happy memories
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 กรกฏาคม 2557
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๑๖




ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto









"๑๕o ปี พระพันปีหลวง”


นับเป็นเรื่องน่ายินดีของชาวไทย ที่ องค์ การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสห ประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศถวายพระเกียรติ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพัน ปีหลวง ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก เมื่อวันที่ ๒o พ.ย. ๒๕๕๖ ในฐานะทรงงานด้านการศึกษาสำหรับเด็กและสตรีไทย การศึกษาด้านสาธารณสุขศาสตร์ วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ประยุกต์และสังคม และมนุษยศาสตร์ เพื่อเฉลิมพระ เกียรติในโอกาสพิเศษและเนื่องในวันพระราชสมภพครบ ๑๕o ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดปาฐกถา “เสาหลักของแผ่นดิน” ครั้งที่ ๒ ชุด ๑๕o ปี พระราชสมภพ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่อง “พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา” โดย ม.ล.ประทิ่นทิพย์ นาครทรรพ ผู้จัดการโรงเรียนราชินี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์พระราชทานจัดตั้งโรงเรียนสำหรับสตรี เมื่อวันที่ ๑ เม.ย. ๒๔๔๗ เป็นผู้ให้ข้อมูลเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้อง ๑o๕ อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย






ม.ล.ประทิ่นทิพย์ นาครทรรพ กล่าวว่า แต่เดิมประเทศไทยมีจารีต ขนบธรรมเนียมว่า สตรีไม่จำเป็นต้องศึกษาเล่าเรียน เพียงแต่หมั่นฝึกฝนงานบ้านงานเรือนก็เพียงพอ แต่หลังจากที่ สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตามเสด็จสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยังหัวเมืองเหนือ-ใต้ ประเทศสิงคโปร์และชวา ทรงเล็งเห็นถึงความล้าหลังของสตรีไทย และตระหนักว่าเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้หญิงเช่นเดียวกับผู้ชาย ทรงผลักดันให้เกิดโรงเรียนสำหรับสตรีขึ้น พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนในการจัดตั้งโรงเรียน โดยนักเรียนในรุ่นแรกส่วนใหญ่เป็นบุตรธิดาของข้าราชบริพารที่ทรงชุบเลี้ยงมา นอกจากโรงเรียนในกรุงเทพมหานครแล้วยังทรงขยับขยายการศึกษาไปสู่ต่างจังหวัดเพื่อให้เด็กยากจนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้รับโอกาสที่เท่าเทียมกัน






“สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นขัตติยนารีที่ทรงมี วิสัยทัศน์กว้างไกล และมีพระมหากรุณา ธิคุณอันใหญ่หลวงต่อประวัติศาสตร์การศึกษาของไทย ทำให้การศึกษาของสตรีไทยขยายตัวกว้างขวาง มีการพัฒนาสถานที่ศึกษา ระบบการเรียนการสอนให้รุ่งเรือง รวมถึงทรงเป็นเจ้านายสตรีพระองค์แรกที่มีทัศนคติต่อการจัดการศึกษาของสตรี เพราะไม่ได้เพียงแค่ให้ผู้หญิง มีวิชาความรู้เท่านั้น แต่ต้องสื่อสารและเขียนออกมาได้ทั้งภาษาไทยและภาษา อังกฤษให้ผู้อื่นเข้าใจได้ รวมทั้งมีความรู้ทางการช่างฝีมือ ซึ่งวิชาเหล่านี้สามารถไปประกอบอาชีพได้ และสิ่งสำคัญคือ การมีกิริยามารยาท ศีลธรรมจรรยาที่ดี”






ผู้จัดการโรงเรียนราชินี กล่าวต่อว่า นับว่าพระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสตรีไทย ให้ได้ทัดเทียม กับนานาอารยประเทศ นอกจากทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโรงเรียนต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ โรงเรียนเสาวภา, วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา, โรงเรียนราชินี, โรงเรียนราชินีบูรณะ จ.นครปฐม, โรงเรียนวิเชียรมาตุ จ.ตรัง, โรงเรียนศรียานุสรณ์ จ.จันทบุรี, โรงเรียนสภาราชินี จ.ตรัง, โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงเรียนราชินีบน ในยุคสมัยต่อมาภายหลังเสด็จสวรรคตได้มีการสนองพระราชดำริด้านการศึกษาจนเปิดโรงเรียนสตรี ราชินูทิศ จ.อุดรธานี ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสตรีไทยโดยแท้ เท่ากับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมพระบารมีในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย.






ขอเชิญเข้าชมงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๕o ปี วันพระราชสมภพ และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งประชาชาติ (UNESCO) ประกาศยกย่องให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก พุทธศักราช๒๕๕๖ ชมการสาธิตงานหัตถศิลป์ผลงานของนักเรียนโรงเรียนราชินี ในวันพุธที่ ๑๖ – วันอาทิตย์ที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑o.oo – ๑๖.๓o น. ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท (ภายในรั้วโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า)
          

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. o๒-๒๒๑-๑๕o๑ หรือ rajini.ac.th



พระฉายาลักษณ์และข้อมูลจากเวบ
thaipr.net
dailynews.co.th
wikipedia.org
rajinialumniclub.com
chaoprayanews.com














"นิทรรศการภาพวาดสีน้ำคุณข้าหลวง”


ขอเชิญชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏฯ : ภาพวาดสีน้ำคุณข้าหลวง มรดกศิลป์สี่แผ่นดิน คุณค่าแห่งความร่วมสมัย


จัดแสดงตั้งแต่วันนี้ - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ พระตำหนักสายสุทธานภดล


พบกับนิทรรศการและกิจกรรมมากมาย อาทิ
- พระประวัติและงานด้านพฤกศาสตร์
- พระรูปและศิลปวัตถุในพระองค์
- ภาพวาดสีน้ำต้นฉบับอายุร่วม ๑oo ปี



ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com
เฟซบุคมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา












แม่ฉวีวรรณ ดำเนิน ศิลปินแห่งชาติ



"ศิลปินแห่งชาติมอบปัญญา สร้างปราชญ์อุบลรับเออีซี”


๗ ฐานศิลปะของ "ค่ายวัฒนธรรมเยาวชน : สืบสานงานศิลป์ถิ่นอีสาน เมืองดอกบัวงาม เลิศล้ำเทียนพรรษา" ที่ศิลปินแห่งชาติ ๑๗ ท่าน สาขาต่าง ๆ ทั้งทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ และศิลปะการแสดง ได้ถ่ายทอดความรู้และเคล็บลับวิชาไปยังนักศึกษาอาชีวะอุบลฯ เยาวชนเมืองดอกบัว และคณาอาจารย์ รวม ๕oo คน ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี ส่งผลให้ผู้เข้าเรียนรักศิลปวัฒนธรรมไทยและภาคภูมิใจถิ่นกำเนิด ขณะที่การจัดแสดงนิทรรศการผลงานสร้างสรรค์ของศิลปินแห่งชาติเต็มพื้นที่หอศิลป์ อาชีวะอุบลฯ เป็นการเผยแพร่งานชั้นเยี่ยมสู่ดินแดนอีสานก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน


ค่ายเยาวชนนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓-๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗ อยู่ภายใต้โครงการศิลปินอาเซียนสัญจร : ศิลปินแห่งชาติสัญจรสู่ประชาคมอาเซียน ประจำปี ๒๕๕๗ จัดโดยหออัครศิลปิน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เริ่มที่ จ.อุบลราชธานี ตามด้วยนครสวรรค์ เชียงใหม่ และสงขลา เป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษา เยาวชน ศิลปิน และประชาชนในส่วนภูมิภาค





ครูประยงค์ ชื่นเย็น



เปิดค่ายอย่างน่าประทับใจกับการขับขานลำกลอน มรดกวัฒนธรรมอีสาน ของฉวีวรรณ พันธุ ศิลปินแห่งชาติชาวอุบลฯ โดยมีธงชัย รักปทุม ศิลปินแห่งชาติ ร่วมบรรเลงงานศิลป์ชิ้นใหม่อย่างช่ำชอง ต่อด้วยการแสดงของราชินีหมอลำ นิตยา รากแก่น ศิลปินแห่งชาติปีล่าสุดคนอุบลฯ พร้อมๆ กับการสร้างสรรค์จิตรกรรมของ ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ผู้ได้รับการขนานนาม "ศิลปินสองซีกโลก" ฟากกวีใหญ่ สถาพร ศรีสัจจัง ร่ายบทกวีสื่อเมืองดอกบัวงามนามอุบลราชธานี ภาพที่ปรากฏอยู่กลางเวทีคือตัวตนและผลงานของศิลปินแห่งชาติ ศ.เกียรติคุณประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า จ.อุบลราชธานีเป็นแหล่งต้นกำเนิดศิลปะของประเทศสะท้อนผ่านคำขวัญของจังหวัด "เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทราย แก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ ฉลาดภูมิปัญญาท้องถิ่น ดินแดนอนุสาวรีย์คนดีศรีอุบล" ถ้าเยาวชนได้ศึกษาจะต่อยอดและพัฒนาความรู้ความสามารถไม่แพ้ประเทศใดในอาเซียน ส่วนคำชี้แนะหรือผลงานคุณภาพของศิลปินแห่งชาติชวนสร้างปัญญาของนักเรียนนักศึกษาให้งอกงาม


ด้าน ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ค่ายเยาวชนครั้งนี้ ศิลปินระดับสุดยอดของแผ่นดินได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ศิลปะ ๓ สาขา ให้เยาวชนและครูอาจารย์ในภาคอีสานผ่านฐานต่าง ๆ ได้แก่ ฐานคณาจารย์ ฐานจิตรกรรม สื่อผสม ฐานภาคพิมพ์ ฐานประติมากรรม ฐานถ่ายภาพ เรียนรู้ศิลปะผ่านเลนส์ ฐานวรรณศิลป์ และฐานศิลปะการแสดง เป็นโอกาสสำคัญของเยาวชนได้เรียนรู้เทคนิคการสร้างชิ้นงานกับศิลปินแห่งชาติทั้ง ๑๗ คน ที่สำคัญจะได้สัมผัสตัวตนของศิลปินแห่งชาติที่ต่อสู้บนเส้นทางมายาวนาน จนได้รับการยกย่องเชิดชู ซึ่งแต่ละท่านมีจิตวิญญาณและปรัชญาลุ่มลึกให้ทุกคนได้ซึมซับ





กมล ทัศนาญชลี



"อย่าไปเดินตามใคร หรือลอกงานคนอื่น ให้เป็นตัวของตัวเอง ถ้าเป็นตัวของตัวเองแล้วจะเดินไปได้อย่างราบรื่น" ถ้อยคำฝากถึงเยาวชนคนดีจากศิลปินไทยผู้โกอินเตอร์ กมล ทัศนาญชลี


เพชรน้ำหนึ่งแดนอีสาน แม่ฉวีวรรณ ดำเนิน ขึ้นทำเนียบศิลปินแห่งชาติ ปี ๒๕๓๖ มีผลงานลำกลอนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วอาเซียน ร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กอาชีวะอุบลฯ ที่ฐานศิลปะการแสดง บอกว่า จ.อุบลราชธานี เป็นถิ่นนักปราชญ์และอุดมด้วยศิลปวัฒนธรรมที่มีค่าต้องส่งเสริมให้เยาวชนอุบลฯ รักษาสมบัติของชาติ น่าเสียดายถ้าภูมิปัญญาจะหายไป การเข้าค่ายวัฒนธรรมจะเป็นผลดีกับท้องถิ่น


"เด็กและครูเข้ามาเรียนฐานหมอลำกับแม่ จะรู้จักศิลปะและจารีตประเพณีเพิ่มขึ้น กลายเป็นผู้สานต่อมรดกชาติ เรียน ๑oo คน ได้ ๑ คน ก็ยังดี แต่เชื่อว่าได้มากกว่านั้น นอกจากองค์ความรู้ศิลปะการแสดงท้องถิ่นอย่าง หมอลำ ลีลาท่าฟ้อน เด็กได้ศึกษาเพื่อสืบทอดสิ่งที่บรรพชนสร้างไว้ ถ้ามีใจรักหมอลำสามารถประกอบอาชีพ ทำมาหากิน รวมไปถึงเผยแพร่เอกลักษณ์ไทยอวดสายตาชาวโลก" แม่ฉวีวรรณกล่าวอย่างมีหวัง และสนับสนุนให้ทุกฝ่ายสร้างวัฒนธรรมเรียนรู้วิถีไทย





ศาสตราจารย์ประหยัด พงษ์ดำ



โอกาสศิลปินแห่งชาติสัญจรมาสู่อาชีวะอุบลฯ มอบความรู้ทำให้เยาวชนแข็งแกร่งขึ้น ดร.ธนกร ไชยกุล ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เผยด้วยรอยยิ้มว่า อาชีวะอุบลฯ มีนักศึกษา ๓,๖o๗ คน ปีนี้นักเรียนระดับ ปวช.๑ และ ปวส.๑ มีจำนวน ๑,๗oo คน ผู้สนใจเข้าฐานศิลปะมี ๔๘๒ คน ผลลัพธ์จะสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กหันมาสนใจงานศิลปกรรมมากขึ้น ทั้งนี้ อาชีวะอุบลฯ มีการเรียนศิลปะในหลายสาขาวิชา ทั้งวิจิตรศิลป์ การออกแบบ ศิลปหัตถกรรม คอมพิวเตอร์กราฟฟิก ค่ายนี้ส่งเสริมนักเรียนมีคุณภาพ ทั้งยังปลุกจิตสำนึกต่อท้องถิ่น เปิดโอกาสให้สัมผัสและเรียนรู้ศิลปะการแกะสลักเทียนพรรษา ภูมิปัญญาอันงดงามของเมืองอุบลฯ นอกจากนี้ยังมีศิลปะผ่านเลนส์ที่สองศิลปินแห่งชาติทำเวิร์กช็อปเยือนชุมชนคนทำเทียน เพื่อเก็บภาพการแกะสลักเทียนตามวัดต่าง ๆ


"อาชีวะอุบลฯ มีนักเรียนจากลาว จีน ญี่ปุ่น มาศึกษาสนใจร่วมค่ายเยาวชน ได้ฟังบรรยาย เรียนรู้ผลงานศิลปินแห่งชาติ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความเข้าใจอันดี ความรู้จะทำให้มีทักษะวิชาชีวิตและวิชาชีพเฉพาะ คณาจารย์ในสถาบันก็ได้วิชาพร้อมกับเด็ก" ผอ.วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลฯ ปลื้มใจสุด ๆ กับโครงการศิลปินแห่งชาติสัญจรมาถิ่นอีสานเมืองดอกบัวงาม พร้อมฝาก สวธ.ขยายโครงการไปยังสถาบันการศึกษาที่ใกล้เคียง เป็นการพัฒนาคนและวงการศิลปะไทยอย่างแท้จริง.



ภาพและข้อมูลจากเวบ
kku.ac.th
dooqo.com
wikipedia.org
thaipost.net
innnews.co.th














"การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๙”


ขอเรียนเชิญชมนิทรรศการ การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๕๙


จัดแสดงระหว่างวันที่ ๔ – ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗


ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


อ่านรายละเอียดได้ที่ cmuartcenter.blogspot.com



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่














"ฉลอง ๑o ปี ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ”


คุณเสริมคุณ คุณาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ จัดงาน “A Decade of Heritage Journey” ฉลองครบ ๑o ปี ของศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงงานประติมากรรมของไทยตั้งแต่ยุคพุทธศิลป์ไปจนถึงงานร่วมสมัยของศิลปินชั้นแนวหน้ากว่า ๒oo ชิ้น และเป็นองค์กรส่งเสริมด้านศิลปะของเอกชนที่ดำเนินงานแบบไม่หวังผลประโยชน์ทางการเงิน โดยจัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประติมากรรมของไทยสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจงานศิลปะประติมากรรม ให้เข้าชมฟรี โดยงานในวันนี้ (๓ ก.ค.) ได้รับเกียรติจากศิลปินและบุคคลสำคัญในวงการศิลปะมาร่วมแสดงความยินดี อาทิ อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, คุณอินสนธิ์ วงศ์สาม, อ. ช่วง มูลพินิจ, คุณประทีป คชบัว, คุณศิวะพร ทรรทรานนท์, คุณพิทักษ์พล วิสุทธิ์อัมพร กรรมการมูลนิธิหอศิลปะแห่งรัชกาลที่ ๙ ฯลฯ ที่ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ ถนนนวลจันทร์ ซอย ๕๖










“๑o ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการรวบรวมผลงานที่มีคุณค่าให้หลากหลายมากขึ้น เพิ่มคอลเลคชั่นใหม่ ๆ และปรับปรุงพื้นที่จัดแสดงตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว ยังมีพัฒนาการในหลายด้าน เช่น การเผยแพร่ความรู้ด้านศิลปะประติมากรรมและนำเสนอผลงานของศิลปินไทยให้เป็นที่รู้จัก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ศิลปินเจ้าของผลงานนำนิสิตนักศึกษามาดูงาน ตลอดจนเปิดสาขาที่ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และจัดนิทรรศการหมุนเวียนตลอดปี รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดในการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ศิลปะกับต่างประเทศด้วย










นอกจากนี้ยังเตรียมจัดทำโครงการร่วมกับพันธมิตร เพื่อการศึกษาและปลูกฝังด้านศิลปะ โดยจัดกิจกรรมทั้งที่ศูนย์ฯ และตามสถานที่ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับทุกกลุ่ม ตั้งแต่เด็กประถมไปจนถึงนิสิตนักศึกษา และหน่วยงานหรือประชาชนทั่วไปที่มาเยี่ยมชมเป็นหมู่คณะ พร้อมทั้งประสานงานกับองค์กรศิลปะทั่วโลก เพื่อเผยแพร่ผลงานของศิลปินไทยและให้ยืมชิ้นงานไปจัดแสดงแลกเปลี่ยนกัน โดยได้มอบหมายให้ลูกทั้ง ๒ คน คือเหมือนฝันและวาดฝัน ซึ่งเรียนด้านศิลปะและคลุกคลีกับศูนย์ฯ นี้มาตั้งแต่เด็ก เข้ามาช่วยดูแลและสืบทอดการดำเนินงานในปีต่อ ๆ ไป” คุณเสริมคุณกล่าว










ด้าน คุณสุรีย์ สิริกรณ์ ผู้ร่วมปณิธานและร่วมเป็นเจ้าของชิ้นงาน กล่าวว่า “ภูมิใจที่มีส่วนในการเผยแพร่และสืบสานงานของศิลปินไทย และจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อไปให้เป็นสถานที่ที่เด็ก ๆ และคนทุกกลุ่มได้ซึมซับความงามของศิลปะ เพราะตระหนักถึงคุณค่าของผลงานแต่ละชิ้นที่ศิลปินทุ่มเทสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความรัก ด้วยหัวใจ การเก็บรวบรวมงานเหล่านี้จึงเป็นความผูกพันและมุ่งหวังให้ผู้มาเยี่ยมชมประทับใจกับงานศิลปะทุกชิ้นของศิลปินทุกท่าน”










อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ให้ความเห็นว่า “คุณเสริมคุณและครอบครัวได้ทำในสิ่งที่ยากและยิ่งใหญ่มาก คือเสียสละทั้งทุนทรัพย์ เวลา กำลังกาย และกำลังใจ ในการจัดให้ศิลปินมีพื้นที่แสดงผลงานศิลปะอย่างมีเกียรติที่ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพแห่งนี้ เพราะศิลปินทั้งหลายต่างต้องการให้ผลงานของเขาดำรงอยู่อย่างมีคุณค่า ได้รับความสนใจโดยอยู่ในที่ที่เหมาะสม ศิลปินคนสำคัญของไทยหลายคนสร้างผลงานที่มีคุณค่ามากมาย แต่งานเหล่านั้นกลายเป็นซากสูญสลายไปหลังความตายเพราะถูกทิ้งขว้าง ไม่ได้รับความสนใจ อยากให้คนไทยและรัฐบาลไทยตระหนักถึงคุณค่าของงานศิลปะซึ่งสะท้อนถึงศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของชาติไทย ที่ศิลปวัฒนธรรมของเราทัดเทียมกับนานาอารยประเทศหรืออาจเหนือกว่าด้วยซ้ำ แม้จะเป็นรองในด้านเทคโนโลยี และที่สำคัญคือศิลปะช่วยยกระดับจิตวิญญาณให้มีสุนทรียภาพ สร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจ ที่จะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้แปลกแตกต่าง ไม่ลอกเลียนกัน ซึ่งจำเป็นสำหรับทุกศาสตร์ การปลูกฝังและส่งเสริมให้รักและเห็นคุณค่าในศิลปะจึงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก”










ตลอดระยะเวลา ๑o ปีของการดำเนินงาน ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพได้ต้อนรับผู้มาเยี่ยมชมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกว่า ๕o,ooo คน ศูนย์ประติมากรรมกรุงเทพ เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทุกวันอังคาร – เสาร์ เวลา ๑o.oo – ๑๖.oo. น. สำหรับหน่วยงานหรือประชาชนที่สนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะ มีบริการบรรยายและนำชม โดยติดต่อได้ที่ โทร. o-๒๗๙o-๓๘๘๘ ต่อ ๑๓o๓ หรือ ๑๓๑๔







ภาพและข้อมูลจากเวบ
artbangkok.com














"งานมหัศจรรย์เทียนหอมเมืองอุบล”


ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, วิทยาลัยอาชีวศึกษา อุบลราชธานี, วัดเมืองเดชอุดม (บ้านเทียนหอม) และ ชมรมถ่ายภาพอุบลราชธานี จัดงาน “มหัศจรรย์เทียนหอม” ขอเชิญร่วมสืบสานประเพณแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ชื่นชมประติมากรรมพระพุทธรูปเทียนหอมปางลีลา หนึ่งเดียวในจังหวัดอุบลฯ ตื่นตากับนิทรรศการภาพถ่ายเทียนพรรษา โดยช่างภาพมืออาชีพ พร้อมชมสาธิตการประดิษฐ์บายศรีขนาดเล็กจากเทียนหอม และเพลิดเพลินกับกิจกรรมการแสดงทางวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ ๙ -๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ ลานลูกยางลิ่วลม ชั้น 1ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี



ภาพและข้อมูลจากเวบ
centralplaza.co.th














"เทศกาลหุ่นเกาะรัตนโกสินทร์”


กรรมการหุ่นโลก ลงมติให้ไทยเจ้าภาพจัดเทศกาลหุ่นโลกปี ๕๗ สศร.เผย ๗๔ ประเทศ ตอบรับร่วมงานมากสุดในประวัติศาสตร์ เตรียมจัดขบวนพาเหรดหุ่นทุกชาติ โชว์ความยิ่งใหญ่รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ๑-๑o พ.ย. นี้


วันที่ ๗ ก.ค. ที่หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน สำนักงานศิลปวัฒนธรรม ร่วมสมัย (สศร.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวเทศกาลหุ่นโลก กรุงเทพฯ ๒o๑๔ โดยนายเขมชาติ เทพไชย ผอ.สศร. กล่าวว่า ตามที่ สศร.ได้ให้การสนับสนุนคณะหุ่นไทยประเภทต่าง ๆ เข้าร่วมการจัดมหกรรมการหุ่นโลกอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรม และศักยภาพการแสดงหุ่นของคนไทย พร้อมกันนี้ยังได้เสนอให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานในปี ๒๕๕๗ นั้น ล่าสุด นายร็อด เปโตรวิค ประธานสมาพันธ์หุ่นโลก และคณะกรรมการ ได้เดินทางมายังประเทศไทย และมีการสำรวจความพร้อมของบุคลากร และสถานที่ในการจัดมหกรรมหุ่นโลก จากนั้นจึงมีการประชุมและลงมติให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมหุ่นโลก ในปี ๒๕๕๗ ซึ่งเห็นว่า ประเทศไทย มีศักยภาพ และความพร้อมสูง ในทุก ๆ ด้าน มากกว่าประเทศอื่น ๆ ที่เสนอชื่อเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน


นายเขมชาติ กล่าวต่อไปว่า สศร. จึงได้กำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ ๑-๑o พ.ย. นี้ โดยใช้พื้นที่บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ทั้งหมด โดยมี ท้องสนามหลวง เป็นจุดศูนย์กลางการจัดงาน เชื่อมโยงกับสถานที่จัดงานอื่น ๆ ได้แก่ โรงละครแห่งชาติ โรงละครวังหน้า หอประชุมมหาวิทยาลัยศิลปากร หอศิลป์ เจ้าฟ้าฯ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน ขณเดียวกันได้วางแผนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการแสดงหุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยเฉพาะขบวนพาเหรด ที่มี คณะหุ่นจาก ๗๔ ประเทศทั่วโลก รวม ๑๒๕ คณะ ตอบรับ เข้าร่วมงาน และร่วมแสดงอัตลักษณ์ของหุ่นแต่ละชาติ ซึ่งถือว่า มากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยจัดมา โดยแบ่งเป็น จากทวีปยุโรป อเมริกา แอฟริกา รวม ๖๖ ประเทศ ๑๑๔ คณะ ประเทศอาเซียน ๘ ประเทศ รวม ๑๑ คณะ และในส่วนประเทศไทย อีก ๖๑ คณะ นอกจากนี้มีนิทรรศการของหุ่นประเทศต่าง ๆ การสาธิตเชิดหุ่นทั่วโลก การฉายภาพยนตร์ การสร้างหุ่นประเภทต่าง ๆ และการประกวดการแสดงหุ่นด้วย


ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดวธ. กล่าวว่า การที่ประเทศไทยได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมหุ่นโลก ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่จะนำเสนอวัฒนธรรม ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของคนไทยให้ชาวต่างชาติได้เห็น และมีความเชื่อมั่น รวมทั้งเป็นการนำเสนอความสามารถทางการแข่งขันทางทรัพยากรบุคคล ซึ่งเรามีคณะหุ่นที่อยู่ในระดับชั้นนำของโลกมากมาย ดังนั้นจึงมุ่งเน้นการนำเรื่องรากวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญา ออกมาโชว์ให้ทั่วโลกได้เห็น อาทิ การจัดพาเหรดแสดงเอกลักษณ์ของชาติ การโชว์การแสดงหุ่นที่ยิ่งใหญ่ เชื่อมโยงไปกับการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของสถานที่สำคัญต่าง ๆ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ รวมระยะเวลานานถึง ๑o วัน ขณะเดียวกันยังเป็นการสนับสนุนการแสดงร่วมสมัยทุกสาขาของประเทศไทยเข้าสู่เวทีโลก เพื่อพัฒนาศักยภาพความสามารถของคนไทย.







ภาพและข้อมูลจากเวบ
dailynews.co.th
harmonyworldpuppet.com














"ชมศิลป์ ณ บ้านจิม”


บ้านจิมเรียกเต็มยศก็คือ “บ้านไทย จิม ทอมป์สัน”

หาไม่ยาก อยู่ซอยเกษมสันต์ ๒ ถนนพระราม ๑ ตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติ รถไฟฟ้าปรื๊ดเดียวถึงเลย ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ใจกลางเมืองที่ไม่เพียงเดินทางสะดวก ที่นี่ยังเพียบด้วยงานสะสมชิ้นเอกอุและหาชมยาก


เจ้าของ “เจมส์ เอช. ดับเบิลยู. ทอมป์สัน” หรือที่รู้จักในนาม “จิม ทอมป์สัน” ราชาไหมไทยชาวอเมริกัน สร้างขึ้นด้วยหยาดเหงื่อผ้าไหมที่เขาปลุกปั้นธุรกิจจนโด่งดัง ขณะพำนัก ณ ประเทศไทยตลอด ๒๕ ปี จวบกระทั่งเขาสูญหายไปตั้งแต่ปี ๒๕๑o สภาพเดิมบ้านจิมยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างดี


บ้านจิมเริ่มก่อร่างสร้างเมื่อวันที่ ๑๕ ก.ย. ๒๕o๑ ตัวบ้านเป็นบ้านเก่าร่วมร้อยปีที่คงสภาพดีเยี่ยม ถูกนำมาปรับให้ดูเอี่ยม แต่คงไว้ซึ่งงานศิลปะแบบไทย หมู่เรือนไทย ๖ หลังเรียงต่อกันตามหลักสถาปัตยกรรม บวกกับความเชื่อโหราศาสตร์


ว่ากันว่า ส่วนที่เก่าที่สุดคือห้องนั่งเล่น ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางโถงเรือนใหญ่ อายุน่าจะอยู่ในสมัยต้นคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เจ้าของได้มาจากบ้านครัว ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองมหานาคฟากตรงข้าม


ถัดมาที่เก่าแก่ไม่แพ้กันก็เป็นส่วนของครัว ได้มาจากบ้านครัวอีกเช่นกัน ความเก่าแก่ของส่วนนี้พอ ๆ กับส่วนห้องนั่งเล่น อายุอยู่ในคริสต์ศตวรรษเดียวกัน


ขณะที่ส่วนอื่นๆ ภายในเรือนไทย ความเก่าแก่ก็ลดหลั่นลงมาตามลำดับ โดยเจ้าของตระเวนเสาะหาจากหลายแห่ง ก่อนจะถูกหลอมเป็นเรือนไทยอันงดงามในปัจจุบัน รวมระยะเวลาการก่อสร้างบ้านจิมก็ราว ๑ ปี เสร็จสมบูรณ์วันที่ ๓ เม.ย. ๒๕o๒


ใช้เวลาเดินทอดน่องบนเรือนไทย จะพบว่าไม่เพียงแค่ความเก่าแก่ที่สัมผัสได้จากที่นี่ หากแต่เดินอย่างพินิจพิเคราะห์ก็จะพบกับงานศิลปะที่ซ่อนตัวตามส่วนต่าง ๆ ของเรือน ไล่เรียงกันตั้งแต่โครงสร้าง จนถึงข้าวของเครื่องใช้ที่นำมาตกแต่งและประดับ


เสาค้ำและฝาเรือนเอนเข้าหากันเล็กน้อย ทำให้เรือนดูสูงโปร่ง คันทวยแกะลาย คล้ายกับคันทวยใช้ค้ำเชิงกลอนของวัดและวัง เป็นการประยุกต์ใช้กับบ้านพักอาศัย ความเชื่อแบบไทย ๆ ก็มีอยู่เยอะ ยิ่งเฉพาะธรณีประตู คนไทยเชื่อว่าจะช่วยป้องกันวิญญาณร้ายไม่ให้มารบกวนคนในบ้าน อีกทั้งยังเป็นปราการกั้นเด็กเล็กพลัดตกน้ำตกท่าของคนที่มีบ้านใกล้คลอง


แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ของเรือนไทยแห่งนี้ที่ใคร ๆ ต้องทึ่ง นั่นคือเป็นเรือนไทยที่ไม่ได้ใช้ตะปู ทำให้ง่ายต่อการประกอบและรื้อถอน เรือนทั้งหลังสร้างด้วยฝาปะกน ทำด้วยกระดานน้ำหนักเบา ยึดเข้าไว้กับโครงตัวเรือนที่เป็นเสาไม้ไร้ซึ่งการตอกตะปู เป็นสุดยอดภูมิปัญญาช่างสมัยก่อน


แม้จะมีความเป็นสถาปัตยกรรมไทยโบราณค่อนข้างสูง แต่บางส่วนบางมุมของบ้านจิมก็แฝงด้วยงานสถาปัตยกรรมชาติอื่น ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน แลดูเป็นเรือนไทยอันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์


งานแกะสลักลายแบบจีนที่ปรากฏอยู่ใต้บานหน้าต่างบานประตู บันไดขึ้นเรือนมีตุ๊กตาหินรูปสิงห์แบบจีนสองตัวขนาบสองข้าง เป็นงานศิลปะสไตล์จีน โถงหน้าบ้านและบันไดตกแต่งด้วยกระเบื้องหินอ่อนตาหมากรุกขาวสลับดำ สันนิษฐานอาจมาจากอิตาลี


ปลายสันหลังคาที่งอนเชิดขึ้น ซุ้มประตูทรงโค้งประดิษฐานพระพุทธรูปหินทราย สองข้างขนาบอยู่ด้วยเทวรูปปูนปั้นพระศิวะและพระอุมา เป็นอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากเขมร สะท้อนถึงบารมีและความมั่งคั่งผู้เป็นเจ้าของ สวยประณีตจากฝีมือช่างศิลป์ที่มีความชำนาญ


มาบ้านจิมหาชมของสะสมได้จุใจ พูดไว้ไม่เกินความจริงนัก ของสะสมส่วนตัวของจิม ทอมป์สัน บ่งบอกถึงความชอบและรสนิยม มากกว่าชอบคือรัก และมากกว่ารักคือหลงใหล เจ้าของบ้านผู้จากโลกไปอย่างไม่หวนกลับ ยังตราตรึงผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ด้วยสารพัดของสะสม อาทิ งานประติมากรรม ภาพจิตรกรรม เครื่องกระเบื้องเคลือบ และของสะสมอื่น ๆ


ยกตัวอย่างบางชิ้น พระพุทธรูปสมัยอยุธยาคริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ เครื่องกระเบื้องเคลือบในคอลเลกชั่นส่วนตัว ตั้งไว้บนแผ่นผ้าไหมลายดอกบัวใบบัว ชามก้านกลวง สามารถใช้เป็นหลอดดูดได้ ฉากไม้แกะสลัก สมัยรัตนโกสินทร์ เป็นภาพพระมาลัยขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของพระอินทร์และเทศนาให้แก่ศาสนิกชนเรื่องนรกภูมิ


เหล่านี้ล้วนเป็นงานศิลปะชิ้นเอกอุ หาชมที่ไหนไม่ได้ ต้องแวะมาชมที่นี่


(หมายเหตุ บ้านไทย จิม ทอมป์สัน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ ๙ โมงเช้า ปิดประมาณ ๕ โมงเย็น ค่าบริการเข้าชม ผู้ใหญ่ ๑oo บาท นักเรียนนักศึกษา ๕o บาท สอบถามรายละเอียด โทร. o๒-๒๑๖-๗๓๖๘)

ผ้าไหม บ้านครัว

แค่ฟากคลองมหานาคกั้นกันเท่านั้น คือที่ตั้งของชุมชนบ้านครัวกับบ้านจิม ชุมชนแขกจามแห่งนี้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผ้าไหมจิม แม้วันนี้จะไม่ได้ผลิตส่งให้จิม ทอมป์สันแล้ว ทว่าชุมชนบ้านครัวก็ยังไม่ได้ล้มหายตายจากในฐานะแหล่งผลิตผ้าไหมแห่งมหานครกรุงเทพฯ สนใจชมการทอผ้าไหมที่บ้านครัว แวะไปได้ที่บ้านลุงอุ๊ด ผู้สืบสานตำนานผ้าไหมบ้านครัวไว้อย่างเหนียวแน่น แม้สังคม (กรุงเทพฯ) จะเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ แต่ผ้าไหมบ้านครัวยังไม่สิ้นลมง่าย ๆ โทร. o๒-๒๑๕-๙๘๖๔



ภาพและข้อมูลจากเวบ
posttoday.com
artbangkok.com










color015A



color012A



color012B



color013A



color014



ภาพและข้อมูลจากสูจิบัตรหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน













"วาโก้ จับมือ 'ครูโต' ออกแบบของที่ระลึกการกุศล”


“วาโก้” จับมือ “ครูโต” ออกแบบของที่ระลึกการกุศลคอลเลคชั่นใหม่ชวนคนไทยใจบุญ สร้างศูนย์มะเร็งเต้านม โรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อสตรีชาวอีสาน บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วาโก้ เปิดตัวของที่ระลึกคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อนำรายได้จากการจัดจำหน่าย สมทบทุนสร้างศูนย์มะเร็งเต้านม โรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมอย่างครบวงจรสำหรับสตรีชาวอีสาน โดยได้รับเกียรติจาก "ครูโต" ม.ล. จิราธร จิรประวัติ ร่วมออกแบบในกิจกรรมการกุศลครั้งสำคัญนี้


นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มะเร็งเต้านมยังคงเป็นโรคร้ายที่มีสถิติอยู่เป็นอันดับ ๑ ของประเทศ ที่เป็นภัยคุกคามสำหรับผู้หญิงไทย และมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นอย่างน่าวิตก ซึ่งทาง “โครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” ยังคงยึดมั่นในปณิธานที่จะช่วยให้ผู้หญิงไทยปลอดภัยจากโรคร้ายนี้ ทางโครงการฯเน้นความสำคัญให้สตรีไทยหมั่นตรวจสุขภาพเต้านมตนเองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกัน หากตรวจพบเนิ่น ๆ ก็จะสามารถรักษาให้หายได้และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม






“โครงการวาโก้โบว์ชมพู สู้มะเร็งเต้านม” จึงได้รับเกียรติจาก"ครูโต" ม.ล. จิราธร จิรประวัติ ที่ร่วมออกแบบของที่ระลึกการกุศลคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อนำรายได้จากการจัดจำหน่าย สมทบทุนสร้างศูนย์มะเร็งเต้านม โรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อดูแลผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแบบบูรณาการและครบวงจร ให้เป็นที่พึ่งพาของสตรีชาวอีสาน โดยไม่ต้องเข้ารับการตรวจรักษาที่ส่วนกลางหรือกรุงเทพมหานคร เนื่องจากอีสานเป็นภาคที่มีจำนวนผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมมากที่สุดในประเทศไทย ของที่ระลึกคอลเลคชั่นใหม่ลายเส้นที่ออกแบบโดย ”ครูโต” จะประกอบไปด้วย เสื้อยืดสีขาวลายผู้หญิง และลายผู้ชาย ราคาตัวละ ๒๘o บาท กระเป๋าอเนกประสงค์ ราคาใบละ ๓๕o บาท กระเป๋าสำหรับใส่ชุดชั้นใน ราคาใบละ ๔๕o บาท กระเป๋าสะพาย ราคาใบละ ๕๕o บาท ร่ม ราคาคันละ ๓๕o บาท และพวงกุญแจ ราคาอันละ ๕o บาท






ขอเชิญชวนเหล่านักช๊อปผู้ใจบุญ เลือกซื้อของที่ระลึกคอลเลคชั่นใหม่นี้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รายได้ทั้งหมดสมทบทุนสร้างศูนย์มะเร็งเต้านม โรงพยาบาลขอนแก่น นอกจากนี้ยังเพื่อการรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านมยากไร้ และเพื่อกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ ให้ผู้หญิงไทยปลอดภัยจากมะเร็งเต้านมอีกด้วย หาซื้อของที่ระลึกคอลเลคชั่นใหม่ได้ที่ วาโก้ ชอป ทั่วประเทศ หรือ Shop Online ที่ เฟซบุค wacoal thailand หรือ wacoal.co.th สอบถามข้อมูลของที่ระลึกคอลเคลชั่นใหม่ได้ที่วาโก้คอลเซ็นเตอร์ โทร. o๒-๒๙๖-๙๙๗๙



ภาพและข้อมูลจากเวบ
matichon.co.th














"Workshop พิเศษ วาดรูปดอกไม้ด้วยสีน้ำ”


กิจกรรมใส ๆ คนใจสีน้ำ Workshop พิเศษ วาดรูปดอกไม้ด้วยสีน้ำ โดย มาโนช กิตติชีวัน
คลาสเดียว วันเดียวเท่านั้น วันเสาร์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.oo-๑๗.oo น. ณ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ สนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนเรียนได้ที่ พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้ โทร. o๒-๖๖๙-๓๖๓๓-๔ วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ๑o.oo น. ถึง ๑๘.oo น.
สมัครด่วน รับจำนวนจำกัด


มาโนช กิตติชีวัน ศิลปินสีน้ำ ผู้รักการวาดดอกไม้เป็นชีวิตจิตใจ "ด้วยระยะเวลายาวนาน
หลายปีบนเส้นทางของนักวาดภาพประกอบหนังสือบ้านและสวนกับประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้"ผมได้เรียนรู้เทคนิคการวาดสีน้ำจากการทำงานจริง รู้จักการแก้ปัญหาฝึกการวางแผนขั้นตอนการวาดและพัฒนาฝีมืออย่างสม่ำเสมอ ได้รู้จักพรรณไม้มากขึ้นเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สรรค์สร้างสิ่งสวยงาม เราเพียงแต่เลียนแบบธรรมชาติให้ดีที่สุดก็เท่านั้น ทุกภาพที่วาดเกิดจากความรักเมื่อทำแล้วมีความสุข ผมก็ทำไปเรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ และจะมีความสุขยิ่งขึ้นเมื่อมีคนชื่นชอบผลงานของเราและอยากทำตามครับ"



ภาพและข้อมูลจากเวบ
เฟซบุคพิพิธภัณฑ์ดอกไม้














"จิตรกรรมสีน้ำ และเซรามิก”


นิทรรศการ : “แบ่งปัน เวลา รัก” (Share Time Love)
ศิลปิน : นาวิน ตันธนะเดชา (Navin Tantanadaecha) พรพรรณ สุทัศน์ (Pornpan Sutas)
ลักษณะงาน : จิตรกรรมสีน้ำ และเซรามิก
ระยะเวลาที่จัดแสดง : ๙ - ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗
พิธีเปิดนิทรรศการ : ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เวลา ๑๘.oo น.
คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช ประธานในพิธีเปิด
สถานที่ : หอศิลป์จามจุรี
ห้องนิทรรศการ : ห้องนิทรรศการชั้น ๑ ห้อง ๑
ติดต่อศิลปิน : o๘๖-o๒๙-๙๑๒๒


แนวความคิด
ณ จุดหนึ่งที่ห้วงเวลาของคนสองคนมาทับซ้อนกัน
เป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งปันมุมมองแห่งความรัก และร่วมกันสร้างสื่อบางสิ่งบางอย่าง
เพื่อสื่อสารและแบ่งปันประสบการณ์แห่งความรักเหล่านั้น
สู่ห้วงเวลาของผู้คนอื่นๆ เหมือนกับวงน้ำที่ไปสะกิดให้เกิด แง่คิด แรงบันดาลใจ ความรู้สึก
ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาและจัดการกับความรักที่พวกเขามี
ในเวลาที่เหมาะสมก่อนที่มันจะสายเกินไป


โดยมุมมองของ พรพรรณ สุทัศน์ บอกเล่าถึงการที่
คนเราเมื่อรักสิ่งใดแล้วก็มักเอาใจไปผูกกับสิ่งนั้น ยิ่งรักมากก็ยิ่งผูกแน่นมาก
ถึงจะสูญเสียสิ่งนั้นไปแล้วก็ยังติดกับความรักนั้น
นานวันเข้ากลับกลายเป็นดั่งการกักขังตนเองไว้กับความรู้สึกเหล่านั้น
สุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่เราเลือกว่าจะมีความสุขอยู่ในกรงงามที่สร้างขึ้นมาหรือจะปล่อยใจให้โบยบินอีกครั้ง


ส่วนอีกมุมหนึ่งของ นาวิน ตันธนะเดชา ได้นำเสนอถึง
การได้สัมผัสดอกไม้ทำให้นึกถึงความอบอุ่นจากความรักระหว่างคนใกล้ชิด
ซึ่งเป็นสิ่งสวยงามและคอยเตือนใจให้ดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
ดังเช่นพันธุ์ไม้ที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี จะเจริญเติบโตและเบิกบานอย่างงดงาม







ภาพและข้อมูลจากเวบ
chamchuriartgallery.blogspot.com














"Nature of Mind ธรรมชาติแห่งจิต"


นิทรรศการ “Nature of Mind: ธรรมชาติแห่งจิต” นำเสนอผลงานวาดเส้นดินสอไขบนผืนผ้าใบ ด้วยแนวความคิดเกี่ยวกับความอ่อนไหวไม่มั่นคงของจิตใจมนุษย์ ซึ่งถูกยั่วยุและดึงดูดให้หลงใหลไปกับกระแสวัตถุนิยมหรือความลวงแห่งสมมติสัจจะท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์อันฟ่องฟุ้งด้วยเงินตรา รวมถึงกิเลสตัณหาทางทุนนิยมได้อย่างง่ายดาย เส้นสายลายริ้วของสายน้ำที่พลิ้วไหวเป็นระลอกคลื่นจึงเป็นเสมือนตัวแทนของจิตที่มีความเคลื่อนไหวเมื่อปัจจัยต่าง ๆ เข้ามากระทบ และแสดงให้เห็นถึงสัจธรรมของธรรมชาติที่มีความเปลี่ยนแปลงผันแปรอย่างไม่สิ้นสุด



























ภาพและข้อมูลจากเวบ
ardelgallery.com














"นครหัตถศิลป์ จ.นครศรีธรรมราช”


จังหวัดนครศรีธรรมราชจัดงาน “นครหัตถศิลป์” เพื่ออนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว ๑๕-๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ณ สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช


ค่ำวันที่ ๗ ก.ค. ๕๗ ที่ร้านอาหารสลัดน้ำ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายคธา รุ่งโรจน์รัตกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช นางนภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราชและนายสรวิศ จันทร์แท่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “นครหัตถศิลป์” ประจำปี ๒๕๕๗






ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัด และสถานศึกษา กำหนดจัดงาน “นครหัตถศิลป์” ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ กรกฎาคม นี้ ณ สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และที่แหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์โบราณสถานที่สำคัญในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราช และเพื่อส่งเสริมด้านการตลาด การเป็นเมืองศิลปวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์และหัตถกรรม ส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และสร้างความภาคภูมิใจของชาวนครศรีธรรมราช และเพื่อสนับสนุนพระบรมธาตุเจดีย์สู่มรดกโลก






ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ หมู่บ้านเครื่องถม หมู่บ้านผ้าทอ หมู่บ้านจักสานย่านลิเภา หมู่บ้านจักสานกระจูด หมู่บ้านหนังตะลุง หมู่บ้านภูมิปัญญาเด่นเมืองนคร หมู่บ้านหัตถศิลป์พระบรมธาตุ สู่มรดกโลก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายขนมพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง การแสดงการละเล่นพื้นบ้าน และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม






ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า นครศรีธรรมราชได้ชื่อว่า เป็นเมืองแห่งนครหัตถศิลป์ที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมาแต่โบราณ ไม่ว่าจะเป็นผ้ายก เครื่องถม ซึ่งเป็นงานหัตถศิลป์ชั้นสูง ในอดีตเคยเป็นเครื่องแสดงฐานะยศถาบรรดาศักดิ์ของชนชั้นสูงในสังคม เครื่องถมจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้นครศรีธรรมราช ยังมีงานหัตถศิลป์ที่โดดเด่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เครื่องจักสานย่านลิเภา จักสานกระจูด แกะหนังตะลุง และงานหัตถกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดนครศรีธรรมราช






ดังนั้นการอนุรักษ์และสืบสานศิลปหัตถกรรมให้คงอยู่ จึงเป็นหน้าที่ของชาวนครฯ ทุกคน นอกจากงานศิลปะที่เลื่องชื่อแล้ว นครศรีธรรมราชยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น ทั้งเส้นทางวัฒนธรรม หาดทรายชายทะเล นิเวศป่าเขา โครงการลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พร้อมยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ดังนั้น จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนจัดงาน “นครหัตถศิลป์” ขึ้น เป็นการนี้จัดเป็นครั้งที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑๕-๑๘ กรกฎาคม นี้ ณ สวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราช และโบราณสถานย่านเมืองเก่า ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมงานดังกล่าว



ภาพและข้อมูลจากเวบ
thainews.prd.go.th




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor




Create Date : 10 กรกฎาคม 2557
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 9:35:36 น. 0 comments
Counter : 4389 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.