Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
จอดรถให้ปลอดภัย



อุตสาหกรรมยานยนต์ ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
แม้ว่าหลายครั้งที่ผู้บริโภคอาจจะเกิดความคิดว่า
รถยนต์ในปัจจุบันนี้กับรถยนต์เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เห็นจะมีความแตกต่างกันตรงไหน
แต่สำหรับคนที่คลุกคลีอยู่กับรถยนต์จริงๆ
และมองรถยนต์อย่างละเอียด มากกว่าที่จะมองเป็นเพียงแค่พาหนะสำหรับการเดินทาง
จะรู้ได้ทันทีว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้น มีมากจนถึงขั้นที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ต้องหันมาปรับปรุงวิธีคิดและวิธีการใช้งานรถยนต์กันขนานใหญ่ทีเดียว

นับตั้งแต่มีการนำเอาระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง กับอุปกรณ์ต่างๆ ของรถยนต์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกนำมาใช้ในการตรวจวัด และสั่งการของระบบต่างๆ
ผู้ใช้รถยนต์ก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัว เพื่อเรียนรู้วิธีการทำงานของอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้อง
รวมถึงบรรดาช่างซ่อมทั้งหลาย ก็ต้องเรียนรู้ถึงวิธีการตรวจสอบและการซ่อมบำรุง
ที่แน่นอนว่าต้องแตกต่างไปจากอุปกรณ์ หรือชิ้นส่วนที่ทำงานในระบบกลไกแบบดั้งเดิม

วันนี้ผมมีคำถามที่ท่านผู้อ่านส่งเข้ามา และดูเหมือนกับเป็นคำถามง่ายๆ ที่ไม่น่าจะเป็นคำถาม
แต่เมื่อพิเคราะห์พิจารณาดูแล้วพบว่า เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวความปลอดภัย ที่ไม่อาจจะเพิกเฉยได้
ประกอบกับระยะหลังมานี้ มีผู้ใช้รถยนต์มากมายที่ต้องประสบอุบัติเหตุจนถึงขั้นเสียชีวิต
จากการที่ผู้ใช้รถเพิกเฉยกับประเด็นง่ายๆ คล้ายปัญหาหญ้าปากคอกอย่างนี้
ผมจึงขออนุญาตนำมาตอบเผยแพร่ให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน
ท่านใดที่ทราบแล้วหรือปฏิบัติอยู่เป็นอาจินต์แล้ว ก็ถือเสียว่าอ่านเพื่อทบทวนความจำก็แล้วกัน

คุณสุธาสินีบอกมาว่า ให้อธิบายถึงวิธีการจอดรถที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจอดรถบนที่ลาดเอียง
เพราะเห็นข่าวรถไหลไปทับคนตายแล้วเกิดความกลัวขึ้นมา
ปกติก็จอดแบบธรรมดาทั่วไปคือ "ดึงเบรกมือ" ขึ้นมาและเข้าเกียร์ที่ตำแหน่ง P
ไม่ทราบว่าเพียงพอต่อการป้องกันอุบัติเหตุหรือไม่

เรื่องวิธีการจอดรถโดยทั่วไปมีหลักปฏิบัติที่ไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก
หากเป็นการจอดรถบนพื้นที่ราบเสมอกัน
การจอดตามแบบที่บอกมาก็ถือว่าถูกต้องและเหมาะสมเพียงพอแล้ว
เพิ่มเติมเพียงแค่ดูให้ดีว่าไม่ไปจอดกีดขวางรถคันอื่น จนอาจจะทำให้เขาเคลื่อนที่เข้าออกได้ยากเท่านั้น

แต่หากมีความจำเป็นต้องจอดรถบน "พื้นที่ลาดเอียง"
เช่นทางขึ้นลงสะพาน หรือทางเข้าออกบ้านที่มีระดับสูงกว่าระดับพื้นถนน
ก็ต้องเพิ่มกฎว่าด้วยความปลอดภัยป้องกันรถไหลเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง

เบื้องต้นให้ดูว่าเป็นการจอดรถบนทางลาดเอียงแบบที่ส่วนหัวของรถ เชิดขึ้นสูงกว่าส่วนท้ายรถใช่หรือไม่
ถ้าใช่ก็ให้จอดรถด้วยการเข้าเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง P ในกรณีที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ
แต่หากเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ให้โยกคันเกียร์ไปอยู่ที่ตำแหน่ง "เกียร์หนึ่ง" จากนั้นก็ดึงเบรกมือขึ้นจนสุด
และต้องหักพวงมาลัยในลักษณะเลี้ยวขวา ให้ล้อหน้าอยู่ในท่าหักเลี้ยวไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าองศา
หรือจนด้านหลังของยางหน้าแตะขอบสะพานหรือขอบฟุตบาทของถนน

ทั้งนี้หากเป็นการจอดรถในลักษณะที่หัวรถทิ่มต่ำลงหรือจอดในทางลาดลง
ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติก็ให้โยกคันเกียร์ไปที่ P แล้วดึงเบรกมือขึ้นมาให้สุด
แต่ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ให้เข้าเกียร์ถอยหลังเอาไว้ แล้วดึงเบรกมือขึ้นมาเช่นกัน
ส่วนพวงมาลัยก็ให้หักเลี้ยวซ้าย จนยางล้อหน้าทำมุมไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าองศา
หรือจนหน้ายางแตะขอบสะพานหรือขอบฟุตบาท

การจอดรถตามลักษณะที่บอกมา ถือว่าเป็นการจอดรถที่อยู่ในระดับปลอดภัยมาก
เพราะแม้ว่าบางครั้งอาจจะเกิดความผิดพลาด เช่นมีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านจนสะพานหรือถนนสั่นไหว
รถของเราอาจจะเคลื่อนตัวไหลไปตามทาง "ลาดชัน"
แต่การที่เราเข้าเกียร์ P และดึงเบรกมือเอาไว้ จะช่วยป้องกันการไหลของรถได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราหักพวงมาลัยจนล้ออยู่ในตำแหน่งดังกล่าว
จะทำให้รถไม่สามารถไหลขยับไปไหนได้อีก เนื่องจากยางไปชนกับขอบสะพานหรือขอบฟุตบาทเสียแล้ว

สำหรับตำแหน่งของเกียร์ธรรมดาก็เช่นกัน
เมื่อท่านจอดรถในลักษณะหน้าทิ่มลงและใส่เกียร์ถอยหลังเอาไว้
เมื่อรถขยับและทำท่าว่าจะเกิดอาการไหล เกียร์ถอยหลังจะเป็นตัวดึงไม่ให้รถเกิดการไหลลงต่อไป
ในทำนองเดียวกันกับการจอดรถเชิดหน้าขึ้น เมื่อรถจะไหลถอยหลังลงมาตามทางลาดชัน
เกียร์หนึ่งจะเป็นตัวช่วยดึงรถเอาไว้ไม่ให้ไหลเคลื่อนที่

แต่ไม่ว่าจะจอดรถในรูปแบบใดหรือเข้าเกียร์ใดไว้ก็ตาม
การจอดรถบนพื้นที่ลาดเอียงแบบนี้ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
เพราะเมื่อท่านกลับมาที่รถ และติดเครื่องยนต์เพื่อที่จะนำรถเคลื่อนที่ออกไป
ท่านจะรู้สึกได้เลยว่า "เกียร์" ของรถท่านจะขยับและเข้ายากกว่าปกติเล็กน้อย
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ต้องตกใจ หรือคิดว่าเกียร์ของท่านเสียหายแต่อย่างใด

การจอดบนพื้นที่ลาดเอียงบ่อยๆ เป็นประจำ
อาจจะทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่างของรถเกิดการสึกหรอที่ผิดปกติ
หรืออาจจะทำให้รถคันนั้นๆ มีอาการเสียศูนย์หรือมีโครงสร้างบิดเบี้ยวได้ด้วยนะครับ


โดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ
ที่มา : //www.bangkokbiznews.com


สารบัญ รู้เรื่องรถ


Create Date : 31 มีนาคม 2554
Last Update : 31 มีนาคม 2554 14:56:29 น. 2 comments
Counter : 1396 Pageviews.

 
อืม ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับ


โดย: popauto วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:20:31:58 น.  

 


โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:12:19:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.