เป็นหวัดขับรถ เสี่ยงอุบัติเหตุคล้ายเมาแล้วขับ
บีบีซีรายงานว่า ผลการวิจัยล่าสุดของบริษัทประกันภัย ลอยด์ ทีเอสบี อินชัวแรนซ์ พบว่าการเป็นหวัดและมีไข้ ส่งผลกระทบชัดเจนต่อปฏิกิริยาตอบสนองในการขับรถยนต์
การวิจัยดังกล่าวจัดทำโดยหน่วยวิจัยพีซีพีที่ทำให้บริษัทลอยด์ สุ่มตัวอย่าง 100 รายในอังกฤษ พบว่าผู้ขับขี่รถยนต์ที่เป็นหวัด มีประสิทธิภาพในการขับรถลดลงร้อยละ 11 เท่ากับผลที่ได้จากการดื่มเหล้าวิสกี้ 2 แก้ว
คนขับจะหยุดรถโดยกินระยะทางเข้าไปอีก 2.3 เมตรจากระยะปกติ ในการขับขี่ด้วยความเร็ว 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
มีผลการสำรวจอีก ชิ้น จัดทำโดยบริษัท ยูกอฟ ใช้กลุ่มตัวอย่าง 4,000 คน พบว่า 22 คนประสบอุบัติเหตุในขณะที่เป็นหวัดรุนแรง และ 5 คนประสบอุบัติเหตุในขณะมีไข้ จึงประเมินได้ด้วยวิธีเทียบบัญญัติ ไตรยางศ์ ว่าผู้ขับขี่รถยนต์ในอังกฤษ 33.5 ล้านคนนั้น ประสบอุบัติเหตุระหว่างมีไข้และเป็นหวัดราว 125,000 กรณี
ผลการวิจัยทั้งสองชิ้นจึงเตือนว่า อาการป่วยไข้นั้นส่งผลต่อการขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องกินยาแก้หวัดแก้ไข้ บวกกับสภาพอ่อนเพลีย หรือมีจำนวนแอลกอฮอล์เล็กน้อย ล้วนส่งผลต่อความสามารถในการขับขี่รถยนต์
พอล่า ลีเวลลีน โฆษกบริษัทประกันภัย กล่าวว่าผลของการวิจัยนี้บ่งบอกว่า เราควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยวดยานในเวลาที่เราป่วย
ด้าน ดร.ดาวน์ ฮาร์เปอร์ ผู้รณรงค์หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุตามท้องถนนกล่าวว่า การขับรถต้องอาศัยสมาธิและการตอบสนองที่ดี เมื่อล้มป่วย แม้แต่เป็นหวัดเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลต่อศักยภาพดังกล่าว จึงขอแนะนำให้ผู้ขับขี่รถยนต์หลีกเลี่ยงขับรถ จนกว่าอาการจะดีขึ้น
ดันแคน เวอร์นอน ผู้จัดการสมาคมป้องกันอุบัติเหตุ กล่าวเสริมว่า หากเราไม่แข็งแรงพอที่จะออกเดินทาง นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวเองแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ด้วย
อย่างกรณีที่เป็นไข้หวัดหนักจะมีอาการมากมาย ไม่ว่าปวดศีรษะ จาม หายใจไม่สะดวก เหน็ดเหนื่อย ส่งผลต่ออารมณ์และสมาธิ รวมถึงการตัดสินใจระหว่างขับรถด้วย เราจำเป็นต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง และรู้ตัวว่ามีความสามารถขับรถได้มากน้อยขนาดไหน
ข้อมูลจาก : ข่าวสด ที่มา : //women.thaiza.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : การหลีกเลี่ยงคนเมาเหล้าขับรถ
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 07 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 13 สิงหาคม 2554 22:14:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 861 Pageviews. |
|
|
|
|
|