Bloggang.com : haiku : เสพงานศิลป์ ๑๒๖

เสพงานศิลป์ ๑๒๖

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

ตามรอยพระบาทโครงการตามพระราชดำริของแม่หลวง

ชวนไปชมงาน “ตามรอยพระบาทโครงการตามพระราชดำริของแม่หลวง” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยในงานได้จัดแสดงผลงานต่าง ๆ ของโครงการที่พระองค์ทรงมีพระราชดำให้จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่คนไทย อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดงานศิลปวัฒนธรรมตลอดจนสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งสะท้อนถึงความรักความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อคนไทยมาโดยตลอด

งานนี้ทางศูนย์การค้าสยามพารากอน ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดงาน “ ตามรอยพระบาทโครงการตามพระราชดำริของแม่หลวง ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา พร้อมร่วมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และกระตุ้นให้เกิดการตระหนัก พร้อมร่วมสืบสานพระราชดำริอย่างถูกต้อง และกว้างขวาง

ภายในงานมีการรวบรวมเอาพระราชกรณียกิจที่พระราชทานไว้ทั่วประเทศ ตั้งแต่การฟื้นฟูงานหัตถกรรมผ้าไทยในโครงการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ไปจนถึงโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ นำมาจัดแสดงผ่านนิทรรศการ พร้อมการสาธิต การออกร้าน และจำหน่ายสินค้าศิลปหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

ทั้งของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ อาทิ การถัก ทอ และการปักผ้าที่งดงาม อย่างผ้ายก ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าแพรวา ตลอดจนการจักสานย่านลิเภา การทำตุ๊กตาชาววัง และการทำหัวโขนจากช่างฝีมือวังชาย ไปจนถึงโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริศูนย์สาธิตและส่งเสริมด้านการเลี้ยงสัตว์ โดยทั้งหมดจะถูกนำมาจัดแสดงผ่านนิทรรศการเผยแพร่ความรู้พระราชกรณียกิจให้กับผู้สนใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน นอกจากนี้ยังมีการออกร้านพร้อมนำผลิตภัณฑ์จากภาคต่าง ๆ ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ เช่น งานศิลปหัตกรรมฝีมือของเหล่าสมาชิกศิลปาชีพ รวมไปถึงผลผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากฟาร์มตัวอย่างมาจำหน่าย

มีเมนูเด็ด ๔ ภาค จากผลิตภัณฑ์ดาวเด่นประจำโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า ๙o แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ อย่าง “หมูจินหัว” หมูพันธุ์ดีที่มีเนื้อนุ่ม สีสวยสด และกลิ่นหอมมาก ที่จะถูกนำเสนอในเมนู “หมูจินหัวแดดเดียวทอด” “เป็ดอี้เหลียง” เป็ดที่เป็นพันธุ์คุณภาพดี โตเร็วและฟักไข่ได้อย่างคุณภาพ ที่จะปรุงในรูปแบบ “ลาบเป็ด” โดยสัตว์ทั้ง ๒ ชนิดนี้เป็นสัตว์ที่รัฐบาลจีนน้อมเกล้าฯ ถวายพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

รวมไปถึงผักปลอดสารพิษและเห็ดชนิดต่าง ๆ ที่ปลูกในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ มาประกอบเมนูจานเด็ดของแต่ละภาคอันประกอบไปด้วย ขนมจีนน้ำเงี้ยว และข้าวซอยไก่ อาหารประจำถิ่นของภาคเหนือ ที่ใช้ผักในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ เป็นเครื่องเคียง, ข้าวยำปักใต้ เมนูอาหารสุขภาพขึ้นชื่อจากแดนใต้ ที่โดดเด่นด้วยการใช้ข้าวสังข์หยดมาเป็นวัตถุดิบหลัก, ส้มตำไก่ย่าง อาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของภาคอีสานที่ใช้วัตถุดิบจากโครงการฯ ด้วยเช่นกัน และนอกจากนี้ยังมีสินค้าแปรรูปต่าง ๆ จากมูลนิธิฯ มานำเสนอ

ส่วนในด้านพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, ผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ก็จัดสารพัดผลิตภัณฑ์มาโชว์และจัดจำหน่าย อย่าง ผ้าไหมผ้าฝ้ายพิมพ์ลาย และงานศิลปหัตถกรรม ผ้ายก ผ้าไหมทอมือ พร้อมทั้งชุดโขนที่ใช้ในการแสดงโขนพระราชทานมาร่วมจัดแสดงในงานนี้ให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “ตามรอยพระบาทโครงการตามพระราชดำริของแม่หลวง” จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ ๗-๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ระหว่างเวลา ๑o.oo-๒o.oo บริเวณไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น ๒ ศูนย์การค้าสยามพารากอน สอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. o-๒๖๑o-๘ooo

หมูจินหัว

เป็ดอี้เหลียงในฟาร์มตัวอย่างฯ

ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th
เฟซบุคกรุงเทพธุรกิจวันอาทิตย์

หัตถศิลป์แม่นิรมิตเมือง

วันที่ ๗ ส.ค.ที่ผ่านมา ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า วธ.ได้รับมอบหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๙–๑๒ สิงหาคม ที่สวนอัมพร และบริเวณพระลานพระราชวังดุสิตซึ่ง วธ.ได้จัดกิจกรรมที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยและท้องถิ่นภายใต้แนวคิด “หัตถศิลป์แม่นิรมิตเมือง” โดยจัดนิทรรศการ “อัคราภิรักษ์ศิลปิน” ศิลปินยิ่งใหญ่ผู้ปกปักรักษางานศิลปะ ประกอบด้วย การจัดแสดงแสตมป์อัคราภิรักษ์ศิลปิน การจัดแสดงชุดแต่งกายและเครื่องประกอบโขน จากช่างสิบหมู่ นอกจากนี้นำการแสดงชุด “แสงทองส่องวัฒนธรรม” ของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) เพื่อถวายพระพรด้วย

ศ.ดร.อภินันท์ กล่าวต่อไปว่า มีการแสดง “โขน” ตอน พระรามข้ามสมุทร จากกรมศิลปากร การแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ ตอน กษิรธารามณโฑเทวี ซึ่งมีความยิ่งใหญ่และมีความงดงามของเครื่องแต่งกายและเครื่องประกอบ และการแสดงตอนพระแม่มิ่งสีดา เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องความรักของแม่ อีกทั้งยังมีการแสดงจากศิลปินแห่งชาติ การแสดงลำตัดของแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ และนายชินกร ไกรลาศ การแสดงพื้นบ้าน อาทิ แตรวง คณะบัวแก้วเกษรเพลงพื้นบ้าน จากคณะศิษย์แม่จำรัส ลิเก คณะลิเกเมืองอ่างทอง หนังตะลุง ที่สำคัญยังมีคอนเสิร์ต “เพลงรักแม่” โดยวงออเครสตร้า กรมศิลปากร ซึ่งได้นำบทเพลงเกี่ยวกับแม่มาจัดทำและบันทึกเสียงใหม่ ๑๒ เพลง อาทิ แม่แห่งแผ่นดิน เพลงอิ่มอุ่น เพลงใครหนอ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้นำของดีบ้านฉัน ของดีที่มีลักษณะโดดเด่นตามวิถีชีวิตของผู้คนแต่ละท้องถิ่นจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมจากกรุงเทพฯ และ ๔ ภูมิภาค มาจำหน่ายด้วย

ด้านนายเขมชาติ เทพไชย ผอ.สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) กล่าวว่า สศร. ร่วมกับคณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดทำบทเพลง “ฉันรักแม่” จากอัลบั้ม ฟังแล้วอิ่มใจ ในโครงการสร้างสรรค์เพลงคุณธรรมร่วมสมัย โดยจะนำมาเผยแพร่ผ่านการแสดงดนตรีร่วมสมัย ภายในงานที่สวนอัมพร พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนดาวน์โหลด ทั้ง ๕ เพลงในอัลบั้ม ได้แก่ พระราชผู้ทรงธรรม ฉันรักแม่ ทำบุญข้างเธอ เพื่อนกัน ฝันที่งดงามผ่านทางเว็บไซต์ ocac.go.th

ภาพและข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th
culture.go.th

ร้อยใจ ร้อยมาลัย ร้อยล้านดวงใจ เทิดไท้ราชินี ปี ๕๗

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดงานมหกรรม "ร้อยใจ ร้อยมาลัย ร้อยล้านดวงใจ เทิดไท้ราชินี ประจำปี ๒๕๕๗" ภายใต้แนวคิด "พระคุณแม่ พระคุณแผ่นดิน" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างวันที่ ๖ - ๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo - ๒o.oo น. ณ อาคาร ๙ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเปิดงานในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วยการร่วมทำบุญบูรณปฏิสังขรณ์ วิหารมายาเทวี การประกวดเรียงความ การประกวดวาดภาพในหัวข้อ "พระคุณแม่ พระคุณแผ่นดิน" การสาธิตป้องกันตัวแบบต่าง ๆ สาธิตการทำสิ่งประดิษฐ์หัตถกรรม อีกทั้งยังมีการแสดงพิธีเปิดชุด "ฉันคือคนไทย คนรักแผ่นดิน" ผลงานการกำกับการแสดง โดย "ครูนิมิต พิพิธกุล" ผู้ได้รับรางวัลศิลปินศิลปาธร สาขาศิลปการแสดงประจำปี พ.ศ. ๒๕๕o ร่วมด้วย ศิลปินร่วมสมัยจากรายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ แสงสีศิลป์ และ ไอสยาม

นอกจากนี้ยังมีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ วง "ฟรุตตี้", "โมเดิร์นด็อก", "อ๊อฟ - ปองศักดิ์ รัตนพงษ์", "พลพล พลกองเส็ง" และอีกมากมาย การทอล์คโชว์โดย "อาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ" และ "อาจารย์ ดร.พนม ปีย์เจริญ" การแสดงทรัมเป็ตโดย วง "เพียวฮอร์น" วงดนตรีเครื่องเป่าดีกรีแชมป์โลก และการแสดงที่จะมอบความสุข ความสนุกเพลิดเพลินให้กับผู้ร่วมงานอีกมากมายตลอดทั้งสามวัน กิจกรรมทั้งหมดเปิดให้เข้าชมฟรี

ภาพและข้อมูลจากเวบ
siamzone.com
m-society.go.th
เฟซบุค Rakmaeonline

พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เล่าเรื่องทุนพระราชทานเฉลิมพระเกียรติ 'ราชินี'

เนื่องในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคม เพื่อเป็นการสืบสานพระราชปณิธาน รวมทั้งเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณในหัวเรื่อง "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กับการศึกษา" โดยเปิดโต๊ะแถลงข่าวไปเมื่อวันก่อน ที่ห้องโถงพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ หอรัษฎากรพิพัฒน์ ในพระบรมมหาราชวัง

ท่านผู้หญิงนราวิดี ชัยเฉนียน นางสนองพระโอษฐ์ ในสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผู้ดูแลด้านการศึกษา เล่าให้ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงดูแลเด็ก ๆ ที่ได้รับทุนพระราชทานหรือที่เรียกกันว่าทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำริเสมอว่าการศึกษาจะให้คุณภาพชีวิตของทุกคนดีขึ้น และจะเป็นทรัพยากรที่ดีของประเทศชาติ เวลาที่ทรงตามเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทรงพบว่าคนยากจนและมีลูกมากจะไม่สามารถส่งลูกเรียนสูง ๆ ได้ เป็นการเสียโอกาสการเพิ่มพูนความรู้แก่ตัวเองและประเทศชาติ

"สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชประสงค์ให้เด็ก ๆ ยากจนได้รับทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยไม่มีข้อผูกมัด ด้วยทุนพระราชทานที่ส่งจนให้เด็ก ๆ พึ่งพาตัวเองได้ สร้างอนาคตได้มั่นคง สร้างครอบครัวที่มั่นคง เป็นหนึ่งในการสร้างประเทศชาติมั่นคง เป็นทุนที่ทั้ง ๒ พระองค์คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทาน โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ จะทรงใส่ใจในเรื่องความเป็นอยู่ของนักเรียนทุนด้วย ทั้งเรื่องสุขภาพและความประพฤติ ความเป็นอยู่ พร้อมพระราชทานให้นางสนองพระโอษฐ์คอยดูแลเด็กๆ เหล่านั้น เปรียบเสมือนผู้ใหญ่ดูแลเด็ก สั่งสอนอบรมไปพร้อม ๆ กัน ให้มีศีลธรรม เป็นคนดี เป็นที่พึ่งของคนในครอบครัว" ท่านผู้หญิงนราวดีเล่าที่มาที่ไป

พร้อมกันนี้ ยังเชิญนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์มาร่วมเผยความรู้สึก เริ่มจาก กิตติ เพ็ชรสันทัด ผู้ช่วยผู้อำนวยการบำรุงรักษาระบบส่ง-บำรุงรักษา ฝ่ายบำรุงรักษาระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวได้รับพระราชทานทุนตั้งแต่ปี ๒๕๑๒ จนจบการศึกษาปริญญาตรีในปี ๒๕๒๙ ซึ่งตัวเองนั่นเป็นเด็กกำพร้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงพระราชทานทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ ด้วยพ่อเป็นข้าราชการรับใช้เบื้องพระยุคลบาทในส่วนของานพัฒนา มีอยู่วันหนึ่งหลังจากพ่อได้ดูแลปลูกต้นไม้ในวังไกลกังวลแล้วก็กลับมานอนพัก แล้วหลับไปเลย ความทราบยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานทุนการศึกษาให้ลูก ๆ ของพ่อ ๔ คน ซึ่งความจริงเรามีพี่น้อง ๙ คน แต่อยู่ในวัยเรียน ๔ คนเท่านั้น

"หลังจากได้ทุนการศึกษาพระราชทาน ท่านผู้หญิงในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็มาดูแลพวกเรา คอยอบรมสั่งสอน คอยดูแลความประพฤติ ซึ่งทุนพระราชทานด้านการศึกษานี้ก็ครอบคลุมทุกอย่างที่เกี่ยวกับการศึกษา เบิกได้ทุกอย่าง ตอนนี้ทุกคนก็มีหน้าที่การงานมั่นคง มีครอบครัวที่ดี ทั้งหมดทั้งมวลมาจากเงินพระราชทานและการสอนสั่งของผู้ดูแลในสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่สอนให้พวกเราเป็นคนดี มีคุณธรรม มีศีลธรรม เมื่อได้รับการสั่งสอนที่ดีเห็นได้ชัดว่าพวกเราพี่น้อง ๔ คนมีโอกาสที่ดีทางสังคมเพราะทุนพระราชทานของทั้งสองพระองค์จริง ๆ" หนึ่งในนักเรียนทุนเล่าถึงพระมหากรุณาธิคุณ

ทั้งนี้ ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย หัวหน้าโครงการพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ได้กล่าวถึงกิจกรรมตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ว่า ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ผู้ที่มาร่วมงานจะได้พบกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย ส่วนห้องกิจกรรมได้ปรับโฉมใหม่ในรูปแบบบ้านอีสาน นำเสนอวิถีชีวิตของสมาชิกศิลปาชีพ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นสมบัติของชาติได้สัมผัสวิถีดั้งเดิมของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักและทอผ้าเป็นอาชีพเสริม จึงขอเชิญชวนสถานศึกษาทุกระดับชั้นไม่เกินระดับปริญญาตรี เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นหมู่คณะ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net

สีสันพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ครั้งที่ ๘

งาน สีสรรพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ครั้งที่ ๘ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมกับ ๑๗ องค์กร จัดงาน “สีสันพรรณไม้ เทิดไท้บรมราชินีนาถ ครั้งที่ ๘” ระหว่างวันที่ ๙-๑๓ ส.ค. ๒๕๕๗ ณ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร เพื่อรำลึกพระมหา กรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา

ทั้งนี้ เพื่อเผยแพร่โครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการมีชีวิตให้ประชาชนทั่วไปศึกษาหาความรู้และเลือกซื้อผลิตผลและผลิตภัณฑ์จากโครงการ และสนับสนุนเกษตรกรทั้งพืชสวนและไม้ประดับ นอกจากนี้ยังถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้จักสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ “ป่าเล็กในเมืองใหญ่” แห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่ให้ความรู้เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่สืบไปตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ภายในงานประชาชนจะได้มีส่วนร่วมถวายพระราชกุศลในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ด้วยการร่วมทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือ นำเข้าโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริจำนวน ๖,ooo ตัว และมอบโค-กระบือที่ไถ่ชีวิตนี้ให้เกษตรกรเลี้ยงเพื่อใช้แรงงาน ผลิตลูกและมูลสัตว์เป็นปุ๋ยปรับปรุงบำรุงดินต่อไป และสามารถรับปลาไทยที่กรมประมงจะนำมาแจกจ่ายวันละ ๑oo ถุง เพื่อนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติตามอัธยาศัย ร่วมกันอนุรักษ์ระบบนิเวศของชาติ โดยการจัดงานครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเป็นประธานเปิดงานพร้อมทรงไถ่ชีวิต-โคกระบือ เพศเมีย ๔ ตัว ในวันที่ ๑o ส.ค. เวลา ๑๗.oo น. และในวันที่ ๑๒ ส.ค. จะมีการร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลในเวลา ๑๙.oo น.

กรมประมงนำพันธุ์ปลาพลวงชมพูที่ได้จากการเพาะพันธุ์ตามพระราชดำริมาจัดแสดง จะมีการจัดกิจกรรม ได้แก่ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ โครงการพระราชดำริขยายพันธุ์ปลาพลวงชมพู การจัดแสดงปลาพลวงชมพู พร้อมฉาย DVD ชีวิตปลาพลวงชมพูและการเพาะขยายพันธุ์ และที่เป็นไฮไลท์ คือ หลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานฯ กรมประมงได้เตรียมกิจกรรม “ปล่อยปลาพลวงชมพู ๓,ooo ตัว แบบ on line” ให้พระองค์ทรงปล่อย โดยเป็นการปล่อยปลาพลวงชมพูด้วยวิธีกดปุ่ม on line ปลาทั้งหมดก็จะถูกปล่อยลงในเขื่อนบางลาง จังหวัดยะลา ซึ่งพระองค์ท่านจะได้ทรงทอดพระเนตรการปล่อยจริง ๆ (ถ่ายทอดสด) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย

อีกทั้ง ยังมีกิจกรรมการแจกพันธุ์ปลาไทยให้กับประชาชนเพื่อร่วมกันปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวนวันละ ๑oo ถุง เพื่อเป็นการสนองในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านการอนุรักษ์พันธุ์ปลาไทย และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเกี่ยวกับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โดยจัดทำเป็น model จำลองการเลี้ยงกบ และเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตรอีกด้วย

สำหรับนิทรรศการมีชีวิต ผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมที่น่าสนใจจากหน่วย งานต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการ “ผักและสมุนไพรพื้นบ้าน เสริมสร้างคุณภาพชีวิต ช่วยเศรษฐกิจครัวเรือน” การจัดสวนด้วยพืชสมุนไพร และการสาธิตวิธีการปรุงอาหารด้วยผักพื้นบ้านจากกรมส่งเสริมการเกษตร, นิทรรศการมีชีวิต ๘ ชุด ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์พันธุ์ไม้ จากป่าสู่เมือง” ให้ผู้เข้าชมสัมผัสถึงคุณประโยชน์ของป่า, นิทรรศการ “ใต้ร่มพระบารมี วนาลีร่มเย็น” การส่งเสริมอาชีพการปลูกกาแฟควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ป่าในลักษณะพึ่งพาอาศัยอย่างกลมกลืนและยั่งยืน,วงจรและการเพาะพันธุ์ปลาพวงชมพูตามพระราชดำริ, การแสดงผลงานภาพถ่ายนกในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และอาหารอร่อยจากร้านอาหารโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ร้านอาหารโครงการร่วมใจอุดหนุนผู้เช่าบนพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินฯ นอกจากนี้ยังมีการแจกกล้าไม้ทุกวัน รวมถึงมีการออกร้านจำหน่ายพรรณไม้น่าซื้อกว่า ๑oo ร้านในราคาถูก

ภาพและข้อมูลจากเวบ
innnews.co.th

เล่าขานตำนาน 'ดอกไม้ใต้ร่มพระบารมี'

หากดอกไม้เปรียบดั่งหญิงงาม ในเดือนแห่งความรักความอบอุ่นจากหญิงผู้เป็น "แม่" อย่างเดือนสิงหาคม ดอกไม้ทุกช่อคงแข่งกันเบ่งบานสดใสไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า "ดอกรัก" ที่ลูก ๆ คุ้นเคย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ สิงหาคมปีนี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ "ดอกไม้ใต้ร่มพระบารมี" รวบรวมดอกไม้นานาพรรณอันเกี่ยวเนื่องกับแม่ของแผ่นดิน อีกทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของวัฒนธรรมดอกไม้ จัดแสดงให้ผู้สนใจได้ชื่นชมอย่างมีอรรถรส ภายในโถงนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

ในวันเปิดงาน ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ซีอีโอใหญ่แบงก์ใบโพธิ์ ร่วมเป็นประธานตัดริบบิ้น โดย ธาตรี ลิขนะพิชิตกุล เจ้าบ้านด้านการข่าวของธนาคาร เล่าความตั้งใจในการปลุกปั้นนิทรรศการสวย ๆ ครั้งนี้ ว่า ดอกไม้ใต้ร่มพระบารมี จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่ได้พระราชทานโครงการในพระราชดำริให้มีการอนุรักษณ์และพัฒนา เช่น กล้วยไม้พันธุ์ต่าง ๆ และบอนสี พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ชื่นชมความงานของดอกไม้พระนาม ดอกไม้พระราชทานนาม และดอกไม้ที่พระองค์โปรดชนิดต่าง ๆ

เนื้อหาน่าสนใจภายในนิทรรศการที่น้อยคนนักจะทราบ เริ่มจากพรรณไม้หอมที่พระองค์โปรดมากคือ "บัว" ดังที่ ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค บรรยายไว้ว่า "บัวเป็นดอกไม้ที่ทรงโปรดมาก และโปรดทั้งสีชมพูที่เรียกว่า สัตตบงกช และสีขาวซึ่งเรียกว่า สัตตบุศย์ ทรงจัดถวายพระเป็นพุทธบูชาเป็นประจำ พร้อมกับรับสั่งว่า...เป็นดอกไม้ที่สวยที่สุด ดอกไม้ฝรั่งเทียบไม่ได้" หรืออย่างกลุ่มดอกไม้พระนามชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบควีนสิริกิติ์ คัทลียาควีนสิริกิติ์ ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ และบัวควีนสิริกิติ์ ก็ล้วนมีที่มาที่ไป โดยเฉพาะ "ดอนญ่าควีนสิริกิติ์" นั้น ทางมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ได้ผสมขึ้น และได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญพระนามาภิไธยเป็นชื่อดอนญ่าพันธุ์ใหม่นี้ เมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ เยือนประเทศฟิลิปปินส์ ในปี ๒๕o๖

สำหรับพันธุ์ไม้ประดับตระกูล "บอนสี" ช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และติดตามความก้าวหน้าในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่ภาคใต้ มีพระราชดำริว่า ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มีบอนสีเกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมาย ทั้งในบ้านและในสวนยาง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้กองทัพภาคที่ ๔ จัดประกวดบอนสีขึ้น โดยดำเนินการจัดประกวดบอนสีเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๔๑ ณ ศาลาประชาคม จังหวัดนราธิวาส และนำบอนสีที่ชนะการประกวดไปจัดถวายทอดพระเนตร ในนิทรรศการบอนสี ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติสิริกาญจนทักษิณ ภายในพระตำหนัก

ไม่เพียงมวลไม้สวยงามตามความนิยมที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ความสนพระราชหฤทัย ทว่าดอกหญ้าหลากสีตามผืนดินที่บางคนอาจมองไร้ค่ายังโปรด พร้อมกับพระราชทานนามอย่างไพเราะ โดยหลายปีมาแล้วได้มีพระราชปรารภกับผู้ใกล้ชิดว่า ในภาคอีสานนั้นมีพรรณไม้เล็ก ๆ สวยงามตามท้องทุ่ง ซึ่งไม่เคยทอดพระเนตรในภาคอื่น ๆ เลย โดยเฉพาะใน จ.สกลนคร ในบริเวณพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ ใกล้ ๆ กับเชิงเขาจะมีดอกหญ้าป่าชนิดหนึ่งมีลักษณะสีม่วงและสีน้ำเงินสด ส่งกลิ่นหอม และบานสะพรั่งไปทั่วทั้งทุ่งเป็นลานกว้างในช่วงปลายฤดูฝนต้นหนาว และพระราชทานนามดอกไม้ป่า ดอกเล็ก ๆ นี้ว่า "ดอกดุสิตา" ปัจจุบันลานดุสิตาละลานตาไปด้วยดอกไม้ป่าหลากสี ซึ่งได้พระราชทานชื่อดอกไม้หลากสีเหล่านี้เพิ่มเติมนอกเหนือจากดุสิตา ได้แก่ มณีเทวา สรัสจันทร และสร้อยสุวรรณา แข่งกันชูช่อปะปนอยู่กับดอกกระดุมเงิน และดอกหยาดน้ำค้างที่บานแนบติดอยู่กับพื้นดิน

นอกจากนี้ ภายในนิทรรศการยังมีกิจกรรมพิเศษเสริมความสนใจใคร่รู้ของผู้ชม อาทิ การสาธิตงานฝีมือเกี่ยวกับดอกไม้, เวิร์กช็อปชวนคุณแม่ลูกผูกพันพับและปั้นดอกไม้ต่าง ๆ โดยวิทยากรจากวิทยาลัยในวังหญิง, กิจกรรมพิศพรรณไม้ในพิพิธภัณฑ์, การจำหน่ายพรรณไม้สวยงาม พร้อมสินค้าที่ระลึกจากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นต้น โดยนิทรรศการจัดยาวไปจนถึงวันที่ ๑๒ กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา ๙.๓o-๑๗.oo น. สอบถามเพิ่มเติมโทรศัพท์ o-๒๕๔๔-๓๘๕๘

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net

รวมใจเทิดไท้ราชินี "นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้ราชินี

ในโอกาสวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. แถลงข่าวการจัดงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ ๒ โดยกำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “รักแม่ สวมเสื้อฟ้า พาแม่เที่ยว” โดยมี พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นประธานในการแถลงข่าว และให้ข้อมูลการจัดงาน พร้อมชมการสาธิต และจัดแสดงผลงานหัตถกรรม จากครูช่างผู้เชี่ยวชาญ

พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ ๘๒ พรรษา และเพื่อแสดงให้คนทั่วไป ได้เห็นถึงคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจในงานศิลปาชีพ ศิลปหัตถกรรมไทย และยังได้สนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกผู้ประกอบการ ศ.ศ.ป. อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งเพื่ออนุรักษ์และสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทย

"ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเป็นการแสดงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อาทิ นิทรรศการ “พระราชินี.. ความงามของแม่แห่งแผ่นดิน” นิทรรศการ “นิรมิตครูศิลป์” จัดแสดงผลงานของผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปหัตถกรรม ๕ ท่าน ๕ แขนง ที่มีฝีมือเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ได้แก่ ครูรุจิรา พูลเกิด ครูช่างผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสบู่เดคูพาจ ที่มีเอกลักษณ์ และมีความสวยงามไม่เหมือนใคร, ครูพิมพ์แก้ว กิตติรัตน์ธนโชติ ครูช่างผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผับตบชวา, ครูประพาส เรืองกิจ ครูช่างผู้สืบสานการสานปลาตะเพียนใบลาน, ครูวัฒนา จันทร์สน ครูช่างด้านการผลิตเทียนในรูปแบบงานเรซิ่น โลหะ ที่มีความประณีต และ ครูจันทิมา อ่อนพลี ครูช่างผู้ประยุกต์พัฒนาการถักโครเชต์ เป็นพวงมาลัยที่มีความสวยงาม

นอกจากนี้การร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมการจัดแสดงผลงานศิลปาชีพ การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จากสมาชิกศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ทั่วทุกภาคของประเทศ กิจกรรมรับวันแม่ต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมของขวัญให้แม่ กิจกรรมพาแม่ช็อป ชม ชิม อิ่มใจ และกิจกรรมไฮไลท์พิเศษในครั้งนี้ ได้แก่การแสดงคอนเสิร์ตดนตรีสองวัยเอาใจทั้งคุณแม่และคุณลูก กับศิลปินยอดฮิตในยุคส้นสูง กระโปรงนิวลุค ปะทะ ศิลปินในยุคอินเทอร์เน็ต ที่คาดว่าจะสร้างความสนุกและประทับใจให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกในช่วงวันแม่ที่จะมาถึงได้เป็นอย่างดี" ผอ.ศ.ศ.ป แจงรายละเอียด

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถร่วมงาน “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี” ครั้งที่ ๒ ในระหว่างวันที่ ๘-๑๒ สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา ๑o.oo-๒o.oo น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายงานการตลาด ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) โทร. o-๒๑๘๗-o๒๙๕, o๘-๖๕o๔-๖๔๗๘ และดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.sacict.net หรือแฟนเพจ “นวัตศิลป์ไทย เทิดไท้องค์ราชินี”

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net
เฟซบุคนวัตศิลป์ไทยฯ

บัวแก้วเฉลิมพระเกียรติ 'ราชินี'

เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่สร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มีเกียรติ และเอกอัครราชทูตจากนานาประเทศที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีหัวเรือใหญ่ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่ควงศรีภรรยา วราภรณ์ พวงเกตุแก้ว และข้าราชการระดับสูงคอยต้อนรับขับสู้แขกที่มาร่วมอย่างคึกคัก อาทิ อาสา - ท่านผู้หญิงสุจิตคุณ สารสิน, วาปี - ท่านผู้หญิงเหมือนจิต ภิรมย์ภักดี, ฯพณฯ มิคเคล วินเทอร์ เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ร่วมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ สมาชิกหอการค้าต่างประเทศ บุคคลสำคัญจากภาครัฐและเอกชน เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เพียงย่างก้าวเข้าไปในงานก็พบกับความอลังการของผ้าไทยผ่านนิทรรศการภายใต้ชื่อ "ซิลค์ แอนด์ อาร์ต ดีไซน์" จากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้ดีไซเนอร์คนดังประเทศอย่าง "ไข่" สมชาย แก้วทอง จากไข่บูทีค ชำนัญ ภักดีสุข จากฟลายนาว แบรนด์ฮุก โดย ประภากาศ อังศุสิงห์ นคร สัมพันธรักษ์ จาก นาการ่า อิชชู่ และแบรนด์ วาทิท อิทธิ ร่วมออกแบบชุดดังกล่าว

จากนั้นเดินเข้าสู่ห้องจัดงานเพื่อรับฟังการแสดงดนตรีโดยวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ ที่คัดสรรบทเพลงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถโปรด ซึ่งมีทั้งเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพลงคลาสสิก และเพลงยอดนิยมจากละครเพลงและภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลก โดยนักร้องเสียงดีอย่าง ศรัณย์ คุ้งบรรพต และ ดวงพร พงศ์ผาสุก มาร่วมถ่ายทอดความประทับใจของบทเพลงเหล่านั้น

ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศจะจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อาทิ การแสดงดนตรีและวัฒนธรรม การจัดนิทรรศการ และการจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เป็นประจำทุกปี

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.ne

ศิลป์แผ่นดิน...ถิ่นแม่หลวง

ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค จัดงาน ศิลป์แผ่นดิน...ถิ่นแม่หลวง ในคอนเซ็ปต์ โภชนศาสตร์แห่งพระราขินี ร่วมเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๒ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๗ ด้วยท่านทรงมีพระจริยวัตรอันเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพ และสนับสนุนให้ประชาชนกินดี อยู่ดี และมีสุขภาพดี

พบกับสารพันผักพื้นบ้าน ๔ ภาค นำมารังสรรค์เป็นเมนูสุดพิเศษ อาทิ น้ำพริกปลากุเลาใบชะมวง , ข้าวยำผักพื้นบ้าน ๔ ภาค พร้อมเลือกสรรสินค้าคุณภาพ จากโครงการและมูลนิธิต่างๆ ตลอดจนเลือกซื้อผักปลอดสารพิษ และมนูพิเศษจากผักพื้นบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศสวนพืชผักนานาพันธุ์

ภายในงาน พบกับ

- อาหารไทยพื้นบ้านที่ท่านทรงโปรด อาทิ เมนูน้ำพริก ซึ่งประกอบด้วยผักหลากหลายชนิด เมนูข้าวยำปักษ์ใต้ เป็นต้น

- นอกจากนี้ยังได้รังสรรค์เมนูพิเศษ ตามแนวทางด้านโภชนาการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อาทิ น้ำพริกปลากุเลาใบชะมวง โดยเพิ่มความอร่อยกลมกล่อม ของน้ำพริกด้วย ใบชะมวง ที่ใส่เพื่อเพิ่มรสชาติเปรี้ยว แทนการใส่มะนาว และอีก ๑ เมนู ข้าวยำผักพื้นบ้าน ๔ ภาค ที่มีขั้นตอนการหุงข้าวที่พิถีพิถันโดยการใช้ ดอกดินมาเป็นส่วนประกอบ เพราะดอกดิน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดอกไม้มหัศจรรย์ สามารถเป็นได้ทั้งอาหารและสมุนไพร มีฤทธิ์ต้านพิษต่อตับ กระตุ้นภูมิต้านทาน

- พร้อมชมผักพื้นบ้าน ๔ ภาค หายาก อาทิ ผักเชียงดา , ผักชะคราม , ไข่ผำ , มันปู เป็นต้น

- ร่วมซื้อสินค้า ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากโครงการ และมูลนิธิต่าง ๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา, ร้านถักร้อยสร้อยรัก, ร้านศิลปาชีพ ๙๐๔, ร้านภูฟ้า, ร้านดร.น้ำใจ ฯลฯ

- ตลอดจนการจัดแสดงผลงาน การออกแบบชุดแต่งกายของนักศึกษา ในโครงการ Future Park Young Designer แฟชั่นผ้าขาวม้าไทย สู่ดีไซน์ แฟชั่นโลก และการเต้น Flash Mob รักกันวันแม่ จากกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำ ณ Cascata ชั้น G วันที่ ๘ – ๑๐ และ ๑๕ – ๑๗สิงหาคม ๑๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐ น. วันละ ๑ รอบ

ร่วมชื่นชมพระราชจริยาวัตรทางด้านอาหารและโภชนาการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมชมผลงานการออกแบบชุดแต่งกาย ของนักศึกษา และสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากโครงการและมูลนิธิต่าง ๆ ในงาน ศิลป์แผ่นดิน...ถิ่นแม่หลวง

ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคศิลป์ฟิวเจอร์พาร์ค
เฟซบุคศิลป์แผ่นดิน ถิ่นแม่หลวง

นิทรรศการภาพเขียนของแม่ ที่นิดจะศิลป์ แกเลอรี
โดย ศักดิ์ศิริ มีสมสืบ

“นิดจะศิลป์” แกลเลอรี่ ภูมิใจเสนอ งานแสดงภาพเขียนของศิลปินหญิงอาวุโส “ชุมสาย มีสมสืบ” วัย ๘๕ ปี มีความสุขกับการ “เข้าวัตร” “ปฏิบัติทำ” วาดรูป “บรรลุทำ” ทุกวัน

ภาพเขียนสีอะคริลิก จำนวน ๕๕ ชิ้น จะจัดแสดงในเดือนสิงหาคมนี้ ที่ “นิดจะศิลป์” แกลเลอรี่ ภูเก็จ Boat plaza ต.รัษฎา, (o๙-๔๒๕๘-๕๕๙๙)

พิธีเปิด วันที่ ๘ สิงหาคม ยามค่ำพบกัน พาแม่ไปด้วย พาแม่ไปพบแม่ ฟังแม่(ศิลปิน) พูดคุย ตอบคำถาม สัมผัสความสุขแบบเรียบง่าย ฟัง “หลักทำ” ที่ปฏิบัติได้จริง จากแม่ผู้ “ปฏิบัติทำ” และ “บรรลุทำ” มาตลอดช่วงเวลากว่า ๑o ปี แม่เริ่มวาดรูปตั้งแต่วัย ๗o ปี

ชื่องาน “แม่ ถือศิลป์ ปฏิบัติทำ” ตอกย้ำวัตรปฏิบัติ ของหญิงชรา วันวัยที่โรยราไม่เป็นอุปสรรค ขอเพียงใจรัก รักที่จะระบายสี

ลูกๆ มีหน้าที่ดูแลจัดหาอุปกรณ์การวาดรูปให้แม่ สีที่สะดวกใช้ง่าย คือ สีอะคริลิก เพราะเป็นสีที่ใช้น้ำเป็นตัวผสม ขั้นตอนการใช้ไม่ยิ่งยาก ระบายทับซ้อนหลายครั้งโดยสีไม่เน่า ล้างพู่กันจานสีง่ายไม่เลอะเทอะ ไม่มีกลิ่นเหมือนสีน้ำมันอุปกรณ์หาซื้อง่าย มีขายส่งไปตามร้านเครื่องเขียน ครบครัน ทั้งสี พู่กัน และกรอบผ้าใบขึงสำเร็จ รองพื้น เรียบร้อยพร้อมวาด

“ชุมสาย มีสมสืบ” แม่ของผมเองครับ ผมเขียนถึงเธอด้วยหวังว่า จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สูงวัย คุณแม่ คุณพ่อ คุณตา คุณยาย ของใคร ๆ หันมา “เข้าวัตร ถือศิลป์ ปฏิบัติทำ” กันมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อ “บรรลุทำ” นำศิลปะเป็นสื่อเข้าถึงความงาม ความสุข สงบ โดยถือศิปะดั่งถือศาสนา

แม่เริ่มวาดรูป เมื่อวัย ๗o ปี ครับ เพราะความเสียดายสีที่เหลือ คาจานสีของลูกชาย (ผมเอง) นับแต่นั้น แม่ก็วาดมาตลอด เริ่มจากวาดรูปดอกไม้ดอกเดียว จากนั้นจัดแจกันดอกไม้เป็นหุ่นนิ่ง แล้วหันมาวาดภาพวิว โดยวาดจากจินตนาการ วาดโดยไม่ได้เรียนจากครูบาอาจารย์คนไหน วาดจากใจ วาดตามความรู้สึก

สื่อสารถึงคนภูเก็ต ขอเชิญร่วมพิธีเปิดนิทรรศการ “แม่ถือศิลป์ ปฏิบัติทำ” ร่วมบรรยากาศ ร่วมพูดคุย สนทนา ภาษาลูก ๆ แม่ ๆ ฟังบทกวี ฟังเพลง ชมภาพเขียนสีสดใส ของศิลปินสูงวัย แต่หัวใจอ่อนเยาว์

ย้ำอีกครั้ง ๘ สิงหาคมนี้ เวลาเย็นต่อค่ำ ณ นิดจะศิลป์แกลเลอรี่ Boat plaza รัษฎา ภูเก็จ ครับ

ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net

ดาวน์โหลดใบสมัคร คลิก

ภาพและข้อมูลจากเวบ
grandsport.com

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 07 สิงหาคม 2557

Last Update : 8 สิงหาคม 2557 9:12:36 น.

0 comments

Counter : 2454 Pageviews.