Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
14 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
เครื่องสตาร์ตไม่ติด - ต้องบอกช่างละเอียดกว่านี้



เมื่อเครื่องของรถมีปัญหา เครื่องสตาร์ตไม่ติด หลายคนนึกว่าบอกแค่นี้พอ
ทั้งที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารเพื่อบอกช่างหรือขอความช่วยเหลือที่ละเอียดกว่านี้
เพราะแค่บอกว่าเครื่องสตาร์ตไม่ติด จะไม่สามารถสื่อถึงอาการของปัญหาที่แท้จริงได้

ไม่ใช่ช่าง จึงไม่รู้เรื่องกลไก
เจ้าของรถหรือผู้ขับส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้เรื่องกลไกในรถหรือรู้ก็แค่งูๆปลาๆ รู้ตัวดีว่าไม่ใช่ช่าง
เมื่อรถเกิดปัญหาหรือเสียก็หัวเสียพออยู่แล้ว คิดแต่เพียงว่าจะขอความช่วยเหลือจากใคร
และเมื่อเจอใครที่พอลุ้นว่าจะช่วยได้ ก็จะรีบบอกอาการของปัญหาสั้นๆว่า เครื่องสตาร์ตไม่ติด
โดยไม่บอกถึงรายละเอียดว่าเครื่องไม่ติดแบบไหน
เพราะรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ช่าง จะไปรู้อะไรละเอียดได้อย่างไร ถ้ารู้มากก็คงซ่อมเองไปแล้ว

ในความเป็นจริงเมื่อรถเสีย ควรพยายามดูและบอกถึงอาการของปัญหาที่เกิดขึ้นให้ละเอียดที่สุด
เพื่อให้ช่างหรือใครที่จะช่วย สามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาตีวงแคบเข้ามาได้ การบอกถึงอาการเสีย
อย่างละเอียด เป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำได้ เพราะไม่ใช่เป็นการพยายามแก้ไขปัญหาที่ตนเองไม่ถนัด


เครื่องสตาร์ตไม่ติด มีหลายอาการแตกต่างกัน
แม้คำว่าเครื่องสตาร์ตไม่ติด ดูเหมือนจะมีอาการเดียว คือ เมื่อบิดกุญแจแล้ว เครื่องไม่ทำงาน
ตามปกติ ไม่สามารถขับรถออกไปได้ในความเป็นจริง เครื่องสตาร์ตไม่ติด
มีหลายอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ
1. บิดกุญแจแล้วเครื่องไม่หมุน มีเสียงดังแชะๆ หรือไม่ดังเลย
2. บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ช้ากว่าปกติ แล้วก็ไม่ยอมทำงานเอง
หมุนได้อืดๆ จากแรงของไดสตาร์ตเมื่อบิดกุญแจค้างอยู่เท่านั้น
3. บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็วตามปกติด้วยแรงของไดสตาร์ต แต่ไม่หมุนเอง ปล่อยกุญแจแล้วก็หยุดหมุน

แต่ละอาการของปัญหา มีต้นเหตุและวิธีแก้ไข รวมถึงความยากง่ายในการแก้ไขแตกต่างกัน


บิดกุญแจแล้วเครื่องไม่หมุนเลย หรือแค่ดังแชะๆ
มีโอกาสเป็นปัญหาที่แบตเตอรีหรือไดสตาร์ต ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเครื่องตรวจสอบไฟในแบตฯได้
คร่าวๆ โดยเปิดไฟหน้าหรือบีบแตรดูอาการว่าปกติหรือไม่ แบตฯ อาจอ่อนจนเกือบหมด
ทำให้หมุนไดตาร์ตไม่ไหว ได้แค่กระตุ้นตัวโซลินอยด์เบาๆ แต่หมุนไม่ไหว จึงมีแค่เสียงแชะๆ
หากแบตเตอรีมีไฟ ไดสตาร์ตอาจเสีย มีทั้งแบบเสียเลย ต้องถอดไดสตาร์ตออกซ่อม
หรือแค่สกปรกภายใน ลองหาอะไรเคาะที่ตัวไดสตาร์ตก่อน ถ้าแค่สกปรกก็อาจทำงานได้
แต่ต้องถอดเพื่อตรวจสอบในภายหลัง แต่ถ้าเคาะและยังไม่ทำงาน ก็ต้องถอดซ่อม
อาการเสียแบบนี้ ถ้าเป็นระบบเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นและเข้าเกียร์ 2 ถอนคลัตช์
กระตุกติดเครื่องได้

ถ้าแบตเตอรีไฟอ่อนหรือหมด ปัญหาอยู่ที่แบตเตอรีเสื่อมเก็บไฟไม่อยู่ หรือไดชาร์จไม่ปกติ
สามารถพ่วงแบตฯ จากภายนอก เพื่อสตาร์ตเครื่องให้ติดได้ เมื่อเครื่องทำงานแล้ว
ให้ดูไฟรูปแบตเตอรีที่หน้าปัดว่าสว่างหรือเรื่อๆ หรือไม่ ถ้ามี แสดงว่าระบบไดชาร์จไม่ปกติ
ใช้แต่ไฟจากแบตฯ จนอ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อไรที่ไฟไม่พอสำหรับอุปกรณ์สำคัญ เครื่องก็จะดับ
แต่ถ้าไฟรูปแบตเตอรีมืด แสดงว่าการชาร์จไฟปกติ ถึงแบตฯ จะเสื่อม แต่ถ้าไม่ทำให้เครื่องดับ
ก็สามารถขับไปได้เรื่อยๆ


บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนอืดๆ ไม่ยอมทำงานเอง
พอจะได้ยินเสียงไดสตาร์ตและการหมุนของเครื่อง แต่เป็นการหมุนช้าๆ อืดๆอาการนี้มักจะมี
ปัญหามาจากแบตเตอรีไฟอ่อน ทั้งแบตฯเสื่อม หรือไดชาร์จไม่ปกติ ไม่ใช่ปัญหาหาที่ตัวเครื่อง
อาการเสียแบบนี้ ถ้าเป็นระบบเกียร์ธรรมดา สามารถเข็นและเข้าเกียร์ 2 ถอนคลัตช์
กระตุกติดเครื่องได้ หรือถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติก็สามารถพ่วงแบตเตอรีจากภายนอก
เพื่อสตาร์ตเครื่องให้ติดได้

เมื่อเครื่องทำงานแล้ว ให้ดูไฟรูปแบตเตอรีที่หน้าปัด ว่าสว่างหรือเรื่อๆหรือไม่ ถ้ามี แสดงว่า
ระบบไดชาร์จไม่ปกติ ใช้แต่ไฟจากแบตเตอรีจนอ่อนลงเรื่อยๆ ไม่นานเครื่องก็๋จะดับ
ถ้าจะขับให้ได้ไกลหน่อย ก็ต้องหาแบตที่มีไฟมากๆมาใส่หรือพ่วงไว้
แต่ถ้าไฟรูปแบตเตอรีไม่สว่าง แสดงว่าการชาร์จไฟปกติ ถึงแบตฯจะเสื่อม แต่ถ้าไม่ทำให้
เครื่องดับ ก็สามารถขับไปได้เรื่อยๆ


บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเร็วด้วยไดสตาร์ต แต่เครื่องไม่ทำงานเอง
อาการนี้หลายคนเข้าใจผิดว่า แบตเตอรีเสียหรือไดสตาร์ตเสีย เตรียมหาแบตฯ มาพ่วง
ทั้งที่ความจริง แบตฯและไดสตาร์ตเป็นปกติ เพราะเมื่อบิดกุญแจแล้ว เครื่องหมุนได้เร็วด้วย
ไดสตาร์ต แต่เครื่องไม่สามารถทำงานได้เอง เมื่อปล่อยการบิดกุญแจเครื่องก็หยุดหมุนปัญหา
อยู่ที่ตัวเครื่อง เพราะแบตฯและไดสตาร์ตปกติดี ไม่ต้องเข็นกระตุกหรือหาแบตฯมาพ่วง
ให้ตรวจสอบที่ตัวเครื่องยนต์เช่น มีไฟมีเลี้ยงระบบหรือไม่ ปั๊มส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานดีหรือ
เปล่าฯลฯ โดยต้องตรวจสอบระบบต่างๆ ของเครื่องเพื่อหาปัญหาที่แท้จริงอาการนี้
มีแนวโน้มจะซ่อมในพื้นที่ซึ่งรถจอดเสียได้ยากกว่า 2 อาการแรก ที่ถ้าทำให้เครื่องหมุนได้
เครื่องก็ทำงานเองได้ และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบชั่วคราวได้ง่าย

แค่กระตุกรถหรือพ่วงแบตเตอรีก็น่าจะไปได้เครื่องหมุนจี๋ด้วยไดสตาร์ต แต่เครื่องไม่ทำงานเอง
เป็นปัญหาที่เครื่อง ไม่เกี่ยวกับไดสตาร์ตและแบตฯ หลายกรณีที่พบ อาจไม่สามารถซ่อม
บริเวณที่รถจอดอยู่ได้อย่างสะดวก ต้องยกหรือลากรถไปซ่อมต่อไป


อาการเครื่องไม่ติด
ตั้งสติค่อยๆ ดูว่าอาการจริงเป็นเช่นไร เพื่อบอกช่างหรือคนที่มาช่วยได้ละเอียด
เพราะอาจไม่ใช่ปัญหาจากแบตหรือไดสตาร์ตผิดปกติเสมอไป

โดย วรพล สิงห์เขียวพงษ์ GM online


Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2552 20:38:29 น. 4 comments
Counter : 1406 Pageviews.

 
$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$$



...............test......................



WWWWWWWWWWWWWWWWW


โดย: light W140 M104 IP: 222.123.77.184 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:21:22 น.  

 
ของผม Civic 1.7 VTEC S-MT ปี 2005 ครับ
ออกมาได้สามเดือน..จอดทิ้งไว้สามวันสตาร์ทไม่ติด
เอาแบตไปชาร์ตติดตั้งใหม่แล้วใช้มาได้เรื่อยๆ ครับ

ตอนนี้เจอปัญหานี้ครับ
ดับเครื่องจอดเติมน้ำมัน พอจะสตาร์ทก็สตาร์ทไม่ติดครับ
ลองใหม่ 2-3 ครั้งก็ยังไม่ได้ เลยวานเด็กปั้มเข็นรถออกจาช่องเติมน้ำมัน
พอพ้นช่องเติม ทดลองสตาร์ทอีกที...ครั้งเดียวติดครับ..

บางทีจอดแป๊บเดียว..พอจะสตาร์ทก็ไม่ติด...
ต้องถอดกุญแจออก แล้วรอสักพัก..สตาร์ทอีกที..ฉลุย..งงเลยครับ

อาการนี้เป็นหลายครั้งแล้วครับ รถผมเข้าศูนย์ตามกำหนด
แจ้งช่างว่าเกิดปัญหาสตาร์ทไม่ติดแบบนี้ทุกครั้ง
แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้เรื่อยๆ ... ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนกันแน่ ดีที่ยังไม่เคยได้เข็นเข้าอู่..

อาการแบบรถผม..มันเป็นเพราะอะไรเหรอครับ..


โดย: ต้น IP: 125.26.65.5 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:13:32 น.  

 
ไปซื้อใหม่ครับ


โดย: ระนง IP: 112.143.43.3 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:23:19:38 น.  

 
น่าจะเป็นที่.. ท่อเชื้อเพลิงหลวมนะครับ ทำให้มีอากาศเข้าเหมือนหลอดกาแฟที่ฉีกขาดหรือ อาจจะเป็นที่ปั้มติ๊กไม่ดีครับ (มั้ง)

555


โดย: กอล์ฟ IP: 58.8.79.72 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:9:22:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.