อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ทรงแสวง
.
การที่พระองค์จะทรงชี้ทุกข์และทางดับทุกข์ได้ ก็เพราะพระองค์ทรงคิดค้นอย่างจริงจัง มิใช่มีได้ด้วยการนอนรอคอยให้มาปรากฏ หรือแม้ว่าด้วยการฟังหรือการเรียนอย่างตื้น ๆ หยาบ ๆ.
พระองค์ทรงหน่ายกาม จนขยะแขยงจนอึดอัด เนื่องจากมองเห็นความหลงทุกข์เป็นสุข แล้วหมักจมอยู่ ซึ่งเป็นการใช้เวลาของชีวิตให้หมดเปลืองไปโดยไร้ประโยชน์.
.............................
ราชกุมาร ! เมื่อเรายังเป็นโพธิสัตว์ ยังไม่ได้ตรัสรู้ ก่อนแต่การตรัสรู้ ได้เกิดความรู้สึกขึ้นภายในใจ ว่า .. "ชื่อว่าความสุขแล้ว ใคร ๆ จะบรรลุได้โดยง่ายเป็นไม่มี" ดังนี้.
ครั้นสมัยอื่นอีก เรานั้น ทั้งที่ยังหนุ่ม เกศายังดำจัด บริบูรณ์ด้วยเยาว์อันเจริญ ในปฐมวัย, เมื่อมารดาบิดาไม่ปรารถนาด้วย กำลังพากันร้องไห้ น้ำตานองหน้าอยู่, เราได้ปลงผมและหนวด ครองผ้าย้อมฝาดออกจากเรือน บวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว.
เรานั้น ครั้นบวชอย่างนี้แล้ว แสวงหาอยู่ว่า อะไรเป็นกุศล ค้นหาแต่สิ่งที่ประเสริฐ ชนิดที่ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่า.
ได้เข้าไปหา อาฬารดาบส ผู้กาลามโคตร
. ได้เข้าไปหา อุทกดาบส ผู้รามบุตร
.
เล่าเรียนธรรมนั้น ๆได้ฉับไวไม่นานเลย
.ได้เกิดความรู้สึกนี้ ว่า ..
ธรรมนี้ จะได้เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่ายทุกข์ ความคลายกำหนัด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน ก็หาไม่, แต่เป็นไปพร้อมเพียงเพื่อการบังเกิดใน เนวสัญญานาสัญญายตนภพ เท่านั้นเอง"
เราไม่ทำการหยุดเสียเฉพาะแค่ธรรมนั้น ๆ เหนื่อยหน่ายจากธรรมนั้น ๆ แล้วหลีกไปเสีย.
เรานั้น เมื่อหลีกจากสำนักอุทกดาบสผู้รามบุตรแล้ว แสวงหาอยู่ว่าอะไรเป็นกุศล ค้นหาแต่สิ่งที่ประเสริฐอันไม่มีอื่นยิ่งไปกว่า สืบไป, เที่ยวจาริกไปตามลำดับหลายตำบล ในมคธรัฐ จนลุถึงตำบลอุรุเวลาเสนานิคม พักแรมอยู่ ณ ที่นั้น ได้พบพื้นที่รมณียสถาน
.ตกลงใจพักอยู่ ณ ที่นั้นเอง ด้วยคิดว่า
'ที่นี้ ควรแล้ว เพื่อการตั้งความเพียร' ดังนี้. . . . ม. ม. ๑๓/๔๔๓-๔๔๗/๔๘๙-๔๙๑; ๑๓/๖๗๐-๖๗๔/๗๓๘-๗๔๐
Create Date : 28 มกราคม 2556 |
|
2 comments |
Last Update : 28 มกราคม 2556 6:48:16 น. |
Counter : 1052 Pageviews. |
|
|
|
หยั่งลงมั่นกับพุทธวจนคำสอนจากพระโอษฐ์ค่ะ
แต่สีของตัวอักษร อ่านยากมากเลยค่ะ
ช่วยปรับหน่อยนะคะ จะได้มีคนอ่านเยอะๆ
ขออนุโมทนา สาธุค่ะ