happy memories
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑o๘




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto









"นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพฯ”


นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ นิทรรศการ “รูปยาตรา ภาพทัศนาจร” ใน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดโดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสได้ร่วมตามรอยเสด็จฯและชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ที่ได้ทรงบันทึกไว้ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ “รูปยาตรา ภาพทัศนาจร” ในช่วงปี ๒๕๕๕-๒๕๕๖ เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ จำนวน ๑๗๓ ภาพ






นับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕o สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ เพื่อนำมาจัดแสดงนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นความรู้แก่นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป เริ่มตั้งแต่นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “แสงคือสี สีคือแสง” ในปี ๒๕๕o นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ชีวิตที่หมุนไปไม่หยุดยั้ง” ในปี ๒๕๕๑ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ถ้าเดินเรื่อยไปย่อมถึงปลายทาง” ในปี ๒๕๕๒ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “สี แสง แสดงชีวิต” ในปี ๒๕๕๓ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อุปบัติ ณ โลกี” ในปี ๒๕๕๔ นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “ควงกล้องท่องโลก” ในปี ๒๕๕๕ และปี ๒๕๕๖ นี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เพื่อจัดนิทรรศการในหัวข้อ “รูปยาตรา ภาพทัศนาจร”






ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “รูปยาตรา ภาพทัศนาจร” จำนวน ๑๗๓ ภาพ ที่นำมาจัดแสดง นอกจากเป็นภาพที่สวยงามทรงคุณค่าทางศิลปะการถ่ายภาพแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองจากสายพระเนตรที่ทรงประสบพบเห็นสิ่งต่างๆที่ทรงสนพระราชหฤทัยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่าย อีกทั้งยังให้ข้อคิดเตือนใจในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้มาชมภาพที่เปรียบเสมือนการเล่าเรื่องผ่านภาพถ่ายของพระองค์ท่านในทุกแห่งหน






ในการนี้ ผู้จัดงานฯ ได้รับพระราชานุญาตให้นำวิดีทัศน์ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ด้วยพระองค์เอง มาจัดฉายให้แก่ผู้ร่วมชมนิทรรศการได้ทราบแนวคิด และเกร็ดมุมมองของถ่ายภาพนั้น ๆ และทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้ผู้จัดงานจัดวางสมุดแสดงความคิดเห็น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมนิทรรศการได้เขียนข้อความแสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอย่างอิสระต่อภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ อันเป็นไปตามพระราชประสงค์ที่ทรงอยากทราบถึงความรู้สึกของผู้มาชมนิทรรศการของพระองค์อีกด้วย






นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “รูปยาตรา ภาพทัศนาจร” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดให้ผู้ชมเข้าชมระหว่างวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ – ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา ๑o.oo น. – ๒๑.oo น. และมีการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “รูปยาตรา ภาพทัศนาจร” ในราคาเล่มละ ๙oo บาท ณ ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น ๙ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (สี่แยกปทุมวัน) และศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้รายได้ทั้งหมด นำขึ้นทูลเกล้าถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย






สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ สำนักสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ศตกมล วรกุล (น้อย) ผู้จัดการสำนักงานอาวุโส พัฒนาภาพลักษณ์องค์กรและประชาสัมพันธ์ o๘๑-๙๑๓-๘๑๘๖
พชรวัฒน์ พงศ์อรพินท์ (สัน) หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ o๙๓-๘๒o-๒o๒o
อรชุดา (เบส) o๘๗-๕๖๒-๘o๕๙
สราวุธ (มาร์ค) o๘๗-๙๒๒-๙๔๒๘
พัทธนันท์ (นก) o๘๓-๕๕๖-๖๘๔๕
นัทธมน (โจ้) o๘๕-o๙๙-๒๑๑๓

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
โทร o๒-๒๑๔-๖๖๓o – ๘ ต่อ ๕o๑


ภาพและข้อมูลจากเวบ
bacc.or.th














"ชุมนุมครูอาวุโสรัตนโกสินทร์สืบทอดดนตรีไทย”


ครูดนตรีไทยอาวุโสที่มีลูกศิษย์มากมาย เตรียมพร้อมถ่ายทอดฝีไม้ลายมือใน ”การแสดงดนตรีไทยโดยครูอาวุโสแห่งรัตนโกสินทร์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน โดยปีนี้นับเป็นครั้งที่ ๘ แล้ว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเป็นเอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย และในฐานะองค์ ”วิศิษฏศิลปิน” ศิลปินผู้มีพระอัจฉริยภาพในหลายสาขา ซึ่งพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ต่อศิลปินชั้นครูอาวุโสให้มีขวัญและกำลังส่งเสริมให้คนไทยเห็นคุณค่าดนตรีไทย


ปีนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กำหนดจัดแสดงดนตรีไทยโดยครูอาวุโสแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ประจำปี ๒๕๕๗ ขึ้นในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๗ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงขับร้องเพลงอกทะเล ๓ ชั้น ที่ทรงพระราชนิพนธ์เนื้อร้องในการแสดงที่พิเศษครั้งนี้ให้พสกนิกรร่วมชื่นชมพระอัจฉริยภาพอย่างใกล้ชิด นอกจากเต็มอิ่มการบรรเลงเพลงจากครูดนตรีไทยอาวุโสจำนวน ๓๔ คน รวมถึงผู้สืบทอด ลูกศิษย์ และลูกหลานครูอาวุโสอีกกว่า ๑o ชีวิต


การแสดงดนตรีไทยปีนี้จะมีการขับเสภาถวายพระพรโดยครูศิริ วิชเวช ศิลปินแห่งชาติ การบรรเลงดนตรีไทย วงปี่พาทย์ผสมเครื่องสาย โดยครูอาวุโสหญิงและชายในเพลง ”พม่าเห่ ๒ ชั้น" ถวายพระพร การบรรเลงดนตรีไทย จำนวน ๔ บทเพลง โดยวงมโหรีของครูดนตรีไทยอาวุโส วงเครื่องสายผสมไวโอลิน วงปี่พาทย์ไม้นวมของครูดนตรีไทยอาวุโส และวงเครื่องสายปีชวาของศิษย์ครูอาวุโส กล่าวได้ว่าเป็นการชุมนุมครูด้านดนตรีไทยครั้งยิ่งใหญ่






ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า สมเด็จพระเทพฯ จะทรงขับร้องเพลงอกทะเล ๓ ชั้น ที่ทรงพระราชนิพนธ์เนื้อร้องร่วมกับวงดนตรีบ้านปลายเนิน พร้อมพระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ทิวทัศน์ทะเลหัวหิน ณ พระราชวังเปี่ยมสุข วังไกลกังวล ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการพระราชนิพนธ์เพลง มาจัดพิมพ์ในสูจิบัตรการจัดการแสดงดนตรีไทยมอบให้ผู้ร่วมชมการ ชายหาดนี้เป็นบริเวณเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ได้พระราชนิพนธ์เพลงคลื่นกระทบฝั่ง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พระราชนิพนธ์เพลงไกลกังวล ทั้ง ๓ พระองค์ทรงสร้างสรรค์เพลงที่เรารู้จักกันดี


ม.ร.ว.จักรรถกล่าวต่อว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงห่วงใยดนตรีไทยมาก ทรงเอาพระทัยใส่ครูดนตรีไทยทุกสาขาวงการดนตรีไทยปัจจุบันอยู่ได้ดี เพราะสถาบันการศึกษาให้ความสนใจ ส่งเสริมการเรียนการสอนให้แก่เด็กและเยาวชนมากขึ้น และพบเด็กที่มีฝีมือด้านดนตรีไทยตั้งแต่อายุยังน้อยเป็นจำนวนมาก แต่ปัญหาที่คนไทยยังไม่เข้าถึงดนตรีไทยอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์ ไม่ได้นำเสนอการแสดงดนตรีไทยเท่าที่ควร โดยเฉพาะดนตรีไทยแท้ หากนำเสนอเรื่องราวผ่านสื่อมากขึ้น จะทำให้ประชาชนรู้จักและเข้าใจคุณค่าดนตรีไทย


ด้าน รศ.ดร.โกวิทย์ ขันธศิริ ศิลปินชั้นครูที่มีชื่อเสียง กล่าวว่า ดนตรีไทยมีแบบแผนและการประพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีความไพเราะ ผู้ที่ไม่ได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งอาจมองน่าเบื่อ ขณะเดียวกันอิทธิพลดนตรีต่างประเทศและการเต้นเลียนแบบศิลปิน ทำให้เด็กไทยกำลังหลงลืมดนตรีไทย เห็นว่าการทำให้คนรุ่นใหม่สนใจดนตรีไทยวัฒนธรรมชาติมากขึ้น จะต้องนำเครื่องดนตรีตะวันตกมาผสมให้ร่วมสมัย มีความเป็นสากลยิ่งขึ้น ขณะที่ดนตรีไทยแบบประเพณีก็สืบทอดให้คนเห็นคุณค่าและศึกษากันอย่างลงลึกถึงแก่น


“ในสถาบันการศึกษาระดับปริญญาตรี พบนักศึกษาที่เรียนจบออกไปมีเพียง ๒o% ที่จะเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญ และครูดนตรีไทยที่มีฝีมือ ไม่ใช่แค่มาเอาใบปริญญา อย่างไรก็ตาม ปัญหาของวงการดนตรีไทยคือไม่มีอาชีพรองรับ พร้อม ๆ กับการสูญเสียครูอาวุโสอย่างต่อเนื่อง ส่วนสิ่งที่ผมช่วยวงการได้ตอนนี้คือ ทำโน้ตเพลงดนตรีไทย ทั้งเพลงเถา เพลงหน้าพาทย์ เพลงต้น รักษาภูมิปัญญาของบรมครูไว้ไม่ให้สูญหาย" ครูอาวุโสแห่งรัตนโกสินทร์กล่าว






ด้านเฉลิม ม่วงแพรศรี ศิลปินแห่งชาติ ปี ๒๕๕๖ ครูดนตรีอาวุโสผู้มากฝีมือในเชิงซอ ซึ่งร่วมบรรเลงเพลงเฉลิมพระเกียรติวิศิษฏศิลปิน กล่าวว่า สมเด็จพระเทพฯ ทรงอนุรักษ์ดนตรีไทย ส่งเสริมการแสดงในระดับประถมและมัธยมเพิ่มจากระดับอุดมศึกษา จุดไฟให้เด็ก ๆ ได้เล่นดนตรีไทยอย่างต่อเนื่อง สำหรับการแสดงดนตรีไทยวันที่ ๑๘ มิถุนายนนี้ เป็นกำลังให้ครูอาวุโสดนตรี เพราะได้ร่วมบรรเลงกับสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งพระองค์ทรงดูแลครูอาวุโสมาตลอด


“ลมหายใจดนตรีไทยจะสืบไป ถ้าผู้ปกครองสนับสนุนให้ลูกหลานเรียนวิชาดนตรีไทย ทุกวันนี้น้อยเกินไป เช่นเดียวกับหน่วยงานรัฐต้องส่งเสริมการฟัง สร้างคนฟังรุ่นใหม่สู่การเป็นนักดนตรีไทย และเรื่องเครื่องดนตรีจะต้องมีมาตรการควบคุมราคาไม่ให้แพงจนเกินไป เพื่อให้คนเข้าถึงดนตรีไทยได้” ครูดนตรีอาวุโสย้ำหัวใจสำคัญ


ครูอาวุโสหญิง ทัศนีย์ ขุนทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ผู้สอนขับร้องเพลงไทยเดิม กล่าวยอมรับว่า คนรุ่นใหม่มีความสนใจเรื่องการขับร้องเพลงไทยเดิมน้อยลง แต่หลังจากมี “โขนพระราชทาน” เกิดขึ้นโดยพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทำให้มีผู้สนใจเพิ่มขึ้น เพราะนักแสดงจะร้องเพลง แม้จะไม่มาก แต่นับเป็นโอกาสอันดีในการถ่ายทอดมรดกไทย


การแสดงดนตรีไทยโดยครูอาวุโสฯ จะจัดขึ้นวันที่ ๑๘ มิถุนายน เวลา ๑๘.oo น. ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมฯ ไม่เสียค่าใช้จ่าย สำรองที่นั่งได้ที่ o-๒๒๔๗-oo๒๘ ต่อ ๔๑๑๗, ๔๑๑๙.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaipost.net
culture.go.th














กรมศิลป์เปิดกรุโชว์ 'สมบัติพระราชา' โบราณวัตถุวังหน้า


กรมศิลป์เปิดกรุโชว์ 'สมบัติพระราชา' โบราณวัตถุวังหน้า ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย.-๒๕ ส.ค.นี้ ...


เมื่อวันที่ ๑o มิ.ย. ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวการจัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง เมื่อตะวันออกพบตะวันตก : พิพิธสมบัติพระราชา ณ วังหน้า ว่า กรมศิลปากรได้จัดนิทรรศการพิเศษดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว “วังหน้า” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ซึ่งดำรงพระเกียรติยศเทียบเท่าพระมหากษัตริย์ โดยมีการนำโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มาจัดแสดง มากถึง ๗๗ ชิ้น ภายในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒๕ มิ.ย.-๒๕ ส.ค. นี้


นายเอนก กล่าวต่อไปว่า สำหรับนิทรรศการครั้งนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นำโบราณวัตถุเกี่ยวกับเรื่องราชนิยมที่สืบทอดในพระราชวัง มีรูปแบบศิลปะตะวันออก ประยุกต์รวมกับตะวันตก มาจัดรวมกันเป็นครั้งแรก อาทิ พระบรมฉายาทิสลักษณ์ของพระองค์ ศิลปะตะวันตก พุทธศตวรรษที่ ๒๕ พระแท่นบรรทมคู่ พระแท่นเศวตรฉัตร พระป้ายฉลองพระองค์ ตะเกียงน้ำมัน ศิลปะแบบวิคตอเรีย รวมถึงหลักฐานเอกสารจดหมายเหตุต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมรับรู้ ถึงพระบวรราชประวัติ และการเชื่อมโยงวิทยาการจากโลกตะวันตกและโลกตะวันออกเข้าด้วยกัน ซึ่งนอกจากประชาชนจะได้เรียนรู้ถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังจะได้เห็นคุณค่าทางสถาปัตยกรรมโบราณวังหน้า รวมทั้งเรื่องราวของโบราณวัตถุชิ้นต่าง ๆ ด้วย


อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ กรมศิลปากรยังได้จัดโครงการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์การจัดแสดงให้มีความทันสมัย และผลักดันไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ดังนั้น จึงมีนโยบายที่จะให้มีการนำนิทรรศการชั่วคราว ที่จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่สำคัญของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่ยังไม่เคยจัดแสดงต่อสาธารณชนที่ไหนมาก่อน นำออกมาจัดแสดงให้ประชาชนหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปปีละ ๓-๔ ครั้ง โดยเริ่มนำร่อง ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เพิ่มรายได้เข้าสู่ของประเทศมากขึ้น.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thairath.co.th














ยูเนสโกยกย่อง 'หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร' เป็นบุคคลสำคัญของโลกประจำปี ๒๕๕๘


พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ทรงพระกรุณารับเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดงาน “ฉลองครบ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ครั้งที่ ๑ ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ เนื่องในโอกาสหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization – UNESCO) ประกาศให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในโอกาส ๑๐๐ ปี ชาตกาล ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นด้านสังคมสงเคราะห์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาชุมชน และการศึกษาด้านวัฒนธรรม


ทั้งนี้ ยูเนสโกได้ประกาศว่า “หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างโดดเด่นต่อประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการสื่อสารและวัฒนธรรม รวมทั้งการสนับสนุนสวัสดิภาพของสังคมโดยรวม ผลงานของหม่อมงามจิตต์ฯ ในการก่อตั้งหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษขึ้น ถือว่าเป็นการพัฒนาอันสำคัญยิ่งต่อวงการวารสารศาสตร์สมัยใหม่ในประเทศไทยในเวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก หม่อมงามจิตต์ได้เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญต่อบทบาทสตรี โดยเป็นประธานสภาสตรีระหว่างประเทศ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๒ ซึ่งเป็นสตรีไทยคนแรกและคนเดียว และเป็นสตรีเอเชียคนที่สองที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้ หลายสถาบันที่ท่านได้ก่อตั้งขึ้น เช่น สมาคมส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมอาเซียน ยังคงดำเนินสืบทอดการเป็นผู้ร่วมภารกิจในการนำเสนอผลงานของยูเนสโกจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงสายสัมพันธ์และความสำคัญของสถาบันเหล่านั้น ดังนั้น ยูเนสโกจึงถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีนี้ และได้รับรองการเป็นแบบอย่างสตรีในเชิงสร้างสรรค์ของหม่อมงามจิตต์ฯ ผู้ซึ่งได้สร้างคุณงามความดีต่อประเทศไทย และต่อภูมิภาคโดยส่วนรวมด้วย”


การประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร ของยูเนสโกครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจ เป็นเกียรติศักดิ์ศรี และนำชื่อเสียงมาสู่คนไทยและประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง คณะกรรมการจัดงานฉลอง ๑๐๐ ปี ชาตกาล หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร จะจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อฉลองในโอกาสสำคัญนี้ ซึ่งจะเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงให้แก่สตรีไทยคนไทย และประเทศไทย อาทิ การจัดทำตราไปรษณียากร การจัดนิทรรศการชีวประวัติและผลงานระดับชาติและระดับโลก การจัดทำวีดิทัศน์ฯ การจัดสัมมนา การมอบรางวัลแก่ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านการศึกษา การส่งเสริมวัฒนธรรมและจริยธรรม รวมทั้งการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต และการประกวดบทความ


คณะกรรมการจัดงานฉลองครบ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลกประกอบด้วยหน่วยราชการต่าง ๆ อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ และองค์การเอกชนที่หม่อมงามจิตต์ฯ ริเริ่มหรือมีส่วนร่วมก่อตั้ง อาทิ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการฯ มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อน มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน สภาสังคมสงเคราะห์ฯ สภาสตรีแห่งชาติฯ เป็นต้น รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจศึกษาประวัติของหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ princessngarmchit.org, เฟซบุคมูลนิธิอนุสรณ์หม่อมงามจิตต์ฯ หรือติดต่อได้ที่ princessngamchit@gmail.com







ภาพและข้อมูลจากเวบ
mfa.go.th
princessngarmchit.org
trueplookpanya.com










10



"งานฝ้ายทอใจ ครั้งที่ ๗"


ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. สานต่อพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จัดงาน “ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ ๗” หวังเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ จับมือ ๔ สถาบันออกแบบแฟชั่นชั้นนำของไทย ร่วมดีไซน์ผลงาน ภายใต้แนวคิด “วิถีล้ำนำสมัยกับฝ้ายไทย” (Thai Cotton in Modern Living) ชมการแสดงนิทรรศการ แฟชั่นโชว์ จัดเสวนา การแสดงต่าง ๆ เลือกช้อปผลิตภัณฑ์จากผ้ากว่า ๑oo คูหา และผ้าฝ้ายทอมือพิมพ์ลาย ๕ คอลเลคชั่นพิเศษสีสวย เท่ห์ สดใส ทันสมัย มีจำหน่ายเฉพาะงานนี้เท่านั้น ๑๒-๑๕ มิถุนายน ศกนี้ ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา


“สำหรับการจัดงาน “ฝ้ายทอใจ ครั้งที่ ๗” ปีนี้ ได้ผสมผสานผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ร่วมกับแนวคิดยุคใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจค่านิยมใหม่ ๆ เกิดขึ้น โดยไฮไลท์ภายในงานที่น่าสนใจ คือ การแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าฝ้ายทอมือในคอลเลคชั่น “Heart to Life” เป็นผลงานจากสถาบันการออกแบบแฟชั่นชั้นนำของเมืองไทยถึง ๔ สถาบัน คือ กาลวิน รัฟเฟิล (Raffles) ตักส์ศิลา และบางกอก เอฟ เอ (Bangkok F.A.) มาร่วมออกแบบดีไซน์ของใช้ และเครื่องแต่งกายที่ผลิตขึ้นจากผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งล้วนเป็นผลงานการดีไซน์จากคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น อีกทั้ง ยังได้ร่วมกับภาควิชาออกแบบภายใน คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มาร่วมทำการออกแบบตกแต่งห้องพักจำลอง (Mock-up room) โดยมีการนำผ้าฝ้ายทอมือศิลปาชีพลายพิเศษนำมาใช้ในการตกแต่ง ภายใต้แนวคิด Thai Cotton in Modern Living” และกิจกรรม D.I.Y (Do it yourself) งานฝีมือสร้างสรรค์ของใช้ด้วยผ้าฝ้าย โดยจักรเย็บผ้า จาโนเม่ พร้อมด้วยกิจกรรมการจัดอบรมพิเศษ เรื่องการแต่งกายกับบุคลิกภาพ โดยมีอดีตนางแบบสาวชั้นแนวหน้าของเมืองไทย “คาร่า พลสิทธิ์” มาให้เคล็ดลับดี ๆ และเป็นพรีเซ็นเตอร์ของงานฝ้ายทอใจในปีนี้ด้วย”


นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผ้าที่น่าสนใจ เช่น นิทรรศการผ้าลายนาค (นิทรรศการวัฒนธรรมร่วมชนชาติผ่านลวดลายบนผืนผ้าเอกลักษณ์และความเชื่อเกี่ยวกับนาค) กว่า ๒oo ชิ้น จากพิพิธภัณฑ์ อ.เผ่าทอง ทองเจือ นิทรรศการผ้ารักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Craft) และนิทรรศการเอกลักษณ์และศิลปะแห่งลวดลายผ้าชาวเขา (ในเส้นทางศิลปาชีพ) อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าฝ้าย เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ จากร้านค้าที่เข้าร่วมจัดแสดงภายในงานนี้กว่า ๑oo คูหา ซึ่งในปีนี้ ศ.ศ.ป.คาดว่าจะมีผู้ร่วมชมงานไม่น้อยกว่า ๑o,ooo คน เงินสะพัดไม่น้อยกว่า ๑๒ ล้านบาท โดยหวังว่าความสำเร็จจากการจัดงานฝ้ายทอใจ จะเป็น


จุดเริ่มต้นของพัฒนาการงานศิลปาชีพและผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรมไทย ก้าวไปสู่การพัฒนาด้านศักยภาพ สร้างโอกาสขยายลู่ทาง และกระตุ้นให้เกิดการรณรงค์เอกลักษณ์ของชาติ พร้อมทั้งจะหาช่องทางตลาดใหม่ ๆ ให้กับเกษตรกรและตลาดใหญ่ของผ้าฝ้ายทอมือ คือ ตลาดกลุ่ม Hospitality ได้แก่ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร ที่พักอาศัย ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก หากปัจจัยดังกล่าวเป็นที่ยอมรับ ศ.ศ.ป. มั่นใจว่างานหัตถกรรมจะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว และในปีหน้าก็จะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เรามั่นใจว่างานหัตถกรรมทำมือของไทยจะเป็นที่ยอมรับของตลาดโลกในอนาคตยิ่ง ๆ ขึ้นไป


สำหรับผู้สนใจ “งานฝ้ายทอใจ ครั้งที่ ๗” เชิญชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ผลงานดีไซน์ผ้าทอมือโดย ๔ สถาบันชั้นนำของไทย การแสดงต่าง ๆ พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้า และร้านจำหน่ายผ้าฝ้ายทอมือศิลปาชีพฯ พิมพ์ลายคอลเลคชั่น ๕ ลายสีสวย สดใส ที่มีจำหน่ายเฉพาะในงานนี้เท่านั้น โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ ๑๒ -๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๙.oo-๑๘.oo น. ณ อาคารศาลาพระมิ่งมงคล ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ o๒-๗๓๖-๗๔๔o หรือติดตามได้ที่ เฟซบุค thaicottonfair



ภาพและข้อมูลจากเวบ
กระทู้พันทิป
thaifranchisecenter.com














คอนเสิร์ตการกุศล 'เมื่อเพลงพาไป...@Sawalee'


มูลนิธิอุบลรัตน์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และศิลปินแห่งชาติ คุณสวลี ผกาพันธุ์ ร่วมกันจัดคอนเสิร์ต “เมื่อเพลงพาไป...@ Sawalee”


ศิลปินที่จะแสดงคือ คุณสวลี ผกาพันธุ์, คุณสุเทพ, วงศ์กำแหง, คุณชัยรัตน์ เทียบเทียม, คุณนรอรรถ จันทร์กล่ำ, คุณรวงทอง ทองลั่นธม, คุณธีรนัยน์ ณ หนองคาย, คุณพรศุลี วิชเวช และนักร้องคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์


มีวงดนตรี “กาญจนะผลิน” ควบคุมโดยคุณจิรวุฒิ กาญจนะผลิน และวงดนตรี “สุนทราภรณ์” ควบคุมโดย ครูดำ-พูลสุข สุริยพงษ์รังษี เป็นการเชิญสุนทราภรณ์มาทั้งคณะเป็นแขกรับเชิญ


การแสดงจะมีขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันเสาร์ที่ ๒๘ และวันอาทิตย์ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ รอบบ่าย เวลา ๑๔.oo น. ทั้งสองวัน



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














คอนเสิร์ต "คนรักกำธร สุวรรณปิยศิริ”


ด้วยความรักและความคิดถึง...ก่อเกิดเป็นที่มาของคอนเสิร์ตแห่งความรัก ขอเชิญชมคอนเสิร์ต “คนรัก กำธร สุวรรณปิยะศิริ” เฉลิมฉลองครบรอบ ๘๑ ปี โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง ศาลาเฉลิมกรุง ร่วมกับ นันทวัน – ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ เชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ศิลปินคุณภาพ ร่วมถ่ายทอดบทเพลงรักในดวงใจกำธร...รำลึกถึง กำธร สุวรรณปิยะศิริ ศิลปินผู้ที่มีความรักและความผูกพันกับโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุงแห่งนี้ ในคอนเสิร์ต “คนรัก กำธร สุวรรณปิยะศิริ” ในวันอาทิตย์ที่ ๖ กรกฏาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.oo น. ณ ศาลาเฉลิมกรุง


กำธร สุวรรณปิยะศิริ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๔๗๘ พระเอกละครดังจากเรื่อง “ขุนศึก” ของช่อง ๔ บางขุนพรหม ผู้ฝากผลงานประดับไว้ในใจแฟนละครมากมาย เป็นบุคลากรที่มีคุณค่าทำประโยชน์ไว้ให้แก่วงการบันเทิงไทยมากมาย นอกจากเป็นนักแสดงคุณภาพแล้ว ยังเป็นนักพากย์ฝีปากเอกซึ่งเป็นที่รู้จักในการพากย์เสียงเปาบุ้นจิ้น ซีรี่ส์ดัง จาก ช่อง ๓ กำธร...เป็นผู้ที่มีการวางตัวที่เหมาะสม มีคุณธรรมเป็นตัวอย่างที่ดี เสมอต้นเสมอปลายเป็นที่รักของผู้ร่วมงานและพี่น้องผองเพื่อน เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพมาอย่างต่อเนื่องในบทบาทของนักแสดง นักพากย์ และนักร้อง จนได้รับรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลเกียรติยศคนทีวี ในงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ ๑๙ ปี ๒๕๔๗ กำธร...เสียชีวิตลงด้วยเกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ตลอดชีวิตเป็นผู้สร้างความดี ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอย่างเคร่งครัดเป็นที่รู้จักและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักแสดง มิตรรัก แฟนละครแฟนเพลงทั่วประเทศ


จากความรักและความคิดถึง จึงก่อเกิดเป็นคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ เพื่อรำลึกการจากไปของ "กำธร สุวรรณปิยะศิริ" นำโดย นฤมล ล้อมทอง กรรมการผู้จัดการ ศาลาเฉลิมกรุง ร่วมกับ นันทวัน - ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ เชิญชวนคนรักกำธร...ชมคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ...รำลึก...กำธร สุวรรณปิยะศิริ พบกับ ๕ ศิลปินแห่งชาติ สวลี ผกาพันธุ์, สุประวัติ ปัทมสูต, พิศมัย วิไลศักดิ์, เศรษฐา ศิระฉายา, ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์ และนักร้องคุณภาพผู้เป็นมิตรรัก... สมบัติ เมทะนี, นฤพนธ์ ดุริยพันธ์, ปกรณ์ พรพิสุทธิ์, เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ, ปรีดี - ขจี โอสถสงเคราะห, นีรนุช ปัทมสูต, บูรพา - ญาดา อารัมภีร, อิสริยา คูประเสริฐ, กัญจนปกรณ์ แสดงหาญ, จารุวรี-จารุทัศ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, ปก ปัทมสูต ฯลฯ รวมบทเพลงในดวงใจของ...กำธร สุวรรณปิยะศิริ อาทิ น้ำตาแสงไต้, ศรอนงค์, พี่รักเจ้าสาว, น้ำเซาะทราย, รำพึงรัก, เป็นไปไม่ได้, ทะเลไม่เคยหลับ, เกียรติศักดิ์ทหารเสือ, ฟ้ารักดิน, ดวงใจในฝัน, ขวัญของเรียม, เปาบุ้นจิ้น, ไม่อยากจากเธอ ฯลฯ บรรเลงโดย วงเฉลิมราชย์ ควบคุมวงโดย อ.วิรัช อยู่ถาวร พิธีกร รอง เค้ามูลคดี


เชิญมิตรรักแฟนเพลง...คนรัก กำธร สุวรรณปิยะศิริ ร่วมประทับใจไปพร้อมกับการรำลึกถึงพระเอกในดวงใจตลอดกาล ในคอนเสิร์ต “คนรัก กำธร สุวรรณปิยะศิริ” วันอาทิตย์ที่ ๖ กรกฏาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.oo น. ณ ศาลาเฉลิมกรุง บัตรราคา ๑,ooo บาท ๗oo บาท และ ๕oo บาท สำรองที่นั่งได้วันนี้ที่ศาลาเฉลิมกรุง โทร.o-๒๒๒๕-๘๗๕๗-๘, o-๒๖๒๓-๘๑๔๘-๙ และไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา โทร. o-๒๒๖๒-๓๔๕๖ หรือ thaiticketmajor.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟสบุค Salachalermkrung














"ศ.ศ.ป.เปิดบ้านครูช่างหัตถศิลป์ชั้นสูง ปั้นโครงการ "LUX by SACICT”


เปิดบ้านครูช่างทองทำมือ "ครูทำนอง รุ่งสีทองผู้สร้างทำนองแห่งทองโบราณพานทอง และครูมณฑา ภูมิศักดิ์ ผู้สืบทอดแหวนกลไกปริศนาแห่งจันทบุรี" หัตถศิลป์ชั้นสูง ชมความวิจิตรปราณีตสืบสานคุณค่าแห่งงานศิลปหัตถกรรมส่งเสริมให้เป็นงานชิ้นเอกในโครงการ "LUX by SACICT" ที่เหมาะแก่การวางโชว์และสะสม


นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า โครงการ LUX by SACICT เกิดจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญ และความภาคภูมิใจในงานศิลปหัตถกรรมชั้นสูงไทยที่น่ายกย่อง ผ่านการทำงานของครูช่าง และทายาทหัตถศิลป์ที่มีฝีมือ เกิดเป็นผลงานวิจิตร ปราณีต โดยงานหัตถกรรมที่เข้าข่าย LUX by SACICT นั้น คืองานที่ใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิม และใช้เวลา เทคนิคชั้นยอดในการจะสร้างสรรค์ จึงนับได้ว่า เป็นงานที่มีมูลค่าและราคาสูงซึ่งจะเห็นภาพอย่างชัดเจนจากการลงพื้นที่เยี่ยมชมผลงานของครูช่างหัตถศิลป์ไทย "ครูทำนอง รุ่งสีทอง ผู้สร้างทำนองแห่งทองโบราณพานทองและครูมณฑา ภูมิศักดิ์ ผู้สืบทอดแหวนกลไกปริศนาแห่งจันทบุรี" ทำให้ได้เห็นกระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน ที่เต็มไปด้วยความปราณีตและต้องอาศัยความมีใจรักในวิชาชีพ ทั้งยังรู้สึกชื่นชม เพราะครูช่างทั้ง ๒ ท่าน นอกจากจะผลิตผลงานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์แล้วยังมีการสืบทอดทายาทหัตถศิลป์ ฝึกฝนให้รุ่นลูกหลานได้สานต่องานไม่ให้หายสาบสูญไป


ครูทำนอง รุ่งสีทอง กล่าวว่า "เป็นช่างทองนี่ไม่ร่ำรวย เหมือนร้านขายทอง เพราะงานช่างทองกว่าจะได้แต่ละชิ้นใช้เวลานาน ต้องอดทนมีมานะ จึงจะได้ผลงานละเอียด สวยงามตามที่ตั้งใจ ยิ่งงานละเอียดเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ทำงานได้ช้าลงเท่านั้น แต่พวกเราก็ภูมิใจที่ได้สร้างงานสวย ๆ ออกมาสิ่งที่มีค่าที่สุดของอาชีพช่างทองโบราณ คือ "ความสุข" ทำให้มุ่งมั่นที่จะสืบทอดงานไปสู่รุ่นลูกหลานต่อ ๆ ไป"


ครูมณฑา (ป้าแต๋ว) ผู้สืบทอดแหวนกลไกปริศนาแห่งจันทบุรี กล่าวว่า "แหวนกลไกปริศนา" ที่ถูกคิดค้นมาจากการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานในการเป็นช่างทองแห่งเมืองจันทบุรีของบิดา มารดาแหวนกลไกปริศนา ทำขึ้นจากการถักและตัดวงแหวน ๔ วงโดยทำรอยหยักเว้าเหมือนกลไกล็อกไขว้กันไว้ได้แนบสนิทเหมือนวงเดียวกัน เมื่อสวมใส่อยู่บนนิ้วก็จะมีลักษณะเป็นแหวนวงเดียว แต่พอถอดวงแหวน ทั้ง ๔ จะแยกจากกันได้แต่ยังคล้องกันอยู่และสามารถประกอบกลับเข้าเป็นวงเดียวกันได้อย่างสนิทแนบเนียนพร้อมกับเห็นเป็นรูปสัตว์ตามที่ออกแบบไว้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ทุกวันนี้ ได้ถ่ายทอดอาชีพการทำแหวนทองกลไกไปยังรุ่นลูกเพื่อให้รักษาความพิเศษของแหวนไว้ และให้รุ่นลูกได้ใช้ไอเดียใหม่มาประยุกษ์ให้รูปแบบของแหวนมีความทันสมัยยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลาย ๆ กลุ่มได้"



ภาพและข้อมูลจากเวบ
ryt9.com
prachachat.net














“มหกรรมสีน้ำโลก” ครั้งแรกในไทย


ใกล้เข้ามาทุกที สำหรับนิทรรศการ มหกรรมสีน้ำโลก (The World Watermedia Exposition, Thailand ) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย โดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และมีผลงานของศิลปินสีน้ำระดับแนวหน้าของไทยและนานาชาติ รวม ๓๓ ประเทศ มาจัดแสดงให้ชมระหว่างวันที่ ๑๑ มิถุนายน - ๒o กรกฎมคม พ.ศ. ๒๕๕๗ อังคาร - อาทิตย์ ๙.oo - ๑๖.oo น. ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.oo น.






ระหว่างนี้ทางผู้จัดได้ทำการอัพเดทความคืบหน้าของนิทรรศการให้ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ทาง หน้าเพจ World Watermedia Exposition Thailand และมียอดผู้เข้าไปกด LIKE กว่า ๕,ooo LIKE แล้ว ขณะเดียวกันก็ได้มีการประกาศรายชื่อของศิลปินสีน้ำทั้งของไทยและนานาชาติ ให้ได้ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว






ศิลปินไทย ได้แก่

๑. ธงชัย รักปทุม
๒. กมล ทัศนาญชลี
๓. เดชา วราชุน
๔. สมศักดิ์ เชาว์ธาดาพงษ์.
๕. อิงอร หอมสุวรรณ
๖. พิษณุ ศุภนิมิตร
๗. สมวงศ์ ทัพรัตน์
๘. สรรณรงค์ สิงหเสนี
๙. วิโชค มุกดามณี
๑o. ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ
๑๑. สุรพล แสนคำ
๑๒. ศุภชัย ศุกขีโชติ
๑๓. พิชิต ตั้งเจริญ
๑๔ . lafe
๑๕. นุกูล ปัญญาดี
๑๖. บรรลุ วิริยาภรณ์ประภาส
๑๗. บัญชา ศรีวงศ์ราช
๑๘. มาโนช กิตติชีวัน
๑๙. พิสิต ปทุมชาติ
๒o. วิศิษฎ์ พิมพิมล
๒๑. บุญกว้าง นนท์เจริญ
๒๒. ธวัชชัย สมคง
๒๓. อดิศร พรศิริกาญจน์
๒๔. ดิเรก กิ่งนอก
๒๕. ตะวัน วัตถุยา
๒๖. วธน กรีทอง
๒๗. ทวี เกษางาม
๒๘. นำชัย แสนสุภา
๒๙. พัชราพรรณ จันทร์เทพย์
๓o. ปรีชา พรหมปราบทุกข์

ศิลปินนานาชาติ ได้แก่

1. John Salminen(USA)
2. Atanur Dogan (Turkey)
3. Konstantin sterkhov (Russia)
4. Stan miller(USA)
5. Ong Kim Seng (Singapore)
6. Liu Yi (Shanghai)
7. Joe Dowden( UK)
8. Keiko Tanabe(USA-Japan)
9. Chien Chung Wei(Taiwan).
10. Stanislaw Zoladz (Sweden)
11. Liu Yong Jian(Chinese).
12. Ali Abbas Syed(Pakistan)
13. Igor Sava(Italy)
14. Yuko Nagayama(Japan)
15. ZhangXiaoChang (Chinese-USA)
16. Jinli. (Taiwan)
17. Chin Lung Huang (Taiwan)
18. Janine Gallizia(France)
19. Michal Jazewicz(Poland)
20. Barbara Nechis(USA)






นอกจากนี้ศิลปินสีน้ำระดับโลกหลายท่านท่านยังมีคิวเขียนภาพสีน้ำโชว์ ระหว่างวันที่ ๔-๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ จ.ชลบุรี และระหว่างวันที่ ๗-๙ มิถุนายน ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ดังนั้นใครที่เป็นแฟนผลงานของศิลปินสีน้ำท่านใดเตรียมวางแผนไปชม,ให้กำลังใจ และเรียนรู้ทักษะ กันได้ตั้งแต่บัดนี้ และไปร่วมด้วยช่วยกันพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเองว่า นิทรรศการครั้งนี้สมคำว่า "มหกรรมสีน้ำระดับโลก" หรือไม่







ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














"ข้ามฟากแม่น้ำ เสพงานศิลป์ร่วมสมัย”


เพราะศิลปะแฝงอยู่ทุกที่รอบตัวเราในกิจวัตรประจำวันอันวุ่นวายถ้าได้หยุดสังเกตเห็นภาพสวย ๆ หรืองานศิลป์ให้ตีความถึงเรื่องอื่นบ้างก็ช่วยผ่อนคลายได้ไม่น้อย และในวันนี้ไม่ว่าจะมาทำงาน กลับบ้าน หรือมาท่องเที่ยวในย่านวัดอรุณราชวราราม ทุกคนจะสามารถเข้าถึงอาร์ตแกลเลอรี่ใจกลางแม่น้ำแบบไม่รู้ตัว เพราะนอกจากทัศนียภาพสวยงามของ ๒ ฝั่งเจ้าพระยาแล้วภายในเรือข้ามฟาก "เดอะ เฟอร์รี่ แกลเลอรี่" ยังรวบรวมศิลปะทั้งภาพนิ่ง ภาพถ่าย และทัศนศิลป์ดี ๆ จากทั่วโลก มาถ่ายทอดให้ผู้โดยสารรับชมกันเพลิน โดยพร้อมเปิดให้ผู้ที่สนใจและบรรดานักท่องเที่ยวเข้าชมรอบแรกอย่างเป็นทางการบริเวณ ท่าเรือข้ามฟากวัดอรุณฯ มุ่งสู่ท่าเตียนเมื่อเย็นวันก่อน


จากเรือข้ามฝากถูกดัดแปลงเป็นแกลเลอรี่ไอเดียดีโดยความคิดของสาวรุ่นใหม่ "แพรว" กวิตา วัฒนะชยังกูร ศิลปินด้านทัศนศิลป์ร่วมสมัย และหนึ่งในทายาท บริษัท โพธิ์อรุณ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการเรือข้ามฟากแห่งนี้มากว่า ๑oo ปี เล็งเห็นช่องว่างเล็ก ๆ ในเส้นทางการล่องเรือท่องเที่ยวชมสถาปัตยกรรมไทยในปัจุบันให้พอนำศิลปะเข้าไปเติมเต็มอีกได้ในเวลาสั้น ๆ แต่เต็มอิ่ม






"เราเน้นแสดงศิลปะร่วมสมัยบ่งบอกถึงความเป็นไปด้านประเพณี อารยธรรม และความเป็นอยู่ของผู้คนในปัจจุบัน ในเมืองไทยยังมีการแสดงศิลปะร่วมสมัยน้อยมาก ต้องเฉพาะกลุ่มจริง ๆ เลยอยากเปิดพื้นที่สาธารณะให้ใครมาเยี่ยมชมก็ได้ บอกเล่าเรื่องราวให้เข้าถึงประชาชนและเยาวชนได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านวิดีโออาร์ต คือศาสตร์หนึ่งของศิลปะคล้ายกับรูปปั้น ภาพถ่าย สื่อถึงความคิดทัศนคติของคนปัจจุบัน ผ่านเทคโนโลยีให้คนเข้าใจง่ายขึ้น เชื่อว่าเมื่อเราคลุกคลีกับงานศิลปะบ่อย ๆ ก็จะเกิดแรงบันดาลใจ เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดสิ่งใหม่ ๆ ได้ อีกทั้งยังตั้งใจเพิ่มคุณค่าให้ท่าเรือข้ามฝากและวัดอรุณราชวรารามเป็นประโยชน์แก่การเรียนรู้มากขึ้น และในวงการศิลปะก็เป็นสถานที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินไทยและนานาชาติ ทั้งด้านความคิด ประสบการณ์ ความทรงจำ ผ่านผลงานที่นำมาจัดแสดงผลัดเปลี่ยนกันทุก ๆ ๓ อาทิตย์ อีกด้วย" เจ้าของไอเดียกล่าวถึงที่มา






ประเดิมผลงานแรกที่นำมาโชว์ในแกลเลอรี่ลอยน้ำแห่งนี้ในนิทรรศการ "HERE AND THERE : ตรงนี่ ที่นั้น" สาวแพรวได้นำงานของศิลปินในประเทศออสเตรเลีย ที่ตัวเองใช้ชีวิตอยู่มาครึ่งชีวิตมาให้ชมเพราะความผูกพันและเล็งเห็นทัศนียภาพแม่น้ำธรรมชาติที่แตกต่างแต่อุดมสมบูรณ์คล้ายกันของสองประเทศ นำมาโชว์ให้เห็นความต่างประกบ ๒ สถานที่ไกลกันให้มาอยู่ที่เดียวกันผ่านวีดีทัศน์และภาพภ่าย อาทิ ผลงานของ สก๊อต มอริสัน ชาวนิวซีแลนด์ที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย ที่ถนัดผลงานด้านเสียง วิดีโอ จากน้ำ ธรรมชาติตามสถานที่ต่าง ๆ นำมาสอดคล้องกับการเล่นดนตรีให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปกับเสียง และความเป็นธรรมชาติแท้จริง เปิดสลับกับผลงานของ นิกกี้ แลม วีดิทัศน์รูปวงกลมพูดถึงเมล็ดพืชที่ร่วงหล่นลงมา หยั่งรากไปสู่อีกที่หนึ่ง และผลงานของศิลปินชาวไทย สุทธิรัตน์ ศุภปริญญา กับการค้นหาคุณตาของตัว จากวิถีชีวิตของคุณตาแท้ ๆ ที่ต้องทำงานล่องแม่น้ำทุกวัน เลยอยากจะเดินทางตามรอยคุณตาให้เห็นถึงวิถีชีวิตในอดีต พร้อมภาพความเปลี่ยนแปลงที่ได้เห็นในปัจจุบัน ส่วนข้างเรือมีภาพนิ่งของ โทมัส เบรคเวล รูปถ่ายสะท้อนถึงวันรุ่นในเมืองที่เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ป่า เน้นให้เด็กรุ่นใหม่เข้าถึงความคิดความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อสังคม ต่อโลก แสดงตัวตนว่าเรามีวิสัยทัศน์ ความคิดอย่างไร


เข้าสู่แสงยามเย็นรูปภาพ และวิดีโอที่ติดอยู่โดยรอบหอศิลป์ร่วมสมัยบนเรือข้ามฟากยิ่งเห็นชัดเจน สอดคล้องกับแสงไฟด้านนอก สร้างบรรยากาศไม่เงียบเหงา โดยพลังานที่ใช้ในเรือข้ามฟาก เดอะ เฟอร์รี่ แกลเลอรี่ ได้มาจากแผงโซล่าร์เซลล์บนเรือ จึงจะเริ่มออกรับผู้โดยสารตั้งแต่ ๑๒.oo-๑๙.๓o น.เป็นต้นไป เพียงใช้บริการท่าเรือข้ามฟากท่าเตียน-วัดอรุณฯ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
komchadluek.net/














"D.I.Y. สมุดทำมือ ณ ศูยน์เรียนรู้สุขภาวะ”


มาทำ "สมุดทำมือ" ใช้เองกันเถอะ!

ศูนย์เรียนรู้สุภาวะขอชวนเชิญมาลองลงไม้ลงมือ ทำสมุดใช้เองจากกระดาษ reuse เหลือใช้ โดยวิทยากรจากคอลัมภ์ Make some surprise ของ SOOK Magazine รับรองว่าคราวนี้ เราจะได้มีสมุดสวย ๆ ไว้ใช้ โดยไม่ต้องซื้อหาแน่นอน


กิจกรรม D.I.Y สมุดทำมือจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo - ๑๙.oo น. ณ โซนกิจกรรมชั้น ๕ อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ และจัดอีกทีในวันเสาร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.oo - ๑๕.oo น. ณ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ


ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้โดยส่ง ชื่อ-นามสกุล อายุ และเบอร์โทรศัพท์ พร้อมระบุกิจกรรมที่จะเข้าร่วมมาที่ activity.thc@thaihealth.or.thโทรศัพท์ o-๒๓๔๓-๑๕oo กด ๒, o๘-๑๗๓๑-๘๒๗o

ปล. อย่าลืมนำกระดาษ Reuse และกระดาษสวย ๆ ติดมือมาร่วมกิจกรรมด้วยค่ะ



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thaihealthcenter.org














"Hotel Art Fair 2014”

- 100 TONSON Gallery
- H Gallery
- Thavibu Gallery
- Artery Gallery
- Hof Art
- Inproductions
- Superconscious
- C.A.P Studio
- Serindia Gallery
- Whitespace Gallery
- Farm’s Friend
- Teaspoon Studio & If I were a Carpenter
- Thai Collector
- Gallery Ver
- Speedy Grandma & 56TH Studio
- Atta Gallery
- AP Thailand
- Pichai Chirathivat
- Jay & Ple Spencer



เหล่านี้คือรายชื่อแกลเลอรี่ ที่จะนำผลงานศิลปะจากการคัดสรรของตนไปตกแต่งห้องพักทั้ง ๒ ชั้น ของโรงแรม LUXX XL และเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าไปชม ใน Hotel Art Fair 2014 ซึ่งจัดขึ้นโดย วรทิตย์ เครือวาณิชกิจ แห่ง Farm Group ร่วมกับศิลปิน ท๊อป จ่างตระกูล หลังจากที่ครั้งแรกเคยจัดขึ้นที่ โรงแรม Maduzi


Hotel Art Fair 2014 วันที่ ๒๔ - ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๑.oo น. เป็นต้นไป ณ โรงแรม LUXX XL ย่านหลังสวน















ภาพและข้อมูลจากเวบ
manager.co.th














นิทรรศการ "Gentle War”


๑oo ต้นสนแกลเลอรี่ ร่วมกับ Brian Curtin คิวเรเตอร์และนักวิจารณ์ศิลปะชื่อดังของกรุงเทพฯ เสนอ GENTLE WAR นิทรรศการศิลปะชิ้นที่สามของแกลเลอรี่ประจำปี ๒o๑๔ ซึ่งเป็นนิทรรศการสื่อผสมที่จับคู่ระหว่าง Peggy Wauters ศิลปินชาวเบลเยียมที่เคยร่วมงานกับ ๑oo ต้นสนมาแล้วในปี ๒oo๘ และ Nir Segal ศิลปินชาวอิสราเอลที่มีความสนใจเหตุการณ์ในสังคมไทยกับครั้งแรกของเขาในการแสดงงานกับ ๑oo ต้นสน


GENTLE WAR คือโปรเจคที่เน้นวิธีการนำเสนอเฉพาะตัวของศิลปินทั้งสองคน โดยผลงานของ Peggy นั้นประณีตด้วยงานประดิษฐ์และภาพตัดปะที่ใช้สัญลักษณ์จากตำนานต่าง ๆ ในขณะที่ Nir สร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งสองศิลปินต่างต้องแยกแยะและศึกษาบริบทที่มากับวัตถุนั้น ๆ เพื่อค้นหาความน่าสนใจของความหมายใหม่ในเชิงร่วมสมัย
Peggy ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมคาร์นิวอลในบ้านเกิด งานของเธอแต่ละชิ้นมักมีลักษณะหม่นหมอง สะท้อนถึงไสยศาสตร์และความเชื่อต่าง ๆ ส่วน Nir สนใจการเล่าเรื่องจากสิ่งของเล็ก ๆ ที่มักใช้แล้วทิ้ง โดยนำมาใช้ใหม่ในบริบทอื่น ๆ ได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ยังอ้างอิงจากเศษวัสดุที่ใช้ในเต็นท์ของผู้ชุมนุมทางการเมืองในไทย รวมถึงชีวิตในประเทศของเขา


ส่วนชื่อ GENTLE WAR นั้นมาจากการที่ศิลปินทั้งสองต่างพยายามต่อสู้หาความหมายใหม่จากวัตถุของตน การต่อสู้กันระหว่างการใช้สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของ Peggy และมุมมองใหม่ต่อสิ่งที่เรามักมองข้ามของ Nir ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากสงครามครั้งนี้ได้นำเสนอผ่านนัยยะต่างๆ ตั้งแต่การบิดเบี้ยวของรูปทรงไปจนถึงการท้าทายจากสิ่งที่เราคิดว่ารู้จักดีแล้ว



ภาพและข้อมูลจากเวบ
100tonsongallery.com





บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะค่ะ




บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 12 มิถุนายน 2557
Last Update : 12 มิถุนายน 2557 19:45:46 น. 0 comments
Counter : 3266 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.