|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
วันเอดส์โลกกับซากทารก และวัฒนธรรมไทย
คำเตือน เนื้อหาใน Blog นี้ ประกอบด้วยคำหยาบเล็กน้อย และรุนแรงต่อความรู้สึก
เมื่อวานวันที่ 1 ธันวาคมเป็นวันเอดส์โลก (World AIDS Day) ผู้เขียนเขียนบทความนี้ขึ้นมาด้วยความรู้สึกหดหู่ใจกับโรคร้ายที่คร่าชีวิตชาวไทย และคนทั่วโลกเป็นจำนวนหลายล้านคนต่อปี
ผู้เขียนมีโอกาสรับชมโฆษณาเรื่องการป้องกันโรคเอดส์ ตัวโฆษณากล่าวถึงการป้องกันโรคเอดส์ด้วยการใช้ถุงยางอนามัย โดยกล่าวว่าหากใช้ถุงยางอนามัยจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยในประเด็นเรื่องการป้องกันโรค แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่า "นี่เป็นการแก้ปัญญาที่ปลายเหตุเท่านั้น"
ต้นเหตุของปัญหา คือ วัฒนธรรมไทยที่ถูกมองข้าม การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร คิดว่าเซ็กส์คือรัก อยากรักสนุก โดยที่ไม่มีการป้องกัน สุดท้ายก็ต้องมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าให้พ่อแม่ตนต้องมานั่งช้ำใจ
วัฒนธรรมที่ดีงามของไทย กำลังถูกมองข้ามไป วัฒนธรรมที่สอนให้รู้จักรักตนสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าอยู่สองต่อสองในที่รโหฐาน ถ้าคนไทยปฏิบัติได้อย่างที่สอนไว้แต่โบราณ จะเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน และมั่นคง ความเสี่ยงต่อโรคเอดส์ ปัญหาการทำแท้ง และตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จะลดลงได้อย่างเห็นได้ชัด เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูง
ปัญหาดาราท้องไม่มีพ่อแล้วออกมาร้องไห้ เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะไม่รักตนสงวนตัวหรอกหรือ? ปัญหาทำแท้งเถื่อนซากทารกกว่าสองพันศพ ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ไม่ใช่เพราะไม่รักตนสงวนตัวหรอกหรือ? ปัญหาเรียนหนังสือยังไม่จบแต่ท้องป่อง โดนไล่ออกจากโรงเรียนจนหมดอนาคต เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะไม่รักตนสงวนตัวหรอกหรือ?
ผู้เขียนไม่รู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินข่าวซากทารกกว่าสองพันศพ แต่กลับรู้สึกอนาจใจเสียมากกว่า เมื่อสังคมมันเน่าเฟะขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่จะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น การศึกษาสมัยใหม่ไม่ได้ช่วยให้คนมีจิตสำนึกได้เลย สังคมที่แหลกเหลวมักง่ายเห็นแก่ได้ อะไรคือรักสนุกแต่ไม่อยากผูกพัน ผู้เขียนฟังเพลงที่มีประโยคดังกล่าวแล้วรู้สึกไม่ดี คำถามก็คือ ท่านรับกับสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่?
"ล่าแต้ม" ผู้เขียนความจำไม่ดีนัก จึงไม่แน่ใจเรื่องช่วงเวลาว่าเป็นข่าวที่ผ่านมานานเท่าไรแล้ว มีข่าวนักเรียนหญิงล่าแต้ม อธิบายความได้ว่า เคยนอนกับผู้ชายมาแล้วกี่คน แล้วจนสถิติไว้เอามาอวดแข่งกันกับเพื่อนว่า "ตนเองแน่แค่ไหน" (สำส่อนเพียงใด) จากกรณีดังกล่าวถ้าหากหนึ่งในผู้ชายที่เธอนอนด้วยเป็นเอดส์ เธอก็ติดเชื้อเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นตัวแพร่เชื้ออีกด้วย และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตั้งครรภ์ ก็ในเมื่อแข่งขันกันล่าแต้มขนาดนี้ เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมาจะทำอย่างไร มีอยู่ทางเดียว ... ...
ล่าสุดมีความพยายามออกกฎหมายให้นักเรียนที่ท้องในวัยเรียน สามารถลาคลอดได้ จะได้ไม่โดนไล่ออกหมดอนาคต ผู้เขียนมองว่าเราเปิดโอกาสให้มากเกินไปรึเปล่า? นี่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างเห็นได้ชัด ถามว่านักเรียนที่มีเพศสัมพันธ์กันทราบหรือไม่ว่า หากท้องจะส่งผลกระทบอาจถึงขั้นโดนไล่ออก หากทราบจะทำไปทำไม? ทำไมไม่ป้องกัน?
เท่านั้นยังไม่พอจะให้ออกกฎหมายเอาผิดกับผู้ชายที่ทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ สังคมไทยยังไม่เข็ดเรื่องดีเอ็นเออีกหรือ? หรือเพราะไม่ใช่ดาราเลยไม่รู้สึกอะไร แล้วถามว่ากฎหมายข้อนี้ทำให้ลดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้หรือไม่? คำถามนี้ผมคงไม่จำเป็นต้องตอบ ทุกคนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ยิ่งถ้ากฎหมายทั้งสองผ่านและมีผลบังคับใช้ ประเทศเราจะมีคุณพ่อคุณแม่วัยใสอีกเพียบ
หลายคนอาจมองว่าผู้เขียนหัวโบราณ ไม่ทันโลก พรหมจรรย์ทำไมต้องรักษา ก็แค่เส้นบางๆ จะรักษาไปเพื่ออะไร ในเมื่อผู้ชายยังเที่ยวซ่องโสเภณี ไล่ปี้ผู้หญิงไปทั่ว ก็ต้องถามกลับว่า คุณคิดว่าผู้ชายเหล่านั้นไม่ดีใช่หรือไม่? แล้วผู้หญิงต้องเลวตามหรืออย่างไร? เหมือนสิทธิสตรีเรื่องกินเหล้า สูบบุหรี่ ในเมื่อรู้ว่ามันไม่ดีก็ไม่ควรทำมิใช่หรือ? ผู้เขียนมีความเชื่อว่าเวลาสอนลูก ผู้อ่านคงสอนลูกให้ "รักตนสงวนตัว" มากกว่าที่จะสอนลูกให้ "ไปเสียตัว" อย่างแน่นอน
ประเทศไทยมีสิ่งดีงามมากมาย วัฒนธรรมไทยที่ดีงามกำลังถูกมองข้ามด้วยการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมจึงไม่มีความคิดที่จะการปลูกฝังเรื่องการรักตนสงวนตัวให้มากขึ้น ทำไมผู้ชายจึงไม่มีความยับยั้งชั่งใจมากขึ้น ทำไมผู้หญิงถึงใจง่ายมากขึ้น ทำไมจึงชอบอ้างตนว่าเป็นเมืองพุทธผู้คนอยู่ในศีลธรรม ทำไมจึงดูถูกวัฒนธรรมไทยว่าล้าหลังกว่าวัฒนธรรมฝรั่ง
มาถึงวันนี้สังคมต้องช่วยกันคิด และนำไปปฏิบัติร่วมกันไม่ใช่ปากว่าตาขยิบ มีเรื่องทีหนึ่งก็ออกมาแก้ไขทีหนึ่งเหมือนผักชีโรยหน้า เรามีวัฒนธรรมที่ดีงามมาแต่อดีต ทำไมไม่นำมาใช้ หรือเราเห็นวัฒนธรรมตะวันตกดีกว่าของไทย วัฒนธรรมแลกคู่นอนไม่ต่างอะไรกับสัตว์สมสู่ ถ้าคนไทยมากกว่า 50% นิยมชมชอบวัฒนธรรมสลับคู่กันปี้ แลกกันเย็ด รักสนุกแต่ไม่อยากผูกพัน แบบชาติตะวันตกแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็ไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์อีกแล้ว
Create Date : 02 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 2 ธันวาคม 2553 10:20:08 น. |
|
39 comments
|
Counter : 2354 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:11:36:41 น. |
|
|
|
โดย: ter_pt วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:12:06:14 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:12:59:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:13:02:19 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:17:02:57 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:19:50:58 น. |
|
|
|
โดย: athena_b วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:21:31:33 น. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:22:21:25 น. |
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:22:42:58 น. |
|
|
|
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:1:51:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:7:04:24 น. |
|
|
|
โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:10:35:16 น. |
|
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:11:36:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:12:32:39 น. |
|
|
|
โดย: Junenaka1 วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:13:13:28 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:14:06:02 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:5:57:37 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:11:35:49 น. |
|
|
|
โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:14:29:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:16:42:16 น. |
|
|
|
โดย: SongPee วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:18:57:58 น. |
|
|
|
โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:20:59:30 น. |
|
|
|
โดย: Li Shana วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:21:30:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:0:02:22 น. |
|
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:4:26:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:5:17:09 น. |
|
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:10:50:35 น. |
|
|
|
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:13:47:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:14:57:18 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:17:45:00 น. |
|
|
|
โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:0:02:23 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:21:04:53 น. |
|
|
|
โดย: ผู้เขียน (toor36 ) วันที่: 22 ธันวาคม 2553 เวลา:0:32:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|
^ ^'
เด๋วนี้เค้าไม่สอนให้รักนวลสงวนตัวกันแล้ว(ต้นเหตุ) แต่สอนให้ระวังปลายเหตุอย่างที่คุณต่อว่าจริงๆ แหละ เหมือนเป็นการตบหน้าสังคมไทยที่ยอมรับสภาพความพ่ายแพ้ต่อสังคมที่แย่ลงนั่นเองค่ะ
ฉัตรเองชินแล้วกับระบบวัวหายแล้วล้อมคอก
มีเรื่องทีนึงก็ไล่แก้กฏหมายกันทีนึง สักพักก้อเงียบหายไป เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
ถามว่า่ปัญหาการทำแท้งมีมานานหรือยัง ...ทุกคนรู้ดี ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น และก็มีกฏหมายห้ามกันเด็ดขาดอยู่แล้ว มันอยู่ที่การปฏิบัติอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมากกว่า
เราวจะเอาอะไรกับระบบราชการห่วยๆ ที่นับวันจะถอยหลังลงทะเล จมลึกมากขึ้นๆ ทุกที...
ยุคสมัยนี้คือกลียุคนิคะคุณต่อ
ดังพุทธทำนายของพระพุทธองค์
(ฉัตรขออนุญาตยกมาทั้งกระบิเลยนะคะ อาจยาวไปหน่อย ต้องขออภัยด้วยค่ะ)
.........................
พระเจ้าปเสนทิโกศล
ทรงสุบินนิมิตเห็นต้นไม้นานาชนิด ยังไม่ใหญ่โตพอที่จะมีดอกมีผล
แต่ต้นไม้นั้นเต็มไปด้วยดอกและผล จนกิ่งก้านสาขาจะรอรับดอกผลนั้นไม่ไหว
สุบินนิมิตข้อที่ 2 : เยาวชนมั่วสุมเสพกาม
พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น
กุมารีที่มีวัยยังไม่สมควรจะมีสามี แต่กุมารีนั้นอยากแต่งงานให้เป็นครอบครัว
เพราะมีความกระสัน ใฝ่ฝันในราคะตัณหา ใจมีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีใน
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอย่างมาก
มีความอยากในกามารมณ์แห่งความรักความใคร่
จึงได้แต่งงานกันเมื่ออายุยังวัยเด็ก ถูกต้องตามประเพณีนิยม บางคนมั่วสุมกัน
ไม่มีความละอาย เยี่ยงสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา
ก็หาวิธีฆ่าลูกในท้องของตัวเอง จึงเป็นบาปกรรมต่อไปในภายภาคหน้ายิ่งนัก
เด็กบางคน ยังมีพ่อแม่เลี้ยงดูอยู่บ้าง เด็กบางคนพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ไหว
จึงได้ปล่อยปละละเลยให้หาขอทานกินตามลำพัง เป็นเด็กเร่ร่อนจรจัด ไม่มีพ่อแม่
ไม่มีตระกูล ไม่มีการศึกษา ไม่มีที่พึ่งพาอาศัยในบ้านเรือน
ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น อดบ้าง อิ่มบ้าง น่าเวทนายิ่งนัก เหตุการณ์อย่างนี้
จะมีในภายภาคหน้าโน้นใครได้ไปเกิดในยุคนั้น สมัยนั้น
ก็จะต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้แล