Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2562
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
22 กรกฏาคม 2562
 
All Blogs
 
นิยายแปลเรื่องดาวพิษ บทที่ 15 วิกาลภูตกับผู้คุม แปลโดยภาวิดา คนบ้านป่า

LITERATURE
นิยายแปลเรื่องดาวพิษ
บทที่ 15 วิกาลภูตกับผู้คุม
แปลโดยภาวิดา คนบ้านป่า
*********************************************************

ความเดิม:
บทที่ 1 ดาวพิษเวิร์มวู้ด
บทที่ 2 เหตุป่วนสมอง
บทที่ 3 หมอยา
บทที่ 4 ซอยอินนิโก้
บทที่ 5 ปีกเทวดาตกสวรรค์
บทที่ 6 คัมภีร์อาถรรพณ์
บทที่ 7 ร้านบิ๊บเบิ้ลวิคบนสพานลอนดอน
บทที่ 8 ต้องตายก่อนจึงจะได้เป็นอิสระ
บทที่ 9 ตายซ้ำเจ็ดครา
บทที่ 10 ประสานพลังศาสนเวทย์
บทที่ 11 เมืองต้องมนตร์
บทที่ 12 กำเนิดปีศาจร้าย
บทที่ 13 ภายใต้ผ้าคลุมหน้า
บทที่ 14 ไคมีร่า – สัตว์พหุพันธุ์

*****






บทที่ 15 วิกาลภูตกับผู้คุม

ซาราพักยัดมือไฟลงกระเป๋าเสื้อคลุมแล้วทิ้งตัวลงกับพื้นครัวทันทีที่เห็นแคดมุสขยับตัวงัวเงียทำท่าจะตื่นเมื่ออาคมคลาย เสียงโครมครามดังสนั่นในโถงทางเดินและเสียงทุบประตูปลุกแคดมุสให้คืนสติในทันใด ผู้เช่าที่พักนอกนั้นก็ตื่นขึ้นเช่นกัน นายแมนเพอร์ดินั้นตื่นขึ้นมาก็เห็นตัวเองนอนจมกองเลือดอยู่ อาคมที่สะกดคนทั้งบ้านมลายไปแล้ว

เบล้กเหวี่ยงกำปั้นที่สวมถุงมือทุบประตูครัวปังๆ ครั้นเห็นว่ายังปิดแน่นอยู่ก็เตะประตูไม้โครมใหญ่ กลุ่มผู้เช่าหน้าตาอิดโรยเนื้อตัวมอซอทยอยออกจากห้องอาหารมามุงดู

“อย่าให้ใครหนีไปนะ ไอแซค” เบล้กร้องสั่งพลางกระหน่ำเตะประตูจะให้พัง “ถ้าไอ้บ้าตัวไหนบังอาจขยับละก็ เป่ามันซะให้ดับเหมือนหมาเลย”

“ช่วยเราด้วย” ซาราพักดัดเสียงอ่อนระโหยที่สุดเท่าที่จะทำได้ “หล่อนบ้าไปแล้ว หล่อนทำร้ายพ่อตัวเองทั้งที่เขาหลับอยู่แล้วก็หนีหายไปตั้งแต่กลางคืนแน่ะ” ซาราพักถลาล้มลงพลางร้องคราง หวังใจว่าจะมีใครพังประตูเข้ามาทันได้เห็นบทบาทของตน จะได้ไม่ต้องเล่นซ้ำอีก

ชายอ้วนสูงใหญ่ท่าทางหงุดหงิดผมดกดำเป็นกระเซิง มือใหญ่เบ้อเร่อ เล็บยาวสกปรก เดินฝ่าคนออกจากห้องอาหารเข้ามาในห้องโถง เขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งยังได้ยินซาราพักคร่ำครวญเหมือนจะตายด้วย จึงโจนสามก้าวข้ามพื้นหินเข้าไปผลักบอนนั่มและเบล้กให้หลีกทางแล้วพุ่งชนประตูราวกับวัวตัวเขื่อง

บานประตูแอ่นเข้าไปแต่ยังอยู่ในวงกบแล้วดีดกลับสู่สภาพเดิม ชายร่างยักษ์ขมวดคิ้วหรี่ตามองประตู เขายืนตระหง่านค้ำกลุ่มคนที่รอดูอย่างหมายมาดว่าเขาจะพังประตูอีกหน ชายผู้นี้มีอาชีพแสดงพลังให้พวกผู้ดีมีสกุลทั้งหลายในว็อกซ์ฮอลล์การ์เด็นส์ดู เขาเป็นคนร่างยักษ์และกำพร้ามาแต่เกิด และทีแรกก็ได้ชื่อตามชื่อดอกไม้ในตะกร้าหวายที่ใส่เขามาในสัปดาห์แรกที่ลืมตาดูโลก แต่ตอนนี้ ใครๆ ก็รู้จักเขาในนามแคมเปี้ยนหรือเจ้ามนุษย์หมีผู้มีร่างใหญ่เป็นยักษ์ ผมเผ้าดกหนาและซี่ฟันซึ่งเจ้าตัวลับจนเป็นเขี้ยวสีเหลืองแหลมคม

“เอาอีกทีสิ” เบล้กตะโกนสั่งแคมเปี้ยน

“ข้ามี ...” แมนเพอร์ดิงึมงำ มือสาละวนอยู่กับผ้าพันแผล

“โธ่เว้ย” บอนนั่มร้องขัด “พังมันซะทีสิวะ”

“...กุญแจ” แมนเพอร์ดิบอก ท่าทีรู้ดีว่าไม่มีใครฟังเขาเลย
แคมเปี้ยนแผดเสียงคำรามก้องสุดแรงเกิดจนสั่นไปทั้งตัวเมื่อเสียงโหยหวนสะท้อนจากผนังปูน แล้วโถมเข้ากระแทกประตูโครมใหญ่ บานประตูหลุดผลัวะจากบานพับเข้าไปกระแทกโต๊ะในครัว

ซาราพักนอนอยู่บนพื้น โอบรัดแคดมุสไว้ประหนึ่งอสรพิษกำลังเขมือบเหยื่อ เขาร้องโอดโอยพลางบิดตัวไปมาทำเป็นว่าเจ็บปวดแสนสาหัส “ดูสิว่านังหนูนั่นทำอะไรลงไป” เขาร้อง “หล่อนบ้าไปแล้ว ทำร้ายพ่อและพยายามฆ่าข้า หล่อนหนีตามคนแปลกหน้าในห้องใต้หลังคาไป”

“ว่าไงนะ” แคดมุสพึมพำกึ่งๆ รำพึง “ลูกข้าทำอะไร”

“ก็หนีไปไง ทำร้ายท่าน ขังเราไว้ในนี้ แล้วหนีตามไอ้คนเถื่อนในห้องใต้หลังคานั่นไป” ซาราพักพยักเพยิดกับกลุ่มคนที่มามุงดู แมนเพอร์ดิยืนอยู่มุมห้อง ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ มือยังกำลูกกุญแจไว้

“หล่อนหนีไปกับใครกัน” เบล้กถามขณะเดินฝ่ากลุ่มคน ปรี่เข้าไปคว้าปกเสื้อคลุมของซาราพักแล้วฉุดให้ลุกขึ้น “บอกมาสิวะ ไม่งั้นจะเค้นคอให้ขาดใจซะเลย”

“อเก็ตต้าหนีตามไอ้ผู้ชายที่อยู่ในห้องใต้หลังคาไปนะสิขอรับ มันเป็นคนพักแรมชื่อเทกาตัส มาจาก ...” เขาชะงักแล้วหันไปมองแคดมุส ด้วยหวังว่าพ่อของเด็กสาวจะช่วยแต่งเรื่องต่อให้

“จาก ... อิตาลี” แคดมุสพูด “ชื่อเทกาตัส ทำเป็นว่ามีปีก ตัวประหลาดร่วมคณะของข้า เพิ่งซื้อมาใหม่น่ะขอรับ”

“ซาราพัก นี่เจ้าจะบอกว่า เจ้าเทกาตัสคนนี้พาอเก็ตต้าหนีไปเมื่อคืนเรอะ” เบล้กซัก พลางขยุ้มคอเสื้อแน่นขึ้นอีก

“ใช่แล้วขอรับ ท่านเบล้ก เจ้านั่นมันโจรชัดๆ เลวซะไม่มี”

“แล้วเจ้าเห็นหล่อนมีหนังสือบ้างหรือเปล่า”

“หนังสือเหรอ”

“เออ ใช่ หนังสือ เล่มใหญ่ๆ หน้ากระดาษหนาๆ ปกสลักลวดลาย” เบล้กปล่อยมือ ซาราพักร่วงลงไปกองกับพื้น

“อ๋อ หนังสือเล่มนั้นนั่นเอง ใช่ขอรับ หล่อนบอกว่าเป็นของหล่อนและจะเอาไปขาย” ซาราพักกุเรื่อง หวังให้อเก็ตต้าต้องโทษโจรกรรม

“แคดมุส เลเมี่ยน ลูกสาวเจ้าน่ะเป็นโจร” เบล้กตะคอกกลบเสียงซุบซิบของผู้คนที่บัดนี้เข้ามาออกันเต็มครัว “หล่อนขโมยของมีค่าของข้ามาและข้าจะเอาคืน สิ่งนี้ข้าได้รับมอบให้รักษาไว้และมันมีค่าสูงกว่าสิ่งใดในโลก ถ้าไม่ได้คืนละก็ ข้าจะทำให้เจ้ากับลูกสาวโดนแขวนคอแน่ๆ”

“นังหนูก็ขโมยข้า!” แคดมุสเถียง “แถมพยายามฆ่าข้ากับซาราพักตอนเราหลับด้วย”

“เสียดายจริงนะที่หล่อนทำตามแผนไม่สำเร็จ” เบล้กไม่ปิดบังความรู้สึก “ข้าจะพลิกแผ่นดินลอนดอนหาหล่อน ถ้าจับได้เมื่อไหร่ข้าก็จะช่วยไม่ให้หล่อนต้องขึ้นตะแลงแกงหรอก แต่จะเอานังตัวดีถ่วงแม่น้ำเทมส์ซะเอง” เบล้กบันดาลโทสะ การสูญเสียคัมภีร์เน็มโมเร็นซิสไปทำให้ร้อนใจเหมือนถูกไฟเผา และปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะแก้แค้น

“ข้าบังคับนังหนูไม่ได้หรอก ท่านเบล้ก ลูกข้าโตแล้ว เจริญรอยตามแม่น่ะแหละ ท่านจะให้ข้ารับผิดชอบในสิ่งที่นังหนูทำไม่ได้นะขอรับ ดูข้าสิ ข้าก็ตกเป็นเหยื่อของนังลูกใจอำมหิตเหมือนกัน เป็นผู้บริสุทธิ์แท้ๆ ชีวิตช่างเปลี่ยนแปลงกะทันหันจนน่าใจหาย” แคดมุสห่อไหล่พลางแบมือยื่นไปข้างหน้า

“แค่จะช่วยปกป้องแก้ต่างให้ลูกในไส้ เจ้ายังทำไม่ได้เลย เจ้ามันไอ้ขี้เท่อไร้น้ำยาที่เอาแต่ตัวรอด” เบล้กแดกดัน

“ข้าอาจไร้น้ำยาและขี้เท่อ ท่านเบล้ก แต่นังหนูมันขโมยข้าครั้งแล้วครั้งเล่า แถมยังขโมยของผู้อื่นด้วย” แคดมุสรีบร้อนควานกระเป๋าก้นลึกของเสื้อคลุมตัวยาวแล้วควักเหรียญเงินขึ้นมาเต็มกำมือ “ดูนี่สิ ข้าพบเหรียญเหล่านี้ในห้องนังหนู พิโธ่เอ๋ย ข้าว่าคงขโมยท่านมาน่ะแหละ เห็นไหมล่ะขอรับ หล่อนถึงกับขโมยเงินท่านเชียว” แคดมุสเทเหรียญใส่มือเบล้ก

“คิดจะเอาเงินปิดปากข้าหรือไงหา เลเมี่ยน หวังว่าให้ข้าสามสิบเหรียญนี่แล้ว ข้าจะไม่ส่งเจ้าขึ้นตะแลงแกงรึไง”

“ข้าแค่จะคืนสิ่งที่เป็นของท่านให้ท่านเท่านั้น ท่านเบล้ก ข้าเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตที่ถูกลูกของตัวเองเล่นไม่ซื่อนะขอรับ” แคดมุสทำคอตกก้มมองพื้น “หากท่านจับนังหนูได้ ข้ายินดีจะไปเป็นพยานให้ท่านที่ศาลเบลี่ย์ขอรับ”

“เจ้าก็จะได้ฮุบเงินซะ ปล่อยให้หล่อนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกนิวเกตก่อนที่เพชฌฆาตจะมัดหัวแม่มือของหล่อนเข้าด้วยกัน แล้วก็คอยดูเวลาไกแขวนคอทำงานงั้นสิ” เบล้กหันหลังเดินออกประตูไป

“อะไรจะเกิด ท่านเบล้ก มันก็ต้องเกิด ...” แคดมุสพูดช้าๆ ขณะภาพร่างอเก็ตต้าห้อยปวกเปียกอยู่กับตะแลงแกงทริปเปิ้ลทรีผุดขึ้นมาหลอนใจ

เบล้กและบอนนั่มแหวกผู้คนออกไปสู่ถนนที่ยังมืดมัวด้วยหมอก บรรดาผู้เช่ายืนจ้องแคดมุสกันเงียบๆ เจ้ามนุษย์หมีหน้านิ่วคิ้วขมวดยิ่งกว่าเดิมพลางฉวยกุญแจประตูมาจากแมนเพอร์ดิ ซาราพักลอบยิ้ม ใบหน้าเป็นสีแดงด้วยต้องแสงริบหรี่ของถ่านไฟที่ยังคุอยู่

“ออกไปไป๊” แคดมุสตะโกนขณะชี้มือไล่ให้ทุกคนยกเว้นซาราพักออกไปจากห้อง แคมเปี้ยนพยายามแทรกร่างมหึมาผ่านช่องประตูโดยก้มหลบคานหินเหนือประตูไปสู่ห้องโถง นายแมนเพอร์ดิเดินเลือดหยดเป็นทางออกจากครัว ซาราพักก้มลงยกบานประตูที่พังขึ้นมาพิงปิดช่องประตูไว้เสียจากพวกตาสอดดูหูสอดฟัง

“เจ้าทำอะไรลงไป ซาราพัก” แคดมุสถาม สีหน้าฉุนเฉียว “ถ้าไอ้เบล้กจับอเก็ตต้าได้ นังหนูต้องถูกแขวนคอแน่ และถ้าเรื่องจริงมันปูดขึ้นมา ท่านกับข้าเป็นได้เข้าปิ้งไปด้วย ข้ามีความผิดติดตัวเยอะชนิดที่จะทำให้ฉิบหายได้แหงๆ ข้ายังอยากให้คอข้ายาวเท่าเดิมอยู่นะ พอนึกว่าไอ้เอราสมุส ดูวัลล์จะถอดเสื้อผ้าข้าไปขายแลกเหล้า ข้าก็หนาวแล้ว” แคดมุส ไออย่างวิตก ใบหน้ากระตุกถี่ๆ เขาเห็นภาพนิ้วสกปรกของดูวัลล์ เพชฌฆาตคุกนิวเกต ทึ้งกระดุมเสื้อของเขาและขริบผมเขาไปขายให้พวกแม่หมอทำเครื่องรางป้องกันโรคฝีดาษ “พอเราตาย มันก็จะเอาลิ่มไม้ฮอลลี่ตอกทะลุหัวใจ ให้แน่ใจว่าเราจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก”

“เจ้าน่าจะทำอย่างนั้นกับไอ้บลูสกิน แดนบี้บ้างนะ “จะได้ไม่ต้องกลัวมันกลับมารังควานเจ้าอีก” ซาราพักบ่นอุบอิบ

“มันผูกคอตายเองต่างหาก ข้าไม่เกี่ยวนะ”

“ก็แปลกดีนะ คนเราอุตส่าห์แขวนคอตัวเองได้ ทั้งๆ ที่ท้ายทอยโดนกระบองฟาดซะน่วม แถมมือยังถูกมัดไว้ซะด้วย” ซาราพักลากเสียง

“ข่าวลือน่ะ คนก็ซุบซิบกันไปเรื่อย” แคดมุสเถียง

“ก็คิดซะว่าเป็นการสงเคราะห์สังคมเถอะ ช่วยกำจัดตัวกวนเมืองให้พ้นโลก ช่วยบ่งฝีจากหัวแม่โป้งไง” ซาราพักน้ำลายยืดด้วยความตื่นเต้น “หมอนั่นมันคนไร้วิญญาณ เป็นทั้งหัวขโมย อันธพาล ใคร้จะไปคิดถึงคนพรรค์นั้น เผ่าพันธุ์ปีศาจ ไอ้ลาโง่”

“เจ้าอย่าว่าร้ายบลูสกินนะ ข้าไม่ยอมหรอก เขาเป็นเพื่อนที่ดี แม้เราจะไม่ลงรอยกันในบางเรื่องก็เถอะ”

“ความไม่ลงรอยทำให้เขาประสบ ... อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด” ซาราพักกล่าวพลางถูมือไปมา โน้มตัวเข้าไปใกล้แคดมุสและพูดเสียงเบาต่ำ “ข้าเฝ้าแต่คิดนะ แคดมุส เราสองคนเป็นเพื่อนกันมานาน แต่ตอนนี้ธุรกิจเราต้องสะดุด เจ้าเทวดานั่นบินหนีไปแล้วและคงยากจะตามกลับมาได้ ข้ารู้ข้อมูลลับบางอย่างที่ทำให้ข้าอยากเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับชีวิตและลอนดอน ข้าจะไปจากที่นี่เร็วๆ นี้แหละ จะขึ้นเหนือ อากาศที่นั่นน่ะมีชีวิตชีวากว่ามากเลย” ซาราพักมองไปรอบๆ ห้อง ราวกำลังฟังเสียงใครอีกคน “ถึงเวลาแล้วที่เราจะแยกทางกัน สหายรักของข้า แต่ข้าก็จะคิดถึงเจ้าเสมอ”

“แต่เราวางแผนกันไว้แล้วนะ” แคดมุสขึ้นเสียง “เรากะการใหญ่ขนาดจะสร้างโรงหมอกันเพื่อตักตวงเงินทองจากคนป่วยไงล่ะ สิ่งที่เพื่อนเจ้าบอกถึงกับเปลี่ยนแผนของเราได้เชียวรึ”

ซาราพักครุ่นคิด หน้าเครียดด้วยตรองไม่ตก เขามีความลับที่ทำให้ใจสลายและบาดลึกในความรู้สึก เขาเคยปฏิญาณไว้ว่าจะไม่แพร่งพรายให้ใครรู้ความลับนั้น “โอ้ ถ้าเพียงแต่ก้อนหินจะพูดได้” เขาร้องขึ้น “ถ้าเพียงแต่ข้าจะบอกเจ้าได้ว่าต่อไปอนาคตของเจ้าและทุกคนในกองโสโครกแห่งนี้จะเป็นอย่างไรละก็ ข้าคงจะเบาใจกว่านี้” เขามองแคดมุสอย่างเคร่งขรึมแล้วบอกว่า “อยู่ในลอนดอนไม่มีอะไรดีหรอก เจ้าต้องเปลี่ยนอากาศเสียบ้าง ข้าขอบอกในฐานะเพื่อนนะ จงไปจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เกือบจะถึงเวลาที่ก้อนอิฐก้อนหินจะกู่ก้องร้องบอกให้รู้ว่าความทุกข์ทรมานและความตายใกล้เข้ามาแล้ว”

“เมายาฝิ่นหรือ ซาราพัก บ้าไปแล้วรึไง”

“ถ้าข้าบ้าอย่างเจ้าว่า” ซาราพักพูดพลางซบหน้าลงกับฝ่ามือ “ถ้าเป็นคนอื่นข้าก็จะไม่ใส่ใจเลย แต่นี่เป็นเจ้ากับลูกสาว แม่สาวมีนตัวน้อยๆ ของข้า ...”

ทันใดก็เกิดลมฝุ่นหมุนเป็นเกลียววนไปทั่วครัวราวพายุ เครื่องเรือนเคลื่อนที่ เก้าอี้โยกลอยข้ามห้องไป จานดีบุกบนโต๊ะข้างกระทบกันดังโคล้งเคล้ง เทียนไขที่ไหม้ไปแล้วครึ่งเล่มและหม้อน้ำส้มสายชูปลิวเข้าหาผนังหิน

แคดมุสกระโดดถอยด้วยความตระหนกเมื่อโต๊ะสั่นกึกๆ แล้วเคลื่อนทั้งที่สั่นอย่างนั้นไปทางประตูราวกับมีมือที่มองไม่เห็นผลักไป ซาราพักกระโจนหลบให้พ้นทางเมื่อโต๊ะพุ่งเฉียดร่างเขาไปอัดติดกับประตูและขวางทางหนีไว้ กระทะหลุดจากขอแขวนบนเพดาน ร่วงลงใส่คนทั้งสองราวห่าฝน ถังเมล์กระเด็นข้ามห้องแล้วแตกกระจายเหมือนกระสุนจากปืนใหญ่ฝรั่งเศส

“อะไรกันวะเนี่ย” ซาราพักถามอย่างตื่นกลัว

“ฟ้าไหวอีกหนแล้วสินี่ เสียงโลกครวญครางยังกะผู้หญิงกำลังเจ็บท้องออกลูกเชียวโว้ย” แคดมุสตอบ ทัพพีตักแกงคันหนึ่งปลิวหวือข้ามห้องมากระแทกพลั่กเข้าที่อก ที่ข้างตัวนั้น ลิ้นชักเก็บมีดเริ่มสั่นรัว แล้วฝาลิ้นชักก็แตกกระเด็นเข้ากองไฟ ลูกไฟแดงจ้าแตกกระจายไปทั่วพื้น บรรดามีดคมๆ บางๆ พุ่งออกมาจากช่องลิ้นชักบุสักหลาด พลาดแคดมุสอย่างฉิวเฉียดไปปักเข้าที่ผนังเหนือหัว ขณะเจ้าตัวรีบก้มหลบลงไปคุดคู้อยู่หลังอ่างล้างจาน

“มันอยากฆ่าข้า ซาราพัก” แคดมุสร้องบอก “นี่ไม่ใช่ฟ้าไหวแล้วละ ผีนรกแน่เลย”
แคดมุสกระโจนขึ้นไปบนโต๊ะ ขณะที่ซาราพักซ่อนอยู่ข้างๆ โต๊ะนั้น พลางพยายามลากโต๊ะให้พ้นประตูเพื่อจะหนี โดยสอดนิ้วเข้าไประหว่างบานประตูกับวงกบแล้วดึงสุดแรงเกิด ประตูไม้เริ่มเขยื้อนเปิด จนสามารถมองเห็นลำแสงเล็กๆ จากห้องโถงส่องลอดเข้ามาในห้องมืดสลัวแห่งนี้

“แคมเปี้ยน เราติดอยู่ในนี้” แคดมุสร้องขอความช่วยเหลือขณะแทรกมือเข้าไปในรอยแยกที่ถ่างกว้างขึ้น แต่โดยไม่คาดคิดก็มีเสียงดีดดังลั่นเมื่อโต๊ะกระตุกถอยแล้วกระแทกกลับไปข้างหน้าด้วยความเร็วเกินกว่าใครจะคาดได้ แคดมุสแหกปากร้องสุดชีวิต ขาห้อยร่องแร่ง โหนตัวไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ร่างถูกตรึงอยู่ระหว่างผนังกับกรอบประตู

ความเงียบชวนขนลุกบังเกิดขึ้น สายลมเย็นเยือกพัดลอดใต้ช่องประตูครัวเข้ามา หอบผงคลีคลุ้งขึ้นจากพื้นหิน ละอองฝุ่นนั้นค่อยๆ รวมกันก่อตัวเป็นร่างชายผู้หนึ่ง เริ่มจากเค้าโครงเสื้อคลุม ตามด้วยเท้าทั้งสอง และสุดท้ายคือศีรษะกับใบหน้าพร่าเลือน ซาราพักเบียดตัวชิดผนังเมื่อเห็นภาพหลอนนั้น มือหนึ่งล้วงดาบสั้นขึ้นมาจากกระเป๋า อีกมือหนึ่งกำกิ่งเฮ็นเบนแห้งไว้ เขาพึมพำท่องคาถาไล่ผีซ้ำแล้วซ้ำเล่า อัญเชิญนักบุญทุกสารทิศมาปกป้องตน

โต๊ะสั่นอย่างรุนแรงจนเขยื้อนหลุดออกจากประตู แคดมุสหล่นลงไปกองหมดสภาพอยู่กับพื้น โงหัวขึ้นจ้องภาพเบื้องหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

ซาราพักเอามีดชี้ผีตนนั้นพร้อมกวัดแกว่งกิ่งเฮ็นเบน “จงไป เจ้าผีร้าย จงกลับลงนรก ไปให้พ้น” เขาตะโกน กระโดดหย็องแหย็งไปมาอย่างแหยงๆ “ในนามของนักบุญวีเนอเรียส ข้าขอสั่งให้เจ้าไป”

วิญญาณนั้นดูดกลืนอณูแสงในห้องไปทั้งหมดขณะที่ก่อตัวเป็นรูปร่างมีเนื้อมีหนัง มันยืนอยู่เบื้องหน้าคนทั้งสอง เห็นใบหน้าไม่ชัดด้วยหมอกคลุ้มที่ลอยอยู่ในอากาศ ตัวมันสั่นและกระตุกถี่ๆ ขณะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้น ในที่สุด ก็มองเห็นเครื่องหน้าได้ชัดเจน
แคดมุสจำผีตนนี้ได้จากผิวสีฟ้าและรอยสักมีชีวิตที่พันบนร่าง ใจเขาเต้นระรัวขณะรอให้เจ้าปีศาจเปิดปากพูด เขารู้ดีว่าผีที่ปรากฏตัวนี้คือ บลูสกิน แดนบี้ แค่คิดว่ามันฟื้นคืนชีพขึ้นมาก็ทำให้แคดมุสหนาวเยือกเข้าไปถึงกระดูกแล้ว เขารู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงไหลหลั่งออกจากทุกส่วนของร่างกายเมื่อถูกเจ้าผีนั้นมองด้วยดวงตาไร้แวว ดูเหมือนแดนบี้จะยังมองไม่เห็นเขา ราวกับว่ามันสำรวจไปรอบๆ แต่เห็นห้องนี้ในช่วงเวลาอื่น

ซาราพักผู้คุดคู้อยู่ข้างโต๊ะส่งเสียงทำลายความเงียบ “เจ้าคงไม่ต้องการข้าหรอก เขาอยู่นั่นไง” เขาตะโกนบอกปีศาจที่บัดนี้กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างกระตือรือร้น งูใหญ่เคลื่อนอยู่บนร่างของผีบลูสกิน เลื้อยแหวกเส้นผมกระด้าง และทอดตัวลงไประหว่างริมฝีปากบางสีม่วง แล้วเลื้อยกลับไปกลับมาบนหัวผีแดนบี้

“ข้าได้ยินเสียงเจ้านะ เจ้าวายร้าย แต่มองไม่เห็น” แดนบี้พูดขณะเขม้นมองฝ่าความมืด

“ข้าจำเสียงนี้ได้ แต่ไม่แน่ใจว่ารู้จักเจ้าเมื่อไหร่ นึกไม่ออกว่าเคยพบเจ้าที่ไหน”

“ซาราพักไง หมอซาราพัก ข้าเป็นหมอของเจ้า”

“ซาราพัก ... อ้อ ข้าจำเจ้าได้ ซาราพัก เมาแอ๋ตลอดศก ไม่เคยมีเงินติดตัวสักเก๊เดียว ทำคนไข้ตายมากกว่ารักษาหาย ให้กินกะหล่ำห่อสารหนูและยาฝิ่น ให้ดื่มเหล้าเอลหนึ่งไพน์ผสมปรอทหนึ่งปอนด์เพื่อกำจัดความหนาวเหน็บในหน้าหนาว แบบนั้นแหละคือซาราพัก”

“ใช่ ก็มันช่วยแก้หนาวได้จริงๆ นี่” ซาราพักขัด

“หญิงน่าสงสารที่ดื่มยาเจ้าเลยตายแหง ข้าจำนางได้แม่น เฮเลน ฟิวรี่ที่อยู่โรงเหล้าแบล็คไลอ้อน ตรอกดรูรี่ไง นางมารักษาคืนก่อนวันฉลองนักบุญไมเคิล วันรุ่งขึ้นข้าเฝ้าอาการ เห็นนางสำลักจนขาดใจตาย ส่วนเจ้ากลับเมาแอ๋ ช่วยนางก็ไม่ได้”

“เจ้าไม่ได้มาหาข้านะ บลูสกิน ข้าไม่เคยคิดทำร้ายเจ้า” ซาราพักโอด

“ข้าเห็นเจ้าผ่าศพข้า ตอนนั้นข้ายังพยายามต่อสู้ยื้อชีวิตไว้ไม่ยอมปล่อย ข้าถูกสาป ถูกพ่อมดในภพอเวจีอันมืดมิดจับไว้ ตอนนี้วิญญาณข้าก็ยังยื้อยุดอยู่ระหว่างสุขภาพกับการถูกลงทัณฑ์ เหมือนเมื่อยังมีชีวิตอยู่”

“เจ้าต้องการพบข้ารึ บลูสกิน” แคดมุสผุดลุกขึ้นเผชิญหน้าปีศาจ “ข้าจะไม่เล่นสกปรกกับเจ้าหรอก ตอนเจ้ายังมีชีวิตข้ายังไม่เคยหลบหน้าเจ้าเลย แล้วทำไมจะต้องมากลัวตอนที่เจ้าตายแล้วด้วยเล่า”

“เสียงเจ้าช่างเสนาะหูอะไรเช่นนี้ ตอนที่ข้าตาย ข้าก็ไม่เห็นเจ้า มาตอนนี้ข้าได้ยินเสียงเจ้าอีกครั้ง”

“เจ้าต้องการอะไรจากข้าหือ บลูสกิน อย่ามามัวเล่นลิ้นอยู่เลย”

“ข้านำของขวัญมาให้ แม้มือข้าจะเปลี้ยเกินจะถือไหว แต่ข้าบอกได้ว่ามันอยู่ที่ไหน เจ้าฆ่าข้าเพราะอยากได้สิ่งนั้นแต่กลับหามันไม่เจอ นี่แน่ะแคดมุส ข้าน่ะสงสัยอยู่แล้วว่าเจ้าคิดไม่ซื่อ เลยขุดทองขึ้นมาแล้วเอาไปซ่อนไว้ในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง แอบซ่อนไว้ใต้ชั้นหนังสือ แล้วเอาหนังสือจุลเลขการปิดปากหลุมเอาไว้ เจ้าจะพบมันตรงนั้นแหละ ทองไม่มีประโยชน์ต่อข้าแล้ว ผ้าตราสังก็ไม่มีกระเป๋าใส่เงินซะด้วยสิ” บลูสกินถอนใจยาวอย่างเศร้าสร้อย

“เจ้าไม่ล้างแค้น แต่กลับเอาของขวัญมาให้ ... ทำไมล่ะ” แคดมุสถาม

“ความตายสอนคุณธรรมนานัปการให้เราปล่อยวาง ข้าจึงไม่อยากถือโทษโกรธใครอีก หัวใจข้าไม่เหลือที่ว่างสำหรับเล่ห์กระเท่ห์ของมนุษย์แล้ว ข้ายอมสละทุกอย่างเพื่อแลกกับเวลาหนึ่งปีกับอีกหนึ่งวันในร่างมนุษย์ ให้ผิวข้าได้อาบแสงแดด ให้ริมฝีปากได้ลิ้มรสเหล้ายิน ถ้าได้อย่างที่หวังก็คงเหมือนได้คืนสู่สวรรค์ ความพึงพอใจในรสสัมผัสเป็นสิ่งเดียวที่ข้ารู้จัก และสูญเสียไป” เจ้าปีศาจมองไปยังจุดที่แคดมุสยืนอยู่ “เจ้าเสพสุขมาหลายปีแล้ว แคดมุส รับของขวัญจากข้า เอาไปใช้ซะให้คุ้ม เพราะอีกไม่นานเจ้าก็จะเป็นเช่นข้านี่แหละ”

เสียงเด็กกรีดร้องแผ่วๆ แว่วมาแต่ไกลจากทุกทิศทุกทาง สำเนียงเหมือนทุกข์ทรมานเพราะถูกลงโทษระหว่างเล่นกัน เสียงนั้นดังใกล้เข้ามา “ผู้ปกครองมาตามตัวข้าแล้ว” บลูสกินกล่าวขณะเริ่มสลายร่างเป็นผงฝุ่น “อย่าลืมทำตามที่ข้าบอกเร็วๆ นะ แคดมุส เจ้าอยากได้เงินนี้เมื่อข้ายังมีชีวิตอยู่ เจ้าก็จงใช้เงินนี้เมื่อข้าตายแล้วเถอะ”

เงาร่างเล็กๆ ดำทะมึนสามร่างเดินทะลุประตูไม้เข้ามาราวกับว่าไม่มีบานประตูอยู่ตรงนั้น แล้วเข้ายืนจับมือล้อมวงกันเต้นระบำไปรอบๆ ตัวแดนบี้ ทั้งสามตนไม่มีรูปร่างชัดเจน เป็นเพียงเงาขนาดเท่าเด็กเล็กๆ ที่ตายแต่เยาว์ ร่างวิญญาณน้อยๆ สีเทาเต้นระบำเวียนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะกลองที่ไม่มีใครได้ยิน แดนบี้เริ่มเลือนหาย ลมหมุนเป็นวงกรูเกรียวเข้ามาในครัวมืดทึม กระพือพัดหม้อกระทะครูดพื้นเสียงดังเคล้งๆ ทั้งลากโต๊ะกลับเข้าไปไว้กลางห้อง

ซาราพักตัวสั่นด้วยความกลัว เมื่อเห็นทั้งสามร่างหลอมรวมกันเป็นดวงไฟขาวบริสุทธิ์มีประกายแวบวาบส่งเสียงดังฟู่ๆ อยู่กลางห้องครัว เขายกมือขึ้นปิดหน้ากั้นแสงจัดจ้าจนตาแทบบอดนั้น ส่วนแคดมุสพยายามจ้องสู้แสงสว่างให้นานที่สุดเท่าที่จะทนได้ก่อนยกมือปิดตา เพียงชั่วพริบตา แสงนั้นก็ดับวูบลงทิ้งให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดสนิท มีเพียงแสงจากเตาผิงและแสงเทียนริบหรี่ที่เล็ดลอดผ่านรอยแตกของประตูเข้ามาในห้อง

“เจ้ายังอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า ซาราพัก” แคดมุสถามเสียงอ่อนระโหย มะงุมมะงาหราคลำหาเก้าอี้ราวกับคนตาบอด “ข้ามองไม่เห็นเจ้า ผีมันเผาตาข้าไหม้หมดแล้ว”
แด๊กด้า ซาราพัก ย่องไปอีกฟากหนึ่งเพื่อเปิดประตูครัวอย่างเงียบเชียบ ค่อยๆ เลื่อนแผ่นไม้ออกจากช่องประตูก่อนจะหลบเข้าห้องโถง แล้วเผ่นออกถนนไป

“แด๊กด้า ข้ามองไม่เห็นเลย เจ้าอยู่ไหน” แคดมุสถามขณะตะเกียกตะกายไปรอบๆ ครัว เดินเซไปชนเอาโต๊ะเข้าให้แล้วล้มลงกับพื้น “ช่วยข้าด้วย เพื่อน ช่วยด้วย”

ในมุมอันมืดมิดของห้องนั้น เงาดำร่างหนึ่งแนบตัวชิดผนัง รอคอยให้แคดมุสเดินตุปัดตุเป๋เข้าไปใกล้กว่านั้น


บทแปลนี้มิใช่เวอร์ชั่นก่อนพิมพ์เล่ม
จึงยังมีความลักลั่นเรื่องชื่อสถานที่อยู่บ้าง
ขออภัยด้วยค่ะ

(ติดตาม
บทที่ 16 สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์
วันที่ 27 กรกฎาคม ค่ะ)

LITERATURE
 ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต



Create Date : 22 กรกฎาคม 2562
Last Update : 28 กรกฎาคม 2562 21:04:17 น. 37 comments
Counter : 1507 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเริงฤดีนะ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณmcayenne94, คุณThe Kop Civil, คุณหอมกร, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเนินน้ำ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmariabamboo, คุณตะลีกีปัส, คุณtoor36, คุณnewyorknurse, คุณkae+aoe, คุณmambymam, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSweet_pills, คุณtuk-tuk@korat, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณอุ้มสี, คุณTurtle Came to See Me, คุณALDI


 


สวัสดียามเช้าครับพี่ภา

ชอบคำว่า "วิกาลภูต" ครับพี่ภา
ผมเพิ่งเคยอ่านเจอเป็นครั้งแรก
เป็นคำที่เพราะดีครับ
แล้วก็สื่อความหมายได้ตรงด้วย




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:43:44 น.  

 
Fanclub มาจองที่ไว้ก่อนนะคะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:7:28:04 น.  

 
ส่งกำลังใจไว้ก่อนครับ พี่ภา



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:27:39 น.  

 
ตอนนี้ผมมองไปที่ยูทูปครับ
มีโครงการจะทำคลิปมากมายเลย
ผมคิดว่าเมื่อคนอ่านไม่อยากอ่าน
เราก็ทำหนังสือเสียงเสียเลย 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:39:15 น.  

 
สวัสดีวันแรกของสัปดาห์ค่ะพี่ภา

ไปเจอรูปในเฟสแมงดาพอดีเลยเอามาลงบล็อกเล่น

แม่ค้าก็ตลกดีมีการเขียน

ใครเจอแม่ค้าร้านนี้คงขำและแอบยิ้มกันบ้าง

แถวบ้านในตลาดขายแพงค่ะ ตัวละ 20 บาท

ถ้าตำน้ำพริก โอเล่ใช้กลิ่นแบบขวดแทนเอาเลยค่ะพี่

ขอบคุณมากค่ะพี่ภาที่แวะคุยเล่น


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:9:59:29 น.  

 
ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
แฟนคลับแวะมาลงชื่อให้พี่ภานะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:12:30:59 น.  

 
สมัยก่อน คงมีการอยากได้ของคนอื่น ลักโขมย
มีอำนาจเวทมนต์..คัมภีร์...

ภาพยนต์ในปัจจุบัน บินด้วยยานอวกาศ ยังมีพลัง
จิต หรือพลังพิเศษ สามารถผลักให้คนกระเด็น
ไปคนละทางได้...

บางครั้งยัง งง.อยู่ว่ามีเครื่องมือวิทยาศาสนตร์เยอะ
ทำไมไม่ใช้แทนพลัง

...

แต่ถ้าเรื่องย้อนไปน่าจะ 100 ปีได้มังครับ 555
ใช้เวทมนต์ ไม่แปลกใจ..อ่านข้างบนแล้วผมนึก
เห็นหมอกหนา ลอยเลี่ยกับแม่น้ำเทมส์ แสงน้อย
ความหนาวเย็นจน น้ำมูกไหล แหะ ๆ

แสงก็น้อย คนสมัยก่อนเลยใช้ผ้าสีทึบเพื่อดูดซับ
แสงอาทิตย์ที่น้อยนิดให้ร่างกายอบอุ่น กลิ่นตัว
เขาไม่ค่อยอาบน้ำ 555

ผู้เขียน ๆ ได้ได้เจ๋งครับพี่ ส่วนเรื่องจะดำเนินไป
แบบไหนคงต้องติดตามต่อไป


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:38:38 น.  

 
หยอดกระปุกสะสมไว้เช่นเคยนะคะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:17:47:50 น.  

 
โหย!! ตอนนี้อเก๊ตต้าโดนใส่ร้ายแหลกราน

พ่อก็ยังดีนะ
รู้จักแก้ต่างให้ และไม่ตกใจในสิ่งที่ซาราพักบอกกล่าว

การปรากฎตัวของผีแดนบี้ ดูน่ากลัวมาก
ตรงข้ามกับพฤติกรรมต่อมาของเขาแบบหักมุม

ว่าแต่ว่าจำไม่ได้แล้วว่า
เงาดำร่างหนึ่งแนบตัวชิดผนัง
เป็นใครกันนนน

ติดตามๆค่ะบทที่ 16 ต่อไป ในอีก 5 วันข้างหน้า


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:25:56 น.  

 
สวัสดี ยามเย็นค่ะ พี่ภา

บล็อกนี้ บทที่ 15 แล้วนะคะ วิกาลภูต ชื่อ
เป็นไปตามเนื้อเรื่องเลย ค่ะ วิกาล ยามค่ำคืนดึกดื่น
ภูต คือ ผี "ผียามค่ำคืนดึกดื่น" เหตุการณ์เรื่องผี
ก็เกิดในยามกลางคืน อิอิ
ผี บลูสกิน แดนบี้ เจอแล้วในตอนก่อน มีชีวิต
ยังไม่ตายจริง ๆด้วยเนาะ ส่วนผีอีกตัวตอนใกล้จบ
ตอนนี้ ใครอีก คะเนี่ย รอติดตามตอนต่อไป ค่ะ

โหวดหมวด งานเขียน

พี่ภารักษาสุขภาพ นะคะ รออ่านตอน 16 ค่ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:29:49 น.  

 
ตอนนี้ผีเยอะแยะเลยค่ะ



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:46:27 น.  

 
ขอบคุณค่ะพี่หนูหล่อ ขอบคุุณสำหรับการต้อนรับการกลับมาของเจนค่ะ


โดย: Jenny&tristan@the uk IP: 163.172.136.205 วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:53:11 น.  

 
ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog


ส่งกำลังใจค่ะคุณแม่
แม่โมเองก็เงียบและหายค่ะ เวลา กำลัง
คุณแม่สบายดีนะคะ
อ่านจากการแปลแล้วเป็นการใช้เวลาที่ดีมากค่ะ
ถือเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปนะคะ


โดย: mariabamboo วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:55:48 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

ซาราพักรักเพื่อนจริงหรือ
จึงบอกเป็นนัยให้แคดมุสหนีออกจากเมือง
เพราะรู้ดีว่าจะเกิดหายนะอะไรในอนาคต

บลูสกินหวังให้ซาราพักได้ทองจริงๆหรือ แค่เป็นอุบายแก้แค้น

เบล้กจะเอาคัมภีร์คืนจากอเก็ตตาหรือไม่
ติดตามต่อค่ะ

เริ่มหลายตอนเข้า สมงสมองเลือไปหมดแล้ว
เริ่มจำตัวละครไม่ได้ ...ถ้าชื่อ เขียว แดง เหลือง ดำ ก็คงจะจำได้ง่ายหน่อยค่ะ...แฮ่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:01:45 น.  

 
คิดว่า บลูสกิน จะร้าย มาเพื่อฆ่าแคดมุส
ซาราพักนี่คงหาความดีไม่ได้แน่ ไม่น่าคบเลย
ส่วน แธดเดียส ก็น่าจะร้ายอีกไหมคะ ยิ่งตามยิ่งตื่นเต้น ความลับค่อยๆเผย

รอตอนต่อไปค่ะ
ขอบคุณนะคะ


โดย: วลีลักษณา วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:32:30 น.  

 
ตามมาให้กำลังใจครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2562 เวลา:22:15:46 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ภา
แวะมาส่งกำลังใจค่ะ
เพิ่งกลับบ้าน ไปเยี่ยมหลาน มาถึงต้นดอกไม้
ถั่วฝักยาวปลูกไว้ใบเต็มต้นงาม เหลือแต่กิ่ง
หญ้าเต็มไปหมด ระยะนี้ต้องวุ่นๆหน่อยค่ะ

ขอให้พี่รักษาฟันเรียบร้อยและหายไวๆนะคะ


โดย: newyorknurse วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:4:57:01 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภา



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:43:20 น.  

 
อ่านได้หน่อยเดียวค่ะพี่ภาเพราะรู้สึก
ชื่อตัวละครมันค่อนข้างจำยากไปหน่อยนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:03:39 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าภา

กิจกรรมโรงเรียนน้องซีเยอะ วันนี้สอบแล้วค่ะ



โดย: kae+aoe วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:8:48:07 น.  

 
ผมชอบครูมอร์รีมากๆครับ
อ่านกี่ครั้งก็ได้อะไรดีดีกลับมาเสมอ

เชียงใหม่เช้านี้ฝนตกหนักเลย
ค่อยยังชั่วครับพี่
ร้อนจัดมาหลายวันเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:00:37 น.  

 
19.. เข้าใจๆๆๆค้าบ
แวะมาอ่านบ้าง ให้กำลังใจบ้าง บ่นบ้าง
ก็เป็นผู้อ่านที่น่ารักที่ซู้ดดดดแล้วค้าบ
เท่าที่อัพมาถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่า เพื่อนไม่อยาก
มาทักทายให้โหวตเวลาหน้าบล็อกเป็นดาวพิษ
หลายคนแล้วจ้าาา แต่ก็ต้องอัพให้จบน้าาา
เพราะยังมีเพื่อนๆที่ตามลุ้นอยู่ แม้จะไม่กี่คน
ก็สำมะคัญจ้าาา ยังดีที่เพจวิวไม่ขี้เหร่มาก
วันเดียว 140 พอถูไถแว้ว ในสภาพบล็อกตอนนี้

ก็เข้าใจอีกด้วยที่ว่า ตัวละครเยอะมาก
แถมเรียกยากจำยากอีก เหอเหอ แงแง



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:23:11 น.  

 
เขียนเรื่องต้นไม้ แต่ใจไพล่ไปกองอยู่ที่แมว 555
ต้นไม้เป็นของตายค่ะ วางอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น
แต่แมวเป็นสิ่งมีชีวิต มันตามติดเราเหมือนเจ้าหนี้ยังไงยังงั้น อิอิ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
ไม่ได้อ่านเรื่องนี้ แต่รออ่านเรื่องนุ้งค่ะ อิอิ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:39:11 น.  

 
ค่าฝุ่นลดลงเป็นปกตินานหลายเดือนแล้วครับพี่
พอมีเห็ดถอบขาย
ก็เป็นอันรู้กันว่าฤดูเผาป่าจบสิ้นครับ 5555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:29:15 น.  

 
ต๋าหายไปนาน
ขอรายงานตัวส่งกำลังใจให้พี่ภาก่อนนะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:35:05 น.  

 
เขียนเก็บไว้ค่ะพี่ภา ว่างก็มาอัพ^^

ฝนตกชุ่มฉ่ำเลยค่ะพี่ค่ำนี้..นอนสบายเลย...


โดย: สันตะวาใบข้าว วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:19:51:10 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะพี่ภาขา

ขอบคุณอิแปะกริ๊งๆด้วยค่ะ
ตามไปตามมา เป็นพวงมะโหดเลยค่ะ
ช่วงนี้สายตาพร่าเลือนบ่อยค่ะ
หยอดตาทุกวันไปก่อนค่ะ
พี่ภาบรรเทาอาการปวดฟันระบมเหงือกรึยังคะ ขอให้หายเจ็บโดยไวค่ะ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:20:20:08 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ ..



โดย: poongie วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:05:08 น.  

 
ตามเข้ามาอ่านนะคราบ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:38:27 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
haiku Fanclub Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Travel Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ตะลีกีปัส Diarist ดู Blog
จันทราน็อคเทิร์น Diarist ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog

แวะมาอ่านต่อค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 23 กรกฎาคม 2562 เวลา:23:16:49 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับพี่ภา



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:6:29:54 น.  

 
หลวงพ่อพระประธานที่วัดถ้ำปลา จ.เชียงรายครับพี่ภา
วัดนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวจีนมากๆเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:11:24:08 น.  

 
เวลาไปบ้านมาดาม
ผมจะเดินเที่ยวอยู่สองวัดครับพี่ภา
วัดถ้ำปลากับวัดถ้ำเสาหินพญานาค
ไปทุกครั้ง บางครั้งก็สองสามรอบเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:13:11:51 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

ขอบคุณกำลังใจและความห่วงใยค่ะ
ตอนนี้รำคาญขี้ตาที่มาจากไหนนักหนาก็ไม่รู้ค่ะ
เช็ดกันไม่หวาดไหว
มัวตาฝ้าฟางตลอดๆๆๆ
แต่ก็ชอบมาอยู่หน้าจอ หมอห้ามอยู่นานๆ
แล้วก็ไปนอนฟังเพลง พักผ่อนสายตาค่ะ
บรรเลงเพลงคร่อกฟี้ต่อไป


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:14:36:57 น.  

 
แวะมาคุยกับพี่ภา เรื่องน้ำพริกแกงใต้ค่ะ

ทำเองได้ง่ายๆ เลยค่ะ สูตรเยอะแยะ เสริจไม่ยาก ถ้าไม่ชอบเผ็ดก็ลดพริก ถ้าขี้เกียจตำ ก็ปั่นเอาค่ะ แต่ขมิ้นต้องตำในครกก่อนผสมค่ะ

น้ำพริกแกงใต้ จะร้อนๆ เพราะพริกไทยและขมิ้นค่ะ ไม่จำเป็นต้องเผ็ดเสมอไปค่ะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 24 กรกฎาคม 2562 เวลา:21:28:04 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:09:30 น.  

 
อ่านจบอีก 1 บท
ทองในร้านหนังสือจะมีจริงไหม
ชอบประโยค ความตายสอนคุณธรรม...ให้เราปล่อยวาง




โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 สิงหาคม 2562 เวลา:11:18:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ภาวิดา คนบ้านป่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 140 คน [?]




BG Pop.Award #17
BG Pop.Award #16
BG Pop.Award #15
BG Pop.Award #14
BG Pop.Award #13
BG Pop.Award #12
BG Pop.Award #11
BG Pop.Award #10
BG Pop.Award #9
BG Pop.Award #8
BG Pop.Award #7
BG Pop.Award #6
*****
*****
Friends' blogs
[Add ภาวิดา คนบ้านป่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.