ใช้รถขับหน้าให้ทนทาน

ใช้งานอย่างถูกวิธี รถยนต์ในปัจจุบันนอกจากปิกอัพ รถยนต์ยุโรปรุ่นใหญ่ และรถสปอร์ตราคาแพง ส่วนใหญ่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้ากันเกือบหมดแล้ว เพราะมีข้อดีคือ ต้นทุนการผลิตต่ำ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และห้องโดยสารกว้างขวาง
เพลาขับในระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ต้องทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนและต้องเลี้ยวได้ แม้การพัฒนาด้านเทคโนโลยีได้ ทำให้เพลาขับเคลื่อนล้อหน้ามีความทนทานมากขึ้น แต่การใช้งานอย่างถูกวิธีก็สำคัญในการยืดอายุการใช้งาน
รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าส่วนใหญ่ มีตำแหน่งการวางของเครื่องยนต์แบบวางขวาง ทั้งบล็อก 4 สูบเรียง หรือบล็อกวี ต่างจากรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังที่มักวางเครื่องยนต์ตามยาว อย่างไรก็ตาม มีรถยนต์บางยี่ห้อ เช่น ออดี้ ซูบารุ ฯลฯ ที่เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าแต่วางเครื่องยนต์ตามยาว
สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อบางรุ่น เช่น โตโยต้า ราฟ4 ฮอนด้า ซีอาร์-วี หรือมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชั่น แม้เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่จากการที่พัฒนามาจากรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้ตำแหน่งการวางของเครื่องยนต์ ยังเป็นแบบวางขวาง
ทำไมถึงต้องเปลี่ยนแปลง สาเหตุหลักที่ทำให้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ได้รับความนิยมจากผู้ผลิตรถยนต์มีหลายสาเหตุหลัก คือ ลดการสูญเสียกำลังที่ถ่ายทอดออกจากเครื่องยนต์ เพราะระบบขับเคลื่อนล้อหลังต้องมีเพลากลางท่อนยาว ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ต้องมีเพลากลาง จึงทำให้มีการส่งกำลังอย่างฉับไว และช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และยังลดต้นทุนการผลิต เพราะในรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า มีชิ้นส่วนไม่มากเท่ากับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง จึงไม่ใช่แค่ลดต้นทุนได้แค่เพลากลาง แต่ยังมีอีกหลายชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถลดต้นทุนลงได้
เพลาขับไม่ทนจริงหรือ เพลาขับเป็นประเด็นหลักในความกังวลเรื่องความทนทาน เพราะต้องทำหน้าที่ทั้งขับเคลื่อนและเลี้ยวตาม เพลาขับในยุคแรกมักไม่ทนทาน จนเกิดความเชื่อที่ไม่ดีต่อเนื่องกันมา แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้เพลาขับ มีอายุการใช้งานมากขึ้นกว่า 100,000 กิโลเมตรแล้ว
หากมีการดูแลรักษาที่ถูกต้องและใช้งานอย่างถูกวิธี เพลาขับจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยเกิน 100,000 กิโลเมตรแน่นอน และรถสปอร์ตในระดับ 200 แรงม้า ที่จำหน่ายในตลาดหลายรุ่นก็ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เช่น ฮอนด้า พรีลูด หรือโตโยต้า เซลิกา ย่อมแสดงให้เห็นถึงความทนทานของเพลาขับหน้า
ตรวจสอบเพื่อความมั่นใจ ภายในข้อต่ออ่อนตรงหัวเพลา 2 จุดต่อเพลา 1 แท่ง มีส่วนประกอบของลูกปืน เสื้อเพลา และเพลา โดยถูกหล่อลื่นด้วยจาระบี และถูกห่อหุ้มเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าด้วยยางหุ้มเพลา ซึ่งจุดนี้จำเป็นต้องดูแลอย่างสม่ำเสมอ ในสภาพการใช้งานปรกติ ยางหุ้มเพลามีอายุการใช้งานเฉลี่ย 50,000-100,000 กิโลเมตร และถ้าไม่พบการฉีกขาดควรถอดเพลาออกมาทำความสะอาดทุก 100,000 กิโลเมตร เปลี่ยนจาระบีชนิดเฉพาะและใช้ยางหุ้มเพลาคุณภาพสูง
หากมีการฉีกขาดของยางหุ้มเพลา โดยเฉพาะตัวนอกที่จะต้องเลี้ยวตามล้อบ่อย ๆ ต้องซ่อมแซมทันที หากปล่อยทิ้งไว้ความเสียหายอาจลุกลามจนต้องเปลี่ยนเพลาขับทั้งแท่ง ตามที่ได้ยินเสียงดังก๊อก ๆ ขณะเลี้ยวของเพลาขับเคลื่อนล้อหน้า
ดูแลถูกต้อง ลดค่าใช้จ่าย วิธีปฏิบัติเ พื่อยืดอายุเพลาขับเคลื่อนล้อหน้าคือ ออกตัวเมื่อล้อตั้งตรงและขับด้วยความนุ่มนวล แล้วจึงค่อยเพิ่มความเร็ว การออกตัวด้วยความรุนแรง ทำให้เพลาขับมีอายุการใช้งานสั้นลง
ถ้าใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ ควรเหยียบเบรกก่อนเข้าเกียร์เดินหน้า หรือถอยหลังทุกครั้ง เพื่อลดแรงกระตุกหรือกระชากของเครื่องยนต์ที่ส่งไปยังเพลาขับ
ระหว่างการขับเมื่อผิวถนนไม่เรียบ ควรลดความเร็วลงอย่างช้า ๆ เพราะการเบรกที่รุนแรงมีส่วนทำให้เพลาขับมีอายุการใช้งานสั้นลง
การเลี้ยวมุมแคบและกลับรถควรใช้ความเร็วต่ำที่สุด และหลีกเลี่ยงการขับเคลื่อน พร้อมการเลี้ยวเป็นมุมแคบอย่างต่อเนื่องเพื่อลดภาระของเพลาขับ
การเข้า-ออกจากที่จอดรถริมทางเดินเท้าไม่ควรขับในขณะที่หมุนพวงมาลัยสุด เพราะเมื่อเพลาขับหมุนพร้อมกับหักเลี้ยวสุด จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ถ้ารู้ตัวว่าหมุนสุด ให้คืนพวงมาลัยเล็กน้อย แล้วค่อยเลี้ยวและขับต่อไปด้วยความนุ่มนวล
ที่มา นิตยสาร รถวันนี้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : พึงระวัง สำหรับ ขับล้อหน้า การใช้เพลาขับให้มีอายุยาวนาน
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 12 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2553 18:14:26 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1785 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: seven IP: 124.120.193.80 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:49:28 น. |
|
|
|
โดย: สาว Vios IP: 58.9.64.38 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:46:02 น. |
|
|
|
โดย: naya IP: 124.122.210.167 วันที่: 18 กันยายน 2552 เวลา:15:55:54 น. |
|
|
|
|
|