ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ: กองทัพเรือไทยทำพิธีปล่อยเรือพ.ลงน้ำ
ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือปฏิบัติการความเร็วสูง ลงน้ำ และพิธีวางกระดูกงูเรือ ส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก Tuesday, 3 March 2009 15:57 -- ทั่วไป กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
วันนี้ (๓ มีนาคม ๒๕๕๒) เวลา ๐๗.๕๐ น. พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีปล่อยเรือปฏิบัติการความเร็วสูงลงน้ำ โดยมี คุณดวงพร พุ่มหิรัญ ภริยา ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ ฯ จำนวน ๔ ลำ ณ อู่ต่อเรือ บริษัท มาร์ซัน จำกัด ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
จากนั้น เวลา ๐๘.๓๙ น. ผู้บัญชาการทหารเรือ ประกอบพิธีวางกระดูกงูเรือส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก จำนวน ๒ ลำ ณ อู่ต่อเรือ บริษัท มาร์ซัน ฯ
กองทัพเรือ ได้จัดหาเรือปฏิบัติการความเร็วสูงสำหรับหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน ๔ ลำ ประกอบด้วย เรือ พ.๕๑ พ.๕๒ พ.๕๓ และ พ.๕๔ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการต่อต้านการ ก่อการร้าย ปราบปรามการกระทำเยี่ยงโจรสลัด ปฏิบัติการสงครามพิเศษทางเรือ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปราบปราม ยาเสพติด รวมทั้งปฏิบัติภารกิจพิเศษอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย อันนับเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของกองทัพเรือ และจัดหาเรือส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก จำนวน ๒ ลำ ทดแทนเรือระบายพลขนาดใหญ่ ชุดเรือหลวงมัตโพน เพื่อรองรับภารกิจสนับสนุนการลำเลียงยุทโธปกรณ์และเครื่องอุปโภคบริโภคทางทะเล ช่วยเหลือ ประชาชนตามแนวชายฝั่งที่ประสบภัยพิบัติ รวมทั้งสนับสนุนการฝึกปฏิบัติงานของหน่วยต่าง ๆ โดยได้มอบให้ บริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ดำเนินการต่อเรือ
สำหรับคุณลักษณะที่สำคัญของเรือปฏิบัติการความเร็วสูง คือ มีความยาวตลอดลำ ๑๘ เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดต่อเนื่องไม่น้อยกว่า ๔๒ นอต ขณะบรรทุกกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์เต็มที่มีระยะปฏิบัติการที่ความเร็วมัธยัสถ์ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า ๓๗๐ ไมล์ทะเล นอกจากนั้น ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือมีความคล่องตัวสูง สามารถหยุดตัวเรือได้อย่างรวดเร็ว และกินน้ำตื้น สามารถปฏิบัติงานใกล้ชายฝั่งได้เป็นอย่างดี
ส่วนคุณลักษณะที่สำคัญของเรือส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก คือ มีความยาวตลอดลำ ๕๕ เมตร กว้าง ๑๑ เมตร กินน้ำลึก ๑.๕ เมตร ความเร็วสูงสุดต่อเนื่องไม่น้อยกว่า ๑๒ นอต ที่ระวางขับน้ำเต็มที่มีระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า ๑,๕๐๐ ไมล์ทะเลด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า ๑๐ นอต ที่ระวางขับน้ำเต็มที่และรับน้ำหนักบรรทุกได้ไม่น้อยกว่า ๑๔๕ ตัน (รถถัง แบบ M 60 จำนวน ๒ คัน หรือ รถฮัมวี่ จำนวน ๑๒ คัน) โดยมีแรมป์ขนถ่ายยุทโธปกรณ์บริเวณหัวเรือและท้ายเรือ
กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐-๒๔๗๕-๕๗๓๓,๐-๒๔๖๕-๓๐๑๘, ๐ ๒๔๗๕ ๕๑๘๔ แฟกซ์ ๐-๒๔๗๕-๕๗๓๒ ,๐-๒๔๖๖-๑๘๑๑
//www.navy.mi.th/sctr/navynews/2552/mar/nvn030352.php
พูดได้เลยว่าช่วงนี้กองทัพเรือต่อเรือกันอุตลุตมาก ๆ ครับ
...... หลังจากที่กองทัพเรือปลอยเรือหลวงพฤหัสบดีซึ่งเป็นเรือสำรวจทางอุทกศาสตร์ฝีมืออู่ยูนิไทยลงน้ำเมื่อวันวาเลนไทน์ปี 51 และปล่อยเรือลากจูงที่เพิ่งต่อเสร็จไปที่อู่มหิดลได้ไม่กี่วัน ...... วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นฤกษ์งามยามดี ได้ฤกษ์ในการปล่อยเรือ พ. ทั้งสี่ลำของกองทัพเรือลงน้ำอีกแล้วครับ
เรือพ.คืออะไร? ..... ไม่ใช่เรือพุงนะครับ แต่มันเป็นเรือปฏิบัติการพิเศษครับ .... โดยผู้ใช้คือหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติการของหน่วยสงครามพิเศษทางเรือได้หลากหลายภารกิจตามที่ข่าวว่ามาครับ เรือทั้ง 4 ลำมีชื่อเรียงตามลำดับว่า เรือพ.51, พ.52, พ.53, พ.54 ครับ ถือเป็นเรือปฏิบัติการพิเศษชุดแรกของกองทัพเรือไทยครับ ต่อไปหน่วยซีลของไทยก็จะได้นั่งเรือสบาย ๆ เร็ว ๆ กันเสียทีครับ จะไปขึ้นฝั่งที่ไหน ก็มีเรือส่วนตัวไปรับไปส่ง (ถ้าได้กลับมานะ ^ ^)
พิธีปล่อยเรือลงน้ำ ณ อู่ต่อเรือของบริษัท มาร์ชัน จำกัดครับ โดยท่านภริยาของผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้ทำพิธี ตามประเพณีของชาวเรือที่ต้องให้สุภาพสตรีเป็นผู้ทำพิธีครับ
อันนี้ภาพร่างแบบแผนของเรือครับ ขอบคุณคุณอู๊ด ณ thaifighterclub.org ครับ
อีกภาพนึงครับ ขอบคุณคุณ somyhi ณ thaimsot.com ครับ
ภาพเรือตอนแล่นทดสอบครับ
อู่มาร์ชันเคยได้รับงานในการต่อเรือ ต.992 และ ต.993 ซึ่งเป็นเรือตรวจการณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกแบบด้วยพระองค์เอง ช่วงก่อนที่อู่มาร์ชันจะต่อเรือทั้งสองลำนั้นมีกลุ่ม NGO ตั้งข้อสงสัยถึงความโปร่งใสและความสามารถของอู่มาร์ชันว่าจะสามารถต่อเรือออกมาได้ตามกำหนดหรือไม่ แต่กองทัพเรือก็ชี้แจงจนทุกฝ่ายรอดตัวไป มาวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ปล่อยเรือพ.ทั้ง 4 ลำ ก็คงเป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถของอู่ไทยได้เป็นอย่างดีครับ
ภาพ VDO ของกองทัพเรือ เมื่อครั้งเรือพ.แล่นทดสอบครับ
นอกจากนั้นในวันเดียวกัน กองทัพเรือยังประกอบพิธีวางกระดูกงูเรือของเรือส่งกำลังบำรุงขนาดเล็ก (Landing Craft Unit:LCU) ชุดใหม่ของกองทัพเรือไทยทั้งสองลำครับ เรือที่จะต่อมีความยาว 55 เมตร กว้าง 11 เมตร กินน้ำลึก 1.5 เมตร มีระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 1,500 ไมล์ทะเลด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 10 นอต บรรทุกน้ำหนักได้ไม่ต่ำกว่า 145 ตัน หรือคิดเป็นรถถัง M60 จำนวน 2 คัน หรือรถฮัมวี่จำนวน 12 คัน เรือมีประตูที่หัวเรือและท้ายเรือซึ่งสามารถเปิดออกได้เพื่อขนถ่ายสัมภาระครับ
เรือที่กำลังต่อใหม่อยู่นี้จะมาแทนเรือชุดเรือหลวงมัตโพน ซึ่งเป็นเรือระบายพลขนาดใหญ่ครับ
เรือชุดเรือหลวงมัตโพนเป็นเรือระบายพลขนาดใหญ่ซึ่งกองทัพเรือไทยได้รับมอบมาจากสหรัฐอเมริกาตามโครงการช่วยเหลือทางการทหารในช่วงปี พ.ศ. 2489 - 2491 ครับ โดยเรือในชุดนี้มีทั้งหมด 6 ลำนั่นคือ เรือหลวงมัตโพน (761), เรือหลวงราวี (762), เรือหลวงอาดัง (763), เรือหลวงเภตรา (764), เรือหลวงโกลำ (765), และเรือหลวงตาลิบง (766) ซึ่งตั้งชื่อตามเกาะต่าง ๆ ตามระเบียบการตั้งชื่อเรือหลวงของกองทัพเรือไทย โดยในปัจจุบันยังคงเหลือเรือหลวงเภตราและเรือหลวงตาลิบงที่ยังประจำการอยู่ครับ
ภาพนี้คือเรือหลวงตาลิบงครับ
เรือชุดที่ต่อใหม่จำนวน 2 ลำนี้มีมิติที่ใหญ่กว่าเรือชุดเรือหลวงมัตโพนอยู่พอสมควรครับ ยังไม่ทราบชื่อเหมือนกันว่ากองทัพเรือจะขอพระราชทานชื่อเรือลำใหม่ว่าอะไร คงต้องรอสักพักแล้วเราก็น่าจะทราบกันครับ ภาพขอขอบคุณคุณ somyhi ณ thaimsot.com ครับ
อีกภาพนึงครับ
นอกจากนั้นยังมีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่แบบเงียบ ๆ จริง ๆ ก็คือโครงการต่อเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง (Offshore Partrol Vessel: OPV) ชุดใหม่ของกองทัพเรือที่อู่มหิดลครับ โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อราวเดือนพฤศจิกายนปี 2551 ที่ผ่านมา และได้มีการลงนามจัดหาระบบอำนวยการรบและระบบตรวจการณ์จากบริษัท Theles ประเทศเนเธอแลนด์ไปแล้วครับ โดยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดใหม่จะมาทดแทนเรือฟริเกตุรุ่นสงครามโลกที่ทะยอยปลดประจำการลงไปเนื่องจากหมดอายุการใช้งาน แต่จะมีค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่าเรือรบปกติทั่วไป และสามารถติดตั้งอาวุธที่สามารถทำการรบเหมือนกับเรือฟริเกตได้เมื่อต้องการครับ
ยังไม่มีใครเห็นแบบแผนของเรือเลยครับ แต่เท่าที่ดูจากโครงการเก่าของกองทัพเรือที่เคยเขียนไว้นั้น กองทัพเรือมีความต้องการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดใหม่ทั้งหมด 4 ลำ โดยเรือจะมีระวางขับน้ำที่ราว 1,000 - 2,000 ตัน ซึ่งให้เดาก็คาดว่าคุณสมบัติส่วนใหญ่น่าจะคล้ายกับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานีครับ เพียงแต่คาดว่าไม่น่าจะมีโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์เหมือนเรือหลวงปัตตานีเท่านั้นเคย คงเหลือแต่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ครับ
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำแรกที่กำลังดำเนินการต่ออยู่ในขณะนี้ คาดว่าจะเป็นการต่อเพื่อดูผลลัพธ์และประสิทธิภาพของแบบแผนที่ได้ออกแบบเอาไว้ นอกจากนั้นน่าจะยังรองบประมาณสำหรับการต่อเรือลำต่อไปด้วยครับ โดยเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำนี้ใช้งบประมาณราว 3 พันล้านบาทในการต่อครับ ความจริงถ้ารัฐต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ เจียดเงินลงมาต่อเรือ OPV เพิ่มอีกสักลำน่าจะดีนะครับ เพราะคนไทยต่อเอง เงินมันก็หมุนอยู่แถว ๆ นี้แหละ ^ ^
นอกจากนั้นกองทัพเรือกำลังอยู่ในขั้นตอนของการปรับปรุงแบบแผนและขยายขนาดเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.991 - ต.993 และวางแผนที่จะต่อเรือ ต.994 - ต.996 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและประสิทธิภาพดีขึ้น รวมถึงยังดำเนินำการต่อเยานใต้น้ำขนาดเล็กเพื่อใช้ในการส่งกำลังพลหรือกิจการด้านพลเรือที่อู่กรุงเทพด้วยครับ
เรื่องทั้งหมดนี้จะไม่น่าสนใจเลย ถ้าไม่ใช่เป็นการต่อเรือเองของคนไทยครับ ....... ในอนาคตกองทัพเรือกำลังศึกษาเทคโนโลยีและความเป็นไปได้ในการต่อเรือฟริเกตุในประเทศไทย เพราะการต่อเรือฟริเกตุให้ได้ประสิทธิภาพดีนั้นจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ไม่แน่นะครับ เมื่อถึงเวลานั้น เรือฟริเกตุชุดใหม่ของกองทัพเรือไทยที่ทุกคนกำลังชะเง้อคอมองอยู่ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ อาจจะถูกต่อขึ้นที่อู่ในประเทศไทย และในที่สุดก็จะทำให้กองเรือในกองทัพเรือไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้เกือบจะครบถ้วนแล้วครับ
ซึ่งด้วยแนวทางการพัฒนา การปรับปรุงองค์กร การยุบเลิกและควบรวมหน่วยงานเพื่อความคล่องตัวและประหยัดงบประมาณ ประกอบกับการมีแผนงานและ roadmap ในการพัฒนาที่ชัดเจน โดยเฉพาะการพึ่งพาตนเองที่เด่นชัดที่สุดในบรรดาสามเหล่าทัพ เชื่อว่าในอนาคต เราคงเห็นอะไรดี ๆ จากกองทัพเรืออีกแน่นอนครับ
สำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
อ่านเพิ่มเติม
"กองทัพเรือ ทำพิธีปล่อยเรือหลวงพฤหัสบดีลงน้ำ ณ อู่ยูนิไทย"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=17-02-2008&group=2&gblog=65
"ต.๙๙๑ เรือรบตามพระราชดำริ...ของกองทัพเรือไทย"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=23-04-2007&group=3&gblog=50
"กองทัพเรือจัดสร้างยานใต้น้ำลำแรกของไทย"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=11-04-2008&group=2&gblog=71
"NWS980 .... โปรแกรมฝึกจำลองการรบของกองทัพเรือไทย .... "ฝีมือคนไทย" "
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=23-08-2008&group=2&gblog=91
"รู้จัก..."เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง" ลำใหม่ของกองทัพเรืออาเซียน"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=15-10-2006&group=1&gblog=8
Create Date : 07 มีนาคม 2552 |
|
21 comments |
Last Update : 7 มีนาคม 2552 1:16:38 น. |
Counter : 6754 Pageviews. |
|
|
|