Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

เช็กสภาพรถหลังพักร้อน



หลังจากพารถยนต์คันโปรดไปพักผ่อนจน จุใจ ก็ได้เวลาเยียวยาแผลรอบกาย (รถ) ที่ไปเฉี่ยวชนมา
หรือตรวจสอบสภาพภายในว่า มีจุดใดบกพร่องต้องแก้ไขหรือไม่
วันนี้ Lisa มีวิธีตรวจเช็กที่คุณสามารถทำได้เองมาฝากกันค่ะ

★ 1. ตรวจเช็ก "น้ำหล่อเย็น" ให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ
โดยต้องเช็กในขณะที่ดับเครื่อง และเครื่องเย็นแล้ว หากพบว่าระดับน้ำลดลงในปริมาณมาก
อาจเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นได้ จึงควรพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์เพื่อหาทางแก้ไข

★ 2. การตรวจระดับน้ำมันเครื่อง
ให้ทำหลังดับเครื่องแล้ว 2-3 นาที โดย ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้าแห้ง
แล้วเสียบกลับคืนจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง เช็กระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด
ถ้าอยู่ระหว่าง "F" กับ "L" แสดงว่าปกติดี

★ 3. ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่
ควรตรวจเช็กให้อยู่ในตำแหน่ง Upper/Level (ไม่ควรเติมเกิน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง)
เมื่อเติมเสร็จแล้วให้ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น พร้อมเช็กแบตเตอรี่ว่ายึดอยู่กับฐานที่ตั้งแน่นดีหรือไม่

★ 4. ระดับน้ำมันเบรก
ดูด้วยสายตาที่กระปุกน้ำมันเบรกมีคำว่า Max และ Min ซึ่งควรอยู่ที่ระดับ Max อยู่เสมอ
หากน้ำมันเบรกลดต่ำลง อาจเกิดจากการสึกหรอของผ้าเบรก หรือเกิดการรั่วของน้ำมันเบรก
จึงควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็กหาสาเหตุต่อไป

★ 5. ระดับน้ำมันคลัช
ควรตรวจเช็กด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัชจะมีคำว่า Max กับ Min
ระดับน้ำมันคลัชควรอยู่ที่ระดับ Max เสมอ
ถ้าพบว่าระดับน้ำมันคลัชในกระปุกลดต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กหาสาเหตุ

★ 6. ระดับน้ำมันเกียร์ Auto
ให้เช็กขณะที่เครื่องติดอยู่ โดยดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ Auto ออก เช็ดน้ำมันที่ติดก้านวัดด้วยผ้า
แล้วเสียบคืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง
ตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าอยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าปกติดี

★ 7. ตรวจเช็กระดับน้ำมัน Power
ควร ตรวจเช็กขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยหมุนฝาปิดกระปุกน้ำมัน Power ที่ก้านวัด
จะมีคำว่า Hot และ Cold อยู่คนละด้าน
ถ้าวัดตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน Cold ถ้าวัดตอนเครื่องร้อนให้ดูด้าน Hot

★ 8. ตรวจเช็กสภาพภายในห้องเครื่อง
ให้ สังเกตดูรอบๆ ภายในห้องเครื่องว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ มีคราบน้ำซึมมั้ย
สายไฟภายในห้องเครื่องเรียบร้อยดีหรือเปล่า มีคราบน้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่ เป็นต้น

★ 9. ตรวจเช็กยาง
ควรเช็กแรงดันลมยางให้อยู่ค่ามาตรฐานเสมอ ให้เช็กขณะที่ยางยังไม่ร้อน
ตรวจสภาพยางด้วยตาว่าที่ผิวยางมีรอยแตกเล็กๆ หรือไม่
เช็กการสึกหรอของดอกยางว่าสึกหรือผิดปกติหรือเปล่า หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาช่างทันที


ข้อมูลจาก //www.lisathailand.com
ที่มา : //hilight.kapook.com/view/37359
ภาพจาก : //autos.savvy-cafe.com


สารบัญ ความรู้เรื่องรถ
คลิกดู ที่นี่ค่ะ





 

Create Date : 17 มกราคม 2553
0 comments
Last Update : 17 มกราคม 2553 10:31:13 น.
Counter : 855 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.