|
จอดรถให้ปลอดภัย
อุตสาหกรรมยานยนต์ ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ว่าหลายครั้งที่ผู้บริโภคอาจจะเกิดความคิดว่า รถยนต์ในปัจจุบันนี้กับรถยนต์เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เห็นจะมีความแตกต่างกันตรงไหน แต่สำหรับคนที่คลุกคลีอยู่กับรถยนต์จริงๆ และมองรถยนต์อย่างละเอียด มากกว่าที่จะมองเป็นเพียงแค่พาหนะสำหรับการเดินทาง จะรู้ได้ทันทีว่าความแตกต่างที่เกิดขึ้น มีมากจนถึงขั้นที่ทั้งผู้บริโภคและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต้องหันมาปรับปรุงวิธีคิดและวิธีการใช้งานรถยนต์กันขนานใหญ่ทีเดียว
นับตั้งแต่มีการนำเอาระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง กับอุปกรณ์ต่างๆ ของรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกนำมาใช้ในการตรวจวัด และสั่งการของระบบต่างๆ ผู้ใช้รถยนต์ก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับตัว เพื่อเรียนรู้วิธีการทำงานของอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้อง รวมถึงบรรดาช่างซ่อมทั้งหลาย ก็ต้องเรียนรู้ถึงวิธีการตรวจสอบและการซ่อมบำรุง ที่แน่นอนว่าต้องแตกต่างไปจากอุปกรณ์ หรือชิ้นส่วนที่ทำงานในระบบกลไกแบบดั้งเดิม
วันนี้ผมมีคำถามที่ท่านผู้อ่านส่งเข้ามา และดูเหมือนกับเป็นคำถามง่ายๆ ที่ไม่น่าจะเป็นคำถาม แต่เมื่อพิเคราะห์พิจารณาดูแล้วพบว่า เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวความปลอดภัย ที่ไม่อาจจะเพิกเฉยได้ ประกอบกับระยะหลังมานี้ มีผู้ใช้รถยนต์มากมายที่ต้องประสบอุบัติเหตุจนถึงขั้นเสียชีวิต จากการที่ผู้ใช้รถเพิกเฉยกับประเด็นง่ายๆ คล้ายปัญหาหญ้าปากคอกอย่างนี้ ผมจึงขออนุญาตนำมาตอบเผยแพร่ให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน ท่านใดที่ทราบแล้วหรือปฏิบัติอยู่เป็นอาจินต์แล้ว ก็ถือเสียว่าอ่านเพื่อทบทวนความจำก็แล้วกัน
คุณสุธาสินีบอกมาว่า ให้อธิบายถึงวิธีการจอดรถที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจอดรถบนที่ลาดเอียง เพราะเห็นข่าวรถไหลไปทับคนตายแล้วเกิดความกลัวขึ้นมา ปกติก็จอดแบบธรรมดาทั่วไปคือ "ดึงเบรกมือ" ขึ้นมาและเข้าเกียร์ที่ตำแหน่ง P ไม่ทราบว่าเพียงพอต่อการป้องกันอุบัติเหตุหรือไม่
เรื่องวิธีการจอดรถโดยทั่วไปมีหลักปฏิบัติที่ไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก หากเป็นการจอดรถบนพื้นที่ราบเสมอกัน การจอดตามแบบที่บอกมาก็ถือว่าถูกต้องและเหมาะสมเพียงพอแล้ว เพิ่มเติมเพียงแค่ดูให้ดีว่าไม่ไปจอดกีดขวางรถคันอื่น จนอาจจะทำให้เขาเคลื่อนที่เข้าออกได้ยากเท่านั้น
แต่หากมีความจำเป็นต้องจอดรถบน "พื้นที่ลาดเอียง" เช่นทางขึ้นลงสะพาน หรือทางเข้าออกบ้านที่มีระดับสูงกว่าระดับพื้นถนน ก็ต้องเพิ่มกฎว่าด้วยความปลอดภัยป้องกันรถไหลเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง
เบื้องต้นให้ดูว่าเป็นการจอดรถบนทางลาดเอียงแบบที่ส่วนหัวของรถ เชิดขึ้นสูงกว่าส่วนท้ายรถใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็ให้จอดรถด้วยการเข้าเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง P ในกรณีที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ แต่หากเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ให้โยกคันเกียร์ไปอยู่ที่ตำแหน่ง "เกียร์หนึ่ง" จากนั้นก็ดึงเบรกมือขึ้นจนสุด และต้องหักพวงมาลัยในลักษณะเลี้ยวขวา ให้ล้อหน้าอยู่ในท่าหักเลี้ยวไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าองศา หรือจนด้านหลังของยางหน้าแตะขอบสะพานหรือขอบฟุตบาทของถนน
ทั้งนี้หากเป็นการจอดรถในลักษณะที่หัวรถทิ่มต่ำลงหรือจอดในทางลาดลง ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติก็ให้โยกคันเกียร์ไปที่ P แล้วดึงเบรกมือขึ้นมาให้สุด แต่ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็ให้เข้าเกียร์ถอยหลังเอาไว้ แล้วดึงเบรกมือขึ้นมาเช่นกัน ส่วนพวงมาลัยก็ให้หักเลี้ยวซ้าย จนยางล้อหน้าทำมุมไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าองศา หรือจนหน้ายางแตะขอบสะพานหรือขอบฟุตบาท
การจอดรถตามลักษณะที่บอกมา ถือว่าเป็นการจอดรถที่อยู่ในระดับปลอดภัยมาก เพราะแม้ว่าบางครั้งอาจจะเกิดความผิดพลาด เช่นมีรถบรรทุกหนักวิ่งผ่านจนสะพานหรือถนนสั่นไหว รถของเราอาจจะเคลื่อนตัวไหลไปตามทาง "ลาดชัน" แต่การที่เราเข้าเกียร์ P และดึงเบรกมือเอาไว้ จะช่วยป้องกันการไหลของรถได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราหักพวงมาลัยจนล้ออยู่ในตำแหน่งดังกล่าว จะทำให้รถไม่สามารถไหลขยับไปไหนได้อีก เนื่องจากยางไปชนกับขอบสะพานหรือขอบฟุตบาทเสียแล้ว
สำหรับตำแหน่งของเกียร์ธรรมดาก็เช่นกัน เมื่อท่านจอดรถในลักษณะหน้าทิ่มลงและใส่เกียร์ถอยหลังเอาไว้ เมื่อรถขยับและทำท่าว่าจะเกิดอาการไหล เกียร์ถอยหลังจะเป็นตัวดึงไม่ให้รถเกิดการไหลลงต่อไป ในทำนองเดียวกันกับการจอดรถเชิดหน้าขึ้น เมื่อรถจะไหลถอยหลังลงมาตามทางลาดชัน เกียร์หนึ่งจะเป็นตัวช่วยดึงรถเอาไว้ไม่ให้ไหลเคลื่อนที่
แต่ไม่ว่าจะจอดรถในรูปแบบใดหรือเข้าเกียร์ใดไว้ก็ตาม การจอดรถบนพื้นที่ลาดเอียงแบบนี้ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อท่านกลับมาที่รถ และติดเครื่องยนต์เพื่อที่จะนำรถเคลื่อนที่ออกไป ท่านจะรู้สึกได้เลยว่า "เกียร์" ของรถท่านจะขยับและเข้ายากกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติไม่ต้องตกใจ หรือคิดว่าเกียร์ของท่านเสียหายแต่อย่างใด
การจอดบนพื้นที่ลาดเอียงบ่อยๆ เป็นประจำ อาจจะทำให้ชิ้นส่วนช่วงล่างของรถเกิดการสึกหรอที่ผิดปกติ หรืออาจจะทำให้รถคันนั้นๆ มีอาการเสียศูนย์หรือมีโครงสร้างบิดเบี้ยวได้ด้วยนะครับ
โดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ที่มา : //www.bangkokbiznews.com
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 31 มีนาคม 2554 |
Last Update : 31 มีนาคม 2554 14:56:29 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1396 Pageviews. |
|
|
|
โดย: popauto วันที่: 31 มีนาคม 2554 เวลา:20:31:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|