Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 
26 มกราคม 2556
 
All Blogs
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. มุมน้อยมุมหนึ่งของความทุกข์ ที่พระองค์ไม่มี

.





พระพุทธองค์ทรงชี้ทุกข์และทางดับทุกข์ได้ ก็เพราะพระองค์ทรงรู้จักดี จนถึงกับทำความหลุดพ้นให้พระองค์เองได้. ทุกข์อันไม่รู้จักสิ้นสุดของโลกนั้น พระองค์หลุดพ้นได้สิ้นเชิง ทั้งอย่างต่ำ อย่างกลาง และอย่างประณีต.

ในทุกข์อย่างต่ำ ๆ ซึ่งเรามักจมกันอยู่โดยสนิทใจ จะได้ยกตัวอย่างที่พระองค์ทรงนำไปตรัสให้สติพราหมณ์ผู้หนึ่ง มาเป็นเครื่องสาธกดังต่อไปนี้ :-

พราหมณ์ !
วัว ๑๔ ตัว จะได้หายหาไม่พบ ๖ วันมาแล้วแก่เรา ก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ ! เราจึงเป็นผู้มีความสุข.

ต้นงาในไร่ จะยับเยินมีใบเหลือเพียง ๒-๓ ใบ แก่เราก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ !
เราจึงเป็นผู้มีความสุข.

พวกหนู จะกระโดดโลดเต้นในยุ้งเปล่า แก่เรา ก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ !
เราจึงเป็นผู้มีความสุข.

ที่นอน ซึ่งละเลยไว้ตั้ง ๗ เดือน (มิได้ชำระเพราะไม่มีเวลาว่างพอ) เกลื่อนไปด้วยตัวสัตว์เล็ก ๆ จะมีแก่เราก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ !
เราจึงเป็นผู้มีความสุข.

ลูกเล็กหญิงชาย ของลูกสาวที่เป็นหม้าย มีลูกติดคนหนึ่งบ้าง สองคนบ้าง จะมีแก่เรา ก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ !
เราจึงเป็นผู้มีความสุข.

โรคผมเหลืองตัวสะพรั่งด้วยเมล็ดงา จะมีแก่เรา ก็หามิได้, เราจะถูกปลุกด้วยการถีบเตะทั้งนอนหลับ ก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ !
เราจึงเป็นผู้มีความสุข,

พวกเจ้าหนี้ที่มาทวงหนี้ แต่เช้าตรู่ว่า 'จงใช้, จงใช้' จะมีแก่เราก็หามิได้, เพราะเหตุนั้นแหละ

พราหมณ์ !
เราจึงเป็นผู้มีความสุข;

ดังนี้.
.
.
.
สคา. สํ. ๑๕/๒๕๐/๖๖๙




 

Create Date : 26 มกราคม 2556
0 comments
Last Update : 26 มกราคม 2556 7:54:07 น.
Counter : 1070 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.