-:- Just alright, My life is Great -:-
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2564
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 มิถุนายน 2564
 
All Blogs
 
ปฏิรูปการศึกษา V : ไม่อยากไปโรงเรียน

คราวนี้ขอเขียนแบบสบายๆ สักครั้ง แต่ขอแทรกประเด็นให้ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาบ้านเรา ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมตอนเรายังเด็กไม่รู้สึกอยากไปโรงเรียน แต่พอเรียนพิเศษกลับไม่รู้สึกแบบนั้น มันมีจุดที่น่าสนใจ 3 อย่าง คือ ครู บรรยากาศและวิธีสอน กฎระเบียบ แต่สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความแตกต่างชนิดจับต้องได้


ครูในโรงเรียนกวดวิชาไม่ดุ ไม่ลงโทษโดยไร้เหตุผล (ประเภทตียกห้อง ด่ายกชั้น ด่าพ่อล่อแม่) มากสุดแค่พูดเสียงดังแบบปราม มันทำให้เรารู้ตัวขึ้นมาเองเลยว่า เราทำไม่ถูกต้องแล้วนะ ควรหยุดกระทำ ที่สำคัญสามารถพูดคุยเล่นกับครูได้ ซึ่งแตกต่างจากชั้นเรียนปกติ จะว่าไปตอนผมเรียนที่จีนในห้องก็คุยกับครูได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งหยอกล้อครูว่าน้องชาย เพราะครูอายุน้อยกว่า ซึ่งครูก็ยอมรับแถมเล่นกลับด้วย "แต่ผมมีอำนาจมากกว่าคุณนะ" เป็นที่เฮฮากันไป มันทำให้เกิดความสนิทสนมมากขึ้น เมื่อความสัมพันธ์ดี เรื่องราวต่างๆ ก็จะง่ายขึ้น ผมบอกเลยครูที่อายุน้อยกว่าผมคนนี้ ผมได้ความรู้ที่หาไม่ได้จากตำราจากแกเยอะมาก


ในส่วนของวิธีการสอน ครูตามโรงเรียนกวดวิชามักจะมีเทคนิคเฉพาะที่ทำให้เราเข้าใจง่าย ผิดกับเรียนในห้องที่ครูสอนเหมือนกั๊กวิชา หรืออ่านหนังสือให้ฟัง การอ่านให้ฟังมันไม่มีประโยชน์เลย นี่ยังไม่นับถึงสื่อการสอนที่หลากหลาย กว่าโรงเรียนทั่วไปอย่างเทียบไม่ติด

บรรยากาศการเรียนการสอนก็มีผลต่อการเรียนรู้ เคยไปร้านอาหารมั้ยครับ? ร้านบางแห่งอาหารธรรมดาๆ แต่คนก็ไปกินกันเยอะ หลายคนที่ไปที่ร้านไม่ใช่เพราะรสชาติหรอก แต่เพราะบรรยากาศ โรงเรียนก็ไม่ต่างกัน บรรยากาศโรงเรียนทั่วไป ไม่ชวนให้รู้สึกอยากไปเรียน อาจด้วยระเบียบข้อบังคับที่มากเกินไปจนน่าอึดอัดก็ได้ เราจะพูดถึงในส่วนต่อไป


ในส่วนของกฎระเบียบ โรงเรียนกวดวิชาไม่ต้องเข้าแถวตากแดด แต่งตัวอิสระ ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัว แปลกนะครับทั้งที่ไม่มีกฎแต่เราสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ เข้าเรียนตรงเวลา นานๆ จะมีเคสมาสาย เรื่องเสื้อผ้าที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ สมัยผมเราก็คบกันได้ทุกคนนะ มีผู้ใหญ่นี่แหละบ้ากันไปเอง โลกเรามันเหลื่อมล้ำอยู่แล้ว ไม่มีความเท่าเทียมกันหรอก แค่ชุดนักเรียนเก่ากับชุดใหม่ ก็เหลื่อมล้ำกันแล้ว ทุกคนมีดีในส่วนของตน เหมือนตัวละครในเกมแนว RPG น่ะแหละ มีดีคนละอย่าง ควรสอนให้เด็กมีความภาคภูมิใจในตนเองมากกว่าที่จะอ้างความเหลื่อมล้ำ

มันบ้ามากที่จะบังคับให้ต้องแต่งตัวเหมือนกันไปหมด ล่าสุดก็พึ่งมีข่าวโรงเรียนบังคับให้นักเรียนต้องซื้อถุงเท้าแบบเฉพาะที่ขายในโรงเรียนเพราะไม่สามารถหาซื้อที่อื่นได้ ทำไปเพื่ออะไร? ฟันกำไรในสภาวะโรคระบาด? ที่แย่ไม่แพ้กันคือ ข่าวให้นักเรียนใส่ชุดนักเรียนเรียนออนไลน์ ชุดนักเรียนมันซักยากนะ (คนเป็นแม่ไม่ถูกใจสิ่งนี้) แต่ถ้าใครอยากใส่ก็เอา ผมก็ไม่ได้ต่อต้าน แต่ในสภาวการณ์ที่มีโรคระบาดอย่างทุกวันนี้ เศรษฐกิจก็แย่ นายกก็ห่วย เงินก็ไม่ค่อยจะมี อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัดมิใช่หรือ?



เขียนมาหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 มันยังธรรมดาเมื่อเปรียบเทียบกับที่เด็กๆ ออกมาเรียกร้อง ความจริงตามเพจที่พวกเด็กๆ สร้างขึ้นมา ผมก็เข้าไปแสดงความคิดเห็นบ้าง มันน่าแปลกที่สิ่งที่เด็กๆ ออกมาเรียกร้อง มันตรงกับที่เราเจอแถมเด็กยุคนี้เจอหนักกว่าที่เราเจออีก แต่หลายเรื่องถ้ามากไปมันก็ส่งผลกระทบมาที่เรา นี่ยังไม่นับเรื่องกลุ่มทุน หรือผู้มีอำนาจในหลายๆ ส่วน ผมขอพิจารณาอีกครั้งก่อนที่จะถกเรื่องบางเรื่องอย่างจริงจังอีกครั้งเนื่องจากไม่อยากเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าๆ


Create Date : 05 มิถุนายน 2564
Last Update : 5 มิถุนายน 2564 0:07:26 น. 33 comments
Counter : 2083 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnewyorknurse, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณnonnoiGiwGiw, คุณเริงฤดีนะ, คุณThe Kop Civil, คุณcomicclubs, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณตะลีกีปัส, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณmultiple, คุณชีริว, คุณSweet_pills, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณkae+aoe, คุณเนินน้ำ, คุณLittleMissLuna, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณนายแว่นขยันเที่ยว


 
คำชี้แจง

บล็อกนี้อยู่ในหมวด
Education Blog ยินดีเปิดรับทุกความคิดเห็นของเพื่อนๆ ที่มีล็อคอิน เพื่อพูดคุยอย่างสร้างสรรค์

แม้ท่านจะใช้ตรรกะวิบัติมาพูดคุย แต่เราจะไม่ใช้ตรรกะวิบัติกับท่านแน่นอน


โดย: คุณต่อขอชี้แจง (toor36 ) วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:0:08:10 น.  

 

มาอ่านเรื่องเกี่ยวกับ
เรื่องการศึกษาบ้านเราด้วยค่ะ

สมัยก่อนๆ เราไม่ค่อยได้เรียนอะไรพิเศษกัน
ไม่เหมือนเด็กสมัยนี้เรียนกันหนักมาก
ตั้งแต่เริ่มเรียนก็ต้องเรียนพิเศษกันแล้ว
วันเสาร์ อาทิตย์ก็แทบไม่มีเวลาได้เล่นเลย
เห็นเด็กๆรุ่นนี้ ไม่มีเวลาจะเป็นเด็กเลย
เพราะเรียนกันแทบไม่มีเวลา




โดย: newyorknurse วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:2:41:51 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกย้อนกลับไปบรรยากาศ
ในห้องเรียนสมัยเด็กๆ อีกครั้ง
คุณต่อมีประสบการณ์ไปศึกษา
ในต่างแดน น่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:5:44:32 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:6:37:16 น.  

 
สมัยรุ่นผมแต่ก่อนชอบไปโรงเรียนนะครับ คืออยากไปเจอเพื่อน ๆ และก็สนิทกับครูเหมือนกันครับ บรรยากาศที่โรงเรียนผมชอบมาก มีกฏระเบียบ แต่ไม่ยุ่ง วุ่นวายแบบในปัจจุบัน สมัยก่อนไม่มีใครกล้าประท้วงด้วยมั้งครับ ปัจจุบันผมว่าเละจริง ๆ


โดย: The Kop Civil วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:14:45:03 น.  

 
เรียนในโรงเรียนกวดวิชา เป็นอะไรที่สนุกดีนะ เพราะครูผู้สอนจะมีเทคนิคการจำ ครูกับนักเรียนรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่าครูในโรงเรียน แต่ครูในโรงเรียนบางคนก็มีความเป็นเพื่อนกับนักเรียนนะ ถ้าห้องไหนได้ครูแบบนี้ไปเป็นครูประจำชั้น เราจะรู้สึกอิจฉาเลย

สำหรับการไม่อยากไปโรงเรียน เราก็เป็นนะตอนประถม บางทีการไม่ได้รับกำลังใจจากครู มันก็ทำให้เราไม่อยากไปโรงเรียนได้ เช่น เราทำงานนั้นได้ไม่ดี ตวัดเขียนเส้นไม่เหมือนคนอื่น แล้วเราได้ตราปั๊มหน้าบึ้ง หรือคำว่าแย่ เราก็ห่อเหี่ยวเหมือนกัน จำไม่ได้ว่าถึงขั้นร้องไห้หรือเปล่า แต่มันก็จิตตกอะ และตอนนั้นเราแค่ ป.1 เอง ใจเรามันก็ไม่ได้แกร่ง

สำหรับเรา ตราปั๊มแบบนี้ อย่ามีเลย สงสารเด็กบ้าง

โตขึ้นมาชั้นมัธยม มันมีแรงจูงใจนิดนึง คือ การที่แอบชอบใครบางคน มันทำให้เราอยากไปโรงเรียน

เรื่องเครื่องแบบนักเรียน โรงเรียนเราที่เราเรียนตอนม.ปลายมีการประท้วงนะ แต่ไม่ใช่การประท้วงเรื่องการไม่อยากใส่เครื่องแบบ แต่ประท้วงเรียกร้องเรื่องอยากได้เข็ม อยากมีเข็มติดเสื้อเหมือนโรงเรียนอื่นเขา แต่ ณ ตอนนั้นผอ. ไม่ให้ เพราะมองว่ามันสามารถเป็นอาวุธได้ แต่ ณ ปัจจุบันโรงเรียนเรามีเข็มแล้ว ไม่รู้ว่ามีการเรียกร้องกันอีก หรือ ผอ. คนใหม่พิจารณาให้มีเอง (แค่เรื่องเข็มก็เห็นถึงความเหลื่อมล้ำได้)

เรื่องเรียนออนไลน์แล้วต้องใส่ชุดนักเรียน เราว่ามันก็บ้านะ ให้เด็กเขาใส่ชุดอะไรก็ได้ที่เขาอยากใส่เถอะ นอกจากมันจะสร้างความสุขให้เขาแล้ว มันอาจจะสร้างความสุขให้ครู ให้เพื่อนร่วมชั้นได้ ตอนนี้เราเครียดเรื่องโควิดกันมากพอแล้ว ให้เราได้มีอะไรยิ้ม ๆ กันบ้างเถอะ


โดย: comicclubs วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:15:52:11 น.  

 
หากไม่ปฏิรูป
ไม่เปลี่ยนแปลง
มันก็จะเป็นแบบเดิมนี้ไปอีกนานเลยครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2564 เวลา:23:18:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:6:23:16 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 
สวัสดีครับ


ไม่เพียงแค่ระบบการศึกษานะครับ แทบทุกเรื่องในประเทศนี้ ที่ยังยึดติดรูปแบบธรรมเนียมเก่า จนไม่ยอมพัฒนา


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:7:25:47 น.  

 
สวัสดีครับคุณต่อ
โรงเรียน กับโรงเรียนกวดวิชา ก็เหมือนโรงพยาบาลรัฐ กับเอกชนมั้ยครับ การบริการและสภาพแวดล้อมดูดีและน่าสนใจ บริการไว แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่าย
ในความคิดผมโรงเรียนควรสอนให้นักเรียนเข้าใจโดยไม่ต้องไปเรียนพิเศษน่าจะดีที่สุด
ส่วนตัวก็ไม่เคยเรียนกวดวิชาครับ เพราะงบไม่เพียงพอ แต่เคยเรียนพิเศษแบบหลังเลิกเรียนที่ครูประจำชั้นสอน แต่เก็บตังค์นะ ซึ่งที่จริงก็แอบไม่ถูกต้องรึเปล่า?

เรื่องชุดนักเรียน ตอนชั้นประถมมัธยมผมไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ คือให้ใส่ก็ใส่ เพราะแม่ซักรีดให้ ไม่ได้รู้สึกว่าอยากแต่งชุดไปรเวท แต่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ก็เห็นควรว่าปรับได้ตามความเหมาะสมครับ ที่เคร่งถึงขนาดต้องซื้อจากโรงเรียนเท่านั้นนี่ก็ไม่ไหวครับ

เมื่อเร็วๆ นี้เห็นข่าวที่โรงเรียนหนึ่งให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทมาเรียนได้ โดยที่ชั่วโมงลูกเสือก็ใส่แค่ผ้าพันคอ หรือเพิ่มหมวก อันนี้ดีครับ เห็นด้วย อยู่ที่วิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการโรงเรียนเลย

ต่อเรื่องเครื่องแบบอีกนิด พอเข้ามหาลัยนี่รู้สึกได้เลยว่า อยากใส่ชุดนักศึกษามาก แต่งไปรเวททำให้รู้ถึงฐานะของแต่ละคนได้เลย เราเองฐานะปานกลาง เห็นเพื่อนที่แต่งตัวดูดีมียี่ห้อ ก็ต้องแอบคิดนิดนึงล่ะ ตอนนั้นเสื้อผ้าก็ไม่ได้มีอะไรให้เลือกมาก

แต่ที่อยากให้เลี่ยงคือใส่ชุดนักศึกษาคู่กับรองเท้าแตะครับ (ในเคสที่ว่าคนๆ นั้นไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน และสุขภาพแข็งแรง)

ขอบคุณคุณต่อที่ไปพูดคุยและส่งกำลังใจที่บล็อกนะครับ
ผมเลยได้ศัพท์ใหม่ๆ จากคุณต่อมาด้วย เช่นคำว่า อิเซไค

และเห็นด้วยกับคุณต่อว่า เพราะชีวิตจริงไม่เหมือนกับการ์ตูนหรือนิยาย เผลอๆ ได้ไปเกิดใหม่แทน ^^


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:10:00:05 น.  

 
@The Kop Civil
การที่อยากไปโรงเรียน แสดงว่าความสัมพันธ์กับครูค่อนข้างดี อันที่จริงแค่ความสัมพันธ์ของครูกับนักเรียนเป็นไปได้ด้วยดี มันก็ช่วยได้มากในหลายๆ เรื่องแล้วครับ


@comicclubs
เอาเข้าจริง ตอนม.ปลาย ผมกับพวกเพื่อนเคยคุยเรื่องเข็ดกลัด สุดท้ายพวกเราตกผลึกความคิดได้ว่า อย่าไปเรียกร้องให้มีเลย 1.เปลืองเวลาเรียกร้อง 2.เปลืองเงินพ่อแม่ 3.เสื้อพังเร็วขึ้น ในส่วนของการมองว่าเป็นอาวุธ ถ้าจะสู้กันจริงๆ ปากกาก็เป็นอาวุธได้นะ

สำหรับนักเรียนกำลังใจสำคัญมากจริงๆ ครับ


@มาช้ายังดีกว่าไม่มา
ควรเป็นแบบนั้นแหละครับ ทำโรงเรียนทั่วไปให้มันเจ๋งได้แบบพวกโรงเรียนกวดวิชา เรียนพิเศษแบบหลังเลิกเรียนที่ครูประจำชั้นสอนที่คนด่ากันว่ากั๊กวิชาก็มาจากส่วนนี้แหละ

เรื่องเครื่องแบบ พอไม่บังคับแต่มีไว้เป็นทางเลือก เหมือนบริษัทที่มียูนิฟอร์มพนักงานแต่ไม่บังคับให้ใส่ ผมใส่ประจำเลยนะ บริษัทให้เสื้อมา 2 ตัว ผมใส่ 3 วัน/จาก5 วันเลย (ซักไม่ทันไม่งั้นใส่ทุกวันก็ได้) เพราะไม่บังคับมันเลยรู้สึกดี นี่แหละธรรมชาติของมนุษย์ ผมไม่ได้เรียกร้องให้ยกเลิก แค่มองว่ามีไว้ก็ไม่เสียหาย ส่วนใครอยากใส่ไม่อยากใส่ก็อีกเรื่อง

ที่ผมใส่ยูนิฟอร์มพนักงานของบริษัท เพราะมันช่วยประหยัดเงินได้ แต่ชุดนักเรียนนั้นแตกต่าง เนื่องจากผู้ปกครองต้องซื้อ ต่างจากยูนิฟอร์มบริษัทที่เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการ (ยกเว้นบางที่บังคับพนักงานซื้อ แบบนั้นถือว่าแย่)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:11:47:52 น.  

 
เห็นแว๊บ ๆ ทำไมนักเรียนจึงชอบเรียนพิเศษ

...
เราเองก็เคยชอบเรียนพิเศษ กับครูบางคนเพราะ
สอนเก่งทำให้เราเข้าใจง่าย
บางคนอาจารย์เขาจบสูงมาก แต่สอนไม่เป็นคิด
ว่าเรารู้สอน ๆ ไป
...
อีกอย่างครูสอนพิเศษ เขาเตรียมการสอนหาเทค
นิคให้นักเรียนเข้าใจง่าย ที่สำคัญ "ไม่ดุ"

...
ในโรงเรียนหรือในวิทยาลัย บางวิชาสอนก็น่า
เบื่อมาก ครู/อาจารย์สอนตามหน้าที่เนาะ 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:11:52:07 น.  

 
สวัสดีมีสุขค่ะ

เป็นเด็กในสมัยที่ไม่มีเรียนพิเศษ
เลยไม่รู็สึกอะไร
แต่เห็นคุณครูที่สอนพิเศษ ผ่อนบ้านผ่อนรถได้หลายคัน จึงเข้าใจ...ว่าสอนในห้องกับสอนพิเศษ..ไม่เหมือนกันจริงๆ
และเด็กที่เรียนพิเศษกับครูคนที่สอนในชั้นจะไม่มีวันตก....ก็ถึงบางอ้อค่ะ

แต่้ชื่นชมครูที่ไม่ได้สอนเด็กในชั้นในโรงเรียนนั้น
แต่สามารถสอนอย่างชำนาญให้เด็กเข้าใจและ
ไปทำข้อสอบได้ผ่านเยี่ยมค่ะ

ส่วนครูที่เอาเนื้อหา ข้อสอบมาติวในการสอนพิเศษ....ทำผิดอย่างมหันต์ค่ะ แต่เด็กชอบ


โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:12:55:10 น.  

 
สวัสดีคะคุณต่อ..

ช่วงโควิด..การเรียนออน์ไลน์จะลำบาก

ช่วงนี้..คำถามยอดฮิตก็คือ..'ฉีดวัคซีนหรือยัง?'



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:12:56:05 น.  

 
โควิดไม่หายไปง่ายๆ
คงเหมือนไข้หวัดใหญ่ครับ
พอมีวัคซีนก็ฉีดกันไป
แล้วก็ค่อยๆสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมา

ปัญหาใหญ่กว่า
เป็นเรื่องเศรษฐกิจแล้วล่ะครับ
คนกลัวอดตายน้อยกว่ากลัวตายครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:18:12:17 น.  

 
อ.เต๊ะ เป็น อ.พิเศษ สอนทั้งมหาลัยของรัฐ และของเอกชนเลยละครับ ของรัฐ เค้าก็ให้สอนแบบนึง ของเอกชนเค้าก็ให้สอนอีกแบบนึง แถมค่าสอนก็ได้ไม่เท่ากันอีก ทั้งที่เป็นคนๆเดียวกันสอนแท้555

เรื่องเนื้อหามันก็เหมือนๆกัน แต่วิธีการสอนนี่ซิ
ครูที่เก่ง ก็จะมีเทคนิคการสอนที่แตกต่างออกไป
สมัยก่อนนี่เด็กไม่มีสิทธิ์ มีปากมีเสียง
แต่เดี๋ยวนี้ของเอกชน นร. นศ. สามารถประเมินให้คะแนน ครู อาจารย์ได้

ถ้าคะแนนประเมินไม่ดีนานๆ อีกหน่อยก็ไม่ได้มาสอน แต่ของรัฐบาลนี่ สอนดีไม่ดี ก็ไม่มีใครไปทำอะไรได้นะครับ อยู่ยงคงกระพันมาก555

แล้วก็สอนมาจะ30ปี แล้ว อ.เต๊ะ นี่ไม่เคยดุ นศ.เลยนะครับ อันนั้นเป็นหน้าที่ พ่อแม่ ไม่ก้าวก่ายกัน ส่วนใหญ่บรรยากาศการสอนจะออกแนวเฮฮาซะแยะครับ555



โดย: multiple วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:18:59:31 น.  

 
คิดว่าบล็อกที่แล้ว นี่ปฏิรูปการศึกษาต่อกันสองบล็อกเลยรึ??
รมต. แต่ละคนยุคนี้ ดูแต่งตั้งมาเน้นสร้างคนที่เชื่อฟัง+กำจัดคนที่เห็นต่างกับรัฐบาลมากกว่าทำหน้าที่จริงะซะอีกครับ
อย่างกระทรวงดิจิตัลก็เน้นบล็อกเว็บ
กระทรวงวัฒนธรรมเน้นบิดเบือนประวัติศาสตร์
กระทรวงศึกษาเน้นยัดเยียดแบบเรียนคุณธรรมและประวัติศาสตร์ปลอมๆ

เด็กชอบไปเรียนพิเศษมากกว่าเรียนปกติ ครูบางคนยังเอาข้อสอบไปสอนตอนสอนพิเศษ ให้เด็กเอาตังค์มาจ่ายอีก
เหมือนอะไรที่ไม่บังคับ ต้องพยายามทำให้มันดีกว่าของปกติ เพื่อให้เด็กยอมจ่าย
ตอนทำงานก็ไม่พ้นวงจรนี้เลยครับ พวกคอร์สที่พนักงานเลือกเข้าได้เอง แต่ละอันคอนเท้นต์ดีมากๆ
แต่ไอ้พวกหลักสูตรที่กฎหมายบังคับแล้วมันมีอยู่ไม่กี่สถาบันที่ได้รับอนุญาตให้สอนอย่างกฎความปลอดภัยเนี่ย คุณภาพต่ำตม

2-3 ปีก่อนซื้อการ์ตูนออนไลน์จนกล่องเต็มบ้านเลยครับ แต่คิดถึงบรรยากาศคุ้ยกองการ์ตูนเก่าแบบที่จตุจักร เลยอยากไปร้านหนังสือ
ยิ่งต่างถิ่นก็คิดว่าน่าจะมีหนังสือที่หาไม่เจอใน กทม. เยอะเหมือนกัน เดี๋ยวรอบหน้าไปร้านการ์ตูนที๋โคราชมั่ง


โดย: ชีริว วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:22:23:25 น.  

 
ถ้าเอาเฉพาะตัวผมนะ
ตอน ม.ปลาย ไม่มีปัญหาเรื่องไม่อยากไปโรงเรียนเลยครับ
(แถมไม่ค่อยชอบเรียนพิเศษอีกต่างหาก)
วันธรรมดาผมเล่นบาสทุกวัน
ขนาดวันหยุดหรือตอนปิดเทอม เพื่อน ๆ ยังนัดกันมาเล่นเลยครับ
แต่ก็นั่นแหละครับ เพราะว่าที่โรงเรียนผมมีกิจกรรมให้ทำ
ถ้าไม่ได้ไปโรงเรียนคงเหงาแย่เลย ^^

เอ๊ะ! ที่พูดนี่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเรียนเล้ยยยย 55
อย่างที่เคยบอกไว้ครับ ผมน่าจะเป็นคนที่โชคดี
ที่ไม่ค่อยมีปัญหากับอาจารย์หรือกับการเรียนด้วยแหละ (ถ้ามีก็น้อยมาก)
ไม่อยากเขียนแทนคนอื่น เลยไม่รู้จะเขียนอะไรน่ะครับ ^^"


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:23:52:52 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:5:37:17 น.  

 
สมัยเป็นนักเรียนอยู่ต่างจังหวัด เรียนพิเศษที่บ้านครูค่ะ
บ้านครูฟิสิกส์ห้องเล็กๆ นั่งกันเต็มพิกัด เรียนหลังเลิกเรียน
บ้านครูภาษาอังกฤษเรียนวันหยุด
นั่งล้อมวงบนโต๊ะยาวใต้ถุนบ้านรวมๆกันหลายระดับชั้น
โดยครูสอนแบบตัวต่อตัว
จริงๆเรียนในโรงเรียนก็น่าจะเพียงพอแล้ว
แต่นั่นแหละค่ะ คำว่าเรียนพิเศษก็เหมือนได้อะไรที่พิเศษขึ้นนอกจากที่เรียนในชั้นเรียน

บรรยากาศความเป็นกันเองเปรียบเทียบกับที่โรงเรียนแล้วอาจดีกว่าหน่อย
แต่ยังไม่ถึงกับพูดเล่นอะไรออกแนวเกรงกลัวครูอยู่ค่ะ
สมัยนี้ดูเด็กๆโดยเฉพาะบางกลุ่มกล้าแสดงออกทางความคิดและการกระทำมากกว่าเยอะ
เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดค่ะ





โดย: Sweet_pills วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:7:11:55 น.  

 
เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 
สวัสดีครับ


จากบล็อก - ผมอยู่อำเภอไม่ใหญ่ จนท.รัฐ มีค่อนข้างน้อย อยู่กลุ่มหน้าที่เสี่ยงก็เลยได้ฉีดเร็ว ครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:7:44:23 น.  

 
จากบล๊อก
ถ้าจะซื้อโมเดล ผมจะไปที่Yodobashi Akibaครับ แต่ผมคิดนานนะ 5555555 บรรยากาศที่นั่นได้อารมณ์มากกว่าครับ คนญี่ปุ่นเดินดูโมเดลนี่ บรรยากาศอาร์ตูนมาก

ผมเลยเดินหนักๆ นี่ 28000 ก้าว คุณพระ!!!! กลับห้องไปนอนยกขาพาดเตียงนี่ ขาหายไปเลย
จริงครับ ถ้าเดินได้ หมื่นก้าวนี่แสดงว่าใช้ทางเท้าเยอะมากจริงๆ ถ้าวันนึงนั่งทำงานออฟฟิศผมเดินแค่ 3-4 พันก้าวเอง ถ้าออกกำลังกายคือประมาณ 8000 ก้าวครับ ถ้าออกไซต์พร้อมออกไปวิ่งก็ได้หมื่นนี่แหละครับ

โอซาก้าหรอครับ....ผมไปกินปลาดิบ 55555555555 แต่ผมชอบโอซาก้ามากเลยครับ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:16:13:41 น.  

 
ได้ยินว่าที่ครูสอนในชั้นเรียนเหมือนกั๊กไว้เพื่อให้เด็กไปเรียนพิเศษด้วยค่ะ อาจจะมีส่วนจริงอยู่บ้าง
อึ้งค่ะกับข่าวให้แต่งชุดนักเรียนนั่งเรียนออนไลน์ที่บ้าน คอมเม้นท์ต่อไม่ถูกเลย


โดย: เนินน้ำ วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:19:26:41 น.  

 
นี่เดือนหน้าเห็นบอกว่า
จะเปิดภูเก็ตก่อน
ให้นักท่องเที่ยวแสนห้าหมื่นคนเข้าประเทศ
พี่ก๋าลุ้นอยู่ครับ
ว่าทำแล้วจะเป็นยังไงบ้าง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:21:06:31 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะคะ
ก่อนบ้านที่ต่างจว. ปลูกมะม่วงอกร่องมาก เป็นร้อยๆต้น แต่ตอนนี้ห่างหายไปหมด เพราะไม่มีคนดูแล พอมีมะม่วงน้ำดอกไม้บ้าง แต่ลูกก็ไม่งาม
ตกลง สวนมะม่วงกลายเป็นถนน เป็นสวนมะพร้าว มะม่วงทีปลูก ก็ไม่งาม ต้องซื้อกิน แต่ก็อยากกลับมาซื้อกิน มะม่วงบ้านเรามีนาๆชนิดอร่อยๆทั้งนั้นเลย


โดย: newyorknurse วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:0:26:07 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องต่อ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:6:17:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ซีให้ครูที่เป็น นักศึกษาแพทย์มาสอนที่บ้าน คุยกันรู้เรื่องวัยรุ่น


โดย: kae+aoe วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:8:36:55 น.  

 
จากบล๊อก
ได้คำแนะนำจากเซียนโมเดลแบบนี้ ไว้อนาคตอันไกลแน่นอน555555 จะไปตามรอยครับ

ผมก็ชอบเดินเก็บบรรยากาศ ตังไม่ค่อยจะมี เดินสูดอากาศไปก่อนครับ 55555

28000ก้าวของผม ขาหายไปเลยครับ



โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:16:28:17 น.  

 
ถ่ายภาพสัตว์
พี่ก๋าก็อยากลองนะครับ
แต่อาจต้องซื้อเลนส์ใหม่
ซึ่งตอนนี้ไม่มีตังค์เลย 5555





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:17:37:10 น.  

 
@ไวน์กับสายน้ำ
ปัญหาน่าจะเกิดจากสองอย่างนี้ 1.ครูที่เก่งใช่จะสอนเก่ง 2.ครูกั๊กวิชาไว้เพื่อให้นักเรียนมาเรียนพิเศษกับตน เป็นการหารายได้เสริม


@ตะลีกีปัส
ครูที่ดีควรเป็นแบบนั้นครับ สอนอย่างเต็มที่ในชั้นไม่ใช่กั๊กวิชาเพื่อให้นักเรียนไปเรียนพิเศษกับตัวเอง หายากมากนะครับครูแบบนั้นในยุคนี้


@multiple
บรรยากาศการสอนเฮฮาเป็นกันเองช่วยในเรื่องความสัมพันธ์ได้ระดับหนึ่งเลยล่ะครับ คนเราเรียนรู้อะไรตอนที่สมองเครียดๆ ได้ยากน้อ


@ชีริว
รมต.ศธ ยุคนี้ไม่ไหวจริงๆ ครับ ผมขำสุดก็หนังสือเรียนที่พูดถึงสุดยอดผู้นำ ยกหางกันเต็มที่


@ทุเรียนกวน ป่วนรัก
ถือเป็นเรื่องดีที่ไม่เจอเรื่องไม่ดีครับ ปัญหาใต้พรมของประเทศไทยเราเยอะมาก ในส่วนของการศึกษาจิ้มตรงไหน เน่าตรงนั้นเลย ชุดนักเรียนเรียนออนไลน์อย่างงี้ เคารพธงชาติถ่ายภาพส่งอย่างงี้

@Sweet_pills
เอาเข้าจริงด้วยวัยวุฒิที่ต่างกันนักเรียนก็เกรงครูเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ ครูบางคนบอกว่าไม่มีไม้เด็กมันไม่กลัว ก็แล้วทำไมต้องให้เด็กมันกลัวล่ะ? ความกลัวทำให้เสื่อมนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:18:10:40 น.  

 
แม่เราเออรี่ออกจากการเป็นครูมา
เพราะระบอบการศึกษาเมืองไทยนี่ล่ะ
ช่วงนั้นมีแต่คนทำผลงาน นั่นนี่เพื่อเพิ่มเงินเดือน
มีแม่เราบ้าสอนอยู่คนเดียว จนถึงขั้นที่
ผอ. สั่งให้ครูไม่ต้องสอนเพื่อไปช่วยทำผลงานให้ตัวเอง

แน่นอนว่าแม่เราไม่ทำ 555+
แต่... ไม้ซีกงัดไม้ซุงไม่ได้อยู๋ดี
พอมีให้เออรี่ได้ แม่เราออกรอบแรกเลย
เพราะงั้น... เงินบำนาญนางเลยน้อยนิดไง

ถ้าถามเรา เราว่าบร้าาาา
ถ้าไม่เอารี่ป่านนี้รวยแล้ว
แต่นะ.. ตอนนั้นคือ เราไงก็ได้
คือแล้วแต่เค้าเลย เพราะลูกก็ทำงาน
หาเงินเองได้แล้ว เอาที่เค้าสบายใจดีกว่า

จากบล็อก..
เมืองไทยร้อนมากกก แต่วันนี้เราซักผ้า
ฝนดันตกเฉยเลย นี่เรายังกินน้ำไม่ถึงเป้าเลย
คุณต่อกินน้ำเก่งมาก

ส่วนเรื่องเสื้อหลวมอ่ะหรอ คนน่าจะยัง
ดูไม่ออกเท่าไรหรอก คนอ้วนๆ อ่ะ
ต้องลดอย่างต่ำสิบห้าโล คนถึงจะมองออก

ตอนนี้เรื่องน้ำหนักชช่างมัน โฟกัสเรื่องน้ำตาล
กับความดันมาก่อนแหละ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:18:16:27 น.  

 
ขอบใจจ้าคุณต่อ
เรื่องที่บอกไม่เคยได้ยินนะ



โดย: หอมกร วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:20:06:16 น.  

 
@nonnoiGiwGiw
เรื่องผลงาน ทำเรื่องเสนอผมเห้นครูบ่นกันเยอะนะครับ ในชีวิตจริงโดนครูขโมยโครงงานไปใช้ยังเคยเลย แย่นะครับในส่วนนี้ต้องแก้ไขโดยด่วนเลย



ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาแสดงความคิดเห็นพูดคุยนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 มิถุนายน 2564 เวลา:0:02:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

BlogGang Popular Award#20


 
toor36
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




"สิ่งที่ได้มาด้วยวิธีการที่ผิด ย่อมไร้ซึ่งความหมาย"

-:-UPDATE-:-
30 พ.ย. 2567 - ตะพาบคลานแล้ววววว
/人◕ ‿‿ ◕人\


บล็อกก่อนบล็อกนี้
- รวมหนังสือการ์ตูนที่ดองไว้ยังไม่ได้อ่าน ปี 2024
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 364 "พักผ่อน"

- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 363 "คำตอบสุดท้าย"
- ความจริง 8 ประการ 八个真相
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 362 "ตัวละครลึกลับ"
- หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 361 "บล็อกแรกที่เขียน"


- ภูมิปัญญาแห่งชีวิต 处世智慧
- หากวันหนึ่งอยู่ๆ คุณก็รวยขึ้นมา 假如有一天你突然有钱了
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 360 "สองมาตรฐาน"
- การโกรธกลับแบบอีคิวสูง 高情商的怒回去
- ว่าด้วยเรื่องความตาย (死)
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 359 "รอยยิ้มที่ไม่มีวันลืม"

- แผนในใจ 心计
- คนซื่อตรงจะเปลี่ยนเป็นคนที่เก่งกาจได้อย่างไร? 老实人怎么变得厉害呢?
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 358 "เขียนใหม่อีกครั้ง"
- คุณแม่ในการ์ตูน VII
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 357 "บินเดี่ยว"

- รอคิดหัวข้อ IV
- คนที่รังแกคุณ 欺负你的人
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 356 "จุดจบของการเริ่มต้น"
- เพลง "Melodies of Life"
- ไม่อยากบอก ไม่อยากบอกกับคุณ 不想说 不想跟你说
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 355 "3 in 1"



- บนรถเมล์ 公交车上
- พาไปชม SPY × FAMILY POP UP STORE THAILAND
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 354 "โลกออนไลน์"
- ภาพยนตร์สารคดี "Breaking the Cycle"
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 353 "เปิดประตูผิดบาน"
- โรงเรียนประถมสมัยก่อน สอนบ้าอะไรกันวะ ครูมันเป็นอะไรกัน

- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 352 "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ"
- ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.22 โทรศัพท์มือถือ
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 351 "ตัวประหลาด"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (2)

- การนับเวลาแบบในหนังจีน
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 350 "คำมั่นสัญญา"
- งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349 "วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ"
- ผลประกอบการในช่วง 1,000 Blog ที่ผ่านมา


- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก"
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 347 "ติดเป็นนิสัย"
- ไดอารี่ได้ศัพท์ Ep.21 ซื้อของขวัญหารกัน

- 个 เก้อไม่ได้ใช้ได้ทุกที่
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 346 "เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก"
- ดื่มเหล้า เมาสุรา
- [Nendoroid Story] ต้อนรับปีมังกร กับเมดมังกร
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 345 "ไฟแรง"
- คำถามที่ยากจะตอบ

- โลกของ Bloggang XVII - ความเปลี่ยนแปลง
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 344 "ไม่เคยพอ"
- ควบคุม 控制
- อาจารย์ในการ์ตูน IV
- ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 343 "ไม่กิน"
- [รีวิวสั้น] การ์ตูนที่ได้ดูในช่วงระหว่างปี 2023 (1)



ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง ดาบนี้คืนสนอง


天生我材必有用,千金散尽还复来

เริ่มนับ 08/07/2010
Free counters!



BNCt9S.jpeg
Agnes Tachyon Y1105Misaki Shokuhou Y1104
Chino Y1103Miku Y1102
Kitasan black Y1003Satono Diamond Y1004
Shoko Y1002Fudo Yusei Y0806







New Comments
Friends' blogs
[Add toor36's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.