Peacemaker ติดกล้อง FLIR ที่บินในงานไทยเข้มแข็ง
งานไทยเข้มแข็งที่ผ่านมาเราจะเห็นภาพที่ถ่ายจากกล้องที่ติดตั้งกับ บ.จธ.๒ (อ่านว่า บอ-จอ-ทอ-สอง นะครับผม เหอ ๆ ) หรือ AU-23A Peacemkaer ของกองทัพอากาศครับ
กล้องตัวนี้เป็นกล้อง VDO และกล้องอินฟาเรตซึ่งถ่ายภาพตอนกลางคืนได้ครับ โดยกองทัพอากาศจัดหามาติดตั้งกับ Peacemaker เมื่อช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ไม่กี่ปี และนำมาเปิดตัวในงานวันเด็กปี 2551 ที่ดอนเมืองครับ
ตัวกล้องจะติดตั้วอยู่ใต้ลำตัวของ Peacemaker ครับ ดูคล้าย ๆ R2D2 หย่อนหัวลงมา ในห้องโดยสารมีสถานีทำงานซึ่งเป็นที่นั่งของเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ปฏิบัติงานกับกล้องครับ ตัวกล้องจากการสังเกตุจากภาพที่ปรากฏในการถ่ายทอดสดแล้วพบว่าเป็นกล้องทั้งกล้องถ่ายภาพปกติ กล้องถ่ายภาพในย่านแสงน้อย และกล้องถ่ายภาพอินฟาเรตครับ ไม่แน่ใจว่ากล้องตัวนี้มีระบบเลเซอร์ชี้เป้าหรือไม่เนื่องจากในงานวันเด็กนั้นเจ้าหน้าที่ของฝูงปิดหน้ากล้องเอาไว้ (ซึ่งถูกต้องแล้วล่ะครับ)
จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ นั้น Peacemaker ซึ่งติดตั้งกล้องตัวนี้ได้ถูกนำไปใช้ในภารกิจหลาย ๆ ภารกิจครับเช่น ภารกิจการลาดตระเวนในสามจังหวัดชายแดนใต้ ภารกิจการตรวจตราความเรียบร้อยในช่วงงานพิธีต่าง ๆ เนื่องจากกล้องจาก Peacemaker นั้นมีคุณภาพภาพค่อนข้างสูงครับ
Peacemaker เป็นเครื่องบินที่มีขนาดเล็ก กินน้ำมันน้อย ต้องการการบำรุงรักษาน้อย แต่บินได้นาน ใช้ทางวิ่งขึ้นลงสั้นมาก และมีความอ่อนตัวในการทำงานค่อนข้างสูง ความจริงระบบแบบนี้นั้นดูไปแล้วได้ประโยชน์มากกว่าระบบเรือเหาะรุ่น A40D SkyDargon ของกองทัพบกที่แม้จะติดกล้องลาดตระเวนในลักษณะที่คล้าย ๆ กัน แต่ระบบเคลื่อนที่ได้ค่อนข้างช้า ดูแลรักษายาก และจุดเด่นที่ควรจะมีกับระบบแบบนี้ในการลอยอยู่บนอากาศได้นาน ๆ หลายชั่วโมงหรือหลายวันก็หมดไปจากการที่กองทัพบกเลือกใช้ระบบที่มีคนขับครับ ความจริงดูไปแล้ว จัดหา Searcher II ซึ่งเป็น UAV ขนาดกลางมาใช้ยังมีประโยชน์กว่าเรือเหาะมากครับ
AU-23A Peacemaker เกิดขึ้นจากความต้องการของกองทัพอากาศสหรัฐที่จะเพิ่มอำนาจการยิงให้กับกอง ทัพอากาศเวียดนามใต้ในภารกิจการปราบปรามผู้ก่อการร้าย โจมตีเบา และการลำเลียงทางยุทธวิธี โดยกองทัพอากาศสหรัฐได้ใช้แผนแบบของ PC-6 ซึ่งเป็นเครื่องบินอเนกประสงค์ขนาดเล็กที่ผลิตโดยบริษัท Pilatus ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยได้ทำการปรับปรุงแผนแบบจากเครื่องบินพลเรือนให้กลายเป็นเครื่องบินทาง ทหาร และมอบหมายให้บริษัท Fairchild Hiller ผลิตส่งมอบให้กองทัพอากาศสหรัฐจำนวน 35 ลำ ซึ่งแม้ว่าการทดสอบและประเมินค่าในสงครามเวียดนามนั้นจะได้ผลดีในระดับที่น่าพอ ใจ แต่ความกังวลว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัยของเวียดนามเหนืออาจจะทำ ให้ Peacemaker ประสบกับการสูญเสียอย่างหนักได้ สหรัฐจึงตัดสินใจที่จะไม่นำไปใช้ในสงครามเวียดนาม ต่อมาเมื่อกองทัพอากาศไทยเห็นว่า Peacemaker เป็นเครื่องบินที่น่าจะตอบสนองต่อภารกิจของกองทัพอากาศไทยได้ จึงได้ติดต่อร้องขอให้สหรัฐส่ง Peacemaker ให้กับกองทัพอากาศไทย ซึ่งสหรัฐก็ทำการส่งมอบเครื่องบินทั้งหมดและนำเข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย ตั้งแต่ปี 2515 เป็นต้นมา โดยกองทัพอากาศกำหนดชื่อว่า เครื่องบินโจมตีธุรการแบบที่ 2 หรือ บ.จธ.2
ในกองทัพอากาศไทย Peacemaker รับหน้าที่ในภารกิจโจมตีทางอากาศ สนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด บินคุ้มกัน บินลาดตระเวนทางอากาศ ควบคุมการโจมตีทางอากาศ ปฏิบัติการจิตวิทยา และใช้งานทั่วไป โดยในครั้งแรก Peacemaker ประจำการ ณ ฝูงบิน 22 กองบิน 2 ซึ่งต่อมาในปี 2533 กองทัพอากาศได้โอนย้าย Peacemaker จำนวน 11 เครื่องเข้ามาประจำการในฝูง 531 และโอนย้ายเครื่องทั้งหมดมาที่ฝูง 531 กองบิน 53 ในปี 2539 และเมื่อมีการปรับโครงสร้างของกองบิน 53 ให้กลายเป็นกองบิน 5 ก็มีการเปลี่ยนชื่อฝูงเป็นฝูง 501 ในปัจจุบัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา Peacemaker เข้าร่วมกับการรบหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นสมรภูมิภูหินร่องกล้า, สมรภูมิผาตั้ง, สมรภูมิผาจิ, ยุทธการบ้านชำราก ฯลฯ โดยใช้ปืนกลอากาศ M179 ขนาด 20 มม. 3 ลำกล้อง จรวดไม่นำวิถี และระเบิดในการโจมตีต่อเป้าหมาย ซึ่งจากคุณลักษณะของมันที่มีขนาดเล็กแต่สามารถใช้อาวุธร้ายแรงได้ ทำให้มันได้รับชื่อเล่นว่า Mosquito และนอกจากภารกิจการปฏิบัติการจิตวิทยาหรือการควบคุมอากาศยานหน้า (Forward Air Controller) แล้ว Peacemaker ยังทำหน้าที่เป็นตาของกองทัพอากาศ (Eyes of The Fleet) ในช่วงสงครามเย็น กองทัพอากาศใช้ Peacemaker คอยบินตรวจการเลียบแนวชายแดนสังเกตุความเคลื่อนไหวของเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-21 ของฝ่ายลาว ซึ่งเมื่อ MiG-21 บินขึ้น Peacemaker ก็จะแจ้งให้กับกองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 ขึ้นสกัดกั้นทันที และในอีกหลายภารกิจในรอบเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา
แม้ในปัจจุบัน ที่ประเทศไทยอยู่ห่างไกลจากสงครามขนาดใหญ่ไปมากแล้ว แต่ Peacemaker ก็ยังมีภารกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากการปฏิบัติภารกิจทางยุทธการในภาคใต้ของ Peacemaker ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ถ่ายภาพแล้ว Peacemaker ยังได้รับภารกิจตั้งแต่การบินลากธง การปล่อยควันสี การบินทางธุรการ ไปจนถึงการบินสำรวจ การทำฝนหลวง และการปล่อยเมล็ดพันธุ์พืช จึงทำให้แทบทุกวัน Peacemaker มีภารกิจแทบจะล้นมือ และเครื่องของฝูงก็ถูกนำไปวางกำลังตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศเสมอ ๆ
ปัจจุบันมันเป็นเครื่องบินที่ผมชอบที่สุดในฝูงของกองทัพอากาศครับ (อันนี้ความเห็นส่วนตัว เหอ ๆ
Create Date : 06 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 6 ธันวาคม 2552 8:19:49 น. |
|
8 comments
|
Counter : 7264 Pageviews. |
|
|
|