อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ทรงพบ
.
ต่อไปนี้มีการตรัสเล่าถึง การประพฤติอัตตกิลมถานุโยคจนอุปมาปรากฏ และทรงทำทุกรกิริยา แล้วทรงเลิกหมุนไปจับเอาการกระทำความเพียรทางใจ ดังแสดงไว้ในพระพุทธประวัติต่าง ๆ จนได้ "พบ" คือตรัสรู้ความจริงอันประเสริฐ.
...........................
ภิกษุ ท. ! เรานั้น, ครั้นเมื่อจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่ได้ ไม่หวั่นไหว เช่นนี้แล้ว, ได้น้อมจิตไปเฉพาะต่อ ญาณเป็นเครื่องสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย เรารู้เฉพาะแล้วตามเป็นจริงว่า ..
- นี้เป็นทุกข์, - นี้เป็นเหตุให้เกิดทุกข์, - นี้เป็นความดับไม่เหลือของทุกข์, - และนี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์
- เหล่านี้เป็นอาสวะทั้งหลาย, - นี้เป็นเหตุให้เกิดอาสวะ, - นี้เป็นความดับไม่เหลือของอาสวะ, - และนี้เป็นทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของอาสวะ ดังนี้.
เมื่อเรารู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตก็พ้นแล้วจาก .. - อาสวะคือกาม - อาสวะคือภพ - อาสวะคืออวิชชา.
ครั้นจิตพ้นแล้ว ก็เกิดญาณหยั่งรู้ ว่า "พ้นแล้ว" เรารู้เฉพาะแล้ว ว่า .. - ชาติสิ้นแล้ว - พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว - กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว - กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความหลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! นี้แล วิชชาที่สาม ที่เราได้บรรลุแล้วในปัจฉิมยามแห่งราตรี. อวิชชาถูกกำจัดแล้ววิชชาเกิดขึ้นแล้ว; ความมืดถูกกำจัดแล้ว ความสว่างเกิดขึ้นแล้วโดยประการที่เกิดขึ้นแก่บุคคลผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วแลอยู่ . . . มู. ม. ๑๒/๒๓๗/๒๕๓.
Create Date : 29 มกราคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2556 8:47:56 น. |
Counter : 925 Pageviews. |
|
|
|