Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
พวงมาลัยสั่นและมีเสียง



เมื่อวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพวงมาลัยจะสั่น
และสั่นไปจนถึง 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอความเร็วสูงกว่านั้นก็ไม่สั่นแล้ว
จึงอยากทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร


ผมได้รับคำถามจาก lilly_wow ส่งมาทางอีเมล์ถามมาว่า ใช้รถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ปี 2003
ซื้อมาตั้งแต่ป้ายแดง ตอนนี้ใช้ไปได้ 64,000 กิโลเมตรแล้ว
เปลี่ยนยางไปหนึ่งชุดเมื่อตอนที่ใช้ไป 52,000 กิโลเมตร ไม่เคยมีอุบัติเหตุแม้แต่ครั้งเดียว

แต่ปัจจุบันพบว่า เมื่อวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพวงมาลัยจะสั่น
และสั่นไปจนถึง 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอความเร็วสูงกว่านั้นก็ไม่สั่นแล้ว
จึงอยากทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไร
และยังมีเสียงดังเกิดขึ้นทุกครั้งที่หักพวงมาลัยรอกลับรถ และถอยรถเข้าบ้าน
จะใช่มาจากสาเหตุเดียวกันหรือไม่

จากข้อความที่ส่งเข้ามาทาง pattanadesh@nationgroup.com พอสรุปได้ว่า มีปัญหาเกิดขึ้นสองประการ
ประการแรกอาการสั่นของรถที่รับรู้ได้จากพวงมาลัย
ปัญหาแรกนี้เป็นเรื่องที่น่าจะเกิดจากการไม่ได้ดุล ขณะที่ล้อหมุนมากกว่าอย่างอื่น
พูดแบบเข้าใจง่ายก็คือ “ต้องถ่วงล้อ” และหากว่าผู้ถามได้นำรถไปถ่วงล้อมาแล้ว
อาจจะไปถ่วงมาทั้งแบบจี้ประชิดและแบบถอดล้ออกมาเข้าเครื่องถ่วง แต่อาการดังกล่าวยังไม่หายไป

ผมแนะนำว่าควรถอดยางออกมาจากกระทะล้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยางที่ล้อหน้าทั้งซ้ายและขวา
จากนั้นก็เอาผ้าแห้งมาเช็ดทำความสะอาดที่ท้องยางด้านในให้แห้งสนิท
เก็บเอาเศษหินและทรายเล็กๆ ออกมาจากท้องยางให้หมด
ใช้มือตรวจลูบในท้องยางด้วยว่า มีอาการปูดขึ้นมาของเนื้อยางด้านในท้องยางหรือไม่

รวมทั้งตรวจดูด้วยสายตาว่า
แก้มยางด้านนอกและหน้ายาง ต้องไม่มีการบวมปูดในลักษณะเนื้อยางร่อนแยกตัวออกจากกันด้วย
จากนั้นจึงประกอบยางกลับเข้าไป และไปทำการถ่วงล้อก่อนที่จะใส่ยางกลับไปประจำที่ในรถ
แต่หากพบว่ายางมีอาการบวม ก็ต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่
มิฉะนั้นจะทำให้เกิดการสั่นที่พวงมาลัยขึ้นมาอีก
หรือหากการบวมแยกตัวของยางเกิดขึ้นที่บริเวณแก้มยาง หรือบริเวณหน้ายาง
ก็ต้องรีบเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที เพราะอาจจะเกิดการระเบิดขณะใช้งานได้

ส่วนเรื่องของเสียงขณะหักพวงมาลัยเลี้ยวกลับรถและขณะเข้าบ้าน
คาดเดาว่าน่าจะเกิดจากเสียงของปั๊มเพาเวอร์ที่ทำงาน
โดยมีสาเหตุมาจากการหักพวงมาลัยจนสุด และล้อหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้เคลื่อนไหวบ่อยครั้ง
ทำให้ใบปั๊มเพาเวอร์เสียหาย หรืออาจจะเกิดจากท่อยางท่อนรับแรงดันน้ำมันเพาเวอร์บวม
ซึ่งทั้งสองกรณีต้องทำการเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ทั้งคู่ จึงจะหายจากอาการดังกล่าวได้ครับ


ที่มา : //www.bangkokbiznews.com


สารบัญ รู้เรื่องรถ


Create Date : 09 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 16:26:02 น. 0 comments
Counter : 2444 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.