เช็กสภาพรถหลังพักร้อน
หลังจากพารถยนต์คันโปรดไปพักผ่อนจน จุใจ ก็ได้เวลาเยียวยาแผลรอบกาย (รถ) ที่ไปเฉี่ยวชนมา หรือตรวจสอบสภาพภายในว่า มีจุดใดบกพร่องต้องแก้ไขหรือไม่ วันนี้ Lisa มีวิธีตรวจเช็กที่คุณสามารถทำได้เองมาฝากกันค่ะ
★ 1. ตรวจเช็ก "น้ำหล่อเย็น" ให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยต้องเช็กในขณะที่ดับเครื่อง และเครื่องเย็นแล้ว หากพบว่าระดับน้ำลดลงในปริมาณมาก อาจเกิดปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นได้ จึงควรพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์เพื่อหาทางแก้ไข
★ 2. การตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ให้ทำหลังดับเครื่องแล้ว 2-3 นาที โดย ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้าแห้ง แล้วเสียบกลับคืนจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง เช็กระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าอยู่ระหว่าง "F" กับ "L" แสดงว่าปกติดี
★ 3. ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็กให้อยู่ในตำแหน่ง Upper/Level (ไม่ควรเติมเกิน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง) เมื่อเติมเสร็จแล้วให้ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น พร้อมเช็กแบตเตอรี่ว่ายึดอยู่กับฐานที่ตั้งแน่นดีหรือไม่
★ 4. ระดับน้ำมันเบรก ดูด้วยสายตาที่กระปุกน้ำมันเบรกมีคำว่า Max และ Min ซึ่งควรอยู่ที่ระดับ Max อยู่เสมอ หากน้ำมันเบรกลดต่ำลง อาจเกิดจากการสึกหรอของผ้าเบรก หรือเกิดการรั่วของน้ำมันเบรก จึงควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็กหาสาเหตุต่อไป
★ 5. ระดับน้ำมันคลัช ควรตรวจเช็กด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัชจะมีคำว่า Max กับ Min ระดับน้ำมันคลัชควรอยู่ที่ระดับ Max เสมอ ถ้าพบว่าระดับน้ำมันคลัชในกระปุกลดต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กหาสาเหตุ
★ 6. ระดับน้ำมันเกียร์ Auto ให้เช็กขณะที่เครื่องติดอยู่ โดยดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ Auto ออก เช็ดน้ำมันที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบคืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง ตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าอยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าปกติดี
★ 7. ตรวจเช็กระดับน้ำมัน Power ควร ตรวจเช็กขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยหมุนฝาปิดกระปุกน้ำมัน Power ที่ก้านวัด จะมีคำว่า Hot และ Cold อยู่คนละด้าน ถ้าวัดตอนที่เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน Cold ถ้าวัดตอนเครื่องร้อนให้ดูด้าน Hot
★ 8. ตรวจเช็กสภาพภายในห้องเครื่อง ให้ สังเกตดูรอบๆ ภายในห้องเครื่องว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ มีคราบน้ำซึมมั้ย สายไฟภายในห้องเครื่องเรียบร้อยดีหรือเปล่า มีคราบน้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่ เป็นต้น
★ 9. ตรวจเช็กยาง ควรเช็กแรงดันลมยางให้อยู่ค่ามาตรฐานเสมอ ให้เช็กขณะที่ยางยังไม่ร้อน ตรวจสภาพยางด้วยตาว่าที่ผิวยางมีรอยแตกเล็กๆ หรือไม่ เช็กการสึกหรอของดอกยางว่าสึกหรือผิดปกติหรือเปล่า หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาช่างทันที
ข้อมูลจาก //www.lisathailand.com ที่มา : //hilight.kapook.com/view/37359 ภาพจาก : //autos.savvy-cafe.com
สารบัญ ความรู้เรื่องรถ คลิกดู ที่นี่ค่ะ
Create Date : 17 มกราคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 17 มกราคม 2553 10:31:13 น. |
Counter : 855 Pageviews. |
|
|
|