Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
6 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
รถเสียศูนย์



ความกังวลใจของผู้ซื้อรถใหม่ป้ายแดง จากห้างกับของผู้ซื้อรถยนต์มือสองต่างเกิดขึ้นได้ด้วยกันทั้งนั้น
แต่เหตุแห่งความกังวลจะมีที่มาต่างกันออกไป
ผู้ซื้อรถมือสองหรือรถยนต์ใช้แล้วส่วนใหญ่ จะเกิดความกังวลใจเกี่ยวกับคุณภาพของรถ
กลัวว่าจะหลงไปซื้อรถยนต์ที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง แล้วนำมาซ่อมแบบขอไปที
จากนั้นจึงนำมาจำหน่ายในราคาเหมือนรถไม่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนเลย

อีกประการหนึ่งคือเกรงกันว่า จะหลงไปซื้อรถยนต์ที่มีปัญหาด้านทะเบียน
จนถึงขั้นไม่สามารถโอนเปลี่ยนมือได้ แม้ว่าจะจ่ายเงินไปจนครบตามราคารถแล้วก็ตาม
ปัญหาดังกล่าวอาจจะเกิดจากตัวรถ เป็นรถที่ถูกปลอมแปลงมาจากซากเศษชิ้นส่วนของรถที่เกิดอุบัติเหตุ
อาจจะเกิดจากความที่เป็นรถ ซึ่งถูกนำไปสวมครอบกับทะเบียนรถคันอื่นแบบผิดกฎหมาย
หรืออาจจะเกิดจากปัญหาการครอบครอง หรือสิทธิการเป็นผู้ครอบครองรถคันนั้นๆ

ในอนาคตอันใกล้นี้ เชื่อว่าความกังวลใจในเรื่องดังกล่าวน่าจะลดลงได้มาก
แม้ว่าจะไม่สามารถลดลงได้ทั้งหมดก็ตาม เพราะสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
โดย คุณรัศมี วิศทเวทย์ เลขาฯ และ คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ผู้กำกับดูแล สคบ. กำลังเร่งลงมือประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค กรณีการจำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วขึ้นมา
และจะมีการประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไปในอนาคตอันไม่ไกลนัก

ระหว่างที่รอการบังคับใช้ข้อกำหนดหรือกฎหมายฉบับดังกล่าว
คุณเทวินทร์ ส่งคำถามมาว่า ไปซื้อรถยนต์ นิสสัน เซฟิโร่ รุ่นปี 1994 มาจากเพื่อนที่รู้จักกันดี
รถคันดังกล่าวนี้เพื่อนซื้อมาใช้ตั้งแต่ยังเป็นรถใหม่ป้ายแดง
หลังจากนั้นก็ยกให้ลูกชายไปใช้งานต่ออีก 4-5 ปี ลูกชายที่ยังเป็นวัยรุ่นเรียนมหาวิทยาลัย
ก็เอารถไปแต่งตามประสา ที่เห็นก็มีการเอาไปโหลดเตี้ย เปลี่ยนยางให้แก้มยางต่ำลง
แล้วก็บรรจุชุดเครื่องเสียงลงไปอีกชุดใหญ่

เมื่อรู้จักเจ้าของเดิมดีและรู้ประวัติรถว่า ไม่เคยคว่ำหรือชนหนักมาก่อน
นอกจากมุมกันชนเฉี่ยวประตูรั้วบ้าง เฉี่ยวเสาไฟบ้างเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
และตกลงราคากันได้เป็นที่พึงพอใจจึงซื้อมา แต่หลังจากใช้งานไปได้ประมาณ 1 หมื่นกิโลเมตร
พบว่า ยางกินสึกเฉียงๆ จึงนำรถไปให้ช่างที่ศูนย์บริการตรวจดู
ช่างบอกว่ารถคันนี้ "เฟรมคด" สงสัยจะคว่ำมาแล้ว

กลับมาสอบถามเพื่อนที่เป็นเจ้าของเดิมพร้อมทั้งลูกชาย
ทั้งคู่ก็ยืนยันว่าไม่เคยพลิกคว่ำหรือเกิดอุบัติเหตุแน่นอน เอารถไป ให้อู่อีก 2-3 แห่งตรวจดู
เขาก็ยืนยันว่าเฟรมคดหรือตัวถังบิด จึงอยากทราบว่าเกิดจากอะไรและจะแก้ไขอย่างไร
เพราะเชื่อใจเพื่อนว่าไม่โกหกอย่างแน่นอน
เป็นไปได้หรือไม่ที่รถใช้ไปนานๆ แล้วจะเกิดอาการเฟรมคดหรือตัวถังบิดอย่างที่ว่ามา

เรื่องนี้ประการแรกผมเชื่อว่ารถคันนี้ "เฟรมคด" จริง เพราะช่าง 3-4 แห่งยืนยันตรงกัน
แต่การใช้รถไปนานๆ แล้วจะเกิดเฟรมคดขึ้นมาไม่น่าจะเป็นไปได้
เพราะเป็นรถเก๋งไม่ใช่รถปิกอัพที่หากบรรทุกหนักเกินกำหนดมากๆ บ่อยๆ ครั้ง ก็เกิดอาการที่ว่าได้
หรือหากรถคันนี้ถูกขับในลักษณะแบบรถแข่ง แรลลี่ คือขับใช้งานด้วยความเร็วสูงๆ บ่อยๆ
และเมื่อเจอหลุมบ่อบนพื้นถนน
หรือเจอคันกระโดดแบบลูกระนาดที่ดักความเร็วตามซอยในหมู่บ้านจัดสรร
แล้วคนขับไม่ยอมลดความเร็ว กลับพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงจนรถแทบจะบินขึ้นมา
แบบที่เห็นในการแข่งแรลลี่ตามโทรทัศน์
การกระทำอย่างนั้นกับรถใช้งานตามบ้าน ที่ไม่ได้ผ่านการดามตัวถังหรือเฟรมเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดเฟรมคดได้

แต่ฟังจากที่บอกมาว่าเจ้าของเดิมเอารถไปแต่งเครื่องเสียงไว้เยอะ
ก็น่าจะหมายถึงเจ้าของเดิมเป็นคนรักรถมากเอาการอยู่
จึงไม่น่าจะเป็นคนที่ขับรถแบบไม่ปรานีปราศรัยในลักษณะดังกล่าว ข้อสงสัยทั้งหมดจึงตัดออกไปก่อน

สิ่งที่น่าเป็นไปได้มากที่สุดคือ เมื่อรถคันดังกล่าว เป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหลังที่วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งชอบ
และมีการนำรถไป ลดระดับความสูงแบบที่เรียกกันว่า “โหลดเตี้ยลง
จึงน่าจะเชื่อได้ว่าคนขับซึ่งหมายถึงลูกชายของเพื่อนคุณ
อาจจะอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบนำรถไปขับเล่นแบบที่นิยมเรียกกันว่า "ดริฟท์" หรือทำ "โดนัท"
คือการนำรถไปขับบนลานเรียบๆ ด้วยความเร็วไม่มากนัก
แล้วหักพวงมาลัยบังคับเลี้ยวหรืออาจจะใช้เบรกมือเป็นตัวช่วย
ทำให้รถหมุนรอบตัวเองเป็นวงกลมจนเกิดรอยไหม้ของยางบนพื้นทางวิ่ง


การทำ “ดริฟท์” หรือ “โดนัท” ในลักษณะที่บอกมาซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ในทิศทางเดียวกันบ่อยๆ
แรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นจะทำให้รถเก๋งในยุคปัจจุบันนี้ ที่โครงสร้างหลังมีเพียงแผ่นพื้น (Platform)
กับโครงตัวถัง ไม่มีแชสซีเหมือนรถปิกอัพหรือรถเก๋งยุคเก่าๆ
ถูกแรงเหวี่ยงทำให้โครงสร้างบิดเสียทรงได้

วิธีการแก้ไข คือต้องไปหาอู่ซ่อมสีที่มีช่างฝีมือเก่งๆ ให้เขาถอดประตูและกระจกทั้งหมดออก
จากนั้นนำรถไปเข้าแท่นดัดและดึงให้คืนรูป
และจะให้สมบูรณ์ ก็ต้องให้เขาเสริมเหล็กคล้ายแชสซียาวตลอดตัวรถเอาไว้ด้วย
เพราะเหล็กที่บิดคดไปแล้วแม้ว่าจะถูกดึงคืนรูปกลับมาได้ โอกาสที่จะบิดกลับไปอีกก็มีสูงขึ้น
จึงแนะนำให้ดามเสริมไว้ด้วยเลย

แนะนำว่าให้ถอดประตูและกระจกทุกบานออกก่อนดึงหรือยืดเฟรมนะครับ
มิฉะนั้นจะกลับมาได้รูปทรงคืนเหมือนเดิมยากมากครับ


เขียนโดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
ที่มา : //www.bangkokbiznews.com


สารบัญ รู้เรื่องรถ


Create Date : 06 เมษายน 2554
Last Update : 6 เมษายน 2554 18:26:48 น. 1 comments
Counter : 1987 Pageviews.

 


โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:10:19:57 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.