|
รถเสียศูนย์
ความกังวลใจของผู้ซื้อรถใหม่ป้ายแดง จากห้างกับของผู้ซื้อรถยนต์มือสองต่างเกิดขึ้นได้ด้วยกันทั้งนั้น แต่เหตุแห่งความกังวลจะมีที่มาต่างกันออกไป ผู้ซื้อรถมือสองหรือรถยนต์ใช้แล้วส่วนใหญ่ จะเกิดความกังวลใจเกี่ยวกับคุณภาพของรถ กลัวว่าจะหลงไปซื้อรถยนต์ที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง แล้วนำมาซ่อมแบบขอไปที จากนั้นจึงนำมาจำหน่ายในราคาเหมือนรถไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนเลย
อีกประการหนึ่งคือเกรงกันว่า จะหลงไปซื้อรถยนต์ที่มีปัญหาด้านทะเบียน จนถึงขั้นไม่สามารถโอนเปลี่ยนมือได้ แม้ว่าจะจ่ายเงินไปจนครบตามราคารถแล้วก็ตาม ปัญหาดังกล่าวอาจจะเกิดจากตัวรถ เป็นรถที่ถูกปลอมแปลงมาจากซากเศษชิ้นส่วนของรถที่เกิดอุบัติเหตุ อาจจะเกิดจากความที่เป็นรถ ซึ่งถูกนำไปสวมครอบกับทะเบียนรถคันอื่นแบบผิดกฎหมาย หรืออาจจะเกิดจากปัญหาการครอบครอง หรือสิทธิการเป็นผู้ครอบครองรถคันนั้นๆ
ในอนาคตอันใกล้นี้ เชื่อว่าความกังวลใจในเรื่องดังกล่าวน่าจะลดลงได้มาก แม้ว่าจะไม่สามารถลดลงได้ทั้งหมดก็ตาม เพราะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดย คุณรัศมี วิศทเวทย์ เลขาฯ และ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับดูแล สคบ. กำลังเร่งลงมือประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีการจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วขึ้นมา และจะมีการประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไปในอนาคตอันไม่ไกลนัก
ระหว่างที่รอการบังคับใช้ข้อกำหนดหรือกฎหมายฉบับดังกล่าว คุณเทวินทร์ ส่งคำถามมาว่า ไปซื้อรถยนต์ นิสสัน เซฟิโร่ รุ่นปี 1994 มาจากเพื่อนที่รู้จักกันดี รถคันดังกล่าวนี้เพื่อนซื้อมาใช้ตั้งแต่ยังเป็นรถใหม่ป้ายแดง หลังจากนั้นก็ยกให้ลูกชายไปใช้งานต่ออีก 4-5 ปี ลูกชายที่ยังเป็นวัยรุ่นเรียนมหาวิทยาลัย ก็เอารถไปแต่งตามประสา ที่เห็นก็มีการเอาไปโหลดเตี้ย เปลี่ยนยางให้แก้มยางต่ำลง แล้วก็บรรจุชุดเครื่องเสียงลงไปอีกชุดใหญ่
เมื่อรู้จักเจ้าของเดิมดีและรู้ประวัติรถว่า ไม่เคยคว่ำหรือชนหนักมาก่อน นอกจากมุมกันชนเฉี่ยวประตูรั้วบ้าง เฉี่ยวเสาไฟบ้างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น และตกลงราคากันได้เป็นที่พึงพอใจจึงซื้อมา แต่หลังจากใช้งานไปได้ประมาณ 1 หมื่นกิโลเมตร พบว่า ยางกินสึกเฉียงๆ จึงนำรถไปให้ช่างที่ศูนย์บริการตรวจดู ช่างบอกว่ารถคันนี้ "เฟรมคด" สงสัยจะคว่ำมาแล้ว
กลับมาสอบถามเพื่อนที่เป็นเจ้าของเดิมพร้อมทั้งลูกชาย ทั้งคู่ก็ยืนยันว่าไม่เคยพลิกคว่ำหรือเกิดอุบัติเหตุแน่นอน เอารถไป ให้อู่อีก 2-3 แห่งตรวจดู เขาก็ยืนยันว่าเฟรมคดหรือตัวถังบิด จึงอยากทราบว่าเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร เพราะเชื่อใจเพื่อนว่าไม่โกหกอย่างแน่นอน เป็นไปได้หรือไม่ที่รถใช้ไปนานๆ แล้วจะเกิดอาการเฟรมคดหรือตัวถังบิดอย่างที่ว่ามา
เรื่องนี้ประการแรกผมเชื่อว่ารถคันนี้ "เฟรมคด" จริง เพราะช่าง 3-4 แห่งยืนยันตรงกัน แต่การใช้รถไปนานๆ แล้วจะเกิดเฟรมคดขึ้นมาไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นรถเก๋งไม่ใช่รถปิกอัพที่หากบรรทุกหนักเกินกำหนดมากๆ บ่อยๆ ครั้ง ก็เกิดอาการที่ว่าได้ หรือหากรถคันนี้ถูกขับในลักษณะแบบรถแข่ง แรลลี่ คือขับใช้งานด้วยความเร็วสูงๆ บ่อยๆ และเมื่อเจอหลุมบ่อบนพื้นถนน หรือเจอคันกระโดดแบบลูกระนาดที่ดักความเร็วตามซอยในหมู่บ้านจัดสรร แล้วคนขับไม่ยอมลดความเร็ว กลับพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงจนรถแทบจะบินขึ้นมา แบบที่เห็นในการแข่งแรลลี่ตามโทรทัศน์ การกระทำอย่างนั้นกับรถใช้งานตามบ้าน ที่ไม่ได้ผ่านการดามตัวถังหรือเฟรมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดเฟรมคดได้
แต่ฟังจากที่บอกมาว่าเจ้าของเดิมเอารถไปแต่งเครื่องเสียงไว้เยอะ ก็น่าจะหมายถึงเจ้าของเดิมเป็นคนรักรถมากเอาการอยู่ จึงไม่น่าจะเป็นคนที่ขับรถแบบไม่ปรานีปราศรัยในลักษณะดังกล่าว ข้อสงสัยทั้งหมดจึงตัดออกไปก่อน
สิ่งที่น่าเป็นไปได้มากที่สุดคือ เมื่อรถคันดังกล่าว เป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหลังที่วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งชอบ และมีการนำรถไป ลดระดับความสูงแบบที่เรียกกันว่า “โหลดเตี้ยลง” จึงน่าจะเชื่อได้ว่าคนขับซึ่งหมายถึงลูกชายของเพื่อนคุณ อาจจะอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบนำรถไปขับเล่นแบบที่นิยมเรียกกันว่า "ดริฟท์" หรือทำ "โดนัท" คือการนำรถไปขับบนลานเรียบๆ ด้วยความเร็วไม่มากนัก แล้วหักพวงมาลัยบังคับเลี้ยวหรืออาจจะใช้เบรกมือเป็นตัวช่วย ทำให้รถหมุนรอบตัวเองเป็นวงกลมจนเกิดรอยไหม้ของยางบนพื้นทางวิ่ง
การทำ “ดริฟท์” หรือ “โดนัท” ในลักษณะที่บอกมาซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ในทิศทางเดียวกันบ่อยๆ แรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นจะทำให้รถเก๋งในยุคปัจจุบันนี้ ที่โครงสร้างหลังมีเพียงแผ่นพื้น (Platform) กับโครงตัวถัง ไม่มีแชสซีเหมือนรถปิกอัพหรือรถเก๋งยุคเก่าๆ ถูกแรงเหวี่ยงทำให้โครงสร้างบิดเสียทรงได้
วิธีการแก้ไข คือต้องไปหาอู่ซ่อมสีที่มีช่างฝีมือเก่งๆ ให้เขาถอดประตูและกระจกทั้งหมดออก จากนั้นนำรถไปเข้าแท่นดัดและดึงให้คืนรูป และจะให้สมบูรณ์ ก็ต้องให้เขาเสริมเหล็กคล้ายแชสซียาวตลอดตัวรถเอาไว้ด้วย เพราะเหล็กที่บิดคดไปแล้วแม้ว่าจะถูกดึงคืนรูปกลับมาได้ โอกาสที่จะบิดกลับไปอีกก็มีสูงขึ้น จึงแนะนำให้ดามเสริมไว้ด้วยเลย
แนะนำว่าให้ถอดประตูและกระจกทุกบานออกก่อนดึงหรือยืดเฟรมนะครับ มิฉะนั้นจะกลับมาได้รูปทรงคืนเหมือนเดิมยากมากครับ
เขียนโดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ที่มา : //www.bangkokbiznews.com
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 06 เมษายน 2554 |
Last Update : 6 เมษายน 2554 18:26:48 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1987 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ติดแก๊ส
ขาย iphone
เช่าคอนโด
roll up
เว็บขายของ