|
เทคนิคการขับขี่รถยนต์ให้ได้เปรียบเชิงกล
ในโลกปัจจุบันมีผู้ใช้รถใช้ถนนกันเป็นจำนวนมาก เเละมีพฤติกรรมการขับรถยนต์ที่เเตกต่างกันไป เมื่อคุณได้อ่านบทความนี้เเล้ว ลองสำรวจตัวเองเเละคนรอบข้างดูว่ามีพฤติกรรมการขับรถเป็นอย่างไร ขับเเล้วรู้จักถนอมรถหรือเปล่า หรือขับแล้วสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติหรือเปล่า
ในบทความนี้คุณจะได้รู้ถึงหลักการง่ายๆ ในการขับรถยนต์ให้ได้เปรียบเชิงกลและไม่เสียเปรียบเชิงกล สามารถขับรถยนต์ได้อย่างชาญฉลาดและมีความปลอดภัย เราจะแบ่งได้เป็น 5 กรณีง่ายๆ เราลองมาดูกันนะว่าคุณจะทำได้หรือเปล่า ● 1. ในกรณีที่รถยนต์ของคุณติดไฟแดงเป็นเวลาค่อนข้างนาน ไม่ควรเหยียบเบรคแช่ไว้ตลอดเวลา ควรใส่เบรคมือไว้ เพื่อผ่อนคลายความล้าของขาและช่วยยืดอายุหลอดไฟเบรค และสวิตช์ไฟเบรค ตลอดจนช่วยประหยัดพลังงานรถยนต์ของคุณด้วย ถ้ารถยนต์ของคุณใช้เกียร์อัตโนมัติ ก็ควรโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่งเกียร์ว่าง (เกียร์ N) และใส่เบรคมือเช่นกัน
นอกจากข้อดีดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีข้อดีอีกข้อคือ จะช่วยลดความร้อนที่เกิดในน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งถ้าน้ำมันร้อนจัดแล้วจะทำให้น้ำมันเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
● 2. ในกรณีที่คุณขับรถบนถนนเปียก ความเสียดทานระหว่างยางกับถนนจะลดลงประมาณครึ่งหนึ่งของถนนแห้ง ดังนั้นการยึดเกาะถนนไม่ดีเท่ากับถนนแห้งโอกาสที่ล้อจะล็อคตาย และลื่นไถลไปบนถนนจึงมีสูงมาก ดังนั้นจึงต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง และอย่าใช้ความเร็วสูงเป็นอันขาด เพราะอุบัติเหตุที่พบเห็นอยู่เสมอ มักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีฝนตกจนถนนเปียก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝนเริ่มลงเม็ดปรอยๆ ฝุ่นบนถนนจะผสมกับน้ำฝนจนเป็นเมือก ซึ่งมีความลื่นมากเป็นพิเศษ
● 3. ในกรณีที่คุณเหยียบเบรคอย่างกะทันหันจนล้อล็อคตาย คุณจะไม่สามารถควบคุมการเลี้ยวของรถยนต์ได้ รถยนต์จะเลื่อนไหลไปตามแรงเฉื่อยของรถยนต์ โดยที่ยางเสียดสีไปบนถนนเป็นทางยาว เรื่องนี้เป็นอันตรายมาก ดังนั้น ถ้ารถยนต์ของคุณไม่ได้ใช้เบรค ABS คุณอาจลดการล็อคตายของล้อได้ (เพราะในขณะที่คุณกำลังเบรค คุณสามารถรู้สึกได้ว่าล้อกำลังจะล็อคตาย) โดยอาจผ่อนเบรคเล็กน้อย แล้วจึงเหยียบเบรคลงไปใหม่อย่างรวดเร็วจะช่วยได้
● 4. ในกรณีที่คุณขับรถลงทางชัน ซึ่งมีความลาดชันค่อนข้างมาก คุณควรใช้เกียร์ต่ำ เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยในการเบรค ซึ่งในทางวิศวกรรมเราเรียกว่า การเบรคด้วยเครื่องยนต์ (ENGINE BRAKE) แต่ถ้าคุณไม่ใช้การเบรคด้วยเครื่องยนต์ (อาจเป็นเพราะว่าความเคยชินหรือ กลัวเครื่องพัง หรือกลัวเปลืองน้ำมัน) อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คุณก็จะต้องคอยเหยียบเบรคไว้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ความเร็วของรถยนต์เพิ่มสูงเกินไปใช่มั้ย การกระทำเช่นนี้จะมีผลเสียต่อระบบเบรค คือ เบรคจะสึกหรอเร็วกว่าปกติ เบรคจะร้อนจัดเกินไป เพราะรถยนต์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำเพราะการเบรคอยู่บ่อยครั้ง อากาศจึงไม่สามารถเข้าไประบายความร้อนเบรคได้ทัน ประสิทธิภาพการเบรคจะลดลง
ถ้าเบรคร้อนมากจนทำให้น้ำมันที่ลูกปั้มเดือด ก็จะส่งผลเสียอย่างมาก คือจะทำให้เบรคไม่อยู่และอาจเกิดอุบัติเหตุได้
● 5. ในกรณีที่คุณขับรถอยู่บนถนน และยางรถยนต์เกิดระเบิดขึ้นอย่างทันทีทันใด คุณจะรู้สึกได้ว่ารถยนต์เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง การควบคุมรถจะทำได้ยาก ถ้าเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดดังกล่าว ต้องตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้มั่นคง อย่าเหยียบเบรคอย่างทันทีทันใด เพราะจะทำให้รถยนต์เสียหลักได้ ควรแตะเบรคอย่างนิ่มนวลเพื่อลดความเร็วของรถยนต์ แล้วเปลี่ยนช่องทางจราจรจอดข้างถนนตรงบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนยางอะไหล่ หรือขอความช่วยเหลือ เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 กรณี ที่กล่าวมาไม่ยากเลยใช่มั้ย ในบางครั้งคุณอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถ อย่างที่เคยขับมาด้วยความเคยชินก็ดี หรือความไม่รู้ก็ดี คุณก็ต้องลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถของคุณดู ลองดูแล้วคุณจะรู้ว่า การขับรถที่มีประสิทฺธิภาพได้เปรียบเชิงกลและมีความปลอดภัยนั้น จะทำให้รถยนต์ของคุณมีความสุข และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและอยู่เคียงข้างคุณไปอีกนานแสนนาน และก็เชื่อว่าคุณและคนที่คุณรักจะต้องมีความสุขแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : //www.one2car.com ที่มา : //data.thaiauto.or.th
สารบัญ รู้เรื่องรถ
Create Date : 12 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 12 มิถุนายน 2553 13:12:23 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1799 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Nxky CN. IP: 58.9.113.123 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:18:57:51 น. |
|
|
|
โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:9:04:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|