|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
น้ำ น้ำมัน และรถเกราะคันนั้น
ข้อความต่อไปนี้ คุณ smoothoperator โพสไว้ในเว็บบอร์ดไทยไฟเตอร์คลับ ในกระทู้เกี่ยวกับรถ REVA 4x4 ซึ่งคุณ smoothoperator ไปโพสที่พันทิป ห้องหว้ากอในชื่อ perspeceviT ครับ
จุดประสงค์ที่นำมาลงในที่นี้ ไม่ได้ต้องการจองล้างจองผลาญรถ REVA แต่อย่างใดนะครับ แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับการจัดหารถ REVA ก็ตาม แต่ผมก็พูดเสมอ ๆ ว่า ถ้าจัดหามาแล้ว มันทำหน้าที่ได้ดี ผมก็ยินดีครับ เพราะประเด็นที่ผมคัดค้าน ไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพ แต่เป็นเรื่องของการที่ไทยเสียโอกาสในการใช้รถเกราะที่ผลิตในประเทศเองครับ และถ้าiถ REVA มันทำหน้าที่ปกป้องทหารของเราได้ ผมก็ดีใจมากเช่นกันครับ
ซึ่งตอนนี้เราจะเห็นรถ REVA ได้บ่อย ๆ ในภาพข่าวจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่นล่าสุดในการบุกจับแนวร่วมในตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งจับตายได้ 1 ราย และแนวร่วมบาดเจ็บอีก 4 นาย เห็นภาพทหารที่เข้าไปทำภารกิจแล้ว นอกจาก REVA ยังมีอาวุธครบเครื่องและครบมือครับ มีอาวุธดี ๆ ครบ ๆ แบบนี้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับกำลังพลได้มากทีเดียวครับ ก็ขอใหช่วยกันเร่งรัดจัดหาอาวุธใหม่ ๆ ดี ๆ ให้เจ้าหน้าที่ทางใต้โดยเร็วครับผม
ข้อความต่อไปใน ไม่ได้หมายถึงเฉพาะรถ REVA เท่านั้นนะครับ แต่ยังหมายรวมถึงยุทโธปกรณ์ของทั้งสามเหล่าทัพ ซึ่งคุณ smoothoperator เขียนได้น่าอ่านและน่านำกลับไปศึกษามาทีเดียวครับ และในฐานะที่ผมไม่มีความรู้ใด ๆ เลยเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณ smoothoperator เขียนมา ผมจึงจะไม่ตัดทอนหรือเพิ่มเติมข้อใด ๆ ครับ 
ขออวยพรให้นายทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ และประชาชนทุกท่านในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ปลอดภัยครับ
สิงอยู่ในบอร์ดมาก็หลายเดือนครับผม เห็นกระทู้ต่าง ๆ แล้วก็ชื่นใจครับ เพราะคิดว่าผู้ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นในบอร์ดต่างก็ต้องการเห็นกองทัพไทยได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีครับ
ปกติผมจะอ่านอย่างเดียว มิบังอาจแสดงความคิดเห็นใด ๆ ครับ เพราะคิดว่าตัวเองมีความรู้อันน้อยนิดเท่านั้น แต่พอเห็นกระทู้อันนี้ จึงขอร่วมวงเสวนาสักหน่อยเนื่องจากประสบพบเจอเรื่องทำนองนี้มากับตัวเองครับ ขอให้เพื่อน ๆ ช่วยกันแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
จากข้อความที่เพื่อน ๆ ได้โพสต์ไว้ครับ
ผมเป็นคนถ่ายรูปนี้เองครับ พ่อผมไปคุยกะทหารมา ปรากฏว่า น้ำเข้าถังน้ำมันครับ แม้จะนิดหน่อย แต่เค้าบอกประมาณว่า มีเซนเซอร์บางตัวที่ตรวจจับน้ำในถังน้ำมันอยู่ จะล๊อกเครื่องเอาใว้ไม่ให้ทำงานเพื่อป้องกันการเสียหายครับ เลยดับ แล้วต้องลากครับ ผมว่าคงต้องมีการปรับปรุงให้เหมาะกับสภาพการใช้งานอีกแหละครับ อย่างนี้มันอ่อนไหวไปหน่อย
ผมคิดว่าเรื่อง" มีน้ำปนเปื้อนในน้ำมันเชื้อเพลิง " เป็นสิ่งที่เหมือนกับคนไทยหรือกองทัพไทย ละเลยกันมาตลอดครับ หัวข้อ REVA เครื่องดับเพราะเซนเซอร์ในเครื่องยนต์ตรวจจับความชื้นในเชื้อเพลิงได้ จึงสั่งการให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานเพื่อไม่ให้เกิดการเสียหายต่อเครื่องยนต์นี่ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดครับผม กรุณาอย่าคิดว่าระบบของเครื่องยนต์มันอ่อนไหวไปหน่อยครับ เพราะทางเทคนิคแล้ว หากปล่อยให้มีความชื้นหรือน้ำปนเปื้อนอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแม้แต่น้ำมันหล่อลื่น จะทำให้เกิดผลเสียต่อเครื่องยนต์อย่างมากครับครับ เช่นหัวเทียนบอด ทำให้ลูกสูบหรือก้าน เพลาข้อเหวี่ยงต่าง ๆ ทำงานผิดจังหวะหรือผิดพลาด ไม่สอดคล้องกับลูกสูบอื่น ๆ หรือเพลา หรือชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลาในการทำให้เครื่องยนต์หมุนได้ ทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ครับ หากหนักหนาสาหัส อาจถึงขั้นก้านสูบหัก หรือเบี้ยว อันนำไปสู่การซ่อมใหญ่เลยครับ คิดดูสิครับ ราคารถเนี่ยกี่สิบล้านกัน แต่พาลมาเจ๊งเพราะแค่มีน้ำในน้ำมันเชื้อเพลิงเหรอครับ.....ตลกดีไหมครับ หรือหากจะซ่อมน่ะนะ ค่าซ่อมเครื่องยนต์ของยานยนต์แบบนี้คงไม่ถูกแน่ครับ ผมว่าหลายล้านบาทต่อคันครับและต้องใช้เวลาในการซ่อมหลายเดือน ไม่นับรวมเวลาที่ต้องใช้ในขั้นตอนทางราชการเช่นประกาศประกวดราคา ประกาศจัดหา ฯลฯ อีกครับ.... ( ฮ. เราเนี่ย บางทีต้องจอดรออะไหล่กันเป็นปีครับ....มีห้าสิบเครื่องแต่บินได้ครึ่งเดียว ที่เหลือจอดรออะไหล่ครับ.....)
ซึ่งแรก ๆ การที่เครื่องยนต์สะอึก หรือทำงานผิดจังหวะ อาจทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่นลูกสูบ เพลา เสื้อสูบ เกิดการสึกหรอ เกิดเศษโลหะที่เกิดจากการเสียดสีของชิ้นส่วนเครื่องยนต์และสะสมอยู่ในเครื่องยนต์ครับ เศษโลหะเหล่านี้เมื่อสะสมไปเรื่อย ๆ จะทำให้เกิดการสึกหรอมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นทวีคูณครับ ยิ่งเมื่อเราดันทุรังใช้น้ำมันที่ปนเปื้อนน้ำไปเรื่อย ๆ โดยคิดว่าไม่เป็นไรหรอก เมื่อน้ำเข้าเครื่องยนต์เดี๋ยวก็โดนเผาไหม้หมดไปเอง ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดครับ เพราะน้ำจะไปเปลี่ยนคุณสมบัติของน้ำมันเชื้อเพลิงครับ เช่น เปลี่ยนอุณหภูมิที่เหมาะสมในการจุดระเบิด เปลี่ยนค่าความหนืดของน้ำมัน ทำให้เกิดสนิม ทำให้เกิดตะกอนซึ่งไม่สามารถกำจัดออกจากเครื่องยนต์ได้โดยวิธีการปกติ ( ต้องซ่อมใหญ่ ถอดเครื่องยนต์ทุกชิ้นมาล้างทำความสะอาดใหม่หมด ประมาณว่า overhaul น่ะครับ )
หากน้ำสะสมอยู่ในถังน้ำมัน ยิ่งร้ายใหญ่ครับ เพราะทำให้เกิดตะกอนในถังน้ำมัน เกิดตะไคร่ เปลี่ยนสภาพของน้ำมันไปเลย ต้องทิ้งน้ำมันสถานเดียวครับ
กรุณาอย่าไปคิดว่า ระบบเครื่องยนต์มันอ่อนไหวครับ ผมกลับคิดว่ามันเป็นระบบที่ชาญฉลาดมากครับ เสียอย่างเดียว มันทำได้แค่เตือนและป้องกันการเสียหาย แต่มันไม่ได้จัดหาทางแก้ให้ด้วยครับ ( ทางแก้มีครับ เดี๋ยวจะบอกตอนจบด้านล่างครับ ) ....
ผมเองก็เคยเห็นเจ้า REVA นี่ตัวเป็น ๆ เมื่อราว ๆ กลางปีนี้เองครับ ตอนที่เข้าไปพบท่านนายทหารในโรงเรียนสรรพาวุธทหารบก ที่สะพานแดงครับ .....แรกพบเห็นเนี่ย รู้สึกว่ามันใหญ่ดีครับ สูงด้วย ท่าทางบึกบึนดีครับ ....เพิ่งรู้จากกระทู้นี้นี่เองครับ ว่าบริษัทผู้ผลิตได้ติดตั้งระบบป้องกันเครื่องยนต์เสียหายจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปนเปื้อนน้ำเข้าไปด้วย.....นี่เป็นระบบที่เรียกได้ว่าค่อนข้างใหม่และทันสมัยมากสำหรับยานเกราะเลยครับ .....ถ้าเป็นยานเกราะหรือรถถังรุ่นเก่า ๆ จะไม่มีระบบนี้นะครับ เท่าที่ผมได้ข้อมูลมาเนี่ย ...บรรดารถบรรทุก รถถัง ยานเกราะ ยานยนต์ต่าง ๆ ของกองทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก จะไม่มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับความชื้นในน้ำมันเชื้เพลิงเหมือนที่มีใน REVA ครับ....ผลหรือครับ....อย่างที่บางท่านทราบกันครับ......ยุทธยานยนต์บางส่วนของกองทัพไทยนั้น ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็นครับ บางคันเครื่องยนต์หลวม เร่งไม่ขึ้น สตาร์ทติดยาก เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง วิ่ง ๆ ไป เจอโคลนเลน ต้องเร่งเครื่องทำความเร็ว เพื่อให้พ้นหล่ม ก็เร่งไม่ขึ้น เลยติดหล่มไปซะงั้น หรือต้องเปลี่ยนอะไหล่เครื่องยนต์เร็วกว่ากำหนด ต้องซ่อมใหญ่ ไม่สามารถดำรงความพร้อมรบได้ ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อต้องการใช้งานครับ
ปัญหาเหล่านี้เกิดมานานแล้วครับ และไม่ได้จำกัดวงเฉพาะยานยนต์ทางบกครับ แม้แต่อากาศยานก็มีปัญหาเช่นนี้เยอะมากครับ กองทัพไทยก็มีปัญหาที่ว่าเป็นประจำ แต่ทางแก้ที่ทำกันเป็นประจำคือ ก็เปลี่ยนน้ำมันซะ ก็สิ้นเรื่อง .....มันไม่สิ้นเรื่องอย่างที่คิดสิครับ เพราะวิธีการจัดเก็บน้ำมันของเรามันไม่ได้มาตรฐานครับ เราทิ้งน้ำมันไว้ในถังเก็บแบบแกลลอน แล้วทิ้งไว้กลางแจ้ง ตากแดดตากฝน หรือเปิดฝาถังทิ้งไว้ ไม่ได้ปิดให้สนิท ทำให้ฝุ่นหรือความชื้นเข้าไปปนเปื้อนในน้ำมันได้ครับ แม้แต่ว่าบางทีทหารบางคนก็ทุจริตลักน้ำมันไปขาย แล้วกลบเกลื่นความผิดด้วยการเติมน้ำเข้าไปในถังแทน เพื่อไม่ให้รู้ว่าปริมาณน้ำมันหายไป ( อันนี้ท่านนายทหารบอกผมมาเองเลยครับ ท่านเจอมากับตัวเองเลยครับ ) ....ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของทหารชั้นผู้น้อยบางคน ทำให้เกิดความเสียหายเรื้อรังกับยุทธโธปกรณ์ของเราครับ
ผมเคยคุยกับท่านนายทหารในหน่วยการบินกองทัพบกไทย ท่านบอกว่าเรื่องน้ำหรือฝุ่นปนเปื้อนในน้ำมันเนี่ยเกิดขึ้นบ่อยครับ แต่ไม่ค่อยมีใครใส่ใจ ....เคยมีแบบว่าเครื่อง L-19 บินขึ้นจากสนามบิน แค่ล้อพ้นพื้นเท่านั้น แต่ไปไม่ได้ไกลครับ เพราะระบบเครื่องยนต์ล้มเหลว ก็เลยไปหัวทิ่มอยู่ท้ายสนามบินครับ ท่านบอกว่าคาตาเลยครับ.....พอตรวจเครื่องยนต์ดูก็พบว่าน้ำมันหล่อลื่นมีน้ำอยู่เต็มเลย ...เครื่องยนต์เลยดับเพราะชิ้นส่วนทำงานผิดจังหวะ เครื่องยนต์สะอึกเร่งไม่ขึ้น สุดท้ายก็ดับ เนื่องจากการหล่อลื่นผิดปกติ เพราะน้ำมันหล่อลื่นหมดสภาพในการหล่อลื่นครับ....แค่ปัญหาขี้ประติ๋วใช่ไหมครับ.....
....มีอีกครับ....ผมเคยไปพบเจ้าหน้าที่ในกรมช่างอากาศ....ท่านบอกว่า แม้แต่ F-16 เองก็มีปัญหาเรื่องน้ำปนเปื้อนในน้ำมันไฮดรอลิกส์ครับ ซึ่งระบบที่ว่าใช้ในการเปิดปิดประตูฐานล้อเครื่องบินครับ เมื่อเครื่องบิน เทคออ๊ฟแล้ว แต่ระบบไฮดรอลิคส์ติดขัดเนื่องจากน้ำมันหมดสภาพหรือระบบไฮดรอลิกส์นั้นสึกหรอหรือเสียหาย ทำให้ไม่สามารถปิดประตูฐานล้อได้ นักบินต้องยกเลิกภารกิจแล้วบินกลับฐานครับ.....ครับ...แค่ปัญหาขี้ประติ๋ว....แต่หากเกิดขึ้นกับระบบไฮดรอลิกส์ที่ใช้บังคับพื้นผิวการบินในขณะที่กำลังทำการบินล่ะครับ....เราไม่ต้องเสียเครื่องบินเครื่องนั้นไปเลยหรือครับ
เท่าที่ผมทราบปัญหาดังกล่าวก็ยังเกิดอยู่เรื่อย ๆ ครับ .....ไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากหลายท่านเห็นว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยครับ.....
ทางแก้เหรอครับ....ไม่ยากครับ ติดตั้งระบบไส้กรองพิเศษสำหรับกรองน้ำและฝุ่นออกจากน้ำมันครับ ติดได้ทั้งบนเครื่องเลย หรือติดไว้ที่ถังเก็บน้ำมันก็ได้ครับ
ระบบที่ว่านี้มีใช้แล้วในประเทศที่มีเทคโนโลยีสูง ๆ และมีงบฯ พอครับ เท่าที่ผมรู้ก็มี สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย ยุโรป และอีกหลาย ๆ ประเทศครับผม...พวกนั้นเขาติดตั้งระบบกรองไว้ในรถถังเลยครับ ไม่ใช่แค่กรองน้ำจากน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างเดียวครับ ยังมีระบบกรองฝุ่นและน้ำจากอากาศก่อนที่จะเข้าเครื่องยนต์อีกตะหากครับ....ไฮเทคไปกันใหญ่....ในสงครามทะเลทรายคราวแรก ตอนที่อังกฤษเอารถถัง Challenger ไปลุยเนี่ย ปรากฏว่าทรายเข้าไปเต็มเครื่องยนต์เลยครับ ....เละครับ......ไม่ต้องไปรบกับใครหรอกครับ สตาร์ทเครื่องยังไม่ติดเลย.....ต้องติดระบบกรองอากาศก่อนเข้าเครื่องยนต์ก่อนครับถึงจะปฏิบัติงานได้
ไม่ใช่แค่รถถังนะครับ แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ที่ต้องปฏิบัติการในสถาพที่ต้องบินขึ้นลงในภูมิประเทศบ่อย ๆ ก็ควรจะติดตั้งระบบกรองอากาศที่จะเข้าเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพครับ หลาย ๆ ครั้งที่เห็นข่าว ฮ. กองทัพไทยตกแล้วก็เสียใจครับ .....หลาย ๆ ท่านอาจเห็นว่าไม่สำคัญอีกละ.....เคยมีการศึกษาวิจัยกันมาแล้วครับว่า ฝุ่นที่เกิดจากการที่ ฮ. บินขึ้นลงจะถูกดูดเข้าเครื่องยนต์ของ ฮ. นั้น ๆ โดยตรงครับ ....ผลหรือครับ...ฝุ่นก็จะไปทำให้ใบพัดเทอร์ไบน์ ( turbine blade ) ในเครื่องยนต์เกิดการเสียหายครับ หนัก ๆ เข้าอาจทำให้ใบพัดเทอร์ไบน์เสียรูป บิ่นหรือหักไปเลย ทำให้การอัดอากาศเข้าเครื่องยนต์ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เร่งเครื่องไม่ขึ้น เครื่องยนต์เสียกำลัง หนัก ๆ เข้าก็เครื่องยนต์ดับกลางอากาศครับ หรือใบพัดเทอร์ไบน์หักและถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์เลย.....ใช่ครับ อันตรายมากสำหรับ ฮ. ครับ.....เจ้าเครื่องกรองที่ว่าเนี่ย มีติดใน ฮ. แบบต่าง ๆ มากมายครับ......ในสงคราม desert storm เคยมีการเปรียบเทียบกันครับระหว่าง chinook USA ที่ไม่ได้ติดระบบกรองอากาศ กับ Chinook อังกฤษที่ติดเครื่องกรองแล้ว ปรากฏว่า เมื่อเทียบชั่วโมงบินเท่ากันแล้ว สหรัฐต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ของ Chinook ไปยี่สิบกว่าเครื่อง ส่วนอังกฤษเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปแค่สองเครื่องเท่านั้น ....ประหยัดกว่ากันเห็น ๆ ครับ....แต่อย่างว่าครับ บางครั้ง preventive maintenance เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจครับ ผลจะปรากฏชัดตอนต้องซ่อมเครื่องนั่นละครับ.....
เจ้าเครื่องกรองอากาศที่ว่าเนี่ย ยังสามารถช่วยกรองน้ำออกจากอากาศก่อนเข้าเครื่องยนต์ได้มากโขด้วยครับ ช่วยป้องกันเครื่องดับเวลาที่ ฮ. ต้องบินฝ่าพายุฝนครับ ....เคยได้ยินกันไหมครับ....ฮ. ตกเพราะสภาพอากาศไม่ดี หรือเครื่องยนต์ดับขณะบินฝ่าพายุฝน ....ปัญหาพวกนี้พอจะบรรเทาได้ครับ.....สหรัฐเขาให้เครื่องกรองที่ว่านี่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของ UH-1H เลยนะครับ.....
....หวังว่าความรู้อันน้อยนิดของผม คงช่วยให้หลาย ๆ ท่านได้ช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดปัญหาเล็กน้อย แบบนี้ขึ้นอีกกับยุทธโธปกรณ์ของประเทศเราเลยครับ.....ปัญหานี้เปรียบเสมือนเส้นผมบังภูเขาครับ....เป็นปัญหาเล็ก ๆ ที่ทุกคนมองข้ามไป แต่อาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่หลวงได้ครับ กรณี REVA ต้องให้ GMC truck มาลากเนี่ย เป็นตัวอย่างที่ดีครับ..... ผมกลัวว่า เวลาฉุกเฉินขึ้นมารถถังเราจะสตาร์ทเครื่องไม่ติดครับ แทนที่จะเอาไปไล่ยิงศัตรู แต่กลับต้องจอดทิ้งไว้เฉย ๆ ครับ
ภาพรถ REVA 4x4 ของคุณ perspeceviT ครับ



ภาพชุดจู่โจมที่เข้าจู่โจมบ้านของแนวร่วมในวันที่ 22 ธ.ค. 2551 ครับ นำมาลงไว้หน่อยเพราะอุปกรณ์ค่อนข้างครบทีเดียวครับ งานนี้รถ REVA ก็ไปด้วยครับ
 Copyright by daylife.com (AFP/Getty images)
อ้างอิง
//www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=8085
//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7295825/X7295825.html
Create Date : 24 ธันวาคม 2551 |
Last Update : 24 ธันวาคม 2551 22:18:07 น. |
|
31 comments
|
Counter : 3944 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:7:08:31 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:9:03:35 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:9:19:32 น. |
|
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:22:25:23 น. |
|
|
|
โดย: helldiver วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:4:45:15 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:8:05:56 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:8:23:13 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:8:56:16 น. |
|
|
|
โดย: น้องผิง วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:8:57:53 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:00:26 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:00:33 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:11:10 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:34:05 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:42:24 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:43:20 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:46:16 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:9:59:15 น. |
|
|
|
โดย: หมีสีชมพู วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:10:08:44 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:10:10:06 น. |
|
|
|
โดย: หมีสีชมพู วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:10:10:46 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:10:12:55 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:13:13:13 น. |
|
|
|
โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:13:36:43 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:14:05:02 น. |
|
|
|
โดย: จูหน่านพ วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:17:29:58 น. |
|
|
|
โดย: Skyman (Analayo ) วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:22:28:42 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @

|
|
|
|
|
|
|