Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

หยุดตามใจปาก



หลังจากพักรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว สาวออฟฟิศทั้งหลายมักจะซื้อขนมติดไม้ติดมือมาวางบนโต๊ะทำงานไว้ขบเคี้ยวยามบ่ายพร้อมกับจิบกาแฟไปพลาง ๆ


มีสาว ๆ คนไหนที่รู้บ้างว่า ขนมเค้ก คุกกี้ ขนมปัง ขนมถุง มันฝรั่งทอดกรอบ ฯลฯ ที่สาว ๆ กำลังเคี้ยวอยู่นั้นมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่มากทีเดียว


พฤติกรรมการบริโภคของสาว ๆ ที่ชอบกินจุบจิบจนเป็นนิสัย ประกอบกับไม่มีเวลาออกกำลังกายทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม เพราะนอกจากจะนั่งแช่บนเก้าอี้แล้วแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายร่างกายเลย

หากใครที่มีพฤติกรรมเช่นนี้
รู้ไว้เลยว่ามีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว

ตามหลักโภชนาการ เราไม่ควรกินน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา


น้ำตาลเหล่านี้มีส่วนผสมอยู่ในของที่รับประทานเข้าไปรวมทั้งผลไม้ด้วย สาวออฟฟิศ ที่เลือกรับประทานผลไม้เป็นของว่างจะได้รับน้ำตาลมากถึงวันละ 25 ช้อนชา ส่วนกลุ่มที่ชอบกินขนมกรุบกรอบได้รับน้ำตาลวันละประมาณ 18 ช้อนชา

ถ้าร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลและแป้งล้นเกินเป็นประจำ จะทำให้ตับอ่อนทำงานหนักจากการผลิตอินซูลิน
ยิ่งคนที่มีปริมาณไขมันมากก็จะยิ่งทำให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี ทำให้มีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดสูง และในที่ สุดก็อาจจะกลายเป็น โรคเบาหวานได้ ส่วนจะเป็นโรคเบาหวานเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของตับอ่อนของแต่ละคน

จากการสำรวจสภาวะสุขอนามัยของประชาชน ปี 2552
พบว่า คนไทยเป็นเบาหวานประมาณร้อยละ 7 ของประชากร หรือมากกว่า 3 ล้านคน ที่สำคัญขณะนี้ คนไทยมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานเพิ่มเป็น 6-7 ล้านคน และองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ทั่วโลกมีผู้เป็นเบาหวานประมาณ 177 ล้านคน และคาดว่าปี 2025 จะพบผู้เป็นเบาหวานทั่วโลก 300 ล้านคน

ศุภลักษณ์ ทองนุ่น นักโภชนาการ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท (แผนกผู้สูงอายุ) แนะนำว่า
สาว ๆ ที่ทำงานออฟฟิศจะงดอาหารเช้า ดื่มแค่กาแฟแก้วเดียวก่อนมาทำงาน พอนั่งทำงานไปสักพักจะรู้สึกหิวเพราะระดับน้ำตาลในเลือดลดลง สมองจึงสั่งการว่า "หิว" เราก็จะหาขนมมากินจนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นแล้วสมองสั่งการให้หยุดกิน ในความเป็นจริงสมองมักจะรับรู้ช้ากว่า เราจึงได้รับน้ำตาลและพลังงานเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ และส่วนใหญ่ขนมหรือน้ำผลไม้ที่หยิบมากินรองท้องในระหว่างมื้อปริมาณการกินจะไม่มาก แต่ให้แป้งและน้ำตาลสูงกว่าอาหารมื้อหลักและไม่ทำให้อยู่ท้องด้วย

ดังนั้นเราจึงควรรับประทานกลุ่มแป้ง
เช่น ข้าวไม่เกินวันละ 8-12 ทัพพี และ น้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา ซึ่งต้องคำนึงถึงแป้งและน้ำตาลที่แฝงในอาหารและเครื่องดื่มด้วย เพราะบางคนเลือกทานผลไม้แล้ว แต่เมื่อคำนวณปริมาณน้ำตาลโดยรวมออกมาอาจมีปริมาณมากกว่าการทานขนม เพราะในผลไม้หรือเครื่องจิ้มก็มีปริมาณน้ำตาลเช่นเดียวกัน

ข้อควรปฏิบัติคือ
อย่าซื้อขนมหวานที่ชอบติดบ้าน รับประทานให้ช้าลง ร่างกายจะรับรู้ถึงสัญญาณความอิ่มหลังรับประทานอาหารประมาณ 15-20 นาที เคี้ยวให้นานขึ้น ยิ่งเคี้ยวนานเราก็จะทานช้าลงและอิ่มเร็วขึ้น ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 3 ครั้งเพื่อลดปริมาณไขมันในร่างกาย เพื่อช่วยให้อินซูลินทำงานได้ตามปกติ

แต่ในภาวะน้ำท่วมเช่นนี้ อนุโลมให้หาขนมติดบ้านไว้มาก ๆ ก็ยิ่งดี เพราะถึงยังไงคงต้องกินอย่างประหยัด..อยู่ดี

credit :  //www.prachachat.net/
หยุดตามใจปาก




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2554
0 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 10:00:54 น.
Counter : 1310 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Rain_sk
Location :
Upper Midwest United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 68 คน [?]





"ตลอดเวลาที่บาปยังไม่ส่งผล
คนพาลสำคัญบาปเหมือนน้ำผึ้ง
เมื่อใดบาปให้ผล คนพาลย่อมเข้าถึงทุกข์เมื่อนั้น"
ขุ.ธ. 25/15/24
เวลา 4.57PM :sat,Mar 29,2557



BlogGang Popular Award # 9


BlogGang Popular Award # 10


BlogGang Popular Award # 11


BlogGang Popular Award # 12


Friends' blogs
[Add Rain_sk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.