ไปกด Link ได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/skymantaf หรือ Follow ได้ที่ Twitter https://twitter.com/skymantaf หรือที่ http://www.thaiarmedforce.com นะครับ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
JAS-39 Gripen: ... คำชี้แจงอย่างเป็นทางการของกองทัพอากาศ+สาระสำคัญของข้อตกลงเฟสแรก

ข้อความนี้ นำมาจากข่าวแจกของกองทัพอากาศ และข้อความในอินเตอร์เน็ต ซึ่งเขียนโดยคุณท้าวทองไหล หรือ พ.อ.อ. รัชต์ รัตนวิจารณ์ เกี่ยวกับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19 (F-5B/E) ครับ เชิญอ่านได้เลยครับ




โครงการจัดซื้อ บ.ทดแทน F-5 B/E ฝูงบิน ๗๐๑ กองบิน ๗ นั้นกองทัพอากาศความจริงแล้วจะบอกว่ากองทัพอากาศนั้น ตั้งโครงการที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ทดแทนเครื่องบิน F-5 มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ แล้ว เพื่อเตรียมทดแทน F-5 B/E ที่มีแผนจะปลดประจำการในปี ๒๕๕๐ แต่เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นว่าสถานภาพการเงินและงบประมาณของประเทศยังไม่พร้อม กองทัพอากาศจึงชลอโครงการไว้ก่อน

แต่ในช่วงหลายปีนั้นเราได้ทำการศึกษาเรื่องของเครื่องบินขับไล่แบบต่างๆ ในอดีตนั้นอาจจะมองว่ากองทัพอากาศจัดหาแต่เครื่องบินรบจากสหรัฐอเมริกาเพียงชาติเดียว ความจริงแล้วเมื่อก่อนนั้นเครื่องบินขับไล่ที่ผลิตโดยสหรัฐอเมริกานั้นจัดได้ว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีสมรรถนะสูงเชื่อถือได้ทั้งการบินการปฏิบัติการรบ ระบบอาวุธ และระบบการส่งกำลังบำรุง ปัจจุบันชาติต่างๆในโลกมีศักยภาพในการสร้างเครื่องบินขับไล่ไม่แพ้สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส รัสเซีย สวีเดน ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งจีนเอง ตรงนี้เองเราก็มามองว่าในขณะนั้นเรามีความต้องการเครื่องบินระดับไหน กองทัพอากาศมีความต้องการเครื่องบินขับไล่ในยุคที่ ๔.๕ ส่วนในยุคที่ ๕ นั้นมันเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงซึ่งสหรัฐอเมริกาเองก็ยังอยู่ในระหว่างการประจำการและการพัฒนาไปพร้อมๆกัน เช่น เครื่องบินแบบ F-22
สำหรับเครื่องบินในยุค ๔.๕ นี้ได้กำหนดคุณลักษณะไว้ ๔ ประการคือ Stealth, Strike-Precision , Stand Off/Fire Forget และ Situation Awareness – Network Centric อุปกรณ์เครื่องวัดเป็นแบบดิจิตอล Glass cockpit, เรดาร์ตรวจจับระยะไกลแบบ Active phased array วัสดุพื้นฐานผิวและโครงสร้างเป็นแบบวัสดุผสม Composite แผนแบบด้วยเทคโนโลยีล่องหน (Stealth) ติดตั้งระบบปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางหรือ Network Centric Operations : NCO สามารถติดต่อระหว่างเครื่องบินกับภาคพื้นดิน พื้นน้ำ กับศูนย์บัญชาการ และควบคุม ข้อมูลถูกส่งผ่านได้ตลอดทั่วถึงกันทั้งเครือข่ายในเวลาพร้อมกัน เป็นการทวีอำนาจกำลังรบ (Force multiplier) มีกำลังน้อยเหมือนมีกำลังมาก ตอบสนองต่อการป้องกันประเทศ การป้องกันภัยทางอากาศ การรบร่วมกับหน่วยภาคพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับเครื่องบินที่อยู่ในกลุ่มนี้ประกอบด้วย เครื่องบินขับไล่แบบ F-16 C/D ของสหรัฐฯ เครื่องบินขับไล่ Su-30 ของรัสเซีย เครื่องบินขับไล่ Jas-39 ของสวีเดน และเครื่องบินขับไล่แบบราฟาล ของฝรั่งเศส


กองทัพอากาศได้ตั้งคณะกรรมขึ้นมาพิจารณาในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทนเครื่องบิน F-5 B/E โดยคณะกรรมการเหล่านี้จะทำการศึกษาข้อมูลของเครื่องบินแบบต่างๆ โดยละเอียดในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เช่น ความต้องการด้านการใช้ปฏิบัติภารกิจ ความเหมาะสมตามสภาพภูมิยุทธศาสตร์ การฝึกอบรม การซ่อมบำรุง การจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค อาคารสถานที่ โดยได้กำหนดความต้องการ ของกองทัพอากาศ ออกเป็น ๔ ประการคือ


๑.ต้องมีสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้ในอนาคต มีขีดความสามารถทัดเทียมหรือไม่ด้อยกว่าเครื่องรบที่มีประจำการหรือกำลังนำเข้าประจำการใหม่รอบบ้านของไทย
๒. มีความเหมาะสมตามสภาพภูมิยุทธศาสตร์ในการวางกำลังทางภาคใต้ในภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ สามารถสนับสนุนและปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพอื่นตลอดจนคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
๓. เป็นพื้นฐานในการพัฒนากองทัพอากาศในด้านต่างๆต่อไป ทั้งบุคลากรการถ่ายทอดเทคโนโลยีของอากาศยาน การฝึกศึกษา เพื่อให้สามารถดูแลและบำรุงรักษาได้บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง โดยได้รับ Source Code Data ซึ่งหมายถึง รหัสข้อมูลต้นแบบซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของอากาศยาน ระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบอาวุธ ระบบการซ่อมบำรุง และอื่นๆจะช่วยให้บุคลากรของกองทัพอากาศได้พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีต่อไป ในอนาคตได้ด้วยตนเอง

๔. สามารถพัฒนาระบบบัญชาการและควบคุม ตลอดจนระบบควบคุมและแจ้งเตือน ซึ่งเป็น ความต้องการหลักและจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติการทางอากาศ การปฏิบัติการร่วมระหว่างเหล่าทัพเพื่อการป้องกันประเทศและคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

ซึ่งเครื่องบินที่มีขีดความสามารถที่ต้องการสำหรับเครื่องบินรบในยุคที่ ๔.๕ และราคาเหมาะสมสามารถจัดซื้อได้ตามสภาพงบประมาณของประเทศ มีพิจารณาได้ ๓ แบบ คือ F-16C/D จากสหรัฐฯ , Su-30 MK จากรัสเซีย และJAS-39 C/D Gripen จากสวีเดน กองทัพอากาศได้ทำการศึกษาประเมินค่าเครื่องบินทั้งสามแบบ โดยคณะกรรมการที่กองทัพอากาศตั้งขึ้นนั้น นอกจากจะพิจารณาด้านข้อมูลต่างๆแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งเดินทางไปดูงานเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง ณ ประเทศผู้ผลิต และนักบินลองเครื่องของกองทัพอากาศ ยังได้ขึ้นทำการทดสอบบินเพื่อประเมินค่าของเครื่องบินขับไล่ทั้งสามแบบด้วย และผลการศึกษาในหลายๆด้านสรุปได้ว่า



Su-30 MK เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีขนาดใหญ่ บรรทุกอาวุธได้มากเหมาะสำหรับการโจมตีข้ามทวีปหรือประเทศที่มีขนาดใหญ่อย่างรัสเซีย จึงมีจุดอ่อนในการตรวจจับได้ง่ายจากระยะไกลเนื่องจากขนาดของเครื่องบิน ต้องจัดซื้อระบบซ่อมบำรุงและอาวุธใหม่ทั้งหมด ต้องเตรียมสร้างอาคารสถานที่ โรงเก็บ โรงซ่อม ซองจอด ใหม่ทั้งหมด การใช้งานมีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ในเกณฑ์สูงมาก โครงสร้างเครื่องยนต์มีวงรอบการตรวจซ่อมถี่ อาวุธมีอายุสั้น เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน (Life Cycle Cost) อยู่ในเกณฑ์สูงสุดเมื่อเทียบกับเครื่องบินอีกสองแบบ



F-16 C/D เป็นเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ขนาดกลาง มีขีดความสามารถด้านปฎิบัติการทางอากาศและโจมตีภาคพื้นดิน อัตราความสิ้นเปลืองอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ระบบการส่งกำลังบำรุงสามารถใช้จาก F-16 A/B ที่กองทัพอากาศใช้งานอยู่ เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงมีความคุ้นเคย แต่การซ่อมบำรุงและการใช้งานบางส่วน มีเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายตลอดเวลาการใช้งาน จำกัดด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยี ขีดความสามารถและอาวุธที่ต้องการหากจัดซื้อจะได้เพียงเครื่องบินและขีดความสามารถบางส่วน



JAS-39 C/D Gripen เป็นเครื่องบินที่มีขีดความสามารถเทียบเท่าเครื่องบินในยุค ๔.๕ แบบอื่นๆ ออกแบบมาเพื่อใช้ป้องกันและตอบโต้กับกลุ่มประเทศ Warsaw Pact ในยุคสงครามเย็น ระบบอาวุธและการซ่อมบำรุง ตามมาตรฐาน NATO มีความอ่อนตัว คล่องตัวในการใช้งานและสภาพภูมิประเทศที่จำกัด ข้อเสนอหลักประกอบด้วยเครื่องบินรบ เครื่องบินในระบบบัญชาการและควบคุมพร้อมเทคโนโลยีทั้งระบบของกำลังทางอากาศสมัยใหม่ ให้การถ่ายทอดเทคโนโลยี การซ่อมบำรุง และการฝึกศึกษาด้านเทคโนโลยี

สำหรับรายละเอียดของข่าวแจกล่าสุดมีดังนี้ครับ

คณะรัฐมนตรีมีมติให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบิน Gripen 39 C/D


เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๕๑ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กองทัพอากาศจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Gripen 39 C/D ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ ๑๘ ก/ข ฝูงบิน ๗๐๑ กองบิน ๗ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้ทยอยปลดประจำการและครบกำหนดจะปลดประจำการทั้งหมดในปี ๒๕๕๔ โดยมีมติให้กองทัพอากาศก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณระหว่างปี ๒๕๕๑-๒๕๕๕ จัดซื้อเครื่องบิน Gripen 39 C/D ระยะที่ ๑ จำนวน ๖ เครื่อง พร้อมอะไหล่ อุปกรณ์ การฝึกอบรม การปรับปรุงอาคารสถานที่ และการบริหารโครงการ วงเงิน ๑๙,๐๐๐ ล้านบาท ด้วยวิธีการจัดซื้อแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยใช้งบประมาณของกองทัพอากาศที่ได้รับการจัดสรรประจำปีตามปกติ และมอบอำนาจให้ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้แทนรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยลงนามในข้อตกลงการซื้อขาย (Agreement) ตลอดจนให้กองทัพอากาศรับข้อเสนอพิเศษจากรัฐบาลสวีเดนตามที่กำหนดไว้ในร่างข้อตกลงการซื้อขาย ทั้งนี้พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการ ทหารอากาศ และพลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ เสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้เข้าชี้แจงคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล


ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๐ ที่ผ่านมา ให้กองทัพอากาศดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ ๑๘ ก/ข (F-5 B/E) ตามที่ทราบแล้วนั้น


กองทัพอากาศได้แต่งตั้งคณะกรรมการการจัดซื้อขึ้นโดยมี พลอากาศเอก ไพศาล สีตะบุตร รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธาน เพื่อจัดทำร่างสัญญาเจรจาต่อรองการจัดซื้อเครื่องบิน Gripen 39 C/D กับผู้แทน รัฐบาลสวีเดน โดยฝ่ายสวีเดนได้แต่งตั้งคณะทำงานจากหน่วยงาน FMV หรือ Swedish Defense Material Administration (FMV เป็นหน่วยงานขึ้นตรงของกระทรวงกลาโหมสวีเดน มีหน้าที่ในการจัดเตรียมยุทธภัณฑ์ให้กับกองทัพสวีเดน รวมทั้งการส่งออกยุทธภัณฑ์แก่มิตรประเทศ) เป็นผู้แทนรัฐบาลสวีเดนซึ่งได้ดำเนินการเจรจา และจัดทำร่างข้อตกลงการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว สำหรับเอกสารข้อตกลงการซื้อขาย ครอบคลุมข้อสัญญาและเงื่อนไขเกี่ยวกับกำหนดการส่งมอบเครื่องบิน, การฝึกอบรมนักบินและเจ้าหน้าที่, การส่งกำลังบำรุง และงวดการชำระเงิน ทั้งนี้ กองทัพอากาศได้รับความร่วมมือจากสำนักงานอัยการสูงสุด และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเป็นที่ปรึกษา ให้ข้อเสนอแนะแก่คณะกรรมการจัดซื้อ เพื่อให้การดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ รัดกุม และ เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ

สรุปสาระสำคัญในร่างข้อตกลงการซื้อขาย แบ่งเป็น ๒ ส่วน


ส่วนที่ ๑ ข้อเสนอหลัก และการปรับปรุงอาคารสถานที่และการบริหารโครงการ


ประกอบด้วยเครื่องบิน Gripen 39 C/D จำนวน ๖ เครื่อง เป็นเครื่องบินที่นั่งเดี่ยวจำนวน ๒ เครื่อง และที่นั่งคู่จำนวน ๔ เครื่อง พร้อมอุปกรณ์และระบบสนับสนุน การส่งกำลังบำรุง การฝึกอบรม การบริหารโครงการในส่วนที่สวีเดนรับผิดชอบ อุปกรณ์อื่นและการบริการ รวมเป็นเงิน ๑๘,๒๘๔ ล้านบาท


- ๒ -
ด้านการปรับปรุงอาคารสถานที่ และการบริหารโครงการประกอบด้วย การปรับปรุงอาคารสถานที่และระบบโครงสร้างพื้นฐาน ณ กองบิน ๗ จ.สุราษฎร์ธานี การเดินทางไปฝึกอบรมตามโครงการ และการบริหารโครงการ ในส่วนที่กองทัพอากาศรับผิดชอบ รวมเป็นเงิน ๗๑๖ ล้านบาท รวมงบประมาณการจัดซื้อเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๙,๐๐๐ ล้านบาท ตามกรอบวงเงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๐


ส่วนที่ ๒ เป็นข้อเสนอพิเศษจากรัฐบาลสวีเดน โดยกองทัพอากาศจะได้รับมอบเครื่องบิน Saab 340 สำหรับการฝึกจำนวน ๑ เครื่อง และเครื่องบิน Saab 340 ติดตั้งเรดาร์แจ้งเตือนในอากาศแบบ Erieye จำนวน ๑ เครื่อง


พร้อมกันนี้จะได้รับการตอบแทนในลักษณะความร่วมมือทวิภาคี ประกอบด้วย

- การถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศและกองทัพไทยในสาขาต่างๆ ที่ฝ่ายไทยต้องการ

- ทุนการศึกษาในระดับปริญญาโทจำนวน ๙๒ ทุน ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสวีเดน ได้แก่ Royal Institute of Technology Stockholm, Chalmers Technical University in Gothenburg และ Link?ping University ระหว่างปี ๒๕๕๒-๒๕๕๕ และ

- ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม ในด้านวิชาการ การลงทุน การผลิตสินค้า และการบริการ ที่จะกำหนดรายละเอียดหลังจากลงนาม ในข้อตกลงการซื้อขายต่อไป


แผนการดำเนินงานโครงการที่สำคัญ ได้แก่

- การผลิตและส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Gripen 39 C/D ใช้ระยะเวลา ๓๖ เดือนหลังจากลงนามในหนังสือข้อตกลงการซื้อขาย

- การฝึกอบรม การส่งมอบอะไหล่และอุปกรณ์ รวมทั้งการเตรียมรับนั้นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อน การส่งมอบเครื่องบิน โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการฝึกอบรมในประเทศสวีเดนเริ่มดำเนินการในปี ๒๕๕๑ และการส่งมอบอะไหล่และอุปกรณ์เริ่มดำเนินการในปี ๒๕๕๓

- การส่งมอบเครื่องบิน Saab 340 ทั้ง ๒ เครื่อง ดำเนินการได้ในปลายปี ๒๕๕๓

- การส่งมอบเครื่องบิน Gripen 39 C/D ทั้ง ๖ เครื่องจะดำเนินการได้ภายในต้นปี ๒๕๕๔ โดยจะส่งมอบเครื่องบิน ๓ เครื่องแรกในเดือนมกราคม ๒๕๕๔ และอีก ๓ เครื่องในเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ เพื่อฝึกเพิ่มเติมให้หน่วยบิน มีความพร้อมปฏิบัติการได้ภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๔ สอดคล้องกับแผนการปลดประจำการของเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 ที่สุราษฎร์ธานี


ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดซื้อตามโครงการนี้ ได้แก่


- ได้รับเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ จำนวน ๖ เครื่องทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ F-5 ทันตามความต้องการ ทางยุทธการ

- ได้รับขีดความสามารถในการตรวจจับอากาศยาน และเป้าหมายภาคพื้นดินและพื้นน้ำ รวมทั้งระบบบัญชาการและควบคุม

- การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสามารถนำมาพัฒนาประเทศต่อไป

- ยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีที่ได้รับในการจัดซื้อตามโครงการนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนกองทัพอากาศและ กองทัพไทย ให้มีขีดความสามารถเพียงพอ และเท่าทันเทคโนโลยี เพื่อปกป้องอธิปไตย และรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์และ ความมั่นคงของชาติ
******************************************************************
ข่าวฉบับปรับปรุง...เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๑ เวลา ๑๑๐๕

ท้าวทองไหล




ต่อไปนี้ผมเขียนเองแล้วรับ

6 ลำนี้เป็นล็อตแรกครับ อย่างทีเรียนไปตั้งแต่ตอนโน้นว่ากองทัพอากาศกำหนดความต้องการจำนวน 12 ลำ แต่ต้องใช้งบประมาณสูงคือ 38,000 ล้านบาท จึงทำการแบ่งโครงการออกเป็นสองเฟสครับ เพื่อให้มีเครื่องบินเข้าประจำการก่อนจำนวน 6 ลำทดแทน F-5B/E ในฝูงบิน 701 ทั้งหมดอย่างเร่งด่วน ... ทำให้รายละเอียดข้างต้นเป็นรายละเอียดของสัญญาในเฟสแรกเท่านั้นครับ

จากข้อความข้างบนที่ว่า

" - ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม ในด้านวิชาการ การลงทุน การผลิตสินค้า และการบริการ ที่จะกำหนดรายละเอียดหลังจากลงนาม ในข้อตกลงการซื้อขายต่อไป"

ในส่วนนี้คือ Gripen Offset Program ครับ ......... Gripen Offset Program เป็นโครงการตอบแทนทางอุตสาหกรรมให้กับชาติลูกค้าที่ทำการจัดหา Gripen ไปใช้งาน โดยกลุ่มบริษัท Saab มีนโยบายที่จะทำการลงทุนในประเทศลูกค้าเป็นมูลค่าเท่ากับหรือมากกว่าจำนวนเงินที่ลูกค้าจ่ายไปในการจัดหาเครื่องบินขับไล่ (ซึ่งในกรณีของไทย ในสัญญาแรกคือ Saab จะต้องเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนที่เท่ากับ หรือมากกว่า 19,000 ล้านบาท) ........ การลงทุนอาจจะมาในรูปของการตั้งโรงงานผลิตสินค้าของกลุ่ม Saab ในประเทศไทยเพื่อเป็นฐานการผลิต การเข้าร่วมลงทุนหรือพัฒนาอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยต้องการ หรือการเข้าร่วมลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมทางทหารของไทย

ซึ่งในกรณีนี้ คงต้องเป็นกระทรวงพาณิชย์ที่จะต้องร่วมกับกระทรวงกลาโหมในการพิจารณาว่า จะให้กลุ่มบริษัท Saab เข้ามาลงทุนในสาขาใด ซึ่งรายละเอียดจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป และเราน่าจะทราบในภายหลังครับเมื่อการเจรจาเสร็จสิ้น

สำหรับทุนการศึกษาระดับปริญญาโทนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นทุนที่ให้กับใคร ซึ่งถ้าอ้างอิงจากข่าวที่ออกมาในช่วงหลายปีก่อน ทุนเหล่านี้จะให้กับนักเรียนนายเรืออากาศไทยไปศึกษาด้านวิศวกรรมอากาศยานและอวกาศในประเทศสวีเดนครับ

ทั้งนี้ เมื่อการเซ็นสัญญาเกิดขึ้น ทาง Swedish Defense Material Administration คงจะมีการเปิดเผยข้อสัญญาอีกครั้งหนึ่งเช่นกันครับ ยังไงต้องลองตามดูครับ

นอกจากนั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ รอเซ็นสัญญาลูกเดียว แล้วจะรู้เองว่าล้มหรือไม่


...
...
...

สุดท้าย อยากจะฝากประโยคอมตะเตือนใจทุกท่านสักนิดว่า



"ตราบใดที่ล้อเครื่องบินยังไม่แตะพื้นเมืองไทย อะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้"





Create Date : 11 มกราคม 2551
Last Update : 11 มกราคม 2551 7:14:46 น. 12 comments
Counter : 1983 Pageviews.

 
เจิม ???


โดย: perspeceviT (perspeceviT ) วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:7:39:48 น.  

 
emo เหอ ๆ ใช่ครับ



มีคนนึงเจิมได้ อีกคนก็ต้องพลาดเจิมสินะ emo



โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:8:12:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เห็นคุณหลายครั้งในบล็อกพี่ๆ
เลยตามมาทำความรู้จักค่ะ
หวังว่าจะรับไว้เป็นสาวกอีกสักคนน่ะค่ะemoemoemo


โดย: pranfun วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:15:13:03 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข่าวครับคุณskyman


โดย: kickaflow วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:17:48:41 น.  

 
....ไปถึงสนามบินดอนเมืองแล้วแน่เลย

พี่ค่ะพับ F 16 กับนักบินใส่กระเป๋ามาฝากด้วย


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:6:53:10 น.  

 
พับแต่ F-16 มาครับ ..... แต่นักบินลืมเอามาด้วย เพราะผมจะบินเอง เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ emo


โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:1:49:00 น.  

 
หวัดดีฮะพี่โย


ทำไมพี่โยเม้นท์ภาษาต่างดาวล่ะครับ
ดีนะที่ภรรยาผมเธอสามารถมาก
เลยแปลให้ผมรู้เรื่องได้ 55555

เล่นเอาผมมึนตึ๊บ

รักกันอย่าทำร้ายกันด้วยภาษาต่างดาวนะครับ 5555


เอ่อ...ว่าแต่ว่า

น้องโยเด็ก น้องก๋าแก่

ููู^
^
^

เอ่อ....ผมเข้าใจพี่โยนะ
อายุน่ะอาจจะใช่
แต่ความหล่อ
ผมว่าผมกินขาดพี่โยอ่ะครับ

55555




โดย: ก๋าโดฮุน (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:18:39:49 น.  

 
โอวววว......
ยังมีอะไรต้องสงสัยอีกหรือนั่น 555

พี่โยครับ
ความหล่อนี่มันไม่เข้าใครออกใครนะครับ
แต่มันเข้ามาที่ผมเยอะ
ผมก็ไม่รู้จะผลักมันออกไปยังไง


5555


ส่วนความน่ารักที่พี่โยมี
คือ ผมรับความน่ารักไม่ไหว
จำต้องผลักมันออกไปบ้างอ่ะครับ คริคริ



โดย: ก๋าโดฮุน (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:19:50:28 น.  

 
ผมหมายความว่า
ความน่ารักของผมมันเยอะเกินพิกัดอ่ะพี่โย
55555

เลยต้องแบ่งไปให้พี่โยเน้อ 5555

แต่ความหล่อไม่แบ่ง
กินรวบ กินเรียบ 5555




emoemoemo


โดย: ก๋าโดฮุน (กะว่าก๋า ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:21:09:06 น.  

 
^
^
^
^

emoemoemo


emoemoemoemo.......พูดไม่ออก


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:21:14:26 น.  

 
เพราะผมจะบินเอง เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ emo

พี่จะบินพัดไม้ไผ่แบบโดเรมอนช่ายม๊ะ


โดย: นางน่อยน้อย วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:21:15:54 น.  

 
อยากตายเมื่อได้อ่านความเห็น 9 เหมือนกัน

emo





พี่จะบินพัดไม้ไผ่แบบโดเรมอนช่ายม๊ะ

...
...
...

emo ไม่เอาคอปเตอร์ไม่ไผ่ดีกว่าครับ เพราะเวลาโดเรม่อนจะหนีใคร แบ็ตหมดทุกที


โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:21:20:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Analayo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]




หากโลกนี้มีความยุติธรรม เราคงไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีตำรวจหรอก/Skyman
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @
X
X



free counters


Friends' blogs
[Add Analayo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.