Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 
11 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 

พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ .. ทรงเห็นสัตว์ดุจดอกบัว ๓ เหล่า

.




ราชกุมาร !
ครั้งนั้น เรารู้แจ้งคำเชื้อเชิญของสหัมบดีพรหมแล้ว, และเพราะอาศัยความกรุณาในสัตว์ ท. เราตรวจดูโลกด้วยพุทธจักขุแล้ว. เมื่อเราตรวจดูโลกด้วยพุทธจักขุอยู่, เราได้เห็นสัตว์ ท.
- ผู้มีธุลีในดวงตาเล็กน้อยบ้าง, มีมากบ้าง,
- ผู้มีอินทรีย์แก่กล้าบ้าง อ่อนบ้าง,
- มีอาการดีบ้าง เลวบ้าง,
- อาจสอนให้รู้ได้ง่ายบ้าง ยากบ้าง;
- และบางพวกเห็นโทษในปรโลก โดยความเป็นภัยอยู่ก็มี
;

เปรียบเหมือนในหนองบัวอุบล บัวปทุม บัวบุณฑริก, ..
- ดอกบัวบางเหล่าเกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ยังจมอยู่ในน้ำ,
- บางเหล่าเกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ ตั้งอยู่เสมอพื้นน้ำ,
- บางเหล่าเกิดแล้วในน้ำเจริญในน้ำ อันน้ำพยุงไว้ โผล่ขึ้นพ้นน้ำ อันน้ำไม่ถูกแล้ว, มีฉันใด
,


(หมายเหตุ .. จขบ
บัว 3 เหล่า .. ไม่ใช่บัว 4 เหล่า อย่างที่เรามารับรู้กันภายหลัง .. แปลว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่เรารับรู้กันอยู่ในปัจจุบันมีความบิดเบือน เบี่ยงเบนจาก พุทธวจนะอยู่ไม่น้อย .. จากชั้นอรรถกถาที่ตั้งตนเป็นผู้รู้ของภิกษุชั้นหลัง และพยายามอธิบายพุทธธรรมสั่งสอนคน ..
)


ราชกุมาร !
เราได้เห็นสัตว์ทั้งหลายเป็นต่างๆ กันฉันนั้น.

ราชกุมาร! ครั้งนั้น เราได้รับรองกะสหัมบดีพรหมด้วยคำ (ที่ผูกเป็นกาพย์) ว่า:-

"ประตูแห่งนิพพานอันเป็นอมตะเราเปิดไว้แล้วแก่สัตว์เหล่านั้น, สัตว์เหล่าใดมีโสตประสาท สัตว์เหล่านั้น จงปลงศรัทธาลงไปเถิด, ดูก่อนพรหม ! เรารู้สึกว่ายาก จึงไม่กล่าวธรรมอันประณีตที่เราคล่องแคล่วชำนาญ ในหมู่มนุษย์ ท." ดังนี้.

ราชกุมาร !
ครั้งนั้น สหัมบดีพรหม รู้ว่า ตนเป็นผู้ได้โอกาสอันพระผู้มีพระภาค ทรงกระทำแล้วเพื่อแสดงธรรม, จึงไหว้เรากระทำอันประทักษิณแล้ว อันตรธานไปในที่นั้น นั่นเอง.
.
.
.
บาลี. ม.ม. ๑๓/๔๖๓/๕๑๑.
ตรัสแก่โพธิราชกุมาร.




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2555
0 comments
Last Update : 11 สิงหาคม 2555 7:00:34 น.
Counter : 1410 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.