happy memories
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
20 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๑๙




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










"แผ่นดินนี้มีสุขล้นเพราะเรามีพระเจ้าแผ่นดิน”


แผ่นดินรัตนโกสินทร์ร่มเย็นเป็นสุขมาได้ตราบเท่าทุกวันนี้ก็เพราะพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ ไม่ว่าแผ่นดินจะเกิดเหตุเภทภัยและภยันตรายใด ๆ ขึ้นมาก็ตามความทุกข์ความร้อนทั้งปวงก็จะผ่อนบรรเทาและมลายหายสูญไปได้ด้วยน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาต่อพสกนิกรของพระเจ้าแผ่นดิน






ดังเหตุนี้ คนไทยมากมายมหาศาลจึงรักพระเจ้าอยู่หัวผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินของพวกเขาอย่างไม่มีวันที่จะมีสิ่งใดมาทนแทนหรือเทียบเทียมได้ คนไทยรักพระเจ้าอยู่หัวเพราะตระหนักดีว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงรักและเป็นห่วงคนไทยยิ่งกว่าสิ่งใด


คนไทยรักในหลวงของพวกเขายิ่งกว่าชีวิต มิใช่เพราะถูกสั่งสอนให้ต้องรัก แต่เป็นเพราะคนไทยซาบซึ้งและประจักษ์ในความรักอันยิ่งใหญ่ที่ในหลวงพระราชทานให้กับคนไทยทุกคน สมดั่งคำที่แม่พลอยพูดในเรื่องว่า “ดิฉันชื่อพลอยค่ะ ดิฉันรักพระเจ้าแผ่นดิน”






แม่พลอยตัวละครเอกในละครสี่แผ่นดิน ผู้สะท้อนความเป็นพสกนิกรไทยผู้จงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดินด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิดจนถึงวันสิ้นลมปราณ


สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล ฝีมือการกำกับของถกลเกียรติ วีรวรรณ กลับมาแสดงอีกครั้งหลังจากเปิดการแสดงครั้งแรกไปเมื่อปี ๒๕๕๔ กว่าหลายร้อยรอบ การกลับมาครั้งนี้ของสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล ยังคงเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่จะสร้างความตราตรึงและความประทับใจให้กับผู้ชม





ชื่นชมพระบารมี



จุดเด่นที่สุดของละครเรื่องนี้คือ “ความรักอย่างสุดซึ้งที่คนไทยมีต่อพระเจ้าแผ่นดินของพวกเขา” ความรักที่ว่านี้ถูกนำเสนอผ่านตัวละครในหลากหลายมิติ ผ่านการอบรมจากแม่สู่ลูก และผ่านการได้ประจักษ์แจ้งด้วยตัวของตัวเอง





แม่พลอยตัวแสดงเอกของเรื่อง



“ลูกเป็นลูกของแม่ มีเลือดของแม่มากกว่าพี่อ้น แต่ทำไมลูกของแม่จึงได้ทำลายสิ่งที่แม่รักและเทิดทูนลงได้” แม่พลอยถามอั้นด้วยความข่มขื่นสุดบรรยายเมื่อรู้ว่าลูกชายผู้เป็นสายเลือดแท้ ๆ ของตนเองมีใจคิดล้มล้างราชบัลลังก์ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์


จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ การจงใจสะท้อนให้เห็นถึงความคิดที่ปราศจากการไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนรอบคอบซึ่งสะท้อนผ่านคำพูดของอั้น เด็กนักเรียนนอกที่หลงตัวเองคิดว่ามองโลกได้กว้างไกลกว่าคนอื่น เพียงเพราะเห็นว่าตนเองจบการศึกษาจากประเทศตะวันตกอย่างฝรั่งเศส คำพูดของอ้นที่ว่า “ต้องเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ตั้งแต่ล่างสุดยันบนสุด” คือความคิดของคนที่ไม่รู้จักกำพืดของตนเอง และไม่ยี่หระต่อความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์





แม่พลอยแรกเข้าวัง



สังคมไทยในวันนี้มีคนที่มีความคิดและความเชื่อแบบแม่พลอย แม่ช้อย คุณเปรม อ้น และอ๊อดอีกเป็นจำนวนมาก และคนกลุ่มนี้นี่เองที่ยังคงยืนยันจะรักษาเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ตลอดไป เพราะประจักษ์ในคุณค่าของสถาบันแห่งนี้


แต่ขณะเดียวกัน สังคมไทยยุคนี้ก็มีคนที่มีความคิดแบบอั้น และพวกที่คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเห็นว่าเป็นความล้าหลัง เป็นความไม่เสมอภาค ไม่เท่าเทียม ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็มิได้ทำตัวให้เคารพความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง





คุณเปรม-แม่พลอยแรกรัก



เป็นธรรมดาของสังคมโลกที่จะมีคนคิดไม่เหมือนกัน เห็นไม่ตรงกัน โดยละครได้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า เมื่อคิดเห็นไม่ตรงกันอย่างรุนแรงสุดท้ายก็จะนำไปสู่การประหัตประหารกันและกันจนลืมคิดไปว่าเราทุกคนคือพี่น้องร่วมชาติด้วยกัน


อำนาจเป็นของที่มนุษย์ผู้เต็มไปด้วยกิเสสปรารถนา มนุษย์ที่ไม่มีอำนาจจึงพยายามช่วงชิงอำนาจการปกครองจากพระเจ้าแผ่นดินซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจโดยชอบมาก่อน โดยใช้ข้ออ้างว่าเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วคือต้องการปล้นพระราชอำนาจเท่านั้น





อ้นผู้จงรักภักดีต่อในหลวง



ละครสี่แผ่นดิน เดอะมิสิคัล สะท้อนเรื่องราวและความเป็นมาของสังคมไทยในยุคร่วมสมัยได้อย่างแนบเนียน หวังว่าคนที่คิดจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และกระสันในอำนาจรัฐจนขาดสติจะได้ยินเสียงสะท้อนจากบทละครละจากการแสดงของตัวละครในเรื่องนี้ได้บ้าง


ขอบอกตรง ๆ ว่าอยากให้คนที่คิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัคริย์ได้ไปดูละครเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าจะช่วยเรียกสติให้กลับคืนมาได้ ส่วนคนที่รักและเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้วก็จะยิ่งเทิดทูนยิ่ง ๆ ขึ้นไปหลายเท่าพันทวี





อ๊อดผู้รักแม่ดุจหัวใจ



แผ่นดินไทยมีความสุขตามอัตภาพของเราก็เพราะเรามีพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงคุณธรรมอันประเสริฐ เรามีในหลวงทรงเป็นเสาหลักและทรงเป็นศูนย์รวมชีวิตจิตใจของคนไทย คนไทยจึงรักพระเจ้าแผ่นดินโดยไม่มีใครบังคับ


ละครสี่แผ่นดิน เดอะมิสิคัลเปิดการแสดงที่ เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์ ถ.รัชดาภิเษก (ใกล้กับสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย) เริ่มตั้งแต่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ และน่าจะแสดงไปอีกหลายร้อยรอบ เพราะผู้คนจะหลั่งไหลไปชมละครสุดคลาสสิกเรื่องนี้อย่างแน่นอน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
naewna.com
กระทู้พันทิป














"CROSS GALLERY OF ART ฐานที่มั่นของ ... อุกฤษณ์ ทองระอา”


เคยฝากผลงานการเขียนภาพปกและภาพประกอบไว้ในหนังสือและนิตยสารหลายเล่ม โดยเฉพาะภาพปกนิตยสาร WRITER ในยุคสมัยที่ บก.ขจรฤทธิ์ รักษา กุมบังเหียน นามของคนเขียนภาพเหมือนชื่อ อุกฤษณ์ ทองระอา ก็เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นมา






แม้ว่าเวลานี้นิตยสารหลายเล่มจะปิดตัวกันไปแล้ว แต่ผลงานของอุกฤษณ์ก็ไม่ได้ลดความนิยมลงไปด้วย หากกลับมีผู้ติดต่อว่าจ้างให้เขาช่วยเขียนภาพให้อยู่สม่ำเสมอ นอกเหนือจากบรรดาแฟนผลงานที่ติดตามและเลือกสะสมงานของอุกฤษณ์โดยเฉพาะ ก็เป็นกลุ่มผู้มีอันจะกินที่ต้องการมีภาพเหมือนของบุคคลที่พวกเขารักและเคารพไปติดผนังบ้าน ติดสำนักงาน หรือไม่ก็นำไปตีพิมพ์ทำปฏิทินหรือมอบเป็นของขวัญในวาระเทศกาลต่าง ๆ






จากคนเขียนภาพที่เรียนจบเพียงแค่ระดับ ปวช. และเคยได้รับค่าฝีมือเพียงครั้งละพันกว่าบาท ใครจะรู้ว่าถึงวันนี้ราคารับจ้างเขียนภาพเหมือนของอุกฤษณ์ บางภาพนั้นไต่ระดับสูงขึ้นถึงหลักล้าน!! จนเป็นผลทำให้หนังสือและนิตยสารหลายเล่มไม่กล้าที่จะชักชวนเขาไปเขียนภาพประกอบหรือภาพปกให้เหมือนเช่นเคย ด้วยเกรงว่าอาจต้องจ่ายแพงมากขึ้น






ขณะที่เจ้าตัวบอกว่าทุกวันนี้ยังถวิลที่จะกลับไปเขียนอยู่ หากมีใครชักชวน ด้วยระลึกเสมอว่าตนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักขึ้นมาได้ ก็ด้วยจากการเป็นคนเขียนภาพปกหนังสือและภาพประกอบ และอีกเห็นว่าการได้มีผลงานเผยแพร่ทางสื่อสิ่งพิมพ์น่าจะเป็นการนำเสนองานสู่สายตาคนดูได้กว้างขวางมากกว่า


เช่นเดียวกันเพื่อให้ผลงานงานชิ้นออริจินัล ที่เขาเคยเขียนเพื่อเป็นภาพปกและภาพประกอบ ให้กับนิตยสารต่างๆในครั้งอดีต ไม่ถูกเก็บไว้ชื่นชมเพียงคนเดียว อุกฤษณ์ได้เปิดรั้วบ้าน ซึ่งสร้างอยู่กลางท้องทุ่งย่านปทุมธานี คลอง ๑๑ ต้อนรับแฟน ๆ ที่อยากเห็นผลงานชิ้นออริจินัลเหล่านั้น






อุกฤษณ์ และน้องชายอีกสองคนของเขา อิฎฐสิทธิ์ และ อานิสงส์ ซึ่งล้วนแต่มีอาชีพเป็นจิตรกร ได้ร่วมกันสร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นเมื่อสามปีก่อน ในพื้นที่ประมาณ ๓oo ตารางวา นอกจากแบ่งส่วนสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยของคนในครอบครัว พวกเขาได้แบ่งส่วนทำเป็นสตูดิโอสำหรับสร้างงาน และแกลเลอรี่ติดตั้งแสดงผลงานขึ้นด้วย ชื่อว่า CROSS GALLERY OF ART


“ผมเชื่อว่าผมมีแฟน ๆ อยู่กลุ่มหนึ่ง ในยุคที่ผมเขียนภาพปก ครั้งหนึ่งเคยคิดไว้ว่าถ้ามีโอกาสอยากจะเอางานออริจินัลที่เคยเขียนเป็นภาพปกมาติดตั้งไว้ที่ไหนสักที่หนึ่ง เป็นการติดตั้งแบบถาวร ไม่โยกย้าย ไม่จำหน่าย อยากให้แฟน ๆ ได้เห็น บางคนอาจจะบอกว่าการนำเสนอผ่านปกหนังสือ มันเพอร์เฟกต์ในตัวของมันเองแล้ว แต่ผมเชื่อว่าต้นฉบับมันมีอะไรที่มากกว่านั้น”






และที่มากไปกว่านั้นอีกก็คือการที่คนดูได้มาเห็นบรรยากาศของสถานที่ทำงานของคนเขียนรูป ได้พบปะพูดคุย อุกฤษณ์เห็นว่าถือเป็นการแลกเปลี่ยนอีกทางที่จะช่วยทำให้สัมพันธภาพแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


“พอเราโตขึ้น เราก็นึกถึงความหลังมากขึ้น” เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อุกฤษณ์เชื่อว่าคนที่เคยหลงรักและสะสมภาพปกหนังสือบางเล่มที่เขาเป็นคนเขียนคงนึกอยากจะมาเห็นงานชิ้นออริจินัลขึ้นมาบ้าง เหมือนกับที่เขาอยากเห็นงานชิ้นแห่งความหลังของเขา ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าตัวยังคงเก็บไว้ และขายไปไม่ถึง ๕ เปอร์เซ็นต์ของงานทั้งหมด ถูกจัดแสดงไว้อวดสายตาแฟน ๆ






ไม่เพียงเท่านั้น อุกฤษณ์ก็ได้พยายามเขียนงานชิ้นใหม่ ๆ ขึ้นด้วย จากรูปนักเขียน แตกแขนงไปยังบุคคลสำคัญอีกหลากหลายสาขา


“ผมล้อมกรอบตัวเองไว้ชัดเจนว่าผมเขียนแต่ภาพเหมือนบุคคล เป็นงานเรียลิสติก เขียนแต่บุคคลสำคัญที่มีคุณูปการในแต่ละด้านของสังคมไทย”






หากพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซในต่างแดนเลือกปั้นรูปบุคคลสำคัญ ๆ เก็บไว้ เขาก็ขอบันทึกคนดีในสังคมไทยนี้เก็บไว้ผ่านภาพเขียนในแบบที่เขาถนัด


“มันก็เหมือนกับที่ผมเคยเขียนรูปนักเขียน ทีนี้อาจจะแตกไปทางด้านอื่น ด้านดนตรีอาจจะเป็นครูเอื้อ ไปด้านกีฬา อาจจะเป็นโผน กิ่งเพชร ด้านเกษตรกรรมอาจจะเป็นหม่อมเจ้าสิทธิพร อีกมากมายหลายท่าน ผมเชื่อว่าถ้าเขียนขึ้นมาแล้ว มันก็เป็นผลดีต่อผู้ที่รักชอบในแต่ละท่าน ครั้งหนึ่งผมเคยประสบความสำเร็จกับการเขียนภาพนักเขียน ก็เลยอยากจะเขียนรูปท่านอื่น ๆ ในสาขาอื่นบ้าง แม้ว่าอาจจะไม่ได้นำตีพิมพ์เป็นปกหนังสืออะไรแล้ว แต่อาจจะมีการพิมพ์ภาพบางส่วนออกไว้ให้สำหรับคนที่ต้องการใช้ แต่มีข้อแม้ว่าต้นฉบับเราไม่ขาย เพราะเราจะทำสถานที่นี้ให้เป็นที่ติดตั้งต้นฉบับ”






อีกส่วนหนึ่งคนที่เห็นงานแล้วก็อยากจะว่าจ้างให้เขาเขียนภาพบ้าง ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่จะได้เลือกภาพในแบบที่ตัวเองพอใจได้เช่นกัน


“ พอมาถึงแกลเลอรี่มันมีตัวอย่างให้ชมให้เลือก หลายๆแบบ ต้องการภาพแบบไหน ไปใช้ในวาระอะไร จะจ้างให้เราเขียน เราก็ใช้ต้นฉบับเก่า ๆ พวกนี้แหล่ะ ที่เป็นสิ่งอ้างอิง”






บางครั้งชีวิตก็ต้องเดินไปตามโอกาส และโอกาสนี่แหล่ะ เป็นสิ่งที่ทำให้อุกฤษณ์ได้ขยับขยายความฝันของเขาให้กว้างขึ้นมากกว่าที่เคยฝันไว้


“ทีแรกผมไม่ได้ฝันแบบนี้นะ ขอแค่มีชีวิตอยู่ได้เขียนภาพ ได้กินกาแฟ ไม่เดือดร้อน พอทำ ๆ ไป มันเหมือนกับด้วยหน้าที่การงานด้วย คนที่เรารู้จักหลากหลายขึ้น มันมีจังหวะ มีโอกาสเข้ามา เราถึงทำ พอทำขึ้นมามันก็บังคับให้เราต้องคิดไปอีกทางหนึ่ง แล้วมันก็มีเรื่องให้เราต้องรับผิดชอบ เราก็ต้องพยายามทำให้ที่นี่มันมีภาพที่น่าดู”






ส่วนฝันที่ไกลกว่านั้นเขาบอกว่ายังไม่ได้นึกถึง เพราะระยะทางที่เขาเดินมาบนเส้นทางแห่งการงานที่เขารักและเลือก จนถึงวัย ๓๖ ปีนี้ เขาเดินได้มาไกลกว่าที่หวังไว้มาก


“คิดแต่เพียงว่า ต้องหาเวลาเขียนภาพบุคคลสำคัญๆ คนดีของบ้านเมืองเราเอามาแขวนโชว์ให้เยอะที่สุด ตลอดระยะเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ เราคิดแค่นี้ ก็ไม่ได้คิดไกลไปถึงไหน ตอนนี้ได้สถานที่แล้ว ได้ลงหลักปักฐานแล้ว ก็คิดอย่างเดียวว่าสิ่งที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ก็คือเรื่องการงาน เพราะเรารักการเขียนภาพ”


**สอบถามเส้นทางการเดินทางไป CROSS GALLERY OF ART ได้ที่ o-๔๖๙๕-๘๖๘๑







ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th













"ธ.ธนชาติริเริ่ม...เติมเต็ม เอกลักษณ์ไทย ปีที่ ๘๓”


ธนาคารธนชาต ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ความเป็นไทย จัดโครงการ "ธนชาต ริเริ่ม...เติมเต็มเอกลักษณ์ไทย" ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๔๓ มีวัตถุประสงคืเพื่อคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีของไทย และเสริมสร้างเยาวชนให้กลายเป็นต้นแบบทางวัฒนธรรมที่ดีและยั่งยืน เปิดให้สถาบันการศึกษาส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้กิจกรรม "การแข่งขันอ่านฟังเสียง" และ "การประกวดมารยาทไทย" ชิงรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษาตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป พร้อมเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ราชบัณฑิตยสถาน สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์แห่งชาติ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน โดยเปิดรับสมัคร ๕ ระดับชั้น คือ ระดับ ป.๑-ป.๓ ระดับ ป.๔-ป.๖ ระดับม.๑-ม.๓ ระดับ ม.๔-ม.๖ และปวช.และระดับอุดมศึกษาและ ปวส.พร้อมจัดแข่งขันรอบคัดเลือกทั้ง ๔ ภาคดังนี้


ภาคใต้ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้-๑o กรกฎาคมและคัดเลือกวันที่ ๑๙-๒๑ กรกฏาคม ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช จังกวัดนครศรีธรรมราช ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้-๑๘ กรกฎาคม และคัดเลือกวันที่ ๒๖-๒๗ กรกฎาคม ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ภาคเหนือ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้-๒๕ กรกฎาคม และคัดเลือกวันที่ ๒-๔ สิงหาคม ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ (ยกเว้นจังหวัดอุทัยธานีและนครสวรรค์ เข้าแข่งขันที่ภาคกลาง) ภาคกลางและกรุงเทพฯ แข่งขันอ่านฟังเสียงสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง ๘ สิงหาคม ประกวดมารยาทไทย สมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ ๒๕ สิงหาคม ณ ธนาคารธนชาต อาคารสวนมะลิ และรอบชิงชนะเลิศรวมทุกภาค ในวันที่ ๑๗-๒๔ กันยายน ณ ธนาคารธนชาต อาคาร สวนมะลิ


สถาบันที่สนใจสามารถติดตามรายละเอยดและสมัครได้ทางเว็บไซต์ thanachartcsr.com (ธนชาติซีเอสอาร์) หรือทางโทรสาร o-๒๓๑๘-๗๒๓๑ และทางไปรษณีย์ ตู้ ปณ. ๑๑๗o ปณฝ.รามคำแหง กรุงเทพฯ ๑o๒๔๑ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป



ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
bkkparttime.com














"Arts & Happiness”


วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ กรุงเทพฯ: ศูนย์การค้า “ริเวอร์ซิตี้” เปิดโลกศิลปะผลักดันเหล่าศิลปินหน้าใหม่ฝีมือดี ผู้มีใจรักงานศิลป์ร่วมนำผลงานภาพวาดมาประชันกันกว่า ๗o ผลงาน ในนิทรรศการงานศิลป์ Arts & Happiness (สุข กับ ศิลป์) และเปิดโอกาสให้ผู้รักและสนใจในงานศิลปะและบุคคลทั่วไปเข้าชมนิทรรศการและเลือกซื้องานศิลป์ที่ชั้น ๒ ในระหว่างวันที่ ๑๕-๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo-๒o.oo น. ณ Art Lane Zone ชั้น ๒ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้































ภาพและข้อมูลจากเวบ
twitter โรงแรม RiverCity
เฟซบุค rivercity














"คอนเวอร์เซชั่น”


นิทรรศการ “Conversations: The Vivid Real”


ผลงานโดย ปัญญา วิจินธนสาร (Panya Vijinthanasarn) และ Andrew Stahl


จัดแสดงระหว่างวันที่ ๑๙ กรกฎาคม - ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๗


และจะมีพิธีเปิดในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.oo น.


ณ Thavibu Gallery















ภาพและข้อมูลจากเวบ
wikalenda.com














"นิทรรศการภาพถ่าย "7 Changemaker by 27 Series"”


บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด นำโดย มร. ยูโซะ ชิบะ กรรมการผู้จัดการ เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการภาพถ่าย “7 Changemakers : α7 Series Photobook by 7 Photographers พร้อมช่างภาพ และศิลปินแถวหน้าของประเทศไทย และมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติทั้ง ๗ ท่านที่ได้ให้เกียรติซึ่งให้เกียรติมาร่วมถ่ายทอดมุมมองในการถ่ายภาพที่สะท้อนสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท่าน และจัดแสดงผลงานภาพถ่าย ผ่านเลนส์ของกล้อง Full-Frame Mirrorless ที่มาพร้อมระบบออโต้โฟกัสตัวแรกของโลก α7 Series (อัลฟ่า 7 ซีรี่ส์) โดยนิทรรศการภาพถ่ายได้จัดขึ้นที่ โชว์รูม โซนี่ สโตร์ สยามพารากอน ชั้น ๒ ตั้งแต่วันที่ ๗ กรกฎาคม ถึง ๓๑ สิงหาคม ศกนี้





คุณณิการ์ กรีพร้อม




พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้เตรียมจัดพิมพ์หนังสือภาพ หรือ Photobook ชื่อ “7 Changemakers : α7 Series 2014 Photobook By 7 Photographers” รวบรวมผลงานภาพถ่ายของ ๗ ศิลปินช่างภาพ ที่จัดแสดงในงานนิทรรศการครั้งนี้ โดยจะจัดพิมพ์ขึ้นจำนวน ๑,๓oo เล่ม เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจชื่นชอบการถ่ายภาพ และต้องการศึกษาศิลปะด้านการถ่ายภาพ โดยจะมอบสมุดภาพส่วนหนึ่งให้แก่สถาบันการศึกษาเพื่อประโยชน์สำหรับนิสิต นักศึกษา และผู้สนใจต่อไป





คุณสงกรานต์-วีระพงษ์-กับผลงานภาพถ่ายด้วยกล้องตระกูล-Alpha-A7



มร. ยูโซะ ชิบะ กรรมการผู้จัดการ บ. โซนี่ ไทย จ.ก. ได้กล่าวในโอกาสเปิดนิทรรศการภาพถ่าย “7 Changemakers : α7 Series Photobook by 7 Photographers” ว่า “โซนี่ไทย มีความยินดี และภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสจัดงานนิทรรศการภาพถ่ายของช่างภาพ และศิลปินที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยทั้ง 7 ท่านในครั้งนี้ ซึ่งทุกท่านได้ให้เกียรติ และสละเวลามาร่วมกันถ่ายภาพโดยใช้กล้องอัลฟ่า 7 ของโซนี่ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ของแต่ละท่าน ภายใต้แนวคิด Changemakers ซึ่งได้สื่อถึงการสร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นในวงการถ่ายภาพ โดยโซนี่เองนั้นมีหน้าที่ในการพัฒนาเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์คุณภาพ ที่พร้อมตอบสนอง และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ให้แก่ช่างภาพ และผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพในทุกระดับ รวมทั้งการเข้าไปมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ สนับสนุนผลงาน และกิจกรรมด้านการถ่ายภาพ ดังเช่นการจัดนิทรรศการภาพถ่าย “7 Changemakers : α7 Series Photobook by 7 Photographers” ในวันนี้อีกด้วย”





คุณสุทัศน์-รุ่งศิริศิลป์-และม.ร.-ยูโซะ-ชิบะ.



สำหรับช่างภาพทั้ง ๗ ที่ให้เกียรติร่วมสร้างสรรค์ และถ่ายทอดผลงานในนิทรรศการภาพถ่าย รวมทั้งหนังสือภาพ “7 Changemakers : α7 Series 2014 Photobook By 7 Photographers” ครั้งนี้ ประกอบด้วย คุณชำนิ ทิพย์มณี ศิลปินช่างภาพมือเก๋าที่สุดคนหนึ่งในเมืองไทย, คุณเกรียงไกร ไวยกิจ ช่างภาพผู้บันทึกภาพสำคัญในพระราชพิธีระดับประวัติศาสตร์ของประเทศ, คุณมนู มนูกูลกิจ ช่า่งภาพแถวหน้า้ของเมืองไทย ซึ่งโดดเด่นในสไตล์การถ่ายภาพแบบ Still Life, คุณณิการ์ กรีพร้อม ช่างภาพแฟชั่นแถวหน้าที่มีผลงานทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ เป็น ๑ ใน ๔ ช่างภาพหญิงที่ได้รับคะแนนโหวตให้เป็น The Newcomer Female Photographers of South East Asia, ผ.ศ. ถาวร โกอุดมวิทย์์ ศิลปินชั้นครูผู้มีผลงานภาพถ่ายอันเป็นเอกลักษณ์, คุณสงกรานต์ วีระพงษ์ ช่างภาพเจ้าของฉายา 13 Maysa และ คุณสุทัศน์ รุ่งศิริศิลป์ ๑ ใน ๕o ช่างภาพบันทึกแผ่นดินทองฉลองกาญจนาภิเษก และล่าสุดเป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศ Thailand National Award - Sony World Photography Awards ประจำปี ๒o๑๔


ทั้งนี้ โซนี่จะมอบหนังสือภาพส่วนหนึ่งให้แก่ห้องสมุดในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สำหรับนิสิต นักศึกษา รวมทั้งผู้สนใจที่ต้องการศึกษาเทคนิค วิธีการถ่ายภาพ รวมทั้งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่แปลกใหม่อีกด้วย ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. o-๒๗๑๕-๖๑oo หรือเยี่ยมชมเวบได้ที่ sony.co.th



ภาพและข้อมูลจากเวบ
newswit.com
it2nite.com














นิทรรศการภาพถ่าย "บ้านเรา”


"บ้านเรา" เป็นนิทรรศการภาพถ่ายโดย ประพาศ ครองบุญ (จ.อ่างทอง ๒๕o๕) ประพาศจบคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการศึกษาด้วยตนเองในกระบวนการทางเทคนิควิธีของงานถ่ายภาพและกระบวนการของความคิดสร้างสรรค์ ประพาศถ่ายรูปด้วยฟิลม์และสไลด์ เกือบทุกวันตลอดช่วง ๓o ปีที่ผ่านมาถ่ายภาพเก็บไว้มากมายและมีความหลากหลาย เขาทำความเข้าใจในศิลปะและมุมมอง การสื่ออารมณ์ของภาพ ใช้ประสบการณ์ของทุกวันในการถ่ายภาพเป็นการเรียนรู้สะสมจนกระทั่งสไตล์ของตัวเองปรากฏ ภาพของประพาศสื่อถึงความจริงและชีวิตที่ปรากฏต่อหน้า ชีวิต"บ้านเรา"ที่สามารถตีความได้ตามความรู้สึกและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล งานนิทรรศการนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานช่วง ๓o ปีที่ผ่านมาที่คัดเลือกโดยเซรินเดีย แกเลอรี่ นำเสนอแสดงตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายนถึง ๓๑ กรกฎาคมนี้ ผลงานที่สะสมไว้อาจตีพิมพ์เป็นซีรีย์หนังสือภาพถ่ายในธีมต่าง ๆ ของ "บ้านเรา" แบบกระทัดรัดในอนาคต



ภาพและข้อมูลจากเวบ
portfolios.net














นิทรรศการแสดงภาพถ่าย "กลูต้า" หมาหน้ายิ้ม


นิทรรศการแสดงภาพถ่าย "กลูต้า" หมาหน้ายิ้ม โดย สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ ( พ่อกลูต้า )
หลังจากบำรุงรักษากลูต้าจนหายเป็นปกติแถมยังสวยวิ๊ง ก็ได้ถ่ายรูปกลูต้าต่าง ๆ ในระยะเวลากว่า ๒ ปี


เดือน กค นี้ จะได้มารับชมกลิ่นอายของความสุขของกลูต้า ที่จะมาถ่ายทอดให้ทุกคนที่เห็นได้อารมณ์ดีจนยิ้มตามเหมือนกับรอยยิ้มกลูต้า :}


กลูต้ามาวันเปิดตัววันที่ ๖ เวลา ๑๖.oo น. เป็นต้นไปมีงานเล็ก ๆ สบาย ๆ ดนตรีอคูสติคเพราะ ๆ และสเก็ชภาพน้องหมาเข้ากับบรรยากาศของ The Jam Factory


อย่าลืมพาน้องหมามาเดินเล่นชิลกันได้ รายได้จากการจำหน่ายภาพถ่ายและการสเก็ชภาพนำเข้าบริจาคมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (SoiDog) ในงานมี กระเป๋าผ้ากลูต้าจังล็อตใหม่จำหน่ายด้วยจ้า
ส่วนโฟโต้บุคอาจจะนำไปวางจำหน่ายด้วยสัปดาห์ที่สองของงาน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
portfolios.net














นิทรรศการ “SO FAR SO GOOD 2”


เกิดจากการรวบรวมผลงานศิลปะและจัดแสดงโดยนักศึกษาชั้นปีที่ ๓ ภาควิชาประติมากรรม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นิทรรศการนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ ๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลงานประติมากรรมจากการสร้างสรรค์ของนักศึกษามาเผยแพร่ต่อสาธารณะ และประเมินคุณภาพผลงานจากผลตอบรับของผู้ชม ผลงานส่วนใหญ่ที่นำมาจัดแสดงเกิดจากการสร้างสรรค์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ ๓ ซึ่งสร้างขึ้นตามหัวข้อในการเรียนตลอดปีการศึกษา สมทบด้วยผลงานจากการสร้างสรรค์ของนักศึกษาชั้นปีที่ ๔ ชั้นปีที่ ๕ และนักศึกษาระดับปริญญาโท


ผลงานในนิทรรศการแบ่งได้ ๓ ประเภทโดยสังเขป อันได้แก่ ประติมากรรมที่ใช้รูปทรงคนเป็นสื่อ ประติมากรรมรูปแบบนามธรรม และประติมากรรมที่สร้างขึ้นจากเรื่องราวและรูปทรงในจินตนาการ










แม้ผลงานในนิทรรศการนี้จะมาจากการสร้างสรรค์ในชั้นเรียน และรูปแบบของประติมากรรมหลายชิ้นอาจดูคล้ายคลึงกันบ้างเนื่องจากนักศึกษาสร้างงานจากโจทย์สร้างสรรค์เดียวกัน แต่หากพิจารณาโดยละเอียดผู้ชมคงจะพบว่า รูปทรงในงานแต่ละชิ้นมีความแตกต่างกันออกไปอย่างไม่ซ้ำ ส่วนความสามารถด้านทักษะฝีมือของนักศึกษาแม้จะยังไม่อาจเทียบชั้น “มืออาชีพ” แต่อาจกล่าวได้ว่าผลงานเหล่านี้ห่างจากขั้นที่เรียกว่า“แบบฝึกหัด” มาได้ไกล ประการสำคัญ ผลงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ So Far So Good ในปีนี้ แต่ละชิ้นล้วนมีประเด็นสำคัญทั้งในด้านการสร้างสรรค์จากความคิดที่เป็นอิสระ และคุณค่าในด้านสุนทรีย์จากความตั้งใจของนักศึกษา ภาควิชาประติมากรรมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลงานของนักศึกษาในปีนี้จะสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าชม และนำไปสู่การเรียนในขั้นที่สูงขึ้นสำหรับนักศึกษาทุกคน










กำหนดพิธีเปิดนิทรรศการ วันศุกร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.oo น. ได้รับเกียรติจาก ศาสตรเมธีนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ประธานในพิธี

นิทรรศการ : “SO FAR SO GOOD 2”
ศิลปิน : โดย นักศึกษาภาควิชาประติมากรรม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
วันที่ : ๒๒ กรกฎาคม – ๓ สิงหาคม ๒๕๕๗
สถานที่ : ชั้น ๔ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานหอศิลปกรุงเทพฯ : o๒-๒๑๔-๖๖๓o – ๘















ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














นิทรรศการ “Memory...ความทรงจำ”


งานแสดงนิทรรศการศิลปะ “Memory...ความทรงจำ” โดย สมพงศ์ พนาวรรณกุล และอุดม อินนุพัฒน์ จัดขึ้นที่สกายล็อบบี้ ชั้น ๒๓ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๑o.oo - ๒o.oo น. โดยรายได้จากการจำหน่ายภาพส่วนหนึ่งจะร่วมสมทบทุนให้กับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม


นิทรรศการครั้งนี้ นำเสนอผลงานจิตรกรรมของ สมพงศ์ พนาวรรณกุล ผู้เชี่ยวชาญการใช้เทคนิคสีน้ำมันพาสเทลบนกระดาษสา และ อุดม อินนุพัฒน์ ซึ่งเชี่ยวชาญการวาดโดยใช้เทคนิคสีฝุ่นและทองคำเปลว โดยจิตรกรทั้งสองได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำที่ดี ที่เปรียบเสมือนเครื่องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ถ่ายทอดความงดงาม ความรัก และคุณงามความดี บ่งบอกถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ผ่านผลงานจิตรกรรมของพวกเขากว่า ๓o ภาพ















ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














"หนังสือดี ดนตรีไพเราะ Happening Book Party 2014”


กิจกรรม "Happening Book Party 2014" กับรูปแบบหนังสือดี ดนตรีไพเราะ พบนักเขียนและนักดนตรีมากหน้าหลายตา อาทิ "เอ๋ - สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์" หรือ "นิ้วกลม" "วิภว์ บูรพาเดชะ" "ปิยพัชร์ จีโน" หรือ "อาร์ต จีโน" "เสลดทอย" (Sahred Toy) "ตุล ไวฑูรเกียรติ" "บอย - ตรัย ภูมิรัตน" "ต้า - อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา" นักร้องนำวง "พาราด็อกซ์" (Paradox) "ปอย - ตวัน ชวลิตธำรง" หรือ "ปอย พอร์เทรต" (Portrait) ฯลฯ


คืนความสุขด้วยการ ลด แลก แจกหนังสือ กันสุดพลัง ลดกระหน่ำทั้งหนังสือใหม่หนังสือเก่า ราคาเริ่มต้นที่เล่มละ ๑o บาท เปิดโอกาสให้นำหนังสือดีๆ ที่ไม่ได้อ่านแล้วมาแลกเล่มใหม่ แล้วหนังสือที่เหลือทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้ร้านปันกันของมูลนิธิยุวพัฒน์ และแจกฟรี กับหนังสือ Happening ฉบับแจกฟรี และหนังสือดี ๆ อีกหลายเล่ม ในวันที่ ๑๙ - ๒o กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ ทีเคพาร์ค ชั้น ๘ เซ็นทรัลเวิลด์


ตารางกิจกรรม

วันเสาร์ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗
๑๕.oo น. The Parkinson
๑๕.๓o น. นรา "ภาพยนตร์ หนังสือ ดนตรี ที่อยู่ในใจเสมอ"
๑๕.๔๕ น. นพพันธ์ "มันไม่ง่าย กว่าจะเป็น Not Easy Being Me"
๑๖.oo น. Fellow Fellow
๑๖.๓o น. บอย ตรัย ภูมิรัตน "อ่านร้อง อ่านเล่น กับ บอย ตรัย" (TK music ed.)
๑๘.oo น. Sahred + Art Jeeno "คู่หูทะลุโตเกียว"
๑๘.๑๕ น. นิ้วกลม "๑o ปีนิ้วกลม ความฝัน ความรัก ความสุข ความคิด"
๑๘.๓o น. แป้งโกะ


วันอาทิตย์ที่ ๒o กรกฎาคม ๒๕๕๗
๑๕.oo น. Seal Pillow
๑๕.๓o น. บ่น บ่น "คุยไป บ่นไป"
๑๕.๔๕ น. ตุล ไวฑูรเกียรติ "สถานีต่อไปของกวีและดนตรีร็อก"
๑๖.oo น. Portrait
๑๖.๓o น. ลูกไม้ + Jirabell "ไม่นานมานี้ เราไม่ได้อยู่คนเดียว"
๑๖.๔๕ น. Afterword "ระดมทุน ลุ้นทำหนังสือดี"
๑๗.oo น. When
๑๗.๓o น. นภพัฒน์จักษ์ "เป็นนักข่าว ต้องก้าวเท้าอย่างไร?"
๑๘.oo น. Cocktail
๑๘.๓o น. นายอั้น "ประวัติศาสตร์ของประวัติศาสตร์ศิลปะแบบอั้นๆ"
๑๘.๔๕ น. ต้า พาราด็อกซ์ "อยากให้ใครอยู่ตรงนี้"



ภาพและข้อมูลจากเวบ
siamzone.com




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 20 กรกฎาคม 2557
Last Update : 20 กรกฎาคม 2557 18:21:43 น. 0 comments
Counter : 4315 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.