Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

พฤติกรรมการขับรถกับสุขภาพจิต



ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า
เป็นสาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่ง ของความเครียดของชาวไทย ที่ต้องสัญจรในเมืองหลวงแห่งนี้

อุบัติเหตุการจราจร เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของคนไทยวัย หนุ่มสาว และวัยทำงาน
นับเป็นการสูญเสียทรัพยากรที่น่าเสียดายยิ่ง และจำเป็นต้องมีมาตรการ ป้องกันแก้ไขโดยด่วน

การเกิดอุบัติเหตุ และการจราจรติดขัด ส่วนใหญ่แล้ว เป็นปัญหาที่ป้องกันได้
เพราะสาเหตุทั้งหลาย ก็เกิดจากคนเป็นผู้ก่อขึ้น
โดยพฤติกรรมการขับขี่ยวดยานในลักษณะที่ไม่ถูกต้อง และขาดจิตสำนึกแห่งความปลอดภัย

พฤติกรรมการขับรถของคนไทย เป็นเรื่องที่น่าวิเคราะห์และศึกษา เพราะพฤติกรรมหลายอย่าง
สามารถสะท้อนความคิด ค่านิยม และอุปนิสัยของคนไทย ได้เป็นอย่างดี
หากเรามีความเข้าใจ ในเรื่องสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมแต่ละอย่างแล้ว
ก็ย่อมนำไปสู่การแก้ไข หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนได้

ค่านิยมในการมีรถยนต์ของคนไทยจำนวนมาก รู้สึกว่ารถยนต์เป็นเครื่องประดับ หรือสมบัติอย่างหนึ่ง
คล้ายกับเพชรนิลจินดา มากกว่าจะมองว่า เป็นพาหนะเพื่อใช้ ในการเดินทาง
จึงมักมีการประกวดประขันกัน ในการครอบครองรถยนต์ยี่ห้อดังราคาแพง
บ่อยครั้งก็เป็นการไม่เหมาะสมกับรายได้ของตนเอง จนเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจฟองสบู่


การขับรถของคนไทยบางส่วนมีลักษณะที่แปลกกว่าใคร และไม่มีใครเหมือน ตัวอย่างที่พบได้บ่อย มีดังนี้

★ 1. ก่อนออกรถต้องเหยียบเบรคก่อน
คนที่ขับรถแบบนี้คล้ายกับคนที่ไปไหนต้องไปตั้งต้นที่สนามหลวงก่อน
ข้อเสียก็คือ เสีย เวลา และเปลืองไฟเบรคโดยใช้เหตุ
แต่ก็มีข้อดี คือทำให้รถยนต์คันหลังรู้ว่า รถคันหน้า ที่จอดอยู่ กำลังจะออกรถ จึงมีเวลาเตรียมตัว
เพื่อให้ออกรถตาม ไปได้เร็วขึ้น แต่อย่าเผลอไปเลียนแบบ เหยียบเบรคตามอย่างรถคันหน้าก็แล้วกัน


★ 2. ไม่ค่อยให้สัญญาณ เวลาจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องการจราจร
พฤติกรรม นี้สะท้อนถึงอุปนิสัยของคนขับ ซึ่งไม่ค่อยบอกคนอื่นให้รู้ล่วงหน้า ว่าตนกำลังจะทำอะไร
เช่น นึกจะมาหาที่บ้านก็มา โดยไม่บอกกล่าว ทำให้เจ้าของบ้านเตรียมตัวไม่ทัน
การขับรถแบบนี้ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า กำลังจะเลี้ยว จึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
รถที่ตามหลัง และรถที่แล่นสวนมา ต้องเสียจังหวะไปโดยไม่จำเป็น

คนบางคนก็มีนิสัยตรงกันข้าม คือ ให้สัญญาณว่าจะเลี้ยวก่อนเวลาอันควร เช่น
เปิดไฟเลี้ยว ก่อนจะถึงแยกที่ต้องการเลี้ยว 2-3 แยก ทำให้รถที่ตามหลังเข้าใจผิด
การที่เกิดพฤติกรรมนี้ขึ้น อาจเป็นเพราะขาดทักษะในการขับรถ หรือมีความวิตกกังวลสูงเกินไป


★ 3. ความรู้สึกช้า
บางคนได้รับสัญญาณไฟเขียวแล้ว แทนที่จะรีบออกรถ กลับทำชักช้าอืดอาด
จนทำให้รถที่ตามหลัง ออกไปได้เพียงไม่กี่คัน ก็ติดไฟแดงอีก นับเป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้การจราจรติดขัด
คนที่เป็นแบบนี้ อาจเป็นเพราะมีนิสัยเฉื่อยแฉะ ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน
หรืออาจมีปัญหา ด้านการตอบสนองของระบบประสาท หรือความบกพร่องของเชาว์ปัญญา

ในทางตรงกันข้าม บางคนก็ใจร้อนเกินไป บางทีออกรถไปก่อนได้รับสัญญาณไฟเขียว
และอาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย


★ 4. ขับรถไม่อยู่ในช่องการจราจร
บางคนชอบขับรถคร่อมช่องทางการจราจรหรือกินทางรถที่แล่นสวนมา
พฤติกรรมนี้ แสดงถึงการไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น หรือไม่รู้บทบาทหน้าที่ของตัวเอง จึงชอบทำอะไรล้ำเส้น
บางทีขับรถคร่อมเส้นแบ่งช่องทางไปตลอด เพื่อให้มีทางเลือกไปได้ทั้ง 2 ช่อง
เหมือนคนที่ชอบแทงกั๊ก พร้อมจะร่วมเป็นรัฐบาลกับใครก็ได้


★ 5. เจตนาเข้าช่องทางผิด
บางคนต้องการไปตรง แต่จงใจเข้าไปในช่องทางเลี้ยวซ้าย ซึ่งสามารถผ่านตลอดได้
ทำให้กีดขวางทางคนอื่นที่มีสิทธิจะเลี้ยว หรือบางทีจะเลี้ยวขวา แต่ไปในช่องทางของรถตรงไป
ซึ่งได้รับสัญญาณไฟเขียว เป็นเหตุให้เขาไม่สามารถไปได้
พฤติกรรมเช่นนี้ แสดงถึงความเห็นแก่ตัว และไม่เคารพกฏเกณฑ์ของสังคม


★ 6. หยุดรถในที่ห้ามหยุด
บางคนเวลารถติด อาจหยุดรถในที่ไม่สมควรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และการกีดขวางทางการจราจร
เช่น หยุดรถคร่อมทางรถไฟ ทางแยก และทางม้าลาย
การกระทำเช่นนี้ เป็นเพราะขาดจิตสำนึก แห่งความปลอดภัย
หรืออาจแสดงถึงความเห็นแก่ตัว นั่นคือ ตัวเองไม่ได้ไป คนอื่นก็ไม่ได้ไปด้วย
การมีคนแบบนี้ยิ่งมาก ก็ยิ่งแสดงถึงความเสื่อมทรามของสังคม และการขาดระเบียบวินัย


★ 7. ใช้ความเร็วไม่เหมาะสม
ปัญหาของผู้ขับรถบางคน คือการขับรถเร็วในที่ไม่ควรเร็ว และขับรถช้า ในที่ไม่ควรช้า
บางคนขับรถช้ากว่าจักรยานแม้บนทางด่วน และยังชอบขับชิดขวา จนทำให้รถอื่นต้องแซงซ้ายป่ายขวา
พาให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย บางคนขับรถเร็วมาก และปาดหน้ารถคันอื่นในที่คับขัน
บางทีก็ห้อเต็มที่ เพื่อไปเบรคสุดแรงตรงไฟแดง ทั้งที่เห็นอยู่ก่อนแล้ว
การขับแบบนี้ นอกจากจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุแล้ว ยังทำให้ สิ้นเปลืองทั้งน้ำมันและเบรคโดยไม่สมควร
พฤติกรรมนี้ สะท้อนถึง ความก้าวร้าว ที่เก็บกดไว้ในจิตใจ


★ 8. ไม่ยอมหยุดให้คนข้ามถนนบนทางม้าลาย
คนขับรถส่วน ใหญ่ในบ้านเรา ยังไม่ค่อยยอมหยุดให้คนขัามถนนบนทางม้าลาย
บางรายยังหยาบคาย บีบแตรหรือส่องไฟสูงไล่คนอีกด้วย ทำให้คนเดินต้องกลายเป็นพลเมืองที่ด้อยสิทธิ์บนถนน
เพราะได้แต่ยืนคอยให้รถไปหมดเสียก่อน จึงเดินข้ามถนนบนทางม้าลายได้
บางทีพอรถจอดให้ข้าม เลยตกใจไม่กล้าข้าม ต้องโบกมือให้รถยนต์ไปก่อนก็ยังมี
พฤติกรรมการขับรถแบบนี้ แสดงถึงการขาดน้ำใจ และไม่เห็นใจคนที่ลำบากกว่าตน

ในทางตรงข้าม บางคนก็มักไปหยุดรถในสถานการณ์ที่ไม่สมควร เช่น
ในจังหวะที่ได้รับสัญญาณไฟเขียว หรือใต้สะพานลอยคนข้ามทาง
การเอื้อเฟื้อคนในโอกาสที่ไม่เหมาะสม ก็คล้ายกับการเลี้ยงดูเด็ก
โดยปล่อยปละละเลย ไม่ห้ามในสิ่งที่ควรห้าม และสนับสนุนในสิ่งที่ควรสนับสนุน


★ 9. ทิ้งสิ่งของออกนอกรถ
พฤติกรรมแบบนี้บ่งบอกถึงความมักง่าย ชอบปัดสวะให้พ้นตัว
คล้ายกับคนที่กวาดขยะให้พ้นหน้าบ้านตนแล้วไปกองไว้หน้าบ้านคนอื่น หรือกวาดลงท่อระบายน้ำ
กลุ่มคนที่ทิ้งสิ่งของลงบนถนน บ่อยที่สุด คือพวกนักสูบบุหรี่ ซึ่งชอบเขี่ยขี้บุหรี่ และทิ้งก้นบุหรี่บนท้องถนน
บางคนทิ้งขวดยาชูกำลังอีกด้วย พฤติกรรมแบบนี้ เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ และควรขจัดให้หมดไปจากสังคม
เจ้าหน้าที่บ้านเมือง น่าจะกวดขันให้มากขึ้น แล้วจับตัวมารับการอบรมคนละ 1-2 วัน
ว่าในรถทุกคันมีที่เขี่ยบุหรี่อยู่แล้ว และการทิ้งขยะลงบนถนน ก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงได้อย่างไรบ้าง


★ 10. ไม่รู้บทบาทหน้าที่ของตน
ผู้ขับรถจำนวนมากไม่รับรู้ว่า ตนมีบทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎจราจร
โดยต้องพยายามทำหน้าที่ขับรถให้ดีที่สุด และไม่กีดขวางการจราจร ตลอดจนไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ

บางคนขับรถเมล์ก็นึกว่ากำลังขับรถแข่ง จึงไม่ยอมจอดรับหรือส่งผู้โดยสาร
บางคนเห็นเขาเกิดอุบัติเหตุ ต้องหยุดรถไปดูเขา เป็นเหตุให้รถติด
และยังละเลยหน้าที่ในการช่วยเหลือเขา ตามความจำเป็นด้วย

บางคนพอเริ่มขับรถ ก็ต้องเริ่มโทรศัพท์ราวกับว่า ทั้งสองสิ่งเป็นของคู่กัน
ความจริงการโทรศัพท์ เป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถ และหลายประเทศก็มีกฏหมายห้ามไปแล้ว


พฤติกรรมในการขับรถเหล่านี้เป็นเรื่องที่ควรได้รับการแก้ไข
เพื่อให้การใช้รถใช้ถนน มีความปลอดภัย และเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น
การใช้รถใช้ถนนก็จะเป็นไปโดยราบรื่น ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ


โดยนพ.เกษม ตันติผลาชีวะ
ที่มา : //www.elib-online.com
ภาพจาก : //tti.tamu.edu


สารบัญ ความรู้เรื่องรถ
คลิกดู ที่นี่ค่ะ




 

Create Date : 22 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 22 มกราคม 2553 16:21:07 น.
Counter : 1203 Pageviews.

 

เพิ่มอีกข้อได้ไหม "เปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ"
โดยเฉพาะพวกที่อยู่ตามแยกแล้วจะตรงไปทำไมต้องเปิดไฟฉุกเฉิน
ไม่รู้เลยหรอว่ามันอันตรายเพราะหากไฟโดนบังเสียข้างนึง
คันหลังอาจเข้าใจได้ว่าคุณเลี้ยวซ้า่ยหรือเลี้ยวขวา

 

โดย: เข้ามาดู IP: 58.64.86.2 22 มกราคม 2553 19:10:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.