจะไปอยู่ ณ พื้นที่ไหนค่ะ
Q : สุดท้ายพี่เต้ย อยากฝากอะไรถึงเพื่อนๆบล็อกแกงค์บ้างคะ
A : สำหรับพื้นที่นี้ที่จริงก็ค่อนข้างเป็นที่ที่มีอิสระและมีสิ่งต่างๆ สนับสนุนให้กับบล็อกเกอร์เยอะพอสมควรนะคะ ก็อยากให้ลองเข้ามาเขียน มาอ่าน มาแลกเปลี่ยนกัน ช่วยกันสร้างสรรค์บล็อกและเอนทรี่ดีๆ ให้เยอะๆ แล้วก็อยากให้เคารพในกฎ กติกาน่ะค่ะ เพราะสมาชิกทุกคนก็ใช้ฟรี ก็อยากให้ช่วยเหลือเจ้าของบ้านด้วยการไม่ทำให้เขาเดือดร้อนด้วยนะคะ มาร่วมกันสร้างบ้าน "บล็อกแกงค์" ให้เป็นที่ที่น่าอยู่ น่าพัก น่าเข้ามาหามิตรภาพอีกที่กันนะคะ (จบแบบนางงามมากๆ เลยพี่ 555)
บ้าน "บล็อกแกงค์" จะเป็นที่น่าอยู่ น่าพัก น่าเข้ามาหามิตรหรือไม่ .. อยู่ที่พวกเราทุกคนเป็นคนเลือก .. ดี.เชื่ออย่างนั้นนะคะ .. ดี.ขอจบแบบนางงามด้วยคนค่ะ แบบว่า จบแบบนี้แล้วรู้สึกสวยยังไงไม่รู้ แหะ แหะ
เนื้อที่ของการ ..
:: Interview .. the blogger :: >> สาวไกด์ใจซื่อ .. จบลงตรงนี้
แต่การรีวิวเรื่องราวต่างๆ ยังคงมีต่อไป .. ไปอ่านกันที่บล็อกพี่เต้ยเลยนะคะ
ดี.ขอบคุณพี่เต้ยมากๆค่ะ ที่ให้เวลา ให้รู้จัก และคุ้นเคยมากขึ้นกว่าที่เคย ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ ..
กระซิบ 1 : บทสัมภาษณ์จาก พี่เบิร์ด :ถปรร พี่ก๋า : กะว่าก๋า นานาห์ : มัยดีนาห์ เปิ้นเหวิ่น : fonrin ดีดี : สัมภาษณ์ และ เรียบเรียง ค่ะ
กระซิบ 2 : อย่างที่บอกไว้แล้วนะคะว่า... ดี.จะสัมภาษณ์พี่ๆ เพื่อนๆ เดือนละ 1-2 ท่าน เท่าที่เวลาจะสะดวกกับทุกฝ่ายค่ะ
การสัมภาษณ์ จะดำเนินไปตามทางที่พี่ก๋าบอกไว้ค่ะว่า ..
"พี่ก๋าอยากให้น้องดีทำสัมภาษณ์บล็อกเกอร์ โดยไม่จำเป็นว่าบล็อกเกอร์ท่านนั้นจะได้รางวัลหรือไม่ แต่ดูว่าบล็อกนั้นมีความโดดเด่นในด้านไหนบ้าง แล้วเขาใช้แรงบันดาลใจอย่างไรในการทำบล็อก
คิดว่าคงจะมีประโยชน์กับคนอ่านมากๆเลย
คนอ่านนอกจากจะรู้จักบล็อกเกอร์ท่านนั้นมากขึ้น ยังอาจได้ประโยชน์จากแนวทางในการเขียน และ .. อ่านบล็อกด้วยเช่นกัน"
ด้วยแนวทางเช่นนี้ .. ดี.ก็หวังว่า .. จะได้รับความสนใจ ได้รับคำแนะนำ คำติชม เพื่อให้ทุกบล็อกเกิดประโยชน์มากที่สุด
มีข้อแนะนำใดใดที่เป็นประโยชน์ หน้าไมค์ - หลังไมค์ ตามสะดวกนะคะ ยินดีต้อนรับทุกความคิดเห็นค่ะ
กระซิบ 3 : ดีขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆทุกท่านค่ะ ที่อยู่ด้วยกันมาถึงตรงนี้
ขอบคุณค่ะ
Create Date : 01 มิถุนายน 2554 |
Last Update : 1 มิถุนายน 2554 0:00:09 น. |
|
155 comments
|
Counter : 3805 Pageviews. |
|
|
ขอเกรียนหนึ่งวัน
แฮ่ๆ