JAS-39 Gripen: Air force to finally receive early warning eyes in the sky
Air force to finally receive early warning eyes in the sky Specialised aircraft to be deployed in 2010
By Wassana Nanuam
It took a decade to fulfil its dream, but the air force is now set to equip its fleet with an airborne early warning (AEW) plane, although it will be a second-hand one. The first AEW aircraft built by Saab of Sweden will be deployed in 2010, about a year ahead of delivery of the first batch of Gripen C/D jets, according to an air force source.
The AEW plane comes as part of a 19-billion-baht aircraft procurement package, which includes six Gripen fighters, a used plane for transport and logistic support and training in Sweden for Thai pilots to get familiar with the multi-role Swedish Gripen.
Both the AEW and transport planes are the same model _ the two-engined Saab 340. They have been in operation for about 10 years, but will be refurbished before delivery to Thailand.
President and chief executive officer of Saab Ake Svansson said at the Saab manufacturing base in Linkoping in Sweden last month that Thailand will get a complete early warning system under a contract signed between Sweden and air force chief ACM Chalit Phukphasuk in February.
The AEW is an eye and ear in the sky for air force surveillance and operations. The radar on the aircraft can detect other planes and coordinate with the ground control system to direct fighters to their targets.
Although the AEW aircraft [Thailand will get] is a used one, it is still worthwhile for us to have this kind of technology. It will be a big change in the history of the Thai air force, Air Support commander Sutthirat Kasemsant na Ayutthaya said.
The air forces desire to have an AEW plane started about a decade ago. It planned to modify one of its C-130 transport planes for this purpose in 1997 and 1998 to use with the F-16 fighters and probably the F-18 fighters to be bought from the United States.
But the plan, which required about three million baht for modifications, was shelved due to budgetary problems. The dream of having F-18 jets was also shot down by Washington, which refused to sell them to Thailand.
The AEW aircraft will be the air command to link all ground and air data with pilots in the Gripen jet fighters, according to ACM Sutthirat.
It will boost the capability of the air force in finding targets in the air, ground and sea in the southern region. The Gripen fighters and the AEW plane will be stationed at Wing 7 in Surat Thani.
The air force plans to develop data links with the US-made F-16 and Gripen fighters in the future, he added.
Now the data link with the F-16 jets can only come by radio from a ground station or by pilots making decisions themselves in urgent circumstances.
An air force source said the facilities and maintenance system at the Surat Thani air base will be improved this year to prepare for the arrival of the Gripen jets.
The first three fighters will be delivered in January 2011, and another three will arrive about two months later.
They will replace the F5 B/E jets based in the southern province, which will be decommissioned in 2011.
//www.bangkokpost.com/News/25May2008_news05.php
ข่าวจาก Bangkok Post ครับ ยังไงก่อนเริ่มเรื่องขอแก้ไขข้อมูลในข่าวอันหนึ่งก่อนครับ
... But the plan, which required about three million baht for modifications, was shelved due to budgetary problems. The dream of having F-18 jets was also shot down by Washington, which refused to sell them to Thailand. ...
ความจริงสหรัฐขาย F/A-18C/D จำนวน 8 ลำในสัญญา 500 ล้านเหรียญให้กองทัพอากาศไทยแล้วครับ และเราก็เซ็นสัญญารวมถึงจ่ายเงินไปจำนวนหนึ่งแล้ว แต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงต้มยำกุ้ง รัฐบาลไทยจึงเจรจาให้นาวิกโยธินสหรัฐซื้อสัญญาไปเพื่อเราจะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับจำนวน 300 ล้านเหรียญในการยกเลิกสัญญา และเงินที่จ่ายไปแล้วก็เปลี่ยนมาเป็น F-16ADF มือสองที่ฝูงบิน 102 กองบิน 1 นั้นเองครับ
ส่วนตัวผมถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะตอนนั้นเศรษฐกิจของชาติย่ำแย่มาก ถ้ายังเดินหน้าจัดซื้อเครื่องบินต่อไปมีหวังกองทัพอากาศล้มละลายแน่นอน
Saab 340 AEW (S-100 Argus) of Swedish Air Force
เท่าที่ทราบและได้ข้อมูลมาจากคำบอกเล่า มาตราฐานของชั่วโมงบินของ S-100 หรือ Saab 340 AEW&C ในกองทัพอากาศสวีเดน (Swedish Air Force:SwAF) คือราว ๆ 400 ชม. ต่อปีครับ เจ้าตัวนี้ใช้งานมา 10 ปี ฉะนั้นจะใช้งานมาราว ๆ 4000 ชม. ครับ .... แต่ยังไงเครื่อง Saab 340 มันเป็นเครื่องบินโดยสาร ชั่วโมงบินเยอะมากอยู่แล้ว อีกทั้งตอนทำการปรับปรุงก็ต้องมีการตรวจเช็คและปรับปรุงโครงสร้างอยู่แล้ว (ลักษณะจะคล้าย ๆ BT-67 ของกองทัพอากาศที่ใช้เครื่องบิน C-47 ที่ปลดประจำการแล้วมาปรับปรุงใหม่ แต่ในกรณีของ Saab 340 จะไม่ได้ทำการปรับปรุงมากเท่ากับ BT-67 เนื่องจากยังมีชั่วโมงบินเหลืออยู่มากครับ) ในประเด็นนี้ผมว่าชั่วโมงบินไม่น่าใช่เรื่องสำคัญนัก อันที่จริงถ้าเราเลือกแบบแผนของ Saab มาใช้ ยังไงก็ต้องใช้เครื่องมือสองครับ เช่น Saab 2000 AEW&C ของกองทัพอากาศปากีสถานก็เป็นมือสองที่ปรับปรุงใหม่ (ปากีสถานจัดหา Saab 2000 AEW&C จำนวน 5 ลำและ Saab 2000 รุ่นฝึกอีก 1 ลำในสัญญามูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เนื่องจากสายการผลิตของ Saab 340/2000 ปิดไปแล้ว และ Saab AB ก็ปิดส่วนธุรกิจเครื่องบินโดยสารไปแล้วด้วยครับ เนื่องจาก Saab 2000 ขายสู้ ATR-72 หรือ Q-400 ไม่ได้ ประเทศอื่น ๆ บางประเทศจึงเปลี่ยนไปใช้ ERJ-145 ซึ่งเป็นเครื่องบินไอพ่นของ Embraer
ความแตกต่างอีกส่วนหนึ่งคือ Saab 2000 ของปากีสถานนมาจาก Saab Aircraft Leasing แต่ Saab 340 ของไทยน่าจะมาจาก SwAF ครับ
ห้องปฏิบัติการของ Saab 340 AEW-200
ปัญหาคือระบบเรด้าร์ Erieye นี่แหละครับ ...... เห็นคนในเว็บบอร์ดต่างประเทศเขาพูดกันว่า "The planes Thailand will get need to be upgraded ... question is how much, AEW200 or 300" ...... ตัว AEW100 มันเป็นแค่เรด้าร์บินได้เท่านั้นเท่านั้น ระบบ Datalink หรือระบบเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเครื่องบินและหน่วยภาคพื้นดินยังไม่ก้าวหน้า ซึ่งถ้าเรานำมาใช้กับ Gripen และ F-16 ที่ทอ.พูดว่าจะพัฒนา Datalink ระหว่างสองแบบนี้ล่ะก็ยังไงก็ต้องปรับปรุงแน่นอนครับ ไม่ปรับปรุงไม่ได้ ในกรณีของทอ. สวีเดนที่ปรับปรุง Erieye ในปี 2006 นั้นเป็นการปรับปรุงให้เป็นมาตราฐาน AEW 300 ครับ ซึ่งเป็นมาตราฐาน NATO เต็มรูปแบบ สามารถปฏิบัติการกับกองกำลัง NATO และเครื่องบินมาตราฐาน NATO ได้
สรุปว่า ยังไงก็ต้องมีการ upgrade แน่นอนครับ ถ้าเราปรับปรุงเป็น AEW 300 ก็จะดีหน่อยเพราะมันเป็นมาตราฐาน NATO และจะเหมือนกับของ SwAF ทำให้ไม่น่ากลัวเรื่องอะไหล่ แต่ถ้าเป็นมาตราฐาน AEW200 ก็คงแย่หน่อยเพราะ SwAF เขากำลังเปลี่ยนเป็น AEW300 แล้ว อีกทั้ง AEW200 มันก็เป็นระบบที่ค่อนไปทางสวีเดนมากกว่า NATO หรือไม่อีกที ทอ.ไทย ก็อาจจะสั่งทำพิเศษให้เป็นรุ่นของตัวเองเลย ซึ่งผมก็ว่าไม่น่าทำอีกนั่นแหละเพราะเรามีแค่ 2 ตัว (หวังว่าในอนาคตจะมาอีก 1) มันอาจจะพิเศษเกินไปนิด กลัวจะมีปัญหาอะไหล่ครับ ...... ถ้าให้หวังอยากให้ทำเป็น AEW300 มากกว่าครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงเป็นมาตราฐานนี้คือลำละ 10 ล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้อาจจะอยู่ในสัญญา 600 ล้านเหรียญแล้วก็ได้
ยังไงต้องรอความชัดเจนอีกทีนึงครับ
Saab 2000 AEW of Pakistani Air Force
อ่านเพิ่มเติม
"JAS-39 Gripen: AEW&C ของไทย, ปากีสถาน, และสิงคโปร์"
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=14-04-2008&group=1&gblog=78
Create Date : 26 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2551 9:42:34 น. |
|
8 comments
|
Counter : 2823 Pageviews. |
|
|
|
โชคดี สุขภาพแข็งแรงทุกคนครับ